นอกจากนี้ในวันเดียวกัน Nintendo ยังได้ประกาศเปิดตัว Kirby and the Forgotten Land สำหรับ Nintendo Switch 2 ซึ่งมาพร้อมกับเนื้อหาใหม่ "Star-Crossed World" และปรับปรุงกราฟิกให้สวยงามขึ้น โดยผู้ที่มีตัวเกมอยู่แล้วสามารถซื้อเป็น DLC เพื่อนำมาเล่นบน NS2 ได้ทันที วางจำหน่าย 28 สิงหาคม 2025
3 เมษายน 2568
Nintendo เปิดตัว Kirby Air Riders + KatFL เปิดตัว DLC ใหม่สำหรับ NS2 เท่านั้น!!
นอกจากนี้ในวันเดียวกัน Nintendo ยังได้ประกาศเปิดตัว Kirby and the Forgotten Land สำหรับ Nintendo Switch 2 ซึ่งมาพร้อมกับเนื้อหาใหม่ "Star-Crossed World" และปรับปรุงกราฟิกให้สวยงามขึ้น โดยผู้ที่มีตัวเกมอยู่แล้วสามารถซื้อเป็น DLC เพื่อนำมาเล่นบน NS2 ได้ทันที วางจำหน่าย 28 สิงหาคม 2025
2 เมษายน 2568
STK เตรียมเปลี่ยนไปใช้ Godot Engine!!
ความจริงข่าวนี้ออกมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่เกรงจะไม่มีใครเชื่อ เลยเอามาโพสวันนี้แทนครับ...
ขณะนี้ทางทีมพัฒนาของเกม SuperTuxKart ได้ประกาศว่า จะเตรียมเปลี่ยนเอนจินเกมใหม่จากเดิมคือ Antarctica ไปเป็น Godot แล้วนะครับ โดยให้เหตุผลคือ เอนจินตัวเดิมนั้นเป็นเอนจินที่เขียนขึ้นมาเอง ทำให้ต้องเขียนโค้ดเองแทบทั้งหมดในทุกส่วน ซึ่งส่งผลให้การอัปเดตเนื้อหาและแก้ไขบั๊คต่างๆ ทำได้ช้าลงและยากขึ้น และการเปลี่ยนไปใช้ Godot จะช่วยลดภาระในส่วนนี้ลงไปได้เยอะเลยทีเดียว เพราะไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดเองในบางส่วน โดยเฉพาะในส่วนของระบบเรนเดอร์ภาพ Vulkan ที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาในตอนนี้ เมื่อเปลี่ยนมาใช้ Godot ก็ไม่จำเป็นต้องทำในส่วนนี้อีกต่อไป เพราะตัวเอนจินรองรับ Vulkan อยู่แล้วนั่นเอง ทำให้ผู้พัฒนาสามารถโฟกัสกับการอัปเดตเนื้อหาได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นกว่าที่เคย
ทั้งนี้ยังไม่มีการเปิดเผยว่าจะเปลี่ยนไปใช้ Godot ในอัปเดตเวอร์ชั่น 1.6 หรือ 2.0 แต่อย่างใดครับ
ที่มา: https://blog.supertuxkart.net/
28 มีนาคม 2568
[FlightGear: Red Griffin ATC] วิธีติดตั้ง Arch Linux ผ่าน VM เพื่อใช้งาน Festival Server Mode บน Windows
สืบเนื่องจาก Add-ons ของโปรแกรมจำลองการบิน FlightGear ที่ชื่อว่า Red Griffin ATC นั้น รองรับการเชื่อมต่อกับโปรแกรมสังเคราะห์เสียงที่ชื่อว่า Festival คือ หากเราทำการเชื่อมต่อ FG เข้ากับโปรแกรมดังกล่าว จะทำให้ได้ยินเสียงของ ATC (เจ้าหน้าที่ควบคุมการบิน) ที่แตกต่างกันถึง 10 แบบ จากเดิมจะมีเสียงแค่ 2 แบบเท่านั้น ทำให้ได้ความสมจริงมากยิ่งขึ้น เพราะทุกครั้งที่เราจูนคลื่นวิทยุใหม่ จะทำให้ได้ยินเสียงที่ไม่ซ้ำกันนั่นเอง
แต่น่าเสียดายที่ Festival เวอร์ชั่น Windows ไม่รองรับการเชื่อมต่อกับ Client (ช่องเสียง) มากกว่า 1 ด้วยเหตุผลใดก็ไม่ทราบ ทำให้เปลี่ยนเสียงได้แค่เฉพาะเสียงของนักบินเท่านั้น เสียงของ ATC ยังคงเป็นเสียง Default เหมือนเดิม
แต่โชคดีที่ยังมีทางแก้อยู่ครับ ด้วยการเชื่อมต่อ FG เข้าไปยัง Festival ที่รันในเครื่อง VM ด้วยระบบ Linux ซะเลย!

สิ่งที่ต้องเตรียม
- RAM อย่างน้อย 12 GB
- โปรแกรม VM (VMware Workstation Pro หรือ VirtualBox ก็ได้)
- ไฟล์ ISO ของ Arch Linux
- ไฟล์เสียงของ Festival
- เวลาในการทำ 😉
เริ่มต้นด้วยการลงโปรแกรม VM ซึ่งในบทความนี้จะใช้ VMware นะครับ
ซึ่งที่ผมเลือกใช้ VMware เพราะมันทำงานได้เร็วกว่า VirtualBox พอสมควรเลย แต่ถ้าใครอยากจะใช้ VirtualBox ก็ไม่ว่ากันนะครับ เพราะแนวทางการตั้งค่าเครื่องจำลองของ VirtualBox แทบไม่ต่างกัน
1. ดาวน์โหลด และติดตั้ง VMware Workstation Pro **ต้องสมัครก่อนโหลด (ฟรี)**
https://www.vmware.com/products/desktop-hypervisor/workstation-and-fusion
หรือหากใครไม่อยากสมัคร สามารถหาไฟล์ Mirror ได้ที่ Internet Archive ครับ โหลดได้เลย ไม่ต้อง Login (พิมพ์ VMware Workstation ลงในช่องค้นหา)
ซึ่งเวอร์ชั่นล่าสุด ณ ที่เขียนบทความนี้คือ 17.6.3
2. ดาวน์โหลดไฟล์ ISO ของ Arch Linux (เลื่อนลงมาเรื่อยๆ หาลิงค์ Thailand)
https://archlinux.org/download/
3. ดาวน์โหลดไฟล์เสียงของ Festival
http://www.festvox.org/packed/festival/2.5/voices/
ตามรายชื่อนี้
cmu_us_rms
cmu_us_ahw
cmu_us_eey
cmu_us_bdl
cmu_us_rxr
cmu_us_clb
cmu_us_jmk
cmu_us_lnh
cmu_us_slt
cmu_us_ljm
kallpc16k
เมื่อโหลดครบแล้ว แตกไฟล์ออกมา จะได้โฟลเดอร์ชื่อ festival ขนาด 594 MB
4. เปิดโปรแกรม VMware Workstation Pro แล้วทำการสร้างเครื่องจำลองขึ้นมา

4.1 เลือก Typical
4.2 เลือกไฟล์ ISO ของ Arch Linux
4.3 เลือก Linux และตั้ง Version เป็น Other Linux 6.x kernel 64-bit
4.4 ตั้งชื่อเครื่องเป็น Arch Linux (หรือชื่ออื่นก็ได้)
4.5 ตั้งขนาด HDD จำลองเป็น 50 GB และเลือก Store virtual disk as a single file
4.6 กด Finish
5. คลิกที่ชื่อเครื่อง VM ที่เราเพิ่งสร้าง แล้วคลิก Edit virtual machine settings
5.1 ตั้ง RAM เป็น 4 GB (4096 MB) * Festival ในโหมด Server ต้องการ RAM อย่างน้อย 4 GB ถึงจะใช้งานได้โดยไม่เกิดปัญหา *
5.2 Number of processors ตั้งเป็น 2
Number of cores per processor ตั้งเป็น 1
5.3 แถบ Options เลือกเปิด Shared Folder กับโฟลเดอร์ festival ที่เราแตกไฟล์เสียงออกมา
5.4 Advanced -> Fireware type เลือกเป็น UEFI
6. เปิดเครื่องจำลอง แล้วพอบูทเข้าตัวติดตั้งสำเร็จแล้ว (จะเห็นเป็นแถบหลายสี กับ root@archiso ~ #) ให้พิมพ์ archinstall

7. ตั้งค่าตามนี้
7.1 Mirrors -> Mirror region -> Thailand
7.2 Disk configuration -> Partitioning -> Use a best-effort default partition layout -> กด Enter -> ext4
7.3 Root password -> ตั้งรหัสตามต้องการ
7.4 User account -> Add a user -> ตั้งชื่อและรหัสตามต้องการ -> Yes -> Confirm and exit
7.5 Profile -> Type -> Desktop -> Xfce4
7.6 Audio -> pulseaudio
7.7 Network configuration -> Copy ISO network configuration to installation
7.8 Additional packages -> พิมพ์ festival
เสร็จแล้วกด Install ได้เลย

8. เมื่อรอติดตั้งจนเสร็จแล้ว เลือก No แล้วพิมพ์ reboot
9. เมื่อรีบูทจนเข้าหน้า Desktop แล้ว ให้เปิด Terminal แล้วพิมพ์ตามลำดับนี้ กด Y แล้ว Enter เมื่อถาม
สำหรับผู้ใช้งาน VMware Workstation
sudo pacman -S open-vm-tools
sudo pacman -S gtkmm3
systemctl enable vmtoolsd.service
systemctl start vmtoolsd.service
systemctl enable vmware-vmblock-fuse.service
systemctl start vmware-vmblock-fuse.service
sudo pacman -S sof-firmware
sudo pacman -S alsa-firmware
sudo pacman -S alsa-utils
sudo pacman -S alsa-oss
sudo pacman -S pulseaudio-alsa
sudo pacman -R pulseaudio-alsa
sudo pacman -R pulseaudio
สำหรับผู้ใช้งาน VirtualBox
sudo pacman -S virtualbox-guest-utils
systemctl enable vboxservice.service
systemctl start vboxservice.service
sudo pacman -S sof-firmware
sudo pacman -S alsa-firmware
sudo pacman -S alsa-utils
sudo pacman -S alsa-oss
sudo pacman -S pulseaudio-alsa
sudo pacman -R pulseaudio-alsa
sudo pacman -R pulseaudio
10. จากนั้นทำการรีบูทเครื่องจำลอง แล้วเปิด Terminal ต่อมาพิมพ์ sudo alsamixer
ทำการปรับระดับเสียงเป็น 100% ให้หมด แล้วเปลี่ยนค่า MM ให้เป็น OO ด้วยการกด M ที่ช่องนั้นๆ เสร็จแล้วกด Esc
11. พิมพ์ sudo thunar แล้วคลิก View -> Show Hidden Files จากนั้นเข้าไปยัง File System /mnt/hgfs/festival/lib/voices/ เลือกโฟลเดอร์ english กับ us แล้วคลิกขวาเลือก Copy
* หากไม่เห็น hgfs ให้กด Alt+Ctrl ออกมาที่โปรแกรม VMware แล้วคลิกแถบ VM -> Settings -> Options -> Shared Folder -> Disabled -> OK แล้วทำซ้ำอีกครั้งแต่ให้เลือกเป็น Enabled until next power off or suspend แทน *
12. จากนั้นไปยัง /usr/share/festival/voices/ คลิกขวาเลือก Paste เสร็จแล้วปิด Thunar
13. เข้าโฟลเดอร์ Home จากหน้า Desktop แล้วคลิก View -> Show Hidden Files จากนั้นคลิกขวาเลือก Create Document -> Empty File -> พิมพ์ .festivalrc -> Create
14. เปิดไฟล์ .festivalrc แล้วพิมพ์ (set! server_access_list nil) จากนั้นกด Ctrl+S แล้วปิดไฟล์

15. คลิกขวาที่หน้า Desktop -> Create Launcher แล้วใส่ค่าตามนี้
Name ตั้งเป็น Festival Server Mode
Command ตั้งเป็น festival --server
Icon เลือกเป็นรูปหูฟัง
ติ๊ก Run in terminal
เสร็จแล้วกด Create
16. เปิด Terminal แล้วพิมพ์ ip address จากนั้นดูที่เลขหน้าค่า inet
2: ens33: <BROADCAST,MULTICAST,UP,LOWER_UP> mtu 1500 qdisc fq_codel state UP group default qlen 1000
link/ether 00:0c:29:bb:b9:44 brd ff:ff:ff:ff:ff:ff
altname enp2s1
altname enx000c29bbb944
inet 192.168.100.29/24 metric 1024 brd 192.168.100.255 scope global dynamic ens33
valid_lft 2419134sec preferred_lft 2419134sec
inet6 2403:6200:88a2:7c0c:20c:29ff:febb:b944/64 scope global dynamic mngtmpaddr noprefixroute
valid_lft 863934sec preferred_lft 431934sec
inet6 fe80::20c:29ff:febb:b944/64 scope link proto kernel_ll
valid_lft forever preferred_lft forever
ให้จดตรงเลขสีแดงไว้ (ตรงค่า inet ที่ไม่ใช่ "127.0.0.1")
17. ปิดเครื่องจำลองไปก่อน แล้วมาเปิด C:\Users\(Name)\FlightGear\Downloads\fgdata_20XX_X\defaults.xml ที่เครื่องจริง ด้วยโปรแกรม Text Editor
แล้วหาค่าที่เขียนว่า "localhost"
<voices>
<host type="string" write="n">localhost</host>
<port type="string" write="n">1314</port>
<enabled type="bool" userarchive="y">true</enabled>
ให้เปลี่ยนตรง localhost เป็นเลขเดียวกับที่จดมา แล้วกด Ctrl+S (ตัวอย่างนี้คือ 192.168.100.29)
<host type="string" write="n">192.168.100.29</host>
18. เปิดเครื่องจำลอง แล้วเปิด Festival Server Mode ที่หน้า Desktop เพื่อเริ่มใช้งาน จากนั้นสลับออกมาเครื่องจริง (กด Alt+Ctrl)
แล้วเปิด FlightGear ด้วยค่า --config=<ที่อยู่ของ>/RedGriffinATC/festival.xml ในกล่อง "Additional Settings"


หากไม่มีอะไรผิดพลาด ก็จะสามารถใช้งานได้ตามคลิปนี้ครับ
และในการใช้งานครั้งต่อไป ก็เพียงแค่เปิด Festival ในเครื่อง VM แล้วรัน FG ตามทีหลังเท่านั้นเองครับ
รายละเอียดเพิ่มเติม (ภาษาอังกฤษ)
https://wiki.flightgear.org/Red_Griffin_ATC#Festival_Speech_Synthesis_System_Support
5 มีนาคม 2568
มารู้จักกับ Kirby กัน!
หลังจากที่เกมแรกได้เปิดตัวในปี ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ปัจจุบันมีทั้งหมด 39 เกมด้วยกัน โดยภาคที่มียอดขายสูงที่สุดในขณะนี้คือ Kirby and the Forgotten Land ซึ่งทำยอดขายไปได้สูงถึง 7 ล้านชุด ณ ปี ค.ศ. 2024 (พ.ศ. 2567) และยังเป็นภาคแรกในซีรี่ส์ที่สร้างสถิติสุดยอด ด้วยการคว้ารางวัลจากเวทีใหญ่มาได้หลายรายการอีกด้วย หนึ่งในนั้นคือรางวัลในสาขาเกมสำหรับครอบครัวยอดเยี่ยม (Best Family Game) จาก The Game Awards 2022
รูปแบบการเล่น
เกมส่วนใหญ่ในซีรี่ส์จะเป็นแนวแพลตฟอร์ม 2 มิติ หรือ 2.5 มิติ มุมมองด้านข้าง โดยมีจุดเด่นที่ต่างจากเกมอื่นๆ ในแนวเดียวกันคือ ความยากที่เป็นมิตรกับเกมเมอร์มือใหม่ ความน่ารักของตัวละคร เพลงจังหวะสวยงาม รวมไปถึงสีสันของกราฟิกที่เรียกว่าสดใสสบายตา ในขณะเดียวกับก็ยังมีความลับต่างๆ ให้เกมเมอร์ระดับสูงได้กลับมาค้นหาและท้าทายความสามารถในบางโหมดการเล่นด้วยเช่นกัน

ใน Kirby's Adventure ได้มีการเพิ่มระบบทำให้ตัวละครสามารถกินวัตถุและสิ่งมีชีวิตเพื่อนำทักษะมาใช้งาน ซึ่งเป็นกลไกหลักของเกมที่คงมาจนถึงปัจจุบัน เช่น หากกินตัวที่พ่นไฟได้ Kirby จะสามารถใช้พลังที่เกี่ยวกับไฟได้ หรือกินตัวที่ถือดาบ ก็จะได้ดาบมาเป็นอาวุธเช่นกัน นอกจากนี้ในเกมทุกภาค Kirby สามารถบินได้ไม่จำกัด ยกเว้น Kirby 64: The Crystal Shards และเกมประเภทแข่งขัน ที่จะมีระยะเวลาในการบินจำกัด
เกม Kirby เกือบทุกภาคจะมีไอเทมลับให้ค้นหา เพื่อใช้ในการปลดล็อกโหมดต่างๆ หรือทำให้สามารถไปสู้กับบอสใหญ่ได้ และจำเป็นต้องเก็บให้ครบเพื่อทำระดับความสำเร็จให้เป็น 100% เช่นปุ่มสวิตซ์ในภาค Adventure หรือตัวประกันในภาค Forgotten Land เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีเกมภาคแยกที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลักออกมามากมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเกมแนวอื่นที่ไม่ใช่แนวแพลตฟอร์ม เช่น พินบอล (Kirby's Pinball Land) ตัวต่อบล็อก (Kirby's Star Stacker) แข่งความเร็ว (Kirby Air Ride และ Kirby's Dream Buffet) ต่อสู้ (Kirby Battle Royale และ Kirby Fighters) หรือแม้กระทั้ง เกมตามจังหวะ (Dedede's Drum Dash Deluxe)
รายชื่อเกม ณ ปี ค.ศ. 2025 (พ.ศ. 2568)
GB
Kirby's Dream Land
Kirby's Dream Land 2
Kirby's Pinball Land
Kirby's Block Ball
Kirby's Star Stacker
NES
Kirby's Adventure
SNES
Kirby Super Star
Kirby's Dream Land 3
Kirby's Dream Course
Kirby's Avalanche
Kirby no Kirakira Kids
เฉพาะ Satellaview
Kirby no Omochabako: Arrange Ball
Kirby no Omochabako: Ball Rally
Kirby no Omochabako: Baseball
Kirby no Omochabako: Cannon Ball
Kirby no Omochabako: Guruguru Ball (Skee-Ball)
Kirby no Omochabako: Hoshi Kuzushi (Star Block Ball)
Kirby no Omochabako: Pachinko
Kirby no Omochabako: Pinball
N64
Kirby 64: The Crystal Shards
GC
Kirby Air Ride
GBA
Kirby: Nightmare in Dream Land
Kirby & the Amazing Mirror
NDS
Kirby: Canvas Curse
Kirby: Squeak Squad
Kirby Super Star Ultra
Kirby Mass Attack
Wii
Kirby's Epic Yarn
Kirby's Return to Dream Land
Kirby's Dream Collection
Wii U
Kirby and the Rainbow Curse
3DS
Kirby: Triple Deluxe
Kirby: Planet Robobot
Kirby Battle Royale
Kirby's Extra Epic Yarn
เฉพาะ eShop
Kirby Fighters Deluxe
Dedede's Drum Dash Deluxe
Team Kirby Clash Deluxe
Kirby's Blowout Blast
NS1
Kirby Star Allies
Kirby and the Forgotten Land
Kirby's Return to Dream Land Deluxe
เฉพาะ eShop
Super Kirby Clash
Kirby Fighters 2
Kirby's Dream Buffet
NS2
Kirby Air Riders
Kirby and the Forgotten Land: Star-Crossed World
ที่มาข้อมูล
- kirby.jp
- wikipedia.org
- kirbysrainbowresort.net

3 มีนาคม 2568
วิธีเข้าห้อง HAL ใน Kirby's Return to Dream Land
ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่ายังมีคนไทยหลายคนที่ยังไม่รู้สูตรต่างๆ ใน Kirby's Adventure และในหลายคนที่ว่ามานี้ เพิ่งมารู้สูตรลับจากเว็บเราเป็นที่แรกอีกด้วย แต่ก็นะ เกมซีรี่ส์ Kirby มันเพิ่งมาเริ่มดังในบ้านเราเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง จากกระแสของ Kirby and the Forgotten Land เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับผม (และเชื่อเลยว่าหลายท่านยังไม่ทราบเช่นกัน ...หากไม่ได้ไปหาดู FAQ ของต่างประเทศ)
* สามารถใช้กับเวอร์ชั่น Deluxe ของสวิตซ์ได้ด้วยนะ ยืนยันโดย bonbonbon *
ในฉากแรกเมื่อวิ่งไปจนสุดทางจนพบประตูแล้ว ให้วิ่งชิดขวาจอประมาณ 3 วินาที แล้ววิ่งกลับไปทางซ้าย โดยที่ไม่ต้องเข้าประตูนะครับ
และเมื่อวิ่งกลับมาอีกนิด ก็จะพบกับประตูลับใต้หลุม ซึ่งในตอนแรกจะยังไม่มีหลุมและประตูตรงนี้
เมื่อเข้าไปก็จะพบกับห้อง HAL พร้อมกับพลังให้เลือกเก็บได้อีก 4 อย่างครับ 😊 (Hammer หาที่ไหนไม่ได้ใน World 1 และ 2 นอกจากห้องนี้เท่านั้น)

18 กุมภาพันธ์ 2568
บทสรุป Kirby's Adventure (เฉลยตำแหน่งสวิตซ์ และ วิธีปราบบอสประจำด่านต่างๆ)
พิสูจน์อักษรและเพิ่มเติมข้อมูลโดย WindyDancer/WindyKirby
* เนื่องจากบทความ(กระทู้)นี้ เดิมมีแผนจะโพสเป็นกระทู้ในเว็บบอร์ดที่ปิดตัวไปได้ไม่กี่วัน ผมได้รับการติดต่อจากเจ้าตัวทาง LINE ให้นำบทความมาลงหน้าเว็บได้เป็นกรณีพิเศษครับ *

สวัสดีค้า ชาว MDL ที่น่ารักทุกท่าน \^o^/
นี่ก็เป็นบทความชุดที่สองของเราแล้วนะคะ ถ้าหากข้อมูลผิดพลาดประการใด ก็ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยค่ะ 🙏
บทนำ
Kirby's Adventure เป็นภาคต่อจาก Kirby's Dream Land ที่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรต่ออะไรเยอะมาก เมื่อเทียบกับภาคแรก ซึ่งคราวนี้ได้ลงให้กับเครื่อง Famicom หรือ NES ภาพตัวเกมจึงทำออกมาดีขึ้น จากเดิมที่มีเพียงสีเดียว ภาคนี้จะกลายเป็น 4 สีทั้งเกมแล้ว และภาคนี้ยังเป็นภาคแรกที่มีระบบ Auto Save ด้วย โดยเกมจะเซฟให้เองทันทีที่เล่นจบในแต่ละด่าน และนอกจากที่จะลงให้กับ Famicom/NES แล้ว ยังลงให้ Wii (รวมอยู่ในเกมชุด Kirby's Dream Collection: Special Edition), 3DS และ Nintendo Switch Online ด้วย ภาคนี้น้องเคอร์บี้สามารถดึงพลังจากศัตรูมาใช้ได้ด้วยการดูดกิน จากเดิมที่ทำได้เพียงแค่ดูดแล้วยิงออกมาอย่างเดียวเท่านั้น และได้กลายเป็นกลไกหลักของเกมนับแต่นั้นมา
เพื่อความรวดเร็วในการสรุปเนื้อหา เราจะขอลงแค่เฉพาะวิธีหาสวิตซ์ลับ และวิธีปราบบอสประจำด่านเท่านั้นแล้วกันนะจ๊ะ! (. ❛ ᴗ ❛.) (คิดว่าสองอย่างนี้ คงเป็นเหตุผลหลักที่หลายคนอยากเข้ามาอ่านบทสรุปอยู่แล้วแหละเนอะ)
* ตำแหน่งสวิตซ์และวิธีปราบบอสของ Kirby: Nightmare in Dream Land นั้น เหมือนเวอร์ชั่นต้นฉบับทุกประการ
14 กุมภาพันธ์ 2568
[สรุปเนื้อเรื่อง] Kirby's Dream Land 3
Kirby's Dream Land 3 (星のカービィ3)
วันหนึ่งที่แสนสงบ
ในขณะที่ Kirby กับ Gooey (ตัวประกันจากภาค 2) กำลังนั่งตกปลาอยู่นั้น
อยู่ๆก็มีเมฆดำปริศนา ลอยเข้ามาปกคลุมเหนือน่านฟ้า
ก่อนที่จะค่อยๆแพร่กระจายไปทั่วทั้งโลก Popstar และจากนั้น Coo
ก็ได้บินมาบอกทั้งสองว่าโลกกำลังตกอยู่ในอันตราย
ทั้งสองจึงออกเดินทางไปจัดการกับต้นตอของเหตุวิปลาสอีกครั้ง
ในภาคนี้มีสัตว์ผู้ช่วยเพิ่มมาอีก 3 ตัวคือ (เป็นเพศเมียทั้งหมด) Nago แมว
Pitch นก
ChuChu ปลาหมึกยักษ์
และภายหลังจากที่เอาชนะ
King Dedede ก็มีบางอย่างหลุดออกมาจาก King Dedede พุ่งขึ้นไปบนฟ้า
(อีกแล้ว) มันคือ Dark Matter นั่นเอง และ Heart Stars ทั้ง 5
ก็ได้รวมตัวกันจนกลายเป็น "Love-Love Stick" คฑารูปหัวใจ แล้วจากนั้น Kirby
ก็บินตามไปปะทะกับ Dark Matter ในต่างมิติ
(ในช่วงนี้เราจะไม่ได้ลงมือสู้เอง) และในภายหลังจากที่ปราบ Dark Matter
ได้แล้ว "Zero" ลูกตายักษ์ ผู้ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชากองทัพ Dark Matter
ก็ได้ปรากฏตัวออกมาสู้กับ Kirby และหลังจากที่ปราบ Zero ได้แล้ว
มันก็ได้ใช้พลังเฮือกสุดท้าย ถอดลูกตาสีแดงออกมาสู้ต่อ
โดยที่มีเลือดสาดไปทั่วทั้งฉาก!! (ขอย้ำว่าที่เห็นเม็ดสีแดงๆ
ปลิวออกมานั่นคือ "เลือด" จริงๆ !! ...ตอนที่แอดมินเห็นครั้งแรก
ทำให้นึกถึงอนิเมะเรื่อง Puella Magi Madoka Magica ขึ้นมาเลย... แบบว่า
โดนหน้าปกหลอกเต็มๆ !!) และหลังจากที่ปราบ Zero ร่างสุดท้ายได้แล้ว
โลกก็กลับสู่ความสงบอีกครั้ง
TO BE CONTINUED.....
* Fact โดยแอดมิน: บางคนอาจจะสงสัยว่า Batamon
เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับ Kirby หรือเปล่า คำตอบคือ
ไม่ได้เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับ Kirby นะครับ
แค่เป็นสิ่งมีชีวิตที่หน้าตาคล้าย Kirby ก็เท่านั้น
ทว่า
เท่าที่ผมไปหาอ่านเจอในสแกนมังงะ พบว่า Batamon
เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นมาจากรูปวาดของ Ado/Adeleine
และอาจจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็ได้ครับ เพราะในโลก 4 ด่านที่ 3
หลังจากที่ถึงประตูเส้นชัยแล้ว เราสามารถบินทะลุกำแพงไปออกประตูลับได้
ซึ่งภายในห้องลับนี้มี Batamon เต็มไปหมดเลย!! และ Ado/Adeleine
ก็เป็นบอสประจำโลก 4 อีกด้วย
และในภาค Star Allies หากเล่นเป็น Adeleine จะสามารถวาด Batamon ออกมาได้ด้วย!!
สรุปก็คือ Batamon เป็นรูปวาดของ
Ado/Adeleine ที่พยายามวาดให้ออกมาเป็น Kirby
แต่ไม่ได้เหมือนตัวจริงเลยกลายเป็น Batamon แทนนั่นเอง...
[สรุปเนื้อเรื่อง] Kirby Super Star (Ultra)
Kirby Super Star Ultra (星のカービィ ウルトラスーパーデラックス)


ภาคนี้มีเรื่องย่อยที่แตกต่างกันถึง 8 ตอนด้วยกัน (ขอลงแค่เฉพาะโหมดที่มีเนื้อเรื่องเท่านั้น)
Spring Breeze
ย้อนกลับไปดูเนื้อเรื่องภาคแรก https://cottongame-th.blogspot.com/2025/02/kirbys-dream-land.html
Dyna Blade
เนื้อเรื่องโหมดนี้ก็ไม่มีอะไรมาก Kirby เดินทางไปปราบ Dyna Blade นกยักษ์เกราะเหล็กเพศเมียที่ออกอาละวาดทำลายแหล่งเพาะปลูกจนสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ...ซึ่งในภายหลังจากที่ปราบ Dyna Blade ได้แล้ว Kirby ได้ทราบความจริงว่า แท้จริงแล้วเหตุผลที่ Dyna Blade ออกอาละวาด เพราะต้องการหาอาหารมาเลี้ยงดูลูกๆ ของเธอก็เท่านั้นเอง... ว่าแล้ว Kirby ก็พาลูกนกไปหาอาหารกินที่ต้น Whispy Woods ด้วยกัน
The Great Cave Offensive
เนื้อเรื่องโหมดนี้ก็ไม่มีอะไรมากเช่นกัน ระหว่างที่ Kirby เดินเล่นอยู่ๆ ก็ตกหลุม แล้วไปพบถ้ำลึกลับที่ไม่มีใครเคยค้นพบมาก่อน ซึ่งในนี้มีสมบัติซ่อนอยู่มากมาย!!
Revenge of Meta Knight
โหมดนี้เนื้อเรื่องค่อนข้างแน่นพอสมควรครับ คือ เป็นเรื่องราวการรุกราน Dream Land ของเจ้าหน้ากากนักดาบ Meta Knight เพื่อยึดอำนาจจาก King Dedede ซึ่งเหตุผลที่เขาทำลงไปก็เพราะต้องการจะหยุดรูปแบบการใช้ชีวิตของชาว Dream Land ที่มีเพียงแค่ กิน เล่น และนอน ไม่ต้องทำงานทำการอะไรเลยนั่นเอง
ซึ่งหลังจากที่ Kirby ทราบเรื่องนี้จึงบุกตรงไปยังยานรบขนาดยักษ์ของเขาที่ชื่อ "Halberd" เพื่อหยุดยั่งแผนการยึดอำนาจทันที
แต่หลังจากที่พยายามบุกอยู่หลายครั้งก็ถูกทั้งไอพ่นและปืนใหญ่ยิงกลับจนตกไปที่ต่างๆ หลายครั้ง จนในที่สุด Kirby จึงไปขอความช่วยเหลือจาก Dyna Blade ให้ช่วยพาไปยัง Halberd ซึ่งเธอก็ยอมรับคำขอ เพราะถือเป็นการตอบแทนที่ Kirby เคยพาลูกของเธอไปหาอาหารให้จากคราวก่อนนั่นเอง
ซึ่งในครั้งนี้ Kirby ก็สามารถกลับขึ้นมาบน Halberd ได้อีกครั้ง และได้ทำลายชิ้นส่วนต่างๆ ทั่วยาน จนในที่สุดก็ได้มาปะทะกับ Meta Knight เป็นครั้งที่สอง นับจาก Kirby's Adventure (TIPS! ตรงจุดนี้เราสามารถยืนรอโดยไม่ต้องเก็บดาบตามที่เกมบอก เพื่อสู้ด้วยพลังที่เราใช้อยู่ได้นะครับ) และหลังจากที่เอาชนะได้แล้ว Kirby ก็ได้ขี่ Wheelie หนีออกมาจาก Halberd ที่กำลังจะจมลงสู่ทะเล แต่ Meta Knight ก็ยังตามมาขัดขวาง แต่ Kirby ก็สามารถหนีออกมาจาก Halberd ได้อย่างปลอดภัย (ปล. บอกใบ้ให้เล็กน้อย ยาน Halberd ถูกซ่อมในภาค Squeak Squad นะครับ โดยในโลกที่ 7 Secret Sea จะเป็นจุดเดียวกับที่ยานตกลงไปนั่นแหละ และเราจะได้สู้กับ Meta Knight ในระหว่างที่ยานกำลังขึ้นทะยานออกจากใต้ทะเล)
Milky Way Wishes
ในโหมดนี้ อยู่ดีๆ ดวงจันทร์กับดวงอาทิตย์ (ไม่ใช่บอสโลก 3 ของ Kirby's Adventure นะครับ) ที่อยู่รอบดาว Popstar ก็เกิดแตกคอตีกันเองอย่างไม่ทราบสาเหตุ และในขณะที่ Kirby กำลังคิดหาทางออกอยู่นั้น อยู่ๆ ก็มีชายลึกลับหน้าตาคล้ายกับ Poppy Bros. นามว่า "Marx" มาบอกให้ Kirby เดินทางไปรวบรวมชิ้นส่วนดวงดาวที่กระจายอยู่ในดาวต่างๆ ทั้ง 7 เพื่อขอพรกับดาววิเศษที่มีชื่อว่า "NOVA" ซึ่งสามารถประทานพรอะไรให้เป็นจริงก็ได้ และนี่เป็นเพียงหนทางเดียวที่จะช่วยหยุดความขัดแย้งในครั้งนี้ได้
และภายหลังจากที่ Kirby ทำลายปัญหาและเชื่อมโยงโลกทั้ง 7 เข้าด้วยกันได้แล้ว NOVA ก็ปรากฏตัวออกมา! แต่ก่อนที่ Kirby จะได้ทำอะไร อยู่ๆ Marx ก็เข้ามาถีบ Kirby แล้วเป็นฝ่ายขอพรแทน โดยขอให้ตนได้ยึดครองดาว Popstar!!

จากนั้น NOVA ก็ได้พุ่งตรงไปยังดาว Popstar เพื่อพุ่งเข้าชน แต่ดวงจันทร์กับดวงอาทิตย์ก็เข้ามาหยุด NOVA แล้วจากนั้น Kirby จึงบุกเข้าไปข้างในตัว NOVA เพื่อทำลาย "หัวใจ" ของมัน (ด่านยานยิง)
และหลังจากที่ทำลาย NOVA ได้แล้ว ปรากฏว่ามันยังไม่จบแค่นั้น เพราะ Marx เคียดแค้น Kirby มากที่มาทำลาย NOVA แล้ว Marx ก็ได้เปลี่ยนเป็นร่างจริง และได้เข้าต่อสู้กับ Kirby บนดวงจันทร์
หลังจากที่เอาชนะได้แล้ว Kirby จึงกลับมานอนที่บ้านด้วยความสบายใจ ...จบภาค Super Star
โหมดใหม่เฉพาะ Kirby Super Star Ultra
Revenge of the King
หลังจากความพ่ายแพ้ของ King Dedede ในภาคแรก/โหมด Spring Breeze King Dedede จึงเตรียมทรงลงมือรุกรานราษฎรอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้เจาะจงเฉพาะ Kirby เพียงคนเดียวเท่านั้น!! แน่นอนว่า Kirby ต้องรับคำท้าแบบลูกผู้ชาย
TODO: แปลบทสนทนาในโหมด Revenge of Meta Knight และ Revenge of the King (King Dedede กับ Bandana Waddle Dee) - แยกเป็นอีกบทความ
[สรุปเนื้อเรื่อง] Kirby's Dream Land 2
Kirby's Dream Land 2 (星のカービィ2)
ในภาคนี้
Kirby ได้เดินทางไปยัง Rainbow Islands เป็นหมู่เกาะลอยฟ้า เพื่อชิง
"Rainbow Drops" กลับคืนมาจาก Dark Matter ตัวการของภาคนี้ และ King Dedede
ได้ถูกเข้าควบคุมร่างโดย Dark Matter
และได้กระทำการยึดครองเกาะทั้งหมดเพื่อเตรียมการรุกรานโลกเบื้องล่าง
ทว่าในคราวนี้ Kirby ไม่ได้เดินทางด้วยตัวคนเดียวอีกต่อไป เพราะได้สัตว์ป่าจำนวน 3 ตัวมาช่วยเหลือด้วยนั่นคือ... Rick แฮมสเตอร์
Coo นกเค้า
Kine ปลาแสงอาทิตย์
นอกจากนี้ในระหว่างทาง พวกเขายังได้พบกับเพื่อนใหม่อีกคนที่ช่วยเหลือจากการเป็นตัวประกันด้วยคือ Gooey
เขานั้นเป็นผู้ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดย Dark Matter
แต่เนื่องจากสาเหตุบางอย่าง ทำให้เขาตัดสินใจทรยศเจ้านาย
เลยถูกจับเป็นตัวประกันแทน
และภายหลังจากที่เอาชนะ
King Dedede ก็มีบางอย่างหลุดออกมาจาก King Dedede พุ่งขึ้นไปบนฟ้า มันคือ
Dark Matter นั่นเอง และ (หากเก็บ Rainbow Drops ได้ครบทุกอัน) Rainbow
Drops ทั้ง 7 ก็ได้รวมตัวกันจนกลายเป็นดาบ "Rainbow Sword" แล้ว Kirby
ก็ใช้ดาบเล่มนี้บินตามขึ้นไปปะทะกับ Dark Matter บนฟากฟ้า
และในภายหลังจากที่ปราบ Dark Matter ได้แล้ว Kirby ก็ได้ใช้ Rainbow Sword
สร้างสายรุ้งที่เชื่อมระหว่างแต่ละเกาะให้กลับมาเหมือนเดิม
TO BE CONTINUED.....
[สรุปเนื้อเรื่อง] Kirby's Adventure / Kirby: Nightmare in Dream Land
Kirby's Adventure (星のカービィ 夢の泉の物語)
Kirby: Nightmare in Dream Land (星のカービィ 夢の泉デラックス)
ตำนานน้ำพุแห่งความฝัน
ในวันหนึ่งหลังจากที่ Kirby ตื่นขึ้นมาจากการงีบหลับหลังกินมื้อเที่ยง
พบว่าตนไม่ได้ฝังถึงสิ่งใดๆ ซึ่งนี่ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติสำหรับชาว
Dream Lander เนื่องจากในโลก Popstar นั้น เมื่อใดที่ใครก็ตามงีบหรือหลับ
จะต้องได้เข้าไปผจญภัยในความฝันอยู่เสมอ และเมื่อเขาลองไปสอบถามเพื่อนๆ
(เข้าใจว่าเป็นพวก Waddle Dee ฝ่ายดี) ทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า
ไม่ฝันถึงสิ่งใดเช่นกัน
ทำให้เขาเริ่มสงสัยแล้วว่าอาจจะมีบางสิ่งที่เลวร้ายเกิดขึ้นกับ
"น้ำพุแห่งความฝัน" (Dream Spring หรือ 夢の泉) เป็นแน่...
น้ำพุแห่งความฝัน เป็นสิ่งที่ทำให้ชาว Dream Lander
ทุกคนสามารถมีความฝันยามหลับได้ หากน้ำพุหยุดไหลหรือแห้งขอด
ทุกคนก็จะไม่มีความฝันอีกต่อไป
สิ่งที่เห็นก็คือมืดมิดตั้งแต่เริ่มจนตื่นขึ้นมา
ซึ่งตามตำนานเล่าว่าน้ำพุแห่งความฝันถูกสร้างขึ้นด้วยคทาวิเศษ(อีกแล้ว)ที่เรียกว่า
Star Rod
และหลังจากที่ Kirby เดินทางมาสำรวจน้ำพุได้ไม่นาน ก็พบว่า King Dedede
ลงไปเล่นน้ำในบ่อน้ำพุอย่างสบายใจซะอย่างงั้น และพบว่า King Dedede
ได้ทำการหัก Star Rod ที่อยู่บนยอดของน้ำพุ ออกเป็นชิ้นๆ
แล้วกระจายชิ้นส่วนไปยังที่ต่างๆทั่ว Dream Land โดยมีทั้งหมด 7
ชิ้นด้วยกัน
จากนั้น Kirby จึงได้เริ่มออกเดินทาง เพื่อนำชิ้นส่วน Star Rod กลับคืนมา
และในระหว่างทางที่เขามุ่งหน้าไปรวบรวมชิ้นส่วน
Star Rod กลับมานั้น
เขาก็ได้พบกับชายปริศนาภายใต้หน้ากากที่มาคอยช่วยเหลือเขาในครั้ง นามว่า
"Meta Knight" (Zero ใน Rockman X หรือเปล่าเนี่ย ) แถมยังต้องสู้กับลูกน้องของเขาโดยไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของ Meta Knight อีกด้วย!!
และในภายหลังจากที่เอาชนะ
King Dedede ได้แล้ว Kirby พยายามนำ Star Rod
ที่รวมกลับเป็นชิ้นเดียวกันแล้ว ไปวางคืนยังยอดน้ำพุเหมือนเดิม แต่ King
Dedede พยายามห้ามไม่ให้ตนทำ แต่เนื่องจากเหตุการณ์ในอดีตจากภาคที่แล้ว
ทำให้ Kirby ไม่เชื่อในสิ่งที่ King Dedede ขอร้อง จึงวาง Star Rod
ลงไปบนยอด
แล้วจากนั้นก็มีลูกบอลสีดำลึกลับปรากฏตัวออกมาจากยอด
มันคือตัวการทั้งหมดในครั้งนี้คือ "Nightmare" ทำให้ Kirby
ทราบจุดประสงค์ที่แท้จริงของ King Dedede ที่ทำลาย Star Rod ลงไป
เพราะเพื่อต้องการป้องกันไม่ให้ Nightmare มาขโมยไป แล้วนำ Star Rod
ไปใช้ในทางที่ผิดจนเกิดหายนะนั่นเอง จากนั้น Kirby ก็ได้ใช้ Star Rod ปราบ
Nightmare ลงได้สำเร็จ และได้นำ Star Rod กลับมายังบนยอดน้ำพุอีกครั้ง
ทำให้ความฝันของทุกคนกลับคืนมาเหมือนเดิม
TO BE CONTINUED.....