เมื่อคราวที่แล้วแอดมินเคยรีวิวเกมแนว Roguelike สไตล์ต้นตำรับอย่าง NetHack ไป แต่เนื่อนจากเกมนั้นมีระบบการเล่นที่ค่อนข้างซับซ้อนมาก แถมยากระดับมหาโหดอีกต่างหาก (ใครลงได้เกิน 10 ชั้นก็ถือว่าเก่งแล้วครับ) วันนี้แอดมินจึงมาแนะนำเกมแนว Roguelike อีกเกมซึ่งเป็นเกมที่ปล่อยฟรีเหมือนกัน ที่สำคัญมันเหมาะกับมือใหม่หัดเล่นแนวนี้ด้วย ซึ่งผมก็พึ่งเจอมา แถมเล่นแล้วติดยิ่งกว่า NetHack เสียอีก เลยเอามารีวิวซะเลย

และสำหรับเกมที่ว่านี้ก็คือ Dungeon Crawl Stone Soup (DCSS หรือเรียกง่ายๆกว่า "Crawl") โดยเป็นเกมสำหรับ PC (Windows, Mac, และ Linux) และมือถือ (เฉพาะ Android นะ) เหมาะสำหรับผู้ที่อยากลองเล่นเกมแนว Roguelike แต่ไม่ต้องการเกมที่ยาก หรือใช้เวลาเรียนรู้นานแบบเกมอื่นในแนวเดียวกัน โดยจุดเด่นหลักๆที่ทำให้เกมนี้ต่างจากเกมอื่นในแนวเดียวกันคือ:
- มีระบบอำนวยความสะดวก (Quality of Life) หลายอย่างที่เกมอื่นไม่มี เช่น Auto-explore (กด o) เดินสำรวจอย่างรวดเร็วพร้อมกับเก็บไอเทมที่จำเป็นให้เอง และกด Tab หรือ Shift+Tab เพื่อเข้าโจมตีมอนสเตอร์ที่พบทันที
- ไม่มีไอเทมประเภท Cursed (ใส่แล้วถอดไม่ได้)
- Bones files จะมีเฉพาะร่างวิญญาณของผู้เล่นที่ตายจากเซฟก่อนเท่านั้น ไม่มีไอเทมของผู้เล่นคนนั้นให้เก็บ แถมร่างวิญญาณที่ว่านี้ยังโหดกว่าในเกมอื่นๆอีกด้วย ซึ่งการสู้กับร่างวิญญาณในเกมนี้จะเสมือนได้ PK กับผู้เล่นคนนั้นจริงๆ ไม่ได้เป็นมอนฯกระจอกๆให้ตีเล่นฟรีๆ
- ไม่มีการขายไอเทมทิ้งในร้านค้า (ซื้ออย่างเดียวเท่านั้น)
- ไม่มีระบบความหิว; ผู้เล่นสามารถอยู่รอดได้ตลอดทั้งเกม ตราบใดที่ค่า HP ไม่หมด (อันนี้เด็ดสุดเลย เพราะเราสามารถกด 5 เพื่อฟื้นพลังได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความหิวแบบเกมอื่นๆ)
- ระบบพระเจ้า/พระแม่ในเกมนี้ มีผล "อย่างมาก" กับการเล่น เพราะหลังจากที่เราเลือกบูชาพระเจ้า/พระแม่องค์ใดแล้ว เราจะได้พลังพิเศษที่สามารถเรียกใช้งานได้ตลอดเวลาด้วยการกด a (เช่นสกิล Berserk ของ Trog)
- แทบไม่มีเรื่องของ "ดวง" เข้ามาเกี่ยวข้อง; อยู่หรือตายขึ้นอยู่กับแทกติก การวางแผน และตัดสินใจของผู้เล่นล้วนๆ และอาศัยการ "เรียนรู้จากความผิดหลาด" เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ตัวเกมจะมีโหมดการเล่นหลักๆ 5 โหมดด้วยกันคือ:
- Dungeon Crawl โหมดการเล่นแบบปกติ
- Choose game seed เหมือนกับโหมดแรก แต่เราสามารถกำหนดแผนที่หรือ Seed ที่ต้องการเล่นได้
- Tutorial for Dungeon Crawl โหมดฝึกสอนสำหรับผู้ที่เล่นเป็นครั้งแรก
- Hints Mode for Dungeon Crawl เหมือนกับโหมดแรก แต่จะมีการแนะนำทิปและเทคนิคการเล่นต่างๆให้ทราบเป็นระยะๆ แต่คลาสตัวละครที่เลือกเล่นได้จะจำกัดแค่เพียง 3 แบบเท่านั้น
- Dungeon Sprint คล้ายกับโหมดแรก แต่แผนที่จะเป็นแบบตายตัวและใช้เวลาในการเล่นให้จบค่อนข้างไวกว่ามาก สามารถจบได้ภายใน 1 ชั่วโมง
ส่วนเป้าหมายของเกมคือการลงดันเจียนไปยังชั้นลึกที่สุดเพื่อเอา "Orb of Zot" กลับขึ้นมาให้ได้ ซึ่งการจะเข้าไปเอาได้นั้นเราจะต้องหาไอเทมที่ชื่อว่า "runes of Zot" ให้ได้อย่างน้อย 3 ชิ้นจากทั้งหมด 15 ซึ่งจะอยู่ในแผนที่พิเศษต่างๆที่อยู่นอกเส้นทางหลัก เช่น Spider Nest, Tomb, และ Slime Pits เป็นต้น โดยจำนวนชั้นหรือแผนที่ของดันเจียนในเกมนี้มีทั้งหมด 88 ชั้นด้วยกัน โดยแบ่งเป็นแผนที่เส้นทางหลัก 24 ชั้น (Dungeon, Depths, Realm of Zot) และแผนที่แยกสำหรับออกตามล่า runes of Zot กว่า 64 แผนที่ รวมถึงมีแผนที่ที่มีจำนวนชั้นไม่จำกัดอย่าง Abyss และ Pandemonium อีกด้วย
จุดเด่นที่ทำให้เกมนี้แตกต่างจากเกมอื่นในแนวเดียวกันก็คงอยู่ที่ความยากของเกมที่เป็นมิตรกับมือใหม่นี่แหละครับ เพราะเกมนี้จะไม่มีไอเทมประเภท Cursed ทำให้เมื่อเจอของที่ดีกว่าเราสามารถนำมาสวมใส่หรือเปลี่ยนได้ทันที "อย่างสบายใจ" โดยไม่ต้องกังวลว่าเมื่อใส่แล้วจะกลายเป็นของ Cursed ที่ทำให้ถอดหรือเปลี่ยนไม่ได้แบบเกมอื่น รวมถึงไม่มีระบบอาหารและความหิวอีกด้วย (แอดมินเคยเล่น NetHack อยู่เกมหนึ่ง ได้ของดีเพียบ แต่อดตายเพราะโชคร้ายหาของกินไม่ได้ตลอดทาง 😭) ส่วนระบบการเผยชนิดไอเทมหรือ Identification ของเกมนี้จะจำกัดเฉพาะไอเทมประเภทยาและ Scroll เท่านั้น นอกจากนี้มอนสเตอร์เกือบทั้งหมดสามารถคลิกขวาที่ตัวเพื่อดูข้อมูลของมันแบบละเอียดได้ ทำให้สามารถวางแทกติกหรือตัดสินใจหลบหนีได้ง่ายขึ้น ซึ่งเกม Roguelike ส่วนใหญ่จะไม่มีตรงจุดนี้ ทำให้ต้องอาศัยการเปิด Wiki ของเกมนั้นๆเพื่อศึกษาอีกที ส่วนระบบ UI ของเกมนี้สามารถควบคุมได้ทั้งคีย์บอร์ดและเม้าส์ (รวมถึง Touchscreen ในเวอร์ชั่น Android)
สิ่งที่แอดมินชอบมากที่สุดก็คือพวกระบบอำนวยความสะดวก หรือ Quality of Life นี่แหละครับ ที่ในเกมนี้ใส่มาให้แบบจัดเต็มกว่าทุก Roguelike ที่เคยเล่นมาเลยจริงๆ ทำให้เล่นแล้วรู้สึกไหลลื่นอย่างมาก ไม่อืดอาดหรือน่าเบื่อแบบหลายๆเกม ไม่ว่าจะเป็นระบบ Auto-explore กดปุ่มเดียวปล่อยให้ AI ช่วยเดินเองอย่างรวดเร็วได้ยาวๆ จนกว่าจะเจอมอนฯหรือสิ่งที่หน้าสนใจ แถมยังสามารถกด Shift+S เพื่อให้ AI นำทางไปยังบันไดหรือแผนที่ต่างๆได้แบบอัตโนมัติอีกด้วย สะดวกสุดๆ (แต่เวลาต่อสู้ เราต้องคุมเองนะครับ ไม่มี AI ในส่วนนี้ให้) และในการต่อสู้หากเราไม่สะดวกคลิกทีละช่อง ก็ยังสามารถกด Tab หรือ Shift+Tab เพื่อเข้าโจมตีมอนสเตอร์ที่พบทั้งหมดได้ทันทีด้วยเพียงปุ่มเดียว
ที่สำคัญตัวเกมยังคงมีการออกแพทซ์ใหม่ทุกปี ซึ่งจะมีการ เพิ่ม ลบ และปรับปรุงคอนเทนต์ต่างๆเพื่อให้เกมยังคงมีอะไรใหม่ๆให้ค้นหาอยู่เสมอ โดยจะมีกำหนดอัปเดตในช่วงเดือนเมษายน และ/หรือ กันยายนของทุกปี
และสุดท้ายนี้ แอดฯเคยเล่น NetHack, Angband, Brogue และ Shattered Pixel Dungeon มาก่อน (เกมฟรีทั้งหมด) บอกเลยว่าส่วนใหญ่ไปได้ไม่เคยเกิน 5-7 ชั้นต่อเกม อย่างดีสุดถ้า "โชคดี" จริงๆก็ประมาณ 15-20 ชั้น แต่กับเกมนี้หน่ะเหรอ.. ตอนนี้ผมเล่นจบเกมเรียบร้อยแล้วครับ ! จากการเริ่มใหม่เพียงแค่ 5 ครั้งเท่านั้น ! และยังเป็นเกม Roguelike เกมแรกที่เล่นจบได้โดยไม่ต้องใช้โหมด Explore/Wizard อีกด้วย !! 😮 (แอดมินเล่น Minotaur Fighter Trog นะ)

และสำหรับเกมที่ว่านี้ก็คือ Dungeon Crawl Stone Soup (DCSS หรือเรียกง่ายๆกว่า "Crawl") โดยเป็นเกมสำหรับ PC (Windows, Mac, และ Linux) และมือถือ (เฉพาะ Android นะ) เหมาะสำหรับผู้ที่อยากลองเล่นเกมแนว Roguelike แต่ไม่ต้องการเกมที่ยาก หรือใช้เวลาเรียนรู้นานแบบเกมอื่นในแนวเดียวกัน โดยจุดเด่นหลักๆที่ทำให้เกมนี้ต่างจากเกมอื่นในแนวเดียวกันคือ:
- มีระบบอำนวยความสะดวก (Quality of Life) หลายอย่างที่เกมอื่นไม่มี เช่น Auto-explore (กด o) เดินสำรวจอย่างรวดเร็วพร้อมกับเก็บไอเทมที่จำเป็นให้เอง และกด Tab หรือ Shift+Tab เพื่อเข้าโจมตีมอนสเตอร์ที่พบทันที
- ไม่มีไอเทมประเภท Cursed (ใส่แล้วถอดไม่ได้)
- Bones files จะมีเฉพาะร่างวิญญาณของผู้เล่นที่ตายจากเซฟก่อนเท่านั้น ไม่มีไอเทมของผู้เล่นคนนั้นให้เก็บ แถมร่างวิญญาณที่ว่านี้ยังโหดกว่าในเกมอื่นๆอีกด้วย ซึ่งการสู้กับร่างวิญญาณในเกมนี้จะเสมือนได้ PK กับผู้เล่นคนนั้นจริงๆ ไม่ได้เป็นมอนฯกระจอกๆให้ตีเล่นฟรีๆ
- ไม่มีการขายไอเทมทิ้งในร้านค้า (ซื้ออย่างเดียวเท่านั้น)
- ไม่มีระบบความหิว; ผู้เล่นสามารถอยู่รอดได้ตลอดทั้งเกม ตราบใดที่ค่า HP ไม่หมด (อันนี้เด็ดสุดเลย เพราะเราสามารถกด 5 เพื่อฟื้นพลังได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความหิวแบบเกมอื่นๆ)
- ระบบพระเจ้า/พระแม่ในเกมนี้ มีผล "อย่างมาก" กับการเล่น เพราะหลังจากที่เราเลือกบูชาพระเจ้า/พระแม่องค์ใดแล้ว เราจะได้พลังพิเศษที่สามารถเรียกใช้งานได้ตลอดเวลาด้วยการกด a (เช่นสกิล Berserk ของ Trog)
- แทบไม่มีเรื่องของ "ดวง" เข้ามาเกี่ยวข้อง; อยู่หรือตายขึ้นอยู่กับแทกติก การวางแผน และตัดสินใจของผู้เล่นล้วนๆ และอาศัยการ "เรียนรู้จากความผิดหลาด" เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ตัวเกมจะมีโหมดการเล่นหลักๆ 5 โหมดด้วยกันคือ:
- Dungeon Crawl โหมดการเล่นแบบปกติ
- Choose game seed เหมือนกับโหมดแรก แต่เราสามารถกำหนดแผนที่หรือ Seed ที่ต้องการเล่นได้
- Tutorial for Dungeon Crawl โหมดฝึกสอนสำหรับผู้ที่เล่นเป็นครั้งแรก
- Hints Mode for Dungeon Crawl เหมือนกับโหมดแรก แต่จะมีการแนะนำทิปและเทคนิคการเล่นต่างๆให้ทราบเป็นระยะๆ แต่คลาสตัวละครที่เลือกเล่นได้จะจำกัดแค่เพียง 3 แบบเท่านั้น
- Dungeon Sprint คล้ายกับโหมดแรก แต่แผนที่จะเป็นแบบตายตัวและใช้เวลาในการเล่นให้จบค่อนข้างไวกว่ามาก สามารถจบได้ภายใน 1 ชั่วโมง
ส่วนเป้าหมายของเกมคือการลงดันเจียนไปยังชั้นลึกที่สุดเพื่อเอา "Orb of Zot" กลับขึ้นมาให้ได้ ซึ่งการจะเข้าไปเอาได้นั้นเราจะต้องหาไอเทมที่ชื่อว่า "runes of Zot" ให้ได้อย่างน้อย 3 ชิ้นจากทั้งหมด 15 ซึ่งจะอยู่ในแผนที่พิเศษต่างๆที่อยู่นอกเส้นทางหลัก เช่น Spider Nest, Tomb, และ Slime Pits เป็นต้น โดยจำนวนชั้นหรือแผนที่ของดันเจียนในเกมนี้มีทั้งหมด 88 ชั้นด้วยกัน โดยแบ่งเป็นแผนที่เส้นทางหลัก 24 ชั้น (Dungeon, Depths, Realm of Zot) และแผนที่แยกสำหรับออกตามล่า runes of Zot กว่า 64 แผนที่ รวมถึงมีแผนที่ที่มีจำนวนชั้นไม่จำกัดอย่าง Abyss และ Pandemonium อีกด้วย
จุดเด่นที่ทำให้เกมนี้แตกต่างจากเกมอื่นในแนวเดียวกันก็คงอยู่ที่ความยากของเกมที่เป็นมิตรกับมือใหม่นี่แหละครับ เพราะเกมนี้จะไม่มีไอเทมประเภท Cursed ทำให้เมื่อเจอของที่ดีกว่าเราสามารถนำมาสวมใส่หรือเปลี่ยนได้ทันที "อย่างสบายใจ" โดยไม่ต้องกังวลว่าเมื่อใส่แล้วจะกลายเป็นของ Cursed ที่ทำให้ถอดหรือเปลี่ยนไม่ได้แบบเกมอื่น รวมถึงไม่มีระบบอาหารและความหิวอีกด้วย (แอดมินเคยเล่น NetHack อยู่เกมหนึ่ง ได้ของดีเพียบ แต่อดตายเพราะโชคร้ายหาของกินไม่ได้ตลอดทาง 😭) ส่วนระบบการเผยชนิดไอเทมหรือ Identification ของเกมนี้จะจำกัดเฉพาะไอเทมประเภทยาและ Scroll เท่านั้น นอกจากนี้มอนสเตอร์เกือบทั้งหมดสามารถคลิกขวาที่ตัวเพื่อดูข้อมูลของมันแบบละเอียดได้ ทำให้สามารถวางแทกติกหรือตัดสินใจหลบหนีได้ง่ายขึ้น ซึ่งเกม Roguelike ส่วนใหญ่จะไม่มีตรงจุดนี้ ทำให้ต้องอาศัยการเปิด Wiki ของเกมนั้นๆเพื่อศึกษาอีกที ส่วนระบบ UI ของเกมนี้สามารถควบคุมได้ทั้งคีย์บอร์ดและเม้าส์ (รวมถึง Touchscreen ในเวอร์ชั่น Android)
![]() |
| คลิกขวาที่มอนสเตอร์เพื่อดูข้อมูลของมันแบบละเอียดได้ |
สิ่งที่แอดมินชอบมากที่สุดก็คือพวกระบบอำนวยความสะดวก หรือ Quality of Life นี่แหละครับ ที่ในเกมนี้ใส่มาให้แบบจัดเต็มกว่าทุก Roguelike ที่เคยเล่นมาเลยจริงๆ ทำให้เล่นแล้วรู้สึกไหลลื่นอย่างมาก ไม่อืดอาดหรือน่าเบื่อแบบหลายๆเกม ไม่ว่าจะเป็นระบบ Auto-explore กดปุ่มเดียวปล่อยให้ AI ช่วยเดินเองอย่างรวดเร็วได้ยาวๆ จนกว่าจะเจอมอนฯหรือสิ่งที่หน้าสนใจ แถมยังสามารถกด Shift+S เพื่อให้ AI นำทางไปยังบันไดหรือแผนที่ต่างๆได้แบบอัตโนมัติอีกด้วย สะดวกสุดๆ (แต่เวลาต่อสู้ เราต้องคุมเองนะครับ ไม่มี AI ในส่วนนี้ให้) และในการต่อสู้หากเราไม่สะดวกคลิกทีละช่อง ก็ยังสามารถกด Tab หรือ Shift+Tab เพื่อเข้าโจมตีมอนสเตอร์ที่พบทั้งหมดได้ทันทีด้วยเพียงปุ่มเดียว
![]() |
| หน้าตาของเวอร์ชั่น Android |
ที่สำคัญตัวเกมยังคงมีการออกแพทซ์ใหม่ทุกปี ซึ่งจะมีการ เพิ่ม ลบ และปรับปรุงคอนเทนต์ต่างๆเพื่อให้เกมยังคงมีอะไรใหม่ๆให้ค้นหาอยู่เสมอ โดยจะมีกำหนดอัปเดตในช่วงเดือนเมษายน และ/หรือ กันยายนของทุกปี
![]() |
| แผนที่ Shoals สวยจริงๆ ดูแตกต่างจากแผนที่อื่นมากที่ส่วนใหญ่จะออกแนวโทนมืด |
และสุดท้ายนี้ แอดฯเคยเล่น NetHack, Angband, Brogue และ Shattered Pixel Dungeon มาก่อน (เกมฟรีทั้งหมด) บอกเลยว่าส่วนใหญ่ไปได้ไม่เคยเกิน 5-7 ชั้นต่อเกม อย่างดีสุดถ้า "โชคดี" จริงๆก็ประมาณ 15-20 ชั้น แต่กับเกมนี้หน่ะเหรอ.. ตอนนี้ผมเล่นจบเกมเรียบร้อยแล้วครับ ! จากการเริ่มใหม่เพียงแค่ 5 ครั้งเท่านั้น ! และยังเป็นเกม Roguelike เกมแรกที่เล่นจบได้โดยไม่ต้องใช้โหมด Explore/Wizard อีกด้วย !! 😮 (แอดมินเล่น Minotaur Fighter Trog นะ)
ใครสนใจร่วมมาผจญภัยกันได้ฟรีๆ ที่นี่เลย !
(Windows, Mac, Linux และ Android)
https://crawl.develz.org/download.htm
(Windows, Mac, Linux และ Android)
https://crawl.develz.org/download.htm
หน้านี้แก้ไขล่าสุดเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568




