27 ธันวาคม 2565

ช่วง Free Talk by Admin ส่งท้ายปี 2022

สวัสดีครับ แอดมินเอครับผม ' w')/

ก่อนอื่นต้องขออภัยกับผู้ที่กำลังรออ่านนิยายตอนใหม่ด้วยนะครับ เนื่องจากเดือนนี้แอดมินกำลังวุ่นหนักกับเรื่องส่วนตัว จึงทำให้ไม่มีเวลามาเขียนเลย แต่ก็มีข่าวดีคือในวันนี้แอดมินได้วางโครงเรื่องของตอนต่อไปเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ แต่กว่าจะเริ่มลงมือเขียนได้คงต้องรออีกทีต้นปีหน้าเลย แต่แอดมินจะพยายามเขียนให้ถึงตอนที่ 50 ก่อนครบรอบ 2 ปีในเดือนเมษายนตามที่เคยสัญญาไว้อย่างแน่นอนครับ!

มาลองทายชื่อตัวละครในตอนต่อไปกันดูเล่นๆ ในสไตล์อีเวนท์หลักของภาค Kaimei Riddles

คำถาม:
ตัวละครตัวใดที่เป็นเจ้าของเพลง Cosmic Elevator / Forte Escape

คำใบ้ 1:
ตัวละครในตอนที่ 43 คือหนึ่งในรูปนี้


คำใบ้ 2: เป็นชื่อเดียวกับหนึ่งในตัวละครของเกม Mega Man Zero

คำใบ้ 3:
เป็นผู้สร้าง "เมล็ดเบ่งบาน" (ที่มิมิกับเนียมิใช้ในอนิเมชั่น Sunny Park ของพวกเธอ)

--------------------------------------------------------------------------------

ก็ห่างหายกันไปหลายปีเลยนะครับกับบทความส่งทายปี และปีนี้เรียกได้ว่าเป็นปีทองของ Pop'n Music จริงๆ ครับ เพราะนอกจากในปีนี้ร้านตู้เกม Arcade จะได้กลับมาเปิดบริการตามปกติหลังจากที่โควิดลดความรุนแรงของโรคลงจนกลายเป็นโรคประจำถิ่นแล้ว (แต่ยังคงมาตรการเข้มเหมือนเดิม) ปีนี้ก็ยังถือได้ว่าเป็นปีที่้เกมเมอร์สาย Rhythm Game ชาวไทยเริ่มให้ความสนใจกับเกม Pop'n Music กันมากขึ้น ทำไมน่ะเหรอ?? ก็เพราะนอกจากจะมีเกมภาคใหม่ล่าสุดอย่าง Pop'n Music UniLab ปล่อยออกมาเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาแล้วนั้น (ตู้ที่ MBK ได้อัปเดตพร้อมญี่ปุ่นด้วย) ก็ยังมีปรากฏการณ์ต่างๆ มากมายเกิดขึ้น ซะจนเกมเมอร์สาย Rhythm Game พากันเริ่มให้ความสนใจ ส่วนจะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น เชิญอ่านกันได้เลยขอรับ (∩_∩)

นิยาย PMR ปลุกกระแสเกม Pop'n Music ในไทย!

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วว่านิยายที่ผมตั้งใจ "เขียนขึ้นมาเล่นๆ" อย่าง Pop'n Music Respect จะกลายเป็นนิยายแฟนฟิคที่ได้สร้างกระแสความปัง และถูกพูดถึงในกลุ่ม Community เกม Arcade ตลอดทั้งปี ซึ่งการมาของนิยายเรื่องนี้นั้นก็ได้ส่งผลทำให้ฉบับเกม Arcade ที่แต่เดิมไม่ค่อยมีใครพูดถึง ต่างก็มีแต่คนถามหากันทั่ว โดยเฉพาะในเพจ FB หลักของ Echo Games หลังจากที่ทางร้านนำตู้ Beatmania IIDX เข้ามาเปิดให้บริการที่สาขา MBK เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ก็มีเกมเมอร์เรียกร้องให้ทางร้านนำเอาตู้ Pop'n Music มาเปิดด้วยเช่นกัน (ปัจจุบันตู้ PNM มีเพียงที่ร้าน Hero City ที่เดียว)

และจุดสำเร็จของเรื่องนี้นั้น มาจากการที่เนื้อเรื่องได้เขียนออกมาเป็นลักษณะเรื่องยาวต่อเนื่องกันเป็นตอนๆ ไม่ได้เป็นลักษณะ "จบในตอน" แบบแฟนฟิคหรือโดจิน Pop'n Music ทั่วๆ ไป ประกอบกับการเล่าเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายและดำเนินเรื่องได้รวดเร็วทันใจไม่ยืดเยื้อแบบการ์ตูนเรื่องยาวบางเรื่อง นอกจากนี้ผู้เขียนได้กำหนดให้ดีไซน์ทรงผมของตัวเอกอย่าง มิมิ กับ เนียมิ ใช้ดีไซน์แบบเก่าที่ใช้ตั้งแต่เกมภาคแรกจนถึง Pop'n Music Sunny Park คือ มีผมเฉพาะบริเวณหน้าผากอย่างเดียว ไม่มีผมที่ด้านข้าง แต่ในขณะที่แปลงร่างเป็น "นักรบในตำนาน Poppers" นั้น จะมีผมครอบด้านข้างเหมือนกับดีไซน์แบบใหม่หลัง Pop'n Music Lapistoria และด้วยความที่ในเรื่องนี้ทั้งสองสามารถแปลงร่างเป็นสาวน้อยเวทมนตร์ได้นี่เอง จึงทำให้กลายเป็น "เสน่ห์" ของ Pop'n Music ในภาคนี้ไปโดยปริยายเลย (บ้างแซวเป็น "Pop'n Pretty Cure" ฮ่าๆๆ ^_^)

ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ แอดมินยังได้ยินอีกว่ามีชาวต่างประเทศที่เป็นแฟนเกม Pop'n Music ให้ความสนใจนิยายเรื่องนี้อีกด้วยครับ โดยเข้ามาอ่านด้วยเว็บไซต์แปลภาษาเช่น Google Translate นั่นเอง และนั่นก็ยังส่งผลให้เรื่องนี้กลายเป็นนิยายแฟนฟิคจำนวนน้อยเรื่องของไทยที่โด่งดังในต่างประเทศอีกด้วย!!

Friday Night Funkin' x Pop'n Music Demo Mod สร้างกระแสความปังตลอดปี 2022

อีกหนึ่งเรื่องที่ถือว่ามาแรงเคียงคู่กับนิยาย PMR นั้น ก็คงจะหนีไม่พ้นม็อดของ Rhythm Game สุดฮิตอย่าง Friday Night Funkin' ที่มีชื่อว่า "Friday Night Funkin' x Pop'n Music Demo Mod" (หรือเรียกสั้นๆ ว่า FNFxPNM) อย่างแน่นอน ซึ่งม็อดตัวนี้กลายเป็นม็อดที่มีกระแสตอบรับดีที่สุดตลอดทั้งปีอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งๆ ที่มองผิวเผินแล้วม็อดนี้ดูยังไงๆ ก็เป็นม็อดแฟนครอสโอเวอร์ธรรมดาๆ ที่ดูไม่น่าสนใจนัก ทว่าจากการที่งานโปรดักฯ ของม็อดนี้ ได้สร้างสรรค์คุณภาพงานออกมาได้เนี้ยบไม่แพ้งาน Official ของทาง Konami จึงทำให้ม็อดตัวนี้ได้รับความสนใจจากแฟนๆ PNM มากมาย จึงไม่แปลกใจที่ม็อดนี้ได้สร้างประวัติศาสตร์ เป็นม็อดที่มียอดดาวน์โหลดทะลุ 10,000 ครั้ง (ยอดรวมตั้งแต่เวอร์ชั่นแรก) และยังขึ้นแท่นเป็นม็อด FNF ที่ได้รับความนิยมในอันดับต้นๆ เป็นเวลาหลายสัปดาห์ติดต่อกันในเว็บ GameBanana อีกด้วย!!

จากความปังของม็อดนี้ ยังส่งผลดีต่อเกม Arcade ต้นฉบับ ที่ทำให้กลายเป็นหนึ่งใน Rhythm Game ที่ถูกพูดถึงกันมากที่สุดตลอดปี 2022 เช่นกัน

--------------------------------------------------------------------------------

และเรื่องสุดท้ายนี้ มีบางท่านสงสัยว่าแอดมินเลิกสนใจเกมยานยิงไปแล้วหรือเปล่า? เพราะในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ ไม่เห็นแอดมินพูดถึงหรือโพสต์เกี่ยวกับเกมแนวนี้ลงบล็อกอีกเลย ขอบอกว่าแอดมินยังคงสนใจเล่นอยู่เหมือนเดิมนะครับ เพียงแต่ด้วยเรื่องส่วนตัวดังที่กล่าวไปในตอนต้น ทำให้ไม่มีเวลามาเขียนข่าวหรือบทความเกี่ยวกับเรื่องเกมยานยิงอีกเลย ซึ่งก็คงต้องขออภัยด้วยนะครับที่หลังจากนี้จะไม่มีบทความเกี่ยวกับเกมแนวนี้อีกแล้ว นอกจากข่าวของเกมซีรี่ส์ Cotton เกมเดียวเท่านั้นที่ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม เพื่อไม่ให้เสียคอนเซ็บดั้งเดิมของบล็อกไป (ซึงบางท่านแซวว่ากลายเป็นบล็อก Pop'n Music Wikipedia Thai ไปแล้ว ฮ่าๆๆ ^_^)

สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามบล็อกของเรามาโดยตลอดนะครับ และวงการตู้เกม Arcade ของไทยในปีหน้าจะก้าวไปในทิศทางไหนนั้น ก็ต้องติดตามกันต่อไปครับ

มีหลายท่านบอกอยากเล่นกับแอดมินที่ MBK จงไปเล่นระดับ 40+ ให้ได้ก่อนนะ!


3 ธันวาคม 2565

วิธีการลงทะเบียนบัตร e-Amusement Pass สำหรับเกม Pop'n Music

สวัสดีครับ แอดมินเอครับผม ' w')/

เนื่องจากมีหลายท่านถามกันเข้ามาในกลุ่ม LINE เยอะเลยว่า ทำยังไงถึงจะสร้างไอดี(ลงทะเบียนบัตร)ของเกม Pop'n Music ได้ เนื่องจากมีปัญหาตรงที่คำอธิบายในขั้นตอนของการลงทะเบียน มันเป็นภาษาญี่ปุ่นแทบทั้งหมด! ในขณะที่เกมอื่นๆ นั้น (SDVX, IIDX, DDR, ฯลฯ) รองรับภาษาอังกฤษกันหมดแล้ว (มีแค่ Pop'n เกมเดียวนี่แหละที่ทางโคนามิยังไม่อัปเดตให้รองรับภาษาอังกฤษแบบเกมอื่นซะที)

เอาล่ะ มาดูกันว่าเกมนี้เขาลงทะเบียนบัตรผู้เล่นกันยังไงนะ

เมื่อมาถึงหน้าตู้เกมแล้ว ให้แตะบัตร e-Amusement Pass ของท่าน (หรือบัตรของค่ายอื่นที่รองรับ Amusement IC) ที่จุดอ่านบัตรที่อยู่ตรงใต้จอข้างๆ แป้นตัวเลขได้เลยครับ (ไม่จำเป็นต้องหยอดเหรียญก่อน เพราะหลังจากที่เสร็จสิ้นขั้นตอนการลงทะเบียน(หรือใส่ PIN ในกรณีที่เคยลงทะเบียน)แล้ว เกมจะขอให้เราหยอดเหรียญอีกที)


จากนั้นเกมจะขึ้นรายละเอียดข้อตกลงการใช้บริการสมาชิก ให้เลือก Yes (กดปุ่มฟ้าซ้าย แล้วกดสีแดง) ครับ


จากนั้นทำการตั้งรหัสผ่านที่ต้องการ 4 หลัก ด้วยแป้นตัวเลข (เพื่อความซับซ้อน จะใส่ 00 เข้าไปด้วยก็ได้นะ) แล้วจากนั้นทำการใส่รหัสเดิมอีกครั้งเพื่อยืนยันความถูกต้อง


หน้านี้กดสีแดงได้เลย


คราวนี้ก็มาถึงขั้นตอนสำคัญแล้วนั่นคือการตั้งชื่อผู้เล่น ซึ่งการใส่ตัวอักษรจะใช้วิธีการป้อนแบบมือถือปุ่มกดในยุคก่อน คือ กดปุ่มตัวเลขนั้นๆ ซ้ำกันเพื่อเลือกตัวอักษรที่ต้องการ

แต่หากใครที่เกิดไม่ทันยุคมือถือปุ่มกด หรือพิมพ์ไม่เป็น สมมุติว่าหากต้องการพิมพ์ตัว C ให้มองหาดูว่าตัว C อยู่ในตำแหน่งของปุ่มเลขไหน เมื่อเจอแล้วก็ให้กดเลขนั้นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ตัว C ครับ (บางท่านมาตกม้าตายเพราะพิมพ์ไม่เป็นนี้แหละ)

และหากต้องการพิมพ์ตัวอักษรหลักถัดไปที่อยู่ในปุ่มเลขเดียวกัน ให้กดปุ่ม ฟ้าขวา ก่อนนะครับ แล้วค่อยกดเลขเดิมซ้ำ

ส่วนการลบตัวอักษรก่อนหน้า ให้เลื่อนเคอร์เซอร์ไปยังตัวที่ต้องการลบ แล้วพิมพ์ตัวอักษรใหม่ทับไปได้เลยครับ

ส่วนปุ่มสีต่างๆ มีคำสั่งดังนี้
สีฟ้า = เลื่อนเคอร์เซอร์ตัวพิมพ์ ซ้าย-ขวา
สีเหลือง ขวา = เปลี่ยนรูปแบบตัวอักษรระหว่างญี่ปุ่น อังกฤษ และตัวเลข
สีแดง = ยืนยันการตั้งชื่อ


หลังจากที่กดปุ่มแดงแล้ว ตัวเกมจะให้เรายืนยันการตั้งชื่ออีกครั้ง เพราะหลังจากที่ตอบยืนยันไป จะไม่สามารถแก้ไขชื่อในภายหลังได้อีกแล้วนะครับ หากเห็นว่าทุกอย่างถูกต้องแล้ว ก็ให้เลือก Yes เพื่อยืนยัน (หากเลือก No เกมจะกลับออกมายังหน้า Attract (หน้าแรกที่ขึ้นว่า Warning: This game is for sale and use in...) แล้วให้เราทำการแตะบัตรเพื่อเรื่มขั้นตอนแรกของการลงทะเบียนใหม่อีกครั้ง)


เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ได้เวลามาลุยอีเวนท์กันแล้ว ^_^

ส่วนการล็อคอินเข้าเกมหลังจากลงทะเบียน ก็เหมือนกับเกมอื่นๆ ของค่ายนี้ คือ หยอดเหรียญให้ครบ แตะบัตร แล้วใส่ PIN ครับผม (หรือจะแตะบัตรก่อน แล้วมาหยอดเหรียญในหน้าเลือกโหมดทีหลังก็ได้เช่นกัน)

ส่วนใครที่สงสัยว่าการเล่นแบบใช้บัตรมันต่างจากการเล่นแบบปกติตรงไหน บอกได้เลยว่าแตกต่างจากคนที่เล่นแบบปกติโดยไม่ใช้บัตรแน่นอนครับ ซึ่งหากเล่นแบบใช้บัตรจะได้สิทธิพิเศษดังนี้

- สามารถบันทึกคะแนน เหรียญตรา และเกรดที่เราทำไว้ได้ในแต่ละเพลง/ชาร์ต
- สามารถเล่นอีเวนท์เพื่อปลดล็อคเพลงใหม่ๆ ที่อัปเดตเข้ามาเรื่อยๆ ได้ (อันนี้สำคัญมาก เพราะเพลงในเกมนี้หลายเพลงจะสงวนไว้เฉพาะผู้ที่เล่นโดยใช้บัตรเท่านั้น)
- หากเลือกตัวละครตัวไหนไว้ รวมถึงปรับการตั้งค่าต่างๆ เมื่อกลับมาเล่นในรอบต่อไป เกมจะจำค่าต่างๆ ไว้ให้เหมือนเดิม ไม่ต้องมาเลือก/ตั้งค่าใหม่อีกครั้ง
- เกมจะไม่ถามเข้าโหมด Tutorial หลังจากที่ผ่านการเล่นด้วยบัตรครั้งแรกแล้ว รวมถึงหากเลือกเพลงที่มี Long Note ก็ไม่ถูกบังคับให้เล่น Tutorial สอนการกด Long Note อีกด้วย (ซึ่งมันเสียเวลาและน่ารำคาญมาก หากได้เล่นซ้ำหลายๆ รอบ)
- มีการเก็บแต้มวัดระดับฝีมือการเล่นของเรา โดย 0.00 จะเป็นค่าเริ่มต้น และ 100.00 เป็นค่าสูงสุด ยิ่งเล่นชาร์ตระดับสูงได้คะแนนดีเท่าไหร่ ค่าฝีมือก็จะเพิ่มสูงตามเท่านั้น
- สามารถเล่นโหมดแข่งขันออนไลน์ "NET Taisen" ได้ (อันนี้มีเฉพาะตู้ที่ญี่ปุ่นเท่านั้นนะครับ ตู้ไทยและโซนอื่นๆ ไม่มีให้เล่น)

ขอให้ทุกท่านสนุกกับป๊อปปิน (^_<)☆

และจงอย่าลืมว่า...
"YOU NEED MORE PRACTICE, NEVER GIVE IT UP!"

2 ธันวาคม 2565

pop'n music RESPECT : STAGE 42 「ฟูฟ่องๆ แล้วก็ยังฟูฟ่องๆ !!」

วันต่อมา ในขณะที่ทั้งสองกำลังมุ่งหน้าไปยังสถานที่ถัดไป

มิมิ: ในที่สุดวันนี้พื้นที่ในเขตอุทยานก็กลับมาเขียวชอุ่มทั้งหมดเหมือนเดิมแล้วนะ!

มิมิกล่าวในขณะที่ดูแผนที่ในมือถือไปด้วย ซึ่งบนจอแสดงให้เห็นถึงพื้นที่ในเขตอุทยานที่ได้ฟื้นฟูกลับมาเป็นพื้นที่สีเขียวทั้งหมดแล้ว

เนียมิ: อืม! แถมได้ยินว่าพื้นที่บริเวณรอบๆ เมืองเริ่มมีนักท่องเที่ยวเยอะแล้วด้วยนะ โดยเฉพาะโรงแรมที่พวกเราเคยไปพัก ได้ยินว่าเริ่มมียอดจองห้องใกล้เต็มแล้วด้วยนี่ (ผิดกับช่วงแรกที่พวกเราเข้าพักเลย)

มิมิ: แต่สิ่งที่ยังเหลืออยู่ตอนนี้ก็คือสภาพอากาศในเขตอุทยานที่ยังคงเป็นฤดูร้อนอยู่นี่แหละ ถ้าหากเรารวบรวมท่วงสุริยันที่เหลืออยู่อีก 2 ชิ้นได้ ก็อาจจะทำให้อากาศกลับมาเป็นตามฤดูกาลเหมือนเดิมนะ! (อยากเห็นอุทยานในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจังเลย)

เนียมิ: อย่างนี่เอง ก็ถึงว่าทำไมต้นไม้ในอุทยานยังเป็นสีเขียวขจีอยู่เลย ทั้งที่ในเขตเมืองเปลี่ยนสีกันหมดแล้ว

มิมิ: อืม! วันนี้พวกเราต้องคว้ามาอีกให้ได้เลยนะ ^_^

เนียมิ: โอเค!! แล้วสถานที่ที่เราจะไปกันวันนี้คือที่ไหนน่ะ??

มิมิ: สวนสัตว์

เนียมิ: "สวนสัตว์" งั้นเหรอ??

มิมิ: อืม! เป็นสวนสัตว์ที่อยู่ไม่ไกลจากโซนทะเลสาบมากนัก และดูเหมือนว่าที่นี่จะเป็น "สถานที่ท่องเที่ยว" แห่งสุดท้ายของเขตอุทยานแล้วล่ะ (นอกนั้นก็เป็นป่ากับหมู่บ้านล้วนๆ)

เนียมิ: สถานที่แห่งสุดท้ายแล้วเหรอ ..แล้วท่วงสุริยันชิ้นที่ 6 ล่ะ จะไปหาจากที่ไหน?? (ตอนนี้พวกเราได้มาแค่ 4 จาก 6 เองนะ)

มิมิ: เรื่องนั้นฉันก็ยังไม่รู้เหมือนกัน แต่เอาเป็นว่าขอแค่หาชิ้นที่ 5 ให้ได้ก่อนก็ดีแล้วล่ะ

เนียมิ: อืม! ถ้างั้นในตอนนี้พวกเราก็...

มิมิ/เนียมิ: ไปลุยกันเลย!! LET'S ADVENTURE!! (^_-)/☆\(-_^)

--------------------------------------------------------------------------------


STAGE 42
「ฟูฟ่องๆ แล้วก็ยังฟูฟ่องๆ !!」


--------------------------------------------------------------------------------

ทั้งสองกำลังมุ่งหน้าไปยังสวนสัตว์ "มุซาซิ โนะ ซาฟารี" (むさしのサファリ) สวนสัตว์แห่งนี้้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวภายในเขตอุทยาน และยังเป็น "แลนด์มาร์ก" ประจำอุทยานแห่งนี้อีกด้วย โดยสวนสัตว์มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่พอกับสวนสนุกในเขตเมือง และเป็นสถานที่ที่สามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดูกาลอีกด้วย แต่ในช่วงฤดูร้อนจะมีนักท่องเที่ยวมาเยอะเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นฤดูที่เหมาะกับการมาเยือนอุทยานมากที่สุด ส่วนระยะห่างระหว่างตัวเมืองกับสวนสัตว์นั้นค่อนข้างไกลพอสมควร สามารถเดินทางมาที่นี่ได้ด้วยบริการรถเมล์ หรือจะเดินมาเองก็ได้เช่นกัน แต่จะใช้เวลานานหลายชั่วโมงกว่าจะมาถึง

และหลังจากที่มาถึงหน้าทางเข้าแล้ว พบว่าทางเข้ามีทั้งหมด 3 ทางด้วยกัน โดยประตูทางซ้ายจะเป็นทางไปยังโซนสวนสัตว์เปิดที่สามารถขับรถชมสัตว์ป่าได้ตลอดเส้นทาง แต่จะเข้าได้เฉพาะรถยนต์เท่านั้น ประตูกลางเป็นทางเข้าโซนหลัก ส่วนประตูขวาเป็นทางเข้าไปยังพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ

เนียมิ: โห้!! มีทางเข้าไปโซนที่ต่างกันตั้ง 3 โซนหน่ะ

มิมิ: เพิ่งเคยเห็นสวนสัตว์ที่มีทางเข้าหลายทางก็ครั้งนี้แหละ!

เนียมิ: แล้วเราจะไปโซนไหนกันก่อนดี?

มิมิ: แน่นอนอยู่แล้ว ก็ต้องเป็นโซนหลักก่อนล่ะ!

แล้วทั้งสองก็เดินเข้าไปยังประตูหลักตรงกลาง

และทันทีที่มาถึงบริเวณหน้าบูธจำหน่ายตั๋ว ก็พบว่าบรรยากาศค่อนข้างดูเงียบเหงา

มิมิ: อืม... ดูเหมือนว่าไม่ยังค่อยมีคนมาเที่ยวเท่าไหร่เลยนะ

เนียมิ: นั่นสิ ทั้งที่ก็เปิดอยู่ปกตินะ?

"เฮ้! นั่น มิมิกับเนียมิ ใช่ไหม??"

อยู่ๆ ก็มีคนเรียกพร้อมกับเดินเข้ามาหา ทั้งคู่จึงหันไปดู

เนียมิ: อ่ะ? Σ( °_°)

"พวกเธอคือ มิมิกับเนียมิ ใช่ไหม?"

มิมิ: ใช่ค่ะ มีอะไรเหรอคะ?

"ขอบคุณพระเจ้าจริงๆ ที่พวกเธอมาที่นี่แล้ว ฉันเป็นหนึ่งในผู้ดูแลสวนสัตว์แห่งนี้ ฉันมีเรื่องอยากจะให้พวกเธอช่วยหน่อยน่ะ"

เนียมิ: ได้สิ มีอะไรงั้นเหรอ?

"คือตอนนี้ที่สวนสัตว์ของเรากำลังมีปัญหาอยู่น่ะสิ แต่ก่อนอื่น เชิญเข้ามาดูด้านในกันก่อนนะ ^_^"

แล้วเขาก็พาทั้งสองเข้ามายังภายในโซนหลักของสวนสัตว์ โดยบรรยากาศภายในมีลักษณะคล้ายกับป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้ ตลอดทางมีโซนย่อสำหรับจัดแสดงสัตว์ป่าและการแสดงต่างๆ รวมไปถึงร้านค้าต่างๆ

เนียมิ: ทำไมคุณถึงรู้จักพวกเราล่ะ?

"ก็เพราะพวกเธอเคยสร้างวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ไว้จากอาณาจักรเทพนิยายมาก่อนใช่ไหมล่ะ?"

เนียมิ: ชะ..ใช่แล้วล่ะ พวกเราเคยปิดผนึกจอมมารมาได้แล้ว ฮ่าๆ ^_^

"เพราะนั่นแหละ ฉันถึงต้องการพวกเธอให้มาช่วยเหลือในครั้งนี้ยังไงล่ะ! และฉันก็ได้ยินมาว่าตอนนี้พวกเธอเองก็ได้รับเลือกจาก "ภูตแห่งฤดูกาล" ให้มากอบกู้อุทยานด้วยเช่นกันนี่ ใช่ไหม?"

มิมิ: อืม! ใช่แล้วล่ะ

"สุดยอดไปเลยนะ ที่ภูตแห่งฤดูกาลได้เลือกพวกเธอให้มาทำภารกิจนี้ด้วย ฉันน่ะอิจฉาในตัวพวกเธอจริงๆ ^_^"

เนียมิ: แล้วช่วงที่อุทยานยังเป็นแดนแห้งแล้งอยู่ สวนสัตว์แห่งนี้มันเกิดปัญหาอะไรขึ้นเหรอคะ?

"จริงๆ แล้ว ปัญหามันเกิดขึ้นหลังจากที่นี่กลับมาเขียวขจีเหมือนเดิมแล้วน่ะ ในช่วงที่สวนสัตว์แห่งนี้ยังถูกคลื่นความร้อนปริศนาเข้าปกคลุม สวนสัตว์ก็ได้ปิดไปชั่วคราว เพราะด้วยคลื่นความร้อนที่สูงทำให้เหล่าสัตว์ป่าไม่สามารถอาศัยอยู่ที่นี่ต่อไปได้ พวกเราจึงตัดสินใจอพยพสัตว์ทั้งหมดไปไว้ยังสวนสัตว์อื่นด้วยเช่นกัน ...แต่ปัญหามันเกิดขึ้นหลังจากพื้นที่บริเวณนี้กลับมาเขียวขจีเหมือนเดิมแล้ว และในช่วงที่สวนสัตว์แห่งนี้เตรียมกลับมาเปิดอีกครั้ง พบว่ามีสัตว์บางส่วนที่เราฝากไว้กับสวนสัตว์อื่นได้หายไป ทำให้ย้ายกลับมาได้ไม่ครบน่ะ"

มิมิ: พวกสัตว์ป่าย้ายกลับมาไม่ครบงั้นเหรอ??

"อืม! ซึ่งทางนั้นก็ไม่ทราบสาเหตุเช่นกันว่ามันหายไปได้อย่างไร แต่ทางสวนสัตว์นั้นก็จะช่วยชดใช้ความเสียหายให้ด้วยการจัดหาสัตว์มาทนแทนให้ใหม่แล้วล่ะไม่ต้องห่วง ...แต่ปัญหาจริงๆ ในตอนนี้ก็คือ เมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นที่คอกแกะน่ะ ในวันหลังจากที่สวนสัตว์กลับมาเปิดได้ไม่นาน อยู่ๆ แกะตัวหนึ่งในฝูงก็ออกมา "เดินวนเป็นวงกลม" อยู่ที่เดิม ซึ่งในตอนแรกก็ยังไม่ผิดสังเกตอะไรนะ จนกระทั่งในวันต่อมาก็เริ่มมีแกะตัวอื่นเริ่มพากันเดินวนตามกันเป็นฝูง และก็เป็นเช่นนี้มาหลายวันแล้ว ซึ่งทางเราก็ยังหาสาเหตุไม่ได้เหมือนกันว่าเพราะอะไร และเมื่อไม่นานนี้ก็ได้มี "แกะประหลาด" ตัวหนึ่งที่ "คล้ายกับคน" ปรากฏตัวขึ้น ซึ่งแกะตัวนี้มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่พบเจอครั้งแรกในห้องครัวของร้านคาเฟ่ในสวนสัตว์ ก่อนที่มันจะเริ่มออกอาละวาดไปทั่วสวนสัตว์ และตอนนี้มันก็ได้หนีหายไปแล้ว ...แต่หลังจากที่แกะประหลาดนั่นปรากฏตัว ฝูงแกะในคอกก็เลิกเดินเป็นวงกลมแล้วนะ ฉันเลยคิดว่าเจ้าแกะประหลาดนั่นน่าจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับฝูงแกะที่เดินเป็นวงกลมแน่ๆ"

เนียมิ: งั้นภารกิจที่จะให้พวกเราทำก็คือ...?

"ไปตามจับแกะประหลาดกลับมาให้ได้ แล้วเราจะจับมันมาสอบสวนให้หนักเลย (︶^︶)"

มิมิ: นั่นสิ แล้วในตอนนั้นพวกเจ้าหน้าที่ตามจับมันไม่ได้เลยเหรอ?

"ไม่มีใครจับได้เลยล่ะ เพราะมันเคลื่อนที่ได้รวดเร็วมาก แถวมันยังมีเครื่องมือที่สามารถปล่อย "ก้อนเมฆ" ออกมาโจมตีได้อีกด้วยนะ ซึ่งในตอนนั้นสวนสัตว์เละไปด้วยก้อนเมฆเลยล่ะ (กว่าจะทำความสะอาดหมดก็ใช้เวลาหลายวันเลย)"

เนียมิ: หรือว่าจะเป็นฝีมือของ เซ?

เนียมิหันมาถามมิมิ

มิมิ: ต้องใช่แน่ๆ เลยล่ะ!

แล้วเนียมิก็หันกลับมาทางผู้ดูแล

เนียมิ: แล้วเจ้าแกะที่ว่านั้น ตอนนี้มันหนีไปอยู่ที่ไหนแล้ว?

"พวกเราเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะหลังจากที่มันหนีไป ก็ไม่มีรายงานเกี่ยวกับแกะตัวนั้นอีกเลย"

"แย่แล้วครับ!!"

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาผู้ดูแล

"มีอะไรล่ะ?"

"เราได้รับรายงานมาว่า... มีคนพบเจ้าแกะประหลาดนั่นแล้ว และมันกำลังมุ่งหน้าไปยังเขตเมืองครับ!!"

เนียมิ: จริงดิ!? งั้นพวกเราก็รีบไปกันเถอะ!!

--------------------------------------------------------------------------------

ทางด้าน ริเอะกับซานาเอะ ที่ในวันนี้พวกเธอได้มาเดินเที่ยวในเขตอุทยานเป็นครั้งแรก

ริเอะ: ว้าว!! ที่นี่อากาศดีจริงๆ เลยนะ! \(@^0^@)/

ซานาเอะ: อืม! ผิดกับสวนสาธารณะของเมืองพาราไดซ์ลิบลับเลยล่ะ (เพราะที่นั่นมลพิษทางอากาศค่อนข้างเยอะ)

ริเอะ: ว่าแต่ ทำไมต้นไม้บริเวณนอกเมืองถึงยังไม่เห็นเปลี่ยนสีเลยนะ? (แปลกนะเนี่ย)

ซานาเอะ: อาจจะเป็นเพราะอุทยานมีความอุดมสมบูรณ์มากก็ได้ ก็เลยทำให้ใบไม้เปลี่ยนสีช้ากว่าในเขตเมือง (ในป่าที่ญี่ปุ่นบางที่ใบไม้ก็เปลี่ยนสีช้าเหมือนกัน)

ริเอะ: นั่นสินะ อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้เนอะ (*^_^*)

และในทันใดนั้น ก็มีบางอย่างกำลังวิ่งเข้ามาจากด้านหน้าด้วยความเร็วสูง ซึ่งสิ่งๆ นั้นวิ่งมาด้วยสภาพควันฟุ้งกระจายคราวกับรถยนต์ที่ปล่อยควันจำนวนมากออกมาจากท่อไอเสีย

และในตอนนั้นเอง ตัวนั้นก็ได้วิ่งผ่านแทรกกลางระหว่างทั้งสองไปอย่างรวดเร็วจนทำให้ทั้งสองล้มลง และควันที่กระจายออกมาก็ทำให้ทั้งสองสำลักควันอยู่พักหนึ่ง

ริเอะ: โอ้ย... นี่มันเกินอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย?? (≧﹏ ≦)

และจากนั้นไม่นานก็มีรถบัสคันหนึ่งวิ่งผ่านมาจากทิศทางเดียวกับที่ตัวประหลาดวิ่งมาพอดี ซึ่งรถบัสคันนี้มีลวดลายเป็นม้าลาย

แท้จริงแล้วรถบัสคันนี้เป็นรถของทางสวนสัตว์นั่นเอง ซึ่ง มิมิ เนียมิ ได้เดินทางมาด้วยรถคันนี้เพื่อที่จะมุ่งหน้าไปตามหาแกะประหลาด

มิมิ: อ่ะ! Σ( °_°) ริเอะจัง กับ ซานาเอะจัง นี่!

มิมิที่อยู่บนรถบัส สังเกตเห็นทั้งสองที่กำลังนั่งล้มบนพื้นอยู่ตรงหน้า

เนียมิ: แถมมีอะไรแปลกๆ อยู่เต็มพื้นด้วยล่ะ!

จากนั้นรถบัสก็ได้จอดอยู่ข้างๆ ริเอะกับซานาเอะ แล้วทั้งสองก็เดินลงมาหา

ริเอะ: อ่ะ! Σ( °_°) มิมิ เนียมิ

มิมิ: เกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอเหรอ?

ซานาเอะ: อยู่ๆ ก็มีตัวอะไรไม่รู้มาวิ่งชนพวกเราน่ะ

ริเอะ: แถมยังปล่อยอะไรก็ไม่รู้ออกมาเต็มเลยล่ะ (หมดกันชุดของฉัน)

แล้วจากนั้นเนียมิจึงลองเช็คดูที่กลุ่มก้อนสีขาวบนพื้น โดยเธอได้ลองใช้นิ้วจิ้มลงไปบนก้อนนั้น

เนียมิ: เหมือนวิปครีมเลยล่ะ

มิมิ: หรือว่าจะเป็น... ฝีมือของเจ้าแกะตัวนั้น?!

เนียมิ: อาจจะใช้ก็ได้นะ เพราะมันเหมือนกับที่คุณผู้ดูแลเคยเล่าให้ฟังเลยล่ะ!!

มิมิ: แล้วเจ้าตัวที่วิ่งมานั้น มีหน้าตาเป็นยังไงเหรอ?

ริเอะ: ฉันไม่ทันได้เห็นเหมือนกัน เพราะมันวิ่งมาเร็วมาก แต่เห็นมันวิ่งต่อไปตามทางข้างหน้านี่แหละ

มิมิ: แสดงว่ามันกำลังมุ่งหน้าไปยังเขตเมืองจริงๆ ด้วยสินะ

เนียมิ: แล้วพวกเธอไม่เป็นไรนะ?

ซานาเอะ: จ๊ะ! พวกเราไม่เป็นไร

ริเอะ: แต่เสื้อผ้าของฉันเละหมดเลย .·´¯`(>▂<)´¯`·.

มิมิ: พวกเราต้องไปก่อนนะ พวกเราต้องรีบไปตามจับเจ้าตัวนั้นมาให้ได้น่ะ

ซานาเอะ: จ๊ะ! โชคดีนะ!!

แล้วทั้งสองก็กลับขึ้นรถไป

--------------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่มาถึงบริเวณหน้าทางเข้าเมืองแล้ว รถก็ได้จอดอยู่แค่ตรงนี้ เพราะทางข้างหน้าเต็มไปด้วยก้อนครีมมากมาย

"ดูเหมือนว่าจะไปต่อไม่ได้ซะแล้วล่ะ"

ผู้ดูแลสวนสัตว์กล่าว

เนียมิ: ไม่เป็นไร เดี๋ยวพวกเราจะลงแค่ตรงนี้แหละ!

แล้วทั้งสองก็ลงจากรถ ก่อนที่จะเดินต่อเข้าไปยังภายในเมือง

ตลอดสองข้างทางที่เดินไปนั้น เต็มไปด้วยก้อนครีมมากมายตลอดทาง

เนียมิ: ก้อนครีมเต็มไปหมดเลยแฮะ..

มิมิ: ดูเหมือนว่าพวกเราคงจะได้เจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเข้าให้ซะแล้วล่ะ

และหลังจากที่เดินมาจนถึงบริเวณหอคอยซันนี่ ก็ได้พบกับ "แกะประหลาด" ที่ยืนจ้องอยู่หน้าหอคอย

เนียมิ: นั่นมัน...!

สิ่งที่เห็นก็คือ.. แกะที่มีรูปร่างเป็นเด็กผู้หญิง ซึ่งดวงตาของเธอมีสีคล้ำราวกับกำลังถูกอะไรบางอย่าง "ควบคุม" ไว้อยู่

มิมิ: ใช่จริงๆ ด้วยล่ะ! Σ( °_°)

แล้วจากนั้นแกะตัวนั้นก็ได้หันมาเห็นทั้งสอง ส่วนทั้งสองก็ค่อยๆ เดินเข้าไปหา

ทั้งสองดูเชิงอยู่สักพัก แล้วก็พบว่าเธอได้ถืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับตีครีมไว้อยู่ด้วย

มิมิ: เป็นฝีมือของเธอเองสินะ!

แล้วจากนั้นแกะตัวนั้นก็ได้ส่องแสงเป็นสัญลักษณ์รูปตัว X สีแดงออกมาจากดวงตา พร้อมกับยิ้มอย่างหื่นๆ

เนียมิ: นั่นมัน... สัญลักษณ์ของ "สัตว์ประหลาด SL" นี่หนา!! ∑(°ロ°)

แล้วแกะก็เริ่มวิ่งหนีไป ส่วนทั้งสองก็ตามไปด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งสองพยายามวิ่งตามจับไปหลายที่ในเมือง แต่ก็ตามไม่ทัน และสภาพในเมืองก็เละด้วยครีมไปตลอดทางที่แกะหนีไป

มิมิ: เร็วชะมัดเลยแฮะ พวกเราไล่ตามไม่ทันเลยจริงๆ

เนียมิ: งั้นก็มาแปลงร่างกันเถอะ!

มิมิ: อืม!!

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ยกแขนข้างที่สวมกำไลแปลงร่างขึ้นมา แล้วตะโกนว่า

มิมิ/เนียมิ: "ป๊อปปินแปลงร่าง!!"

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็แปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์ส

จากนั้นทั้งสองจึงพยายามไล่ตามแกะอีกครั้ง คราวนี้เริ่มไล่ตามได้ทัน จนกระทั้งแกะเริ่มเห็นท่าไม่ดีจึงสร้างก้อนครีมขึ้นมาหลายก้อนบนอากาศ แล้วกระโดดไต่ขึ้นไปตามก้อนครีมเหล่านั้นเป็นขั้นบันได

ทั้งสองจึงใช้ "ป๊อปเปอร์สปีดเดอร์" บินตามขึ้นไป ส่วนทางแกะเมื่อเห็นว่าทั้งสองตามมาได้อีก จึงได้ปล่อยก้อนครีมใส่จนป๊อปเลิฟ(มิมิ)โดนก้อนครีมอัดร่วงลงไป

ป๊อปพีช: ป๊อปเลิฟ!! ∑(°ロ°)

หลังจากที่ป๊อปเลิฟตั้งตัวได้จึงบินกลับมาหาป๊อปพีช

ป๊อปเลิฟ: หนอย... ใช้กำลังด้วยเหรอ พวกเราก็ต้องใช้กำลังกันบ้างแล้วล่ะ

แล้วทั้งสองก็ไล่ตามต่อ โดยที่ทั้งสองฝ่ายต่างผลัดกันโจมตีไปมา ส่วนแกะก็ได้หนีไปทั้งบนฟ้าและลงมาบนพื้นสลับกัน

จนกระทั้งแกะได้หนีมาจนติดมุมที่ซอยตันระหว่างอาคาร โดยที่ป๊อปพีชปิดทางไว้ด้านหน้า ส่วนป๊อปเลิฟลอยอยู่ด้านบน ทำให้แกะหนีไปไหนไม่ได้อีก

ป๊อปพีช: แกหนีไปไหนไม่ได้แล้วล่ะ! (*^▽^*)

ป๊อปเลิฟ: ยอมให้พวกเราจับซะดีๆ เถอะนะ

"เฮ่อ.. จนมุมจนได้สินะเรา"

แล้วแกะก็ชูไม้ตีครีมขึ้นไปบนฟ้า ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นเกียร์อีกที

"มาตัดสินกันเลยดีกว่า!"

ป๊อปพีช: ได้สิ! ถ้าหากพวกเราชนะ เธอต้องยอมให้จับนะ!

"โอเค แน่นอนอยู่แล้ว (∩_∩)"

แล้วทั้งคู่ก็เรียกเกียร์วิเศษออกมาจากเข็มกลัดบนชุด โดยมีลูกพลังออกมาจากเข็มกลัด ก่อนที่ลูกพลังทั้งสองจะเข้ามาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน แล้วจากนั้นลูกพลังก็แปลงสภาพกลายเป็นเกียร์อีกที

ป๊อปเลิฟ/พีช: Let's pop'n music together! O(∩_∩)O

===== POP'N BATTLE =====
POPPERS vs whip
Bright Future / RiraN
===== END BATTLE =====

ผลการแข่งขัน ป๊อปเปอร์สเป็นฝ่ายชนะ

และทันทีที่การแข่งขันจบลง ก็เกิดแสงสว่างขึ้นมารอบตัวของเธอ และจากนั้นก็มี "ป๊อปคุงสีดำ" ลอยออกมาจากตัว ก่อนที่ป๊อปคุงสีดำจะแตกออกเป็นประกายไฟและหายไปในที่สุด

ส่วนร่างของแกะหลังจากที่แสงสว่างหายไป เธอก็ได้นอนฟุบลงไปกับพื้น

ส่วนทั้งสองก็ได้กลับร่างเดิม แล้วเดินเข้ามาดูใกล้ๆ

มิมิ: โดนเซควบคุมจริงๆ ด้วยสินะ

เนียมิ: แต่เซตั้งใจจะใช้เธอเป็นหุ่นเชิดไปเพื่ออะไรกันแน่นะ?

จากนั้นแกะก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา แล้วได้เห็นหน้าของทั้งสอง

"นี่ฉัน... มาทำอะไรอยู่ที่นี่กันแน่เนี่ย?? (⊙_⊙;)"

มิมิ: กลับเป็นเหมือนเดิมแล้วสินะ ^_^

"กลับเป็นเหมือนเดิมเหรอ? (⊙_⊙;)"

แกะสงสัยในคำพูดของมิมิ

เนียมิ: ใช่! เธอโดน "ป๊อปคุงสีดำ" ควบคุมอยู่น่ะ รู้ตัวไหม

"จริงเหรอ!? ไม่เห็นรู้เรื่องเลย..."

มิมิ: อืม! ^_^

เนียมิ: แล้วเธอเป็นใครมาจากไหนกันล่ะ?

"อ่อ! (⊙o⊙)"

จากนั้นแกะก็กระโดดหมุนตัวขึ้นมาพร้อมกับโพสต์ท่าด้วยที่ตีครีบ ก่อนที่จะเริ่มแนะนำตัว

"ฉันคือ "วิป" (whip) เป็นแกะน้อยจากท้องฟ้าอันไกลโพ้นฮับ☆ o(*^@^*)o"

มิมิ: เธอคือวิปงั้นเหรอ?

แล้วทันใดนั้น พวกเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์ก็มาพบเข้าโดยบังเอิญ

"ห๊ะ! นั่นมันเจ้าแกะเปรตนั่นไม่ใช่เหรอ?? ∑(°ロ°)"

แล้วเจ้าหน้าที่ทั้งสองคนก็วิ่งเข้าไปหาวิปพลางถือไม้ตาข่ายมาด้วย

"คราวนี้แกเสร็จฉันแน่!!"

มิมิ: เดี๋ยวก่อนค่ะ!!

มิมิเข้ามาขวางทาง ทำให้ทั้งสองต้องหยุดทันที

"อะ อ้าว! ทำไมล่ะ?? พวกเธอช่วยตามจับเจ้านั่นให้ไม่ใช่เหรอ"

เนียมิ: คือที่จริงแล้ว เธอไม่ได้ตั้งใจอาละวาดหรอกนะคะ คือว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้...

แล้วทั้งสองก็เล่าถึงสาเหตุที่ทำให้วิปอาละวาดให้ฟัง

"อย่างนี้เอง.. มันมีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย?"

มิมิ: ใช่แล้วคะ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ใช่ฝีมือของเธอเลย แต่เป็นฝีมือของเซต่างหาก

เนียมิ: และเพราะด้วยเหตุนั้น "นักรบในตำนานป๊อปเปอร์ส" ก็จะต้องคอยออกมาจัดการกับเซ และช่วยให้ผู้ที่ถูกป๊อปคุงสีดำครอบงำกลับเป็นเหมือนเดิมยังไงล่ะ!

"อย่างกับการ์ตูนสาวน้อยเวทมนตร์เลยนะเนี่ย แต่ก็ดีแล้วนะที่ตอนนี้เธอกลับเป็นปกติแล้ว ^_^"

เนียมิ: แล้วเราจะทำยังไงกับเธอต่อไปดีล่ะ? เพราะตอนนี้ก็ไม่จำเป็นต้องจับไปลงโทษแล้ว

มิมิ: ก็ต้องไปรายงานให้ผู้ดูแลทราบถึงเรื่องนี้นะ

--------------------------------------------------------------------------------

แล้วจากนั้นทั้งหมดก็กลับมายังสวนสัตว์พร้อมกับที่มีวิปมาด้วย

"แบบนี้เอง เธอถูกพลังความมืดควบคุมสินะ"

ผู้ดูแลกล่าว

เนียมิ: ใช่แล้วค่ะ เธอไม่ได้ทำผิดอะไรเลย

"แต่ฉันขอถามอะไรกับวิปจังนิดหนึ่งนะ เธอเป็นใครมาจากไหนกันเหรอ?"

วิป: ฉันมาจากดินแดนอันห่างไกลที่อยู่บนท้องฟ้าคะ ฉันมาที่นี่ก็เพราะเพื่อนๆ ของฉันเรียกให้มาหา

"เพื่อนของเธออย่างงั้นเหรอ?"

วิป: ค่ะ! ^_^ ที่จริงแล้วฉันกำลังหาที่อยู่แหล่งใหม่ เพราะถูกเนรเทศมาจากดินแดนแห่งนั้นเพราะเคยไปก่อเรื่องเอาไว้..โดยไม่ได้ตั้งใจ และระหว่างที่ฉันกำลังร่อนไปทั่วท้องฟ้านั่นเอง พวกแกะที่นี่ก็ได้เรียกฉันให้มาหา เพราะเห็นว่าเป็นแกะเหมือนกัน พวกเขาดูเหงามากทั้งที่อยู่ด้วยกันเป็นฝูงแท้ๆ ฉันก็เลยมาที่นี่เพื่อเล่นกับพวกเขายังไงล่ะ ^0^

"แสดงว่าที่ฝูงแกะเดินเป็นวงกลม.. ก็เพราะเหตุนี้นี่เองสินะ"

วิป: ใช่แล้วค่ะ! ^_^ ฉันมาแอบเล่นกับพวกเขาในช่วงกลางคืน ...แต่ว่าอยู่มาวันหนึ่งก็มีคนท่าทางแปลกๆ ถืออะไรก็ไม่รู้มาด้วย เป็นลูกบอลสีดำๆ แล้วมาบอกกับฉันว่า "อยากได้เพื่อนเยอะมากกว่านี้ใช่ไหม? เดี๋ยวฉันจัดการให้เอง!" แล้วหลังจากนั้นฉันก็ไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลย มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ได้เจอกับ มิมิจังกับเนียมิจัง เนี่ยแหละ

เนียมิ: คนๆ นั้นแหละ คือ "เซ" นะ!

วิป: จริงเหรอ!? (⊙_⊙;)

มิมิ: อืม! ถ้าทีหลังเจออีก ก็ให้วิ่งหนีไปได้เลยนะ!

แล้วผู้ดูแลก็คิดอะไรได้

"จริงด้วยสิ! เธอมาที่สวนสัตว์แห่งนี้เพราะอยากได้เพื่อนเล่นเยอะๆ ใช่ไหม?"

วิป: ค่ะ! ^_^

"ถ้างั้น... เธอสนใจจะมาแสดงโชว์ไหมล่ะ?"

วิป: แสดงโชว์งั้นเหรอ?

"อืม! ก็เธอใช้อุปกรณ์นั่นสร้างครีมออกมาได้เยอะๆ ไม่ใช่เหรอ"

วิป: ใช่แล้วล่ะ! ฉันชอบครีมมากเลย ^_^

"แล้วทำไมถึงไม่เอาสิ่งนั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ล่ะ! ฉันว่าหากทุกคนได้เห็นการตีครีมของเธอล่ะก็ ทุกๆ คนจะต้องประทับใจอย่างแน่นอนเลยล่ะ!!"

วิป: ว้าว!! (✪ ω ✪) จริงเหรอค่ะ

"แน่นอนเลย แต่ฉันไม่บังคับเธอหรอกนะ ถ้าไม่อยากทำก็ไม่เป็นไร"

วิป: เอาสิๆ ฉันอยากจะแสดงสิ่งนี้ให้ทุกคนได้ประจักษ์!! ☆⌒(*^-゜)v

--------------------------------------------------------------------------------

และในวันต่อมา ขนาดที่วิปกำลังเตรียมเริ่มการแสดงที่เวทีการแสดง ซึ่งมีผู้คนมารอดูกันมากมาย

"แล้วคิดยังไงถึงรับนางเข้ามาแสดงล่ะ?"

เจ้าหน้าที่ที่อยู่หลังเวทีกล่าวกับผู้ดูแล

"ก็เพราะตอนนี้สวนสัตว์ของเรากำลังวิกฤติจากการขาดแคลนสัตว์อยู่ใช่ไหมล่ะ? เพราะงั้นเราต้องพลิกวิกฤตินี้ให้เป็นโอกาศนะ!"

ผู้ดูแลกล่าว

"อ่อ เข้าใจแล้วล่ะ หลังจากที่สัตว์บางส่วนหายไป ก็แทบไม่มีลูกค้าเข้ามาเลยนี่เนอะ"

แล้วจากนั้นการแสดงของเธอก็ได้เริ่มต้นขึ้น โดยในการแสดงมีหลายรูปแบบ ตั้งแต่โชว์สร้างครีมออกมาเยอะๆ สร้างครีมเป็นก้อนเมฆแล้วกระโดดขึ้นไปตามเมฆแต่ละก้อน ฯลฯ ซึ่งบางครั้งก็มีผิดพลาดบ้าง แต่ก็เรียกทั้งเสียงเชียร์ หัวเราะ และรอยยิ้มได้อย่างล้นหลาม แน่นอนว่า มิมิกับเนียมิที่มาดูด้วยก็เช่นกัน

และหลังจากที่การแสดงจบลงแล้ว ก็เกิดแสงสว่างขึ้นที่ถ้วยใส่ครีมของเธอ แล้วจากนั้นก็มี "ท่วงสุริยัน" ลอยออกมาจากถ้วย

แล้วจากนั้น "ท่วงสุริยัน" ก็ได้ลอยไปยังหอคอยซันนี่ แล้วได้ลอยเข้าไปภายในสัญลักษณ์ดวงอาทิตย์ที่อยู่บนยอด แล้วจากนั้นหนึ่งในกลีบทั้ง 6 ของดวงอาทิตย์ก็เปลี่ยนสีจากเทามาเป็นสีเหลือง



มิมิกับเนียมิ ได้รับสแตมป์ดวงที่ 5 เรียบร้อยแล้ว!!

เนียมิ: ในที่สุดก็เหลืออีกแค่ชิ้นเดียวแล้วนะ!

มิมิ: อืม! ^_^

เนียมิ: แล้วชิ้นสุดท้ายนี้พวกเราจะไปหาจากที่ไหนกันนะ? เพราะที่นี่ก็เป็นสถานที่สุดท้ายแล้ว?

มิมิ: ยังเหลือโซนซาฟารีกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำนะ! ตั้งแต่มาที่นี่พวกเรายังไม่ได้ไปดูโซนนั้นกันเลย

เนียมิ: จริงด้วย! แต่วันนี้เหลือเวลาอีกครึ่งวัน งั้นตอนนี้พวกเราก็ไปดูพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำกันเลยดีกว่า ส่วนโซนซาฟารีเอาไว้พรุ่งนี้

มิมิ: โอเค!! ^_^

แล้วจากนั้นทั้งสองก็มุ่งหน้าไปยังโซนพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ซึ่งการเข้าชมก็ผ่านไปได้ด้วยดีตลอดทั้งวัน

แต่อีกสิ่งที่ตามมาหลังจากที่มีการแสดงในวันนี้ก็คือ เริ่มมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามามากกว่าทุกวัน และคาดว่าคงจะเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกอย่างแน่นอน

--------------------------------------------------------------------------------

เวลาผ่านไปจนถึงช่วงกลางคืน ซึ่งในตอนนี้ทั้งสองได้ตั้งมายแคมป์นอนอยู่ในโซนตั้งแคมป์ที่อยู่ข้างๆ สวนสัตว์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับสวนสาธารณะเล็กๆ

และในตอนนั้น.. อยู่ๆ บนท้องฟ้าของสวนสัตว์ก็มีกลุ่มเมฆสีดำที่คล้ายกับเมฆฝนปรากฏขึ้นมา กลุ่มเมฆนี้มีฟ้าแลบปรากฏภายในก้อนเมฆเป็นระยะๆ แต่ไม่มีฝนตกลงมาแต่อย่างใด

"มันเกิดอะไรขึ้นกับซันนี่พาร์กกันแน่นะ? ทำไมถึงเริ่มกลับมาเขียวขจีเหมือนเดิมได้? ...ถ้างั้นคงถึงคราวที่ข้าต้องใช้ไพ่ตายแล้วล่ะ!"

เสียงผู้หญิงปริศนาอันแสนเย็นชาพูดขึ้นมาจากที่ไหนสักแห่ง โดยที่ไม่มีใครได้ยินเสียงนั้น




>>>>> TO BE CONTINUED <<<<<

25 พฤศจิกายน 2565

pop'n music RESPECT : STAGE 41 「ทะเลสาบหรรษา」

ในเช้าวันนี้ทั้งสองได้ทำการเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมแล้ว

"ขอบคุณที่มาใช้บริการนะคะ!"

พนักงานต้อนรับกล่าว หลังจากทำการเช็คเอ้าท์

เนียมิ: ในที่สุด ก็ถึงเวลาที่ต้องกลับมาใช้มายแคมป์แล้วสินะ

มิมิ: อืม! เพราะสถานที่ต่อไป มันเริ่มอยู่ไกลจากเขตเมืองมากแล้วล่ะ ถ้าหากให้เดินกลับมาโรงแรมอีกละก็ คงไม่ไหวแน่ๆ

เนียมิ: แต่บรรยากาศในโรงแรมวันนี้ดูคึกครื้นกว่าวันแรกๆ ที่พวกเรามาพักเยอะเลยนะ (วันแรกๆ แทบไม่มีใครเลย)

มิมิ: อาจจะเป็นเพราะพื้นที่อุทยานที่สามารถท่องเที่ยวได้เริ่มขยายพื้นที่ออกไปไกลกว่าเดิมเยอะแล้ว แม้จะยังไม่ 100% ก็เถอะ ...แต่ฉันก็คิดว่าบรรยากาศในอุทยานวันนี้น่าจะกลับมาคึกครื้นแล้วเช่นกันล่ะนะ

เนียมิ: ใช่! ก็เพราะตอนนี้พวกเรารวบรวมท่วงสุริยันได้ 3 จาก 6 ชิ้นแล้ว แถมบริการและร้านค้าในเมืองตอนนี้ก็กลับมาเปิดครบทุกอย่างแล้วด้วยนะ

มิมิ: นั่นสิ เผลอแป๊บเดียวก็ผ่านมาครึ่งทางแล้ว ^_^

เนียมิ: เอาล่ะ! เหลืออีกเพียงแค่ 3 ชิ้นเท่านั้น พวกเราต้องรีบทำให้อุทยานแห่งนี้กลับมาสมบูรณ์ให้ได้เลยนะ!

มิมิ: อืม!! O(∩_∩)O

--------------------------------------------------------------------------------


STAGE 41
「ทะเลสาบหรรษา」


--------------------------------------------------------------------------------

เนียมิ: แต่ก่อนอื่น ขอเช็คสภาพมายแคมป์ก่อนแล้วกัน เพราะตั้งแต่ที่มาอยู่โรงแรมพวกเราก็ไม่ได้เข้าไปอีกเลย

ทั้งสองนำเต็นท์มายแคมป์มาตั้งภายในจุดตั้งแคมป์ซึ่งอยู่ในสวนสาธารณะ เพราะต้องการเช็คความพร้อมของเต็นท์ก่อนออกเดินทาง หลังจากที่ไม่ได้ใช้มานาน

แล้วมิมิก็พบว่าเสบียงอาหารตอนนี้เริ่มเหลือน้อยแล้ว

มิมิ: เสบียงอาหารเหลือน้อยแล้วแฮะ ฉันว่าพวกเราไปซื้อเสบียงมาดุนไว้ก่อน แล้วค่อยออกไปลุยอุทยานกันนะ! (ซื้อทีหลัง กลัวลืม)

เนียมิ: อืม! แต่ยังไงฉันว่าอยู่ในมายแคมป์มันก็ดีกว่าอยู่โรงแรมจริงๆ นะ ^_^ เพราะมีหลายอย่างที่ห้องพักโรงแรมทำไม่ได้

แล้วทั้งสองก็ได้ไปยังห้างที่อยู่ภายในเมืองเพื่อซื้อเสบียงอาหารมาเพิ่ม ซึ่งบรรยากาศภายในห้างก็ไม่ต่างจากซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปมากนัก และหลังจากนั้นก็นำของที่ซื้อมากลับมาเติมในตู้เย็นและที่วางของต่างๆ ในโซนครัว ซึ่งทั้งหมดตั้งแต่เข้าห้างใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง พร้อมกับเช็คความเรียบร้อยอีกรอบ

มิมิ: เอาล่ะ ยังขาดเหลืออะไรอีกไหม?

เนียมิ: ฉันว่าไม่มีแล้วนะ

มิมิ: ถ้างั้นก็...

มิมิ/เนียมิ: ไปลุยซันนี่พาร์กกันเลย!! LET'S ADVENTURE!! (^_-)/☆\(-_^)

--------------------------------------------------------------------------------

ในวันนี้ได้เดินทางมายังเขตทะเลสาบ ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากพื้นที่ๆ ไปสำรวจวานนี้พอสมควร

ทะเลสาบแห่งนี้มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่มาก โดยเบื้องหน้าทะเลสาบสามารถมองเห็นภูเขาน้อยได้แต่ไกล ส่วนบริเวณริมทะเลสาบเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวมากมาย มีทั้งร้านค้า สวนขนาดเล็ก และบริการเรือปั่นเป็นต้น

มิมิ/เนียมิ: ว้าว!! (☆▽☆)

มิมิ: สวยงามมากเลยนะ!

เนียมิ: แถมคนก็เยอะมากๆ ด้วย ดูคึกครื้นดีจังเลยนะ

แล้วจากนั้นทั้งสองจึงเดินสำรวจรอบๆ บริเวณนี้ พบว่าสวนบริเวณริมฝั่งมีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก ใช้เวลาเดินไม่นานก็ทั่วแล้ว

มิมิ: ถึงแม้ที่นี่จะไม่ได้มีอะไรมาก แต่ก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งพักผ่อนหย่อนใจชั้นเยี่ยมเลยนะ! ^_^

"เฮ้! มิมิ เนียมิ!!"

จากนั้นก็มีเสียงที่คุ้นหูเรียกขึ้นมา พวกเธอจึงหันไปมอง

เนียมิ: อ่ะ! Σ( °_°)

อินุจิโยะ: ไง! มิมิกับเนียมิ ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยนะ (∩_∩)

มิมิ: อินุจิโยะคุง!!

แล้วทั้งสองก็เดินเข้าไปหาเขา

เนียมิ: อินุจิโยะมาทำอะไรที่นี่เหรอ?

อินุจิโยะ: มาทำภารกิจหาสแตมป์ ^_^

มิมิ: จริงด้วยสินะ ตอนนี้นายเป็นเพลเยอร์เหมือนกับพวกเราไปแล้วนี่หนา

อินุจิโยะ: แล้วพวกพี่มาทำอะไรกันเหรอ?

เนียมิ: เหมือนกัน ^_^

มิมิ: แต่ของพวกเราไม่เหมือนกับนายหรอกนะ

อินุจิโยะ: เอ๊ หมายความว่ายังไง? (>'-'<)?

มิมิ: เป็นภารกิจพิเศษที่มีเพียงแค่เฉพาะพวกเราเท่านั้นที่ทำได้

อินุจิโยะ: ภารกิจพิเศษ?? แล้วมันคืออะไรกันล่ะ?

เนียมิ: อิอิ เรื่องนั้นบอกกันไม่ได้หรอกนะ! (^_<)☆

อินุจิโยะ: โธ่! บอกกันหน่อยไม่ได้เหรอ

มิมิ: ไม่ได้จ๊ะ

อินุจิโยะ: อืม! ช่างมันเถอะ ยังไงผมก็ไม่ควรไปยุ่งเรื่องของคนอื่นอยู่แล้วล่ะ เนอะ!

มิมิ: อืม! บางเรื่องน่ะ ถ้าไม่รู้มันอาจจะดีกว่าก็ได้นะ!

เนียมิ: นั่นสิ! แล้วตั้งแต่ที่นายเดินมาจนมาถึงที่นี่ ได้เจอใครที่ดูท่าทางเศร้าๆ หรือ เซ็งๆ บ้างไหม?

อินุจิโยะ: ก็... ไม่มีนะ ทุกคนที่เห็นมาก็ดูปกติดี

มิมิ: แสดงว่าวันนี้คงจะเริ่ม "ยาก" แล้วล่ะนะ..

เนียมิ: หมายความว่ายังไงเหรอ?

เนียมิสงสัยในคำพูดของมิมิ

มิมิ: ก็หาคนแบบที่ว่ายากมากขึ้นยังไงล่ะ!

เนียมิ: อ่อ.. เพราะตอนนี้ทุกคนเริ่มมีความสุข ก็เลยทำให้หาคนที่ต้องการช่วยเหลือได้ยากมากขึ้นนี่เอง

แล้วในตอนนั้นอินุจิโยะก็ได้กลิ่นแปลกๆ เขาจึงพยายามดมเพื่อจับที่มากลิ่น

อินุจิโยะ: นี่มัน... กลิ่นสุนัขด้วยกัน??

และเมื่อเขาหันไปมองยังแหล่งที่มาของกลิ่น เขาก็ได้พบกับ... มนุษย์สุนัขเพศเมีย หน้าตาน่ารักน่าชังผู้หนึ่งที่มีผมยาวสลวย กำลังนั่งอยู่ที่ม้านั่งฝั่งหนึ่งอยู่ตัวคนเดียว

อินุจิโยะ: ว้าว!! (❤ ω ❤)

เขารู้สึกตกหลุมรักทันทีที่ได้เห็น แล้วจากนั้นเขาจึงเดินเข้าไปหาเธอ

อินุจิโยะ: เออ..... >﹏<

แล้วจากนั้นเธอก็ค่อยๆ หันมามอง

"หืม? (。・ω・。)"

เธอรู้สึกแปลกใจอยู่เล็กน้อยที่ได้เจอสุนัขเหมือนกัน

อินุจิโยะพยายามรวบรวมความกล้า แล้วบอกว่า

อินุจิโยะ: อยากได้เพื่อนเล่นเรือปั่นใช่ไหมครับ งั้นไปด้วยกันไหมครับ?

"อืม! เอาสิ ฉันกำลังเหงาอยู่พอดีเลยล่ะ! ...แล้วเธอชื่ออะไรเหรอ?"

อินุจิโยะ: ผมชื่อ "อินุจิโยะ" (INUCHIYO) ครับ... ( •̀ ω •́ )✧

"ส่วนฉันชื่อ "โปจิโกะ" (pochiko) ยินดีที่ได้รู้จักด้วยนะ! ~o( =∩ω∩= )m"

อินุจิโยะ: สำเร็จ! (p≧w≦q)

อินุจิโยะรู้สึกดีใจจนเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ เพราะไม่คิดว่าจะตกหญิงได้ง่ายดายขนาดนี้!

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มไปเที่ยว(ออกเดท?)ด้วยกัน เริ่มตั้งแต่การเล่นเรือปั่น เล่นวอลเลย์บอลริมทะเลสาบ กินของหวานด้วยกัน เป็นต้น♡

มิมิ: ดูท่าทางพวกเราคงไม่ต้องไปสนใจอินุจิโยะแล้วล่ะนะ... ( ̄_ ̄|||)

เนียมิ: อืม! ฉันว่าตอนนี้พวกเราไปหาอะไรกินกันก่อนดีกว่า

แล้วจากนั้นทั้งสองก็ไปยังร้านอาหารเล็กๆ ริมทะเลสาบ ที่ตั้งอยู่ในบริเวณนั้น

--------------------------------------------------------------------------------

และในเวลาต่อมาหลังจากที่กินเสร็จแล้ว ก็ได้กลับออกมายังลานกว้างริมทะเลสาบอีกครั้ง

มิมิ: อืม... ฉันคิดว่าที่นี่คงจะไม่มีอะไรน่าสนใจไปมากกว่านี้แล้วล่ะ ทุกคนที่นี่ก็ดูปกติดีกันหมดเลย ฉันว่าพวกเราเดินทางไปที่อื่นกันต่อเลยดีกว่านะ

มิมิกล่าวในขณะที่กำลังถือไอศกรีมไว้ในมือ

แต่เนียมิกำลังมองไปยังอินุจิโยะกับโปจิโกะที่กำลังนั่งด้วยกันอยู่ที่ชายตลิ่ง ด้วยความสงสัย

มิมิ: มีอะไรหรือเปล่า? (เห็นดูนิ่งๆ ไป)

เนียมิ: รู้สึกว่าสองคนนั้นท่าทางแปลกๆ นะ...?

มิมิ: เอ๊!?

แล้วทั้งสองจึงตัดสินใจเข้าไปดูใกล้ๆ พบว่าพวกเขากำลังคุยอะไรกันอยู่

โปจิโกะ: ฉันมาเฝ้ารอที่นี่อยู่ทุกวัน เพราะกำลัง "รอใครบางคน" อยู่น่ะ

อินุจิโยะ: รอ ใครบางคน งั้นเหรอ??

โปจิโกะ: อืม! ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนๆ นั้นเป็นใคร รู้เพียงแต่ว่าฉันต้องรอคอยเขาคนๆ นั้นให้ได้น่ะ

อินุจิโยะ: เอ๊!? หรือว่า... เธอกำลังหลงทาง?

โปจิโกะ: อืม ไม่ใช่ล่ะ ฉันไม่ได้หลงทาง ฉันอาศัยอยู่กับเจ้านายแถวๆ นี้

อินุจิโยะ: งั้นหรอกเหรอ... โธ่ (><;)

อินุจิโยะรู้สึกโล่งอก พร้อมกับถามคำถามต่อไป

อินุจิโยะ: แต่ก็แสดงว่าคนๆ นั้น ต้องเป็นคนที่มีความพิเศษที่สำคัญอะไรสักอย่างกับเธอแน่ๆ เลย ใช่ไหม?

โปจิโกะ: ใช่แล้วล่ะ! แต่ฉันก็นึกไม่ออกอยู่ดีว่ามันคืออะไร >﹏< ...แต่ไม่ต้องห่วงนะ ตอนนี้ฉันไม่เป็นไรแล้วล่ะ ต้องขอบคุณนายมากๆ เลยนะที่มาช่วยเล่นเป็นเพื่อนในวันนี้ (^///^)

และทันทีที่เขาได้เห็นรอยยิ้มของโปจิโกะ เขาก็เกิดอาการหน้าแดงขึ้นมา แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกเช่นกัน

อินุจิโยะ: เอาล่ะ ผมต้องไปแล้วล่ะ

อินุจิโยะกล่าวพลางลุกจากที่่นั่ง

โปจิโกะ: จะไปแล้วเหรอ?

อินุจิโยะ: อืม! ฉันมีเรื่องที่ต้องทำอีกมากในวันนี้น่ะ ...ไว้เจอกันใหม่คราวหน้านะ! ไปล่ะ!!

แล้วอินุจิโยะก็วิ่งจากไป

เนียมิ: คนพิเศษที่โปจิโกะจังกำลังรอคอยอยู่งั้นเหรอ?

มิมิ: หรือนี่อาจจะเป็น "ความปรารถนา" ของเธอก็ได้นะ! ถ้าหากช่วยเธอเรื่องนี้ได้ พวกเราก็อาจจะได้ท่วงสุริยันมาด้วยก็ได้นะ!

แล้วจากนั้นทั้งสองที่แอบดูอยู่ก็ได้โผล่ไปหาโปจิโกะ

มิมิ: ขอโทษที่มารบกวนด้วยนะ เธอมีคนที่กำลังรออยู่ใช่ไหม?

แล้วจากนั้นอยู่ๆ โปจิโกะก็ได้รีบวิ่งหนีไปอย่างเร็วรวด

เนียมิ: อ้าว! จะไปไหนน่ะ?? (⊙_⊙;)

มิมิ: รีบตามไปเถอะ!!

แล้วทั้งสองก็วิ่งตามไป

แต่ทว่า โปจิโกะนั้นวิ่งได้ค่อนข้างเร็วกว่ามาก และกำลังค่อยๆ ทิ้งห่างทั้งสองไปเรื่อยๆ

เนียมิ: เดี๋ยวก่อน จะไปไหนน่ะ!?

มิมิ: พวกเรามีเรื่องอยากจะช่วยเหลือให้จริงๆ นะ! ได้โปรดหยุดฟังพวกเราก่อนเถอะ!!

แต่เธอก็ยังคงไม่สนใจ และยังคงวิ่งหนีต่อไป

และหลังจากที่วิ่งไปได้สักพัก โปจิโกะก็ไปสะดุดกับบางอย่างเข้า ทำให้เธอล้มลงแล้วกลิ้งเป็นลูกบอล ก่อนที่จะกลิ้งไปตกน้ำ ซึ่งทางข้างหน้าเป็นสุดทางเดินริมฝั่งพอดี

โปจิโกะพยายามตะเกียกตะกายเพราะว่ายน้ำไม่เป็น

มิมิ: ตกน้ำไปซะแล้วแฮะ ( ̄_ ̄|||)

เนียมิ: เดี๋ยวฉันจัดการเอง!

แล้วเนียมิก็ลงไปนำตัวโปจิโกะขึ้นมาจากน้ำ

และในเวลาต่อมาหลังจากที่โปจิโกะฟื้นแล้ว

เนียมิ: ไม่เป็นไรใช่ไหม?

แต่หลังจากที่โปจิโกะได้เห็นหน้าทั้งสองอีกครั้ง เธอก็เกิดอาการหวาดกลัว และพยายามจะหนีอีกครั้ง

มิมิ: ทำไมเธอถึงต้องกลัวพวกเราด้วยล่ะ? พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะมาทำร้ายหรือขโมยอะไรเลยนะ!

โปจิโกะ: แล้วทำไม.. พวกเธอถึงต้องไล่ตามฉันด้วยล่ะ??

จากคำถามนี้ ทำให้ทั้งสองสับสนไปชั่วครู่

มิมิ: แต่เธอเป็นฝ่ายหนีก่อนไม่ใช่เหรอ??

เนียมิ: ใช่ๆ พวกเราตั้งใจจะมาช่วยเหลือเธอ "เรื่องนั้น" จริงๆ นะ แล้วทำไมถึงต้องหนีล่ะ?

โปจิโกะ: ก็เพราะว่า.. ฉันนึกว่าพวกเธอเป็นหัวขโมยน่ะสิ!

เนียมิ: หัวขโมย?? (´・ω・`)?

โปจิโกะ: ใช่! ก็เพราะว่าพวกเธอมี "หูนั่น" ไม่ใช่เหรอ??

จากคำตอบนี้ ทำให้ทั้งสองสับสนไปชั่วครู่อีกครั้ง

เนียมิ: อ่อ! ที่จริงแล้วพวกเราก็เป็นเหมือนกับเธอนั่นแหละ ^_^

มิมิ: อืม!

โปจิโกะ: งั้นเองเหรอ.. ฉันนึกว่าพวกเธอเป็น "มนุษย์" ที่แต่งตัวเลียนแบบสัตว์ซะอีกนะ ( ^皿^)

มิมิ: แล้วเรื่องที่เกี่ยวกับคนที่เธอกำลังรออยู่ ช่วยเล่าให้พวกเราฟังหน่อยได้ไหม?

โปจิโกะ: เรื่องนั้น.. ฉันจำไม่ได้แล้วล่ะ... >︿<

มิมิ: เอ๊!?

โปจิโกะ: ฉันลืมไปแล้วว่าคนๆ นั้นเป็นใคร รู้เพียงแต่ว่าคนๆ นั้นสำคัญกับฉันมากเลยล่ะ...

เนียมิ: แล้ว... ที่ฉันได้ยินว่าเธออาศัยอยู่แถวนี้ แสดงว่าเธอได้รับการอุปการะจากเจ้าของใหม่สินะ?

โปจิโกะ: เปล่าหรอก ฉันอยู่กับเจ้านายของฉันที่นี่จริงๆ นะ!

มิมิ: แสดงว่าคนที่เธออยากจะพบด้วย คงจะต้องเป็นคนที่ชื่นชอบเธอเอามากๆ แน่ๆ เลยล่ะ

เนียมิ: แต่ปัญหาก็คือ.. เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนๆ นั้นเป็นใคร?

แล้วทั้งสองก็ใช่เวลาคิดอยู่สักพัก

มิมิ: หรือว่า...? คนๆ นั้น กำลังอยากจะเจอกับโปจิโกะอยู่??

เนียมิ: นั่นสิ! บางทีคนที่ว่านั้นอาจจะกำลังเศร้าโศกอยู่ก็ได้ ฉันว่าหากพาคนๆ นั้นกลับมาได้ ท่วงสุริยันคงจะต้องออกมาอย่างแน่นอนเลยล่ะ!

มิมิ: งั้นพวกเราลองไปสืบหาข้อมูลกันเถอะ!

--------------------------------------------------------------------------------

แล้วทั้งสองก็กลับมายังบริเวณท่าเรืออีกครั้ง เพื่อถามหาข้อมูล แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครทราบเรื่องนี้เลย

มิมิ: ไม่มีใครรู้เรื่องเกี่ยวกับคนที่เคยมาหาโปจิโกะเลยแฮะ...

แล้วจากนั้นเนียมิก็สังเกตทางท่าเรือปั่น ซึ่งบริเวณทะเลสาบไม่มีใครใช้เรือปั่นเลย

เนียมิเดินไปดูยังบริเวณท่าเรือที่มีเรือปั่นจอดเรียงอยู่ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากร้านค้ามากนัก

เนียมิ: ไม่มีใครเล่นเรือปั่นกันเลยนะ?

มิมิ: ก็แหง่สิ ตอนนี้มันใกล้จะเข้าฤดูหนาวแล้ว คงไม่มีใครอยากมาเล่นเรือปั่นกันหรอก

เนียมิ: แต่เมื่อกี้.. ตอนที่อยู่ในร้านราเม็ง ฉันเห็นอินุจิโยะกับโปจิโกะเล่นเรือปั่นกันอยู่เลยนะ?

"พวกเธออยากจะใช้บริการเรือปั่นกันงั้นเหรอ?"

เจ้าของเรือปั่นเดินเข้ามาหา ทำให้ทั้งสองหันไปมอง

มิมิ: อ่อ เปล่าคะ

และในทันใดนั้นเนียมิก็สังเกตเห็นเรือลำหนึ่งที่มีป้าย "งดให้บริการ" ติดอยู่

เนียมิ: เอ๊!? เรือลำนี้ "เสีย" งั้นเหรอ?

"ใช่แล้วล่ะ เรือลำนี้มันเสียเพราะขาปั่นใช้การไม่ได้น่ะ"

มิมิ: แต่ฉันขอถามอะไรหน่อยนะ คุณเคยเห็นคนที่ชอบมาเล่นกับโปจิโกะบ้างหรือเปล่า?

"หมายถึงสุนัขนั่นเหรอ.. เห็นสิ เขาเคยมาเล่นเรือปั่นนี่ด้วยล่ะ!!"

มิมิ: เอ๋!? จริงเหรอคะ!?

"อืม! แต่เคยมาเมื่อเกือบปีที่แล้วน่ะ และเขาก็มาประสบอุบัติเหตุกับเรือลำนี้พอดีเลยด้วย"

เนียมิ: แล้วเรื่องราวมันเป็นยังไง พอจะช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม?

"ได้สิ... ที่จริงเมื่อนานมาแล้วจะมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ชอบมาเล่นกับโปจิโกะเป็นประจำน่ะ แต่ว่าเธอจะแวะมาที่นี่เฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น ซึ่งตามปกติในช่วงฤดูหนาวของทุกปีเรือปั่นจะงดให้บริการชั่วคราว เนื่องจากเรื่องของน้ำในทะเลสาบที่อาจมีโอกาสกลายเป็นทะเลน้ำแข็ง ทำให้เรือเกิดความเสียหายได้ แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เด็กผู้หญิงคนนั้นร้องอยากจะเล่นเรือปั่นให้ได้ บวกกับอากาศในตอนนั้นที่ยังไม่ได้หนาวมากนัก ทางเราก็เลยตัดสินใจยอมเปิดให้เธอเล่นเป็นกรณีพิเศษ ...แล้วทีนี้ก็เกิดเหตุขึ้น เพราะเรือที่เด็กผู้หญิงกับโปจิโกะนั่งไปด้วยกัน เกิดขาปั่นขัดข้องขึ้นมา เพราะความเย็นของน้ำที่สูงจนทำให้ขาปั่นขัดข้อง ทำให้ติดอยู่กลางทะเลสาบ ซึ่งกว่าพวกเราจะรู้เรื่องนี้และช่วยกลับขึ้นฝั่งได้ก็ใช้เวลานานเลยล่ะ แล้วหลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้มาเยือนที่นี่อีกเลย..."

เนียมิ: เข้าใจแล้วล่ะ เธอไม่กลับมาที่นี่อีก เพราะเรื่องนั้นเองสินะ...

มิมิ: แล้วนับจากนั้น โปจิโกะจังก็เลยต้องรอเก้อมาโดยตลอด ทั้งที่เธอไม่มีโอกาสกลับมาอีกแล้ว (ノへ ̄、)

"มันเป็นเรื่องน่าเสียดายนะ แต่ตอนนี้ก็ย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วล่ะ"

เนียมิ: ถ้าเธอไม่กลับมา.. พวกเราจะทำยังไงกับโปจิโกะดี? ไปบอกความจริงเรื่องนี้เลยดีไหม?

แล้วมิมิก็คิดหาทางออกอยู่สักพัก

มิมิ: Σ(. ❛ ᴗ ❛.)💡 จริงสิ! มาลองใช้นั่นกันเถอะ บางทีมันอาจจะช่วยเรียกความทรงจำเกี่ยวกับคนๆ นั้นของโปจิโกะกลับมาก็ได้

เนียมิ: แต่ฉันอยากให้เขาได้เจอกับตัวจริงมากกว่านะ

มิมิ: ไม่เป็นไรหรอก ถึงแม้จะไม่ได้เจอตัวจริง แต่ถ้าเธอนึกถึงคนๆ นั้นออก มันอาจจะทำให้เธอสุขใจอีกครั้งก็ได้

เนียมิ: อืม!

--------------------------------------------------------------------------------

แล้วจากนั้นทั้งสองก็กลับไปหาโปจิโกะ ซึ่งตอนนี้เธอได้นอนกลางวันอยู่ใต้ต้นไม้ข้างๆ บริเวณริมทางเดินทะเลสาบ

มิมิ: เอาล่ะนะ!

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ยกแขนข้างที่สวมกำไลแปลงร่างขึ้นมา แล้วตะโกนว่า

มิมิ/เนียมิ: "ป๊อปปินแปลงร่าง!!"

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็แปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์ส

จากนั้นทั้งคู่ก็เรียกเกียร์วิเศษออกมาจากเข็มกลัดบนชุด โดยมีลูกพลังออกมาจากเข็มกลัด ก่อนที่ลูกพลังทั้งสองจะเข้ามาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน แล้วจากนั้นลูกพลังก็แปลงสภาพกลายเป็นเกียร์อีกที

ป๊อปเลิฟ/พีช: Let's pop'n music together! O(∩_∩)O

===== POP'N MUSIC =====
Only for you / NieN

เมื่อนานมาแล้ว ในช่วงฤดูหนาว ฉันได้พบกับคนๆ หนึ่งที่แสนวิเศษ ณ สวนสนุกภายในเขตเมือง

คนๆ นั้นทั้งใจดีและอ่อนโยนกับฉันมาก จนฉันอยากจะให้เขามาเป็นเจ้านายคนใหม่ของฉันเลยล่ะ

ฉันพยายามตามหาไปหลายที่ แต่ก็ไม่เจออีกเลย นับตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่ไปเล่นเรือปั่นด้วยกันในเขตทะเลสาบ
===== END MUSIC =====

จากนั้นโปจิโกะก็ได้ตื่นขึ้นมา พร้อมกับคิดอะไรออกได้

โปจิโกะ: ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแฮะ แต่ดูเหมือนว่าฉันจะจำหน้าคนๆ นั้นได้แล้วล่ะ

แล้วเธอก็ได้ลุกขึ้นมาเดินไปเรื่อยเปื่อยราวกับไร้จุดหมาย ส่วนทั้งสองก็ได้แอบตามไปด้วย

ขณะเดียวกันก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เพิ่งลงจากรถเมล์ มายังบริเวณลานกว้างริมทะเลสาบ

"ดูเหมือนว่าจะมาเร็วไปหน่อย แต่ก็จำเป็นต้องมาล่ะนะ"

แล้วเธอก็เดินไปยังร้านค้าที่อยู่ใกล้กัน

ส่วนโปจิโกะเดินมาจนถึงบริเวณป้ายรถเมล์หน้าลานกว้างริมทะเลสาบ และพลางยืนมองอยู่ตรงนั้น

โปจิโกะ: แต่จนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่มา... ฉันยังจำเธอได้อยู่นะ

เนียมิ: ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผลนะ

เนียมิที่แอบดูอยู่กล่าว

มิมิ: แต่อย่างน้อยเธอก็จำอดีตได้แล้วล่ะ

เนียมิ: แต่แปลว่าคราวนี้... พวกเราไม่ได้ท่วงสุริยันงั้นเหรอเนี่ย ~(>_<。)

จากนั้นเด็กผู้หญิงคนนั้นก็ได้เดินกลับออกมาจากร้านค้า แล้วเดินไปยังท่าเรือ แล้วยืนดูอยู่สักพัก

"ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ แต่ที่ฉันไม่ได้มาที่นี่นานก็เพราะเรื่องส่วนตัวล่ะ ...แต่ก็ต้องขอบคุณโปจิโกะจังมากเลยนะ ถ้าหากไม่ได้เจอเธอล่ะก็.. ฉันก็คงไม่ได้เป็นนักเขียนนิยายอย่างทุกวันนี้แน่ๆ"

เธอหันหลังกลับมาแล้วพูดว่า

"เอาล่ะ! อย่างน้อยก็ได้ของคืนเรียบร้อยแล้ว รีบกลับไปเขียนงานที่ค้างไว้ต่อดีกว่า"

แล้วเธอก็เดินไปยังป้ายรถเมล์ เพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน

"เธอจะยังจำฉันได้อยู่ไหมนะ? โปจิโกะจัง"

โปจิโกะ: จำได้สิ ฉันตามหาเธอมาตลอดเลยล่ะ!

แล้วทันใดนั้น เธอก็เกิดอาการตกใจขึ้นมาที่ได้ยินเสียงที่แสนคุ้นหูนี้

และเมื่อหันไปมอง เธอก็แทบไม่เชื่อสายตาตนเอง เพราะคนที่เธอกำลังเห็นอยู่คือ...

"โปจิโกะจัง!?"

แล้วทั้งสองก็จ้องมองกันอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่ต่างฝ่ายจะเข้าไปหา และโผล่เข้ากอดกัน

เนียมิ: ในที่สุด ก็เจอกันแล้วสินะ

มิมิ: อืม! ^_^

จากนั้นที่กระเป๋าของเด็กผู้หญิงก็เกิดแสงสว่างขึ้นมา แล้วจากนั้นก็มี "ท่วงสุริยัน" ลอยออกมา

แต่ทว่า... ยังไม่ทันที่ "ท่วงสุริยัน" จะได้ลอยไปยังหอคอยซันนี่ อยู่ๆ ก็มีใครบางคนมาชิงไป

เซ: ฮ่าๆๆ ...ขอฉันเอาไปก่อนล่ะนะ

เนียมิ: เซ!! ╰(‵□′)╯

มิมิ: จะทำอะไรกับท่วงสุริยันน่ะ??

เซ: แน่นอนสิ ฉันก็จะเอาเจ้านี้ไปคืนชีพทานัวร์อีกครั้งยังไงล่ะ ฮ่าๆๆ

เนียมิ: แกนี่มันเลวไม่มีที่ติจริงๆ นะ ...มิมิจัง แปลงร่างอีกรอบ!!

มิมิ: อืม!!

แล้วทั้งสองก็แปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์สอีกครั้ง

แล้วจากนั้นเซก็ได้ถอดผ้าปิดตาของเธอออก แล้วเรียก "ป๊อปคุงสีดำ" ออกมาจากผ้าปิดตาอีกที

เซ: ไปเลย "สัตว์ประหลาด SL" !!

เซโยนป๊อปคุงสีดำไปใส่เรือปั่นที่อยู่ตรงท่าเรือ แล้วจากนั้นป๊อปคุงสีดำก็ทำการหลอมรวมเข้ากับเรือ แล้วกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างเป็ดขนาดมหึมา

ส่วนป๊อปเปอร์สก็เรียกเกียร์วิเศษออกมาอีกครั้ง

ป๊อปพีช: เธอตั้งใจจะทำลายความทรงจำของโปจิโกะเหรอ ฉันไม่ปล่อยไว้แน่!!

เซ: พูดอะไรไม่เห็นเข้าใจเลย ไปจัดการซะ!!

เซสั่งให้สัตว์ประหลาดเริ่มการต่อสู้กับป๊อปเปอร์ส

ป๊อปเลิฟ/พีช: Let's pop'n music together! O(∩_∩)O

===== POP'N BATTLE =====
POPPERS vs สัตว์ประหลาด SL
Mukilteo Beach / CROOVE
===== END BATTLE =====

ผลการแข่งขัน ป๊อปเปอร์สเป็นฝ่ายชนะ

หลังจากที่สัตว์ประหลาดแพ้แล้ว ก็เกิดลำแสงพุ่งออกมาจากตัวที่ละจุดรอบๆ ตัว ก่อนที่ร่างจะแตกสลายกลายเป็นสะเก็ดไฟจำนวนมาก แล้วสะเก็ดไฟก็ค่อยๆ ลอยกลับไปยังจุดเดิมที่อยู่ตรงท่าเรือ และสะเก็ดไฟก็หลอมรวมกันจนกลับคืนเป็นเรือปั่นตามเดิม

ส่วนเซก็หายตัวหนีไป พร้อมกับปล่อย "ท่วงสุริยัน"

แล้วจากนั้น "ท่วงสุริยัน" ก็ได้ลอยไปยังหอคอยซันนี่ แล้วได้ลอยเข้าไปภายในสัญลักษณ์ดวงอาทิตย์ที่อยู่บนยอด แล้วจากนั้นหนึ่งในกลีบทั้ง 6 ของดวงอาทิตย์ก็เปลี่ยนสีจากเทามาเป็นสีเหลือง



มิมิกับเนียมิ ได้รับสแตมป์ดวงที่ 4 เรียบร้อยแล้ว!!

จากนั้นทั้งสองก็กลับร่างเดิม

เนียมิ: ไม่เป็นไรใช่ไหม?

"เมื่อกี้.. มันเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ??"

เด็กผู้หญิงกล่าวด้วยความงุนงง

มิมิ: พวกฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่อย่างน้อยก็ดีแล้วนะที่ปลอดภัย

"อืม!!"

จากนั้นเด็กผู้หญิงหันมาทางโปจิโกะ

"เอาล่ะ งั้นวันนี้พวกเราไปเที่ยวสวนสนุกกันดีกว่านะ!"

แล้วทั้งคู่ก็เตรียมรอขึ้นรถเมล์เพื่อไปยังสวนสนุกที่อยู่ในเขตเมืองด้วยกัน

อินุจิโยะ: เดี๋ยวก่อนสิ!! แล้วผมล่ะ

อินุจิโยะที่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ วิ่งเข้ามาหาโปจิโกะกับเด็กผู้หญิง

เนียมิ: นายมากับพวกเราแทนดีกว่านะ (^_<)☆

อินุจิโยะ: แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นไรกันน่ะ แต่ผมเป็นคนเจอเธอก่อนนะ

โปจิโกะ: ไว้คราวหน้าค่อยมาเล่นกันอีกนะ!

แล้วจากนั้นโปจิโกะก็เข้ามาจูบเขา ทำให้เขาถึงกับยืนนิ่งไปพักหนึ่ง

"แล้วเจอกันใหม่นะ!"

เด็กผู้หญิงกล่าวก่อนที่จะขึ้นรถเมล์ไปพร้อมกับโปจิโกะ

เนียมิ: สำเร็จแล้วนะ! ♪(^∇^*)

มิมิ: ในที่สุดก็เจอหญิงที่ชอบได้สักทีนะ!(^∀^●)

แล้วจากนั้นเขาก็ค่อยๆ น้ำตาไหลออกมา ก่อนที่จะตัดสินใจวิ่งตามรถเมล์ไป ซึ่งรถได้ออกไปไกลมากแล้ว ส่วนทั้งสองก็พลางมองดูอย่างมีความสุข




>>>>> TO BE CONTINUED <<<<<

20 พฤศจิกายน 2565

pop'n music RESPECT : STAGE 40 「สื่อรักจากดวงดาว」

ในวันนี้ทั้งสองได้มุ่งหน้ามายังบริเวณนอกเมืองเพื่อเริ่มต้นการออกผจญภัยในพื้นที่อุทยาน หลังจากที่พวกเธอรวบรวม "ท่วงสุริยัน" ได้ 2 ชิ้น พื้นที่อุทยานก็ได้ฟื้นฟูไปบางส่วน ซึ่งเป็นผลจากแหล่งพลังงานที่ได้ฟื้นคืนของ ฟลอร่า ภูตแห่งธรรมชาติ

เนียมิ: สายลม แสงแดด และใบไม้เขียวขจี!

มิมิ: ได้เวลามาลุยซันนี่พาร์กของจริงกันแล้วล่ะ! \^o^/

ทั้งสองกล่าวด้วยความตื่นเต้น หลังจากที่มาถึงหน้าทางเข้าเขตอุทยานซึ่งมีซุ้มประตูต้อนรับ

เนียมิ: ท่าทางวันนี้จะลุยอุทยานกันได้จริงๆ แล้วสินะ เพราะเริ่มมีนักท่องเที่ยวมาที่นี่กันแล้วล่ะ (แม้จะยังไม่มากเท่าในเขตเมืองก็เถอะ)

เนียมิกล่าวหลังจากที่เห็นผู้คนตรงหน้า

มิมิ: อืม! วันนี้พวกเราต้องคว้าท่วงสุริยันมาอีกให้ได้เลยนะ!

เนียมิ: แต่ฉันก็สงสัยอยู่นิดหนึ่งนะ ท่วงสุริยันนี่ สามารถหาได้จากทุกคนที่มีเรื่องทุกข์ใจเลยเหรอ?

มิมิ: ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันนะ แต่ถ้าดูจากคราวก่อนที่พวกเรารวบรวมมาได้ มันก็อาจจะเป็นอย่างงั้นก็ได้

เนียมิ: งั้นแบบนี้... ถ้าเกิดพวกไทม์เมอร์มีเรื่องทุกข์ใจขึ้นมาที่นี่ เราก็สามารถเรียกท่วงสุริยันจากพวกเขาก็ได้เหมือนกันสิ ใช่ไหม?

มิมิ: ฉันว่าแบบนั้นคงเป็นไปไม่ได้หรอก ฉันว่าคงจะทำได้แค่เฉพาะกับผู้ที่อาศัยอยู่ที่ซันนี่พาร์กนี้เท่านั้น ...หรือพูดให้เข้าใจก็คือ ความสุขของผู้คนที่นี่เป็นแหล่งพลังงานขับเคลื่อนของซันนี่พาร์กยังไงล่ะ!

เนียมิ: อ๋อ เข้าใจแล้ว ถ้าหากทุกคนมีความสุข ซันนี่พาร์กก็จะค่อยๆ กลับมาเขียวขจีสินะ!

มิมิ: ใช่แล้วล่ะ! เธอเข้าใจถูกแล้ว นั่นคือภารกิจของพวกเราที่ต้องช่วยกันทำให้ทุกคนกลับมามีความสุขนะ!

เนียมิ: ถ้างั้นตอนนี้พวกเราก็ไปลุยกันเถอะ!

มิมิ: โอ้!! \^o^/

--------------------------------------------------------------------------------


STAGE 40
「สื่อรักจากดวงดาว」


--------------------------------------------------------------------------------

และแล้วก็ได้เวลาที่ทั้งสองเริ่มออกเดินสำรวจในพื้นที่อุทยาน

อุทยานแห่งนี้บรรยากาศโดยรวมคล้ายกับสวนสาธารณะในเขตเมือง แต่มีพื้นที่ใหญ่กว่ามาก โดยรอบเต็มไปด้วยต้นไม้และทุ่งหญ้า มีถนนคนเดินขนาดเล็กที่ทอดไปตามเส้นทางต่างๆ และระหว่างทางยังมีจุดแวะชุมวิวและพืชพรรณต่างๆ ให้ได้ดูและมีป้ายข้อมูลติดไว้ให้ได้ศึกษาพืชพรรณเหล่านั้นอีกด้วย

แต่เนื่องจากตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วง จึงได้เห็นภาพของต้นไม้สีน้ำตาล-แดงที่ดูตัดกับพื้นหญ้าสีเขียวได้อย่างสวยงาม และแน่นอนว่ามิมิได้ทำการเก็บภาพของพืชพรรณต่างๆ ด้วยกล้องถ่ายรูปไปด้วยตลอดทาง

และหลังจากที่ทั้งสองได้เดินสำรวจมาสักระยะ

เนียมิ: ที่นี่ใหญ่มากจริงๆ เลยนะ

มิมิ: อืม! มันใหญ่เท่ากับจังหวัดหนึ่งเลยล่ะ ต่อให้เดินทั้งวันนี้ยังไงก็เที่ยวได้ไม่ครบทุกที่แน่ๆ

เนียมิ: แต่ว่าพวกเราเดินมากันตั้งนานแล้วนะ แต่ก็ยังไม่เจอใครที่ดูทุกข์ใจเลย

แล้วในทันใดนั้น ทั้งสองก็พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินสวนมาด้วยท่าทางเซ็งๆ

เนียมิ: อ่ะ! Σ( °_°) น่าจะเจอแล้วล่ะ!!

"วันนี้ก็ยังหาไม่เจออีกตามเคย... (>_<。)"

ผู้หญิงคนนั้นกล่าวด้วยท่าทางคอตกเพราะความเซ็ง

เนียมิ: เดี๋ยวก่อนค่ะ!!

ทั้งสองเข้ามาทักตรงหน้า ทำให้เธอต้องหยุดเดิน

"ห๊ะ?"

มิมิ: กำลังมีเรื่องทุกข์ใจอยู่ใช่ไหม เดี๋ยวให้พวกเราช่วยจัดการเองนะ! (^_<)☆

"ว่าแต่... พวกเธอเป็นใครกันเหรอ? (ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย)"

เนียมิ: พวกเราคือ เนียมิ

มิมิ: และฉัน มิมิ ^_^

เนียมิ: แล้วเธอมีเรื่องอะไรกลุ้มใจอยู่เหรอ?

"มันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน พวกเธอไม่ต้องมายุ่งด้วยหรอก"

เนียมิ: แบบนั้นแหละ! ที่พวกเราต้องยิ่งอยากยุ่งด้วยเข้าไปใหญ่เลย!

มิมิ: แล้วเธอมีเรื่องอะไรกลุ้มใจอะไรล่ะ ยอมบอกมาซะเถอะ (ไม่ต้องอาย)

"ก็ได้ๆ ฉันจะยอมบอกแล้วก็ได้ แต่ก่อนหน้านั้น ฉันขอแบทเทิลกับพวกเธอก่อนก็แล้วกันนะ! (^_<)☆"

มิมิ: ได้สิ! พวกเรายินดีรับคำท้า

เนียมิ: แต่ถ้าพวกเราชนะ เธอต้องยอมเล่าตามสัญญานะ

"โอเคเลย! ...อ้อ! ฉันชื่อ "คาโอริน" (kaorin) นะ ยินดีที่ได้รู้จักด้วยล่ะ"

===== POP'N BATTLE =====
Mimi/Nyami vs kaorin
PDM / Trish
===== END BATTLE =====

ผลการแข่งขัน มิมิกับเนียมิ เป็นฝ่ายชนะ

มิมิ: เอาล่ะ แล้วเรื่องกลุ้มใจของเธอคืออะไรกันเหรอ?

คาโอริน: ที่จริงแล้ว.. ฉันมีไอ้นี่น่ะ

คาโอรินหยิบกล้องส่องทางไกลออกมาให้ทั้งสองดู

มิมิ/เนียมิ: กล้องส่องทางไกล??

คาโอริน: มันไม่ใช่กล้องส่องทางไกลธรรมดานะ แต่เป็น "กล้องส่องหารัก" !! ♡

มิมิ: โห้!! เธอมีของแบบนี้ด้วยเหรอ แล้วมันทำอะไรได้ล่ะ? (อยากได้จัง)

คาโอริน: ง่ายๆ แค่ใช้เจ้านี้ส่องไปยังคนที่เป็นเพศตรงข้ามกับเรา แล้วกล้องจะบอกเองว่าคนๆ นั้นเหมาะสมกับเรากี่เปอร์เซ็นต์...!

เนียมิ: งั้นแบบนี้ถ้าฉันใช้นี่ส่องไปที่ไทม์เมอร์ ก็อาจจะ...

แล้วเนียมิก็เกิดอาการหน้าแดงฉ่ำ และนึ่งไปพักหนึ่ง...

เนียมิ: (ทำไมฉันถึงคิดเรื่องแบบนี้อีกแล้วเนี่ย `(*>﹏<*)′)

มิมิ: แล้วเธอได้มาจากไหนเหรอ??

คาโอริน: เออ.. ฉันหามาได้จากร้านขายของเก่าแถวหมู่บ้านฉันน่ะ แต่ที่มาของกล้องจริงๆ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ...ส่วนเรื่องที่ฉันกำลังกลุ้มใจอยู่ก็คือ เมื่อไม่กี่วันก่อนฉันส่องเจอผู้ชายที่ดวงสมรถึง 120% เลยล่ะ! แต่ว่าพอฉันพยายามเข้าไปตีสนิทด้วย ปรากฏว่าเขาผู้นั้นกลับมีเจ้าของอยู่ก่อนแล้ว.. และจนถึงตอนนี้ฉันก็ยังส่องไม่เจอใครที่ดวงสมรถึง 100% เลย...

มิมิ: จะว่าไปก็เหมือนกับฉันเลยนะ...

*สวิตซ์ความหลังของมิมิ ออน!*

มิมิหูตกและตาปรือหลังจากที่ได้จมสู่ความสิ้นหวัง

คาโอริน: แสดงว่าเธอเองก็เคยอกหักมาเหมือนกันสินะ

มิมิ: ใช่แล้วล่ะ แถมหลายครั้งเลยด้วย

มิมิ/คาโอริน: หือๆๆๆ... (┬┬﹏┬┬)

มิมิกับคาโอรินร้องไห้ด้วยกัน

เนียมิ: ต้องสู้สิคะ! ถึงวันนี้จะยังไม่เจอ แต่พรุ่งนี้หรือสักวันต้องได้เจอคนที่ดวงสมรแน่ๆ คะ!

คาโอริน: แต่ฉันก็พลาดท่ามาแบบนี้หลายครั้งแล้วนะ แต่ก็แปลกอยู่อย่างหนึ่งที่พอส่องเจอคนที่ดวงสมรไม่ถึง 100% คนๆ นั้นกลับไม่มีเจ้าของหรือถูกชิงตัดหน้าไปก่อน ทำไมมันถึงเป็นแบบนั้นไปได้?

แล้วจากนั้นมิมิก็นึกอะไรออกได้

มิมิ: Σ(. ❛ ᴗ ❛.)💡 เอ๊!? หรือว่ากล้องนี้จะ...?

คาโอริน: เธอนึกอะไรได้งั้นเหรอ?

มิมิ: หรือว่ากล้องส่องทางไกลนี้ จะสแกนเจอแค่เฉพาะคนที่มีแฟนอยู่แล้วเท่านั้น??

คาโอริน: Σ(. ❛ ᴗ ❛.)💡 อ่อ! จริงสิ

แล้วเธอก็หยิบสมุดบันทึกออกมาจากกระเป๋าสะพายหลัง แล้วเปิดดู

คาโอริน: จริงด้วยสินะ.. ถ้าดูตามสถิติแล้ว เกือบทุกคนที่ไม่ถึง 100% จะโสดสนิทจริงๆ ด้วย

เนียมิ: โห๊! เธอจดมันไว้หมดเลยเหรอ? (⊙_⊙;)

คาโอริน: อืม! ฉันชอบเขียนไดอารี่น่ะ

มิมิ: งั้นก็แปลว่า เธอได้ลองศึกษาคนๆ นั้นดีก่อนแล้วคอยเริ่มลงมือจีบสินะ

คาโอริน: ใช่แล้วล่ะ ฉันจดเอาไว้หมดทุกอย่างเลย ตั้งแต่ ลักษณะนิสัย ความชอบ รวมถึงสถิติอื่นๆ แต่พอได้ลองบุกเข้าไปจริงๆ กลับล้มเหลวทุกครั้งไปได้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

แล้วจากนั้นเนียมิก็หันมาถามมิมิ

เนียมิ: ถึงเวลาที่เราต้องใช้พลังนั้นแล้วหรือยัง?

มิมิ: แต่ฉันว่ารอดูต่อไปก่อนอีกสักพักดีกว่านะ

คาโอริน: นั้นสิ แล้วพวกเธออยากจะดูสถิติเพิ่มไหมล่ะ เดี๋ยวฉันจะพาไปที่บ้านของฉันนะ ฉันจดเอาไว้หลายเล่มเลยล่ะ!

มิมิ: โอเค ไปกันเลย!

--------------------------------------------------------------------------------

แล้วคาโอรินก็พาทั้งสองมายังบ้านของตน ซึ่งมีรูปร่างที่ดูแปลกตา

เนียมิ: นี่คือบ้านของเธอจริงๆ เหรอ? (⊙_⊙;)

มิมิ: อย่างกับหอดูดาวเลย (⊙_⊙;)

คาโอริน: อืม! ครอบครัวของฉันเป็นนักดาราศาสตร์น่ะ ก็เลยสร้างชั้นบนเป็นหอชมดาว

ตัวบ้านเป็นบ้าน 3 ชั้น โดยสองชั้นแรกมีรูปร่างเป็นบ้านทรงธรรมดา แต่ชั้น 3 จะมีลักษณะคล้ายกับโดมส่องดาวที่มีกล้องส่องดาวขนาดยักษ์อยู่ภายในโดม

และหลังจากนั้นเธอก็นำทางทั้งสองมายังห้องส่วนตัวของเธอ ซึ่งอยู่ที่ชั้น 3

คาโอริน: เอาล่ะ เชิญเปิดดูที่ชั้นวางหนังสือกันได้เต็มที่เลย ไม่ต้องเกรงใจ

แล้วจากนั้นทั้งสองจึงเริ่มสำรวจดูที่ชั้นหนังสือ พบว่ามีสมุดบันทึกแบบเดียวกันวางอยู่เต็มชั้นไปหมด

เนียมิ: โห๊! เยอะจริงๆ (⊙_⊙;) (ตอนที่เห็นทีแรก นึกว่าเป็นหนังสือการ์ตูนซะอีกนะ!)

แล้วทั้งสองก็เริ่มสุ่มเลือกหนังสือมาเปิดดู

มิมิ: เขียนเอาไว้ได้ละเอียดจริงๆ มีทั้งสถิติการส่องกล้อง สเปคผู้ชาย รวมไปถึงเรื่องราวประจำวันของคาโอรินด้วยล่ะ (น่าจะเอามาตีพิมพ์ขายได้เลยนะ)

แล้วจากนั้นสักพักเนียมิก็ไปเห็นสมุดแปลกๆ เล่มหนึ่งที่ดูต่างจากเล่มอื่นๆ

เนียมิ: นี่มันอะไรกันน่ะ?

คาโอริน: ห๊ะ! อย่าเปิดเล่มนั้นเชียวนะ ∑( 口 ||

แต่ห้ามไม่ทันการ เนียมิได้เปิดออกมาแล้วเรียบร้อย

และสิ่งที่เห็นภายในสมุดเล่มนั้น คือรูปวาดของสิ่งมีชีวิตหน้าตาน่ารักตัวหนึ่ง

เนียมิ: นี่มันคือตัวอะไรกันเนี่ย?

มิมิ: ไหนดูด้วยสิ

ส่วนคาโอรินก็เกิดอาการแฮงค์หน้าแดงฉ่ำด้วยความอายไปพักหนึ่ง

สิ่งมีชีวิตตัวนี้มีรูปร่างเป็นดาวสีฟ้าที่มีหน้าตา

มิมิ: น่ารักจังเลยนะ คาโอรินเป็นคนวาดเหรอเนี่ย?

และเมื่อลองเปิดดูหน้าอื่นไปเรื่อยๆ ก็พบรูปเดียวกันในอริยาบทที่แตกต่างกัน

เนียมิ: วาดได้สวยมากเลยนะ เธอเองก็มีพรสวรรค์ด้านการวาดภาพเหมือนกันนะ

คาโอริน: ใช่แล้วล่ะ ฉันเป็นคนวาดเองแหละ แต่ฉันก็ไม่ได้วาดรูปเก่งอะไรหรอกนะ ฉันจะวาดมันเล่นๆ ตอนช่วงที่ไม่รู้จะเขียนอะไรน่ะ

เนียมิ: แล้วเจ้าตัวนี้มีชื่อหรือเปล่า?

คาโอริน: มีสิ ชื่อ "แฮปปี้" (HAPPPY) น่ะ เขาเป็นดวงดาวแห่งการพบพาน

เนียมิ: ดวงดาวแห่งการพบพาน??

คาโอริน: อืม! เป็นดาวน้อยที่ล่องลอยอยู่ในอวกาศอันแสนสดใส เป็นดาวที่นำพาทั้งความรักและความหวังมาให้กับผู้ที่พบเห็น หากใครที่ได้เห็นดาวหางของเจ้าตัวนี้บนท้องฟ้าแล้วอธิษฐาน ก็จะทำให้ได้สมหวังกับสิ่งนั้นๆ ตลอดไป ...ฉันจะวาดตัวนี้ขึ้นมาทุกครั้งที่ภารกิจของฉันล้มเหลว บางทีถ้าหากฉันได้พบกับเจ้าแฮปปี้จริงๆ ฉันอาจจะสมหวังในความรักก็เป็นได้... (┬┬﹏┬┬)

แล้วทั้งสองก็หันมามองหน้ากัน

เนียมิ: คงถึงเวลาต้องใช้พลังป๊อปเปอร์สกันแล้วล่ะ

มิมิ: อืม!

แล้วทั้งสองก็หันกลับมาทางคาโอริน

เนียมิ: ไม่เป็นไรคะ เดี๋ยวพวกเราจะช่วยทำให้เรื่องนั้นเป็นจริงเอง!

คาโอริน: เอ๊!? พวกเธอพูดเรื่องอะไรน่ะ

มิมิ: ไม่ต้องห่วง รับรองคืนนี้เธอได้เจอจริงๆ แน่

คาโอริน: อะอืม เข้าใจแล้วล่ะ แต่ก็ขอบคุณล่วงหน้านะ ถ้าหากเรื่องนั้นเป็นจริงได้ขึ้นมา! ^_^ ...แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ฉันกลับมามีกำลังใจสู้ต่ออีกครั้งแล้วล่ะ ถึงวันนี้จะยังไม่ได้ แต่พรุ่งนี้ก็ต้องทำให้ได้เลย!! ขอบใจพวกเธอด้วยอีกครั้งนะ! เป็นเพราะพวกเธอแท้ๆ เลยฉันถึงได้กลับมาคืนชีพอีกครั้ง

มิมิ: อืม! พรุ่งนี้ก็พยายามเข้านะ! ^_^

เนียมิ: อย่ายอมแพ้แบบวันนี้อีกล่ะ!

--------------------------------------------------------------------------------

เวลาผ่านไปจนถึงช่วงดึก ทั้งสองได้กลับมายังหน้าบ้านของคาโอรินอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้เธอได้ปิดไฟนอนไปแล้ว

ทั้งสองได้วางแผนว่าจะใช้พลังของเกียร์วิเศษสสานฝันให้เป็นความจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังไม่เคยทำมาก่อน

เนียมิ: พวกเราจะทำแบบนั้นได้จริงๆ เหรอ?

มิมิ: เชื่อมั่นในพลังของป๊อปเปอร์สสิ พวกเราก็ใช้พลังนี้ช่วยเหลือผู้คนมาได้ตั้งหลายครั้งแล้วนะ!

เนียมิ: แต่ฉันก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดีว่าพลังนี้ตกลงมันเอาไว้ใช้ต่อสู้หรือทำอะไรกันแน่

มิมิ: เอาหนา ถ้าหากพลังนี้มีไว้เพื่อผดุงคุณธรรม ก็ต้องทำได้อยู่แล้วล่ะนะ

เนียมิ: อืม! นั้นสินะ ถ้าเราใช้เพื่อผดุงคุณธรรมละก็ ยังไงก็ต้องได้ผลอยู่แล้วล่ะ งั้นมาเริ่มกันเลยเถอะ

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ยกแขนข้างที่สวมกำไลแปลงร่างขึ้นมา แล้วตะโกนว่า

มิมิ/เนียมิ: "ป๊อปปินแปลงร่าง!!"

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็แปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์ส

จากนั้นทั้งคู่ก็เรียกเกียร์วิเศษออกมาจากเข็มกลัดบนชุด โดยมีลูกพลังออกมาจากเข็มกลัด ก่อนที่ลูกพลังทั้งสองจะเข้ามาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน แล้วจากนั้นลูกพลังก็แปลงสภาพกลายเป็นเกียร์อีกที

ป๊อปเลิฟ/พีช: Let's pop'n music together! O(∩_∩)O

===== POP'N MUSIC =====
별빛정원 (Starlight garden) / vneld

ทันทีที่เริ่มเล่นป๊อปปิน ก็เกิดคลื่นแสงสีฟ้าขึ้นมารอบตัวของคาโอรินอยู่สักพักหนึ่งก่อนที่จะหายไป

และสักพัก เธอก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ

แล้วทันใดทันก็เกิดแสงสว่างขึ้นที่หน้าต่างวูบหนึ่ง

คาโอริน: ห๊ะ!? (⊙ˍ⊙)

เธอได้ตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจหลังจากที่ได้เห็นแสงประหลาดนั้น

แล้วจากนั้นเธอจึงรีบมาส่องดูตรงหน้าต่าง ก็พบกับเสาแสงที่ส่องขึ้นสู่ท้องฟ้ามาจากที่ๆ ห่างไกลออกไป

คาโอริน: หรือว่าจะเป็น...? o((⊙﹏⊙))o

จากนั้นในเวลาต่อมาเธอจึงได้รีบแต่งตัวเพื่อออกไปดูยังจุดที่มีเสาแสงประหลาดนั้น

เธอวิ่งมาเรื่อยๆ จนมาถึงบริเวณเขตเมือง ซึ่งเมื่อมาถึงเสาแสงก็ได้จางหายไปพอดี

คาโอริน: ห..หายไปแล้ว!? (⊙_⊙;)

แต่เธอก็ยังไม่ละความพยายาม เธอตัดสินใจมุ่งหน้าไปตามทิศทางที่ได้เห็นแสงเมื่อสักครู่

แล้วจากนั้นก็มาจนถึงบริเวณซอยแคบที่คันระหว่างอาคารทั้งสองหลัง และในทันใดนั้นเธอก็พบกับแสงอ่อนๆ ที่ส่องมาจากซอยแคบตรงหน้า

จากนั้นเธอจึงตัดสินใจใช้กล้องส่องทางไกลวิเศษ เพื่อดูสิ่งที่เห็นตรงหน้าจากระยะไกลเพื่อความปลอดภัย

สิ่งที่เธอเห็นก็คือ... ตัวประหลาดที่มีรูปร่างคล้ายกับตัวละครที่เธอชอบวาดเล่นเป็นประจำ พร้อมกับค่าดวงสมรที่สูงถึง 2,000% !!

คาโอริน: สองพันเปอร์เซ็นต์ เลยเหรอ!? ((⊙﹏⊙))o (มันอะไรกันน่ะ)

จากนั้นเธอจึงค่อยๆ เดินเข้าไปหาตัวนั้นที่ยังคงเปล่งแสงอ่อนๆ ออกมา

และเมื่อเข้ามาจนถึงตัวแล้ว ก็พบว่าเป็นตัวละครที่เธอวาดจริงๆ

คาโอริน: ห๊ะ แฮปปี้จัง!! ∑(°ロ°)

แล้วเธอก็เข้ามาดูใกล้ๆ เพื่อตรวจเช็คอีกครั้ง พบว่าเขาอยู่ในสภาพบาดเจ็บและหมดสติ

คาโอริน: เธอบาดเจ็บอย่างงั้นเหรอเนี่ย!?

แล้วเธอก็คิดหาทางช่วยเหลือเขาทุกวิถีทาง

คาโอริน: ไม่นึกเลยว่าสิ่งที่ มิมิกับเนียมิ ทำนายไว้จะเป็นเรื่องจริง ...แต่ก่อนอื่นต้องรีบนำตัวไปรักษาก่อนล่ะ!

แล้วเธอจึงรีบนำแฮปปี้กลับมาที่บ้านของเธอ

--------------------------------------------------------------------------------

เมื่อกลับมาถึง เธอจึงทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้นตามหนังสือที่เธอหยิบมาดู

คาโอริน: ไม่รู้ว่าจะใช้ได้ผลกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกหรือเปล่า แต่ก็ต้องลองดูล่ะ

เมื่อเสร็จแล้ว เธอจึงปิดไฟห้องเพื่อนอนต่อ

ผ่านไปสักระยะ แฮปปี้ก็ได้ตื่นขึ้นมา แล้วลอยเข้ามาหาคาโอรินที่กำลังนอนหันหลังให้

แล้วหลังจากนั้นแฮปปี้ก็ได้ยิ้มออกมา ก่อนที่จะเปล่งแสงออกมาจากตัว ซึ่งแสงนี้ได้ส่องสว่างไปทั่วทั้งห้องอยู่วูบหนึ่ง

จากนั้นอยู่ๆ คาโอรินก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา

เธอค่อยๆ ลุกขึ้นมาอีกครั้ง และเมื่อลืมตาขึ้นมาจนสุดแล้ว เธอก็ต้องแปลกใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า

คาโอริน: ห๊ะ!? (⊙ˍ⊙)

สิ่งที่เธอเห็นในตอนนี้คือ เธอได้มาอยู่ภายในสวนดอกไม้แห่งหนึ่งที่อยู่กลางแจ้ง

คาโอริน: นี่เรา... มาอยู่ที่ไหนกันละเนี่ย??

"ขอบคุณที่ช่วยนะ!"

เสียงประหลาดดังขึ้นมา เธอจึงหันมามอง ก็พบกับแฮปปี้ที่ลอยอยู่ข้างๆ เธอ

คาโอริน: แฮปปี้จัง!! ∑(°ロ°)

คาโอรินเข้าไปหาแฮปปี้

คาโอริน: ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ แล้วนี่ฉันมาอยู่ที่ไหนกันแน่??

แฮปปี้: ที่นี่เป็น "สวนแห่งแสงดาว" เป็นสถานที่ๆ ฉันอาศัยอยู่ไงล่ะ!

คาโอริน: สวนแห่งแสงดาว? แล้วมันอยู่ที่ไหนบนโลกกันล่ะ?? (ฉันไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลย)

แฮปปี้: ที่นี่เป็นมิติพิเศษที่มีเพียงแค่เฉพาะฉันกับเธอเท่านั้นที่เข้ามาได้

คาโอริน: มิติพิเศษ? มันยังไงกันน่ะ?

แฮปปี้: ปกติแล้วชาวดาวหางจะใช้เวลาพักผ่อนจากการท่องอวกาศอันยาวนานอยู่ในสวนแห่งนี้ เป็นสถานที่เฉพาะที่มีเพียงชาวดาวหางเท่านั้นที่เข้ามาได้ ...แต่ที่เธอเข้ามาที่นี่ได้ก็เพราะเธอได้ช่วยฉันเอาไว้ ฉันจึงอนุญาตให้เธอเข้ามาได้เป็นกรณีพิเศษยังไงล่ะ! ^_^

คาโอริน: แบบนี้นี่เอง...

แฮปปี้: และฉันก็ได้เฝ้ามองเธอวาดรูปของฉันจากโคจรโลกแล้วล่ะ เธอวาดได้เหมือนฉันมากเลยนะ! ^_^

แล้วเธอก็มองแฮปปี้อยู่พักหนึ่งด้วยความรู้สึกที่อบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะมันนานมากแล้วจริงๆ ที่ไม่มีคนชื่นชมเธอแบบนี้

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ท่องไปในทุ่งสวนแสงดาวด้วยกัน ภายใต้ฝูงดาวหางที่พุ่งผ่านบนฟ้าเป็นระยะให้ได้ชมกันอย่างน่าประทับใจ

คาโอริน: นั่นสินะ ถึงแม้ 2,000% ในครั้งนี้อาจจะยังไม่ใช่ "รักแท้" ที่กำลังตามหาอยู่ แต่นี่ก็อาจจะเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ฉันกำลังขาดไปอยู่ก็เป็นได้... แฮปปี้ เธอช่วยทำให้ฉันมีความสุขจริงๆ ขอบคุณนะ!
===== END MUSIC =====

จากนั้นที่ห้องนอนของคาโอรินก็เกิดแสงสว่างขึ้นที่สมุดภาพวาด แล้วจากนั้นก็มี "ท่วงสุริยัน" ลอยออกมา

แล้วจากนั้น "ท่วงสุริยัน" ก็ได้ลอยไปยังหอคอยซันนี่ แล้วได้ลอยเข้าไปภายในสัญลักษณ์ดวงอาทิตย์ที่อยู่บนยอด แล้วจากนั้นหนึ่งในกลีบทั้ง 6 ของดวงอาทิตย์ก็เปลี่ยนสีจากเทามาเป็นสีเหลือง



มิมิกับเนียมิ ได้รับสแตมป์ดวงที่ 3 เรียบร้อยแล้ว!!

ส่วนทั้งสองก็หันมามองกัน แล้วยิ้มให้กันด้วยความยินดี ก่อนที่จะกลับโรงแรมไป




>>>>> TO BE CONTINUED <<<<<

15 พฤศจิกายน 2565

pop'n music RESPECT : STAGE 39 「ตุ๊กตาที่เหมือนกับเธอ」

เช้าวันต่อมา ณ พักห้องในโรงแรม

มิมิ: ข่าวใหญ่จ้า! ข่าวใหญ่! o(*^@^*)o

มิมิรีบเข้ามาหาเนียมิที่กำลังกินขนมปังอยู่

เนียมิ: มีอะไรเหรอ?

มิมิ: ก็ดูนี่สิ!

มิมิยื่นจอมือถือให้เนียมิดูข่าวบางอย่าง

เนียมิ: "สวนสนุกชายนิ่งแห่งซันนี่พาร์กเตรียมกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งวันนี้" ...เอ๊ จริงดิ!? (⊙_⊙)?

มิมิ: จริงแน่นอน! คาดว่าคงจะเป็นเพราะที่พวกเราทำให้เขตอุทยานบางส่วนกลับเป็นเหมือนเดิมได้ บวกกับความนิยมของร้านคาเฟ่ในสวนฯ ชั่วข้ามคืน เลยส่งผลให้เริ่มมีนักท่องเที่ยวกลับมาเยือนอีกครั้ง และผลที่ตามมาก็คือ ตอนนี้เริ่มมีกิจการบางส่วนกลับมาเปิดทำการอีกครั้งแล้วยังไงล่ะ!

เนียมิ: โห้!! แบบนี้เอง งั้นวันนี้พวกเราก็ไปลุยสวนสนุกกันนะ! (∩_∩)

มิมิ: โอเค!! (*^▽^*)

--------------------------------------------------------------------------------


STAGE 39
「ตุ๊กตาที่เหมือนกับเธอ」


--------------------------------------------------------------------------------

เวลาต่อมา ทั้งสองได้เดินทางมายัง "สวนสนุกชายนิ่ง" ซึ่งตอนนี้ได้กลับมาเปิดทำการอีกครั้งแล้ว

เนียมิ: โห้!! เปิดจริงๆ แล้วด้วยแฮะ! o(*°▽°*)o

มิมิ: แถมคนก็มาเยอะมากๆ ด้วยล่ะ!

จากนั้นทั้งสองจึงซื้อตั๋วหน้าทางเข้า และเมื่อซื้อแล้วก็เดินผ่านประตูทางเข้าเพื่อเข้าไปยังภายในเขตสวนสนุก

สวนสนุกแห่งนี้มีลักษณะคล้ายกับสวนสนุกทั่วไปในญี่ปุ่น โดยโซนแรกเมื่อเดินผ่านประตูทางเข้ามาเป็นโซนร้านค้าที่มีอาคารเป็นบ้านสไตล์ยุโรปตั้งอยู่ตลอดสองข้างทาง มิมิเดินส่องดูร้านต่างๆ ด้วยความสนใจ

มิมิ: มีร้านค้าที่ขายของน่ารักๆ เต็มไปหมดเลยนะ! (จะมีร้านซานริโอไหมนะ?)

และเมื่อเดินต่อมาได้สักพักก็เจอกับทางแยกไปยังโซนต่างๆ ภายในสวนสนุก ซึ่งตรงหน้ามีรางรถไฟเหาะที่เห็นได้มาแต่ไกล

มิมิ: เอาล่ะ จะไปที่ไหนกันก่อนดีล่ะ? (ฉันให้เธอเลือกเองเลย!)

เนียมิ: ก็แน่นอนสิ ต้องเป็นรถไฟเหาะก่อนอยู่แล้ว! (^∀^●)ノシ

ทั้งสองเดินไปขึ้นเครื่องเล่นรถไฟเหาะที่อยู่ทางตรงหน้า ซึ่งรางมีลักษณะเส้นทางที่ดูยุ่งเหยิงและยิ่งใหญ่ โดยก่อนขึ้นทั้งสองได้ถอดกล้องและหมวกออก และฝากไว้กับตู้ล็อคเกอร์ของเครื่องเล่น

เนียมิ: ว้าว!! เจ๋งไปเลย! \^o^/

และหลังจากที่ทั้งสองเล่นเสร็จแล้ว มิมิก็อยู่ในสภาพหน้ามืดตามัว

เนียมิ: เป็นอะไรหรือเปล่า?

มิมิ: เฮ่อ.. ทีหลังเธอขึ้นไปคนเดียวเถอะนะ ฉันไม่เอาด้วยแล้ว... ≡(▔﹏▔)≡

เนียมิ: ไม่ไหวเหรอ ขอโทษด้วยนะ ..งั้นเดี๋ยวฉันไปซื้อลูกอมเย็นๆ มาให้แก้เมารถไฟนะ!

จากนั้นทั้งสองก็ไปซื้อลูกอมที่ซุ้มร้านค้าเล็กๆ ข้างทาง

เนียมิ: อ้าว! นี่

เนียมิส่งลูกอมชุ่มคอให้มิมิ

มิมิ: ขอบใจนะ

มิมิรับไปอม

"อ้าว! นั่นมันพวกเธอเองไม่ใช่เหรอ"

อยู่ๆ ก็มีเสียงเรียกที่คุ้นหูทักขึ้นมา ทั้งสองจึงหันไปมอง ก็พบว่าเป็น...

เนียมิ: ห๊ะ ริเอะจัง!!

มิมิ: ซานาเอะจัง!!

ริเอะ: ไง! มิมิจัง กับ เนียมิจัง ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยนะ (*^_^*)

เนียมิ: พวกเธอมาที่นี่กันด้วยเหรอ บังเอิญจังเลยนะ แล้วมาทำอะไรกันล่ะ?

ริเอะ: มาเที่ยวเล่นน่ะ ^_^

ซานาเอะ: ใช่แล้วล่ะ! พวกเราตั้งใจมาที่นี่เพราะร้านคาเฟ่ที่เขาแนะนำกันในเน็ตน่ะ อาหารที่นั่นเขาเยี่ยมสมคำร่ำลือจริงๆ ^_^ ไม่เสียดายเปล่าที่ลงทุนนั่งรถไฟมา 1 วันเต็มๆ เลยล่ะ!

มิมิ: แสดงว่าร้านคาเฟ่นั่นจะกระแสแรงมากจริงๆ สินะ ^_^

ซานาเอะ: อืม! ที่กระแสแรงก็เพราะร้านนั้นนอกจากอาหารจะอร่อยแล้ว ยังตั้งอยู่ภายในสวนสาธารณะอีกด้วย ซึ่งเป็นภาพที่หาดูได้ยากจริงๆ (ในญี่ปุ่นมีเพียงไม่กี่ที่)

ริเอะ: แถมรอบๆ สวนยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะกับการพักร้อนตั้งอยู่ติดๆ กันอีก ก็เลยกลายเป็นคอมโบที่ลงตัวสุดๆ เลยล่ะ!

เนียมิ: แล้วเรื่องของริเอะกับอิเคทานิเป็นยังไงบ้างล่ะ? พัฒนาไปถึงไหนแล้ว?

ริเอะ: เออ คือว่าเรื่องนั้น... ฉันเลิกคบกับเขาแล้วล่ะ...

มิมิ/เนียมิ: เอ๋!?? ∑(°ロ°)

ทั้งสองตะโกนออกมาด้วยความตกใจ

มิมิ: ทำไมล่ะ??

ริเอะ: ความจริงแล้วมันเป็นความผิดของฉันเองแหละ... ที่จริงแล้วนอกจากอิเคทานิคุง ฉันยังมีอีกคนหนึ่งที่แอบชอบอยู่ด้วยเหมือนกัน เขาผู้นั้นชื่อ "สุงิคุง" (Sugi★kun) เป็นนักดนตรีที่ฉันชื่นชอบอยู่ แต่ว่าฉันแค่ติดตามเขาในฐานะศิลปินคนหนึ่งเท่านั้นนะ ไม่ได้คิดจะคบหาจริงจังเลย... แต่ว่ามาวันหนึ่งในระหว่างที่ฉันกำลังเดทกับอิเคทานิคุงนั้น เขาก็บังเอิญมาเห็นอัลบั้มรูปของสุงิคุงในกระเป๋าของฉัน และหลังจากวันนั้นเขาก็ไม่ได้ติดต่อหรือมาหาฉันอีกเลย จึงคิดว่าเขาคงจะตัดสินใจเลิกคบกับฉันไปแล้ว... (˘・_・˘)

มิมิ: อย่างนี้เอง เป็นเรี่องเข้าใจผิดสินะ

ซานาเอะ: และนัดเดทครั้งล่าสุดของริเอะจัง เขาก็ไม่ได้มาตามนัดด้วยนะ ริเอะยืนรอที่จุดนัดพบตั้งแต่เที่ยงจนถึงดึกเลยล่ะ... (ถึงสี่ทุ่มกว่าๆ)

เนียมิ: ฉันว่าเรื่องนั้นเอาไว้คุยกันต่อทีหลังเถอะ ไหนๆ ก็ได้เจอกันอีกครั้งแล้ว จะมาร่วมวงกับพวกเราด้วยไหมล่ะ?

ริเอะ: ก็เอาสิ ^_^

แล้วจากนั้นทั้งสองจึงได้มารวมกลุ่มกับ มิมิ เนียมิ เพื่อไปเที่ยวด้วยกัน

--------------------------------------------------------------------------------

เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง หลังจากที่ทั้งสี่เล่นเครื่องเล่นต่างๆ ด้วยกันมาได้สักพัก ก็ถึงเวลามานั่งกินมื้อเที่ยงที่โซนศูนย์อาหาร

ริเอะ: วันนี้สนุกมากๆ เลย ต้องขอบคุณด้วยจริงๆ นะ! ^_^

เนียมิ: อืม! แล้วไว้คราวหน้าถ้าได้เจอกันอีก ก็มาเที่ยวด้วยกันอีกได้นะ!

ซานาเอะ: แน่นอนอยู่แล้ว! (^_<)☆

มิมิ: แล้วหลังจากกินเสร็จพวกเธอจะไปกันแล้วเหรอ? ยังไม่ทันตกเย็นเลยนะ...?

ริเอะ: อืม! พวกเรายังมีอีกหลายทีที่อยากไปน่ะ

เนียมิ: อืม! งั้นก็ขอให้สนุกนะ ^_^

มิมิ: ว่าแต่.. แล้วเรื่องงานเพลงของซานาเอะจังล่ะ เป็นยังไงบ้าง?

ซานาเอะ: อืม! ไปได้สวยเลยล่ะ ตอนนี้ฉันได้เดบิวเป็นศิลปินอย่างเต็มตัวแล้ว และในอีกไม่นานฉันกำลังจะออกซิงเกิ้ลใหม่แล้วด้วยนะ!

มิมิ: จริงเหรอ!? ขอแสดงความยินดีด้วยนะ! ^_^

เนียมิ: แล้วเป็นเพลงแบบไหนล่ะ?

ซานาเอะ: ความลับจ๊ะ! (^_<)☆

เนียมิ: โห.. บอกกันหน่อยไม่ได้เหรอ? (*  ̄︿ ̄)

ซานาเอะ: ถ้าบอกในที่สาธารณะแบบนี้ ความลับก็แตกกันหมดสิ!

มิมิ: นั่นสินะ!

แล้วทั้งสี่ก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

--------------------------------------------------------------------------------

และหลังจากที่กินเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องจากลากัน

เนียมิ: แล้วเจอกันใหม่นะ! (*^▽^*)┛

ริเอะ: บ๊ายบายจ้า! (*^▽^*)┛

ริเอะกล่าวส่งท้าย ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินจากไป

เนียมิ: เอาล่ะ พวกเราก็มาลุยที่นี่กันต่อนะ!

มิมิ: อืม!!

จากนั้นทั้งสองก็ไปยังบริเวณชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ที่มีขนาดค่อนข้างสูงพอสมควร

เนียมิ: ต่อไปเราก็มานั่งเจ้านี้กันนะ!

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ขึ้นไปนั่งบนกระเช้า และในเวลาต่อมาหลังจากที่กระเช้าเลื่อนขึ้นไปตามทิศเข็มนาฬิกาแล้ว ก็ทำให้ได้เห็นบรรยากาศโดยรอบของสวนสนุกรวมไปถึงบริเวณรอบๆ เมืองจากมุมสูง ซึ่งสามารถเห็นสถานที่ต่างๆ ได้แต่ไกลเกือบทั้งหมด และได้เห็นบริเวณเขตอุทยาน(นอกเมือง)อีกเล็กน้อยแต่ไม่ชัดมากนัก

เนียมิ: นี่เหรอ รอบๆ เมืองของซันนี่พาร์ก ดูสวยมากเลยนะ!

มิมิ: แต่ถ้ามาในช่วงฤดูร้อนก็คงจะได้เห็นวิวสีเขียวสดใสเต็มไปหมดแน่ๆ เลยล่ะ เพราะตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วงต้นไม้เลยกลายเป็นสีน้ำตาลปนแดงแทน

แล้วจากนั้นเนียมิก็บังเอิญหันไปเห็นตุ๊กตาตัวหนึ่งที่ตกอยู่บนพื้นกระเช้า เธอจึงหยิบมันขึ้นมาดู

เนียมิ: เอ๊!? นี่มันของใครกันน่ะ?

ตุ๊กตาตัวนี้มีลักษณะเป็นเด็กผู้หญิงชุดสีม่วงใส่หมวกคล้ายสตรอว์เบอร์รี่

มิมิ: ใครลืมทิ้งไว้บนนี้กันนะ? (แต่ดูน่ารักมากเลยล่ะ)

เนียมิ: เอาเป็นว่าหลังจากที่ลงชิงช้าแล้ว เราไปฝากไว้กับประชาสัมพันธ์ก่อนดีกว่า

มิมิ: อืม!!

และเวลาต่อมาหลังจากที่กระเช้าเลื่อนจนครบรอบและลงจากกระเช้าแล้ว ทั้งสองจึงมุ่งหน้าไปยังจุดประชาสัมพันธ์เพื่อนำตุ๊กตาไปฝากตามหาเจ้าของ

แต่ในระหว่างทางนั้น ก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งมาเห็นตุ๊กตาตัวนั้นเข้า

"อ่ะ! Σ( °_°) นั่นมัน..."

แล้วเขาก็ได้เดินเข้ามาทักทั้งสอง

"นี่ๆ พวกพี่ครับ..."

มิมิ: อ้าว! มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า?

"คือว่า.. นั่นมันตุ๊กตาของผมเองแหละครับ!"

มิมิ: เอ๊!? จริงเหรอ พวกเราเจอมันตกอยู่บนชิงช้าสวรรค์น่ะ และกำลังจะเอาไปฝากให้กับประชาสัมพันธ์เพื่อให้เขาช่วยตามหาเจ้าของอยู่พอดีเลยล่ะ!

"งั้นเหรอครับ ขอบคุณมากเลยนะครับ! (*^_^*)"

เขาโค้งตัวขอบคุณ ก่อนที่มิมิจะคืนตุ๊กตาตัวนั้นให้กับเขาไป

"แสดงว่าผมคงลืมไว้บนชิงช้าสวรรค์ด้วยจริงๆ สินะ เพราะเมื่อกี้ผมก็เพิ่งไปนั่งชิงช้าสวรรค์มาพอดี ^_^"

มิมิ: แต่ขอถามอะไรนิดหนึ่งนะ ..ตุ๊กตาตัวนี้เธอได้มาจากไหนเหรอ? มันดูน่ารักมากเลยนะ!

"ครับ! ที่จริงแล้วตุ๊กตาตัวนี้เป็นคนที่ผมกำลังแอบชอบอยู่เอง!"

เนียมิ: เอ๋!? Σ( °_°) หมายความว่ายังไง

"คือ.. ที่จริงผมกำลังแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาเหมือนกับตุ๊กตาตัวนี้อยู่ และได้ยินมาว่าเธอจะมาเที่ยวที่สวนสนุกในวันนี้ด้วย ก็เลยกะว่าจะมอบตุ๊กตาตัวนี้ให้เป็นของขวัญ"

มิมิ: แค่หาเด็กผู้หญิงที่เหมือนกับตุ๊กตานี่ให้เจอสินะ เดี๋ยวพวกฉันจัดการให้เอง! (^_<)☆

"เอ๊!? แต่ว่า... ผมไม่กล้า (˘・_・˘)"

เนียมิ: ไม่ต้องอายไปหรอก เดี๋ยวพวกเราจะหาวิธีที่ทำให้นายใกล้ชิดกับเธอให้ได้เอง! นะ!

"งั้นก็.. ได้ครับ แล้วพวกพี่ชื่ออะไรกันเหรอ?"

เนียมิ: พวกเราคือ เนียมิ

มิมิ: และฉัน มิมิ ^_^

"ผมชื่อ "คุกกี้" (COOKIE) ยินดีที่ได้รู้จักนะ ^_^"

แล้วจากนั้นทั้งหมดจึงเริ่มออกตามหาเด็กผู้หญิงที่เหมือนกับตุ๊กตาตัวนี้

มิมิ: ว่าแต่นายมีเรื่องทุกข์ใจอะไรหรือเปล่า?

คุกกี้: ก็.. ไม่มีนะ?

เนียมิ: แต่ฉันว่าคงต้องเป็นเรื่องผู้หญิงที่นายชอบอยู่แน่ๆ เลยล่ะ เพราะดูแค่สีหน้าเมื่อกี้ก็รู้แล้ว

และหลังจากที่เดินต่อมาได้สักพัก ก็มีเสียงประกาศขึ้นมา

"ขณะนี้ได้เกิดเหตุขัดข้องกับเครื่องเล่น วี-ทาวน์เวอร์ (V-Tower) ที่นั่งได้หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ และทางสวนสนุกกำลังส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน ต้องขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ"

เนียมิ: เครื่องเล่น วี-ทาวน์เวอร์ เหรอ??

มิมิ: คิดว่าคงจะเป็นเครื่องเล่นหอคอยสูงๆ มีที่นั่งดิ่งขึ้นดิ่งลงน่ะ

เนียมิ: อ๋อ งั้นลองไปดูกันเถอะ อาจจะเจอเธอที่นั่นก็ได้

แล้วทั้งสามก็รีบมุ่งหน้าไปยังหน้าเครื่องเล่น วี-ทาวน์เวอร์

เนียมิ: ห๊ะ นั่นมัน...!

สิ่งที่พวกเธอเห็นก็คือ.. มี "เด็กผู้หญิงที่เหมือนกับตุ๊กตา" ติดอยู่บนนั้น

มิมิ: ในที่สุดก็เจอตัวแล้วล่ะ แต่ว่าเธอจะติดอยู่บนนั้นนะ!

แล้วทั้งคู่ก็ได้สอดส่องไปมาโดยรอบ เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์

เนียมิ: ฉันว่ารอให้หน่วยกู้ภัยมาช่วยคงไม่ทันการณ์แน่ มิมิ แปลงร่าง!

มิมิ: อืม!!

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ไปซ่อนตัวในมุมบริเวณสุขาสาธารณะ ก่อนที่จะยกแขนข้างที่สวมกำไลแปลงร่างขึ้นมา แล้วตะโกนว่า

มิมิ/เนียมิ: "ป๊อปปินแปลงร่าง!!"

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็แปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์ส

จากนั้นทั้งคู่ก็ได้ใช้ "ป๊อปเปอร์สปีดเดอร์" โรลเลอร์เบลดความเร็วสูง แล้วบินขึ้นไปช่วยเด็กผู้หญิงรวมถึงทุกคนที่ติดอยู่บนเครื่องเล่นดังกล่าว

และเวลาต่อมาหลังจากที่ทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว

"ต้องขอบคุณพวกเธอมากๆ เลยนะ ถ้าไม่ได้พวกเธอช่วยไว้ละก็ ทุกคนก็คงไม่รอดแน่ๆ"

พนักงานที่ควบคุมเครื่องเล่นกล่าวขอบคุณ

ป๊อปเลิฟ/พีช: ค่ะ!! ^_^

แล้วป๊อปพีชก็หันมาถาม เด็กผู้หญิงที่เหมือนกับตุ๊กตา

ป๊อปพีช: เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?

"ค่ะ! หนูไม่เป็นไร"

ป๊อปเลิฟ: ถ้าอย่างงั้น...

ป๊อปเลิฟหันมามองหน้าคุกกี้

ป๊อปเลิฟ: ขอให้โชคดีกับการเดทนะ! (^_<)☆

คุกกี้: เออ.. ครับ!

คุกกี้ยังงงๆ เพราะไม่เข้าใจว่าพวกเธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไรกับเขา จากนั้นทั้งคู่ก็ได้กลับไปซ่อนตัวที่เดิมแล้วกลับร่างเดิม ก่อนที่จะเดินกลับมาหาคุกกี้

คุกกี้มองดูที่ตุ๊กตาของตัวเองอยู่พักหนึ่ง แล้วหันมามองเด็กผู้หญิงที่เหมือนกับตุ๊กตา ซึ่งเธอกำลังสนใจในสิ่งอื่นอยู่

คุกกี้: (หืม.. ยังไงก็ไม่กล้าจริงๆ นั่นแหละ >︿<)

มิมิ: ไม่กล้ามอบให้อย่างงั้นเหรอ?!

ทั้งคู่ที่แอบดูเหตุการณ์อยู่หลังเสาไฟกล่าวขึ้นมา

เนียมิ: ดูเหมือนว่าเราจะต้องทำอะไรให้สักอย่างนะ

มิมิ: อืม!!

และเป็นจังหวะเดียวกับที่เด็กผู้หญิงกำลังจะเดินจากไป

คุกกี้: เออ..! เดี๋ยวก่อนครับ!!

คุกกี้ตะโกนเรียกเด็กผู้หญิงคนนั้น ทำให้เธอหันกลับมา

"อ้าว! คุกกี้คุงเองเหรอ มีอะไรล่ะ?"

คุกกี้: คือว่า... คือ...

"อะไรเหรอคะ?"

คุกกี้: คือว่า... ไหนๆ ก็ได้บังเอิญมาเจอด้วยกันที่นี่แล้ว มาเล่นกับผมไหมครับ?

"เออ... ได้สิ! ฉันกำลังอยากได้คู่เล่นถ้วยแก้วหมุนอยู่ด้วยพอดีเลยล่ะ!"

คุกกี้: ห้า!! งั้นเหรอครับ! (*^▽^*)

มิมิ: สำเร็จ!! ^_^

แล้วจากนั้นทั้งสองก็เริ่มไปเล่นเครื่องเล่นต่างๆ ด้วยกัน โดยที่ มิมิ เนียมิ ได้แอบติดตามไปเฝ้าดูอยู่ด้วยตลอดทาง

--------------------------------------------------------------------------------

จนกระทั่งในช่วงเย็น ทั้งสองได้มานั่งพักที่ม้านั่ง

"เป็นเพราะมีนายแท้ๆ เลย วันนี้ฉันก็เลยเล่นได้สนุกมากเลย ขอบคุณมากๆ นะ! ^_^"

คุกกี้: เออ.. ครับ! (* ̄▽ ̄*)

"แล้ววันนี้นายมาที่นี่ด้วยก็ไม่บอกกันก่อนนะ ไม่งั้นฉันก็คงตามมาด้วยตั้งแต่แรกแล้วล่ะ"

คุกกี้: ต้องขอโทษด้วยนะ ที่ไม่ได้บอกก่อน..

"วันนี้สนุกมากจริงๆ แม้จะมีเหตุขัดข้องนิดน้อยก็เถอะ แต่คนที่มาช่วยฉันเมื้อกี้นี้ เท่สุดๆ ไปเลยนะ! (เหมือนฮีโร่ในการ์ตูนสาวน้อยเวทมนตร์เลยล่ะ)"

คุกกี้: อืม!! ^_^ แล้วก่อนจากกัน ผมมีของอยากจะมอบให้...

"อะไรเหรอ?"

คุกกี้พยายามรวบรวมความกล้าเพื่อที่จะหยิบตุ๊กตาออกมามอบให้

ระหว่างนั้นเธอจ้องมองเขาด้วยความสงสัย แต่หลังจากที่เขาพยายามอยู่นาน เขาก็ตัดสินใจวิ่งหนีไป

"อ้าว! จะไปไหนน่ะ?"

เขาวิ่งพลางร้องไห้ไปด้วย

คุกกี้: (ยังไงผมก็ทำไม่ได้จริงๆ นั่นแหละ! `(*>﹏<*)′)

เนียมิ: คุกกี้คุง นายต้องทำได้แน่นอน

เนียมิเรียกขึ้นมา ทำให้เขาต้องหยุดวิ่งแล้วหันมามองทั้งสอง

มิมิ: ถ้าอยากจะมอบของขวัญ ก็แค่ส่งๆ ไปให้ก็หมดเรื่องแล้วล่ะ! ไม่เห็นต้องมีอะไรน่าอายเลย

คุกกี้: แต่ว่าผม...

เนียมิ: ถ้าไม่กล้ามอบเพราะกลัวถูกปฏิเสธรับของล่ะก็.. เออ...

แล้วคำพูดของเนียมิก็หายไป เพราะคิดอะไรต่อไม่ออก

เนียมิ: ฉันนึกวิธีไม่ออกอ่ะ...

แล้วมิมิก็ล้มลงไปก้องกับพื้นด้วยความเซ็ง (มุขตลก)

คุกกี้: เปล่า.. ไม่ใช่แบบนั้น คือที่จริงแล้วตุ๊กตาตัวนี้.. ผมไม่ได้เป็นคนทำเองครับ ผมซื้อมาจากร้านของเล่นเพราะมันดูเหมือนกับ "เบอร์รี่" (BERRY) คนที่ผมชอบพอดี

มิมิ: อ่อ.. เด็กผู้หญิงคนนั้นชื่อเบอร์รี่งั้นเหรอ?

เนียมิ: แต่ก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลยนี่หนา ไม่ว่าจะเป็นของที่ทำเองหรือไม่ ยังไงมันก็เป็นของขวัญที่ล้ำค่าสำหรับผู้รับเหมือนกันอยู่ดีนั่นแหละ

คุกกี้มองตุ๊กตาที่ถืออยู่พักหนึ่ง

คุกกี้: ยังไงผมก็ทำไม่ได้จริงๆ (>_<。)

แล้วทั้งสองก็หันมามองกัน

มิมิ: ฉันว่าต้องเพิ่งพลังของป๊อปเปอร์สแล้วล่ะ!

เนียมิ: อืม!!

แล้วทั้งสองก็แปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์สอีกครั้ง แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็เรียกเกียร์วิเศษออกมาจากเข็มกลัดบนชุด โดยมีลูกพลังออกมาจากเข็มกลัด ก่อนที่ลูกพลังทั้งสองจะเข้ามาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน แล้วจากนั้นลูกพลังก็แปลงสภาพกลายเป็นเกียร์อีกที

ป๊อปเลิฟ/พีช: Let's pop'n music together! O(∩_∩)O

===== POP'N MUSIC =====
Shining My Boy / AstroKid

ทันทีที่เริ่มเล่นป๊อปปิน ก็เกิดคลื่นแสงสีฟ้าขึ้นมารอบตัวของคุกกี้อยู่สักพักหนึ่งก่อนที่จะหายไป โดยที่เขามองไม่เห็นแสงนั้น

คุกกี้: ความรู้สึกนี้... มันอะไรกันเนี่ย?!

คุกกี้รู้สึกเหมือนกับว่าอยู่ๆ ก็มีกำลังใจที่แรงกล้าขึ้่นมาอย่างกะทันหัน

คุกกี้: นั่นสินะ! เนียมิจังพูดถูกแล้วล่ะ!! ยังไงเธอก็ต้องชอบตุ๊กตาตัวนี้อย่างแน่นอน!!!

และทันใดนั้นเขาก็ตัดสินใจกลับไปหาเบอร์รี่อีกครั้ง แต่เมื่อมาถึงที่ม้านั่งก็พบว่าเธอจากไปแล้ว

เขาพยายามมองหาเบอร์รี่รอบๆ แล้วก็พบว่าเธอกำลังเดินจากไป

คุกกี้: เดี๋ยวก่อน เบอร์รี่จัง!!

คุกกี้วิ่งไปหาเบอร์รี่ เมื่อเธอได้ยินเสียงเรียกจึงหยุดเดินแล้วหันมา

เบอร์รี่: หืม?

คุกกี้: ถ้าไม่รังเกียจ โปรดรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ด้วยนะครับ! `(*>﹏<*)′

คุกกี้ยื่นตุ๊กตาให้เบอร์รี่ โดยที่เขาไม่มองหน้าเบอร์รี่เพราะยังอายอยู่เล็กน้อย

เบอร์รี่: ว้าว!! นี่น่ะเหรอ ของขวัญที่จะมอบให้ฉัน!? (⊙o⊙)

เบอร์รี่รับตุ๊กตาไป เธอมองตุ๊กตาไปมาอยู่สักพัก

เบอร์รี่: ตุ๊กตาตัวนี้ดูเหมือนกับฉันมากเลยนะ ขอบใจมากๆ นะ!! (*^_^*)

แล้วคุกกี้ก็รู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่งที่คนที่เขาชอบยอมรับของขวัญแล้ว

เบอร์รี่: เพื่อเป็นการตอบแทนที่ให้ของขวัญถูกใจฉัน จะมานั่งม้าหมุนด้วยกันเป็นการส่งท้ายไหมล่ะ?

คุกกี้: ได้สิ ไปเล่นด้วยกันเลย!! (*^_^*)

แล้วเบอร์รี่ก็จุงมือของคุกกี้เพื่อพาไปเล่นเครื่องเล่นม้าหมุนด้วยกัน
===== END MUSIC =====

หลังจากนั้น มิมิกับเนียมิ ที่กลับร่างเดิมแล้ว ได้ตามมาดูทั้งคู่กำลังเล่นม้าหมุนด้วยกันอย่างมีความสุขที่สุด

แล้วจากนั้นก็เกิดแสงสว่างขึ้นที่ตุ๊กตาเบอร์รี่ แล้วจากนั้นก็มี "ท่วงสุริยัน" ลอยออกมา

เนียมิ: ว้าว!! (✪ ω ✪)

มิมิ: ในที่สุดก็สำเร็จไปอีกหนึ่งนะ!! (*^▽^*)

แล้วจากนั้น "ท่วงสุริยัน" ก็ได้ลอยไปยังหอคอยซันนี่ แล้วได้ลอยเข้าไปภายในสัญลักษณ์ดวงอาทิตย์ที่อยู่บนยอด แล้วจากนั้นหนึ่งในกลีบทั้ง 6 ของดวงอาทิตย์ก็เปลี่ยนสีจากเทามาเป็นสีเหลือง



มิมิกับเนียมิ ได้รับสแตมป์ดวงที่ 2 เรียบร้อยแล้ว!!

เนียมิพลางดูคุกกี้กับเบอร์รี่ แล้วก็เกิดความคิดประหลาดออกมา

เนียมิ: (จะว่าไปฉันเองก็อยากนั่งม้าหมุนด้วยกันกับไทม์เมอร์คุงนะ ...เอ๊!? นี่เรา คิดอะไรอยู่กันแน่เนี่ย!? `(*>﹏<*)′)

--------------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจแล้ว ทั้งสองก็ได้กลับมายังห้องพักในโรงแรม

เนียมิ: นึกไม่ถึงเลยว่าจะได้ท่วงสุริยันจากการเที่ยวสวนสนุกในครั้งนี้ด้วย แต่ก็ถือว่าดีแล้วนะ

มิมิ: อืม! แล้วพรุ่งนี้พวกเราลองไปสำรวจเขตอุทยานกันนะ!

เนียมิ: โอเค! ได้เวลาลุยนอกเมืองกันแล้วสินะ! ^_^

มิมิ: อืม! หลังจากที่รวบรวมท่วงสุริยันได้ 2 ชิ้นแล้ว พื้นที่สีเขียวในเขตอุทยานก็ได้แพร่ขยายออกไปจนสามารถไปเดินสำรวจกันได้แล้วล่ะ แถมได้ยินมาว่าเริ่มมีชาวบ้านกลับมาอยู่อาศัยในเขตอุทยานแล้วด้วยนะ

เนียมิ: ถ้างั้นพรุ่งนี้พวกเราก็...

มิมิ/เนียมิ: ไปลุยซันนี่พาร์กกันเลย!! LET'S ADVENTURE!! (^_-)/☆\(-_^)




>>>>> TO BE CONTINUED <<<<<