25 พฤศจิกายน 2565

pop'n music RESPECT : STAGE 41 「ทะเลสาบหรรษา」

ในเช้าวันนี้ทั้งสองได้ทำการเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมแล้ว

"ขอบคุณที่มาใช้บริการนะคะ!"

พนักงานต้อนรับกล่าว หลังจากทำการเช็คเอ้าท์

เนียมิ: ในที่สุด ก็ถึงเวลาที่ต้องกลับมาใช้มายแคมป์แล้วสินะ

มิมิ: อืม! เพราะสถานที่ต่อไป มันเริ่มอยู่ไกลจากเขตเมืองมากแล้วล่ะ ถ้าหากให้เดินกลับมาโรงแรมอีกละก็ คงไม่ไหวแน่ๆ

เนียมิ: แต่บรรยากาศในโรงแรมวันนี้ดูคึกครื้นกว่าวันแรกๆ ที่พวกเรามาพักเยอะเลยนะ (วันแรกๆ แทบไม่มีใครเลย)

มิมิ: อาจจะเป็นเพราะพื้นที่อุทยานที่สามารถท่องเที่ยวได้เริ่มขยายพื้นที่ออกไปไกลกว่าเดิมเยอะแล้ว แม้จะยังไม่ 100% ก็เถอะ ...แต่ฉันก็คิดว่าบรรยากาศในอุทยานวันนี้น่าจะกลับมาคึกครื้นแล้วเช่นกันล่ะนะ

เนียมิ: ใช่! ก็เพราะตอนนี้พวกเรารวบรวมท่วงสุริยันได้ 3 จาก 6 ชิ้นแล้ว แถมบริการและร้านค้าในเมืองตอนนี้ก็กลับมาเปิดครบทุกอย่างแล้วด้วยนะ

มิมิ: นั่นสิ เผลอแป๊บเดียวก็ผ่านมาครึ่งทางแล้ว ^_^

เนียมิ: เอาล่ะ! เหลืออีกเพียงแค่ 3 ชิ้นเท่านั้น พวกเราต้องรีบทำให้อุทยานแห่งนี้กลับมาสมบูรณ์ให้ได้เลยนะ!

มิมิ: อืม!! O(∩_∩)O

--------------------------------------------------------------------------------


STAGE 41
「ทะเลสาบหรรษา」


--------------------------------------------------------------------------------

เนียมิ: แต่ก่อนอื่น ขอเช็คสภาพมายแคมป์ก่อนแล้วกัน เพราะตั้งแต่ที่มาอยู่โรงแรมพวกเราก็ไม่ได้เข้าไปอีกเลย

ทั้งสองนำเต็นท์มายแคมป์มาตั้งภายในจุดตั้งแคมป์ซึ่งอยู่ในสวนสาธารณะ เพราะต้องการเช็คความพร้อมของเต็นท์ก่อนออกเดินทาง หลังจากที่ไม่ได้ใช้มานาน

แล้วมิมิก็พบว่าเสบียงอาหารตอนนี้เริ่มเหลือน้อยแล้ว

มิมิ: เสบียงอาหารเหลือน้อยแล้วแฮะ ฉันว่าพวกเราไปซื้อเสบียงมาดุนไว้ก่อน แล้วค่อยออกไปลุยอุทยานกันนะ! (ซื้อทีหลัง กลัวลืม)

เนียมิ: อืม! แต่ยังไงฉันว่าอยู่ในมายแคมป์มันก็ดีกว่าอยู่โรงแรมจริงๆ นะ ^_^ เพราะมีหลายอย่างที่ห้องพักโรงแรมทำไม่ได้

แล้วทั้งสองก็ได้ไปยังห้างที่อยู่ภายในเมืองเพื่อซื้อเสบียงอาหารมาเพิ่ม ซึ่งบรรยากาศภายในห้างก็ไม่ต่างจากซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปมากนัก และหลังจากนั้นก็นำของที่ซื้อมากลับมาเติมในตู้เย็นและที่วางของต่างๆ ในโซนครัว ซึ่งทั้งหมดตั้งแต่เข้าห้างใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง พร้อมกับเช็คความเรียบร้อยอีกรอบ

มิมิ: เอาล่ะ ยังขาดเหลืออะไรอีกไหม?

เนียมิ: ฉันว่าไม่มีแล้วนะ

มิมิ: ถ้างั้นก็...

มิมิ/เนียมิ: ไปลุยซันนี่พาร์กกันเลย!! LET'S ADVENTURE!! (^_-)/☆\(-_^)

--------------------------------------------------------------------------------

ในวันนี้ได้เดินทางมายังเขตทะเลสาบ ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากพื้นที่ๆ ไปสำรวจวานนี้พอสมควร

ทะเลสาบแห่งนี้มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่มาก โดยเบื้องหน้าทะเลสาบสามารถมองเห็นภูเขาน้อยได้แต่ไกล ส่วนบริเวณริมทะเลสาบเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวมากมาย มีทั้งร้านค้า สวนขนาดเล็ก และบริการเรือปั่นเป็นต้น

มิมิ/เนียมิ: ว้าว!! (☆▽☆)

มิมิ: สวยงามมากเลยนะ!

เนียมิ: แถมคนก็เยอะมากๆ ด้วย ดูคึกครื้นดีจังเลยนะ

แล้วจากนั้นทั้งสองจึงเดินสำรวจรอบๆ บริเวณนี้ พบว่าสวนบริเวณริมฝั่งมีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก ใช้เวลาเดินไม่นานก็ทั่วแล้ว

มิมิ: ถึงแม้ที่นี่จะไม่ได้มีอะไรมาก แต่ก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งพักผ่อนหย่อนใจชั้นเยี่ยมเลยนะ! ^_^

"เฮ้! มิมิ เนียมิ!!"

จากนั้นก็มีเสียงที่คุ้นหูเรียกขึ้นมา พวกเธอจึงหันไปมอง

เนียมิ: อ่ะ! Σ( °_°)

อินุจิโยะ: ไง! มิมิกับเนียมิ ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยนะ (∩_∩)

มิมิ: อินุจิโยะคุง!!

แล้วทั้งสองก็เดินเข้าไปหาเขา

เนียมิ: อินุจิโยะมาทำอะไรที่นี่เหรอ?

อินุจิโยะ: มาทำภารกิจหาสแตมป์ ^_^

มิมิ: จริงด้วยสินะ ตอนนี้นายเป็นเพลเยอร์เหมือนกับพวกเราไปแล้วนี่หนา

อินุจิโยะ: แล้วพวกพี่มาทำอะไรกันเหรอ?

เนียมิ: เหมือนกัน ^_^

มิมิ: แต่ของพวกเราไม่เหมือนกับนายหรอกนะ

อินุจิโยะ: เอ๊ หมายความว่ายังไง? (>'-'<)?

มิมิ: เป็นภารกิจพิเศษที่มีเพียงแค่เฉพาะพวกเราเท่านั้นที่ทำได้

อินุจิโยะ: ภารกิจพิเศษ?? แล้วมันคืออะไรกันล่ะ?

เนียมิ: อิอิ เรื่องนั้นบอกกันไม่ได้หรอกนะ! (^_<)☆

อินุจิโยะ: โธ่! บอกกันหน่อยไม่ได้เหรอ

มิมิ: ไม่ได้จ๊ะ

อินุจิโยะ: อืม! ช่างมันเถอะ ยังไงผมก็ไม่ควรไปยุ่งเรื่องของคนอื่นอยู่แล้วล่ะ เนอะ!

มิมิ: อืม! บางเรื่องน่ะ ถ้าไม่รู้มันอาจจะดีกว่าก็ได้นะ!

เนียมิ: นั่นสิ! แล้วตั้งแต่ที่นายเดินมาจนมาถึงที่นี่ ได้เจอใครที่ดูท่าทางเศร้าๆ หรือ เซ็งๆ บ้างไหม?

อินุจิโยะ: ก็... ไม่มีนะ ทุกคนที่เห็นมาก็ดูปกติดี

มิมิ: แสดงว่าวันนี้คงจะเริ่ม "ยาก" แล้วล่ะนะ..

เนียมิ: หมายความว่ายังไงเหรอ?

เนียมิสงสัยในคำพูดของมิมิ

มิมิ: ก็หาคนแบบที่ว่ายากมากขึ้นยังไงล่ะ!

เนียมิ: อ่อ.. เพราะตอนนี้ทุกคนเริ่มมีความสุข ก็เลยทำให้หาคนที่ต้องการช่วยเหลือได้ยากมากขึ้นนี่เอง

แล้วในตอนนั้นอินุจิโยะก็ได้กลิ่นแปลกๆ เขาจึงพยายามดมเพื่อจับที่มากลิ่น

อินุจิโยะ: นี่มัน... กลิ่นสุนัขด้วยกัน??

และเมื่อเขาหันไปมองยังแหล่งที่มาของกลิ่น เขาก็ได้พบกับ... มนุษย์สุนัขเพศเมีย หน้าตาน่ารักน่าชังผู้หนึ่งที่มีผมยาวสลวย กำลังนั่งอยู่ที่ม้านั่งฝั่งหนึ่งอยู่ตัวคนเดียว

อินุจิโยะ: ว้าว!! (❤ ω ❤)

เขารู้สึกตกหลุมรักทันทีที่ได้เห็น แล้วจากนั้นเขาจึงเดินเข้าไปหาเธอ

อินุจิโยะ: เออ..... >﹏<

แล้วจากนั้นเธอก็ค่อยๆ หันมามอง

"หืม? (。・ω・。)"

เธอรู้สึกแปลกใจอยู่เล็กน้อยที่ได้เจอสุนัขเหมือนกัน

อินุจิโยะพยายามรวบรวมความกล้า แล้วบอกว่า

อินุจิโยะ: อยากได้เพื่อนเล่นเรือปั่นใช่ไหมครับ งั้นไปด้วยกันไหมครับ?

"อืม! เอาสิ ฉันกำลังเหงาอยู่พอดีเลยล่ะ! ...แล้วเธอชื่ออะไรเหรอ?"

อินุจิโยะ: ผมชื่อ "อินุจิโยะ" (INUCHIYO) ครับ... ( •̀ ω •́ )✧

"ส่วนฉันชื่อ "โปจิโกะ" (pochiko) ยินดีที่ได้รู้จักด้วยนะ! ~o( =∩ω∩= )m"

อินุจิโยะ: สำเร็จ! (p≧w≦q)

อินุจิโยะรู้สึกดีใจจนเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ เพราะไม่คิดว่าจะตกหญิงได้ง่ายดายขนาดนี้!

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มไปเที่ยว(ออกเดท?)ด้วยกัน เริ่มตั้งแต่การเล่นเรือปั่น เล่นวอลเลย์บอลริมทะเลสาบ กินของหวานด้วยกัน เป็นต้น♡

มิมิ: ดูท่าทางพวกเราคงไม่ต้องไปสนใจอินุจิโยะแล้วล่ะนะ... ( ̄_ ̄|||)

เนียมิ: อืม! ฉันว่าตอนนี้พวกเราไปหาอะไรกินกันก่อนดีกว่า

แล้วจากนั้นทั้งสองก็ไปยังร้านอาหารเล็กๆ ริมทะเลสาบ ที่ตั้งอยู่ในบริเวณนั้น

--------------------------------------------------------------------------------

และในเวลาต่อมาหลังจากที่กินเสร็จแล้ว ก็ได้กลับออกมายังลานกว้างริมทะเลสาบอีกครั้ง

มิมิ: อืม... ฉันคิดว่าที่นี่คงจะไม่มีอะไรน่าสนใจไปมากกว่านี้แล้วล่ะ ทุกคนที่นี่ก็ดูปกติดีกันหมดเลย ฉันว่าพวกเราเดินทางไปที่อื่นกันต่อเลยดีกว่านะ

มิมิกล่าวในขณะที่กำลังถือไอศกรีมไว้ในมือ

แต่เนียมิกำลังมองไปยังอินุจิโยะกับโปจิโกะที่กำลังนั่งด้วยกันอยู่ที่ชายตลิ่ง ด้วยความสงสัย

มิมิ: มีอะไรหรือเปล่า? (เห็นดูนิ่งๆ ไป)

เนียมิ: รู้สึกว่าสองคนนั้นท่าทางแปลกๆ นะ...?

มิมิ: เอ๊!?

แล้วทั้งสองจึงตัดสินใจเข้าไปดูใกล้ๆ พบว่าพวกเขากำลังคุยอะไรกันอยู่

โปจิโกะ: ฉันมาเฝ้ารอที่นี่อยู่ทุกวัน เพราะกำลัง "รอใครบางคน" อยู่น่ะ

อินุจิโยะ: รอ ใครบางคน งั้นเหรอ??

โปจิโกะ: อืม! ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนๆ นั้นเป็นใคร รู้เพียงแต่ว่าฉันต้องรอคอยเขาคนๆ นั้นให้ได้น่ะ

อินุจิโยะ: เอ๊!? หรือว่า... เธอกำลังหลงทาง?

โปจิโกะ: อืม ไม่ใช่ล่ะ ฉันไม่ได้หลงทาง ฉันอาศัยอยู่กับเจ้านายแถวๆ นี้

อินุจิโยะ: งั้นหรอกเหรอ... โธ่ (><;)

อินุจิโยะรู้สึกโล่งอก พร้อมกับถามคำถามต่อไป

อินุจิโยะ: แต่ก็แสดงว่าคนๆ นั้น ต้องเป็นคนที่มีความพิเศษที่สำคัญอะไรสักอย่างกับเธอแน่ๆ เลย ใช่ไหม?

โปจิโกะ: ใช่แล้วล่ะ! แต่ฉันก็นึกไม่ออกอยู่ดีว่ามันคืออะไร >﹏< ...แต่ไม่ต้องห่วงนะ ตอนนี้ฉันไม่เป็นไรแล้วล่ะ ต้องขอบคุณนายมากๆ เลยนะที่มาช่วยเล่นเป็นเพื่อนในวันนี้ (^///^)

และทันทีที่เขาได้เห็นรอยยิ้มของโปจิโกะ เขาก็เกิดอาการหน้าแดงขึ้นมา แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกเช่นกัน

อินุจิโยะ: เอาล่ะ ผมต้องไปแล้วล่ะ

อินุจิโยะกล่าวพลางลุกจากที่่นั่ง

โปจิโกะ: จะไปแล้วเหรอ?

อินุจิโยะ: อืม! ฉันมีเรื่องที่ต้องทำอีกมากในวันนี้น่ะ ...ไว้เจอกันใหม่คราวหน้านะ! ไปล่ะ!!

แล้วอินุจิโยะก็วิ่งจากไป

เนียมิ: คนพิเศษที่โปจิโกะจังกำลังรอคอยอยู่งั้นเหรอ?

มิมิ: หรือนี่อาจจะเป็น "ความปรารถนา" ของเธอก็ได้นะ! ถ้าหากช่วยเธอเรื่องนี้ได้ พวกเราก็อาจจะได้ท่วงสุริยันมาด้วยก็ได้นะ!

แล้วจากนั้นทั้งสองที่แอบดูอยู่ก็ได้โผล่ไปหาโปจิโกะ

มิมิ: ขอโทษที่มารบกวนด้วยนะ เธอมีคนที่กำลังรออยู่ใช่ไหม?

แล้วจากนั้นอยู่ๆ โปจิโกะก็ได้รีบวิ่งหนีไปอย่างเร็วรวด

เนียมิ: อ้าว! จะไปไหนน่ะ?? (⊙_⊙;)

มิมิ: รีบตามไปเถอะ!!

แล้วทั้งสองก็วิ่งตามไป

แต่ทว่า โปจิโกะนั้นวิ่งได้ค่อนข้างเร็วกว่ามาก และกำลังค่อยๆ ทิ้งห่างทั้งสองไปเรื่อยๆ

เนียมิ: เดี๋ยวก่อน จะไปไหนน่ะ!?

มิมิ: พวกเรามีเรื่องอยากจะช่วยเหลือให้จริงๆ นะ! ได้โปรดหยุดฟังพวกเราก่อนเถอะ!!

แต่เธอก็ยังคงไม่สนใจ และยังคงวิ่งหนีต่อไป

และหลังจากที่วิ่งไปได้สักพัก โปจิโกะก็ไปสะดุดกับบางอย่างเข้า ทำให้เธอล้มลงแล้วกลิ้งเป็นลูกบอล ก่อนที่จะกลิ้งไปตกน้ำ ซึ่งทางข้างหน้าเป็นสุดทางเดินริมฝั่งพอดี

โปจิโกะพยายามตะเกียกตะกายเพราะว่ายน้ำไม่เป็น

มิมิ: ตกน้ำไปซะแล้วแฮะ ( ̄_ ̄|||)

เนียมิ: เดี๋ยวฉันจัดการเอง!

แล้วเนียมิก็ลงไปนำตัวโปจิโกะขึ้นมาจากน้ำ

และในเวลาต่อมาหลังจากที่โปจิโกะฟื้นแล้ว

เนียมิ: ไม่เป็นไรใช่ไหม?

แต่หลังจากที่โปจิโกะได้เห็นหน้าทั้งสองอีกครั้ง เธอก็เกิดอาการหวาดกลัว และพยายามจะหนีอีกครั้ง

มิมิ: ทำไมเธอถึงต้องกลัวพวกเราด้วยล่ะ? พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะมาทำร้ายหรือขโมยอะไรเลยนะ!

โปจิโกะ: แล้วทำไม.. พวกเธอถึงต้องไล่ตามฉันด้วยล่ะ??

จากคำถามนี้ ทำให้ทั้งสองสับสนไปชั่วครู่

มิมิ: แต่เธอเป็นฝ่ายหนีก่อนไม่ใช่เหรอ??

เนียมิ: ใช่ๆ พวกเราตั้งใจจะมาช่วยเหลือเธอ "เรื่องนั้น" จริงๆ นะ แล้วทำไมถึงต้องหนีล่ะ?

โปจิโกะ: ก็เพราะว่า.. ฉันนึกว่าพวกเธอเป็นหัวขโมยน่ะสิ!

เนียมิ: หัวขโมย?? (´・ω・`)?

โปจิโกะ: ใช่! ก็เพราะว่าพวกเธอมี "หูนั่น" ไม่ใช่เหรอ??

จากคำตอบนี้ ทำให้ทั้งสองสับสนไปชั่วครู่อีกครั้ง

เนียมิ: อ่อ! ที่จริงแล้วพวกเราก็เป็นเหมือนกับเธอนั่นแหละ ^_^

มิมิ: อืม!

โปจิโกะ: งั้นเองเหรอ.. ฉันนึกว่าพวกเธอเป็น "มนุษย์" ที่แต่งตัวเลียนแบบสัตว์ซะอีกนะ ( ^皿^)

มิมิ: แล้วเรื่องที่เกี่ยวกับคนที่เธอกำลังรออยู่ ช่วยเล่าให้พวกเราฟังหน่อยได้ไหม?

โปจิโกะ: เรื่องนั้น.. ฉันจำไม่ได้แล้วล่ะ... >︿<

มิมิ: เอ๊!?

โปจิโกะ: ฉันลืมไปแล้วว่าคนๆ นั้นเป็นใคร รู้เพียงแต่ว่าคนๆ นั้นสำคัญกับฉันมากเลยล่ะ...

เนียมิ: แล้ว... ที่ฉันได้ยินว่าเธออาศัยอยู่แถวนี้ แสดงว่าเธอได้รับการอุปการะจากเจ้าของใหม่สินะ?

โปจิโกะ: เปล่าหรอก ฉันอยู่กับเจ้านายของฉันที่นี่จริงๆ นะ!

มิมิ: แสดงว่าคนที่เธออยากจะพบด้วย คงจะต้องเป็นคนที่ชื่นชอบเธอเอามากๆ แน่ๆ เลยล่ะ

เนียมิ: แต่ปัญหาก็คือ.. เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนๆ นั้นเป็นใคร?

แล้วทั้งสองก็ใช่เวลาคิดอยู่สักพัก

มิมิ: หรือว่า...? คนๆ นั้น กำลังอยากจะเจอกับโปจิโกะอยู่??

เนียมิ: นั่นสิ! บางทีคนที่ว่านั้นอาจจะกำลังเศร้าโศกอยู่ก็ได้ ฉันว่าหากพาคนๆ นั้นกลับมาได้ ท่วงสุริยันคงจะต้องออกมาอย่างแน่นอนเลยล่ะ!

มิมิ: งั้นพวกเราลองไปสืบหาข้อมูลกันเถอะ!

--------------------------------------------------------------------------------

แล้วทั้งสองก็กลับมายังบริเวณท่าเรืออีกครั้ง เพื่อถามหาข้อมูล แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครทราบเรื่องนี้เลย

มิมิ: ไม่มีใครรู้เรื่องเกี่ยวกับคนที่เคยมาหาโปจิโกะเลยแฮะ...

แล้วจากนั้นเนียมิก็สังเกตทางท่าเรือปั่น ซึ่งบริเวณทะเลสาบไม่มีใครใช้เรือปั่นเลย

เนียมิเดินไปดูยังบริเวณท่าเรือที่มีเรือปั่นจอดเรียงอยู่ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากร้านค้ามากนัก

เนียมิ: ไม่มีใครเล่นเรือปั่นกันเลยนะ?

มิมิ: ก็แหง่สิ ตอนนี้มันใกล้จะเข้าฤดูหนาวแล้ว คงไม่มีใครอยากมาเล่นเรือปั่นกันหรอก

เนียมิ: แต่เมื่อกี้.. ตอนที่อยู่ในร้านราเม็ง ฉันเห็นอินุจิโยะกับโปจิโกะเล่นเรือปั่นกันอยู่เลยนะ?

"พวกเธออยากจะใช้บริการเรือปั่นกันงั้นเหรอ?"

เจ้าของเรือปั่นเดินเข้ามาหา ทำให้ทั้งสองหันไปมอง

มิมิ: อ่อ เปล่าคะ

และในทันใดนั้นเนียมิก็สังเกตเห็นเรือลำหนึ่งที่มีป้าย "งดให้บริการ" ติดอยู่

เนียมิ: เอ๊!? เรือลำนี้ "เสีย" งั้นเหรอ?

"ใช่แล้วล่ะ เรือลำนี้มันเสียเพราะขาปั่นใช้การไม่ได้น่ะ"

มิมิ: แต่ฉันขอถามอะไรหน่อยนะ คุณเคยเห็นคนที่ชอบมาเล่นกับโปจิโกะบ้างหรือเปล่า?

"หมายถึงสุนัขนั่นเหรอ.. เห็นสิ เขาเคยมาเล่นเรือปั่นนี่ด้วยล่ะ!!"

มิมิ: เอ๋!? จริงเหรอคะ!?

"อืม! แต่เคยมาเมื่อเกือบปีที่แล้วน่ะ และเขาก็มาประสบอุบัติเหตุกับเรือลำนี้พอดีเลยด้วย"

เนียมิ: แล้วเรื่องราวมันเป็นยังไง พอจะช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม?

"ได้สิ... ที่จริงเมื่อนานมาแล้วจะมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ชอบมาเล่นกับโปจิโกะเป็นประจำน่ะ แต่ว่าเธอจะแวะมาที่นี่เฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น ซึ่งตามปกติในช่วงฤดูหนาวของทุกปีเรือปั่นจะงดให้บริการชั่วคราว เนื่องจากเรื่องของน้ำในทะเลสาบที่อาจมีโอกาสกลายเป็นทะเลน้ำแข็ง ทำให้เรือเกิดความเสียหายได้ แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เด็กผู้หญิงคนนั้นร้องอยากจะเล่นเรือปั่นให้ได้ บวกกับอากาศในตอนนั้นที่ยังไม่ได้หนาวมากนัก ทางเราก็เลยตัดสินใจยอมเปิดให้เธอเล่นเป็นกรณีพิเศษ ...แล้วทีนี้ก็เกิดเหตุขึ้น เพราะเรือที่เด็กผู้หญิงกับโปจิโกะนั่งไปด้วยกัน เกิดขาปั่นขัดข้องขึ้นมา เพราะความเย็นของน้ำที่สูงจนทำให้ขาปั่นขัดข้อง ทำให้ติดอยู่กลางทะเลสาบ ซึ่งกว่าพวกเราจะรู้เรื่องนี้และช่วยกลับขึ้นฝั่งได้ก็ใช้เวลานานเลยล่ะ แล้วหลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้มาเยือนที่นี่อีกเลย..."

เนียมิ: เข้าใจแล้วล่ะ เธอไม่กลับมาที่นี่อีก เพราะเรื่องนั้นเองสินะ...

มิมิ: แล้วนับจากนั้น โปจิโกะจังก็เลยต้องรอเก้อมาโดยตลอด ทั้งที่เธอไม่มีโอกาสกลับมาอีกแล้ว (ノへ ̄、)

"มันเป็นเรื่องน่าเสียดายนะ แต่ตอนนี้ก็ย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วล่ะ"

เนียมิ: ถ้าเธอไม่กลับมา.. พวกเราจะทำยังไงกับโปจิโกะดี? ไปบอกความจริงเรื่องนี้เลยดีไหม?

แล้วมิมิก็คิดหาทางออกอยู่สักพัก

มิมิ: Σ(. ❛ ᴗ ❛.)💡 จริงสิ! มาลองใช้นั่นกันเถอะ บางทีมันอาจจะช่วยเรียกความทรงจำเกี่ยวกับคนๆ นั้นของโปจิโกะกลับมาก็ได้

เนียมิ: แต่ฉันอยากให้เขาได้เจอกับตัวจริงมากกว่านะ

มิมิ: ไม่เป็นไรหรอก ถึงแม้จะไม่ได้เจอตัวจริง แต่ถ้าเธอนึกถึงคนๆ นั้นออก มันอาจจะทำให้เธอสุขใจอีกครั้งก็ได้

เนียมิ: อืม!

--------------------------------------------------------------------------------

แล้วจากนั้นทั้งสองก็กลับไปหาโปจิโกะ ซึ่งตอนนี้เธอได้นอนกลางวันอยู่ใต้ต้นไม้ข้างๆ บริเวณริมทางเดินทะเลสาบ

มิมิ: เอาล่ะนะ!

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ยกแขนข้างที่สวมกำไลแปลงร่างขึ้นมา แล้วตะโกนว่า

มิมิ/เนียมิ: "ป๊อปปินแปลงร่าง!!"

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็แปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์ส

จากนั้นทั้งคู่ก็เรียกเกียร์วิเศษออกมาจากเข็มกลัดบนชุด โดยมีลูกพลังออกมาจากเข็มกลัด ก่อนที่ลูกพลังทั้งสองจะเข้ามาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน แล้วจากนั้นลูกพลังก็แปลงสภาพกลายเป็นเกียร์อีกที

ป๊อปเลิฟ/พีช: Let's pop'n music together! O(∩_∩)O

===== POP'N MUSIC =====
Only for you / NieN

เมื่อนานมาแล้ว ในช่วงฤดูหนาว ฉันได้พบกับคนๆ หนึ่งที่แสนวิเศษ ณ สวนสนุกภายในเขตเมือง

คนๆ นั้นทั้งใจดีและอ่อนโยนกับฉันมาก จนฉันอยากจะให้เขามาเป็นเจ้านายคนใหม่ของฉันเลยล่ะ

ฉันพยายามตามหาไปหลายที่ แต่ก็ไม่เจออีกเลย นับตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่ไปเล่นเรือปั่นด้วยกันในเขตทะเลสาบ
===== END MUSIC =====

จากนั้นโปจิโกะก็ได้ตื่นขึ้นมา พร้อมกับคิดอะไรออกได้

โปจิโกะ: ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแฮะ แต่ดูเหมือนว่าฉันจะจำหน้าคนๆ นั้นได้แล้วล่ะ

แล้วเธอก็ได้ลุกขึ้นมาเดินไปเรื่อยเปื่อยราวกับไร้จุดหมาย ส่วนทั้งสองก็ได้แอบตามไปด้วย

ขณะเดียวกันก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เพิ่งลงจากรถเมล์ มายังบริเวณลานกว้างริมทะเลสาบ

"ดูเหมือนว่าจะมาเร็วไปหน่อย แต่ก็จำเป็นต้องมาล่ะนะ"

แล้วเธอก็เดินไปยังร้านค้าที่อยู่ใกล้กัน

ส่วนโปจิโกะเดินมาจนถึงบริเวณป้ายรถเมล์หน้าลานกว้างริมทะเลสาบ และพลางยืนมองอยู่ตรงนั้น

โปจิโกะ: แต่จนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่มา... ฉันยังจำเธอได้อยู่นะ

เนียมิ: ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผลนะ

เนียมิที่แอบดูอยู่กล่าว

มิมิ: แต่อย่างน้อยเธอก็จำอดีตได้แล้วล่ะ

เนียมิ: แต่แปลว่าคราวนี้... พวกเราไม่ได้ท่วงสุริยันงั้นเหรอเนี่ย ~(>_<。)

จากนั้นเด็กผู้หญิงคนนั้นก็ได้เดินกลับออกมาจากร้านค้า แล้วเดินไปยังท่าเรือ แล้วยืนดูอยู่สักพัก

"ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ แต่ที่ฉันไม่ได้มาที่นี่นานก็เพราะเรื่องส่วนตัวล่ะ ...แต่ก็ต้องขอบคุณโปจิโกะจังมากเลยนะ ถ้าหากไม่ได้เจอเธอล่ะก็.. ฉันก็คงไม่ได้เป็นนักเขียนนิยายอย่างทุกวันนี้แน่ๆ"

เธอหันหลังกลับมาแล้วพูดว่า

"เอาล่ะ! อย่างน้อยก็ได้ของคืนเรียบร้อยแล้ว รีบกลับไปเขียนงานที่ค้างไว้ต่อดีกว่า"

แล้วเธอก็เดินไปยังป้ายรถเมล์ เพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน

"เธอจะยังจำฉันได้อยู่ไหมนะ? โปจิโกะจัง"

โปจิโกะ: จำได้สิ ฉันตามหาเธอมาตลอดเลยล่ะ!

แล้วทันใดนั้น เธอก็เกิดอาการตกใจขึ้นมาที่ได้ยินเสียงที่แสนคุ้นหูนี้

และเมื่อหันไปมอง เธอก็แทบไม่เชื่อสายตาตนเอง เพราะคนที่เธอกำลังเห็นอยู่คือ...

"โปจิโกะจัง!?"

แล้วทั้งสองก็จ้องมองกันอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่ต่างฝ่ายจะเข้าไปหา และโผล่เข้ากอดกัน

เนียมิ: ในที่สุด ก็เจอกันแล้วสินะ

มิมิ: อืม! ^_^

จากนั้นที่กระเป๋าของเด็กผู้หญิงก็เกิดแสงสว่างขึ้นมา แล้วจากนั้นก็มี "ท่วงสุริยัน" ลอยออกมา

แต่ทว่า... ยังไม่ทันที่ "ท่วงสุริยัน" จะได้ลอยไปยังหอคอยซันนี่ อยู่ๆ ก็มีใครบางคนมาชิงไป

เซ: ฮ่าๆๆ ...ขอฉันเอาไปก่อนล่ะนะ

เนียมิ: เซ!! ╰(‵□′)╯

มิมิ: จะทำอะไรกับท่วงสุริยันน่ะ??

เซ: แน่นอนสิ ฉันก็จะเอาเจ้านี้ไปคืนชีพทานัวร์อีกครั้งยังไงล่ะ ฮ่าๆๆ

เนียมิ: แกนี่มันเลวไม่มีที่ติจริงๆ นะ ...มิมิจัง แปลงร่างอีกรอบ!!

มิมิ: อืม!!

แล้วทั้งสองก็แปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์สอีกครั้ง

แล้วจากนั้นเซก็ได้ถอดผ้าปิดตาของเธอออก แล้วเรียก "ป๊อปคุงสีดำ" ออกมาจากผ้าปิดตาอีกที

เซ: ไปเลย "สัตว์ประหลาด SL" !!

เซโยนป๊อปคุงสีดำไปใส่เรือปั่นที่อยู่ตรงท่าเรือ แล้วจากนั้นป๊อปคุงสีดำก็ทำการหลอมรวมเข้ากับเรือ แล้วกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างเป็ดขนาดมหึมา

ส่วนป๊อปเปอร์สก็เรียกเกียร์วิเศษออกมาอีกครั้ง

ป๊อปพีช: เธอตั้งใจจะทำลายความทรงจำของโปจิโกะเหรอ ฉันไม่ปล่อยไว้แน่!!

เซ: พูดอะไรไม่เห็นเข้าใจเลย ไปจัดการซะ!!

เซสั่งให้สัตว์ประหลาดเริ่มการต่อสู้กับป๊อปเปอร์ส

ป๊อปเลิฟ/พีช: Let's pop'n music together! O(∩_∩)O

===== POP'N BATTLE =====
POPPERS vs สัตว์ประหลาด SL
Mukilteo Beach / CROOVE
===== END BATTLE =====

ผลการแข่งขัน ป๊อปเปอร์สเป็นฝ่ายชนะ

หลังจากที่สัตว์ประหลาดแพ้แล้ว ก็เกิดลำแสงพุ่งออกมาจากตัวที่ละจุดรอบๆ ตัว ก่อนที่ร่างจะแตกสลายกลายเป็นสะเก็ดไฟจำนวนมาก แล้วสะเก็ดไฟก็ค่อยๆ ลอยกลับไปยังจุดเดิมที่อยู่ตรงท่าเรือ และสะเก็ดไฟก็หลอมรวมกันจนกลับคืนเป็นเรือปั่นตามเดิม

ส่วนเซก็หายตัวหนีไป พร้อมกับปล่อย "ท่วงสุริยัน"

แล้วจากนั้น "ท่วงสุริยัน" ก็ได้ลอยไปยังหอคอยซันนี่ แล้วได้ลอยเข้าไปภายในสัญลักษณ์ดวงอาทิตย์ที่อยู่บนยอด แล้วจากนั้นหนึ่งในกลีบทั้ง 6 ของดวงอาทิตย์ก็เปลี่ยนสีจากเทามาเป็นสีเหลือง



มิมิกับเนียมิ ได้รับสแตมป์ดวงที่ 4 เรียบร้อยแล้ว!!

จากนั้นทั้งสองก็กลับร่างเดิม

เนียมิ: ไม่เป็นไรใช่ไหม?

"เมื่อกี้.. มันเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ??"

เด็กผู้หญิงกล่าวด้วยความงุนงง

มิมิ: พวกฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่อย่างน้อยก็ดีแล้วนะที่ปลอดภัย

"อืม!!"

จากนั้นเด็กผู้หญิงหันมาทางโปจิโกะ

"เอาล่ะ งั้นวันนี้พวกเราไปเที่ยวสวนสนุกกันดีกว่านะ!"

แล้วทั้งคู่ก็เตรียมรอขึ้นรถเมล์เพื่อไปยังสวนสนุกที่อยู่ในเขตเมืองด้วยกัน

อินุจิโยะ: เดี๋ยวก่อนสิ!! แล้วผมล่ะ

อินุจิโยะที่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ วิ่งเข้ามาหาโปจิโกะกับเด็กผู้หญิง

เนียมิ: นายมากับพวกเราแทนดีกว่านะ (^_<)☆

อินุจิโยะ: แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นไรกันน่ะ แต่ผมเป็นคนเจอเธอก่อนนะ

โปจิโกะ: ไว้คราวหน้าค่อยมาเล่นกันอีกนะ!

แล้วจากนั้นโปจิโกะก็เข้ามาจูบเขา ทำให้เขาถึงกับยืนนิ่งไปพักหนึ่ง

"แล้วเจอกันใหม่นะ!"

เด็กผู้หญิงกล่าวก่อนที่จะขึ้นรถเมล์ไปพร้อมกับโปจิโกะ

เนียมิ: สำเร็จแล้วนะ! ♪(^∇^*)

มิมิ: ในที่สุดก็เจอหญิงที่ชอบได้สักทีนะ!(^∀^●)

แล้วจากนั้นเขาก็ค่อยๆ น้ำตาไหลออกมา ก่อนที่จะตัดสินใจวิ่งตามรถเมล์ไป ซึ่งรถได้ออกไปไกลมากแล้ว ส่วนทั้งสองก็พลางมองดูอย่างมีความสุข




>>>>> TO BE CONTINUED <<<<<

20 พฤศจิกายน 2565

pop'n music RESPECT : STAGE 40 「สื่อรักจากดวงดาว」

ในวันนี้ทั้งสองได้มุ่งหน้ามายังบริเวณนอกเมืองเพื่อเริ่มต้นการออกผจญภัยในพื้นที่อุทยาน หลังจากที่พวกเธอรวบรวม "ท่วงสุริยัน" ได้ 2 ชิ้น พื้นที่อุทยานก็ได้ฟื้นฟูไปบางส่วน ซึ่งเป็นผลจากแหล่งพลังงานที่ได้ฟื้นคืนของ ฟลอร่า ภูตแห่งธรรมชาติ

เนียมิ: สายลม แสงแดด และใบไม้เขียวขจี!

มิมิ: ได้เวลามาลุยซันนี่พาร์กของจริงกันแล้วล่ะ! \^o^/

ทั้งสองกล่าวด้วยความตื่นเต้น หลังจากที่มาถึงหน้าทางเข้าเขตอุทยานซึ่งมีซุ้มประตูต้อนรับ

เนียมิ: ท่าทางวันนี้จะลุยอุทยานกันได้จริงๆ แล้วสินะ เพราะเริ่มมีนักท่องเที่ยวมาที่นี่กันแล้วล่ะ (แม้จะยังไม่มากเท่าในเขตเมืองก็เถอะ)

เนียมิกล่าวหลังจากที่เห็นผู้คนตรงหน้า

มิมิ: อืม! วันนี้พวกเราต้องคว้าท่วงสุริยันมาอีกให้ได้เลยนะ!

เนียมิ: แต่ฉันก็สงสัยอยู่นิดหนึ่งนะ ท่วงสุริยันนี่ สามารถหาได้จากทุกคนที่มีเรื่องทุกข์ใจเลยเหรอ?

มิมิ: ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันนะ แต่ถ้าดูจากคราวก่อนที่พวกเรารวบรวมมาได้ มันก็อาจจะเป็นอย่างงั้นก็ได้

เนียมิ: งั้นแบบนี้... ถ้าเกิดพวกไทม์เมอร์มีเรื่องทุกข์ใจขึ้นมาที่นี่ เราก็สามารถเรียกท่วงสุริยันจากพวกเขาก็ได้เหมือนกันสิ ใช่ไหม?

มิมิ: ฉันว่าแบบนั้นคงเป็นไปไม่ได้หรอก ฉันว่าคงจะทำได้แค่เฉพาะกับผู้ที่อาศัยอยู่ที่ซันนี่พาร์กนี้เท่านั้น ...หรือพูดให้เข้าใจก็คือ ความสุขของผู้คนที่นี่เป็นแหล่งพลังงานขับเคลื่อนของซันนี่พาร์กยังไงล่ะ!

เนียมิ: อ๋อ เข้าใจแล้ว ถ้าหากทุกคนมีความสุข ซันนี่พาร์กก็จะค่อยๆ กลับมาเขียวขจีสินะ!

มิมิ: ใช่แล้วล่ะ! เธอเข้าใจถูกแล้ว นั่นคือภารกิจของพวกเราที่ต้องช่วยกันทำให้ทุกคนกลับมามีความสุขนะ!

เนียมิ: ถ้างั้นตอนนี้พวกเราก็ไปลุยกันเถอะ!

มิมิ: โอ้!! \^o^/

--------------------------------------------------------------------------------


STAGE 40
「สื่อรักจากดวงดาว」


--------------------------------------------------------------------------------

และแล้วก็ได้เวลาที่ทั้งสองเริ่มออกเดินสำรวจในพื้นที่อุทยาน

อุทยานแห่งนี้บรรยากาศโดยรวมคล้ายกับสวนสาธารณะในเขตเมือง แต่มีพื้นที่ใหญ่กว่ามาก โดยรอบเต็มไปด้วยต้นไม้และทุ่งหญ้า มีถนนคนเดินขนาดเล็กที่ทอดไปตามเส้นทางต่างๆ และระหว่างทางยังมีจุดแวะชุมวิวและพืชพรรณต่างๆ ให้ได้ดูและมีป้ายข้อมูลติดไว้ให้ได้ศึกษาพืชพรรณเหล่านั้นอีกด้วย

แต่เนื่องจากตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วง จึงได้เห็นภาพของต้นไม้สีน้ำตาล-แดงที่ดูตัดกับพื้นหญ้าสีเขียวได้อย่างสวยงาม และแน่นอนว่ามิมิได้ทำการเก็บภาพของพืชพรรณต่างๆ ด้วยกล้องถ่ายรูปไปด้วยตลอดทาง

และหลังจากที่ทั้งสองได้เดินสำรวจมาสักระยะ

เนียมิ: ที่นี่ใหญ่มากจริงๆ เลยนะ

มิมิ: อืม! มันใหญ่เท่ากับจังหวัดหนึ่งเลยล่ะ ต่อให้เดินทั้งวันนี้ยังไงก็เที่ยวได้ไม่ครบทุกที่แน่ๆ

เนียมิ: แต่ว่าพวกเราเดินมากันตั้งนานแล้วนะ แต่ก็ยังไม่เจอใครที่ดูทุกข์ใจเลย

แล้วในทันใดนั้น ทั้งสองก็พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินสวนมาด้วยท่าทางเซ็งๆ

เนียมิ: อ่ะ! Σ( °_°) น่าจะเจอแล้วล่ะ!!

"วันนี้ก็ยังหาไม่เจออีกตามเคย... (>_<。)"

ผู้หญิงคนนั้นกล่าวด้วยท่าทางคอตกเพราะความเซ็ง

เนียมิ: เดี๋ยวก่อนค่ะ!!

ทั้งสองเข้ามาทักตรงหน้า ทำให้เธอต้องหยุดเดิน

"ห๊ะ?"

มิมิ: กำลังมีเรื่องทุกข์ใจอยู่ใช่ไหม เดี๋ยวให้พวกเราช่วยจัดการเองนะ! (^_<)☆

"ว่าแต่... พวกเธอเป็นใครกันเหรอ? (ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย)"

เนียมิ: พวกเราคือ เนียมิ

มิมิ: และฉัน มิมิ ^_^

เนียมิ: แล้วเธอมีเรื่องอะไรกลุ้มใจอยู่เหรอ?

"มันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน พวกเธอไม่ต้องมายุ่งด้วยหรอก"

เนียมิ: แบบนั้นแหละ! ที่พวกเราต้องยิ่งอยากยุ่งด้วยเข้าไปใหญ่เลย!

มิมิ: แล้วเธอมีเรื่องอะไรกลุ้มใจอะไรล่ะ ยอมบอกมาซะเถอะ (ไม่ต้องอาย)

"ก็ได้ๆ ฉันจะยอมบอกแล้วก็ได้ แต่ก่อนหน้านั้น ฉันขอแบทเทิลกับพวกเธอก่อนก็แล้วกันนะ! (^_<)☆"

มิมิ: ได้สิ! พวกเรายินดีรับคำท้า

เนียมิ: แต่ถ้าพวกเราชนะ เธอต้องยอมเล่าตามสัญญานะ

"โอเคเลย! ...อ้อ! ฉันชื่อ "คาโอริน" (kaorin) นะ ยินดีที่ได้รู้จักด้วยล่ะ"

===== POP'N BATTLE =====
Mimi/Nyami vs kaorin
PDM / Trish
===== END BATTLE =====

ผลการแข่งขัน มิมิกับเนียมิ เป็นฝ่ายชนะ

มิมิ: เอาล่ะ แล้วเรื่องกลุ้มใจของเธอคืออะไรกันเหรอ?

คาโอริน: ที่จริงแล้ว.. ฉันมีไอ้นี่น่ะ

คาโอรินหยิบกล้องส่องทางไกลออกมาให้ทั้งสองดู

มิมิ/เนียมิ: กล้องส่องทางไกล??

คาโอริน: มันไม่ใช่กล้องส่องทางไกลธรรมดานะ แต่เป็น "กล้องส่องหารัก" !! ♡

มิมิ: โห้!! เธอมีของแบบนี้ด้วยเหรอ แล้วมันทำอะไรได้ล่ะ? (อยากได้จัง)

คาโอริน: ง่ายๆ แค่ใช้เจ้านี้ส่องไปยังคนที่เป็นเพศตรงข้ามกับเรา แล้วกล้องจะบอกเองว่าคนๆ นั้นเหมาะสมกับเรากี่เปอร์เซ็นต์...!

เนียมิ: งั้นแบบนี้ถ้าฉันใช้นี่ส่องไปที่ไทม์เมอร์ ก็อาจจะ...

แล้วเนียมิก็เกิดอาการหน้าแดงฉ่ำ และนึ่งไปพักหนึ่ง...

เนียมิ: (ทำไมฉันถึงคิดเรื่องแบบนี้อีกแล้วเนี่ย `(*>﹏<*)′)

มิมิ: แล้วเธอได้มาจากไหนเหรอ??

คาโอริน: เออ.. ฉันหามาได้จากร้านขายของเก่าแถวหมู่บ้านฉันน่ะ แต่ที่มาของกล้องจริงๆ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ...ส่วนเรื่องที่ฉันกำลังกลุ้มใจอยู่ก็คือ เมื่อไม่กี่วันก่อนฉันส่องเจอผู้ชายที่ดวงสมรถึง 120% เลยล่ะ! แต่ว่าพอฉันพยายามเข้าไปตีสนิทด้วย ปรากฏว่าเขาผู้นั้นกลับมีเจ้าของอยู่ก่อนแล้ว.. และจนถึงตอนนี้ฉันก็ยังส่องไม่เจอใครที่ดวงสมรถึง 100% เลย...

มิมิ: จะว่าไปก็เหมือนกับฉันเลยนะ...

*สวิตซ์ความหลังของมิมิ ออน!*

มิมิหูตกและตาปรือหลังจากที่ได้จมสู่ความสิ้นหวัง

คาโอริน: แสดงว่าเธอเองก็เคยอกหักมาเหมือนกันสินะ

มิมิ: ใช่แล้วล่ะ แถมหลายครั้งเลยด้วย

มิมิ/คาโอริน: หือๆๆๆ... (┬┬﹏┬┬)

มิมิกับคาโอรินร้องไห้ด้วยกัน

เนียมิ: ต้องสู้สิคะ! ถึงวันนี้จะยังไม่เจอ แต่พรุ่งนี้หรือสักวันต้องได้เจอคนที่ดวงสมรแน่ๆ คะ!

คาโอริน: แต่ฉันก็พลาดท่ามาแบบนี้หลายครั้งแล้วนะ แต่ก็แปลกอยู่อย่างหนึ่งที่พอส่องเจอคนที่ดวงสมรไม่ถึง 100% คนๆ นั้นกลับไม่มีเจ้าของหรือถูกชิงตัดหน้าไปก่อน ทำไมมันถึงเป็นแบบนั้นไปได้?

แล้วจากนั้นมิมิก็นึกอะไรออกได้

มิมิ: Σ(. ❛ ᴗ ❛.)💡 เอ๊!? หรือว่ากล้องนี้จะ...?

คาโอริน: เธอนึกอะไรได้งั้นเหรอ?

มิมิ: หรือว่ากล้องส่องทางไกลนี้ จะสแกนเจอแค่เฉพาะคนที่มีแฟนอยู่แล้วเท่านั้น??

คาโอริน: Σ(. ❛ ᴗ ❛.)💡 อ่อ! จริงสิ

แล้วเธอก็หยิบสมุดบันทึกออกมาจากกระเป๋าสะพายหลัง แล้วเปิดดู

คาโอริน: จริงด้วยสินะ.. ถ้าดูตามสถิติแล้ว เกือบทุกคนที่ไม่ถึง 100% จะโสดสนิทจริงๆ ด้วย

เนียมิ: โห๊! เธอจดมันไว้หมดเลยเหรอ? (⊙_⊙;)

คาโอริน: อืม! ฉันชอบเขียนไดอารี่น่ะ

มิมิ: งั้นก็แปลว่า เธอได้ลองศึกษาคนๆ นั้นดีก่อนแล้วคอยเริ่มลงมือจีบสินะ

คาโอริน: ใช่แล้วล่ะ ฉันจดเอาไว้หมดทุกอย่างเลย ตั้งแต่ ลักษณะนิสัย ความชอบ รวมถึงสถิติอื่นๆ แต่พอได้ลองบุกเข้าไปจริงๆ กลับล้มเหลวทุกครั้งไปได้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

แล้วจากนั้นเนียมิก็หันมาถามมิมิ

เนียมิ: ถึงเวลาที่เราต้องใช้พลังนั้นแล้วหรือยัง?

มิมิ: แต่ฉันว่ารอดูต่อไปก่อนอีกสักพักดีกว่านะ

คาโอริน: นั้นสิ แล้วพวกเธออยากจะดูสถิติเพิ่มไหมล่ะ เดี๋ยวฉันจะพาไปที่บ้านของฉันนะ ฉันจดเอาไว้หลายเล่มเลยล่ะ!

มิมิ: โอเค ไปกันเลย!

--------------------------------------------------------------------------------

แล้วคาโอรินก็พาทั้งสองมายังบ้านของตน ซึ่งมีรูปร่างที่ดูแปลกตา

เนียมิ: นี่คือบ้านของเธอจริงๆ เหรอ? (⊙_⊙;)

มิมิ: อย่างกับหอดูดาวเลย (⊙_⊙;)

คาโอริน: อืม! ครอบครัวของฉันเป็นนักดาราศาสตร์น่ะ ก็เลยสร้างชั้นบนเป็นหอชมดาว

ตัวบ้านเป็นบ้าน 3 ชั้น โดยสองชั้นแรกมีรูปร่างเป็นบ้านทรงธรรมดา แต่ชั้น 3 จะมีลักษณะคล้ายกับโดมส่องดาวที่มีกล้องส่องดาวขนาดยักษ์อยู่ภายในโดม

และหลังจากนั้นเธอก็นำทางทั้งสองมายังห้องส่วนตัวของเธอ ซึ่งอยู่ที่ชั้น 3

คาโอริน: เอาล่ะ เชิญเปิดดูที่ชั้นวางหนังสือกันได้เต็มที่เลย ไม่ต้องเกรงใจ

แล้วจากนั้นทั้งสองจึงเริ่มสำรวจดูที่ชั้นหนังสือ พบว่ามีสมุดบันทึกแบบเดียวกันวางอยู่เต็มชั้นไปหมด

เนียมิ: โห๊! เยอะจริงๆ (⊙_⊙;) (ตอนที่เห็นทีแรก นึกว่าเป็นหนังสือการ์ตูนซะอีกนะ!)

แล้วทั้งสองก็เริ่มสุ่มเลือกหนังสือมาเปิดดู

มิมิ: เขียนเอาไว้ได้ละเอียดจริงๆ มีทั้งสถิติการส่องกล้อง สเปคผู้ชาย รวมไปถึงเรื่องราวประจำวันของคาโอรินด้วยล่ะ (น่าจะเอามาตีพิมพ์ขายได้เลยนะ)

แล้วจากนั้นสักพักเนียมิก็ไปเห็นสมุดแปลกๆ เล่มหนึ่งที่ดูต่างจากเล่มอื่นๆ

เนียมิ: นี่มันอะไรกันน่ะ?

คาโอริน: ห๊ะ! อย่าเปิดเล่มนั้นเชียวนะ ∑( 口 ||

แต่ห้ามไม่ทันการ เนียมิได้เปิดออกมาแล้วเรียบร้อย

และสิ่งที่เห็นภายในสมุดเล่มนั้น คือรูปวาดของสิ่งมีชีวิตหน้าตาน่ารักตัวหนึ่ง

เนียมิ: นี่มันคือตัวอะไรกันเนี่ย?

มิมิ: ไหนดูด้วยสิ

ส่วนคาโอรินก็เกิดอาการแฮงค์หน้าแดงฉ่ำด้วยความอายไปพักหนึ่ง

สิ่งมีชีวิตตัวนี้มีรูปร่างเป็นดาวสีฟ้าที่มีหน้าตา

มิมิ: น่ารักจังเลยนะ คาโอรินเป็นคนวาดเหรอเนี่ย?

และเมื่อลองเปิดดูหน้าอื่นไปเรื่อยๆ ก็พบรูปเดียวกันในอริยาบทที่แตกต่างกัน

เนียมิ: วาดได้สวยมากเลยนะ เธอเองก็มีพรสวรรค์ด้านการวาดภาพเหมือนกันนะ

คาโอริน: ใช่แล้วล่ะ ฉันเป็นคนวาดเองแหละ แต่ฉันก็ไม่ได้วาดรูปเก่งอะไรหรอกนะ ฉันจะวาดมันเล่นๆ ตอนช่วงที่ไม่รู้จะเขียนอะไรน่ะ

เนียมิ: แล้วเจ้าตัวนี้มีชื่อหรือเปล่า?

คาโอริน: มีสิ ชื่อ "แฮปปี้" (HAPPPY) น่ะ เขาเป็นดวงดาวแห่งการพบพาน

เนียมิ: ดวงดาวแห่งการพบพาน??

คาโอริน: อืม! เป็นดาวน้อยที่ล่องลอยอยู่ในอวกาศอันแสนสดใส เป็นดาวที่นำพาทั้งความรักและความหวังมาให้กับผู้ที่พบเห็น หากใครที่ได้เห็นดาวหางของเจ้าตัวนี้บนท้องฟ้าแล้วอธิษฐาน ก็จะทำให้ได้สมหวังกับสิ่งนั้นๆ ตลอดไป ...ฉันจะวาดตัวนี้ขึ้นมาทุกครั้งที่ภารกิจของฉันล้มเหลว บางทีถ้าหากฉันได้พบกับเจ้าแฮปปี้จริงๆ ฉันอาจจะสมหวังในความรักก็เป็นได้... (┬┬﹏┬┬)

แล้วทั้งสองก็หันมามองหน้ากัน

เนียมิ: คงถึงเวลาต้องใช้พลังป๊อปเปอร์สกันแล้วล่ะ

มิมิ: อืม!

แล้วทั้งสองก็หันกลับมาทางคาโอริน

เนียมิ: ไม่เป็นไรคะ เดี๋ยวพวกเราจะช่วยทำให้เรื่องนั้นเป็นจริงเอง!

คาโอริน: เอ๊!? พวกเธอพูดเรื่องอะไรน่ะ

มิมิ: ไม่ต้องห่วง รับรองคืนนี้เธอได้เจอจริงๆ แน่

คาโอริน: อะอืม เข้าใจแล้วล่ะ แต่ก็ขอบคุณล่วงหน้านะ ถ้าหากเรื่องนั้นเป็นจริงได้ขึ้นมา! ^_^ ...แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ฉันกลับมามีกำลังใจสู้ต่ออีกครั้งแล้วล่ะ ถึงวันนี้จะยังไม่ได้ แต่พรุ่งนี้ก็ต้องทำให้ได้เลย!! ขอบใจพวกเธอด้วยอีกครั้งนะ! เป็นเพราะพวกเธอแท้ๆ เลยฉันถึงได้กลับมาคืนชีพอีกครั้ง

มิมิ: อืม! พรุ่งนี้ก็พยายามเข้านะ! ^_^

เนียมิ: อย่ายอมแพ้แบบวันนี้อีกล่ะ!

--------------------------------------------------------------------------------

เวลาผ่านไปจนถึงช่วงดึก ทั้งสองได้กลับมายังหน้าบ้านของคาโอรินอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้เธอได้ปิดไฟนอนไปแล้ว

ทั้งสองได้วางแผนว่าจะใช้พลังของเกียร์วิเศษสสานฝันให้เป็นความจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังไม่เคยทำมาก่อน

เนียมิ: พวกเราจะทำแบบนั้นได้จริงๆ เหรอ?

มิมิ: เชื่อมั่นในพลังของป๊อปเปอร์สสิ พวกเราก็ใช้พลังนี้ช่วยเหลือผู้คนมาได้ตั้งหลายครั้งแล้วนะ!

เนียมิ: แต่ฉันก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดีว่าพลังนี้ตกลงมันเอาไว้ใช้ต่อสู้หรือทำอะไรกันแน่

มิมิ: เอาหนา ถ้าหากพลังนี้มีไว้เพื่อผดุงคุณธรรม ก็ต้องทำได้อยู่แล้วล่ะนะ

เนียมิ: อืม! นั้นสินะ ถ้าเราใช้เพื่อผดุงคุณธรรมละก็ ยังไงก็ต้องได้ผลอยู่แล้วล่ะ งั้นมาเริ่มกันเลยเถอะ

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ยกแขนข้างที่สวมกำไลแปลงร่างขึ้นมา แล้วตะโกนว่า

มิมิ/เนียมิ: "ป๊อปปินแปลงร่าง!!"

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็แปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์ส

จากนั้นทั้งคู่ก็เรียกเกียร์วิเศษออกมาจากเข็มกลัดบนชุด โดยมีลูกพลังออกมาจากเข็มกลัด ก่อนที่ลูกพลังทั้งสองจะเข้ามาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน แล้วจากนั้นลูกพลังก็แปลงสภาพกลายเป็นเกียร์อีกที

ป๊อปเลิฟ/พีช: Let's pop'n music together! O(∩_∩)O

===== POP'N MUSIC =====
별빛정원 (Starlight garden) / vneld

ทันทีที่เริ่มเล่นป๊อปปิน ก็เกิดคลื่นแสงสีฟ้าขึ้นมารอบตัวของคาโอรินอยู่สักพักหนึ่งก่อนที่จะหายไป

และสักพัก เธอก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ

แล้วทันใดทันก็เกิดแสงสว่างขึ้นที่หน้าต่างวูบหนึ่ง

คาโอริน: ห๊ะ!? (⊙ˍ⊙)

เธอได้ตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจหลังจากที่ได้เห็นแสงประหลาดนั้น

แล้วจากนั้นเธอจึงรีบมาส่องดูตรงหน้าต่าง ก็พบกับเสาแสงที่ส่องขึ้นสู่ท้องฟ้ามาจากที่ๆ ห่างไกลออกไป

คาโอริน: หรือว่าจะเป็น...? o((⊙﹏⊙))o

จากนั้นในเวลาต่อมาเธอจึงได้รีบแต่งตัวเพื่อออกไปดูยังจุดที่มีเสาแสงประหลาดนั้น

เธอวิ่งมาเรื่อยๆ จนมาถึงบริเวณเขตเมือง ซึ่งเมื่อมาถึงเสาแสงก็ได้จางหายไปพอดี

คาโอริน: ห..หายไปแล้ว!? (⊙_⊙;)

แต่เธอก็ยังไม่ละความพยายาม เธอตัดสินใจมุ่งหน้าไปตามทิศทางที่ได้เห็นแสงเมื่อสักครู่

แล้วจากนั้นก็มาจนถึงบริเวณซอยแคบที่คันระหว่างอาคารทั้งสองหลัง และในทันใดนั้นเธอก็พบกับแสงอ่อนๆ ที่ส่องมาจากซอยแคบตรงหน้า

จากนั้นเธอจึงตัดสินใจใช้กล้องส่องทางไกลวิเศษ เพื่อดูสิ่งที่เห็นตรงหน้าจากระยะไกลเพื่อความปลอดภัย

สิ่งที่เธอเห็นก็คือ... ตัวประหลาดที่มีรูปร่างคล้ายกับตัวละครที่เธอชอบวาดเล่นเป็นประจำ พร้อมกับค่าดวงสมรที่สูงถึง 2,000% !!

คาโอริน: สองพันเปอร์เซ็นต์ เลยเหรอ!? ((⊙﹏⊙))o (มันอะไรกันน่ะ)

จากนั้นเธอจึงค่อยๆ เดินเข้าไปหาตัวนั้นที่ยังคงเปล่งแสงอ่อนๆ ออกมา

และเมื่อเข้ามาจนถึงตัวแล้ว ก็พบว่าเป็นตัวละครที่เธอวาดจริงๆ

คาโอริน: ห๊ะ แฮปปี้จัง!! ∑(°ロ°)

แล้วเธอก็เข้ามาดูใกล้ๆ เพื่อตรวจเช็คอีกครั้ง พบว่าเขาอยู่ในสภาพบาดเจ็บและหมดสติ

คาโอริน: เธอบาดเจ็บอย่างงั้นเหรอเนี่ย!?

แล้วเธอก็คิดหาทางช่วยเหลือเขาทุกวิถีทาง

คาโอริน: ไม่นึกเลยว่าสิ่งที่ มิมิกับเนียมิ ทำนายไว้จะเป็นเรื่องจริง ...แต่ก่อนอื่นต้องรีบนำตัวไปรักษาก่อนล่ะ!

แล้วเธอจึงรีบนำแฮปปี้กลับมาที่บ้านของเธอ

--------------------------------------------------------------------------------

เมื่อกลับมาถึง เธอจึงทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้นตามหนังสือที่เธอหยิบมาดู

คาโอริน: ไม่รู้ว่าจะใช้ได้ผลกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกหรือเปล่า แต่ก็ต้องลองดูล่ะ

เมื่อเสร็จแล้ว เธอจึงปิดไฟห้องเพื่อนอนต่อ

ผ่านไปสักระยะ แฮปปี้ก็ได้ตื่นขึ้นมา แล้วลอยเข้ามาหาคาโอรินที่กำลังนอนหันหลังให้

แล้วหลังจากนั้นแฮปปี้ก็ได้ยิ้มออกมา ก่อนที่จะเปล่งแสงออกมาจากตัว ซึ่งแสงนี้ได้ส่องสว่างไปทั่วทั้งห้องอยู่วูบหนึ่ง

จากนั้นอยู่ๆ คาโอรินก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา

เธอค่อยๆ ลุกขึ้นมาอีกครั้ง และเมื่อลืมตาขึ้นมาจนสุดแล้ว เธอก็ต้องแปลกใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า

คาโอริน: ห๊ะ!? (⊙ˍ⊙)

สิ่งที่เธอเห็นในตอนนี้คือ เธอได้มาอยู่ภายในสวนดอกไม้แห่งหนึ่งที่อยู่กลางแจ้ง

คาโอริน: นี่เรา... มาอยู่ที่ไหนกันละเนี่ย??

"ขอบคุณที่ช่วยนะ!"

เสียงประหลาดดังขึ้นมา เธอจึงหันมามอง ก็พบกับแฮปปี้ที่ลอยอยู่ข้างๆ เธอ

คาโอริน: แฮปปี้จัง!! ∑(°ロ°)

คาโอรินเข้าไปหาแฮปปี้

คาโอริน: ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ แล้วนี่ฉันมาอยู่ที่ไหนกันแน่??

แฮปปี้: ที่นี่เป็น "สวนแห่งแสงดาว" เป็นสถานที่ๆ ฉันอาศัยอยู่ไงล่ะ!

คาโอริน: สวนแห่งแสงดาว? แล้วมันอยู่ที่ไหนบนโลกกันล่ะ?? (ฉันไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลย)

แฮปปี้: ที่นี่เป็นมิติพิเศษที่มีเพียงแค่เฉพาะฉันกับเธอเท่านั้นที่เข้ามาได้

คาโอริน: มิติพิเศษ? มันยังไงกันน่ะ?

แฮปปี้: ปกติแล้วชาวดาวหางจะใช้เวลาพักผ่อนจากการท่องอวกาศอันยาวนานอยู่ในสวนแห่งนี้ เป็นสถานที่เฉพาะที่มีเพียงชาวดาวหางเท่านั้นที่เข้ามาได้ ...แต่ที่เธอเข้ามาที่นี่ได้ก็เพราะเธอได้ช่วยฉันเอาไว้ ฉันจึงอนุญาตให้เธอเข้ามาได้เป็นกรณีพิเศษยังไงล่ะ! ^_^

คาโอริน: แบบนี้นี่เอง...

แฮปปี้: และฉันก็ได้เฝ้ามองเธอวาดรูปของฉันจากโคจรโลกแล้วล่ะ เธอวาดได้เหมือนฉันมากเลยนะ! ^_^

แล้วเธอก็มองแฮปปี้อยู่พักหนึ่งด้วยความรู้สึกที่อบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะมันนานมากแล้วจริงๆ ที่ไม่มีคนชื่นชมเธอแบบนี้

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ท่องไปในทุ่งสวนแสงดาวด้วยกัน ภายใต้ฝูงดาวหางที่พุ่งผ่านบนฟ้าเป็นระยะให้ได้ชมกันอย่างน่าประทับใจ

คาโอริน: นั่นสินะ ถึงแม้ 2,000% ในครั้งนี้อาจจะยังไม่ใช่ "รักแท้" ที่กำลังตามหาอยู่ แต่นี่ก็อาจจะเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ฉันกำลังขาดไปอยู่ก็เป็นได้... แฮปปี้ เธอช่วยทำให้ฉันมีความสุขจริงๆ ขอบคุณนะ!
===== END MUSIC =====

จากนั้นที่ห้องนอนของคาโอรินก็เกิดแสงสว่างขึ้นที่สมุดภาพวาด แล้วจากนั้นก็มี "ท่วงสุริยัน" ลอยออกมา

แล้วจากนั้น "ท่วงสุริยัน" ก็ได้ลอยไปยังหอคอยซันนี่ แล้วได้ลอยเข้าไปภายในสัญลักษณ์ดวงอาทิตย์ที่อยู่บนยอด แล้วจากนั้นหนึ่งในกลีบทั้ง 6 ของดวงอาทิตย์ก็เปลี่ยนสีจากเทามาเป็นสีเหลือง



มิมิกับเนียมิ ได้รับสแตมป์ดวงที่ 3 เรียบร้อยแล้ว!!

ส่วนทั้งสองก็หันมามองกัน แล้วยิ้มให้กันด้วยความยินดี ก่อนที่จะกลับโรงแรมไป




>>>>> TO BE CONTINUED <<<<<

15 พฤศจิกายน 2565

pop'n music RESPECT : STAGE 39 「ตุ๊กตาที่เหมือนกับเธอ」

เช้าวันต่อมา ณ พักห้องในโรงแรม

มิมิ: ข่าวใหญ่จ้า! ข่าวใหญ่! o(*^@^*)o

มิมิรีบเข้ามาหาเนียมิที่กำลังกินขนมปังอยู่

เนียมิ: มีอะไรเหรอ?

มิมิ: ก็ดูนี่สิ!

มิมิยื่นจอมือถือให้เนียมิดูข่าวบางอย่าง

เนียมิ: "สวนสนุกชายนิ่งแห่งซันนี่พาร์กเตรียมกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งวันนี้" ...เอ๊ จริงดิ!? (⊙_⊙)?

มิมิ: จริงแน่นอน! คาดว่าคงจะเป็นเพราะที่พวกเราทำให้เขตอุทยานบางส่วนกลับเป็นเหมือนเดิมได้ บวกกับความนิยมของร้านคาเฟ่ในสวนฯ ชั่วข้ามคืน เลยส่งผลให้เริ่มมีนักท่องเที่ยวกลับมาเยือนอีกครั้ง และผลที่ตามมาก็คือ ตอนนี้เริ่มมีกิจการบางส่วนกลับมาเปิดทำการอีกครั้งแล้วยังไงล่ะ!

เนียมิ: โห้!! แบบนี้เอง งั้นวันนี้พวกเราก็ไปลุยสวนสนุกกันนะ! (∩_∩)

มิมิ: โอเค!! (*^▽^*)

--------------------------------------------------------------------------------


STAGE 39
「ตุ๊กตาที่เหมือนกับเธอ」


--------------------------------------------------------------------------------

เวลาต่อมา ทั้งสองได้เดินทางมายัง "สวนสนุกชายนิ่ง" ซึ่งตอนนี้ได้กลับมาเปิดทำการอีกครั้งแล้ว

เนียมิ: โห้!! เปิดจริงๆ แล้วด้วยแฮะ! o(*°▽°*)o

มิมิ: แถมคนก็มาเยอะมากๆ ด้วยล่ะ!

จากนั้นทั้งสองจึงซื้อตั๋วหน้าทางเข้า และเมื่อซื้อแล้วก็เดินผ่านประตูทางเข้าเพื่อเข้าไปยังภายในเขตสวนสนุก

สวนสนุกแห่งนี้มีลักษณะคล้ายกับสวนสนุกทั่วไปในญี่ปุ่น โดยโซนแรกเมื่อเดินผ่านประตูทางเข้ามาเป็นโซนร้านค้าที่มีอาคารเป็นบ้านสไตล์ยุโรปตั้งอยู่ตลอดสองข้างทาง มิมิเดินส่องดูร้านต่างๆ ด้วยความสนใจ

มิมิ: มีร้านค้าที่ขายของน่ารักๆ เต็มไปหมดเลยนะ! (จะมีร้านซานริโอไหมนะ?)

และเมื่อเดินต่อมาได้สักพักก็เจอกับทางแยกไปยังโซนต่างๆ ภายในสวนสนุก ซึ่งตรงหน้ามีรางรถไฟเหาะที่เห็นได้มาแต่ไกล

มิมิ: เอาล่ะ จะไปที่ไหนกันก่อนดีล่ะ? (ฉันให้เธอเลือกเองเลย!)

เนียมิ: ก็แน่นอนสิ ต้องเป็นรถไฟเหาะก่อนอยู่แล้ว! (^∀^●)ノシ

ทั้งสองเดินไปขึ้นเครื่องเล่นรถไฟเหาะที่อยู่ทางตรงหน้า ซึ่งรางมีลักษณะเส้นทางที่ดูยุ่งเหยิงและยิ่งใหญ่ โดยก่อนขึ้นทั้งสองได้ถอดกล้องและหมวกออก และฝากไว้กับตู้ล็อคเกอร์ของเครื่องเล่น

เนียมิ: ว้าว!! เจ๋งไปเลย! \^o^/

และหลังจากที่ทั้งสองเล่นเสร็จแล้ว มิมิก็อยู่ในสภาพหน้ามืดตามัว

เนียมิ: เป็นอะไรหรือเปล่า?

มิมิ: เฮ่อ.. ทีหลังเธอขึ้นไปคนเดียวเถอะนะ ฉันไม่เอาด้วยแล้ว... ≡(▔﹏▔)≡

เนียมิ: ไม่ไหวเหรอ ขอโทษด้วยนะ ..งั้นเดี๋ยวฉันไปซื้อลูกอมเย็นๆ มาให้แก้เมารถไฟนะ!

จากนั้นทั้งสองก็ไปซื้อลูกอมที่ซุ้มร้านค้าเล็กๆ ข้างทาง

เนียมิ: อ้าว! นี่

เนียมิส่งลูกอมชุ่มคอให้มิมิ

มิมิ: ขอบใจนะ

มิมิรับไปอม

"อ้าว! นั่นมันพวกเธอเองไม่ใช่เหรอ"

อยู่ๆ ก็มีเสียงเรียกที่คุ้นหูทักขึ้นมา ทั้งสองจึงหันไปมอง ก็พบว่าเป็น...

เนียมิ: ห๊ะ ริเอะจัง!!

มิมิ: ซานาเอะจัง!!

ริเอะ: ไง! มิมิจัง กับ เนียมิจัง ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยนะ (*^_^*)

เนียมิ: พวกเธอมาที่นี่กันด้วยเหรอ บังเอิญจังเลยนะ แล้วมาทำอะไรกันล่ะ?

ริเอะ: มาเที่ยวเล่นน่ะ ^_^

ซานาเอะ: ใช่แล้วล่ะ! พวกเราตั้งใจมาที่นี่เพราะร้านคาเฟ่ที่เขาแนะนำกันในเน็ตน่ะ อาหารที่นั่นเขาเยี่ยมสมคำร่ำลือจริงๆ ^_^ ไม่เสียดายเปล่าที่ลงทุนนั่งรถไฟมา 1 วันเต็มๆ เลยล่ะ!

มิมิ: แสดงว่าร้านคาเฟ่นั่นจะกระแสแรงมากจริงๆ สินะ ^_^

ซานาเอะ: อืม! ที่กระแสแรงก็เพราะร้านนั้นนอกจากอาหารจะอร่อยแล้ว ยังตั้งอยู่ภายในสวนสาธารณะอีกด้วย ซึ่งเป็นภาพที่หาดูได้ยากจริงๆ (ในญี่ปุ่นมีเพียงไม่กี่ที่)

ริเอะ: แถมรอบๆ สวนยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะกับการพักร้อนตั้งอยู่ติดๆ กันอีก ก็เลยกลายเป็นคอมโบที่ลงตัวสุดๆ เลยล่ะ!

เนียมิ: แล้วเรื่องของริเอะกับอิเคทานิเป็นยังไงบ้างล่ะ? พัฒนาไปถึงไหนแล้ว?

ริเอะ: เออ คือว่าเรื่องนั้น... ฉันเลิกคบกับเขาแล้วล่ะ...

มิมิ/เนียมิ: เอ๋!?? ∑(°ロ°)

ทั้งสองตะโกนออกมาด้วยความตกใจ

มิมิ: ทำไมล่ะ??

ริเอะ: ความจริงแล้วมันเป็นความผิดของฉันเองแหละ... ที่จริงแล้วนอกจากอิเคทานิคุง ฉันยังมีอีกคนหนึ่งที่แอบชอบอยู่ด้วยเหมือนกัน เขาผู้นั้นชื่อ "สุงิคุง" (Sugi★kun) เป็นนักดนตรีที่ฉันชื่นชอบอยู่ แต่ว่าฉันแค่ติดตามเขาในฐานะศิลปินคนหนึ่งเท่านั้นนะ ไม่ได้คิดจะคบหาจริงจังเลย... แต่ว่ามาวันหนึ่งในระหว่างที่ฉันกำลังเดทกับอิเคทานิคุงนั้น เขาก็บังเอิญมาเห็นอัลบั้มรูปของสุงิคุงในกระเป๋าของฉัน และหลังจากวันนั้นเขาก็ไม่ได้ติดต่อหรือมาหาฉันอีกเลย จึงคิดว่าเขาคงจะตัดสินใจเลิกคบกับฉันไปแล้ว... (˘・_・˘)

มิมิ: อย่างนี้เอง เป็นเรี่องเข้าใจผิดสินะ

ซานาเอะ: และนัดเดทครั้งล่าสุดของริเอะจัง เขาก็ไม่ได้มาตามนัดด้วยนะ ริเอะยืนรอที่จุดนัดพบตั้งแต่เที่ยงจนถึงดึกเลยล่ะ... (ถึงสี่ทุ่มกว่าๆ)

เนียมิ: ฉันว่าเรื่องนั้นเอาไว้คุยกันต่อทีหลังเถอะ ไหนๆ ก็ได้เจอกันอีกครั้งแล้ว จะมาร่วมวงกับพวกเราด้วยไหมล่ะ?

ริเอะ: ก็เอาสิ ^_^

แล้วจากนั้นทั้งสองจึงได้มารวมกลุ่มกับ มิมิ เนียมิ เพื่อไปเที่ยวด้วยกัน

--------------------------------------------------------------------------------

เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง หลังจากที่ทั้งสี่เล่นเครื่องเล่นต่างๆ ด้วยกันมาได้สักพัก ก็ถึงเวลามานั่งกินมื้อเที่ยงที่โซนศูนย์อาหาร

ริเอะ: วันนี้สนุกมากๆ เลย ต้องขอบคุณด้วยจริงๆ นะ! ^_^

เนียมิ: อืม! แล้วไว้คราวหน้าถ้าได้เจอกันอีก ก็มาเที่ยวด้วยกันอีกได้นะ!

ซานาเอะ: แน่นอนอยู่แล้ว! (^_<)☆

มิมิ: แล้วหลังจากกินเสร็จพวกเธอจะไปกันแล้วเหรอ? ยังไม่ทันตกเย็นเลยนะ...?

ริเอะ: อืม! พวกเรายังมีอีกหลายทีที่อยากไปน่ะ

เนียมิ: อืม! งั้นก็ขอให้สนุกนะ ^_^

มิมิ: ว่าแต่.. แล้วเรื่องงานเพลงของซานาเอะจังล่ะ เป็นยังไงบ้าง?

ซานาเอะ: อืม! ไปได้สวยเลยล่ะ ตอนนี้ฉันได้เดบิวเป็นศิลปินอย่างเต็มตัวแล้ว และในอีกไม่นานฉันกำลังจะออกซิงเกิ้ลใหม่แล้วด้วยนะ!

มิมิ: จริงเหรอ!? ขอแสดงความยินดีด้วยนะ! ^_^

เนียมิ: แล้วเป็นเพลงแบบไหนล่ะ?

ซานาเอะ: ความลับจ๊ะ! (^_<)☆

เนียมิ: โห.. บอกกันหน่อยไม่ได้เหรอ? (*  ̄︿ ̄)

ซานาเอะ: ถ้าบอกในที่สาธารณะแบบนี้ ความลับก็แตกกันหมดสิ!

มิมิ: นั่นสินะ!

แล้วทั้งสี่ก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

--------------------------------------------------------------------------------

และหลังจากที่กินเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องจากลากัน

เนียมิ: แล้วเจอกันใหม่นะ! (*^▽^*)┛

ริเอะ: บ๊ายบายจ้า! (*^▽^*)┛

ริเอะกล่าวส่งท้าย ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินจากไป

เนียมิ: เอาล่ะ พวกเราก็มาลุยที่นี่กันต่อนะ!

มิมิ: อืม!!

จากนั้นทั้งสองก็ไปยังบริเวณชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ที่มีขนาดค่อนข้างสูงพอสมควร

เนียมิ: ต่อไปเราก็มานั่งเจ้านี้กันนะ!

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ขึ้นไปนั่งบนกระเช้า และในเวลาต่อมาหลังจากที่กระเช้าเลื่อนขึ้นไปตามทิศเข็มนาฬิกาแล้ว ก็ทำให้ได้เห็นบรรยากาศโดยรอบของสวนสนุกรวมไปถึงบริเวณรอบๆ เมืองจากมุมสูง ซึ่งสามารถเห็นสถานที่ต่างๆ ได้แต่ไกลเกือบทั้งหมด และได้เห็นบริเวณเขตอุทยาน(นอกเมือง)อีกเล็กน้อยแต่ไม่ชัดมากนัก

เนียมิ: นี่เหรอ รอบๆ เมืองของซันนี่พาร์ก ดูสวยมากเลยนะ!

มิมิ: แต่ถ้ามาในช่วงฤดูร้อนก็คงจะได้เห็นวิวสีเขียวสดใสเต็มไปหมดแน่ๆ เลยล่ะ เพราะตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วงต้นไม้เลยกลายเป็นสีน้ำตาลปนแดงแทน

แล้วจากนั้นเนียมิก็บังเอิญหันไปเห็นตุ๊กตาตัวหนึ่งที่ตกอยู่บนพื้นกระเช้า เธอจึงหยิบมันขึ้นมาดู

เนียมิ: เอ๊!? นี่มันของใครกันน่ะ?

ตุ๊กตาตัวนี้มีลักษณะเป็นเด็กผู้หญิงชุดสีม่วงใส่หมวกคล้ายสตรอว์เบอร์รี่

มิมิ: ใครลืมทิ้งไว้บนนี้กันนะ? (แต่ดูน่ารักมากเลยล่ะ)

เนียมิ: เอาเป็นว่าหลังจากที่ลงชิงช้าแล้ว เราไปฝากไว้กับประชาสัมพันธ์ก่อนดีกว่า

มิมิ: อืม!!

และเวลาต่อมาหลังจากที่กระเช้าเลื่อนจนครบรอบและลงจากกระเช้าแล้ว ทั้งสองจึงมุ่งหน้าไปยังจุดประชาสัมพันธ์เพื่อนำตุ๊กตาไปฝากตามหาเจ้าของ

แต่ในระหว่างทางนั้น ก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งมาเห็นตุ๊กตาตัวนั้นเข้า

"อ่ะ! Σ( °_°) นั่นมัน..."

แล้วเขาก็ได้เดินเข้ามาทักทั้งสอง

"นี่ๆ พวกพี่ครับ..."

มิมิ: อ้าว! มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า?

"คือว่า.. นั่นมันตุ๊กตาของผมเองแหละครับ!"

มิมิ: เอ๊!? จริงเหรอ พวกเราเจอมันตกอยู่บนชิงช้าสวรรค์น่ะ และกำลังจะเอาไปฝากให้กับประชาสัมพันธ์เพื่อให้เขาช่วยตามหาเจ้าของอยู่พอดีเลยล่ะ!

"งั้นเหรอครับ ขอบคุณมากเลยนะครับ! (*^_^*)"

เขาโค้งตัวขอบคุณ ก่อนที่มิมิจะคืนตุ๊กตาตัวนั้นให้กับเขาไป

"แสดงว่าผมคงลืมไว้บนชิงช้าสวรรค์ด้วยจริงๆ สินะ เพราะเมื่อกี้ผมก็เพิ่งไปนั่งชิงช้าสวรรค์มาพอดี ^_^"

มิมิ: แต่ขอถามอะไรนิดหนึ่งนะ ..ตุ๊กตาตัวนี้เธอได้มาจากไหนเหรอ? มันดูน่ารักมากเลยนะ!

"ครับ! ที่จริงแล้วตุ๊กตาตัวนี้เป็นคนที่ผมกำลังแอบชอบอยู่เอง!"

เนียมิ: เอ๋!? Σ( °_°) หมายความว่ายังไง

"คือ.. ที่จริงผมกำลังแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาเหมือนกับตุ๊กตาตัวนี้อยู่ และได้ยินมาว่าเธอจะมาเที่ยวที่สวนสนุกในวันนี้ด้วย ก็เลยกะว่าจะมอบตุ๊กตาตัวนี้ให้เป็นของขวัญ"

มิมิ: แค่หาเด็กผู้หญิงที่เหมือนกับตุ๊กตานี่ให้เจอสินะ เดี๋ยวพวกฉันจัดการให้เอง! (^_<)☆

"เอ๊!? แต่ว่า... ผมไม่กล้า (˘・_・˘)"

เนียมิ: ไม่ต้องอายไปหรอก เดี๋ยวพวกเราจะหาวิธีที่ทำให้นายใกล้ชิดกับเธอให้ได้เอง! นะ!

"งั้นก็.. ได้ครับ แล้วพวกพี่ชื่ออะไรกันเหรอ?"

เนียมิ: พวกเราคือ เนียมิ

มิมิ: และฉัน มิมิ ^_^

"ผมชื่อ "คุกกี้" (COOKIE) ยินดีที่ได้รู้จักนะ ^_^"

แล้วจากนั้นทั้งหมดจึงเริ่มออกตามหาเด็กผู้หญิงที่เหมือนกับตุ๊กตาตัวนี้

มิมิ: ว่าแต่นายมีเรื่องทุกข์ใจอะไรหรือเปล่า?

คุกกี้: ก็.. ไม่มีนะ?

เนียมิ: แต่ฉันว่าคงต้องเป็นเรื่องผู้หญิงที่นายชอบอยู่แน่ๆ เลยล่ะ เพราะดูแค่สีหน้าเมื่อกี้ก็รู้แล้ว

และหลังจากที่เดินต่อมาได้สักพัก ก็มีเสียงประกาศขึ้นมา

"ขณะนี้ได้เกิดเหตุขัดข้องกับเครื่องเล่น วี-ทาวน์เวอร์ (V-Tower) ที่นั่งได้หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ และทางสวนสนุกกำลังส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน ต้องขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ"

เนียมิ: เครื่องเล่น วี-ทาวน์เวอร์ เหรอ??

มิมิ: คิดว่าคงจะเป็นเครื่องเล่นหอคอยสูงๆ มีที่นั่งดิ่งขึ้นดิ่งลงน่ะ

เนียมิ: อ๋อ งั้นลองไปดูกันเถอะ อาจจะเจอเธอที่นั่นก็ได้

แล้วทั้งสามก็รีบมุ่งหน้าไปยังหน้าเครื่องเล่น วี-ทาวน์เวอร์

เนียมิ: ห๊ะ นั่นมัน...!

สิ่งที่พวกเธอเห็นก็คือ.. มี "เด็กผู้หญิงที่เหมือนกับตุ๊กตา" ติดอยู่บนนั้น

มิมิ: ในที่สุดก็เจอตัวแล้วล่ะ แต่ว่าเธอจะติดอยู่บนนั้นนะ!

แล้วทั้งคู่ก็ได้สอดส่องไปมาโดยรอบ เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์

เนียมิ: ฉันว่ารอให้หน่วยกู้ภัยมาช่วยคงไม่ทันการณ์แน่ มิมิ แปลงร่าง!

มิมิ: อืม!!

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ไปซ่อนตัวในมุมบริเวณสุขาสาธารณะ ก่อนที่จะยกแขนข้างที่สวมกำไลแปลงร่างขึ้นมา แล้วตะโกนว่า

มิมิ/เนียมิ: "ป๊อปปินแปลงร่าง!!"

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็แปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์ส

จากนั้นทั้งคู่ก็ได้ใช้ "ป๊อปเปอร์สปีดเดอร์" โรลเลอร์เบลดความเร็วสูง แล้วบินขึ้นไปช่วยเด็กผู้หญิงรวมถึงทุกคนที่ติดอยู่บนเครื่องเล่นดังกล่าว

และเวลาต่อมาหลังจากที่ทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว

"ต้องขอบคุณพวกเธอมากๆ เลยนะ ถ้าไม่ได้พวกเธอช่วยไว้ละก็ ทุกคนก็คงไม่รอดแน่ๆ"

พนักงานที่ควบคุมเครื่องเล่นกล่าวขอบคุณ

ป๊อปเลิฟ/พีช: ค่ะ!! ^_^

แล้วป๊อปพีชก็หันมาถาม เด็กผู้หญิงที่เหมือนกับตุ๊กตา

ป๊อปพีช: เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?

"ค่ะ! หนูไม่เป็นไร"

ป๊อปเลิฟ: ถ้าอย่างงั้น...

ป๊อปเลิฟหันมามองหน้าคุกกี้

ป๊อปเลิฟ: ขอให้โชคดีกับการเดทนะ! (^_<)☆

คุกกี้: เออ.. ครับ!

คุกกี้ยังงงๆ เพราะไม่เข้าใจว่าพวกเธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไรกับเขา จากนั้นทั้งคู่ก็ได้กลับไปซ่อนตัวที่เดิมแล้วกลับร่างเดิม ก่อนที่จะเดินกลับมาหาคุกกี้

คุกกี้มองดูที่ตุ๊กตาของตัวเองอยู่พักหนึ่ง แล้วหันมามองเด็กผู้หญิงที่เหมือนกับตุ๊กตา ซึ่งเธอกำลังสนใจในสิ่งอื่นอยู่

คุกกี้: (หืม.. ยังไงก็ไม่กล้าจริงๆ นั่นแหละ >︿<)

มิมิ: ไม่กล้ามอบให้อย่างงั้นเหรอ?!

ทั้งคู่ที่แอบดูเหตุการณ์อยู่หลังเสาไฟกล่าวขึ้นมา

เนียมิ: ดูเหมือนว่าเราจะต้องทำอะไรให้สักอย่างนะ

มิมิ: อืม!!

และเป็นจังหวะเดียวกับที่เด็กผู้หญิงกำลังจะเดินจากไป

คุกกี้: เออ..! เดี๋ยวก่อนครับ!!

คุกกี้ตะโกนเรียกเด็กผู้หญิงคนนั้น ทำให้เธอหันกลับมา

"อ้าว! คุกกี้คุงเองเหรอ มีอะไรล่ะ?"

คุกกี้: คือว่า... คือ...

"อะไรเหรอคะ?"

คุกกี้: คือว่า... ไหนๆ ก็ได้บังเอิญมาเจอด้วยกันที่นี่แล้ว มาเล่นกับผมไหมครับ?

"เออ... ได้สิ! ฉันกำลังอยากได้คู่เล่นถ้วยแก้วหมุนอยู่ด้วยพอดีเลยล่ะ!"

คุกกี้: ห้า!! งั้นเหรอครับ! (*^▽^*)

มิมิ: สำเร็จ!! ^_^

แล้วจากนั้นทั้งสองก็เริ่มไปเล่นเครื่องเล่นต่างๆ ด้วยกัน โดยที่ มิมิ เนียมิ ได้แอบติดตามไปเฝ้าดูอยู่ด้วยตลอดทาง

--------------------------------------------------------------------------------

จนกระทั่งในช่วงเย็น ทั้งสองได้มานั่งพักที่ม้านั่ง

"เป็นเพราะมีนายแท้ๆ เลย วันนี้ฉันก็เลยเล่นได้สนุกมากเลย ขอบคุณมากๆ นะ! ^_^"

คุกกี้: เออ.. ครับ! (* ̄▽ ̄*)

"แล้ววันนี้นายมาที่นี่ด้วยก็ไม่บอกกันก่อนนะ ไม่งั้นฉันก็คงตามมาด้วยตั้งแต่แรกแล้วล่ะ"

คุกกี้: ต้องขอโทษด้วยนะ ที่ไม่ได้บอกก่อน..

"วันนี้สนุกมากจริงๆ แม้จะมีเหตุขัดข้องนิดน้อยก็เถอะ แต่คนที่มาช่วยฉันเมื้อกี้นี้ เท่สุดๆ ไปเลยนะ! (เหมือนฮีโร่ในการ์ตูนสาวน้อยเวทมนตร์เลยล่ะ)"

คุกกี้: อืม!! ^_^ แล้วก่อนจากกัน ผมมีของอยากจะมอบให้...

"อะไรเหรอ?"

คุกกี้พยายามรวบรวมความกล้าเพื่อที่จะหยิบตุ๊กตาออกมามอบให้

ระหว่างนั้นเธอจ้องมองเขาด้วยความสงสัย แต่หลังจากที่เขาพยายามอยู่นาน เขาก็ตัดสินใจวิ่งหนีไป

"อ้าว! จะไปไหนน่ะ?"

เขาวิ่งพลางร้องไห้ไปด้วย

คุกกี้: (ยังไงผมก็ทำไม่ได้จริงๆ นั่นแหละ! `(*>﹏<*)′)

เนียมิ: คุกกี้คุง นายต้องทำได้แน่นอน

เนียมิเรียกขึ้นมา ทำให้เขาต้องหยุดวิ่งแล้วหันมามองทั้งสอง

มิมิ: ถ้าอยากจะมอบของขวัญ ก็แค่ส่งๆ ไปให้ก็หมดเรื่องแล้วล่ะ! ไม่เห็นต้องมีอะไรน่าอายเลย

คุกกี้: แต่ว่าผม...

เนียมิ: ถ้าไม่กล้ามอบเพราะกลัวถูกปฏิเสธรับของล่ะก็.. เออ...

แล้วคำพูดของเนียมิก็หายไป เพราะคิดอะไรต่อไม่ออก

เนียมิ: ฉันนึกวิธีไม่ออกอ่ะ...

แล้วมิมิก็ล้มลงไปก้องกับพื้นด้วยความเซ็ง (มุขตลก)

คุกกี้: เปล่า.. ไม่ใช่แบบนั้น คือที่จริงแล้วตุ๊กตาตัวนี้.. ผมไม่ได้เป็นคนทำเองครับ ผมซื้อมาจากร้านของเล่นเพราะมันดูเหมือนกับ "เบอร์รี่" (BERRY) คนที่ผมชอบพอดี

มิมิ: อ่อ.. เด็กผู้หญิงคนนั้นชื่อเบอร์รี่งั้นเหรอ?

เนียมิ: แต่ก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลยนี่หนา ไม่ว่าจะเป็นของที่ทำเองหรือไม่ ยังไงมันก็เป็นของขวัญที่ล้ำค่าสำหรับผู้รับเหมือนกันอยู่ดีนั่นแหละ

คุกกี้มองตุ๊กตาที่ถืออยู่พักหนึ่ง

คุกกี้: ยังไงผมก็ทำไม่ได้จริงๆ (>_<。)

แล้วทั้งสองก็หันมามองกัน

มิมิ: ฉันว่าต้องเพิ่งพลังของป๊อปเปอร์สแล้วล่ะ!

เนียมิ: อืม!!

แล้วทั้งสองก็แปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์สอีกครั้ง แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็เรียกเกียร์วิเศษออกมาจากเข็มกลัดบนชุด โดยมีลูกพลังออกมาจากเข็มกลัด ก่อนที่ลูกพลังทั้งสองจะเข้ามาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน แล้วจากนั้นลูกพลังก็แปลงสภาพกลายเป็นเกียร์อีกที

ป๊อปเลิฟ/พีช: Let's pop'n music together! O(∩_∩)O

===== POP'N MUSIC =====
Shining My Boy / AstroKid

ทันทีที่เริ่มเล่นป๊อปปิน ก็เกิดคลื่นแสงสีฟ้าขึ้นมารอบตัวของคุกกี้อยู่สักพักหนึ่งก่อนที่จะหายไป โดยที่เขามองไม่เห็นแสงนั้น

คุกกี้: ความรู้สึกนี้... มันอะไรกันเนี่ย?!

คุกกี้รู้สึกเหมือนกับว่าอยู่ๆ ก็มีกำลังใจที่แรงกล้าขึ้่นมาอย่างกะทันหัน

คุกกี้: นั่นสินะ! เนียมิจังพูดถูกแล้วล่ะ!! ยังไงเธอก็ต้องชอบตุ๊กตาตัวนี้อย่างแน่นอน!!!

และทันใดนั้นเขาก็ตัดสินใจกลับไปหาเบอร์รี่อีกครั้ง แต่เมื่อมาถึงที่ม้านั่งก็พบว่าเธอจากไปแล้ว

เขาพยายามมองหาเบอร์รี่รอบๆ แล้วก็พบว่าเธอกำลังเดินจากไป

คุกกี้: เดี๋ยวก่อน เบอร์รี่จัง!!

คุกกี้วิ่งไปหาเบอร์รี่ เมื่อเธอได้ยินเสียงเรียกจึงหยุดเดินแล้วหันมา

เบอร์รี่: หืม?

คุกกี้: ถ้าไม่รังเกียจ โปรดรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ด้วยนะครับ! `(*>﹏<*)′

คุกกี้ยื่นตุ๊กตาให้เบอร์รี่ โดยที่เขาไม่มองหน้าเบอร์รี่เพราะยังอายอยู่เล็กน้อย

เบอร์รี่: ว้าว!! นี่น่ะเหรอ ของขวัญที่จะมอบให้ฉัน!? (⊙o⊙)

เบอร์รี่รับตุ๊กตาไป เธอมองตุ๊กตาไปมาอยู่สักพัก

เบอร์รี่: ตุ๊กตาตัวนี้ดูเหมือนกับฉันมากเลยนะ ขอบใจมากๆ นะ!! (*^_^*)

แล้วคุกกี้ก็รู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่งที่คนที่เขาชอบยอมรับของขวัญแล้ว

เบอร์รี่: เพื่อเป็นการตอบแทนที่ให้ของขวัญถูกใจฉัน จะมานั่งม้าหมุนด้วยกันเป็นการส่งท้ายไหมล่ะ?

คุกกี้: ได้สิ ไปเล่นด้วยกันเลย!! (*^_^*)

แล้วเบอร์รี่ก็จุงมือของคุกกี้เพื่อพาไปเล่นเครื่องเล่นม้าหมุนด้วยกัน
===== END MUSIC =====

หลังจากนั้น มิมิกับเนียมิ ที่กลับร่างเดิมแล้ว ได้ตามมาดูทั้งคู่กำลังเล่นม้าหมุนด้วยกันอย่างมีความสุขที่สุด

แล้วจากนั้นก็เกิดแสงสว่างขึ้นที่ตุ๊กตาเบอร์รี่ แล้วจากนั้นก็มี "ท่วงสุริยัน" ลอยออกมา

เนียมิ: ว้าว!! (✪ ω ✪)

มิมิ: ในที่สุดก็สำเร็จไปอีกหนึ่งนะ!! (*^▽^*)

แล้วจากนั้น "ท่วงสุริยัน" ก็ได้ลอยไปยังหอคอยซันนี่ แล้วได้ลอยเข้าไปภายในสัญลักษณ์ดวงอาทิตย์ที่อยู่บนยอด แล้วจากนั้นหนึ่งในกลีบทั้ง 6 ของดวงอาทิตย์ก็เปลี่ยนสีจากเทามาเป็นสีเหลือง



มิมิกับเนียมิ ได้รับสแตมป์ดวงที่ 2 เรียบร้อยแล้ว!!

เนียมิพลางดูคุกกี้กับเบอร์รี่ แล้วก็เกิดความคิดประหลาดออกมา

เนียมิ: (จะว่าไปฉันเองก็อยากนั่งม้าหมุนด้วยกันกับไทม์เมอร์คุงนะ ...เอ๊!? นี่เรา คิดอะไรอยู่กันแน่เนี่ย!? `(*>﹏<*)′)

--------------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจแล้ว ทั้งสองก็ได้กลับมายังห้องพักในโรงแรม

เนียมิ: นึกไม่ถึงเลยว่าจะได้ท่วงสุริยันจากการเที่ยวสวนสนุกในครั้งนี้ด้วย แต่ก็ถือว่าดีแล้วนะ

มิมิ: อืม! แล้วพรุ่งนี้พวกเราลองไปสำรวจเขตอุทยานกันนะ!

เนียมิ: โอเค! ได้เวลาลุยนอกเมืองกันแล้วสินะ! ^_^

มิมิ: อืม! หลังจากที่รวบรวมท่วงสุริยันได้ 2 ชิ้นแล้ว พื้นที่สีเขียวในเขตอุทยานก็ได้แพร่ขยายออกไปจนสามารถไปเดินสำรวจกันได้แล้วล่ะ แถมได้ยินมาว่าเริ่มมีชาวบ้านกลับมาอยู่อาศัยในเขตอุทยานแล้วด้วยนะ

เนียมิ: ถ้างั้นพรุ่งนี้พวกเราก็...

มิมิ/เนียมิ: ไปลุยซันนี่พาร์กกันเลย!! LET'S ADVENTURE!! (^_-)/☆\(-_^)




>>>>> TO BE CONTINUED <<<<<

12 พฤศจิกายน 2565

pop'n music RESPECT : STAGE 38 「ถ้วยแก้วน้อยกอยใจ」

เช้าวันต่อมา หลังจากที่ทั้งสองแต่งตัวเสร็จแล้ว ทั้งคู่ก็ได้มายืนอยู่หน้ากระจกเพื่อดูหน้าตาของชุดที่กำลังใส่

เนียมิ: ว้าว!! (⓿_⓿)


เนียมิ: นี่น่ะเหรอ ชุดพิเศษที่มิมิจังเลือกให้ ดูน่ารักมากเลยนะ! (ฉันชอบหมวกนี้มากเลยล่ะ!)

มิมิ: อืม! แถมยังดูเข้ากับบรรยากาศของที่นี่มากๆ เลยล่ะ

เนียมิ: ว่าแต่.. นี่ก็จะใกล้ฤดูหนาวแล้วนะ ทำไมเธอถึงเลือกชุดนี้ล่ะ?

มิมิ: ก็แบบว่า... ที่นี่เป็นเขตอุทยานใช่ไหมล่ะ? ฉันเลยคิดว่าบางทีใส่ชุดบางๆ แบบนี้มันอาจจะทำให้รู้สึกสบายตัวกว่าชุดประจำฤดูกาลก็ได้ และอีกเรื่องก็คือ อาจจะพอช่วยให้พวกเราลุยในเขตร้อนของที่นี่ก็ได้นะ (เมื่อวานนี้พวกเราใส่ชุดประจำฤดูใบไม้ร่วง)

เนียมิ: เออ.. ก็จริงอยู่นะ เมื่อวานนี้พวกเราใส่ชุดประจำฤดูกาลก็เลยทำให้ทนอยู่ในเขตร้อนบริเวณนอกเมืองได้ไม่นาน

มิมิ: ใช่แล้วล่ะ! ^_^

เนียมิ: แต่สงสัยอยู่อีกเรื่องนะ ทำไมพวกเราถึงต้องพบกล้องกันด้วยล่ะ?

มิมิ: เพราะฉันอยากจะเก็บภาพสัตว์ป่าและธรรมชาติของที่นี่เมื่อมีโอกาสยังไงล่ะ! ฉันว่าใช้กล้องแบบนี้มันถ่ายได้ดีกว่ากล้องมือถือนะ!

เนียมิ: อ๋อ เข้าใจแล้วล่ะ แต่ว่าฉันคงไม่ค่อยได้ถ่ายเท่าไหร่หรอกนะ เพราะฉันก็ไม่ค่อยชำนาญการถ่ายภาพซะด้วยสิ

มิมิ: อืม ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นเครื่องประดับก็แล้วกัน ^_^

เนียมิ: เอาล่ะ! งั้นตอนนี้พวกเราก็...

มิมิ/เนียมิ: ไปลุยกันเลย!! LET'S ADVENTURE!! (^_-)/☆\(-_^)



--------------------------------------------------------------------------------


STAGE 38
「ถ้วยแก้วน้อยกอยใจ」


--------------------------------------------------------------------------------

จากนั้นทั้งสองก็เดินออกมายังหน้าโรงแรม

เนียมิ: จะว่าไปตั้งแต่ที่ออกจากห้องจนมาอยู่ในภัตตาหาร ยังไม่เห็นพวกไทม์เมอร์เลยนะ

มิมิ: พวกเขาอาจจะยังอยู่ในห้อง หรืออาจจะออกไปก่อนพวกเราแล้วก็ได้

เนียมิ: ฉันว่าพวกเราควรจะรอเขาก่อนดีไหม? เพราะไหนๆ พวกเขาก็ออกค่าห้องพักให้นะ

จากนั้นมิมิก็หยิบมือถือขึ้นมาเพื่อแชทหาไทม์เมอร์ เธอคุยกับเขาผ่านแอปพลิเคชันอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะได้คำตอบมาให้เนียมิคือ...

มิมิ: พวกเขาออกไปก่อนแล้วล่ะ แต่ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรก็เรียกหาเขาได้ทุกเมื่อเลยนะ

เนียมิ: อืม! งั้นพวกเราก็ไปลุยกันเลยเถอะ

มิมิ: โอเค!! แล้ววันนี้จะไปที่ไหนล่ะ?

เนียมิ: ฉันมีที่ๆ หนึ่งที่อยากจะไปดูอยู่น่ะ

แล้วทั้งสองก็เดินมายังหน้า "หอคอยซันนี่" ที่ตั้งอยู่กลางถนนวงเวียนหน้าสถานีรถไฟ และเมื่อมาถึงมิมิก็จัดการเก็บภาพของหอคอยทันที

ส่วนเนียมิพยายามเดินส่องรอบๆ ตัวหอคอยเพื่อมองหาอะไรบางอย่าง

มิมิ: ทำไมเธอถึงอยากกลับมาดูหอคอยนี้อีกครั้งล่ะ? (แปลกนะเนี่ย)

เนียมิ: ฉันฝันน่ะ...

มิมิ: ว่า...?

เนียมิ: ฉันฝันเห็นใครก็ไม่รู้มาขอให้ช่วยกอบกู้ซันนี่พาร์ก และเขาก็บอกให้มาดูที่นี่เพื่อหาคำตอบ

มิมิ: อืม... หมายความว่าถ้ามาที่นี่อาจจะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับ "ภารกิจหลัก" ของที่นี่สินะ?

เนียมิ: อาจจะใช่ก็ได้

และหลังจากที่เนียมิสำรวจอยู่สักพัก เธอก็พบว่าที่ด้านหลังหอคอยมีประตูอยู่ เธอจึงลองเดินเข้าไปเปิดแต่เปิดไม่ได้

เนียมิ: ประตูล็อคแฮะ... (°ー°〃)

มิมิ: ฉันว่าถ้าเขาไม่ให้เข้าก็อย่าพยายามเลยดีกว่านะ อาจจะเป็นการพยายามบุกรุกสถานที่สาธารณะก็ได้

แล้วจากนั้นอยู่ๆ ประตูที่ล็อคไว้ก็ถูกเปิดออกมาโดยไม่มีสาเหตุ ซึ่งหลังประตูมีแสงสว่างส่องออกมาทำให้มองไม่เห็นด้านใน

เนียมิ: ห๊ะ?! ประตูเปิดออกแล้วล่ะ (⊙_⊙)?

มิมิ: เอ๊!? แต่เมื่อกี้มันล็อคอยู่นะ?

"ในที่สุดพวกเธอก็มาแล้วสินะ เชิญเข้ามาด้านในเลย"

เสียงปริศนาเรียกมาจากด้านหลังประตูที่ส่องสว่าง

เนียมิ: เสียงนี้มัน... เหมือนกับที่ฉันได้ยินในความฝันเลย!

มิมิ: ห๊ะ จริงดิ!? (⊙﹏⊙)

เนียมิ: อืม! ลองเข้าไปดูกันเถอะ!

แล้วทั้งสองก็เดินเข้าไปด้านในประตูนั้น

เมื่อเข้ามาด้านในแล้ว พบว่าที่นี่เป็นสวนดอกไม้ซึ่งมีดอกไม้หลากสีอยู่เต็มพื้นไปหมด

เนียมิ: ที่นี่เหมือนกับที่ฉันเห็นในฝันไม่ผิดเลยล่ะ...

"ขอต้อนรับสู่ซันนี่พาร์กนะ"

จากนั้นก็มีผู้หญิงปริศนาปรากฏตัวออกมาตรงหน้าทั้งสอง

มิมิ: ห๊ะ!? ∑(⊙ˍ⊙)

เนียมิ: นั่นมัน...?

"ฉันชื่อ "ฟลอร่า" (Flora) เป็นภูตแห่งซันนี่พาร์ก ยินดีที่ได้รู้จักด้วยนะ (∩_∩)"

เนียมิ: ภูตแห่งซันนี่พาร์กงั้นเหรอคะ?

ฟลอร่า: ใช่แล้วจ๊ะ ^_^ ที่ซันนี่พาร์กอุดมสมบูรณ์ได้ก็เพราะมีภูตอย่างพวกเราคอยดูแลอยู่ยังไงล่ะจ๊ะ

เนียมิ: แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับซันนี่พาร์กในตอนนี้เหรอ? ทำไมบริเวณรอบๆ เมืองถึงได้กลายเป็นพื้นที่แห้งแล้งหมดเลย?

ฟลอร่า: เรื่องนั้นฉันต้องขอเล่าถึงจุดเริ่มต้นก่อนนะ... ปกติแล้วที่ซันนี่พาร์กแห่งนี้จะมีภูตที่คอยมอบความอุดมสมบูรณ์ให้กับอุทยานอยู่ ซึ่งก็คือฉันกับภูตอีกตนที่ชื่อ "ฟาล์มมี่" (Flamme) โดยที่ฉันจะคอยมอบความอุดมสมบูรณ์ให้กับธรรมชาติ ในขณะที่ฟาล์มมี่จะคอยมอบความอบอุ่นให้กับซันนี่พาร์กแห่งนี้ ถ้าหากไม่มีภูตแห่งธรรมชาติอย่างพวกเราซันนี่พาร์กก็คงไม่เป็นอุทยานที่เขียวขจีเช่นทุกวันนี้อย่างแน่นอนเลยล่ะจ๊ะ

มิมิ/เนียมิ: โห..! (⊙ˍ⊙)

ฟลอร่า: และในช่วงฤดูหนาวของทุกปีพวกเราทั้งคู่จะเข้าจำศีลเพื่อให้ซันนี่พาร์กกลายเป็นฤดูหนาวที่สมบูรณ์ และจะรอเวลาตื่นขึ้นมาอีกครั้งในช่วงคาบเกี่ยวระหว่างฤดูหนาวกับฤดูใบไม้ผลิ ...แต่ทว่าปัญหาก็เกิดขึ้น เพราะในปีนี้ฟาล์มมี่กลับไม่อยากจำศีลเช่นทุกปี เนื่องจากเธอคิดว่ามันน่าเบื่อ เธอจึงเปลี่ยนให้ฤดูใบไม้ร่วงมีสภาพอากาศที่ร้อนระอุเหมือนกับช่วงฤดูร้อน เพื่อที่ว่าช่วงฤดูหนาวมาถึงจะได้ไม่ต้องจำศีลอีก และผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือ พื้นที่เกือบทั้งหมดในซันนี่พาร์กได้แปรเปลี่ยนเป็นดินแดนแห้งแล้งไป เนื่องจากอากาศที่ร้อนกินระยะเวลานานกว่าปกตินั่นเอง... และนี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้ซันนี่พาร์กกลายเป็นดินแดนแห้งแล้งยังไงล่ะจ๊ะ!

มิมิ: แล้ว...!! มีวิธีที่ทำให้กลับเป็นเหมือนเดิมได้หรือเปล่าคะ?

ฟลอร่า: มีสิจ๊ะ! ปกติแล้วภูตอย่างพวกเราที่อยู่มาได้จนทุกวันนี้ก็เพราะรอยยิ้มและความสุขของผู้คนที่มาเยือนซันนี่พาร์กนี่แหละจ๊ะ แต่หลังจากที่ซันนี่พาร์กกลายเป็นดินแดนแห้งแล้ง ความเชื่อมั่นของผู้คนก็ลดน้อยหายไป ส่งผลให้พลังของฉันในตอนนี้ก็ค่อยๆ ลดลงตามไปด้วย และถ้าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป อีกไม่นานพื้นที่ในที่นี้ทั้งหมดก็จะกลายเป็นดินแดนแห้งแล้งอย่างสมบูรณ์และไม่สามารถกู้คืนกลับมาได้อีก... และสิ่งที่ฉันจะมอบหมายให้พวกเธอทั้งสองทำนั่นคือการรวบรวม "ท่วงสุริยัน" ที่ได้จากความเชื่อมั่นของผู้คนที่นี่ ทุกครั้งที่พวกเธอเรียกความเชื่อมั่นของผู้คนที่นี่กลับมาได้ ก็จะได้รับ "ท่วงสุริยัน" มามอบให้กับ "หอคอยซันนี่" แห่งนี้ และเมื่อรวบรวมได้ครบทั้ง 6 ชิ้นซันนี่พาร์กก็จะกลับมาเป็นอุทยานที่เขียวขจีเช่นเดิม!

เนียมิ: ความเชื่อมั่นของผู้คนงั้นเหรอ? มันหมายความว่ายังไง? ไม่เห็นเข้าใจเลย

ฟลอร่า: ก็ประมาณว่า.. ทำยังไงก็ได้ให้ผู้คนที่นี่มีความสุขให้ได้ยังไงล่ะจ๊ะ

เนียมิ: อ๋อ! เข้าใจแล้ว

มิมิ: ฟังดูเหมือนจะง่ายนะ แต่การจะทำให้ผู้คนกลับมาเชื่อมั่นได้ในตอนนี้มันไม่ง่ายซะแล้วสิ

ฟลอร่า: และนี่ก็คือเหตุผลที่ฉันต้องการพวกเธอทั้งสองยังไงล่ะจ๊ะ พวกเธอแปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์สได้ไม่ใช่เหรอ?

มิมิ: ชะ... ใช่แล้วค่ะ

ฟลอร่า: พวกเธอก็แค่พยายามใช้พลังบรรเลงเพลงที่มอบความสุขให้กับพวกเขาก็เพียงพอที่จะทำให้ได้ "ท่วงสุริยัน" แล้ว

เนียมิ: หรือหมายความว่า... เกียร์วิเศษ "ป๊อปเปอร์สเกียร์"

มิมิ: ใช่เลยล่ะ! พวกเราต้องช่วยเหลือผู้คนที่นี่ให้กลับมามีความสุขอีกครั้งให้ได้นะ! O(∩_∩)O

ฟลอร่า: เธอเข้าใจถูกแล้วจ๊ะ ^_^ เมื่อพวกเธอทำให้ผู้คนที่กำลังสิ้นหวังกลับมามีความสุขและเชื่อมั่นในซันนี่พาร์กได้อีกครั้ง เมื่อนั้น "ท่วงสุริยัน" ก็จะปรากฏกออกมาเอง

เนียมิ: เข้าใจแล้วค่ะ พวกเราจะพยายามให้เต็มที่เลย!!

ฟลอร่า: อืม! ดีแล้วล่ะนะ ถ้างั้นก็ขอให้พวกเธอโชคดีกับภารกิจนี้นะ (∩_∩)

มิมิ/เนียมิ: ทราบแล้วค่ะ!!

แต่ก่อนที่ทั้งสองจะจากลา เนียมิก็เกิดนึกอะไรที่สำคัญขึ้นมาได้

เนียมิ: Σ( °_°) เออ.. เดี๋ยวก่อนนะ แล้วสแตมป์ล่ะ??

ฟลอร่า: เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง เมื่อรวมรวบ "ท่วงสุริยัน" ได้ พวกเธอก็จะได้รับสแตมป์ประจำซันนี่พาร์กไปด้วย เพราะว่าฉันเป็นลีดเดอร์ของที่นี่ยังไงล่ะจ๊ะ!

มิมิ/เนียมิ: เอ๋!? (⊙_⊙;)

ทั้งสองตะโกนด้วยความตะลึง

มิมิ: งั้นหมายความว่าหลังจากที่รวมรวบ "ท่วงสุริยัน" ได้ครบแล้ว พวกเราก็ต้องมาแข่งกับเธอเพื่อสอบเลื่อนขั้นสินะคะ

ฟลอร่า: ใช่แล้วล่ะ ^_^ เอาล่ะ มีอะไรอยากจะถามอีกไหม ถามมาได้นะ

เนียมิ: งั้นแบบนี้.. ถ้ามาสอบตอนฤดูหนาวก็หมดสิทธิสอบไปโดยปริยายเลยสินะ (เพราะจะจำศีล)

ฟลอร่า: ฮ่าๆ ^_^ ไม่ต้องกังวลไปหรอก ในช่วงฤดูหนาวของทุกปีจะมีลีดเดอร์ที่เป็นมนุษย์มารับหน้าที่นี้แทนชั่วคราว เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้สอบหรอกนะ

เนียมิ: เข้าใจแล้วคะ (@^0^)

--------------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่ได้รับภารกิจหลักเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็กลับออกมายังด้านนอกหอคอย

มิมิ: ต้องทำให้ผู้คนกลับมามีความสุขอีกครั้งงั้นเหรอ.. แล้วพวกเราจะเริ่มต้นจากที่ไหนก่อนดีนะ...?

มิมิคิดไม่ออกว่าจะไปเริ่มจากที่ไหนดี เพราะตามจริงแล้วในตอนนี้ก็แทบจะไม่มีใครให้ช่วยเหลือได้แล้ว และในระหว่างที่ทั้งสองกำลังหาทางออกกันอยู่นั้น เนียมิก็เหลือบไปเห็นป้ายประกาศที่อยู่ตรงหน้าสถานีรถไฟ

เนียมิ: Σ( °_°) นั่นมันอะไรน่ะ??

และเมื่อเธอลองเดินเข้าไปดูใกล้ๆ บริเวณแผงติดป้ายประกาศหน้าสถานี ก็พบว่าเป็นป้ายประกาศจับผู้ร้าย ซึ่งผู้ที่ถูกหมายหัวคือลูกนกสีฟ้าที่มีทั้งหมด 6 ตัว

มิมิ: อ่ะ!? ป้ายประกาศจับงั้นเหรอ??

มิมิกล่าวหลังจากที่เดินตามเนียมิมาที่หลัง

เนียมิ: อืม.. แก็งนกสีฟ้า 6 ตัว รางวัลนำจับ 5,000 ปอง

มิมิ: ว่าแต่ป้ายนี้มาติดเอาไว้นานหรือยังนะ? เพราะถ้าติดไว้นานแล้ว ฉันว่าปานนี้หมายจับคงจะหมดอายุความไปเรียบร้อยแล้วล่ะ.. คิดว่านะ

เนียมิ: ทำไมล่ะ??

มิมิ: ก็... แม้กระทั้งสถานีตำรวจของที่นี่ยังปิดรับแจ้งเหตุไปแล้วเลย ( ̄_ ̄|||) (ไทม์เมอร์เขาบอกมาในแชต)

และในตอนนั้นเอง ทั้งสองก็ได้ยินเสียงบางอย่างที่คล้ายกับเสียงร้องเพลง

"ลา ลา ล้า ลา ลา ล่า~♪"

เสียงนี้ดังมาจากบนฟ้า และเมื่อหันไปมองตามทิศทางของต้นเสียง ก็พบว่าเป็นแก็งนกสีฟ้าทั้ง 6 ตัวที่กำลังบินเกาะกลุ่มร้องเพลงอยู่

เนียมิ: นั่นมัน...!! Σ( °_°)

มิมิ: แก็งนกสีฟ้าทั้ง 6 !! ∑(°ロ°) (อะไรจะบังเอิญขนาดนี้!!)

และเมื่อสังเกตดูให้ดีจะพบว่าหนึ่งในนกทั้ง 6 นั้นกำลังจับตัวอะไรไว้อยู่ ซึ่งตัวนั้นกำลังตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ

เนียมิ: ดูเหมือนว่าพวกมันกำลังจับตัวอะไรไว้อยู่ด้วยนะ!

มิมิ: อาจจะเป็นตัวประกันก็ได้ พวกเรารีบตามไปเถอะ!!

แล้วทั้งสองก็วิ่งตามนกพวกนั้นไป

--------------------------------------------------------------------------------

และเมื่อวิ่งตามมาได้เรื่อยๆ ก็มาถึงบริเวณสวนสาธารณะ ซึ่งนกทั้ง 6 กำลังมุ่งหน้าไปทางโซนสวนป่า

แต่หลังจากที่วิ่งตามมาได้อีกสักพัก ทั้งสองก็เริ่มเหนื่อย เนียมิจึงตัดสินใจตะโกนเรียก

เนียมิ: นี่หยุดก่อน!! กำลังจะไปไหนกันน่ะ??

และเมื่อนกทั้ง 6 ได้ยินจึงหยุดแล้วหันกลับมามองพวกเธอ

มิมิ: พวกเธอกำลังทำอะไรกันอยู่น่ะ??

แล้วสองในนกทั้ง 6 นั้นก็บินลงมาหาทั้งสองด้วยความเร็ว ก่อนที่จะปล่อยอะไรบางอย่างใส่

มิมิ: อ่ะ!! ∑(°ロ°)

มิมิโดนนกสองตัวนั้นปล่อยมูลใส่

"ฮ่าๆๆ คิดจะตามจับพวกเราเหรอ ฝันไปเถอะ!!"

แล้วนกทั้งสองตัวก็บินกลับเข้าฝูง

มิมิ: หนอย!! คิดจะยั่วฉันอย่างงั้นเหรอ เดี๋ยวฉันจะตามจับพวกแกให้ได้เลย!! ヽ(≧□≦)ノ

แล้วทั้งสองก็วิ่งตามพวกนกต่อไป

--------------------------------------------------------------------------------

แล้วจากนั้นพวกนกก็บินมาลงจอดยังบนต้นไม้ต้นหนึ่งในโซนสวนป่า

นกตัวที่ถือตัวประกันมาด้วย ได้ปล่อยตัวลงจากขานก ซึ่งตัวประกันนั้นมีลักษณะเป็นถ้วยแก้วสีขาวที่มีรูปหน้าตา

"ในที่สุดพวกเราก็เจอของดีเข้าให้แล้วนะขอรับ!"

นกตัวที่ถือตัวประกันกล่าว และสีหน้าของถ้วยแก้วกำลังเต็มไปด้วยความกลัว

"อืม.. ถ้วยแก้วพูดได้อย่างงั้นเหรอ? ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยจริงๆ นะ"

หนึ่งในนก 6 ตัวกล่าว

"ฉันว่าพวกเรานำแก้วนี้ไปทิ้งให้แตกเป็นเศษเล็กเศษน้อยดีไหมครับ?"

อีกหนึ่งในนก 6 ตัวกล่าว แล้วถ้วยแก้วก็เกิดอาการตกใจขึ้นมาหลังจากที่ทราบว่าจะถูกทิ้งลงพื้นให้แตก

"จะบ้าเหรอ!? ไหนๆ ก็ได้ของประหลาดแบบนี้มาแล้ว ขื่นฆ่าทิ้งก็เสียดายแย่น่ะสิ ฉันว่าเอาไปปล่อยขายที่ตลาดมืดจะดีกว่านะ!"

แล้วจากนั้นมิมิกับเนียมิก็ตามมาถึงพอดี

มิมิ: นี่พวกเธอ!!

มิมิตะโกนเรียก ทำให้กลุ่มนกหันมามอง

เนียมิ: ส่งตัวประกันคืนมาให้พวกเราเดี๋ยวนี้เลยนะ!

"ฝันไปเถอะ! ...เอ้า! ไปจัดการซะ!!"

หัวหน้านกสั่งให้ลูกน้องเข้าไปโจมตี

เนียมิ: ในเมื่อมันใช้กำลังกับเรา พวกเราก็ต้องใช้กำลังโต้กลับมั้ง!!

มิมิ: อืม!!

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ยกแขนข้างที่สวมกำไลแปลงร่างขึ้นมา แล้วตะโกนว่า

มิมิ/เนียมิ: "ป๊อปปินแปลงร่าง!!"

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็แปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์ส

และในจังหวะที่นกพุ่งเข้ามาหา พวกนกก็ถูกแรงอัดจากการแปลงร่างผลักกลับไป

"อ้าก!! X﹏X"

นกทั้งสองตัวได้ถูกผลักกลับมาหาฝูงบนต้นไม้

ป๊อปเลิฟ: เจ้าผู้ที่ทำให้ความเคารพต้องสูญสลาย

ป๊อปพีช: จงหยุดการกระทำที่โลภมากของแกซะ

"ห๊ะ! มีขบวนการแปลงร่างปรากฏตัวออกมาด้วยเหรอเนี่ย?! ∑(°ロ°) (ไม่อยากจะเชื่อ)"

หัวหน้านกกล่าวด้วยความตะลึง

ป๊อปพีช: ถ้าอยากจะสู้กับพวกเรา มาสู้กันด้วยป๊อปปินแบทเทิลดีกว่านะ! ...ถ้าไม่อยากสู้กันแบบเจ็บตัว (^_<)☆

"ดะ..ได้สิ แต่ถ้าเกิดพวกเราชนะล่ะก็ พวกเราจะนำถ้วยแก้วนี่ไปปล่อยลงพื้นให้แตกกระจายไปเลยนะ! โอเคไหม?"

ป๊อปพีช: โอเค!! ยังไงพวกเราก็ไม่เคยแพ้อยู่แล้วล่ะ! (*^_^*)

"ท่าทางพวกนั้นดูมั่นใจมากเลยนะขอรับ ทั้งที่รู้ว่านี่คือ "ศึกเดิมพันด้วยชีวิต" แล้วแท้ๆ"

ลูกน้องนกกล่าว

"ไม่รู้สิ แต่ขอแค่เอาชนะให้ได้ก็พอแล้ว"

หัวหน้านกกล่าว

แล้วทั้งคู่ก็เรียกเกียร์วิเศษออกมาจากเข็มกลัดบนชุด โดยมีลูกพลังออกมาจากเข็มกลัด ก่อนที่ลูกพลังทั้งสองจะเข้ามาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน แล้วจากนั้นลูกพลังก็แปลงสภาพกลายเป็นเกียร์อีกที

ป๊อปเลิฟ/พีช: Let's pop'n music together! O(∩_∩)O

===== POP'N BATTLE =====
POPPERS vs BloBlo
A Song of Sixpence / makou
===== END BATTLE =====

ผลการแข่งขัน ป๊อปเปอร์สเป็นฝ่ายชนะ

"มะ...ไม่จริง!? นี่พวกเราแพ้เหรอเนี่ย!? .....เผ่นกันดีกว่า!! `(*>﹏<*)′"

แล้วพวกแก็งนกก็บินหนีไปโดยที่ไม่ได้นำตัวถ้วยแก้วไปด้วย ส่วนทั้งสองก็กลับร่างเดิม

แต่ในขณะเดียวกัน ถ้วยแก้วที่ยังอยู่บนต้นไม้ก็เกิดเสียสมดุลจนทำให้ร่วงลงมาจากก้านไม้

แต่ทว่า เนียมิก็พุ่งตัวเข้ามารับไว้ได้ทันพอดี

เนียมิ: เฮ่อ... รับไว้ได้หวุดหวิดเลย ( *︾▽︾)

แล้วมิมิก็ตามมาดูถ้วยแก้วใบนี้ จากนั้นเนียมิก็พลิกแก้วไปมาเพื่อดูรอบๆ อย่างสงสัย

เนียมิ: นี่น่ะเหรอ ตัวประกันที่ถูกคนร้ายจับมา?

มิมิ: ดูยังไงมันก็แก้วธรรมดาๆ นี่หนา?

"สวัสดีครับ!!"

มิมิ/เนียมิ: ห๊าา!! ∑(°ロ°)

ทั้งสองร้องด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าแก้วใบนี้พูดได้

"พวกคุณมาช่วยผมไว้สินะ ขอบคุณที่ช่วยไว้นะครับ!!"

เนียมิ: ถ...ถ้วยแก้วพูดได้!?

มิมิ: หรือว่าเสียงขอความช่วยเหลือที่พวกเราได้ยินเมื่อกี้ก็คือ...?

"ใช่แล้วครับ! นั่นคือเสียงของผมเอง ผมชื่อ "คับคุง" (Cup-kun) ยินดีที่ได้รู้จักนะ(^-^)>"

เนียมิ: เธอคือ "คับคุง" งั้นเหรอ??

มิมิ: แล้วเธอเป็นใครมาจากไหนกันแน่เนี่ย??

คับคุง: ความจริงแล้วผมอาศัยอยู่กับเจ้าของร้านคาเฟ่แห่งหนึ่งในเมืองพาราไดซ์ครับ ผมทำหน้าที่เป็นแก้วรองรับเครื่องดื่มร้อนๆ ให้กับลูกค้า และถ้าลูกค้าผู้นั้นดื่มแล้วรู้สึกอร่อย ผมจะรู้สึกแฮปปี้มากเลยล่ะ ^_^ แต่ว่ามาวันหนึ่ง ผมโดนพวกแก็งนกสีฟ้าทั้ง 6 ตัวที่ชื่อแก็งว่า "บีโลบีโล" (BloBlo) จับตัวไปในขณะที่ผมกำลังรอเจ้าของร้านนำไปเติมเครื่องดื่มอยู่บนโต๊ะภายในร้าน และหลังจากที่พวกนั้นพาเดินทางข้ามน่านฟ้ามาหลายที่ ผมก็ได้มาเจอกับพวกคุณที่ช่วยเอาไว้นี่แหละครับ..

มิมิ: มาจากเมืองพาราไดซ์เหรอ? พามาไกลมากเลยนะเนี่ย!? (⊙_⊙;)

คับคุง: เอ๊!? ที่นี่มันไกลจากบ้านผมมากเลยเหรอ??

คับคุงสงสัยในคำพูดของมิมิ

เนียมิ: ใช่แล้วล่ะ.. ที่นี่คืออุทยานแสงอาทิตย์หรือซันนี่พาร์ก ซึ่งมันอยู่ห่างไกลมาจากพาราไดซ์มากเลยล่ะ...

คับคุง: งั้นเหรอครับ.. (_ _)

มิมิ: ไม่ต้องห่วงหรอกนะ เดี๋ยวพวกเราจะพาส่งกลับบ้านให้เอง!

เนียมิ: เดี๋ยวก่อนนะมิมิจัง จะให้พวกเราลงทุนนั่งรถไฟกลับไปพาราไดซ์กันเหรอ? กว่าจะถึงก็เกือบวันหนึ่งเลยนะ! แถมยังต่อเสียค่าตั๋วขากลับมายังซันนี่พาร์กด้วย ถ้ารวมเวลาขากลับด้วยก็ราว 2-3 วันพอดี

มิมิ: จริงด้วยสิ... ( ̄_ ̄|||) งั้นเดี๋ยวพวกเราจะพาไปฝากกับสถานีตำรวจก่อนแล้วกัน

แล้วมิมิก็เพิ่งนึกเรื่องสำคัญออก

มิมิ: เออ จริงด้วยสิ... ( ̄_ ̄|||) สน. ปิดทำการนี่หนา

ต่อมาเนียมิก็คิดอะไรดีๆ ได้

เนียมิ: Σ(. ❛ ᴗ ❛.)💡 เอ่อ! จริงสิ ลองไปฝากไว้กับคาฟ่ากันไหม? เพราะที่นั่นเป็นร้านคาเฟ่นี่หนา

มิมิ: นั่นสิ!! น่าจะใช้ได้นะ ไปกันเลยเถอะ!! \^o^/

แล้วทั้งสองก็เดินทางไปยังร้านคาเฟ่ในสวนสาธารณะ

--------------------------------------------------------------------------------

เมื่อมาถึงทั้งสองจึงเดินเข้าไปหาคาฟ่าที่บาร์ทันที

คาฟ่า: ยินดีต้อนรับค้า... เอ้า! พวกเธอเองเหรอ!? Σ( °_°)

มิมิ: คือว่าพวกเรามีเรื่องอยากจะช่วยรบกวนหน่อยนะ

เนียมิยื่นแก้วคับคุงให้ดู

คาฟ่า: นั่นมัน?

เนียมิ: "คับคุง" ค่ะ เป็นแก้วพูดได้ เขาหลงทางมาจากเมืองพาราไดซ์ และพวกเราอยากจะขอร้องให้คุณคาฟ่าช่วยรับฝากเอาไว้ก่อนจะได้ไหมคะ?

คาฟ่ารู้สึกตกใจที่คับคุงเดินทางมาไกลแสนไกล

คาฟ่า: มาจากเมืองพาราไดซ์เลยเหรอ? Σ( °_°) แล้วหลงมาได้ยังไงกันเนี่ย??

มิมิ: ถูกพวกแก็งนกสีฟ้า "บีโลบีโล" ลักพาตัวมาค่ะ และพวกเราก็ได้ช่วยเขาไว้ แต่ว่าพวกเราไม่มีเวลาไปส่งให้ถึงที่บ้าน เพราะงั้นก็เลยอยากให้คุณช่วยรับเลี้ยงไว้ก่อนจะได้ไหม?

คาฟ่า: ดะ...ได้สิ ยิ่งเป็นแก้วกาแฟด้วยแล้ว ฉันยิ่งชอบเลยล่ะ! (∩_∩)

เนียมิ: ขอบคุณด้วยนะคะ (∩_∩)

แล้วจากนั้นเนียมิก็คิดอะไรดีๆ ได้

เนียมิ: Σ(. ❛ ᴗ ❛.)💡 เอ่อ! จริงสิ ฉันคิดอะไรดีๆ ออกด้วยล่ะ!!

เนียมิวางแผนว่าจะใช้วิธีตามหาเจ้าของคับคุงด้วยการเรียกลูกค้ามาที่ร้าน โดยการโปรโมทร้านของคาฟ่าผ่านอินเตอร์เน็ต ถึงแม้ฟังดูจะเป็นเรื่องค่อนข้างยากเพราะด้วยสภาพของซันนี่พาร์กในปัจจุบัน แต่เธอเชื่อว่าอย่างน้อยถ้าหากเจ้าของมาเห็นคับคุงในรูปโปรโมทร้านอาจจะตามมาหาถึงที่ก็ได้

--------------------------------------------------------------------------------

วันต่อมา

[เพลงประกอบ Love☆Panic / hiyong]


มิมิ/เนียมิ: ยินดีต้อนรับค้า!! (∩_∩)

มิมิกับเนียมิได้มาเป็นพนักงานอาสาให้กับคาฟ่า เพื่อช่วยเรื่องโปรโมทร้าน ซึ่งพวกเธอได้ต้อนรับลูกค้าคนแรกที่มาที่ร้านนี้

มิมิ: รับอะไรดีคะ?

"มอคค่าที่หนึ่งจ๊ะ"

เนียมิ: ขอมอคค่าหนึ่งแก้วค่ะ!!

เนียมิตะโกนบอกคาฟ่า

และหลังจากนั้นเมื่อเวลาผ่านไป ก็เริ่มมีลูกค้าเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งคาฟ่ารู้สึกแปลกใจมากที่ผลลัพธ์ของการโปรโมทร้านผ่านเน็ตนั้นกลับทำได้ดีกว่าที่คาดไว้

และผลที่ตามมาอีกหลังจากนั้นคือ สวนสาธารณะเริ่มกลับมามีบรรยากาศที่คึกคักอีกครั้ง ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากผู้ที่มาใช้บริการร้านคาฟ่า

"ถึงแม้เขตอุทยานจะเข้าไม่ได้ แต่ก็ยังเหลือสวนสาธารณะงามๆ ให้เดินเล่นได้อยู่นะ ^_^"

"นั่นสินะ"

กลุ่มคนที่นั่งอยู่บนม้านั่งในสวนตรงข้ามกับร้านคาฟ่ากล่าวขึ้นมา

ส่วนมิมิกับเนียมิมายืนดูผู้คนในสวนอยู่หน้าร้าน

เนียมิ: ทุกคนดูมีความสุขมากเลยนะ

มิมิ: นั่นสิ แผนการโปรโมทร้านของเธอนี่ได้ผลเกินคาดจริงๆ นะ ^_^

แล้วจากนั้นก็มีลูกค้าคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน ซึ่งคนๆ นั้นได้พานกแก้วตัวสีเขียวมาด้วย

มิมิ/เนียมิ: ยินดีต้อนรับค้า!! (∩_∩)

"คือว่าฉันเป็นเจ้าของคับคุงน่ะ ตอนนี้เขาอยู่ที่นี่ไหม?"

มิมิ: อ่ะ.. อยู่สิค่ะ เชิญเข้ามาเลย!!

แล้วทั้งสองก็พาเข้าไปด้านในร้าน

มิมิ: นี่คะ! ^_^

มิมิพาไปหาคับคุงที่วางอยู่หลังบาร์

คับคุง: อ่ะ! โยกิชิคุง!! Σ( °_°)

โยกิชิ: คับคุง!!

แล้วโยกิชิก็เดินเข้าไปหยิบคับคุงขึ้นมา

คับคุง: ในที่สุดก็มารีบผมกลับบ้านแล้วสินะ! (^-^)>

โยกิชิ: แน่นอน!! ฉันเป็นห่วงเธอแทบแย่เลยล่ะ!!

แล้วจากนั้นคาฟ่าก็เดินมาหาโยกิชิ

คาฟ่า: คุณเป็นเจ้าของคับคุงเหรอคะ?

โยกิชิ: เออ.. ใช่ครับ ผมเองที่เป็นเจ้าของคับคุง

คับคุง: ใช่แล้วๆ เขานี่แหละ!! (^-^)>

คาฟ่า: งั้นเหรอค่ะ ก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะที่ตามหาเจอแล้ว ^_^

โยกิชิ: แน่นอนอยู่แล้วครับ.. ^_^

แล้วจากนั้นทั้งสองก็ยืนจ้องมองกันอยู่พักหนึ่ง โดยที่คาฟ่ามีอาการหน้าแดงท่าทางเหมือนเขินอะไรอยู่

เนียมิ: เอ๊!? สองคนนั้นอยู่ๆ ก็เป็นอะไรไปน่ะ??

แล้วมิมิก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าโยกิชิพานกแก้วมาด้วย

มิมิ: หรือว่า..! นี่จะเป็นรักแรกของ... คาฟ่าจัง?

[END MUSIC]

แล้วจากนั้นก็เกิดแสงสว่างขึ้นระหว่างทั้งสองคนนั้น แล้วจากนั้นก็มีบางอย่างลอยออกมาจากแสง เป็นลักษณะดวงอาทิตย์มีหน้าตา

มิมิ: นั่นมัน...!?

เนียมิ: หรือว่าจะเป็น...!?

มิมิ/เนียมิ: "ท่วงสุริยัน" !!

แล้วจากนั้น "ท่วงสุริยัน" ก็ได้ลอยพุ่งออกไปด้านนอกร้าน ทั้งสองจึงรีบตามไป

เนียมิ: เดี๋ยวก่อนสิ จะหนีไปไหนน่ะ!?

เนียมิตะโกนถามในระหว่างวิ่งตาม

และทั้งสองวิ่งตามท่วงสุริยันมาเรื่อยๆ จนมาถึงหน้า "หอคอยซันนี่"

จากนั้นท่วงสุริยันก็ได้ลอยขึ้นไปบนยอดหอคอย แล้วได้ลอยเข้าไปภายในสัญลักษณ์ดวงอาทิตย์ที่อยู่บนยอด แล้วจากนั้นหนึ่งในกลีบทั้ง 6 ของดวงอาทิตย์ก็เปลี่ยนสีจากเทามาเป็นสีเหลือง



มิมิกับเนียมิ ได้รับสแตมป์ดวงที่ 1 เรียบร้อยแล้ว!!

เนียมิ: หรือว่า.. ท่วงสุริยันมันไปหาฟลอร่าที่อยู่ในหอคอยซันนี่งั้นเหรอ?

มิมิ: อืม!! ใช่แล้วล่ะ พวกเราไม่จำเป็นต้องเก็บมันไว้ก่อนนะ

เนียมิ: งั้นก็ดีเลยสิ ^_^

ไทม์เมอร์: เฮ้! มิมิ เนียมิ!!

ไทม์เมอร์วิ่งเข้ามาหาทั้งสอง

เนียมิ: อ้าว! ไทม์เมอร์ มีอะไรหรือเปล่า?

ไทม์เมอร์: พวกเธอลองมาดูนี่สิ!!

แล้วเขาก็พาทั้งสองไปยังบริเวณนอกเมืองอีกครั้ง พบว่าคราวนี้สวนที่เดิมเป็นเขตแห้งแล้งได้กลายเป็นสวนที่เขียวขจีอีกครั้งเรียบร้อยแล้ว

มิมิ: ว้าว!! (☆▽☆)

เนียมิ: สวนนอกเมืองกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วล่ะ! แถมอากาศร้อนจัดก็หายไปแล้วด้วย

ไทม์เมอร์: แต่ว่านะ...

แล้วไทม์เมอร์นำมือถือมาให้ทั้งสองดูแผนที่

ไทม์เมอร์: ดูเหมือนว่าจะกลับเป็นเหมือนเดิมแค่เฉพาะบริเวณรอบๆ นี้เท่านั้นน่ะ

เนียมิ: หรือแปลว่า.. ทุกครั้งที่เรารวบรวมท่วงสุริยันกลับมาได้ ก็จะทำให้อุทยานค่อยๆ ฟื้นฟูสภาพไปทีละนิดสินะ

มิมิ: อืม! น่าจะใช่นะ!! ^_^

ไทม์เมอร์: ว่าแต่ วันนี้พวกเธอทำอะไรกันเหรอ ใส่ชุดดูแปลกกว่าทุกครั้งนะ...? (ชุดน่ารักจัง)

เนียมิ: อ่อ! พอดีวันนี้พวกเรามาช่วยงานที่ร้านคาเฟ่ในสวนสาธารณะให้วันหนึ่งกันน่ะคะ

มิมิ: แล้วไทม์เมอร์คุงจะลองไปดูด้วยกันไหมล่ะ?

ไทม์เมอร์: อืม! เอาสิ ^_^

แล้วจากนั้นทั้งสองก็พาเขาไปยังร้านคาเฟ่ในสวนสาธารณะ และเขาก็ได้นั่งทานอาหารของร้านด้วยกันกับทั้งสองอย่างมีความสุข♡

ฟลอร่า: พอได้เห็นผู้คนมีหน้าตาที่สดใสแล้ว ฉันก็รู้สึกแฮปปี้ตามไปด้วยจริงๆ นะ (*^_^*)




>>>>> TO BE CONTINUED <<<<<

บันทึกการเดินทางจาก ฟุกุโอะกะ สู่ กรุงเทพ ด้วยเครื่อง Cessna C550 Citation II (FlightGear)

สวัสดีครับ แอดมินเอครับผม ' w')/

ถ้าใครที่เคยติดตามแอดมินมาตั้งแต่สมัยเว็บบอร์ด Thai Mirumo Fans เวอร์ชั่นแรก (ที่เป็นโฮสต์ของ BBZNET/PukPik ก่อนที่จะย้ายไปยัง Thai Forum/Forumotion) คงจะจำกันได้นะครับกับกระทู้รวมภาพการเดินทางด้วยเครื่องบินผ่านโปรแกรมจำลองการบิน FS2004 ซึ่งในตอนนั้นแอดมินเคยโพสต์เอาไว้ 2 ไฟล์ทด้วยกันคือ สุวรรณภูมิ->หาดใหญ่ ด้วยเครื่อง Airbus A330 และ สุวรรณภูมิ->น่าน ด้วยเครื่อง Cessna 208B Grand Caravan ซึ่งสาเหตุที่โพสต์ก็ไม่มีอะไรมากครับ แค่อยากจะโชว์ให้เห็นว่าอยู่บ้านก็เดินทางได้เหมือนกันนะ ^_^

และผ่านมา 10 ปี ณ ปัจจุบัน ไม่รู้นึกยังไงถึงเกิดอยากกลับมาเล่น Flight Simulator อีกครั้ง แต่พอได้เห็นราคาของ FS ภาคใหม่ล่าสุด 2020 แล้ว แอดมินถึงกับยอมแพ้เพราะราคาตั้ง สองพันกว่าบาท!! >﹏< นี่คือยังไม่รวมพวก DLC กับ Add-on แบบเสียเงินอีกนะ (ถ้าเป็นเครื่องบินที่เสียเงินซื้อจะมีระบบนำร่องและรายละเอียดดีกว่าเครื่องฟรี) ถ้ารวมราคาพวกนี้ด้วยก็เกือบๆ 4 พันกว่าบาทเลยจ้า แอดมินจึงไปหาโปรแกรมทางเลือกอย่าง FlightGear แทน เพราะโปรแกรมนี้ทำได้เหมือนกับ MSFS แทบทุกอย่าง แถมยัง "ฟรี" หมดทุกอย่างจริงๆ ทั้งตัวโปรแกรมหลัก เครื่องบินและ Add-on ที่สำคัญเครื่องบินบางรุ่นอย่าง A320 หรือ Citation II มีระบบนำร่องที่ใช้งานได้จริงและเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนสมบูรณ์แบบไม่แพ้เครื่องเสียเงินของ MSFS เลยครับ!

และแน่นอนว่าคราวนี้ก็เป็นบันทึกการเดินทางด้วยโปรแกรม FlightGear แล้วครับ!

ย้อนความกันสักเล็กน้อย: ความจริงผมเคยเล่น FlightGear มาตั้งแต่เวอร์ชั่น 1.0.0 เมื่อปี 2008 แล้วล่ะครับ แต่พอหลังจากที่หา Microsoft Flight Simulator มาเล่นได้ราวๆ 1 ปีให้หลัง ก็เปลี่ยนมาเล่น MSFS เป็นการถาวรแทน เพราะ FlightGear ในตอนนั้นยังสู้ FSX ไม่ได้เลยจริงๆ สู้ไม่ได้แม้กระทั่ง FS2004 ที่เป็นเวอร์ชั่นเก่ากว่า แต่ตอนนี้ FlightGear พัฒนาไปไกลแล้วครับ แม้อาจจะยังไม่เท่า FS2020 แต่ก็ถือว่าดูดีกว่าในยุคแรกพอสมควร

สำหรับเที่ยวบินในครั้งนี้จะเป็นการเดินทางจาก ฟุกุโอะกะ สู่ กรุงเทพ-ดอนเมือง ด้วยเครื่อง Cessna 550 "Citation II" เครื่องเจ็ตขนาดเล็กที่แสนจะขับง่ายครับ ผมว่ามันขับง่ายจริงๆ นะ หากใครที่ขับ Cessna 172 หรือ 182 เป็นอยู่แล้วจะทำความคุ้นเคยกับเครื่องรุ่นนี้ได้ไม่ยากเลยล่ะ เพราะแผงควบคุมและระบบต่างๆ คล้ายกันแทบทุกอย่าง (ก็มันเป็นของค่าย Cessna เหมือนกันนี่เนอะ ^_^)

เอาล่ะ ก่อนอื่นก็ต้องทำการตรวจเช็คสภาพรอบตัวเครื่องกันก่อน อันเป็นขั้นตอนแรกของ Checklist ในเครื่องบินแทบทุกลำ




หลังจากที่เช็คความพร้อมเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาขึ้นเครื่องกันแล้วครับ ห้องโดยสารหรูหราใช้ได้เลยนะ



ห้องนักบินของ Citation II


และหลังจากที่ติดเครื่องเรียบร้อยแล้ว ก็เรียกใช้บริการรถดันเครื่องออกจากหลุมจอด


หลังจากนั้นก็ได้เวลาวิ่งไปตามทางแท็กซี่เวย์ที่เป็นเส้นสีเหลืองเพื่อไปยังรันเวย์ครับ


เตรียมรอสัญญาณนำเครื่องขึ้นจาก ATC (หอควบคุมการบิน)


และหลังจากที่นำเครื่องขึ้นแล้ว ก็บินในระดับความสูงประมาณ 1,000 ft ต่อไปอีกเล็กน้อยเพื่อทำความเร็วให้ถึง 220 น็อต ก่อนที่จะเริ่มเปิดระบบ Autopilot (AP) เพื่อเริ่มการบินไปตามเส้นทางบิน และไต่ระดับการบินขึ้นไปยัง 42,000 ft ครับ


ที่ความสูง 10,000 ft


และนี่คือความสูง 42,000 ft อันเป็นระดับเพดานบินในครั้งนี้ครับ


และหลังจากที่บินมาได้ประมาณ 3 ชั่วโมง ในที่สุดก็มาถึงจุดลดระดับหรือ Top of Descent (TOD) แล้วครับ ได้เวลาลดระดับแล้ว


นี่คือกรุงเทพในมุมสูงครับ! ช่วงที่บินมาทาง ATC สั่งให้ลงจอดด้วยรันเวย์ตามทิศเหนือ ก็เลยได้มีโอกาสเก็บภาพเหล่านี้มาฝากกัน!!



และพอบินจนเข้าใกล้กับสนามบินแล้ว เครื่องก็ค่อยๆ ร่อนลงไปตามคลื่น Glideslope ของระบบ ILS ครับ


แต่พอใกล้ถึงพื้นแล้ว อันนี้ต้องควบคุมเองนะครับ เพราะเครื่องนี้ไม่มีระบบ Autoland โดยระบบ AP จะตัดการทำงานเองที่ความสูงต่ำกว่า 500 ft


ถึงดอนเมืองแล้วคร๊าบ!!


และก่อนจากกัน ขอเก็บภาพน้อง Citation II ณ สนามบินดอนเมืองซะนิดหนึ่งนะ อิอิ (*^_^*)


จบเรียบร้อยแล้วครับ ถ้าใครสนใจอยากจะลองบินดูมั้ง ก็เชิญลองโหลดมาเล่นได้ที่ https://www.flightgear.org/ นะครับ ย้ำว่าฟรี!