26 ธันวาคม 2564

pop'n music RESPECT : STAGE 24 「ดันเจี้ยนปอมปุรุน」

ช่วงเช้าของวันต่อมา ทั้งสองได้ออกเดินทางผ่านเส้นทางทุ่งอันกว้างใหญ่ของพีชทาวน์เพื่อหาภารกิจใหม่ หลังจากที่เสร็จกิจวัตรในมายแคมป์

มิมิ: เผลอแป๊บเดียวพวกเราก็จะได้สอบระดับ 7 กันแล้วนะ ไวจริงๆ

มิมิกล่าวในขณะที่กำลังเดินไปเรื่อยๆ กับ เนียมิ

มิมิ: แต่จะว่าไปฉันก็สงสัยอยู่เรื่องหนึ่งนะ ว่าทำไมไทม์เมอร์คุงถึงหลงรักเธอในร่าง "ป๊อปพีช" แทนได้ล่ะ? ฉันว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอ มันก็แทบจะไม่มีอะไรที่ต่างไปจากตอนแปลงร่างเลยนะ (นอกจากหน้าตาที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย)

มิมิหันมาถามเนียมิที่กำลังเดินใจลอยอยู่

มิมิ: และอีกอย่างฉันคิดว่าเขาคงอาจจะแอบชอบเธออยู่จริงๆ นั่นแหละ เพียงแต่ตอนนี้เขาอาจกำลังถูกบังตาจากเสน่ห์ของร่างป๊อปพีชอยู่ก็ได้

มิมิพยายามคุยกับเนียมิอีกครั้ง แต่เธอก็ยังคงเหม่อลอยเหมือนเดิม

มิมิ: เออ.. ไม่อยากตอบเหรอ งั้นก็ขอโทษทีนะ เอาเป็นว่าตอนนี้พวกเรารีบไปหาภารกิจใหม่กันเลยดีกว่านะ!

มิมิพยายามบอกเนียมิ แต่เธอก็ยังคงเหม่อลอยไม่เปลี่ยน จนในที่สุดมิมิก็ทนไม่ไหว แล้วเดินหน้ามาขวางทางเนียมิ

มิมิ: นี่เธอ! เป็นอะไรหรือเปล่า?

เนียมิ: หา!? Σ( °Д°)

เนียมิได้สติกลับมาจากความเหม่อลอย

มิมิ: ฉันเห็นเธอเหม่อลอยมาตั้งแต่เริ่มเดินออกจากแคมป์แล้วนะ ไม่สบายหรือเปล่า?

เนียมิ: เปล่านะ! ฉันสบายดีทุกอย่าง ไม่ได้เป็นอะไรเลยล่ะ! ฮ่าๆ o(* ̄▽ ̄*)ブ

มิมิ: แล้วทำไมเธอถึงไม่ยอมตอบเรื่องที่ฉันพูดเลยล่ะ? หรือว่าเธอกำลังมีเรื่องกลุ้มใจอะไรอยู่หรือเปล่า?

แล้วเนียมิก็คิดอะไรอยู่สักพัก ก่อนที่จะบอกอะไรออกไป

เนียมิ: เมื่อถึงตอนนั้นแล้ว.. เธอจะยังอยู่กับฉันอีกหรือเปล่า?

มิมิ: หมายความว่ายังไง?

เนียมิ: ก็แบบว่า... หลังจากที่พวกเราเป็นแชมป์ในทัวร์นาเมนต์ Pop'n Music แล้ว หรือว่าหากแพ้การสอบแล้วต้องกลับบ้าน ฉันจะยังได้เจอกับมิมิจังอีกไหม?

แล้วมิมิก็ใช้เวลาคิดอยู่สักพัก ก่อนที่จะตอบออกไป

มิมิ: แน่นอนสิ! ถ้าหากมีโอกาสนะ และอีกอย่างตอนนี้พวกเราต่างก็มีเบอร์โทรศัพท์ของกันละกันอยู่แล้วด้วย ถ้าหากเธอคิดถึงฉันเมื่อไหร่ ก็โทรหาฉันได้ทุกเมื่อเลยนะ (หรือจะทัก LINE มาหาก็ได้นะ)

เนียมิ: แบบนั้นมันก็ได้อยู่หรอกนะ แต่ฉันอยากเจอเธอตัวเป็นๆ ทุกวัน เหมือนที่อยู่ด้วยในตอนนี้มากกว่า (╯_╰)

มิมิ: Σ(. ❛ ᴗ ❛.)💡 เอ่อ! จริงสิ! แล้วเธออาศัยอยู่ที่จังหวัดไหนล่ะ?

เนียมิ: ฉันอยู่ที่ โตเกียว

มิมิ: ฉันก็เหมือนกัน! o(*°▽°*)o แล้วเธออยู่ที่เขตไหน??

เนียมิ: โยโกฮามะ

จากคำตอบนี้ ทำให้มิมิถึงกับงงเล็กน้อย

มิมิ: เอ๊? โยโกฮามะ... งั้นเหรอ??

เนียมิ: อืม!! (^U^)

มิมิ: แต่ว่า โยโกฮามะ มันเป็นเมืองของจังหวัด คานางาวะ ไม่ใช่ โตเกียว นะ

เนียมิ: เอ๊!? งั้นเหรอเนี่ย?? (ฉันเพิ่งรู้นะ)

มิมิ: ( ̄_ ̄|||) ฉันว่าเธอคงจะสับสนระหว่างพื้นที่ของกรุงโตเกียวกับโยโกฮามะแล้วล่ะ สรุปคือ เธอเป็นคนจังหวัดคานางาวะ ที่อาศัยอยู่ในเมืองโยโกฮามะ ...ถูกต้องไหม?

เนียมิ: Yes!! ถูกต้องแล้ว!!

มิมิ: งั้นก็คงจะมีโอกาสได้เจอทุกวันแล้วล่ะนะ เพราะที่จริงแล้วหลังจากที่ฉันเรียน ม.ต้น จบ ฉันจะย้ายมาเรียนต่อ ม.ปลาย ที่ โยโกฮามะ น่ะ

เนียมิ: เอ๋?! จริงเหรอเนี่ย??

มิมิ: จริงแท้แน่นอนเลยล่ะ แต่ต้องรอไปอีก 2 ปีนะ (เพราะตอนนี้ฉันเรียนอยู่ ม.2)

เนียมิ: อืม!! (^U^) ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนมีไฟในการลุยภารกิจกลับมาแล้วล่ะ!! ขอบใจมากเลยนะมิมิจัง!! (แล้วฉันจะรอเมื่อถึงตอนนั้นนะ)

มิมิ: อืม!! (^U^) ถ้าเธอกลับมาร่าเริงเหมือนเดิมได้ ฉันก็รู้สึกดีใจแล้วล่ะ (แต่อย่ากระโดดกอดอีกนะ...)

เนียมิ: เอาล่ะ ถ้างั้นพวกเราก็...



มิมิ/เนียมิ: ไปลุยกันเลย!! LET'S ADVENTURE!! (^_-)/☆\(-_^)

--------------------------------------------------------------------------------



STAGE 24
「ดันเจี้ยนปอมปุรุน」


--------------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่มิมิแก้ปัญหาของเนียมิได้สำเร็จแล้ว ทั้งสองก็ออกเดินทางกันต่อไป ด้วยความมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงจุดหมายของเกมป๊อปปินมิวสิกให้จงได้

และในระหว่างทางที่กำลังเดินไปเรื่อยๆ กันอย่างมีความสุขนั้น อยู่ดีๆ ก็เหมือนมีอะไรบางอย่างพุ่งลงมาจากฟ้า มาตกใส่กลางหน้าของเนียมิอย่างเต็มแรง จนเธอล้มลงไปนอนกองกลับพื้นอย่างรวดเร็ว

มิมิ: Σ( °Д°) เนียมิจัง!!

มิมิรีบเข้ามาดูเนียมิด้วยความตกใจ

มิมิ: เป็นอะไรหรือเปล่า??

เนียมิค่อยๆ ลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ ด้วยความเจ็บปวด

เนียมิ: โอ้ย... อะไรพุ่งลงมาใส่หน้าฉันเนี่ย

มิมิ: เธอโอเคใช่ไหม?

เนียมิ: อืม!! ฉันยังไหวอยู่ (‾◡◝)

มิมิ: ว่าแต่เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ?

แล้วจากนั้นทั้งสองก็สังเกตเห็นตัวอะไรบางอย่างที่หล่นอยู่บนพื้นตรงหน้า

มิมิ: Σ( °_°) นั่นมันตัวอะไรน่ะ??

เนียมิ: สงสัยคงเป็นตัวที่พุ่งลงมาใส่หน้าฉันเมื่อกี้นี้น่ะ

แล้วทั้งสองจึงลองเข้าไปดูใกล้ๆ พบว่าเป็นมนุษย์แคระตัวจิ๋วที่มีขนาดตัวประมาณฝ่ามือสองข้าง ซึ่งอยู่ในสภาพหมดสติ

"โอ้ย.. โอ้ย.."

ไม่นานนัก เขาก็ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ ด้วยความเจ็บปวด

มิมิ: เป็นอะไรหรือเปล่า??

"ฉันไม่เป็นไร แล้วพวกคุณเป็นใครกันเหรอ?"

มิมิ: พวกเราคือ มิมิ กับ เนียมิ เป็นป๊อปปินเพลเยอร์ แล้วเธอเป็นใครกันล่ะ?

จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นมา ก่อนที่จะเริ่มแนะนำตัว

"ฉันเป็นภูติดอกไม้น่ะ"

มิมิ: ภูติดอกไม้งั้นเหรอ?

"อืม! ^_^"

เนียมิ: แล้วเธอมีชื่อว่าอะไรล่ะ

"คือว่าฉันไม่มีชื่อหรอกนะ แต่ฉันเป็นชาวภูติดอกไม้ที่มีชื่อเผ่าพันธุ์ว่า "ฟูวาว่า" (Fuwawa) น่ะ"

เนียมิ: เอ๊!? หรือว่า... เธอทำงานอยู่ที่ร้านเต้าหู้นั่นใช่ไหม...? (ร้านเต้าหู้ ฟูจิวาระ)

"ไม่ใช่ๆ ฉันไม่ได้อยู่ที่ร้านเต้าหู้นะ ฉันอาศัยอยู่ใน "หมู่บ้านบุปผา" ที่อยู่ในป่าแถวๆ นี้น่ะ พวกเราชาว ฟูวาว่า จะเกิดมาจากเมล็ดพืช และเติบโตอยู่ในหมู่บ้านบุปผาที่อยู่ห่างไกลจากหมู่บ้านและเมืองของชาวมนุษย์"

มิมิ: หมู่บ้านบุปผา?

"อืม! ที่จริงแล้วตอนนี้ฉันกำลังตามหา "ประกายหยดแห่งพีชพรรณ" อยู่น่ะ เป็นหยดน้ำวิเศษที่สามารถใช้ฟื้นฟูบ่อน้ำในหมู่บ้านบุปผาให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้"

เนียมิ: หรือว่าที่หมู่บ้านบุปผาตอนนี้ของเธอจะ...

"ใช่แล้วล่ะ บ่อน้ำในหมู่บ้านเป็นแหล่งหล่อเลี้ยงอาหารที่สำคัญสำหรับพีชพรรณอย่างพวกเรามากๆ และตอนนี้น้ำในบ่อกำลังใกล้จะแห้งขอด ถ้าหากปล่อยไว้ละก็.. แม้แต่ทั้งหมู่บ้านบุปผาและชาวภูติดอกไม้ก็จะไม่เหลือแน่"

มิมิ: พวกเราจะช่วย

"เอ๊!?"

เนียมิ: ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวพวกเราจะช่วยกันหา "ประกายหยดแห่งพีชพรรณ" ให้อีกแรงนะ โอเคไหม?

"แต่ว่าเรื่องนี้มันเป็นหน้าที่เฉพาะชาวภูติดอกไม้เท่านั้นนะ และอีกอย่าง ตามปกติแล้วที่หมู่บ้านบุปผาจะไม่อนุญาตให้ชาวมนุษย์เข้าไปได้นะ ...เออ! จริงสิ ถ้างั้นพวกเธอก็ช่วยแสดงฝีมือให้ฉันเห็นก่อนจะได้หรือเปล่า?"

เนียมิ: หมายถึงป๊อปปินแบทเทิลน่ะเหรอ

"อืม! ถ้าพวกเธอชนะฉันได้ ฉันจะอนุญาตให้พวกเธอช่วยในภารกิจนี้เป็นกรณีพิเศษนะ"

มิมิ: งั้นได้เลย!

===== POP'N BATTLE =====

Mimi/Nyami vs Fuwawa
Bye Bye Love / 3rd Coast
===== END BATTLE =====

ผลการแข่งขัน มิมิกับเนียมิ เป็นฝ่ายชนะ

"ว้าว!! พวกเธอเก่งมากๆ เลยล่ะ ฉันยอมรับเธอเป็นพวกฉันเลยล่ะ!! ^o^"

มิมิ: งั้นฉันขอเรียกเธอว่า "ฟูวาว่า" ก็แล้วกันนะ เพราะเธอไม่มีชื่อให้เรียกนี่นา

"ได้สิ!"

เนียมิ: แล้วเจ้าประกายหยดน้ำที่ว่า มันอยู่ที่ไหนเหรอ?

"ตามฉันมาเลยค่ะ!!"

แล้วฟูวาว่าก็บินนำทางทั้งสองไปยังแหล่งที่อยู่ของไอเทมชิ้นนั้น

--------------------------------------------------------------------------------

ฟูวาว่า: ที่นี่แหละค่ะ

สถานที่ที่ฟูวาว่าพามา เป็นหน้าทางเข้าถ้ำที่อยู่ภายในป่าลึกแห่งหนึ่ง

มิมิ: อยู่ในนี่น่ะเหรอ

เนียมิ: เป็นดันเจี้ยนใช่ไหมเนี่ย?

ฟูวาว่า: อืม! ใช่แล้วล่ะ ที่นี่คือ "ดันเจี้ยนปอมปุรุน" (Pompurun Dungeon) เป็นที่อยู่อาศัยของเผ่าปอมปุรุน สิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างคล้ายกับหมี ซึ่งในนี้มีแอ่งน้ำที่เป็นแหล่งของ "ประกายหยดแห่งพีชพรรณ" อยู่

มิมิ: แล้วปอมปุรุนนี่ เป็นมิตรหรือศัตรูกันล่ะ?

ฟูวาว่า: เออ.. เท่าที่ฉันเคยได้ยินมา พวกเค้าเป็นมิตรนะ แต่ดูเหมือนว่าพวกเค้าจะไม่ยอมให้ใครมาเอา "ประกายหยดแห่งพีชพรรณ" ออกไปจากที่นี่น่ะ แต่ฉันก็ไม่รู้เหตุผลหรอกนะว่าทำไมถึงหวงมากขนาดนั้น

เนียมิ: งั้นก็แสดงว่าถ้าหากพวกเราตั้งใจจะเข้าไปเอาหยดน้ำนั้นมาจริงๆ พวกเค้าก็จะถือว่าพวกเราเป็นศัตรูในทันทีสินะ

ฟูวาว่า: ถูกต้องแล้วละจ๊ะ อันที่จริงเมื่อครู่นี้ ฉันเกือบจะได้หยดน้ำกลับมาแล้วนะ แต่ถูกพวกปอมปุรุนโจมตีซะก่อน ฉันก็เลยตัวลอยกระเด็นขึ้นไปบนท้องฟ้าเนี่ยแหละจ๊ะ

เนียมิ: แบบนี่เอง เธอก็เลยปลิวมาตกใส่หน้าฉันในตอนนั้นสินะ ( ̄_ ̄|||)

ฟูวาว่า: ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะ มันบังคับร่างกายในระหว่างตัวปลิวไม่ได้เลยจริงๆ (>人<;)

มิมิ: ถ้าเธอเคยเข้ามาที่นี่แล้ว แถมยังเกือบได้หยดน้ำกลับมาด้วย ก็แปลว่าเธอรู้เส้นทางในนี้ดีอยู่แล้วใช่ไหม?

ฟูวาว่า: จ๊ะ! ...แต่ฉันคิดว่ารอบนี้พวกปอมปุรุนคงจะมีการวางกำลังป้องกันไว้อย่างแน่นหนาแน่นอนเลยล่ะ เพราะตอนที่ฉันเข้ามาครั้งแรก พวกปอมปุรุนยังไม่ได้สนใจอะไรฉันนะ จนกระทั่งมาเอาหยดน้ำออกไปนี่แหละ พวกมันก็เลยเริ่มไล่ตามล่าฉัน

แล้วเนียมิก็เริ่มคิดหาวิธีเข้าไป

เนียมิ: อืม..... ถ้าใช้กำลังกันแบบนี้ หรือว่าบางทีพวกเราต้องแปลงร่าง...?

มิมิ: แต่ฉันว่าพวกเราหาทางเข้าไปเอาหยดน้ำโดยไม่ต้องแปลงเป็นป๊อปเปอร์สดีกว่านะ เพราะฉันคิดว่าวิธีนี้มัน "โกง" เกินไปหน่อย และอีกอย่างก็มีแต่พวกเราเท่านั้นที่แปลงร่างได้ (ป๊อปปินเพลเยอร์คนอื่นๆ ไม่มีใครแปลงร่างได้หรอก)

เนียมิ: เออ.. นั่นสินะ

มิมิ: แล้วพวกปอมปุรุนพกอาวุธอะไรหรือเปล่า หรือว่าใช้แค่กายภาพโจมตี

ฟูวาว่า: เท่าที่จำได้ ไม่เห็นมีตัวไหนถืออาวุธกันเลยนะ แต่ตอนที่ฉันถูกโจมตีรู้สึกจะมีตัวหนึ่งใช้การคำรามใส่ฉันจนปลิวออกไปน่ะ (ปกติภูติดอกไม้จะมีน้ำหนักตัวเบามาก โดนลมแรงๆ เป่านิดหน่อยก็ปลิวแล้ว)

มิมิคิดอะไรอยู่สักพัก ก่อนที่จะพูดออกไป

มิมิ: แสดงว่าพวกมันใช้การโจมตีด้วยกายภาพสินะ งั้นเดี๋ยวพวกเราจะเข้าไปกันเอง ฉันนึกแผนการดีๆ ได้แล้วล่ะ ส่วนฟูวาว่าจังก็รอพวกเราอยู่ที่ปากถ้ำนะ

ฟูวาว่า: แต่ว่าเส้นทางข้างในมันค่อนข้างซับซ้อนนะ ฉันอยากจะช่วยนำทางพวกเธอต่อ

เนียมิ: ไม่เป็นไรหรอก พวกเราเคยลุยดันเจี้ยนมาหลายที่แล้ว และถ้าหากเธอตามพวกเราไปด้วย พวกปอมปุรุนก็จะมองพวกเราสองคนเป็นศัตรูแน่ๆ

มิมิ: ใช่! ฉันว่าเธอรออยู่ที่นี่เถอะนะ เดี๋ยวพวกฉันจะเอา "ประกายหยดแห่งพีชพรรณ" กลับมาได้แน่นอน!

ฟูวาว่า: งั้นก็... ขอให้โชคดีแล้วกันนะคะ

เนียมิ: อืม! แล้วเจอกันนะ!! (‾◡◝)

จากนั้นทั้งสองก็ได้เวลาเข้าไปยังภายในดันเจี้ยนปอมปุรุน เพื่อนำไอเทมเควสท์กลับออกมา

--------------------------------------------------------------------------------

บรรยายภายในดันเจี้ยนแห่งนี้ดูไม่ค่อยมืดมิดเท่าไหร่นัก ตลอดทางมีแสงสว่างจากธรรมชาติส่องลงมาตามร่องด้านบนของถ้ำเป็นระยะๆ

มิมิ: ฉันว่าที่นี่ดูไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่เลยนะ (ต่างจากที่ๆ เคยมาก่อนหน้านี้เยอะเลย)

เนียมิ: อืม.. ถ้าหากพวกเราเข้าไปอย่างเป็นมิตร พวกมันก็ไม่ทำร้ายเราใช่ไหมล่ะ?

มิมิ: คิดว่านะ...

และหลังจากที่เดินมาได้สักพัก ทั้งสองก็ได้พบกับปอมปุรุนตัวแรกของที่นี่จำนวนหนึ่งตัวที่กำลังเดินสวนทางมาพอดี

เมื่อทั้งสองฝ่ายเดินมาเจอกัน จึงหยุดเดินทั้งสองฝ่าย มิมิ เนียมิ มองปอมปุรุนอย่างใคร่รู้

"พวกเธอเป็นใครกัน?"

มิมิ: คือว่า... พวกเราอยากมาดูแอ่ง... เออ... อยากมาเที่ยวที่นี่ค่ะ

เนียมิ: ใช่ๆ ฉันอยากจะรู้จักกับพวกคุณมากๆ เลยล่ะ

ปอมปุรุนตัวนั้นจ้องมองทั้งสองอยู่พักหนึ่ง

"พวกเธอไม่มีแผนจะมาขโมยอะไรในนี้ใช่ไหม?"

มิมิ: ไม่เลยๆ พวกเราไม่มีทางขโมยของสาธารณะอยู่แล้วล่ะ ^_^

"ฉันขอเตือนอะไรก่อนนะ ถ้าหากพวกเธอคิดจะมาขโมย "ของศักดิ์สิทธิ์" ของพวกเราไปล่ะก็ พวกเธอจะต้องโดนลงทัณฑ์จากหัวหน้าเผ่าสถานหนักเลยล่ะ ...แต่ถ้าหากพวกเธอมาอย่างเป็นมิตรล่ะก็ พวกเราก็พร้อมยินดีต้อนรับเสมอเลย"

มิมิ: ค่ะ! พวกเราเข้าใจ

เนียมิ: พวกเราจะปฏิบัติตามกฎของที่นี่อย่างเคร่งครัดเลย ไม่ต้องห่วง

"งั้นฉันขอต้อนรับพวกเธอเข้าสู่ดันเจี้ยนปอมปุรุน เชิญเดินเล่นในนี้ได้ตามสบายเลยนะ"

มิมิ/เนียมิ: ค่ะ! (∩_∩)

จากนั้นปอมปุรุนตัวนั้นก็เดินจากไป ส่วนทั้งสองยกนิ้วโป้งให้กันก่อนที่จะเดินหน้าสำรวจกันต่อ

ระหว่างทางที่กำลังเดินไปนั้น ก็ได้พบกับปอมปุรุนตัวอื่นๆ อีกเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้สนใจอะไรทั้งสองมากนัก

จนในที่สุด ก็เดินเข้ามาจนถึงบริเวณที่คล้ายกับห้องโถงใหญ่ มีบ่อน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้า ซึ่งภายในบ่อมีแสงสว่างเรืองๆ ส่องออกมาบนผิวน้ำ และยังมีสายรุ้งอยู่เหนือบ่ออีกด้วย

เนียมิ: โห้!! สวยมากเลยล่ะ (⊙o⊙)

มิมิ: ต้องเป็นที่นี่ไม่ผิดแน่ๆ เลย

แล้วทั้งสองก็มองหันไปมารอบๆ เพื่อเช็คว่ามีใครอยู่ในบริเวณนั้นไหม แล้วจากนั้นพวกเธอก็ได้พบกับบุคคลที่คุ้นเคย

เนียมิ: Σ( °_°) นั่นมัน...

มิมิหันมามองตามทิศทางที่เนียมิมองไป ก็พบว่าเป็น "โรบินจอนท์" นั่นเอง

มิมิ/เนียมิ: โรบินจอนท์!!

ทั้งสองตะโกนออกมาพร้อมกัน ทำให้เขาต้องหันมามอง

โรบินจอนท์: อ้าว!! มิมิ เนียมิ

แล้วทั้งสองจึงเดินเข้าไปหาโรบินจอนท์

โรบินจอนท์: ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ พวกเธอมาทำอะไรที่นี่กันเหรอ?

มิมิ: พวกเรามาตามหา "ประกายหยดแห่งพีชพรรณ" กันค่ะ

เมื่อเขาได้ยินชื่อไอเทม เขาก็ถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย

โรบินจอนท์: Σ( °_°) ไม่จริงน่ะ? พวกเธอก็มาหาไอเทมเดียวกันเหรอนี่!?

มิมิ: ค่ะ! บังเอิญจังเลยนะ

เนียมิ: แล้วคุณจะเอาไปทำอะไรงั้นเหรอ?

โรบินจอนท์: คือผมจะเอาไปทำวิจัยน่ะ เพราะได้ยินมาว่า "ประกายหยดแห่งพีชพรรณ" มีคุณสมบัติลึกลับบางอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อการเพาะปลูกพืชอยู่ด้วย

เนียมิ: ส่วนพวกเราจะเอาไปช่วยเหลือภูติดอกไม้นะ

โรบินจอนท์: ภูติดอกไม้.. งั้นเหรอ?

แล้วมิมิก็เล่าเรื่องราวของหมู่บ้านบุปผาให้เขาฟัง

โรบินจอนท์: โห.. มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย...

มิมิ: ที่จริงพวกเราเดินทางมากับภูติดอกไม้ด้วยนะคะ แต่พวกเราสั่งให้เค้ารออยู่ด้านนอกไปก่อน เพื่อความปลอดภัย

เนียมิ: แล้วบ่อนี้ ก็คือน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเราต้องการสินะ

โรบินจอนท์: ใช่แล้วล่ะ บ่อนี่แหละคือ "ประกายหยดแห่งพีชพรรณ" แต่ฉันลองตักขึ้นมาดูแล้ว มันตักไม่ขึ้นเลย...

เนียมิ: หมายความว่ายังไง?

โรบินจอนท์: พวกเธอก็ลองเอามือจุ่มลงไปในน้ำดูสิ

แล้วเนียมิก็ลองเดินเข้าไปใช้มือตักน้ำในบ่อขึ้นมา พบว่าหยดน้ำทั้งหมดที่ตักขึ้นมาจางหายไปในทันที

เนียมิ: น้ำแห้งไปจากมือทันทีเลย Σ( °Д°)

มิมิ: เอ๊หรือว่า ถ้าฟูวาว่าจังตักมันขึ้นมาได้.. ก็แปลว่าน้ำในบ่อนี้ตักได้เฉพาะภูติดอกไม้เท่านั้น...?

เนียมิได้เดินกลับไปรับตัวฟูวาว่าเข้ามาภายในดันเจี้ยน โดยที่เธอได้ซ่อนตัวฟูวาว่าไว้ในกระเป๋าเป้

เวลาผ่านไป 15 นาที หลังจากที่่เนียมิเดินกลับมาที่บ่อน้ำ

ฟูวาว่า: เฮ้อ... ฉันเกือบจะตายอยู่แล้ว... ::>_<:: (หายใจไม่ออก)

เนียมิ: โทษทีด้วยนะ เพราะถ้าไม่ซ่อนตัวละก็ พวกมันก็จะไล่ล่าเราทันทีเลยล่ะ

ฟูวาว่า: ฉันลืมบอกไปเลยว่าน้ำในบ่อนี้จะตักขึ้นมาได้เฉพาะภูติดอกไม้เท่านั้นนะ

แล้วฟูวาว่าก็จัดการตักน้ำในบ่อขึ้นมา ส่วนมิมิกับโรบินจอนท์ก็นำขวดมาใส่น้ำที่เธอตักขึ้นมาให้ โดยที่หยดน้ำภายในขวดไม่แห้งหายไป

ฟูวาว่า: เอาล่ะ ใช้แค่เพียงหยดเดียวก็ฟื้นฟูน้ำในหมู่บ้านให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้แล้วล่ะ

โรบินจอนท์: แต่ฉันอยากได้อีก

มิมิ: เอ๊!?

โรบินจอนท์: ฉันอยากได้น้ำจนเต็มขวด เธอช่วยตักเพิ่มให้อีกได้ไหม?

ฟูวาว่า: เออ... ได้ค่ะ...

ฟูวาว่ารู้สึกประหลาดใจ แต่ก็ตัดสินใจทำตามคำสั่ง

การตักในครั้งนี้ใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะเต็มขวด เพราะเธอสามารถตักขึ้นมาได้เพียงแค่ครั้งละ 10 มิลลิลิตรเท่านั้น

โรบินจอนท์: เอาล่ะ พวกเราได้ไอเทมตามที่ต้องการแล้ว

"พวกเจ้ามาขโมยหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์กันสินะ?"

เสียงของปอมปุรุนตัวหนึ่งตะโกนขึ้นมา และเมื่อหันไปมอง ก็พบกับกลุ่มของปอมปุรุนจำนวนมากที่มาล้อมรอบ

เนียมิ: เป็นเพราะนายทำเสียเวลาแท้ๆ เลย พวกเราเลยโดนล้อมเลยเห็นไหม!! (╬▔皿▔)╯

โรบินจอนท์: แฮะๆ ( ̄▽ ̄)~* ขอโทษด้วยนะ

แล้วเนียมิจึงพยายามมองหาทางหนี แต่ก็ไม่มีทางให้หนีได้เลย

"นั่นมันภูติดอกไม้ตัวที่พวกเราไล่ไปเมื่อกี้นี่ แสดงว่าพวกเจ้ามาช่วยภูติดอกไม้ขโมยหยดน้ำกันสินะ?"

มิมิ: คือพวกเราไม่ได้ตั้งใจจะมาขโมยนะคะ พวกเรามีสาเหตุที่อธิบายได้

"แต่ถึงยังไงมันก็เท่ากับขโมยอยู่ดีนั่นแหละ รู้ไหม "ประกายหยดแห่งพีชพรรณ" น่ะ มันเป็นของพวกเรามาตั้งแต่แรกแล้ว แต่เคยถูกพวกภูติดอกไม้พยายามทำสงครามเพื่อที่จะแย่งชิงน้ำในบ่อนี้ไป"

ฟูวาว่า: ไม่ใช่นะ! พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะทำสงคราม แต่เป็นเพราะพวกปอมปุรุนเองนั่นแหละที่มาแย่งชิงน้ำในหมู่บ้านของพวกเราไป

เนียมิ: เอ๊!? มันยังไงกันแน่เนี่ย ชักจะงงไปหมดแล้ว (。>︿<)

ฟูวาว่า: เรื่องนั่นเอาไว้ฉันเล่าให้ฟังทีหลังแล้วกัน ตอนนี้พวกเราต้องรีบหาทางหนีกันก่อนดีกว่า

เนียมิ: แต่ว่าจะให้หนียังไงล่ะ...? (ล้อมซะเยอะเลย...)

มิมิ: งั้นเอาอย่างนี้ ถ้าหากพวกเราชนะการแข่งป๊อปปินแบทเทิลได้ พวกคุณก็ต้องยอมมอบหยดน้ำในขวดนี้ให้กับพวกเรานะ?

"จะเอาอย่างนั้นเหรอ... ได้สิ! แต่ถ้าหากพวกเจ้าเป็นฝ่ายแพ้ละก็ ฉันจะขอตัดหัวภูติดอกไม้ไปประจานก็แล้วกันนะ ตกลงไหม?"

มิมิ: ตกลงไหม ฟูวาว่าจัง?

ฟูวาว่า: โอเค!! ถ้าเพื่ออนาคตของเผ่าฟูวาว่าละก็ ไม่ว่าจะเป็นหรือตายยังไง ฉันก็จะต้องเอาหยดน้ำกลับไปให้ได้เลย!!

"งั้นพวกเราจะให้พวกเจ้ามาแข่งกับหัวหน้าเผ่าของเราก็แล้วกันนะ เอ้า!! เชิญเลย!!"

แล้วจากนั้นก็มีปอมปุรุนตัวยักษ์เดินออกมา โดยในระหว่างที่เดินมาพื้นก็สะเทือนไปตลอดทาง ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเธอและเขา

โรบินจอนท์: มิมิ เนียมิ สู้เค้านะ..!!

มิมิ/เนียมิ: อืม!! (∩_∩)

"ถ้างั้นก็เริ่มการแข่งได้!! Let's pop'n music!"

===== POP'N BATTLE =====
Mimi/Nyami vs Pompurun
DROP / dj TAKA feat.Kanako Hoshino
===== END BATTLE =====

ผลการแข่งขัน มิมิกับเนียมิ เป็นฝ่ายชนะ

เมื่อทางฝั่งปอมปุรุนทราบผลการแข่งขัน ปอมปุรุนทุกตัวก็เกิดอาการอึ้งสุดขีด ก่อนที่จะค่อยๆ เดินถอยหลังออกห่างจากหัวหน้าปอมปุรุนไปอย่างช้าๆ และสุดท้ายปอมปุรุนทุกตัวก็วิ่งหนีไปในที่สุด เหลือเพียงแค่ตัวหัวหน้าที่ยังอยู่เท่านั้น

เนียมิ: ฮ่าๆๆ ^_^ ยอมแพ้กันแล้วสินะ

ปอมปุรุน: เออ.. ต้องขอโทษด้วยนะ

ฟูวาว่า: เอ๊?

ปอมปุรุน: ที่จริงแล้ว.. พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะมาแย่งชิงถ้ำแห่งนี้ไปจากพวกภูติดอกไม้หรอกนะ เรื่องนั้นมันมีสาเหตุอยู่ (´。_。`)

มิมิ: หมายความว่ายังไงเหรอฟูวาว่าจัง?

ฟูวาว่า: อืม! จริงๆ แล้วถ้ำนี้เคยเป็น "บ้านเกิด" ของพวกเรามาก่อนน่ะ

มิมิ/เนียมิ: เอ๋!? จริงเหรอเนี่ย!?

ปอมปุรุน: ถูกต้องแล้ว ที่จริงแล้วเมื่อสมัยก่อนที่นี่คือ "เมืองบุปผา" อันเป็นถิ่นฐานเดิมของเหล่าภูติดอกไม้ ในตอนนั้นพวกเราเผ่าปอมปุรุนกำลังร่อนเร่แสวงหาความมั่งคั่ง เนื่องจากถิ่นเดิมที่พวกเราเคยอยู่ได้ล่มสลายไปจากปัญหาการขาดแคลนอาหารและทรัพยากรต่างๆ จนกระทั่งมาพบกับ "อาณาจักรบุปผา" แห่งนี้ ตอนนั้นพวกเราหิวโหยมากหลังจากที่เดินทางมานาน และได้ยินมาว่าที่นี่มีบ่อน้ำวิเศษที่สามารถฟื้นฟูความกระหายและรักษาแผลได้ด้วยการดึ่มเข้าไปเพียงหยดเดียว ฉันจึงขออนุญาตกับหัวหน้าเผ่าดอกไม้เพื่อขอดึ่มน้ำในบ่อน้ำวิเศษ แต่ก็ถูกปฏิเสธกลับมา พวกเราจึงตัดสินใจใช้กำลังโจมตีอาณาจักรบุปผาจนสามารถยึดครองมาได้สำเร็จ ในขณะที่เผ่าดอกไม้ก็ได้ยอมถอยร่นออกไปจากที่นี่ทั้งหมด และที่นี่ก็ได้กลายมาเป็น "ดันเจี้ยนปอมปุรุน" แหล่งอยู่อาศัยถาวรแห่งใหม่ของพวกเรานับแต่นั้นมา...

[เพลงประกอบ Proposed, Flower, Wolf / ReX]

ฟูวาว่า: และหลังจากที่พวกเราเผ่าดอกไม้ได้ยอมสละอาณาจักรหลังจากที่ถูกโจมตีเแล้ว พวกเราก็ได้ย้ายถิ่นฐานไปสร้างอาณาจักรแห่งใหม่ขึ้นมาทดแทนคือ "หมู่บ้านบุปผา" และเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก พวกเราจึงตัดสินใจสร้างมันไว้ในป่าแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างไกลจากโลกภายนอก และผู้ที่จะเข้ายังอาณาจักรนี้ได้นั้นต้องเป็นคนที่มีจิตใจบริสุทธิ์เท่านั้น อาจจะเรียกได้ว่าหมู่บ้านบุปผาแห่งใหม่เป็นแดนลับแลโดยสมบูรณ์ก็ว่าได้ ...แต่ทว่าปัญหาใหญ่ก็เกิดขึ้น เพราะทรัพยากรที่สำคัญต่อการดำรงชีพของพวกเราคือ "บ่อน้ำแห่งพีชพรรณ" มีปริมาณจำกัด เนื่องจากน้ำที่ใช้ในบ่อของอาณาจักรใหม่นี้เป็นการนำ "ประกายหยดแห่งพีชพรรณ" จากอาณาจักรเก่ามาสร้างอีกที จึงทำให้ในแต่ละปีต้องหาตัวแทนชาวภูติดอกไม้เพื่อไปทำภารกิจนำ "ประกายหยดแห่งพีชพรรณ" จากอาณาจักรเก่ากลับมาเติมน้ำในบ่อ เพื่อให้เผ่าพันธุ์ยังคงสืบอยู่ได้ต่อไป ซึ่งก็มีทั้งสำเร็จและล้มเหลว และในบางครั้งที่ล้มเหลว พวกเราก็ต้องสูญเสียภูติดอกไม้ไปชีวิตหนึ่งเลยก็มี ...เรื่องราวทั้งหมด มันก็เป็นอย่างนี้แหละค่ะ <(_ _)>

[END MUSIC]

มิมิ: พอได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ก็รู้สึกเศร้าแทนฟูวาว่าจังจริงๆ (ノへ ̄、)

เนียมิ: แล้วมันมีวิธีที่ทำให้น้ำในบ่อคงอยู่ตลอดไปได้หรือเปล่า?

ฟูวาว่า: ที่จริงแล้วไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลยนะคะ แต่ว่ามันเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยน่ะสิ เพราะ "บ่อน้ำแห่งพีชพรรณ" ในอาณาจักรเก่าที่น้ำในบ่อไม่มีวันหมด ถูกสร้างขึ้นมาโดยเทพธิดาผู้ให้กำเนิดเผ่าพันธุ์ภูติดอกไม้ และเทพธิดาที่ว่าก็กำลังหลับไหลอยู่ใน "พื้นที่ลึกลับ" ภายในอาณาจักรเก่าที่ไม่มีใครเคยเข้าไปได้มาก่อนค่ะ

เนียมิ: "พื้นที่ลึกลับ" งั้นเหรอ?

ปอมปุรุน: คงจะหมายถึง เกาะเล็กๆ ที่อยู่อีกฝั่งของบ่อนั่นแหละ ดูนั่นสิ

ปอมปุรุนชี้ไปทางบ่อน้ำ ซึ่งมีพื้นเกาะเล็กๆ อยู่ที่จุดไกลสุดของบ่อ

เนียมิ: จริงด้วย มีพื้นเกาะเล็กๆ อยู่ตรงนั้นด้วยล่ะ!

ปอมปุรุน: ที่จริงพวกเราเคยลองไปสำรวจดูตรงเกาะนั้นแล้วนะ แต่ว่าก็ไม่มีอะไรที่น่าดูเป็นทางเข้าไปยัง "พื้นที่ลึกลับ" ได้เลย

มิมิ: งั้นก็คงต้องมีวิธีสักอย่างที่ทำให้เข้าไปยัง "พื้นที่ลึกลับ" ได้?

"เจ้าต้องการสร้างบ่อน้ำแห่งพีชพรรณยังอาณาจักรแห่งใหม่ที่ย้ายไปสินะ"

อยู่ๆ ก็มีเสียงลึกลับดังขึ้นมา

"ห๊ะ??"

ทุกคนที่ได้ยินอุทานออกมาพร้อมกัน

"ข้าได้ยินสิ่งที่พวกเจ้าเล่ามาทั้งหมดแล้ว ชาวเผ่าดอกไม้กำลังตกที่นั่งลำบากจากการขาดแคลนแหล่งทรัพยากรถาวร เพราะฉะนั้นแล้ว ข้าจะช่วยเหลือเจ้า"

แล้วทันใดนั้น ตัวของฟูวาว่าก็เปล่งแสงสว่างออกมา ก่อนที่จะลอยไปยังฝั่งบ่อน้ำ และลอยผ่านทะลุผนังตรงเกาะกลางน้ำที่อยู่ลึกสุดของฝั่งไป

มิมิ: ฟูวาว่าจัง ลอยทะลุเข้าไปยังผนังตรงเกาะนั้นด้วยล่ะ!!

เนียมิ: หรือว่าด้านหลังของผนังนั่นจะเป็น "พื้นที่ลึกลับ" ?!

--------------------------------------------------------------------------------

ทางด้านฟูวาว่า ได้ถูกส่งมายังห้องๆ หนึ่งที่อยู่ด้านหลังของผนังที่ลอยทะลุมา

"เจ้าคือผู้กล้าที่อาสาทำภารกิจฟื้นฟูน้ำในบ่อพีชพรรณที่อยู่ในอาณาจักรแห่งใหม่ของพวกเธอสินะ.."

สิ่งที่เธอเห็นตรงหน้าเป็นแท่งคริสตัลสีรุ้งขนาดใหญ่ ซึ่งภายในแท่งคริสตัลมีภูตินางฟ้าตัวหนึ่งอยู่ภายในนั้น

ฟูวาว่า: เธอคือ...

"ข้าคือเทพธิดาแห่งเผ่าดอกไม้ ชื่อ "โนโนะ" ยินดีที่ได้รู้จักนะ"

ฟูวาว่า: ที่นี่เองน่ะหรอก "พื้นที่ลึกลับ" ของเทพธิดาที่ชาวดอกไม้เค้าร่ำลือกัน?

โนโนะ: ใช่แล้วจ๊ะ ที่นี่เป็นที่สถิตของข้าเอง หลังจากที่ข้าได้ให้กำเนิดและสร้างอาณาจักรบุปผาขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว ข้าก็ได้ทำการปิดผนึกตัวเองไว้ในห้องลับแห่งนี้ไง

ฟูวาว่า: แล้วทำไมท่านต้องปิดผนึกตัวเองด้วยล่ะ? จะมาอยู่เป็นประมุขประจำเผ่าก็ได้นี่นา

โนโนะ: ก็เพราะ "บ่อน้ำแห่งพีชพรรณ" จำเป็นจะต้องใช้พลังจากคริสตัลสีรุ้งนี้ในการขับเคลื่อนให้น้ำในบ่อคงอยู่ไปตลอดยังไงล่ะ ซึ่งคริสตัลแท่งนี้ที่จริงแล้วเป็นพลังทั้งหมดที่ข้าได้ปลดปล่อยออกมา ถ้าหากไม่มีข้าอยู่ล่ะก็ น้ำในบ่อก็จะมีโอกาสหมดไปในสักวันหนึ่งอย่างแน่นอน

ฟูวาว่า: แบบนี้นี่เอง ท่านก็เลยออกไปไหนไม่ได้สินะคะ เพราะต้องคอยมอบพลังให้กับน้ำในบ่อตลอดเวลา

โนโนะ: ถูกต้องแล้วจ๊ะ ...เอาล่ะ เดี๋ยวข้าจะแบ่งพลังให้ส่วนหนึ่งก็แล้วกันนะ

ทันใดนั้นบริเวณผิวคริสตัลจุดหนึ่งก็มีเศษก้อนเล็กๆ หลุดแตกออกมา

โนโนะ: เจ้าต้องนำก้อนคริสตัลชิ้นนี้ไปใส่ลงในบ่อน้ำแห่งใหม่ของพวกเจ้า แล้วน้ำในบ่อจะคงอยู่ไปชั่วนิรันดร์เช่นเดียวกับที่นี่

ฟูวาว่ารับก้อนคริสตัลชิ้นนั้นไว้

ฟูวาว่า: ขอบคุณท่านมากๆ เลยค่ะ ...แต่ว่าท่านจะไม่ย้ายไปอยู่ที่อาณาจักรใหม่ด้วยกันเหรอค่ะ?

โนโนะ: ไม่หรอกจ๊ะ ข้าต้องอยู่ที่นี่ตลอดไป เพื่อรักษาพลังของบ่อน้ำให้คงอยู่ไว้ และพลังที่อยู่ในคริสตัลก้อนนั้นก็เชื่อมต่อกับข้าตลอดเวลาด้วยนะ ก็ให้คิดซะว่าน้ำในบ่อแห่งใหม่มีข้าสถิตอยู่ด้วยก็แล้วกันนะ!

ฟูวาว่า: ค่ะ!!

โนโนะ: ก็เอาเป็นว่าตอนนี้หมดธุระเรียบร้อยแล้วนะ แล้วพบกันใหม่นะ!

--------------------------------------------------------------------------------

จากนั้นฟูวาว่าก็ถูกส่งกลับไปหาพวกมิมิอีกครั้ง

เนียมิ: เป็นยังไงมั้ง?

มิมิ: ได้เจอกับเทพธิดาหรือเปล่า??

ฟูวาว่า: เจอสิ ตัวเป็นๆ เลยล่ะ และท่านเทพธิดาก็ได้มอบนี่มาให้ด้วย

ฟูวาว่านำก้อนคริสตัลมาให้ทั้งสองดู

มิมิ: นั่นมันอะไรน่ะ?

ฟูวาว่า: เป็นก้อนคริสตัลสำหรับฟื้นฟูน้ำในบ่อที่ "หมู่บ้านบุปผา" น่ะ แต่ว่าต่างจาก "ประกายหยดแห่งพีชพรรณ" ตรงที่จะทำให้น้ำในบ่อคงอยู่ไปตลอดไม่มีวันหมดด้วยนะ

มิมิ: งั้นแบบนี้ก็หมายความว่า...! ตั้งแต่นี้ไปก็ไม่ต้องกลับมาที่ดันเจี้ยนนี้อีกแล้วสินะ

ฟูวาว่า: อืม!! (∩_∩)

--------------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่หมดธุระในดันเจี้ยนแล้ว พวกมิมิก็ออกมาด้านนอก อยู่ที่ตรงหน้าทางเข้า โดยมีกลุ่มปอมปุรุนมาอำลา

ปอมปุรุน: ต้องขอโทษสำหรับเรื่องที่ผ่านมาด้วยจริงๆ นะ พวกเราไม่ได้มีเจตนาจะรุกรานอาณาจักรของพวกเธอเลย

ฟูวาว่า: อืม!! (∩_∩) ฉันยกโทษเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ก็แล้วกัน ตอนนี้ที่นี่ก็คือบ้านของพวกเธอจริงๆ แล้วล่ะ

ปอมปุรุน: แต่นั้นมันคำพูดของฉันต่างหากล่ะ...

แล้วทั้งสองก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

เนียมิ: จากคู่อริในวันวาน กลายมาเป็นเพื่อนรักในวันนี้แล้วแฮะ ^_^;

มิมิ: ถ้างั้นพวกเราก็ขอตัวลาแล้วนะ

ปอมปุรุน: อืม!! แล้วเจอกันใหม่นะ!!

พวกปอมปุรุนอำลาส่งท้ายในระหว่างที่พวกมิมิเดินจากไป

เนียมิ: เอาล่ะ ตอนนี้พวกเราก็รีบไป "หมู่บ้านบุปผา" กันเลยดีกว่า!!

โรบินจอนท์: เดี๋ยวก่อนสิ แล้วฉันล่ะ??

โรบินจอนท์ที่ยังคงยืนอยู่ตรงหน้าพวกปอมปุรุนตะโกนถามขึ้นมา

ฟูวาว่า: เสียใจด้วยนะ คุณมีจิตใจด้านมืดที่โลภมากเกินไป คุณเข้าไปยังหมู่บ้านบุปผาไม่ได้หรอกนะ..!

โรบินจอนท์: โธ่... แล้วกัน ( T﹏T )

เนียมิ: งั้นพวกเราก็ไปแล้วนะ แล้วเจอกันใหม่นะโรบินจอนท์!!

เนียมิกล่าวครั้งสุดท้ายก่อนที่ทั้งหมดจะจากไป

--------------------------------------------------------------------------------

และแล้วทั้งสองก็เดินทางมาถึง หมู่บ้านบุปผา ดินแดนลึกลับที่อยู่ที่ไหนสักแห่งในป่าของพีชทาวน์ ซึ่งอยู่ห่างไกลจากหมู่บ้านของผู้คน

ฟูวาว่า: ที่นี่แหละคือบ้านใหม่ของพวกเรา

มิมิ: โห้!! สวยมากเลยล่ะ!!

บรรยายภายในหมู่บ้านเป็นลักษณะหมู่บ้านใจกลางป่าโล่ง บริเวณรอบๆ หมู่บ้านเต็มไปด้วยพืชพรรณและดอกไม้หลากสีมากมาย และยังเต็มไปด้วยกลิ่นหอมจากดอกไม้และอากาศบริสุทธิ์ ทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่มีความสุขมาก

เนียมิ: มีดอกไม้เต็มไปหมดเลยล่ะ แถมอากาศที่นี่ก็ดีมากด้วย

มิมิ: แต่ว่าพืชส่วนใหญ่ก็อยู่ในสภาพใกล้เหี่ยวเฉาเต็มทีแล้วนะ

ฟูวาว่า: อืม!! เป็นเพราะไม่มีน้ำจากบ่อพีชพรรณไปหล่อเลี้ยงน่ะ

และหลังจากที่เดินต่อมาได้สักพัก ก็มีภูติดอกไม้จำนวน 2 ตัวสังเกตเห็นฟูวาว่าบินผ่านมาแถวนั้นพร้อมกับ มิมิ เนียมิ ที่เดินตามมาด้วย

"Σ( °_°) ฟูวาว่า?"

แล้วภูติดอกไม้ 2 ตัวนั้นก็บินเข้ามาหาฟูวาว่า โดยคุยกันเป็นภาษาถิ่น

"ฟูวาฟูวา ฟูวาว่า" (กลับมาแล้วเหรอ ฟูวาว่าจัง)

ฟูวาว่า: ฟูวา!! ฟูวาฟูวาฟูวา (อืม!! ฉันได้ไอ้นี้มาแล้วล่ะ)

ฟูวาว่านำก้อนคริสตัลมาให้ภูติดอกไม้ทั้งสองดู

"ฟูวา?" (ก้อนหิน?)

ฟูวาว่า: ฟูวาฟูวา ฟูฟูวาวา ฟูวาฟูวาฟูวาฟูวาฟูวา ฟูวาฟูวาวาวาฟูวา (ไม่ใช่ๆ มันคือคริสตัลที่ทำให้น้ำในบ่อฟื้นฟูกลับมา แถมยังทำให้น้ำคงอยู่ได้อย่างถาวรด้วยน่ะ)

"ฟูวา!?" (เอ๊! จริงเหรอเนี่ย!?)

ฟูวาว่า: ฟูวา!! (∩_∩) (อืม!! (∩_∩))

เนียมิ: เออ... เค้าคุยอะไรกับเธอเหรอ? ฟังไม่รู้เรื่องเลย

ฟูวาว่า: พวกเค้าต้อนรับฉันกลับมาน่ะ

จากนั้นทั้งสามก็เดินทางต่อไป จนมาถึงบ่อน้ำแห่งพีชพรรณ เป็นบ่อน้ำที่ดูคล้ายกับทะเลสาบขนาดใหญ่

ฟูวาว่า: ที่นี่แหละ บ่อน้ำแห่งพีชพรรณประจำหมู่บ้าน

มิมิ: ใกล้จะแห้งจนเกือบหมดแล้ว.. (⊙_⊙;)

แล้วฟูวาว่าก็นำก้อนคริสตัลโยนลงไปในบ่อ แล้วจากนั้นก็เกิดแสงขึ้นที่ก้อนคริสตัล ก่อนที่คริสตัลจะปล่อยมวลน้ำออกมาเติมน้ำในบ่อจนกลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์อีกครั้ง

[เพลงประกอบ Blue Feather / BINECKS]

และพืชพรรณที่อยู่ภายในหมู่บ้านก็กลับมาอยู่ในสภาพเบ่งบานอีกครั้ง

มิมิ: ว้าว!! ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วล่ะ!! (∩_∩)



มิมิกับเนียมิ ได้รับสแตมป์ดวงที่ 6 เรียบร้อยแล้ว!!

--------------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจแล้ว ก่อนที่ทั้งสองจะจากไป เหล่าภูติดอกไม้ก็ได้มาร่วมกันอำลา

ฟูวาว่า: ต้องขอบคุณพวกท่านทั้งสองมากๆ เลยนะคะที่ช่วยพวกเรา ถ้าหากไม่ได้ท่านทั้งสองช่วยไว้ล่ะก็ คงไม่มีทางทำสำเร็จได้ถึงขนาดนี้หรอกคะ

เนียมิ: แฮะๆ ขอบคุณสำหรับคำชมนะ ^_^

ฟูวาว่า: และเพื่อเป็นการตอบแทนที่ช่วยเหลือหมู่บ้านไว้ ฉันให้นี่นะ

ฟูวาว่านำดอกไม้ช่อหนึ่งมาให้ทั้งสอง

มิมิ: ว้าว!! น่ารักมากเลยล่ะ

ฟูวาว่า: เป็นดอกไม้นำโชคที่ว่ากันว่า จะทำให้สมหวังในความรักได้ด้วยนะ

มิมิ: โห้!! จริงเหรอเนี่ย ขอบใจนะ *^_^*

เนียมิ: เอาล่ะ พรุ่งนี้ก็ได้เวลาไปสอบระดับ 7 กันแล้วนะ มิมิจัง

มิมิ: อืม!! พรุ่งนี้มาสู้กันให้เต็มที่เลย (∩_∩)

มิมิ/เนียมิ: โอ้!!! \^o^/

[END MUSIC]




>>>>> TO BE CONTINUED <<<<<

15 ธันวาคม 2564

【TOWN MODE】 Landmark stamp rally - MISSION COMPLETE!

สวัสดีครับ แอดมินเอครับผม ' w')/

หลังจากที่เมื่อหลายเดือนก่อน แอดมินได้เคลียร์ระบบปลดล็อคของภาค Sunny Park ไป คราวนี้ก็มาถึงคิวของ Tune Street บ้างล่ะครับ!!

สำหรับระบบปลดล็อคของ Tune Street จะพิเศษกว่าภาคอื่นมากๆ เพราะจะมีโหมดเฉพาะสำหรับการปลดล็อคให้เล่นกันเลย นั่นก็คือ TOWN MODE โดยลักษณะการเล่นจะให้เราทำการสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ ขึ้นมา เพื่อเรียกตัวละครต่างๆ ให้ปรากฏออกมาภายในแผนที่ แล้วเราก็ต้องคอยเดินคุยกับเหล่าตัวละครต่างๆ เพื่อเล่นเพลงครับ ซึ่งตัวละครที่ออกมาจะขึ้นอยู่กับสิ่งก่อสร้างที่เรามีอยู่นั่นเอง (ถ้าใครสงสัยในรายละเอียด ลองดูที่นี่ครับ ซับซ้อนพอควร)

แต่ที่เราจะมาพูดถึงกันในบทความนี้คือ อีเวนท์พิเศษที่มีมาให้เล่นหลังจบ Phase MAX ไปแล้ว นั่นก็คือ "แลนด์มาร์ค สแตมป์แรลลี่" (ランドマークスタンプラリー) ครับ


กติกาก็คือ เราจะต้องสร้างสิ่งก่อสร้างตาม "ประเภท" ที่กำหนด เพื่อให้ "แลนด์มาร์ค" นั่นๆ ปรากฏขึ้นมา และเมื่อแลนด์มาร์คปรากฏขึ้นมาแล้ว เราก็ต้องมากดปั้มสแตมป์ที่หน้าแลนด์มาร์คครับ และเมื่อรวบรวมสแตมป์ได้ครบทั้ง 24 ดวง ก็จะปลดล็อคของตกแต่ง 2 ชิ้นสุดท้ายของเกมเป็นรางวัล คือ Background "Polka Dots" (水玉) กับ Announcer "Sexy" (セクシー)

ฟังดูแล้วเหมือนจะง่ายใช่ไหมครับ? แต่บอกเลยว่า โหดและนานกว่าที่คิดไว้เยอะ!!

ความยากของอีเวนท์นี้อยู่ตรงที่ การทำยังไงให้แลนด์มาร์คออกมาเป็นตามที่ต้องการเนี่ยแหละครับ เพราะแลนด์มาร์คบางตัว จำเป็นต้องสร้างสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ที่อยู่ในประเภทเดียวกันร่วมด้วย ไม่สามารถสร้างอย่างใดอย่างหนึ่งได้เดี่ยวๆ ตัวอย่างแลนด์มาร์คเช่น "จานดาวเทียมยักษ์" (巨大なパラボラアンテナ) ตอนแรกผมสร้างแต่สถานีอวกาศ (宇宙基地) อย่างเดียวไปเยอะๆ แต่ปรากฏว่าแลนด์มาร์คดันออกมาเป็น หุ่น Fever Robo (フィーバーロボ) ซะงั้น แต่พอลองสร้างตู้โทรศัพท์ (公衆電話) เยอะๆ ตามไปอีก แลนด์มาร์คถึงจะออกมาเป็น จานดาวเทียมยักษ์ ตามที่ต้องการ

และสิ่งที่ทำให้อีเวนท์นี้ใช้เวลาเคลียร์ยาวนานก็อยู่ที่การเล่นเพลงเพื่อเก็บ TP มาสร้างสิ่งต่างๆ โดยการเล่นในแต่ละเพลงจะได้ TP ประมาณ 110-130 (ได้เท่ากันหมดทุกระดับความยาก) และการสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ จนออกมาเป็นแลนด์มาร์คตามต้องการ ก็ใช้เวลาประมาณ 1-4 เครดิต ซึ่งทั้งหมดใช้เวลา 20-30 นาทีต่อแลนด์มาร์คหนึ่งแห่ง ก็คิดกันเอาเองแล้วกันครับว่ามันนานขนาดไหนกว่าจะเก็บได้ครบ (นี่ยังไม่รวมเวลาที่เสียไปกับการดูบทสรุปอีกนะ)

ในที่สุดก็ครบแล้ว เลือดตาแทบกระเด็น T^T

และนี่ก็คือสแตมป์ทั้งหมดที่รวบรวมได้ครับ




ตัวอย่างของ Background "Polka Dots" (水玉) สุดแรร์ (ที่น้อยคนนักจะปลดได้)



และนี่คือระยะเวลาทั้งหมดที่เริ่มเล่นตั้งแต่ต้นจนจบครับ ใช้เวลาเล่นทั้งหมด 241 ครั้ง หรือคิดเป็นเงินจำนวน 7,230 บาท ที่หยอดเหรียญไป!! (Net Taisen ที่อยู่ในรูป อันนี้ไม่ได้เอามานับด้วยนะ เหอะๆ)


ส่วนเวลาเล่นจริง เริ่มวันที่ 7 พฤศจิกายน และจบในวันที่ 14 ธันวาคม รวมทั้งสิ้น 37 วัน เรียกได้ว่าใช้เวลายาวนานกว่าโหมดเนื้อเรื่องของ Pop'n Music Portable 2 อีกครับ... (จำได้คร่าวๆ ว่า ใช้เวลาประมาณ 14 วันละมั้งนะ?)

และสุดท้ายถือเป็นของแถมให้ละกัน กับฟีเจอร์พิเศษที่มีเฉพาะในโปรแกรม E-Amuemu นั่นก็คือ รองรับระบบ Song Ranking ด้วยครับ!! (Asphyxia Core ยังไม่รองรับระบบนี้)

Tanken Note (探検ノート) มันฮิตในบ้านเราจริงๆ !!


Special Thanks

• โปรแกรมจำลองเซิร์ฟเวอร์ E-Amuemu ที่ทำให้มีโอกาสได้เล่นสแตมป์แรลลี่แบบชาวญี่ปุ่น (Asphyxia Core ไม่รองรับอีเวนท์นี้)
• ตัวเกมภาค Tune Street จากเว็บบอร์ดเกมอาร์เดคของฝรั่งเศสเว็บหนึ่ง (เปิดเผยชื่อเว็บในนี้ไม่ได้ ขออภัยด้วยนะ)
• เว็บ http://pmdream.net/ สำหรับบทสรุปของโหมดสร้างเมือง และอีเวนท์สแตมป์แรลลี่ Google Translate ช่วยได้เยอะเลยทีเดียว

9 ธันวาคม 2564

pop'n music RESPECT : STAGE 23 「ความจริงที่น่าตกใจ ตัวจริงของเซ」

"เออ... พวกพี่ขอโทษด้วยนะคะ ที่นี่คือที่ไหนของเกาะป๊อปปินเหรอ?"

อยู่ๆ ก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาถามทาง มิมิกับเนียมิ ทำให้ทั้งสองที่กำลังไล่กวดกันอยู่นั้นต้องหยุดทันที

มิมิ: ที่นี่คือพีชทาวน์... เอ๊!? Σ( °_°)

คำพูดของมิมิขาดหายไป เพราะเธอรู้สึกคุ้นตากับเด็กผู้หญิงคนนี้มาก

"เป็นอะไรไปเหรอ (⊙_⊙)?"

มิมิ/เนียมิ: ไม่จริง...!? นั่นมัน "มินิต" (Minit's) นี่น้า!! (⓿_⓿)!!

ทั้งคู่ตะโกนออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจ

เนียมิ: ทำยังไงดีล่ะ!? พวกเราเป็นฝ่ายเจอตัวมินิตซะก่อนแล้วล่ะ!!

เนียมิหันมาถามมิมิด้วยความลุกลี้ลุกลน

มิมิ: ก็ต้องหาทางติดต่อกับไทม์เมอร์ให้ได้ก่อนละนะ

มินิต: เออ... ขอโทษด้วยนะ พวกพี่กำลังพูดถึงพี่จ๋าของหนูเหรอ??

มิมิ: ใช่แล้วล่ะ! พวกเราจะหาทางติดต่อกับพี่ชายของเธอให้เองนะ! ไม่ต้องกังวล

เนียมิ: อืม! ^_^ ตอนนี้พี่ชายของเธอเองก็กำลังตามหาเธออยู่ที่เกาะนี้เหมือนกัน

มินิต: อ๊ะ! Σ( °Д°) แย่แล้วสิ!!

เนียมิ: มีอะไรเหรอ?

มินิต: คือว่าที่จริงแล้วหนูน่ะ... เออ..

ยังไม่ทันที่จะได้พูดต่อไป เสียงท้องร้องของเธอก็ดังสนั่นขึ้นมา

มิมิ: ถ้าเธอไม่รังเกียจ จะมากินมื้อเย็นกับพวกเราก่อนก็ได้นะ (^^ゞ

--------------------------------------------------------------------------------



STAGE 23
「ความจริงที่น่าตกใจ ตัวจริงของเซ」


--------------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่มินิตตอบตกลง ทั้งสองก็พามินิตไปพักยังมายแคมป์ของพวกตน โดยในช่วงค่ำทั้งสามได้รับประทานอาหารด้วยกัน

เนียมิ: โห้.. กินใหญ่เลยแฮะ (*^-^*) (สงสัยคงจะหิวมาก)

เนียมิแซวมินิต ที่กำลังกินอาหารอย่างรวดเร็วและอร่อยเป็นที่สุด❤

มิมิ: ถ้าเธอไม่อิ่ม เดี๋ยวฉันจะทำมาเพิ่มให้อีกก็ได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ ^_^

เวลาผ่านไปไม่นาน หลังจากที่มินิตกินหมดแล้ว

มินิต: อืม.. มีของหวานอะไรให้กินไหม?

มิมิ: มีสิ เดี๋ยวฉันเอามาให้นะ

แล้วมิมิไปเอาขนมเค้กก้อนโตจากในตู้เย็นมาให้เธอกิน

เค้กที่มิมิเสิร์ฟมาให้มินิตกิน เป็นเค้กแบบเต็มก้อน มีขนาดประมาณพิซซ่าถาดเล็ก (ซึ่งแบ่งเป็นชิ้นเล็กได้ทั้งหมด 4 ชิ้น)

เนียมิ: แต่ว่า... มาทั้งก้อนเลยแบบนี้ คนเดียวจะกินหมดเหรอ??

แต่พูดไม่ทันขาดคำ มินิตก็ยกเค้กขึ้นมากินทั้งก้อน ทำให้ทั้งสองตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด

มิมิ: ห๊ะ จริงดิ!? Σ(ʘ╻ʘ)

และผ่านไปไม่นาน หลังจากที่มินิตกินหมดแล้ว

มินิต: อืม! อิ่มแล้วค้า~ (^人^)❤

มินิตกล่าวขอบคุณมื้อเย็นด้วยเสียงหวาน และยังตีสีหน้าน่ารักแบบสุดๆ อีกด้วย❤

เนียมิ: อา~ น่ารักชะมัด... (★‿★)

มิมิ: นี่เธอเป็น "มายเมโลดี้" รึไงเนี่ย ( ̄_ ̄|||) (มันจะน่ารักเกินไปแล้วนะ)

ทั้งสองอุทานหลังจากที่ได้เห็นสีหน้าน่ารักของมินิต

มินิต: จริงด้วยสิ! แล้วทำไมพวกพี่ถึงช่วยฉันไว้ล่ะ?

มิมิ: ก็เพราะว่าเธอหลงทางอยู่ไม่ใช่เหรอ? (แถมหิวโซด้วย)

มินิต: มันก็ใช่นะ แต่ที่จริงแล้ว... คือ...

คำพูดขาดหายไปอีกครั้ง พร้อมกับสีหน้าลังเลใจ

มิมิ: คืออะไรเหรอ...?

มินิต: คือ..... ถ้าอยากรู้ละก็ แบทเทิลชนะฉันให้ได้ซะก่อนสิ

เมื่อทั้งสองได้ยินคำตอบ ก็ถึงกับล้มลงไปก้องกับพื้นทันที

เนียมิ: โธ่... อะไรกัน มีแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย ( ̄_ ̄|||) (แต่เธอก็เป็นเพลเยอร์เหมือนกับพวกเรานี่นา)

มินิต: ก็เพราะว่าฉันเป็นไอดอลไงละ จะให้มาบอกเรื่องนี้กับคนแปลกหน้าได้ง่ายๆ ยังไงกันเล่า (‾◡◝)

มิมิ: จริงด้วยสินะ เธอเป็นไอดอลที่เดบิวมาจากรายการ "โอฮะโยะ ซุปเปอร์สตาร์" นี่นา

"โอฮะโยะ ซุปเปอร์สตาร์" (Ohayō Superstar) เป็นรายการวาไรตี้สำหรับเด็ก ออกอากาศช่วงเช้าวันจันทร์ ถึง วันศุกร์ ทางสถานีโทรทัศน์ PHK มีกลุ่มไอดอลของรายการที่เรียกว่า "โอฮะโยะ ไฮทีน" (Ohayō HIGHTEEN) เป็นพิธีกร โดยเมมเบอร์ของวงในแต่ละรุ่น จะคัดเลือกจากเด็กผู้หญิงอายุ 12-15 ปี แน่นอนว่า เมื่ออายุถึง 15 หรือ 16 ปี แล้ว พวกเธอเหล่านั้นก็ต้องจบการศึกษาออกจากวงไป

มินิต: และอีกอย่างหนึ่งก็คือ เรื่องนี้ถือเป็นความลับแค่เฉพาะพวกเธอ และเพื่อเป็นการรับประกันว่าพวกเธอจะรักษาสัญญา พวกเธอต้องชนะฉันให้ได้ก่อน โอเคนะ?

เนียมิ: โอเค! ได้อยู่แล้ว (‾◡◝)

มิมิ: ถ้าเป็นเรื่องความลับละก็ พวกเราไม่เอาไปบอกใครอยู่แล้วละจ๊ะ

มินิต: ถ้าอย่างนั้นก็มาเริ่มแข่งกันเลยดีกว่านะ (∩_∩) Le.Le.Le.Let's... pop'n music!

===== POP'N BATTLE =====
Mimi/Nyami vs Minit's
Tok! Tok! Tok! / STARTRACK
===== END BATTLE =====

ผลการแข่งขัน มิมิกับเนียมิ เป็นฝ่ายชนะ

มินิต: ทำไมพวกพี่ถึงเก่งขนาดนี้ละเนี่ย?? (⊙o⊙)

เนียมิ: ก็เพราะว่าพวกเรามีจิตวิญญาณดนตรีอยู่ในสายเลือดยังไงล่ะ (‾◡◝)

มินิต: แต่หนูเองก็มีจิตวิญญาณแห่งดนตรีอยู่เหมือนกันนะ ...ไม่ยอมๆ ヽ(*。>Д<)o゜

มินิตลงไปนอนดิ้นกับพื้น

มิมิ: ( ̄_ ̄|||) เออ.. เรื่องนั้นช่างมันเถอะ แล้วความลับที่เธอจะบอกกับพวกเรามันคืออะไรกันแน่เหรอ?

มินิต: คือที่จริงแล้ว... หนูหนีพี่จ๋ามาค่ะ

มิมิ: หนีมางั้นเหรอ หมายความว่ายังไง?

มินิต: คือว่า ช่วงก่อนที่เกาะป๊อปปินจะเปิดทำการได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์ หนูแอบเดินทางมาที่นี่ด้วยตัวคนเดียวโดยไม่บอกพี่ก่อนค่ะ และที่หนูแอบมาที่นี่ได้ก็เพราะว่าได้รับการช่วยเหลือจากคนๆ หนึ่งค่ะ ในวันหนึ่งตอนที่ฉันกำลังคิดวางแผนหาทางมาเกาะคนเดียวไปเรื่อยๆ ในระหว่างเดินกลับจากโรงเรียนนั้น อยู่ๆ ก็มีผู้สูงอายุท่าทางแปลกๆ มาแนะนำตัว เค้าบอกว่าเป็นผู้ที่เคยอยู่อาศัยบนเกาะป๊อปปินเมื่อนานมาแล้ว แต่ไม่ได้บอกว่านานเท่าไหร่นะ และในระหว่างการสนทนานั้น พริบตาเดียวฉันก็โผล่มาอยู่ที่เกาะนี้แล้ว...

เนียมิ: ผู้สูงอายุท่าทางแปลกๆ งั้นเหรอ?

มิมิ: แถมยัง "วาร์ป" เธอมาที่เกาะนี้ได้ด้วย (น่าสงสัยมาก)

มินิต: และหลังจากที่ถูกส่งมาอยู่ที่เกาะนี้ เค้าก็มอบหนังสือแปลกๆ ที่ด้านในมีรายละเอียดเกี่ยวข้องกับเวทมนตร์ และแผนที่ที่ตั้งของ "สุสาน CS" โดยผู้สูงอายุท่านนั้นระบุว่าเป็นสถานที่ตั้งของสมบัติที่ถูกซ่อนอยู่ และหลังจากนั้นเค้าก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย...

เมื่อทั้งสองได้ยินคำว่า "สุสาน CS" ก็ทำให้เกิดอาการตะลึงเล็กน้อย

เนียมิ: "สุสาน CS" งั้นเหรอ??

มิมิ: ที่ๆ มีสมบัติซ่อนอยู่??

มินิต: จากนั้นฉันจึงตัดสินใจออกเดินทางไปตามแผนที่ที่ได้บอกไว้ โดยในระหว่างทางก็ได้เห็นสภาพของเมืองและสถานที่ต่างๆ บางส่วนที่ยังสร้างไม่เสร็จด้วยนะ และก็ต้องพยายามคอยหลบสายตาจากเจ้าหน้าที่ของเกาะไม่ให้เห็นตัวอยู่เหมือนกัน เพราะเราลอบเข้ามาที่นี่โดยที่เกาะยังไม่ได้เปิด ถ้าหากเห็นตัวได้ละก็... ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่เลยล่ะ ...และหลังจากที่เดินทางมาไกลจนมาถึง "สุสาน CS" แล้ว ฉันก็ตรงเข้าไปที่หน้าอนุสาวรีย์ของ MZD เพื่อใช้เวทมนตร์เรียกสมบัติออกมาตามที่ในหนังสือเล่มนั้นบอกไว้ และหลังจากที่ร่ายมนต์ได้สักพัก อยู่ๆ ก็เหมือนมีตัวอะไรบางอย่างพุ่งออกมาจากรูปปั้นเข้ามาใส่ฉัน แล้วจากนั้นฉันก็หมดสติไปเลย ...พอมารู้สึกตัวอีกที ก็มาอยู่ที่ป่าข้างๆ กับงานเทศกาลของหมู่บ้านบอนเต้แล้ว

มิมิ: "ป่าที่อยู่ข้างๆ กับงานเทศกาลของหมู่บ้านบอนเต้" ...หรือจะหมายถึง เทศกาลไหว้พระอาทิตย์ ที่พวกเราเคยไปมาแล้ว?

เนียมิ: ใช่เลยล่ะ ที่ๆ พวกเราเคย... เออ.. เคยมีสัตว์ประหลาด SL ออกมาอาละวาดไงล่ะ (เกือบเผลอบอกเรื่องที่พวกเราเป็นป๊อปเปอร์สไปแล้วไงล่ะ >.<)

มินิต: หลังจากนั้นฉันก็พยายามหาทางออกจากเกาะนี้เพื่อกลับบ้าน แต่ว่าแผนที่ที่เคยได้มากลับหายไปแล้ว แถมหนูไม่ได้พกมือถือมาด้วย ก็เลยเป็นเหตุให้ต้อง "งม" หาทางกลับด้วยตัวเอง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังหาทางไปยังท่าเรือหรือสนามบินไม่ได้ จนในที่สุดก็มาเจอกับพวกพี่ๆ ในวันนี้แหละค่ะ ...เรื่องราวทั้งหมดมันก็เป็นอย่างนี้แหละค่ะ (_ _)

เนียมิ: เดี๋ยวก่อนนะ.. เมื่อกี้เธอบอกว่าเคยไปที่ "สุสาน CS" ใช่ไหม?

มินิต: ใช่ค่ะ

เนียมิ: แล้วที่นั่นเป็นสถานที่แบบไหน และพอจะจำได้ไหมว่าอยู่ตรงไหนในแผนที่ของเกาะนี้?

มินิต: หนูกว่าก็ดูเหมือนกับสุสานทั่วไปนะ แต่รู้สึกว่ามันแปลกๆ ยังไงไม่รู้ เพราะป้ายที่จารึกศพแต่ละหลุมมีแต่ชื่อแปลกๆ ทั้งนั้นเลย จะว่าเป็นศพของคนบนเกาะนี้ก็ไม่น่าใช่ หรือศพของพนักงานก่อสร้างเกาะก็ไม่เชิง ส่วนเรื่องที่ตั้งหนูพอจำได้ลางๆ ว่าน่าจะอยู่บริเวณใจกลางของเกาะนี้นะ แต่ที่แน่ๆ คือ มันอยู่ไกลจากจุดที่เริ่มออกเดินทางมามากเลย ...แล้วพวกพี่อยากรู้ที่ตั้งของสุสาน CS ไปทำไหมเหรอคะ?

เนียมิ: คือพวกเรามีธุระที่ต้องไปทำที่นั่นนิดหน่อยน่ะ

มินิต: ธุระ.. อะไรเหรอ??

มิมิ: ก็ไม่เชิงเป็นธุระหรอกนะ เอาเป็นว่าพวกเรามีความจำเป็นต้องไปที่นั่นให้ได้ก็แล้วกัน แต่ยังไงก็ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะ

มินิต: ก็นั่นแหละที่ว่าจำเป็นต้องไป แล้วไปที่นั่นเพื่อทำอะไรล่ะ?

เนียมิ: ไปทำภารกิจน่ะ พวกเรามีภารกิจพิเศษที่ต้องไปทำที่นั่น แต่ยังไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นภารกิจแบบไหน

มิมิ: อืม! แต่ฉันคิดว่ามันอาจจะเกี่ยวข้องกับรูปปั้น หรือตัวอะไรที่พุ่งออกมาจากรูปปั้นนั่นก็ได้

มินิต: อ๋อเข้าใจแล้วล่ะ แต่ตั้งแต่ตอนที่หนูตื่นขึ้นมาในป่าก็เพิ่งคิดได้ว่า เราไม่ควรไปที่นั่นเลย.. อีกอย่าง ถ้าหากหนูปฏิเสธคำชวนมาเกาะนี้จากผู้สูงอายุท่านนั้นตั้งแต่แรก หนูอาจจะไม่ต้องมาตกที่นั่งลำบากแบบนี้ก็ได้ และพี่ชายเองก็จะไม่ต้องมาออกตามหาให้ลำบากอีกด้วย (ノへ ̄、)

แล้วน้ำตาของมินิตก็เริ่มไหลออกมา

มิมิ: มันไม่ใช่ความผิดของเธอหรอกนะ แต่เป็นความผิดของผู้สูงอายุท่านนั้นที่พาเธอมาต่างหากล่ะ

มินิต: แต่ว่าฉันเผลอตอบตกลงไปแล้วนี่นา ยังไงมันก็เป็นความผิดของฉันอยู่ดี (┬┬﹏┬┬)

มินิตร้องไห้หนักกว่าเดิม แล้วจากนั้นเนียมิก็เข้ามาโอบกอดเธอ ทำให้เธออึ้งใจสักพัก

มินิต: อ๊ะ!? (⊙_⊙)?

เนียมิ: ตอนเด็กๆ คุณแม่ของฉันชอบทำแบบนี้บ่อยๆ เวลาที่ฉันเสียใจน่ะ

มินิตรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นสักพักน้ำตาของเธอก็ค่อยๆ หยุดไหล จนในที่สุดเธอก็หลับไป

มิมิ: หลับไปซะแล้วล่ะ (*^_^*)

เนียมิ: สงสัยคงจะล้าเพราะเดินหลงทางมานานน่ะ

มิมิ: แต่ก็นึกไม่ถึงเลยนะว่า เธอเองก็มีโมเม้นท์ที่อ่อนโยนด้วย (∩_∩)

จากนั้นเนียมิจึงอุ้มมินิตไปนอนพักบนเตียง โดยที่เนียมิได้ถอดหมวกกระต่ายของเธอออก และคลุมผ้าห่มให้

เนียมิ: แล้วจากนี้จะเอายังไงกันต่อดี?

มิมิ: ก็คงต้องหาทางติดต่อกับไทม์เมอร์ให้ได้แล้วละนะ

--------------------------------------------------------------------------------

เช้าวันต่อมา มิมิได้โทรไปหาไทม์เมอร์ หลังจากที่ทั้งสองพยายามค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเพื่อหาช่องทางติดต่อกับเขาเมื่อคืนนี้

ไทม์เมอร์: อะไรนะ! เจอตัวมินิตจังแล้วเหรอ!?

มิมิ: ค่ะ!

ไทม์เมอร์: ถ้างั้นเดี๋ยวผมจะรีบไปหาเดี๋ยวนี้เลยนะ รออยู่ที่มายแคมป์กันก่อนนะ!!

แล้วเขาก็วางสายไป

เนียมิ: เป็นยังไงมั้ง?

มิมิ: โอเค!! อีกเดี๋ยวเขาก็มาหาที่นี่แล้วล่ะ (‾◡◝)

มินิต: ต้องขอบคุณพวกพี่ทั้งสองมากๆ เลยนะคะ ที่ช่วยหนูเอาไว้ วันนี้รู้สึกสดชื่นจนเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้งเลยล่ะ (*^_^*)

เนียมิ: แล้วตกลงจะกลับบ้านกันเลยเหรอ? ไหนๆ ก็มาเกาะนี้ทั้งทีแล้ว แถมพี่ชายของเธอก็อยู่ที่นี่แล้วด้วย เราว่าเธอน่าจะลองเข้าร่วมเกมกับพี่ชายไปเลยก็ดีเหมือนกันนะ...? เพราะตอนนี้เขาเองก็เข้าร่วมเกมอยู่เหมือนกัน (แต่เหตุผลจริงๆ คือมาตามหาเธอนี่แหละ)

มินิต: เรื่องนั้นหนูยังไม่รู้เลยค่ะ ว่าจะเอายังไงต่อดี เพราะหนูเองก็แอบมาเกาะนี้โดยที่ยังไม่ได้บอกกับทางต้นสังกัดของรายการก่อน คงต้องรอดูหลังจากที่ท่านพี่มาถึงเท่านั้นแล้วล่ะ

มิมิ: แต่ฉันคิดว่าเธอน่าจะอยู่ที่นี่่ต่อได้นะ เพราะตอนนี้ก็มีคนดังๆ ในวงการหลายคน มาเข้าร่วมเกมอยู่เยอะเหมือนกัน

มินิต: แต่หนูกลัวว่าแฟนๆ จะคิดถึงหนูที่ไม่ได้เจอบนหน้าจอหลายวันนี่นา... >﹏<

มิมิ: เออ... นั่นสินะ ( ̄_ ̄|||)

--------------------------------------------------------------------------------

เวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที

"มินิตจังอยู่ที่นี่หรือเปล่า พี่มาหาแล้วนะ!!"

เสียงที่คุ้นเคยตะโกนเรียกจากด้านนอกมายแคมป์

เนียมิ: ไทม์เมอร์นี่นา!!

จากนั้นทุกคนจึงเดินออกไปหาไทม์เมอร์ที่อยู่หน้ามายแคมป์

มินิต: พี่จ๋า!! (@^0^)

มินิตพุ่งเข้ากอดไทม์เมอร์

ไทม์เมอร์: มินิตจัง เธอหายไปไหนมา? แล้วเธอไม่เป็นไรใช่ไหม?

มินิต: หนูสบายมากเลยคะ ไม่ต้องห่วงหรอก (*^_^*) ส่วนเรื่องที่หายตัวไป ที่จริงแล้วคือ เออ...

คำพูดขาดหายไปพร้อมกับสีหน้าลังเล เพราะคิดไม่ออกว่าจะบอกอย่างไรดี

ไทม์เมอร์: อะไรเหรอ?

มิมิ: มีคนลักพาตัวเธอไปค่ะ ...เนอะ!

มิมิช่วยคิดคำตอบให้มินิต

มินิต: เออ.. ใช่คะ หนูถูกคนแปลกๆ เป็นผู้สูงอายุลักพาตัวมาที่เกาะนี้ค่ะ

ไทม์เมอร์: ถูกลักพาตัวมาอย่างนั้นเหรอ... แต่รู้สึกมันฟังดูแปลกๆ ยังไงไม่รู้แฮะ (ผู้สูงอายุแปลกๆ งั้นเหรอ?)

มินิต: จริงๆ นะคะ หนูถูกผู้สูงอายุแปลกๆ คนหนึ่งพามาที่เกาะนี้จริงๆ ตอนที่หนูกำลังกลับจากโรงเรียน หนูก็ได้เจอกับเค้า แล้วเค้าก็ "วาร์ป" หนูมาที่นี่จริงๆ แล้วเค้าก็ทิ้งหนูไว้ที่นี่โดยไม่บอกกล่าวเลย เค้าพาหนูมาที่นี่เมื่อประมาณสองสัปดาห์ที่แล้วก่อนที่เกาะจะเปิดค่ะ

จากคำบอกเล่านี้ ทำให้ไทม์เมอร์ถึงกับงงและสงสัยมากกว่าเดิม

ไทม์เมอร์: เดี๋ยวก่อนนะ... เมื่อประมาณสองสัปดาห์ที่แล้ว เธอกำลังเดินกลับบ้าน แล้วได้เจอกับผู้สูงอายุแปลกๆ ที่ว่านั้นระหว่างทาง แล้วจากนั้นเธอก็ถูกผู้สูงอายุท่านนั้นวาร์ปมาที่เกาะป๊อปปิน แล้วเค้าก็ทิ้งเธอไว้ที่นี่..... ใช่ไหม?

มินิต: ค่ะ!!

ไทม์เมอร์: แต่มันฟังดูแปลกมากๆ เลยนะ โดยเฉพาะที่ว่า "วาร์ป" มาที่เกาะป๊อปปิน...?

มินิต: หนูไม่ได้โกหกจริงๆ นะ สาบานได้เลย

ไทม์เมอร์: แล้วผู้สูงอายุแปลกๆ ที่ว่านั้น หน้าตาเป็นยังไงเหรอ?

มินิต: ก็... เค้าใส่ชุดคลุมแบบเต็มตัวคล้ายกับพวกแม่มดในนิทาน ไม่เห็นหน้าเลยค่ะ แต่ฟังจากเสียงที่เค้าพูดแล้วน่าจะเป็นผู้สูงอายุค่ะ

ไทม์เมอร์กำหมัดพิงกับใต้คางอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะพูด

ไทม์เมอร์: มันมีเรื่องแบบนี้อยู่บนโลกนี้ด้วยเหรอเนี่ย??

เนียมิ: มีสิค่ะ เมื่อวันก่อนพวกเราเองก็เคยเผลอไปจับดอกไม้แปลกๆ จนตัวเล็กลงมาแล้วเหมือนกัน

มิมิ: ใช่ๆ

มิมิพยักหน้า

ไทม์เมอร์: ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นที่เกาะป๊อปปินก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะที่นี่ทุกอยากล้วนอยู่เหนือกฎแห่งจินตนาการ ...แต่เรื่องที่มินิตจังเจอนี้มันอยู่นอกเกาะป๊อปปินนะ? หรือว่าพวกเธอกำลังมีเรื่องลับลมคมในอะไรกับน้องสาวของผมอยู่หรือเปล่า?

มิมิ/เนียมิ: ปะ...เปล่าเลยนะ ไม่มีซะหน่อย!!

มิมิ เนียมิ รีบส่ายหน้าปฏิเสธอย่างทันควัน

และหลังจากนั้น จู่ๆ มินิตก็มีอาการแปลกๆ ออกมา

มินิต: อะ... อะ... อะ... (>_<。)

เธอรู้สึกเหมือนมีอาการปวดแบบแปลกๆ

ไทม์เมอร์: Σ( °_°) เป็นอะไรไปน่ะ!? มินิตจัง?

มินิต: อีกแล้ว... ฉันรู้สึก... เหมือนกับตอนนั้นเลย... ตอนที่ "ตัวนั้น" พุ่งเข้าใส่ฉัน...

ไทม์เมอร์: อะไรนะ?!

แล้วมินิตก็เริ่มมีอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ

มินิต: อะ.. อะ.. รู้สึก... เหมือนตัวนั้น... มันกลับมาอีกแล้ว...

ทันใดนั้นก็มีเงาสีแดง-ขาว ของตัวอะไรบางอย่างที่ดูคล้ายกับนางฟ้า ปรากฏอยู่ด้านหลังของมินิต ซึ่งก็คือ "คันตัน" (!) นั่นเอง

มิมิ: นั่นมันตัวอะไรน่ะ? (; °_°)

แล้วคันตันก็เข้ามาสิงร่างของมินิต

มินิต: อ้ากกกกกกกกก!!!!! (>o<)

ร่างของมินิตถูกปกคลุมไปด้วยแสงสว่าง และหลังจากที่แสงสว่างหายไป สิ่งที่พวกเค้าเห็นตรงหน้านั่นก็คือ...

ไทม์เมอร์: ห๊ะ?! (; °_°)

เนียมิ: ไม่จริง... (; °_°)

มิมิ/เนียมิ: เซ!!

ทั้งสองตะโกนออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจ หลังจากที่ร่างของมินิตกลายเป็นเซ

เซ: หึหึหึ.. ตั้งแต่มีตัวแทนร่างจำแลง ทุกอย่างก็ง่ายขึ้นเยอะเลยแฮะ

มิมิ: หมายความว่ายังไง ทำไมมินิตถึงกลายเป็นเซไปได้ล่ะ??

เซ: ก็เพราะว่าเธอเลือกที่จะมาหาฉันเองยังไงล่ะ! แถมร่างที่ได้มานี้ก็ตรงกับหลายอย่างที่ฉันกำลังต้องการอยู่พอดีอีกด้วยนะ ฮ่าๆๆ (^0^)

เซขำด้วยสีหน้าสะใจ

มิมิ: ไม่จริงหรอก! ฉันไม่เชื่อหรอกว่ามินิตจังจะไปหาเธอเอง แต่เป็นเธอเองนั่นแหละที่มาหามินิต (เห็นกับตาเมื่อกี้นี้เลย)

เซ: จะว่ายังไงก็ตามสบายเลย เพราะตอนนี้ร่างของนางนั่นได้เป็นของฉันเรียบร้อยแล้ว และฉันก็จะใช้ร่างจำแลงนี้แหละในการ "ชำระล้างโลกเพื่อให้ทุกอย่างกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง" ยังไงล่ะ!! ฮ่าๆๆ (^0^)

เซขำด้วยสีหน้าสะใจ และปรากฏเงาของคันตันออกมาจากด้านหลัง ซึ่งทำท่าทางขำด้วยเช่นกัน

เนียมิ: "ชำระล้างโลก" งั้นเหรอ!?

เซ: ใช่แล้วล่ะ.. เป้าหมายของฉัน คือการเปลี่ยนโลกใบเดิมๆ ที่แสนจะวุ่นวายนี้ให้กลายมาเป็น "โลกในสมมติฐานที่ฉันต้องการ" ยังไงล่ะ!! เป็นโลกที่ไม่มีทั้งเสียงดนตรีและท่วงทำนอง นั่นแหละคือโลกใหม่ในแบบที่ฉันต้องการ เพราะโลกที่มีเสียงดนตรีมันน่าเบื่อสำหรับฉันยังไงล่ะ ฮ่าๆๆ (^0^)

เนียมิ: ว่าไงนะ!?

มิมิ: โลกที่ไม่มีดนตรีกาล!?

ไทม์เมอร์: แต่ที่แน่ๆ แกเอาน้องสาวของฉันคืนมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!!(‵□′)╯

มิมิ: ถอยไปก่อนค่ะ มันอันตราย เดี๋ยวพวกเราจะจัดการเอง

มิมิเข้ามาห้ามไทม์เมอร์ที่กำลังทำท่าจะเข้าไปต่อสู้กับเซ

ไทม์เมอร์: อะ อืม.. เข้าใจแล้ว...

เขารู้สึกงงเล็กน้อย แต่ก็ต้องทำตามคำลั่งเพื่อความปลอดภัย

เนียมิ: จะเอาเลยเหรอมิมิจัง? นี่เรากำลังอยู่ต่อหน้าไทม์เมอร์คุงนะ?

มิมิ: เอาไว้อธิบายเรื่องนั้นกับเขาที่หลังเถอะ ตอนนี้พวกเราต้องรีบแปลงร่างแล้วล่ะ!

เนียมิ: อืม!!

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ยกแขนข้างที่สวมกำไลแปลงร่างขึ้นมา แล้วตะโกนว่า

มิมิ/เนียมิ: "ป๊อปปินแปลงร่าง!!"

จากนั้นก็เกิดคลื่นแสงสีชมพูออกมาจากกำไล ก่อนที่คลื่นแสงจะเข้ามาครอบร่าง

จากนั้นทั้งคู่ก็เหมือนเข้าไปอยู่ในมิติพิเศษที่ใช้สำหรับแปลงร่าง แล้วชิ้นส่วนของชุดป๊อปเปอร์สก็ค่อยๆ ปรากฏออกมาตามตัว

หลังจากที่แปลงร่างเสร็จแล้วทั้งคู่ก็ออกจากมิติแปลงร่างด้วยการพุ่งตัวลงมาจากฟ้า เมื่อเท้าแตะพื้นแล้วก็ถึงเวลาเริ่มกล่าวบทแนะนำประจำตัว

ป๊อปเลิฟ: ด้วยรักและมิตรภาพ ป๊อปเลิฟ!

ป๊อปพีช: ด้วยสุขและสันติภาพ ป๊อปพีช!

ป๊อปเลิฟ/ป๊อปพีช: พวกเราคือ... ป๊อปเปอร์ส!!

หลังจบบทแปลงร่าง ไทม์เมอร์ก็จ้องมองไปที่ป๊อปพีช หรือ เนียมิ ด้วยความตกตะลึงจนแทบไม่กระพริบตา

เซ: เอาล่ะ ไหนๆ ก็พูดถึงเรื่องดนตรีแล้ว งั้นคราวนี้ฉันจะให้พวกเธอสู้กันด้วยการป๊อปปินแบทเทิลแทนการใช้กำลังก็แล้วกัน!

จากนั้นเซก็ได้ถอดผ้าปิดตาของเธอออก แล้วเรียก "ป๊อปคุงสีดำ" ออกมาจากผ้าปิดตาอีกที

เซ: ไปเลย "สัตว์ประหลาด SL" !!

เซโยนป๊อปคุงสีดำไปใส่ผีเสื้อตัวหนึ่งที่กำลังบินอยู่บริเวณข้างๆ แล้วจากนั้นผีเสื้อก็กลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างผีเสื้อขนาดมหึมา มีตาขนาดใหญ่ดวงเดียว (ลักษณะคล้ายกับสัตว์ประหลาด ค้างคาวตาเดียว ในเทพนิยาย)

ป๊อปพีช: ถ้าให้มาป๊อปปินแบทเทิลล่ะก็ พวกเราสู้ได้สบายอยู่แล้วล่ะ (o゜▽゜)o☆

เซ: ท่าทางจะมั่นใจมากเลยนะ แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่าการแบทเทิลกับสัตว์ประหลาด SL มันไม่เหมือนกับการแบทเทิลทั่วไปหรอกนะ เพราะในระหว่างการแข่งสัตว์ประหลาดจะคอยปล่อยพลัง (โอจามา) ออกมารบกวนการเล่นเป็นระยะ และถ้าหากพวกเธอเป็นฝ่ายแพ้ละก็.. ฉันจะขอรับกำไลป๊อปเปอร์สจากพวกเธอไปล่ะนะ

ป๊อปเลิฟ: กำไลป๊อปเปอร์ส? แล้วเธอจะเอาไปทำอะไร??

เซ: มันแน่นอนอยู่แล้ว ก็เอาไปใช้เป็นเครื่องมือในการเปิด "ประตูโลกันตร์" ที่สุสาน CS เพื่อชำระล้างโลกยังไงล่ะ แต่ว่ากำไลนั่นมันกลับตกไปอยู่ในมือของพวกเธอทั้งสองซะก่อนที่ฉันจะหาเจอ

ป๊อปพีช: หรือว่า..! เพราะอย่างนี้ เธอถึงได้คอยตามรังควานพวกเราอยู่เรื่อยๆ สินะ

เซ: ถูกต้อง! และตราบใดที่ฉันยังแย่งชิงกำไลมาจากพวกเธอไม่ได้ ฉันก็ไม่มีทางคืนร่างจำแลงนี้ให้อย่างแน่นอน

ป๊อปพีช: ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าเธอจะคืนร่างมินิตจังให้ตามสัญญา งั้นฉันคงต้องเป็นฝ่ายแย่งมินิตจังกลับมาเองแล้วล่ะ!

เซ: หึหึ.. คิดหรือว่าจะทำได้ เอาล่ะ ถ้าพวกเธอพร้อมแล้ว ก็มาเริ่มกันเลย!

===== POP'N BATTLE =====
POPPERS vs สัตว์ประหลาด SL
MAGIC MUSIC MAGIC / Melodie Sexton
===== END BATTLE =====

ผลการแข่งขัน ป๊อปเปอร์สเป็นฝ่ายชนะ

หลังจากที่สัตว์ประหลาด SL แพ้แล้ว ก็เกิดลำแสงพุ่งออกมาจากตัวที่ละจุดรอบๆ ตัว ก่อนที่ร่างจะแตกสลายกลายเป็นสะเก็ดไฟจำนวนมาก แล้วสะเก็ดไฟก็ค่อยๆ ลอยขึ้นไปอย่างช้าๆ และค่อยๆ เลื่อนหายไปในที่สุด ส่วนผีเสื้อก็กลับคืนมาเป็นเหมือนเดิม

เซ: เจ็บใจนัก! วันหลังฉันจะต้องชนะให้ได้เลย คอยดู! (╬▔皿▔)╯

เซโวยวายก่อนที่จะใช้พลังหายตัวไป ส่วนทั้งสองก็กลับคืนร่างเดิม

มิมิ: สำเร็จไปอีกครั้งนะ

เนียมิ: อืม!! (∩_∩)

ส่วนทางด้านไทม์เมอร์กำลังเปิดดูรูปของป๊อปพีชที่ถ่ายไว้ได้เมื่อสักครู่ในโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ด้วยสีหน้าที่ดูฟินอย่างที่สุด ^_^

ไทม์เมอร์: อย่างน้อยก็เก็บรูปของป๊อปพีชได้แล้วละนะ อิอิ (∩_∩)

มิมิ/เนียมิ: ไทม์เมอร์คุง!!

ไทม์เมอร์: หา!? Σ( °Д°)

มิมิ เนียมิ ตะโกนเรียกไทม์เมอร์ ทำให้เขาหลุดออกมาจากผะวังอันแสนหวานในทันที

เนียมิ: เมื่อกี้นายเห็นหมดทุกอย่างแล้วใช่ไหม...?

ไทม์เมอร์: ชะ...ใช่แล้วครับ เห็นหมดทุกอย่างเลย

เนียมิ: งั้นนายอย่าเอาเรื่องที่พวกเราเป็นป๊อปเปอร์สไปบอกใครเด็ดขาดเลยนะ! เข้าใจไหม?

ไทม์เมอร์: แน่นอน! ผมไม่บอกใครอยู่แล้ว สัญญาได้เลย แต่ว่า...

ไทม์เมอร์กวาดสายตาไปรอบๆ บริเวณนั้น ก็พบว่าไม่มีมินิตอยู่แล้ว

ไทม์เมอร์: มินิตจัง... หายไปอีกแล้วใช่ไหม...?

สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นเศร้าหมองในทันที (และหูกระต่ายบนหมวกตกลง) หลังจากที่เห็นว่ามินิตหายตัวไปอีกครั้ง

มิมิ: ใช่แล้วค่ะ...

เนียมิ: แต่ว่าพวกเราพอจะรู้วิธีแก้ไขให้มินิตจังกลับเป็นเหมือนเดิมด้วยนะคะ

ไทม์เมอร์: วิธีแก้งั้นเหรอ?!

--------------------------------------------------------------------------------

จากนั้นทั้งหมดจึงกลับเข้าไปในมายแคมป์ เพื่อเล่าข้อมูลเกี่ยวกับเซและสุสาน CS ให้ไทม์เมอร์ฟัง

ไทม์เมอร์: หมายความว่าถ้าหากไปที่สุสาน CS แล้วไปทำลาย "กลไก" ของเซลงได้ มินิตจังก็จะกลับเป็นเหมือนเดิมใช่ไหม?

มิมิ: ใช่แล้วค่ะ

เนียมิ: แต่ก็นึกไม่ถึงเลยนะว่า "ใครบางคน" ที่คันตันเลือกให้มาเป็นร่างจำแลงของเซ ก็คือมินิตจังซะเอง

ไทม์เมอร์: งั้นก็แสดงว่าผู้สูงวัยแปลกๆ ที่มินิตจังเคยเล่าให้ฟัง ก็คือคันตันสินะ?

มิมิ: อาจจะใช่ก็ได้คะ ตรงนี้ฉันไม่รู้อะไรเหมือนกัน

ไทม์เมอร์: งั้นฉันจะไปด้วย

เนียมิ: เอ๊!?

ไทม์เมอร์: ภารกิจลับของพวกเธอคือการไปปลดปล่อยคันตันที่สุสาน CS ใช่มั้ยล่ะ งั้นฉันขอติดตามพวกเธอไปด้วยจะได้ไหม?

แล้วทั้งสองก็คิดหนักกับเรื่องนี้ว่าจะเอายังไงต่อดี ทำให้ใช้เวลาคิดอยู่นาน และเมื่อตัดสินใจได้จึงตอบไปว่า...

มิมิ: งั้นก็... ได้ค่ะ ถ้าหากว่านายยังรักษาความลับของป๊อปเปอร์สไว้นะ

ไทม์เมอร์: ได้เหรอครับ!? ขอบคุณนะครับ!! (^-^)

เนียมิ: แล้วไทม์เมอร์คุงจะมาอยู่กับพวกเราเลย หรือว่ายังไง...?

ไทม์เมอร์: ก็... ผมขอตามดูอยู่ห่างๆ ก็แล้วกันนะครับ ผมคิดกว่าหากอยู่กับพวกเธอด้วยตลอดเวลามันก็ออกจะดูรบกวนเกินไปหน่อย...

เนียมิ: ตามดูอยู่ห่างๆ ยังไงเหรอ?

ไทม์เมอร์: ก็แบบว่า ผมจะคอยตามพวกเธอไปแบบเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมายังไงละ ส่วนผมก็ส่วนผม ส่วนพวกเธอก็อยู่ที่ส่วนของพวกเธอ ประมาณนี้...

มิมิ: จริงด้วยสินะ นายมาเกาะนี้กับไอซ์คุงนี่นา งั้นก็ดีแล้วละนะ ^_^

ไทม์เมอร์: ครับ! ตั้งแต่วันนี้ไป ผมจะคอยเอาใจช่วยนะ! (^-^)

ไทม์เมอร์ยื่นมือออกไปหาทั้งสอง

เนียมิ: อืม!! (^-^)

แล้วทั้งสองก็จับมือของไทม์เมอร์ด้วยกัน

เนียมิ: รอก่อนนะมินิตจัง พวกเราจะทำให้เธอกลับมาเป็นเหมือนเดิมให้ได้เลย!!




>>>>> TO BE CONTINUED <<<<<

22 พฤศจิกายน 2564

ครบรอบ 10 ปีการวางจำหน่ายแผ่นอนิเมะ คาแรคเตอร์ผู้พิทักษ์ ในไทย

นอกจากในปี 2564 นี้จะเป็นปีครบรอบเหตุการณ์ "มหาอุทกภัย" ในประเทศไทยแล้ว ยังเป็นปีเดียวกับที่แผ่น VCD และ DVD ของอนิเมะเรื่อง "Shugo Chara! คาแรคเตอร์ผู้พิทักษ์" วางจำหน่ายในบ้านเราอีกด้วยครับ!

สำหรับฉบับอนิเมะของเรื่องนี้นั้น ผู้ที่เคยได้ลิขสิทธิ์วางจำหน่ายในประเทศไทยคือ โรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ (ซึ่งปัจจุบันเลิกทำธุรกิจอนิเมะ และหันไปทำ BNK48 กับ CGM48 แทน) โดย DVD Boxset ชุดแรก(แผ่นที่ 1-4)ได้วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 15 กันยายัน 2554 ส่วน VCD สี่แผ่นแรกวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนสิงหาคมของปีเดียวกัน (อ้างอิงจาก https://web.archive.org/web/20110929222203/https://kartoon-discovery.com/ )

ถ้าพูดถึงกระแสของอนิเมะเรื่องนี้ในบ้านเรา ณ ตอนนั้น เรียกได้ว่าอยู่ในระดับที่ได้รับความนิยมอย่างสูงไปทั่วเลยทีเดียวครับ เพราะนอกจากความน่ารัก โดดเด่น ของเหล่าตัวละครแล้ว ยังมีเนื้อหาและการนำเสนอที่ค่อนข้างต่างจากการ์ตูนเรื่องอื่นๆ มากในเวลานั้น และยังสอดแทรกในเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนและการให้กำลังใจซึ่งกันและกันอีกด้วย เท่านั้นไม่พอ เพลงประกอบในเรื่องนี้อย่าง Meiikyuu Butterfly (迷宮バタフライ) ก็จัดเป็นหนึ่งในเพลงอนิเมะยอดนิยมในบ้านเราด้วยเช่นกัน (และเชื่อว่าชาวไทยหลายคน(รวมผม)คงรู้จักเจ๊ Nana Mizuki มาจากเรื่องนี้่เช่นกัน) ส่งผลให้ SC กลายเป็นการ์ตูนยอดฮิตอีกเรื่องที่มีกระแสโด่งดังมากไม่แพ้ แฟรี่เทล ศึกจอมเวทอภินิหาร ในเวลานั้นเลย (ถ้านึกไม่ออก กระแสของ SC กับ FT ก็คงเทียบได้กับ "ดาบพิฆาตอสูร" ในตอนนี้เลยล่ะ ฮ่าๆๆ)

ส่วนตัวถ้าเป็นไปได้ ก็หวังอยากให้ค่ายสตรีมมิ่ง LC กลับมาฉายอยู่เหมือนกัน (แบบเมะฯเก่าๆ หลายเรื่องที่มีให้ดูในสตรีมมิ่งตอนนี้) เพราะ DVD Boxset แผ่นแท้ทุกชุดที่เคยซื้อมาเก็บไว้ตอนนี้ดูไม่ได้ซะแล้ว แผ่นเจ๊งหมดเรียบร้อย แต่ดูทรงแล้วท่าทางจะยาก เพราะการ์ตูนแนวสาวน้อยเวทมนตร์ในบ้านเราปัจจุบันค่อนข้างเป็นแนว Niche (เฉพาะกลุ่ม) พอสมควร สังเกตได้จากยังไม่มีเว็บหรือแอปสตรีมมิ่งลิขสิทธิ์แท้เจ้าไหนในไทย เอาเมะฯแนวนี้มาลงฉายเลย (ส่วนตัวอยากดู Mewkledreamy กับ PreCure ภาคล่าสุดแบบถูกลิขสิทธิ์ใจจะขาด แต่ไม่มีใคร LC เข้ามาเลย จนต้องมุดไปหาแบบเถื่อนดูเอาแทน T^T) (ที่จริง Mewkledreamy มีใน Netflix ส่วน PreCure มีใน Crunchyroll แต่บ้านเราโดนล็อคโซนทั้งสองเรื่อง)

Edit: Mewkledreamy ทั้งสองซีซั่นมีให้รับชมในบ้านเราแล้วทาง Bilibili Thailand ("มิวเคิลดรีมมี่" และ "มิวเคิลดรีมมี่ มิกซ์!") แต่ซีรี่ส์  Pretty Cure ยังคงไม่มีใคร LC เข้ามาเช่นเคย

ก็เอาเป็นว่าตอนนี้ผมคงต้องขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่คราวหน้าหากมีโอกาส สวัสดีครับ


หน้านี้แก้ไขล่าสุดเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2565

21 พฤศจิกายน 2564

pop'n music RESPECT : STAGE 22 「ผจญภัยแดนแห่งแมลง」

ช่วงเช้าตรู่ของวันต่อมา

วันนี้ มิมิ เนียมิ ได้ตื่นแต่เช้าเพื่อมาวื่งออกกำลังกาย โดยวิ่งกันอยู่บริเวณเส้นทางริมป่าไม้ขนาดเล็กที่อยู่ห่างจากจุดตั้งแคมป์ไม่ไกลนัก

[เพลงประกอบ Every Morning / ND Lee]

และหลังจากที่ทั้งสองวิ่งจ๊อกกิ้งรอบเส้นทางธรรมชาติได้พักใหญ่ ทั้งสองก็ได้หยุดวิ่งและยืนพักเหนื่อยอยู่ริมทาง

มิมิ: เนียมิจัง ทำไมวันนี้อยู่ๆ เธอถึงตื่นมาวิ่งจ๊อกกิ้งแต่เช้าล่ะ? (แปลกนะนี่)

มิมิถามด้วยความสงสัย เพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกเลยที่เนียมิตื่นแต่เช้าตรู่แบบนี้

เนียมิ: ก็แบบว่า... วิ่งเพื่อวอร์มร่างกายเผื่อไว้ได้แปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์สไง เวลาได้ต่อสู้จริงก็จะทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อยมากนักแบบคราวที่แล้ว

มิมิ: มันก็ดีอยู่หรอกนะ แต่ฉันว่าแค่ได้ตะเวนทำภารกิจตามที่ต่างๆ มันก็เหมือนได้วอร์มร่างกายไปในตัวอยู่แล้วนะ...?

เนียมิ: จะว่าไปมันก็จริงอยู่นะ แต่ฉันว่าลองได้มา "ออกกำลังกาย" จริงๆ ดู มันก็ให้ความรู้สึกที่ดีกว่านะ เพราะอย่างน้อยก็เป็นการเสียเหงื่อเพื่อ "สิ่งที่ต้องการ"

มิมิ: ก็จริงของเธอนะ แต่สำหรับฉันแล้วการตะเวนทำภารกิจนี่มันเหนื่อยกว่าต่อสู้กับสัตว์ประหลาดซะอีก

เนียมิ: ก็เอาเถอะ วันนี้พวกเราวิ่งกันพอแค่นี้แหละ ตอนนี้ก็ค่อยๆ เดินกลับไปมายแคมป์เพื่อเตรียมลุยภารกิจของวันนี้กันต่อเถอะ!

มิมิ: อือ!! *^____^*

แต่ก่อนที่ทั้งสองจะได้เดินกลับไปนั้น อยู่ดีๆ เนียมิก็เหมือนได้กลิ่นอะไรแปลกๆ ลอยโชยมาจากทางหนึ่ง

มิมิ: เป็นอะไรไปเหรอ เนียมิจัง?

มิมิถามหลังจากที่ได้เห็นทางท่าแปลกๆ ของเธอ

เนียมิ: ฉันได้กลิ่นอะไรแปลกๆ น่ะ

มิมิ: เอ๊?!

เนียมิ: มันเป็นกลิ่นหอมๆ แบบแปลกๆ ที่ไม่เคยได้ดมมาก่อน...

แล้วเนียมิก็มองไปรอบๆ เพื่อหาแหล่งที่มาของกลิ่นปริศนานั้น ก่อนที่เธอจะเดินไปทางหนึ่ง มิมิจึงเดินตามไปด้วยแบบงงๆ

เนียมิเดินเข้าไปในป่าไม้ข้างทาง และหลังจากที่เดินไปเรื่อยๆ ก็ดูเหมือนว่าเธอจะพบกับแหล่งที่มาของกลิ่นปริศนานั้นแล้ว

เนียมิ: กลิ่นมาจากนี่แหละ ไม่ผิดแน่

แหล่งที่มาของกลิ่นปริศนานั้น มาจากดอกไม้แปลกประหลาดที่อยู่ภายในป่า มีลักษณะคล้ายกับดอกทิวลิป เป็นดอกสีม่วงเข้ม แต่ส่วนของก้านสั้นมากจนดูเหมือนดอกวางติดกับพื้น

มิมิ: อืม! ได้กลิ่นหอมจริงๆ ด้วยล่ะ แถมยังเป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกแปลกประหลาดมากจริงๆ (มันหอมแบบบรรยายไม่ถูก)

จากนั้นเนียมิจึงลองเข้าไปดูดอกไม้ใกล้ๆ และลองดมกลิ่นอีกครั้งเพื่อยืนยันแหล่งที่มา ผลลัพธ์คือเป็นกลิ่นจากดอกไม้ดอกนั้นจริงๆ

เนียมิ: ใช่จริงๆ ด้วย! เป็นกลิ่นจากดอกไม้ดอกนี้จริงๆ นอกจากกลิ่นจะแปลกแล้ว ดอกยังดูสวยแบบแปลกๆ อีกด้วยล่ะ!

มิมิ: แต่ฉันว่าเธออย่าไปยุ่งอะไรกับของแปลกๆ ที่ไม่รู้จักดีกว่านะ

แต่พูดไม่ทันขาดคำ เนียมิได้ยื่นมือไปจับดอกไม้ดอกนั้นเพื่อที่จะเด็ดขึ้นมา แล้วในทันใดนั้นก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นมา!

ทันทีที่มือของเนียมิแตะกับดอกไม้ อยู่ๆ ก็มีแสงสว่างจ้าส่องออกมาจากดอกไม้ดอกนั้น ซึ่งสว่างมากจนทั้งสองต้องยกแขนขึ้นมาบังแสงไว้

มิมิ/เนียมิ: อ้ากกกกกกกกกกกกกกก!! (x_x)

ทั้งสองร้องเสียงหลงเพราะแสบตา

และผ่านไปสักพักหลังจากที่แสงสว่างมอดลงแล้ว

เนียมิ: เมื่อกี้.. เกิดอะไรขึ้นน่ะ?! (+_+)?

มิมิ: ก็ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าไปยุ่งกับของแปลกๆ ที่ไม่รู้จักน่ะ (´・д・)ノ

เนียมิ: แต่เธอบอกฉันทีหลังนี่นา

มิมิ: ฉันบอกก่อนที่เธอจะยื่นมือไปแตะอีก แต่เธอไม่ฟังเองนะ (︶^︶)

เนียมิ: เรื่องนั้นช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าฉันขอโทษก็แล้วกัน แต่ว่า...

จากนั้นเนียมิมองไปรอบๆ ก็พบกับความผิดปกติบางอย่าง...

เนียมิ: รู้สึกเหมือนต้นไม้จะสูงขึ้นนะ...?

มิมิ: เอ๊?!

มิมิจึงลองมองสำรวจโดยรอบ ก็พบกับความผิดปกติเช่นกัน

มิมิ: ฉันว่าต้นไม้ไม่ได้สูงขึ้นนะ แต่เป็นเพราะ... "พวกเราตัวหดเล็กลงต่างหาก!!!"

เนียมิ: หาาาาาาาาา??? ∑(〇_o)

--------------------------------------------------------------------------------



STAGE 22
「ผจญภัยแดนแห่งแมลง」


--------------------------------------------------------------------------------

เมื่อเนียมิมองโดยรอบอีกครั้ง ก็ทำให้เธอรู้ความจริงที่ว่าพวกเธอทั้งสองนั้นตัวเล็กลงจนเท่ากับมด และรู้สึกตกใจขึ้นมาทันที

เนียมิ: ไม่จริงน่ะ!? พวกเราตัวเล็กลงเหรอเนี่ย!??

มิมิ: สงสัยคงเป็นเพราะแสงสว่างเมื่อกี้นี้ พวกเราก็เลยตัวเล็กลง

เนียมิ: โธ่ๆ ฉันขอโทษจริงๆ น้า ทีหลังฉันจะไม่ยุ่งอะไรกับของแปลกๆ อีกแล้วล่ะ (>人<;)

มิมิ: เรื่องนั้นช่างมันเถอะ แต่ปัญหาในตอนนี้ก็คือ... พวกเราจะกลับเป็นเหมือนเดิมได้ยังไงกัน?

แล้วจากนั้นทั้งสองจึงหันไปมองจุดที่มีดอกไม้นั้นอยู่ แต่ปรากฏว่าหายไปแล้ว

มิมิ: ดอกไม้นั่นหายไปแล้วล่ะ

เนียมิ: งั้นก็แสดงว่าพวกเรากลับเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้วใช่ไหมเนี่ยยย~(>_<。)

มิมิ: ฉันว่าพอมีทางกลับเป็นเหมือนเดิมได้อยู่นะ ก็แค่ลองออกตามหาดอกไม้แบบนั้นให้เจอ แล้วเข้าไปแตะที่ดอกเพื่ออาบแสงอีกครั้ง ฉันว่าคงจะต้องมีดอกไม้แบบนี้อยู่ที่ไหนสักแห่งอีกแน่ๆ เลยล่ะ

เนียมิ: แต่ว่า พออาบแสงนั่นอีกครั้งแล้วจะทำให้กลับเป็นเหมือนเดิมได้จริงๆ เหรอ?

มิมิ: ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ㄟ( ▔, ▔ )ㄏ ก็เอาเป็นว่าพวกเราลองไปตามหาดอกไม้นั้นให้เจออีกครั้งก็แล้วกันนะ

เนียมิ: ได้เลย! ถ้างั้นพวกเราก็...



มิมิ/เนียมิ: ไปลุยกันเลย!! LET'S ADVENTURE!! (^_-)/☆\(-_^)

และแล้วภารกิจตามหาดอกไม้เพื่อกลับคืนร่างเดิมก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

--------------------------------------------------------------------------------

ทั้งสองค่อยๆ เดินไปตามเส้นทางในป่า ตลอดสองข้างทางที่เดินไปนั้น พวกเธอได้พบกับแมลงมากมายหลายชนิดที่อาศัยอยู่ในป่า ไม่ว่าจะเป็นหนอน ด้วงปีกแข็ง และผีเสื้อ ซึ่งทุกตัวที่เห็นนั้นมีขนาดค่อนข้างใหญ่กว่าตัวของทั้งสองเล็กน้อย ทำให้พวกเธอรู้สึกตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก

จนกระทั่งเดินมาจนถึงทะเลสาบขนาดใหญ่ ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นล่องน้ำขนาดเล็กที่ตัดระหว่างพื้นดินของทั้งสองฝั่ง

เนียมิ: เดินมาจนเจอทะเลสาบแล้วล่ะ แล้วจะไปทางไหนกันต่อดี?

จากนั้นมิมิจึงมองไปรอบๆ เพื่อทางเส้นที่จะไปต่อ

มิมิ: เออ... ฉันว่าลองเดินออมทะเลสาบไปทางซ้ายแล้วกันนะ

"พวกเธอเป็นใครกันรึ?"

อยู่ๆ ก็มีเสียงของใครบางคนเรียกขึ้นมา และเมื่อหันไปมองก็พบว่าคนที่เรียกพวกเธอเป็นตั๊กแตน

เนียมิ: เออ.. พวกเราคือ มิมิ กับ เนียมิ ค่ะ

มิมิ: คือว่าพวกเรากำลังตามหาดอกไม้อยู่น่ะคะ

"ดอกไม้งั้นเหรอ?"

เนียมิ: ค่ะ! พอดีพวกเราเผลอไปจับดอกไม้ดอกหนึ่งเข้า แล้วร่างกายของพวกเราก็เล็กลงมา...

"อืม... แสดงว่าพวกเธอคงไปจับโดนดอก "สมอลล่า" (Smalla) เข้าสินะ"

มิมิ: ดอกสมอลล่างั้นเหรอ??

"ใช่! สมอลล่าเป็นดอกไม้ป่าที่มีพิษ ทุกส่วนของต้นมีกลิ่นหอมเฉพาะที่เป็นเอกลักษณ์ ใบรูปคล้ายดอกทิวลิป ดอกสีม่วงเข้ม และมีสารพิษบริเวณผิวดอกที่ทำให้ผู้สัมผัสกับผิวดอก ร่างกายถูกย่อเล็กลงในทันที"

เนียมิ: แบบนี่นี่เอง แล้วพอจะมีวิธีแก้ไขอะไรได้บ้างหรือเปล่า?

"จริงๆ แล้วไม่มีวิธีแก้ไขได้โดยตรงหรอกนะ แต่ว่าพิษของมันจะหายไปเองภายใน 24 ชั่วโมง ก็แค่เพียงรอจนถึงเวลานั้นร่างกายของพวกเธอก็จะกลับมาใหญ่เหมือนเดิมเอง"

เมื่อทั้งสองรู้วิธีแก้ไขตามธรรมชาติ ก็ถึงกับเกิดอาการแทบช็อกทันที

เนียมิ: Σ( °Д°) หา!! ตั้ง 24 ชั่วโมงเลยเหรอ??!!

มิมิ: นานขนาดนั้น พวกเรารอไม่ไหวหรอก เพราะพวกฉันเองก็มีเรื่องอย่างอื่นที่ต้องทำอยู่ด้วย

"ฉันเองก็ช่วยอะไรไม่ได้นะ เพราะมันเป็นเรื่องของธรรมชาติน่ะ"

เนียมิ: เอาไงต่อดี มิมิจัง?

มิมิ: ก็คงต้อง... ใช้ชีวิตในร่างนี้ไปหนึ่งวันให้ได้ล่ะนะ

เนียมิ: โธ่..... (´。_。`)

มิมิหันกลับมาถามคุณตั๊กแตน

มิมิ: จริงด้วยสิคะคุณตั๊กแตน แล้วถ้าเกิดพวกเราไปจับโดนดอกไม้นั่นอีกครั้งทั้งที่ยังร่างเล็กอยู่ แล้วจะเกิดอะไรขึ้น?

".....พวกเธอก็จะหายไปตลอดกาลยังไงล่ะ"

มิมิ: หายไปตลอดกาล?? (⊙_⊙)?

เนียมิ: หมายถึง "ตาย" ยังไงล่ะ

มิมิ: งั้นหรอกเนี่ย?! >﹏< (ไม่เอานะ)

"ถ้างั้นก็เอาเป็นว่าขอให้พวกเธอโชคดีก็แล้วกันนะ ฉันไปก่อนล่ะ!"

แล้วคุณตั๊กแตนก็จากไป

มิมิ: สรุปแล้วพวกเราคงต้องหาทางเอาตัวรอดในร่างเล็กไปให้ได้ในหนึ่งวันกันจริงๆ แล้วละนะ

เนียมิ: แล้วต่อไปจะทำยังไงกันต่อ?

มิมิ: ฉันว่าจะไปหาที่พักที่พอจะใช้ได้ก่อนนะ

จากนั้นทั้งสองก็ออกเดินทางกันต่อไป โดยเป้าหมายต่อไปคือการหาที่พักสำหรับนอนและหลบฟ้าฝน

--------------------------------------------------------------------------------

เวลาผ่านไปหลายนาที ในที่สุดก็หาที่พักได้สำเร็จ

มิมิ: เอาล่ะ พวกเราจะกินนอนกันที่นี่นะ

ที่พักที่มิมิเลือก เป็นโพรงใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง แล้วจากนั้นเนียมิก็เดินเข้าไปดูภายใน

เนียมิ: ดูเหมือนกับโพรงของกระต่ายป่าเลยล่ะ

มิมิ: แต่ฉันว่าน่าจะใช่เลยล่ะ

เนียมิ: ถ้าใช่ แสดงว่าที่นี่คงเคยมีกระต่ายอยู่จริงๆ สินะ

มิมิ: ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ( ̄_ ̄|||)

มิมิเว้นไว้ช่วงหนึ่งแล้วพูดต่อ

มิมิ: ต่อไปก็ต้องหาเสบียงอาหารไว้ประทังชีวิตนะ

เนียมิ: งั้นเดี๋ยวฉันจัดการเอง แล้วเธอจะไปด้วยกันไหม?

มิมิ: ไม่ล่ะ ฉันว่าจะขอจัดที่นี่ให้เรียบร้อยสักหน่อยนะ

เนียมิ: โอเค! งั้นฉันไปก่อนนะ

มิมิ: แล้วเจอกัน!

--------------------------------------------------------------------------------

และในระหว่างที่เนียมิกำลังเดินไปเรื่อยๆ นั้น อยู่ๆ เธอก็เดินตกหลุมพราง

เนียมิ: เหวอ! (⊙_⊙;) อ้ากกกกกกกก!!!!! (>o<)

หลุมพรางที่เธอร่วงลงไปนั้นมีความลึกมาก จนร่างของเธอหายไปกับความมืดในหลุมนั้น

--------------------------------------------------------------------------------

กลับมาทางด้านมิมิ ซึ่งตอนนี้เวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าแล้ว

มิมิ: ฉันว่านี่มันนานผิดปกติแล้วนะ ต้องมีเรื่องอะไรไม่ดีเกิดขึ้นกับเนียมิจังแน่ๆ เลย

แล้วจากนั้นมิมิจึงตัดสินใจออกไปตามหา

เธอเดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงจุดที่มีหลุมพราง แต่เธอก็ยังคงมุ่งหน้าต่อไป เพราะบริเวณรอบๆ หลุมไม่มีอะไรที่ดูน่าสงสัย

เธอเดินต่อไปเรื่อยๆ จนมาพบกับด้วงตัวหนึ่ง เธอจึงลองเข้าไปถาม

มิมิ: เออ... ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าเห็นใครผ่านมาแถวนี้บ้างหรือเปล่า

ด้วงตัวนั้นส่ายหน้า แล้วจากนั้นเธอก็เริ่มเดินหาต่อไป

และหลังจากที่เดินต่อมาได้อีกสักพัก เธอก็พบกับสวนเกษตรที่อยู่ระหว่างทาง ด้วยความสงสัยเธอจึงลองไปสำรวจ

มิมิ: มีสวนผักอยู่ในที่แบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย

และในระหว่างที่เดินภายในพื้นที่สวนไปเรื่อยๆ เธอก็พบกับมดตัวหนึ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นเจ้าของสวนผัก เธอจึงลองเข้าไปถาม

มิมิ: เออ... ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าเห็นคนที่มี "หูแมว" ผ่านมาแถวนี้บ้างหรือเปล่า

"ไม่เห็นเลยนะ"

มิมิ: งั้นก็ขอบคุณนะคะ

แต่ก่อนที่มิมิจะได้เดินออกจากสวนไป มดตัวนั้นก็เรียกเธออีกครั้ง

"เดี๋ยวก่อน"

มิมิ: เอ๊? มีอะไรเหรอคะ?

"เธอไม่ใช่คนแถวนี้ใช่ไหม?"

มิมิ: ใช่แล้วค่ะ ฉันเป็นกระต่า... เออ... มนุษย์ค่ะ และเผลอไปจับดอกสมอลล่าจนตัวเล็กลง

"งั้นก็ระวังตัวด้วยนะ แถวนี้มีหลุมพรางของกองทัพมดอยู่ และมีค่อนข้างเยอะด้วย"

เมื่อเธอได้ยินคำว่าหลุมพราง เธอก็เริ่มเอะใจ

มิมิ: หลุมพราง?? เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ?!

"แถวนี้มีหลุมพรางของกองทัพมดอยู่ เป็นหลุมที่คอยดักจับพวกแมลงที่โชคร้ายให้ลงไปในรังของมัน และคนที่ตกลงไปในรังจะถูกพวกมดจับไปทำเป็นอาหารน่ะ"

มิมิ: Σ( °_°) อะไรนะ?! คือว่าเมื่อกี้ฉันรู้สึกเหมือนเพิ่งเดินผ่านหลุมใหญ่ๆ หลุมหนึ่งไปเหมือนกัน...

"แสดงว่าเพื่อนของเธออาจจะเดินตกหลุมนั้นไปก็ได้ แต่ว่าฉันช่วยอะไรไม่ได้หรอกนะ เพราะกองทัพมดของที่นี่แข็งแกร่งมาก"

มิมิ: เอ... แต่คุณก็เป็นมดเหมือนกันไม่ใช่เหรอคะ?

"คือตอนนี้ฉันเกษียณแล้วน่ะ ฉันไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรกับทางกองทัพอีกแล้ว"

มิมิ: งั้นก็แปลว่าคุณเองก็เคยอยู่ในกองทัพเหมือนกันใช่ไหมล่ะ??

"( ̄_ ̄|||) ช่วยไม่ได้นะ งั้นเดี๋ยวฉันพาเธอไปที่รังมดก็แล้วกัน ...แต่ขอบอกไว้ก่อนอย่างหนึ่งนะว่า หากเธอเป็นอะไรขึ้นมาละก็ ฉันไม่รับผิดชอบด้วยนะ โอเคไหม?"

มิมิ: แน่นอน! โอเคอยู่แล้ว ถ้าเพื่อช่วยเนียมิจังกลับมาละก็ ไม่ว่าจะต้องเจอกับอะไร ฉันก็ไม่กลัวอยู่แล้ว ^_^

"ถ้างั้นตามฉันมาเลยก็แล้วกัน"

--------------------------------------------------------------------------------

แล้วคุณมดตัวนั้นก็นำทางมิมิไปยังรังมด ซึ่งทางเข้ารังมีลักษณะคล้ายกับปากทางเข้าถ้ำทั่วไป

ทั้งสองแอบดูทางเข้ารังอยู่หลังพุ่มไม้

"ที่นี่แหละ คือรังมดของที่นี่"

มิมิ: ว่าแต่ทำไมมันดูเงียบเหงาจัง? ปกติแถวๆ หน้ารังมักจะมีมดมาเดินสวนกันเป็นแถวเต็มไปหมดเลยนี่นา

"สงสัยคงจะมาได้จังหวะตอนที่พวกมดงานกำลังพักอยู่พอดี"

มิมิ: อ๋อ

"แต่ฉันจะส่งเธอถึงแค่ตรงนี้เท่านั้นนะ"

มิมิ: ค่ะ! ฉันจะพยายามลองลอบเข้าไปดู

และแล้วปฏิบัติการลอบเข้าไปในรังมดของมิมิก็ได้เริ่มต้นขึ้น

--------------------------------------------------------------------------------

ทางด้านเนียมิ หลังจากที่หมดสติไปนาน ในที่สุดเธอก็ตื่นขึ้นมา

เนียมิ: .....ที่นี่มันที่ไหนกันเนี่ย??

สิ่งที่เธอเห็นหลังจากตื่นขึ้นมานั้น เป็นห้องแคบๆ มืดๆ ที่มีลูกกรงอยู่ตรงหน้า

เนียมิจึงลองมองไปรอบๆ ตัว พบว่าที่นี่เป็นห้องขังที่ไม่มีทางออก นอกจากประตูลูกกรงที่ปิดล็อคตรงหน้าเท่านั้น

เธอเดินมาตรงหน้าลูกกรง แล้วลองใช้มือจับที่ลูกกรง

เนียมิ: ไม่จริงน้า นี่เราโดนขังเหรอเนี่ย??

เนียมิพยายามมองออกไปนอกห้องขัง พบว่าตรงหน้าเป็นกำแพงหินและมีทางเดินในแนวข้าง

เนียมิ: ลองนึกย้อนดูเมื่อกี้ เรากำลังเดินหาผลไม้อยู่นี่นา แล้วจากนั้นจู่ๆ ก็เดินตกหลุมพราง แล้วยังไงไม่รู้มาโผล่อยู่ที่นี่...

"ตื่นแล้วสินะ"

จากนั้นก็มีมดตัวหนึ่งเดินมาดูเธอตรงหน้าห้องขัง

เนียมิ: คุณเป็นใครกันน่ะ?? แล้วที่นี่มันที่ไหน??

"ขอต้อนรับสู่รังมดของพวกเรานะ และอีกไม่นานเธอก็จะกลายมาเป็นอาหารอันโอชะของพวกเราแล้ว"

เนียมิ: อาหารเหรอ?? หรือว่าพวกนายจะ...

"ใช่! พวกเราจะพาไป "เผา" ให้กลายเป็นเนื้อแมวย่างยังไงล่ะ! ฮ่าๆๆ"

มดตัวนั้นหัวเราะด้วยความสะใจ ก่อนที่จะเดินจากไป

เนียมิ: (⊙﹏⊙) แย่แล้วล่ะสิ! เรามาอยู่ในที่ๆ ไม่ควรจะอยู่ซะแล้ว! ...จริงด้วยสิ! Σ(⊙o⊙)

เนียมินึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วจากนั้นเธอก็ยกแขนข้างที่สวมกำไลแปลงร่างขึ้นมา แล้วตะโกนว่า

เนียมิ: "ป๊อปปินแปลงร่าง!!"

แต่ทว่า... มันกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

เนียมิ: อะเอ๊?? ทำไมถึงไม่มีคลื่นแสงแปลงร่างออกมาล่ะ งั้นลองใหม่อีกรอบ... "ป๊อปปินแปลงร่าง!!"

เธอพยายามแปลงร่างเป็นป๊อปพีชอีกครั้ง แต่ก็ยังคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนเดิม

เนียมิ: ทำไมถึงแปลงร่างไม่ได้ล่ะ... อ๊ะ! Σ(⊙o⊙)

จากนั้นอยู่ๆ เธอก็นึกถึง "เงื่อนไข" ที่สำคัญในการแปลงร่างขึ้นมาได้

*****************************************************

【ย้อนความจาก STAGE 14

MZD: การแปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์สได้ พวกเธอทั้งสองจำเป็นจะต้องอยู่พร้อมกัน ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถแปลงร่างได้

*****************************************************

เนียมิ: ลืมนึกไปเลยว่าถ้ามิมิจังไม่ได้อยู่ด้วยกัน ก็แปลงร่างไม่ได้นี่นา โธ่... (>_<。)

--------------------------------------------------------------------------------

สลับมาทางมิมิ หลังจากที่เธอลอบเข้าไปในรังแล้ว บรรยากาศภายในรังมีสภาพเป็นถ้ำที่มีทางเดินแคบๆ ทอดยาวและคดเคี้ยวไปเรื่อยๆ ซึ่งก็ดูแทบไม่ต่างไปจาก "ดันเจี้ยนซากโบราณป๊อปปิน" ที่เคยไปลุยเมื่อคราวก่อนเท่าไหร่นัก

แต่สิ่งที่ต่างก็คือ เส้นทางของที่นี่มีความสลับซับซ้อนมากกว่า โดยในระหว่างทางเธอได้เจอกับทางแยกมากมายหลายทาง และในแต่ละทางที่เลือกไปนั้น บางจุดเธอก็ได้เจอกับกลุ่มมดส่วนหนึ่งที่เดินไปมาในรังด้วย ซึ่งเธอก็สามารถแอบและหาทางหลบสายตาจากพวกมันมาได้โดยตลอด ถ้าจำไม่ผิด นี่มันคล้ายกับเกม "Metal Gear Solid" ภาคแรกเลย...

จนกระทั่งเธอเดินทางมาถึงบริเวณห้องโถงแห่งหนึ่ง ซึ่งมีประตูและทางแยกอยู่จำนวนหนึ่ง และในระหว่างที่เธอกำลังซ่อนตัวด้วยลังกระดาษนั้น เธอได้เห็นกลุ่มมดทหารกำลังพาแมลงปอตัวหนึ่งเข้าไปในห้องที่มีประตู ก่อนที่มดทหารจะใช้ไฟเผาแมลงปอผู้โชคร้ายจากภายในห้องนั้น

มิมิ: อย่างกับใน "แรมโบ้ 3" เลยแฮะ ต้องรีบหาเนียมิจังให้เจอแล้ว...!

จากนั้นเธอก็ออกเดินทางต่อหลังจากที่ได้โอกาส โดยที่ยังใช้ลังกระดาษพรางตัวอยู่

เธอเลือกเดินไปตามทางที่มดทหารพาแมลงปอมาเมื่อสักครู่ เพราะเธอคิดว่าหากมดทหารพาเหยื่อมาจากทางนั้นละก็ เนียมิคงต้องอยู่ในห้องใดห้องหนึ่งที่มาจากทางนั้นแน่ๆ

หลังจากที่เดินหาต่อไปได้อีกสักพัก ในที่สุด มิมิก็ได้เจอกับเนียมิที่ถูกขังอยู่ในห้องเรือนจำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

มิมิ: เนียมิจัง! ฉันมาช่วยแล้ว!!

มิมิค่อยๆ เรียกเนียมิที่อยู่ในกรง

เนียมิ: มิมิจัง! เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับฉันเหรอ??

มิมิ: ที่นี่เป็นรังมดน่ะ ดูเหมือนว่าเธอจะเดินตกหลุมพรางของพวกมันจนมาอยู่ในนี้ ฉันก็เลยหาทางแอบลอบเข้ามาเพื่อช่วยเธอออกไปนี่ไงล่ะ!

เนียมิ: อย่างนี้นี่เอง หลุมพรางที่ฉันตกลงไป เป็นกับดักของพวกมดสินะ

มิมิ: ใช่แล้วล่ะ! แต่ว่าตอนนี้เธอต้องรีบออกมาแล้วล่ะ

เนียมิ: ถ้างั้นก็มาแปลงร่างกันเลยไหม?

มิมิ: โอเค ฉันต้องการแบบนั้นอยู่แล้ว! (@^0^@)

แล้วทั้งคู่ก็ยกแขนข้างที่สวมกำไลแปลงร่างขึ้นมา แล้วตะโกนว่า

มิมิ/เนียมิ: "ป๊อปปินแปลงร่าง!!"

จากนั้นก็เกิดคลื่นแสงสีชมพูออกมาจากกำไล ก่อนที่คลื่นแสงจะเข้ามาครอบร่าง แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็กลายเป็น ป๊อปเลิฟและป๊อปพีช

ป๊อปพีชใช้พละกำลังจากร่างแปลงดึงประตูลูกกรงจนหลุดออกมาได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่จะเดินออกมานอกกรง

ป๊อปพีช: ขอบใจที่มาช่วยนะ ถ้างั้นพวกเราก็รีบออกจากที่นี่กันเลยดีกว่า

ป๊อปเลิฟ: เดี๋ยวก่อนนะ ฉันขอเช็คอะไรก่อนนิดหนึ่ง

จากนั้นป๊อปเลิฟก็เดินเช็คภายในเรือนจำอยู่สักพัก เธอพบว่านอกจากเนียมิหรือป๊อปพีชแล้ว ยังมีแมลงตัวอื่นๆ ที่ถูกขับอยู่อีกมากมาย

ป๊อปเลิฟ: ฉันว่าจะช่วยเหยื่อที่เหลือออกมาด้วยน่ะ เพราะตอนก่อนที่จะมาถึงเรือนจำ ฉันเห็นเหยื่อแมลงส่วนหนึ่งถูกพวกมดจับไปประหารด้วยนะ

ป๊อปพีช: งั้นก็มาช่วยออกมาให้หมดเลยเถอะ

ป๊อปเลิฟ: ได้เลย!

แล้วทั้งสองก็ทยอดช่วยแมลงที่เหลือออกมาจากคุกได้ทั้งหมด โดยใช้กำลังดึงประตูลูกกรงให้หลุดออกมา

ป๊อปพีช: เอาล่ะ แล้วจะเอายังไงกันต่อดี?

ป๊อปเลิฟ: ฉันจะเป็นคนนำทางให้นะ ส่วนเธอก็คอยเฝ้าดูพวกเขาด้วยก็แล้วกัน

ป๊อปพีช: โอเค!

แต่ก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มภารกิจหลบหนีออกจากรัง พวกมดทหารจำนวนหนึ่งได้เดินเข้ามาภายในเรือนจำหลังจากที่ได้ยินเสียงเอะอะจากพวกแมลงที่ช่วยออกมา แต่ทั้งสองก็สามารถจัดการพวกมันลงได้อย่างง่ายดาย

ป๊อปเลิฟ: เอาล่ะ ตามมาทางนี้เลย!

ป๊อปเลิฟตะโกนเรียกฝูงแมลงให้ตามพวกเธอมา แล้วจากนั้นทั้งสองก็ค่อยๆ นำทางฝูงแมลงไปยังทางออกรัง โดยในระหว่างนั้นก็ยังคงมีมดทหารที่ถือหอกและดาบจำนวนหนึ่งคอยเข้ามาขัดขวางเป็นระยะ ทั้งบุกมาจากทางด้านหน้า ด้านหลัง หรือแม้กระทั่งดักลอมทั้งสองทาง แต่ทั้งสองก็ยังเอาชนะมาได้ตลอดทาง จนในที่สุด ทั้งสองรวมถึงฝูงแมลง ก็สามารถหลบหนีออกมาจากรังมดได้สำเร็จ

"ขอบคุณพวกเธอทั้งสองมากๆ เลยนะที่ช่วยพวกเราออกมา"

ผีเสื้อ‎ตัวหนึ่งกล่าว

"ใช่แล้วล่ะ ถ้าหากไม่ได้พวกเธอทั้งสองช่วยออกมาละก็ พวกเราได้กลายเป็นอาหารให้พวกมดอย่างแน่นอนเลยล่ะ"

จักจั่นตัวหนึ่งกล่าว

ป๊อปพีช: แฮะๆ เรื่องแค่นี้สบายอยู่แล้ว (^▽^)

"ว่าแต่พวกเธอเป็นมนุษย์ที่ถูกพิษของดอกสมอลล่าทำให้ตัวเล็กลงใช่ไหม?"

แมลงเต่าทองตัวหนึ่งกล่าว

ป๊อปเลิฟ: ใช่ค่ะ พวกเราถูกพิษของดอกสมอลล่าทำให้ตัวเล็กลง

"ถ้างั้นก็ตามฉันมาสิ เดี๋ยวฉันจะให้ยาถอนพิษนะ"

ป๊อปเลิฟ: มียาถอนพิษด้วยเหรอคะ?! ขอบคุณมากๆ เลยนะค่ะ!

--------------------------------------------------------------------------------

แล้วทั้งสองก็ตามแมลงเต่าทองไปที่บ้านของเขา ซึ่งอยู่บนต้นไม้ (ในตอนนี้พวกเธอทั้งสองได้กลับสู่ร่างเดิมแล้ว )

"ถือซะกว่าเป็นการตอบแทนที่พวกเธอช่วยออกมาก็แล้วกันนะ"

แมลงเต่าทองกล่าวก่อนที่จะมอบยาถอนพิษให้กับทั้งสอง

เนียมิถือขวดยาพลิกไปมาเพื่อตรวจสอบ ก่อนที่จะถาม

เนียมิ: แล้วยานี้มันมีผลข้างเคียงอะไรหรือเปล่า?

"ไม่มีผลข้างเคียงอะไรหรอก ปลอดภัย 100% แน่นอน ฉันเคยทดลองยานี้กับมนุษย์คนอื่นๆ มาหลายคนแล้ว"

เนียมิ: แต่ฉันรู้สึกไม่ไว้ใจเลย...

มิมิ: ถ้างั้นฉันขอดื่มก่อนแล้วนะ

และทันทีที่มิมิดื่มยาเข้าไป ร่างการของเธอก็ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น จนกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกครั้ง

มิมิ: ร่างกายกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วล่ะ!! \^o^/

เนียมิมองขวดยาด้วยความลังเลอยู่สักพัก ก่อนที่จะตัดสินใจดื่มเข้าไป แล้วร่างกายของเธอก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้เช่นกัน

เนียมิ: ร่างกายกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว!! ขอบคุณสำหรับยานะ!! ♪(^∇^*)

มิมิ: ถ้างั้นพวกเราก็ขอตัวลาแล้วนะคะ

"อืม!! แล้วระวังอย่าไปจับดอกสมอลล่าอีกล่ะ ถ้าหากพวกเธอตัวเล็กอีกคราวนี้ ฉันจะไม่ให้ยาแล้วนะ"

เนียมิ: ค่า!! ฉันจะไม่มีทางไปยุ่งกับดอกนั้นอีกเด็ดขาดเลยล่ะ!!

แล้วจากนั้นทั้งสองก็เดินจากไปอย่างมีความสุข



มิมิกับเนียมิ ได้รับสแตมป์ดวงที่ 5 เรียบร้อยแล้ว!!

--------------------------------------------------------------------------------

ระหว่างทางที่กำลังเดินกลับไปยังจุดตั้งแคมป์

เนียมิ: ดีนะที่พวกเราได้ยาถอนพิษ ไม่อย่างนั้นคงได้นอนในป่าแน่ๆ เลยล่ะ

มิมิ: อืม!! (แต่รู้สึกเสียดายโพรงกระต่ายที่จัดไว้จัง...)

แล้วจากนั้นก็มีเสียงท้องร้องดังสนั่นมาจากทางเนียมิ

เนียมิ: คือที่จริงแล้วตอนนี้... ฉันรู้สึกหิวจนตาเริ่มลายแล้วล่ะ เพราะตั้งแต่ที่ตกหลุมพรางไปก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย

มิมิ: เอ้านี่!

มิมิมอบช็อกโกแลตแท่งให้กับเนียมิ

เนียมิ: มีช็อกโกแลตด้วยเหรอ? เธอพกมาตั้งแต่เมื่อไหร่? (ไม่เห็นบอกเลย)

มิมิ: ฉันคิดอยู่แล้วล่ะว่าสักวันจะต้องเจอสถานการณ์แบบนี้ ฉันก็เลยพกขนมติดตัวมาด้วยเผื่อเหตุฉุกเฉินน่ะ

เนียมิ: งั้นเหรอ.. ขอบใจมากนะ!! ฉันรักเธอที่สุดเลยล่ะ!! (*^▽^*)

เนียมิพยายามกระโดดเข้ากอดมิมิ แต่มิมิพยายามหลบ

มิมิ: เฮ้ย! เธอหิวจนเพี้ยนไปแล้วหรือไง!! (และอีกอย่างวันนี้ก็ไม่ใช่วาเลนไทน์ด้วยนะ)

และในระหว่างที่ทั้งสองกำลังไล่กวดกันนั้น

"เออ... พวกพี่ขอโทษด้วยนะคะ ที่นี่คือที่ไหนของเกาะป๊อปปินเหรอ?"

อยู่ๆ ก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาถามทาง ทำให้ทั้งสองต้องหยุดทันที

มิมิ: ที่นี่คือพีชทาวน์... เอ๊!? Σ( °_°)

คำพูดของมิมิขาดหายไป เพราะเธอรู้สึกคุ้นๆ กับเด็กผู้หญิงคนนี้มาก

"เป็นอะไรไปเหรอ!?"

มิมิ/เนียมิ: ไม่จริง...!? นั่นมัน "มินิต" (Minit's) นี่น้า!!

ทั้งคู่ตะโกนออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจ




>>>>> TO BE CONTINUED <<<<<

11 พฤศจิกายน 2564

สิ้นสุดการรอคอย Cotton Reboot! วางจำหน่ายบน Steam แล้ววันนี้

หลังจากที่เกม Cotton Reboot! ออกวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์บน PlayStation 4 และ Nintendo Switch ล่าสุดผู้จัดจำหน่าย BEEP ได้ทำการวางจำหน่ายเวอร์ชั่น PC บน Steam เป็นที่เรียบร้อยแล้ว



สำหรับใครที่ยังไม่เคยเล่นบน PS4 และ NSW สามารถกดซื้อได้ที่นี่เลยครับ (แต่ราคาก็ใช่ย่อยเหมือนกัน)


7 พฤศจิกายน 2564

pop'n music RESPECT : STAGE 21 「ภาพสเก็ตสื่อรัก」

【ย้อนความจากเหตุการณ์เมื่อวานกันสักเล็กน้อย】

ในขณะที่เมล์กับบาจิกำลังปั่นจักรยานแข่งกันอย่างดุเดือดนั้น อยู่ๆ ก็มีสาวน้อยนางฟ้าตนหนึ่งบินผ่านมาแถวนั้นพอดี ซึ่งความจริงแล้วเธอกำลังมีธุระเร่งด่วนอยู่ แต่ด้วยความสงสัยเธอจึงตัดสินใจบินแวะลงไปดู

แล้วเธอก็ได้พบกับเมล์ที่กำลังเป็นฝ่ายเสียเปรียบในการแข่งขันจักรยาน เธอจึงตัดสินใจช่วยเหลือเมล์ด้วยการเป่าทรัมเป็ตประจำตัวเพื่อส่งพลังแห่งจิตใจให้กับเมล์ จนเมล์สามารถคว้าชัยชนะกลับมาได้

และเมื่อเมล์กับบาจิใกล้ถึงเส้นชัยที่เป็นทางผ่านลงไปยังพีชทาวน์

"แต่ว่า.. ฉันเริ่มบินตามไม่ไหวแล้วล่ะ ที่เหลือก็ขอให้โชคดีก็แล้วกันนะ!"

แล้วทันใดนั้นสาวน้อยนางฟ้าอยู่ๆ ก็เหมือนวูบหมดแรง ทำให้ร่วงลงมาตัดหน้าของบาจิ

บาจิ: อะไรน่ะ?!

บาจิเห็นร่างของนางฟ้าร่วงลงมาตัดหน้าเธอ ทำให้เธอต้องรีบหักหลบในทันที ซึ่งก็สามารถหลบไปได้แบบฉิวเฉียด

แล้วจากนั้นสาวน้อยนางฟ้าก็นอนหมดสติคาพื้นถนน...

-ผ่านไปหลายนาที-

เคนจิกำลังขับรถ นิสสัน 180SX ของตัวเองเพื่อลงไปดูผลการแข่งขันที่เส้นชัย ซึ่งมีอิเคทานินั่งมาในรถด้วย

เคนจิ: จริงด้วยสิ ฉันไม่ได้รู้เรื่องหนึ่งของนายมาสักพักแล้วล่ะ

อิเคทานิ: เรื่องอะไรเหรอ?

เคนจิ: ตอนนี้เรื่องของริเอะจังคืบหน้าไปถึงไหนแล้วล่ะ?

อิเคทานิ: คือว่าเรื่องนั้นน่ะ เออ... (。_。)

เคนจิ: ไปได้สวยจนอายที่จะบอกเลยใช่มั้ยล่ะ...

อิเคทานิ: คือว่าไม่ใช่นะ จริงๆ แล้วตอนนี้ฉัน...

ยังไม่ทันที่อิเคทานิจะได้พูดจนจบ เคนจิก็พบกับบุคคลที่กำลังนอนกว้างถนนอยู่ ทำให้เขาต้องรีบหยุดรถทันที จนหัวของอิเคทานิแทบจะเหวี่ยงไปกระแทกกับคอนโซลเพราะแรงเบรก

อิเคทานิ: ทำไมอยู่ๆ ถึงเบรกกะทันหันล่ะ??

เคนจิ: มีคนนอนอยู่กลางถนนน่ะ

แล้วทั้งสองจึงลงจากรถเพื่อมาดู ก็พบกับเด็กสาวที่กำลังนอนหมดสติอยู่

เคนจิ: นี่คุณ! เป็นอะไรหรือเปล่า?!

เคนจิรีบวิ่งเข้ามาประคองตัวเธอขึ้นเพื่อดูอาการ

แล้วจากนั้นสักพักเธอก็ค่อยๆ ได้สติตื่นขึ้นมา

อิเคทานิ: ได้สติแล้วล่ะ!

"เออ.."

เธอค่อยๆ ลุกออกมาจากอ้อมแขนของเคนจิ แล้วยืนเช็คสภาพร่างกายของตัวเองอยู่สักพัก

"ฉันไม่เป็นอะไร แต่ก็ขอบคุณที่ช่วยนะ ^_^"

และเมื่อเคนจิกับอิเคทานิได้เห็นรูปร่างและโฉมหน้าของเธอหลังจากที่ยืนขึ้นแล้ว ทั้งสองก็มองอย่างตกตะลึงจนแทบไม่วางสายตา เพราะเธอเป็น "นางฟ้า" นั่นเอง

อิเคทานิ: Σ( °Д°) ขะ... ขอโทษนะครับ! ผมรู้ว่ามันเสียมารยาท จะ..จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะครับ!

อิเคทานิรีบวิ่งกลับไปขึ้นรถอย่างรวดเร็ว

เคนจิ: ( ̄_ ̄|||) เออ.. แล้วก่อนที่เธอจะหมดสติไป มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ พอจะจำได้บ้างหรือเปล่า?

"คือว่าฉันรีบบินเร็วไปหน่อยก็เลยหมดแรงน่ะคะ แฮะๆ ( ̄▽ ̄)"

เธอตอบพลางเกาหัวของตัวเอง

เคนจิ: อ๋อ.. แล้วเธอไม่ใช่คนที่เกิดบนพื้นโลกใช่ไหมครับ? เพราะมีปีกที่หลังนั่น แล้วก็วงแหวนด้วย...

"ค่ะ! ฉันเป็นชาว "ไวท์แลนด์" น่ะคะ"

เคนจิ: อ๋อ! ไวท์แลนด์...เหรอครับ? (ก็พอจะได้ยินมาอยู่บ้างนะ)

"ค่ะ! ฉันชื่อ "โปเอ็ต" (Poet) ยินดีที่ได้รู้จักกันนะ ^_^ แต่ตอนนี้ฉันต้องรีบไปแล้วล่ะ"

เคนจิ: ไปไหนเหรอ?

โปเอ็ต: ไปที่ "ดินแดนเทพนิยาย" ฉันต้องรีบไปให้หันก่อนที่แสงจันทร์ของคืนนี้จะหายไป ไม่อย่างนั้น ฉันอาจจะถูกเบื้องบนลงทัณฑ์ให้ติดอยู่ในความมืดมิดไปตลอดกาลก็เป็นได้

เคนจิ: อ๋อ.. เมืองที่อยู่ถัดไปนี่เอง งั้นก็ขอให้โชคดีล่ะ!

แล้วจากนั้นโปเอ็ตก็กลางปีกบินออกไปอย่างสวยงาม โดยที่มีขนนกร่วงลงมาใบหนึ่ง เคนจิจึงรับมันไว้

เคนจิ: มีอยู่จริงๆ ด้วยสินะ... "ผู้หญิงบนท้องฟ้า"

[เพลงประกอบ End of the Moonlight / Forte Escape]

โปเอ็ต: สวัสดีค่ะ!! ฉันชื่อ "โปเอ็ต" (Poet) กำลังเดินทางไปดินแดนเทพนิยาย (Marchen Kingdom) เพื่อไปฝึกฝนการอยู่ร่วมกับชาวโลกค่ะ!! ตามธรรมเนียมปฏิบัติของชาวไวท์แลนด์ เมื่อถึงวัย 13 ปี จะต้องลงมายังโลกมนุษย์เพื่อเรียนรู้การอยู่ร่วมกับชาวโลก ในเมืองที่ไม่มีเทวดาอื่นมาอยู่ และการจะเดินทางมายังโลกมนุษย์ได้ต้องมาในคืนพระจันทร์เต็มดวงเท่านั้น เพราะเป็นช่วงเวลาเดียวที่ประตูทั้งสองโลกเชื่อมหากันได้ และถ้าเกิดลงมายังโลกมนุษย์แล้วแต่ยังหาที่อยู่เป็นหลักแหล่งไม่ได้หลังจากที่แสงจันทร์มอดลงไปแล้วล่ะก็... ว่ากันว่า จะต้องติดอยู่ในมิติอันมืดมิดไปชั่วนิรันดร์เลยล่ะ (>_<。) เอาล่ะ ต้องรีบไปให้ทันก่อนที่แสงจันทร์ของคืนนี้จะมอดลงแล้ว!

โปเอ็ตแนะนำตัวกับผู้อ่าน ก่อนที่จะบินมุ่งหน้าไปยังจุดหมายของเธออย่างรวดเร็ว

--------------------------------------------------------------------------------



STAGE 21
「ภาพสเก็ตสื่อรัก」


--------------------------------------------------------------------------------

เช้าวันรุ่งขึ้น ในขณะที่ มิมิ เนียมิ กำลังนั่งเล่นเกมเครื่องนินเท็นโดสวิตช์ด้วยกันอยู่ในมายแคมป์นั้น อยู่ๆ ก็มีคนมาตะโกนเรียกจากหน้าเต็นท์

(เกมที่พวกเธอกำลังเล่นอยู่นั้น คือเกม Pengo! จากชุดรวมเกม Ge-Sen Love: Plus Pengo! (aka. Arcade Love: Plus Pengo!))

"มีใครอยู่หรือเปล่าครับ!!"

เนียมิ: Σ( °_°) เสียงนี่มัน...!!

เนียมิรู้สึกคุ้นหูกับเสียงของคนที่มาเรียก แล้วจากนั้นเธอจึงเดินออกไปดูหน้าเต็นท์ พบว่าเป็น อิเคทานิ กับ เคนจิ ที่มาหานั่นเอง

เนียมิ: อ่ะ!! รุ่นพี่อิเคทานิ กับ เคนจิ!!

เคนจิ: ไง!! ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยนะ!

เนียมิ: พวกรุ่นพี่ มาทำอะไรที่นี่เหรอค่ะ?

อิเคทานิ: คือว่าพวกเราเอาของมาฝากน่ะครับ

เนียมิ: ของฝากเหรอ??

อิเคทานิ: อืม!! ที่จริงตอนแรกผมกะจะส่งมาให้ทางขนส่ง แต่พอดีพวกเรามาแวะเที่ยวที่เมืองนี้พอดี ก็เลยเอาของที่กะจะส่งตอนแรกมาฝากให้ถึงที่เต็นท์นี้เลย (จะได้ไม่ต้องเสียค่าส่งไง)

แล้วอิเคทานิก็มอบของบางอย่างให้กับเนียมิ

เนียมิ: นี่มัน...

อิเคทานิ: ชุดเวทมนตร์น่ะ

เนียมิ: ชุดเวทมนตร์.. งั้นเหรอ?? (มันคืออะไรกันน่ะ?)

อิเคทานิ: เออ.. ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันนะ แต่ริเอะจังเจอมันมาจากตู้เก็บเสื้อผ้าเก่าๆ ของเธอน่ะ เธอบอกว่ามันเป็นชุดสำหรับสวมใส่เวลาเดินทางไปยัง "ดินแดนเทพนิยาย" ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ถัดไปจากพีชทาวน์

มิมิ: เมืองต่อไปเป็นเมืองเทพนิยายเหรอ?

เนียมิ: (Σ( °_°) มิมิจังมาตั้งแต่เมื่อไหร่??)

เนียมิหันมามองมิมิที่เดินออกมาหา อิเคทานิ กับ เคนจิ แบบไม่รู้ตัว

อิเคทานิ: อืม! และถุงมือนี้ยังทำให้สามารถใช้เวทมนตร์ในระดับเบื้องต้นได้ด้วยนะ บางทีชุดพวกนี้มันอาจจะพอช่วยเหลือพวกเธอตอนที่เดินทางไปยังเมืองนั้นก็ได้

เคนจิ: แล้วก็.. ฉันมีเรื่องอยากจะถามพวกเธอนิดนึงนะ

เนียมิ: ว่า?

เคนจิ: คือฉันได้ข่าวมาว่าที่งานเทศกาลในเมืองบอนเต้เมื่อหลายวันก่อนมีสัตว์ประหลาดมาออกอาละวาด และก็มีฮีโร่ลึกลับกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า ป๊อปเปอร์ส ปรากฏตัวออกมาหยุดยั้งสัตว์ประหลาดไว้ได้ ซึ่งฮีโร่ที่ว่าน่ะ มีหน้าตาคล้ายกับพวกเธอมาก ...หรือว่า ป๊อปเปอร์ส ก็คือ.. พวกเธอเอง?

มิมิ/เนียมิ: เอ๊.....? (⊙o⊙)

มิมิ เนียมิ รู้สึกตกใจกับคำถามดังกล่าว

มิมิ/เนียมิ: ไม่ใช่เลยนะ!!

มิมิกับเนียมิตะโกนออกมาพร้อมกัน

เคนจิ: แล้วนี่ล่ะมันคืออะไร พอจะอธิบายได้ไหม?

เคนจิเปิดคลิปวิดีโอจากมือถือที่เขาถ่ายไว้ได้มาให้ทั้งสองดู เป็นภาพตอนที่ทั้งสองยกแขนข้างที่สวมกำไลแปลงร่างขึ้นมา ก่อนที่ทั้งสองจะหายตัวไปพร้อมกับแสงที่แลบออกมาชั่วพริบตา จากนั้่นสักพักก็กลับมาในร่างป๊อปเปอร์สโดยพุ่งลงมาจากฟ้า

เนียมิ: คือตอนนั้นพวกเราใช้ไฟแฟลชจากสมาร์ตวอทซ์ แล้วอาศัยจังหวะที่แสงแฟลชแลบออกมารีบวิ่งนี้ไปต่างหากล่ะ!

มิมิ: และอีกอย่างในคลิปนั้นพุ่งลงมาจากฟ้าด้วย จะไปใช่ได้ยังไงกันล่ะ

อิเคทานิ: นั่นสิ ฉันเห็นด้วยนะ แค่ทิศทางที่กลับมามันก็ไม่ใช่ล่ะ

แล้วเคนจิก็ดูคลิปซ้่ำอีกรอบเพื่อความแน่ใจ

เคนจิ: เออ... จะว่าไปก็จริงนะ แสงแฟลชถ้าส่องเข้ากล้องด้วยกัน มันก็มากพอที่จะทำให้แสงในภาพรวนไปชั่วครู่ได้เหมือนกัน ( ̄_ ̄|||)

อิเคทานิ: งั้นตอนนี้พวกเราก็ขอตัวกลับบ้านแล้วนะ แล้วขอให้โชคดีกับเมืองถัดไปล่ะ!!

แล้ว อิเคทานิ กับ เคนจิ ก็จากไป

เนียมิ: อย่างน้อยก็ยังดีนะ ที่เรื่องตัวจริงของป๊อปเปอร์สไม่แตกน่ะ

มิมิ: นั่นสิ ( ̄_ ̄|||)

--------------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่หมดกิจวัตรช่วงเช้าในมายแคมป์แล้ว ก็ได้เวลาที่ทั้งสองเริ่มออกผจญภัยในพีชทาวน์กันต่อ

เนียมิ: พอพูดถึงป๊อปเปอร์สแล้ว เธอคิดว่าเซจะปรากฏตัวออกมาอีกเมื่อไหร่กันเหรอ?

มิมิ: เรื่องนั้นมันคาดเดาไม่ได้นะ แต่ถ้าออกมาเมื่อไหร่พวกเราก็พร้อมสู้อยู่แล้ว

เนียมิ: อืม.. แต่ฉันรู้สึกเหมือนเธอเริ่มเปลี่ยนไปนิดนึงนะ

มิมิ: ตรงไหนเหรอ?

เนียมิ: ก็ตรงที่เธอดูจะเริ่มห้าวหาญกับการต่อสู้กับเซมากขึ้นกว่าแต่ก่อนแล้วสิ ทั้งที่เมื่อก่อนออกจะไม่มั่นใจแท้ๆ

มิมิ: จริงเหรอเนี่ย?! (ขอบใจที่ชมนะ)

เนียมิ: จริงแน่นอนสิ แต่ฉันว่าส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะพลังของกำไลด้วยล่ะมั้ง มันเลยทำให้เธอรู้สึก "กล้าหาญ" ขึ้นมาได้ เพราะตอนที่ไปดันเจี้ยนซากโบราณป๊อปปิน เธอเองก็เคยบอกว่า พอแปลงเป็นป๊อปเลิฟแล้วก็หายกลัวความมืดในทันทีเลยใช่ไหมล่ะ?

มิมิ: ก็ใช่นะ พอทุกครั้งที่ฉันแปลงเป็นร่างป๊อปเลิฟแล้ว มันก็รู้สึกมีความมั่นใจขึ้นมาทันทีเลย ทั้งที่ก่อนแปลงร่างยังรู้สึกกลัวอยู่แท้ๆ แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกมั่นใจตลอดเวลาแล้วล่ะนะ ^_^

เนียมิ: งั้นแบบนี้ก็แสดงว่าเธอคงไม่กลัวความมืดแล้วใช่ไหม?

มิมิ: ก็น่าจะนะ...

และในระหว่างที่กำลังเดินไปเรื่อยๆ นั้น อยู่ๆ ก็มีคนที่เดินสวนทางมา เข้ามาถามทางกับพวกเธอ

"เออ.. ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่า "หมู่บ้านวินด์มิลล์" อยู่ตรงไหนของพีชทาวน์เหรอครับ?"

มิมิ: หมู่บ้านวินด์มิลล์ เหรอ...?

จากนั้นทั้งสองก็หันมามองหน้ากัน แล้วหันกลับมาส่ายหน้าเพื่อเป็นการแสดงว่า "ไม่ทราบ"

"งั้นก็ขอบคุณนะครับ"

แล้วเขาก็เดินจากไป

เนียมิ: หมู่บ้านวินด์มิลล์ในพีชทาวน์เหรอ

มิมิ: ลองไปหาดูกันไหมล่ะ? เผื่อจะมีภารกิจอะไรให้ทำก็ได้

เนียมิ: โอเค!!

แล้วทั้งสองก็มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านวินด์มิลล์ โดยค้นหาสถานที่จากในแผนที่

--------------------------------------------------------------------------------

หมู่บ้านวินด์มิลล์ (Windmill Village) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ภายในพื้นที่ของพีชทาวน์ ที่นี่เต็มไปด้วยกังหันลมวินด์มิลล์มากมาย

ภาพจาก: https://maps.google.com/maps/contrib/105996271982342485322

เนียมิ: ที่นี่เองน่ะเหรอ หมู่บ้านวินด์มิลล์

มิมิ: สวยงามมากเลยล่ะ!!

แล้วจากนั้นทั้งสองก็เริ่มเดินสำรวจภายในพื้นที่

ขณะเดียวกันภายในหมู่บ้าน มีเด็กสาวคนหนึ่งกำลังนั่งเล่นกังหันกระดาษอยู่ที่หน้าบ้านของตัวเอง พร้อมกับฮัมเพลงไปด้วยอย่างมีความสุข

และในขณะนั้นเอง มิมิกับเนียมิ ได้เดินผ่านมาทางหน้าบ้านของเธอพอดี เมื่อเธอเห็นพวกมิมิเธอก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

"Σ( °_°) นั่นมันใครกันน่ะ?! (ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย)"

ด้วยความสงสัยเธอจึงลุกแล้วลองเดินเข้าไปหาดู

มิมิ: ทิวทัศน์ที่นี่สวยมากจริงๆ เลยนะ น่ามาอยู่แบบถาวรจริงๆ ^_^

"เออ คือว่า..."

เด็กสาวเดินตัดหน้าเข้ามาถามพวกเธอทั้งสอง

มิมิ: หืม?! มีเรื่องอะไรให้พวกเราช่วยเหลือไหม?

"คือว่าพวกคุณไม่ใช่คนในพีชทาวน์ใช่ไหมคะ? เพราะฉันรู้สึกว่าไม่เคยเห็นหน้าพวกคุณมาก่อนเลย"

มิมิ: อืม! ใช่แล้วล่ะ พวกเราเป็นนักท่องเที่ยว

เนียมิ: และพวกเราก็คือป๊อปปินเพลเยอร์ที่ผ่านมาแถวนี้เพื่อตามหาสแตมป์กันน่ะ

"อ๋อ! พอได้ยิน "ป๊อปปินเพลเยอร์" ฉันก็นึกออกแล้ว พวกเธอก็คือ มิมิ เนียมิ ป๊อปปินเพลเยอร์ในตำนานที่เค้าลือกันสินะ ฉันรู้เรื่องนี้มาจากเพื่อนของฉันแล้วล่ะ ส่วนฉันชื่อ "คลาล่า" (CLARA) ยินดีที่ได้รู้จักนะ ^_^"

คลาล่าโค้งตัวเพื่อทักทาย

มิมิ: อืม! ยินดีที่ได้รู้จักด้วยนะ แล้วเธอมีเรื่องอะไรให้พวกเราช่วยเหลือหรือเปล่า?

คลาล่า: เออ.. คือว่าเมื่อไม่นานมานี้ ฉันเจอรูปนี้ตกอยู่ที่พื้นน่ะ

คลาล่านำกระดาษที่มีรูปวาดออกมาให้ทั้งสองดู

มิมิ: โห้!! ภาพสเก็ตหน้าเธอเองเหรอเนี่ย (⊙_⊙)!

เนียมิ: วาดได้เหมือนมากเลยล่ะ!! (⊙_⊙)!

คลาล่า: อืม.. แต่ฉันไม่รู้ว่าใครเป็นคนมาวาดรูปพวกนี้น่ะ

เนียมิ: งั้นก็แสดงว่าภารกิจของพวกเราก็คือ...?

คลาล่า: พวกเธอช่วยไปออกตามหาเจ้าของรูปสเก็ตพวกนี้หน่อยได้ไหม ฉันอยากรู้ว่าจริงๆ เลยว่าใครเป็นคนวาดกันน่ะ

เนียมิ: ได้เลย! พวกเรายินดีรับภารกิจนี้ ☆(^-゜)

มิมิ: แต่ดูจากรูปแล้ว ฉันคิดว่าคนที่วาดคงจะต้องชอบเธอเอามากๆ แน่ๆ เลยล่ะ หรือพูดอีกอย่างก็คือ... คนๆ นั้น อาจกำลังหลงรักเธออยู่ก็ได้♥

คลาล่า: เอ่อ! จริงสิ เดี๋ยวฉันจะออกไปซื่อขนมปังนะ พวกเธอจะไปกับฉันไหมล่ะ?

มิมิ: โอเค!! ^_^

--------------------------------------------------------------------------------

แล้วทั้งหมดก็เดินทางไปยังร้านขนมปังที่อยู่ในย่านการค้าของเมืองนี้

ทันทีที่เดินเข้ามาภายในร้าน พวกเธอก็ได้พบกับ...

"ขอบคุณที่มาอุดหนุนค้า~"

เจ้าของร้านกล่าวขอบคุณกับเด็กผู้หญิงคนนั้นหลังจากที่ซื้อขนมปัง แล้วจากนั้นเธอก็เดินสวนมาทางพวกมิมิ

ยูลูลู่: Σ( ✿°_°) เอ้า! คลาล่าจัง! พวกมิมิด้วย!

แล้วเธอก็เดินเข้ามาหาทั้งสาม

ยูลูลู่: ทำไมพวกมิมิจังถึงมากับเธอได้ล่ะ??

คลาล่า: คือพอดีฉันเจอกับพวกเค้าโดยบังเอิญน่ะ ก็เลยขอให้เค้าช่วยตามหาคนหน่อยน่ะ

ยูลูลู่: ตามหาคนหาย ..เหรอ?

คลาล่า: ไม่ใช่แบบนั้นนะ แต่เธอพอจะรู้จักหรือเคยเห็นคนที่วาดภาพสเก็ตเก่งๆ ที่อยู่แถวนี้บ้างหรือเปล่า?

ยูลูลู่ใช้เวลานึกอยู่สักพัก ก่อนที่จะตอบ

ยูลูลู่: เออ... เรื่องนั้นฉันเองก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ

เนียมิ: เดี๋ยวก่อนนะ คลาล่าจังรู้จักกับยูลูลู่ด้วยเหรอ?

คลาล่า: อืม! ^_^ ฉันเป็นเพื่อนสนิทกันน่ะ และคนที่เล่าเรื่องของ มิมิ เนียมิ ให้ฉันฟังก็คือเธอนี่แหละ

ยูลูลู่: ใช่แล้วล่ะ และคลาล่าจังก็เป็นคนช่วยสอนฉันเลี้ยงแกะด้วยนะ ...นั่นสิ ฉันขอถามใหม่อีกรอบนะ คลาล่าจังมาเจอกับพวกมิมิได้ยังไงเหรอ?

คลาล่า: ก็แบบว่า.. เดินผ่านมาแถวบ้านฉันพอดี แล้วบังเอิญฉันมีเรื่องที่อยากให้พวกเค้าช่วยพอดี ก็เลยถือโอกาสนี้ชวนออกมาซื้อขนมปังด้วยกันเลย

ยูลูลู่: อ๋อ.. เข้าใจแล้ว ...ถ้างั้นฉันขอตัวกลับแล้วนะ ฉันต้องรีบกลับไปดูแลฟาร์มต่อแล้ว!

คลาล่า: อืม! แล้วเจอกันใหม่

จากนั้นยูลูลู่ก็เดินจากไป

มิมิ: นึกไม่ถึงเลยจริงๆ นะว่ายูลูลู่ก็คือเพื่อนสนิทของเธอด้วย

คลาล่า: จริงสิ แล้วก่อนหน้านี้พวกเธอเคยเจอกับยูลูลู่จังมาแล้วด้วยเหรอ?

เนียมิ: อืม! พวกฉันเคยช่วยภารกิจให้เธอและก็ได้สแตมป์จากเธอมาด้วยนะ

คลาล่า: โห้!! จริงเหรอเนี่ย

มิมิ: อืม! ^_^

มิมิพยักหน้าตอบ

เวลาผ่านไปหลังจากที่ทั้งสามซื้อขนมปังเรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดจึงเดินออกมานอกร้าน

เนียมิ: ขอบคุณที่เลี้ยงขนมปังให้พวกเรานะ แล้วเธอมีธุระยิบย่ออะไรกับพวกฉันต่อหรือเปล่า ฉันว่าจะลองออกไปตามหาแถวๆ นี้ดูหน่อยน่ะ

คลาล่า: เออ... ก็ไม่มีแล้วนะ

มิมิ: ถ้างั้นพวกเราออกไปตามหาแล้วนะ

คลาล่า: อืม! แล้วเจอกัน

แล้วทั้งสองก็เดินจากไป

แต่ทว่าหลังจากที่ทั้งสองจากไปได้ไม่นาน คลาล่าก็หันมาพบกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าของเธอพอดี

เขาคนนั้นจองมองเธอด้วยสีหน้าตกตะลึงราวกับว่า "เจอตัวเธอเข้าแล้ว" ทั้งสองฝ่ายต่างมองหน้ากันอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่เขาจะเดินสวนจากไป

คลาล่าพลางหันไปมองเด็กผู้ชายคนนั้นที่เดินจากไป

คลาล่า: คงไม่ใช่คนนี้หรอกมั้ง...

--------------------------------------------------------------------------------

เวลาผ่านไปแล้วผ่านไปเล่า พวกมิมิก็ยังคงตามหาคนที่วาดรูปคลาล่าไม่เจอเลย

เนียมิ: ถามหาจนทั่วเมืองแล้ว แต่ไม่มีใครรู้จักเลยแฮะ

มิมิ: หรือบางทีเขาคนนั้นอาจจะเป็นคนนอกพื้นที่ก็ได้นะ

เนียมิ: อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้

มิมิ: ฉันว่าถ้าเป็นคนนอกพื้นที่จริงๆ ล่ะก็...

มิมิใช้เวลาคิดหาวิธีตามหาอยู่พักหนึ่ง

มิมิ: ถ้าคนที่วาดรูปเป็นคนนอกพื้นที่จริงๆ ลองไปหาตามแถวที่พักต่างๆ ดูไหมล่ะ ถ้าเป็นตอนนี้อาจจะหาเจอก็ได้นะ (เพราะนี้ก็เริ่มเย็นแล้วด้วย)

เนียมิ: อืม!! ...แล้วจะเริ่มหาจากที่ไหนก่อนเหรอ?? เพราะที่พักของเมืองนี้มันมีเยอะมากเลยนะ

มิมิ: เออเรื่องนั้น...

มิมิใช้เวลาคิดอยู่พักหนึ่งอีกครั้ง แต่ดูเหมือนจะคิดอะไรไม่ออกแล้ว

เนียมิ: ฉันว่าลองไปถามประชาสัมพันธ์ของเมืองนี้ดูไหมล่ะ?

มิมิ: ประชาสัมพันธ์??

เนียมิ: อืม!! ก็ที่ป๊อปปินเซนเตอร์ของเมืองนี้ยังไงล่ะ ถ้าเขาเป็นเพลเยอร์หรือนักท่องเที่ยวเหมือนกับพวกเราล่ะก็ อาจจะเคยเห็นเขาก็ได้

มิมิ: Σ(⊙o⊙) โอ๊! ฉันลืมนึกเรื่องนั้นไปพอดีเลยนะ ...งั้นก็ไปกันเถอะ!!

--------------------------------------------------------------------------------

ณ ร้านป๊อปปินเซนเตอร์ของเมืองพีชทาวน์

"ยืนดีต้อนรับสู่ป๊อปปินเซนเตอร์ประจำพีชทาวน์ค้า~"

พนักงานที่เคาน์เตอร์หน้าร้านกล่าวขึ้นทันทีที่ทั้งสองเดินเข้ามาภายในร้าน

"ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ช่วยเหลือหรือเปล่าคะ? หรือว่าจะมาสอบระดับ 7 กัน?"

มิมิ: คือว่าคุณพอจะรู้จักคนที่วาดรูปสเก็ตบ้างหรือเปล่าคะ? ฉันลองถามกับชาวบ้านในเมืองนี้จนทั่วแล้วแต่ก็ไม่มีใครรู้จักเลย

"อืม..... ไม่แน่ใจว่าจะใช่หรือเปล่านะ แต่เคยมีคนลักษณะที่ว่ามาถามทางกับฉันด้วยค่ะ"

เนียมิ: ถามทางเหรอ!? แล้วสถานที่ที่เขาถามใช่ "หมู่บ้านวินด์มิลล์" หรือเปล่า??

"ใช่ค่ะ"

มิมิ: แสดงว่าเขาตั้งใจจะมาสเก็ตรูปคลาล่าจังจริงๆ ด้วยสินะ ...แล้วเขามีรูปร่างหน้าตายังไงเหรอค่ะ พอจะจำได้บ้างไหม?

"ก็เป็นวัยรุ่นผู้ชายตอนต้น ตัวค่อนข้างสูงนิดน้อย แล้วก็ถืออุปกรณ์วาดรูปมาด้วย ...ที่จำได้ก็มีเท่านี้แหละค่ะ"

มิมิ: ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ

เนียมิ: แล้วเอายังไงกันต่อดี?

มิมิ: ก็คงต้องลองไปตะเวนหาตามที่พักต่างๆ ที่พอน่าจะเป็นไปได้เท่านั้นแล้วล่ะนะ

--------------------------------------------------------------------------------

เวลาผ่านไปจนถึงพลบค่ำ

เนียมิ: เฮ้อ.. สุดท้ายวันนี้ทั้งวันก็หาไม่เจอเลย (นึกว่าจะง่ายซะอีก)

เนียมิกล่าวอย่างเหนื่อยล้า หลังจากที่พวกเธอลองไปถามหาตามที่พักต่างๆ มาแล้วบางส่วน

มิมิ: ก็เอาว่าไว้พรุ่งนี้ค่อยมาหาต่อก็แล้วกันนะ เพราะนี่ก็ค่ำแล้วด้วย

เนียมิ: อืม!!

และในขณะที่กำลังเดินไปเรื่อยๆ ภายในย่านการค้านั้น ก็พบกับแสงไฟจากตลาดนัดที่กำลังเปิดทำการอยู่บริเวณลานกว้างตรงหน้าของพวกเธอ

เนียมิ: Σ( °_°) มีตลาดนัดตอนกลางคืนด้วยแฮะ

มิมิ: ลองไปแวะดูกันหน่อยไหมล่ะ? เพื่ออาจจะมีอะไรน่าสนใจก็ได้

แล้วทั้งสองก็แวะเข้าไปสำรวจภายในตลาดนัดแห่งนั้น

ภายในตลาดนัดมีลักษณะเป็นแผงค้าที่ตั้งเรียงเป็นแถวกันไป ซึ่งสินค้าที่วางขายในร้านแต่ละแผงส่วนใหญ่จะเป็นพวกสินค้าพื้นเมืองที่ทำด้วยมือ แต่ก็มีสินค้าประเภทของใช้ทั่วไปขายอยู่บ้าง

มิมิ: มีสินค้าหัถกรรมแปลกๆ เพียบเลยล่ะ (น่าซิ้อกลับไปฝากญาติพี่น้องมากๆ)

และในขณะที่กำลังเดินสำรวจไปเรื่อยๆ นั้น ทั้งสองก็พบกับบุคคลที่มีรูปร่างและการแต่งตัวดูต่างจากชาวบ้านส่วนใหญ่ของเมืองนี้ ซึ่งเขาผู้นั้นกำลังเลือกดูสินค้าอยู่ภายในแผงหนึ่ง

เนียมิ: Σ( °_°) คนๆ นั่นท่าทางดูต่างจากคนอื่นๆ นะ แถมดูไม่เหมือนหลายคนที่เคยไปถามมาเลยด้วย

มิมิ: อาจจะใช่ก็ได้นะ ลองไปถามดูกันเถอะ

แล้วทั้งสองก็ลองเข้าไปสอบถามบุคคลคนนั้น

มิมิ: ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าคุณคือคนที่เป็นนักวาดรูปหรือเปล่า?

"ทำไมถึงรู้ล่ะ?"

มิมิ: ใช่จริงๆ ด้วย! เนียมิจังนี่ตาดีจริงๆ ^_^

เนียมิ: แฮะๆ แค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก (* ̄▽ ̄*)ブ

แล้วมิมิหันกลับมาถามชายผู้นั้นต่อ

มิมิ: เออ.. คือว่าพอดีมีคนเก็บรูปวาดที่มีคนทำตกไว้ได้ แล้วเค้าก็ฝากพวกฉันให้มาตามหาเจ้าของรูปน่ะคะ ไม่ทราบว่าใช่ของคุณหรือเปล่า?

มิมินำรูปสเก็ตออกมาให้เขาดู

"อ๋อ! ใช่แล้วล่ะ ทั้งหมดนั่นฉันเป็นคนวาดมันเองแหละ ..ขอบใจที่นำมาคืนให้นะ ^_^"

แล้วเขาก็รับรูปทั้งหมดคืนไป

"แล้วพวกเธอไปหาเจอมาจากไหนเหรอ?"

มิมิ: จากบ้านของคนในรูปนี้ค่ะ เค้าเป็นคนเก็บรูปพวกนี้ได้...

"ไม่จริงน่ะ "เธอ" ได้เห็นมันแล้วเหรอ?"

เขากล่าวพลางสลับดูรูปใบอื่นๆ

เนียมิ: แล้วคุณเคยไปที่บ้านนั้นแล้วเหรอ?

"ยัง.. ยังเลย ที่จริงฉันเคยไปที่นั่นแล้วล่ะ แต่ยังไม่เคยเข้าไปใกล้ๆ บ้านของเธอ..."

มิมิ: (ท่าทางจะหลงรักเธอจริงๆ ด้วยสินะ)

มิมิคิดเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวต่อ

มิมิ: แล้วคุณวาดรูปพวกนี้ไปทำไมกันเหรอคะ? ชอบเธองั้นเหรอ

"เปล่านะ! คือพอดีผมกำลังหัดวาดภาพเหมือนอยู่ แล้วพอดีผมเห็นว่าเธอหน้าตาน่ารักดี ก็เลยใช้เธอเป็นแบบวาดรูปน่ะครับ"

เนียมิ: อย่างนี่้เอง นั่นคือเหตุผลที่วาดรูปนี้ขึ้นมาสินะ

"ครับ! ที่จริงแล้วผมไม่ได้แอบชอบเธอเลยนะ ก็แค่อยากเอามาเป็นแบบวาดรูปเหมือนก็เท่านั้นเอง"

เนียมิ: งั้นพรุ่งนี้ก็ไปหาเธอตรงๆ เลยสิ เดี๋ยวพวกฉันจะช่วยไปเป็นเพื่อนก็ได้นะ

"มันก็ได้อยู่นะ แต่ตอนนี้ผมมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่งน่ะ"

เนียมิ: อะไรเหรอ?

"คือผมกำลังหาซื้อดินสอแท่งใหม่มาใช้แทนแท่งเก่าที่พังน่ะ แต่ก็ยังหาแท่งที่มีระดับความเข้มของเส้นตามที่ต้องการไม่ได้เลย..."

มิมิ: ต้องใช้ดินสอตามระดับความเข้มด้วยเหรอค่ะ?

"อืม! การวาดรูปสเก็ตต้องใช้ดินสอที่มีระดับความเข้มหลายแบบเพื่อให้งานภาพดูละเอียด"

เนียมิ: แล้วต้องการความเข้มระดับไหนเหรอ?

"อืม... ระดับ 2H น่ะ แต่ลองไปถามตามร้านเครื่องเขียนในเมืองนี้แล้วก็ไม่มีใครรู้จัก "ระดับความเข้ม" เลย แถมร้านส่วนใหญ่ยังไม่อนุญาตให้ลองเขียนก่อนอีกด้วย (รวมถึงในตลาตนี้ด้วย)"

เนียมิ: ถ้าให้พวกเราตามหาดินสอตามความเข้มที่ต้องการ ก็กลายเป็นงานยากซะแล้วสิ เพราะพวกเราเองก็ไม่เคยวาดรูปแบบมืออาชีพมาก่อนซะด้วย ( ̄_ ̄|||)

มิมิ: แล้วความเข้มระดับ 2H นี่มันประมาณไหนเหรอคะ พอจะอธิบายได้ไหม?

"ก็ประมาณนี้น่ะ"

แล้วเขาก็หยิบสมุดที่ในหน้าหนึ่งมีตัวอย่างความเข้มของเส้นในแต่ละระดับออกมาให้ดู

ภาพจาก: https://suphatcha.wordpress.com/2014/01/08/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99/

มิมิ: อ๋อ เข้าใจแล้วค่ะ ...เออ เดี๋ยวขอดูของในร้านนั้นด้วยนิดหนึ่งนะ

แล้วมิมิก็เข้ามาดูสินค้าภายในร้านที่เขากำลังเลือกดูอยู่เมื่อสักครู่นี้ ซึ่งเป็นร้านเครื่องเขียนมือสอง

มิมิพบว่าแผงสินค้าภายในร้านมีดินสออยู่เพียงเล่มเดียว เธอจึงหยิบมันขึ้นมาดู

"คุณลูกค้ากำลังหาดินสอ 2H กันอยู่เหรอ??"

คนที่ดูแลร้านเครื่องเขียนมือสองถามมิมิ

มิมิ: เออ... ค่ะ! ใช่แล้วค่ะ

"ที่ถืออยู่นั่นแหละ คือดินสอ 2H"

มิมิ: เอ๊?! จริงเหรอค่ะ??

"จริงสิ ลองดูที่ปลายดินสอเล่มนั้นดูสิ"

แล้วมิมิก็สังเกตดูที่ปลายดินสอ พบว่ามีคำว่า "2H" ติดไว้อยู่จริงๆ

มิมิ: จริงด้วย! งั้นหนูขอซื้ออันนี้เลยค่ะ เดี๋ยวหนูเป็นคนจ่ายให้เองนะ! ^_^

แล้วมิมิก็ซื้อดินสอให้กับเขา

มิมิ: เอาล่ะ ลองวาดดูเลยค่ะ

แล้วเขาก็ลองใช้ดินสอเก่าที่มิมิซื้อมาให้ วาดลงในสมุดพก

"ใช่ระดับ 2H จริงๆ ด้วย! ขอบใจมากเลยนะ! ^_^"

เนียมิ: แต่ก็สงสัยอยู่อย่างหนึ่งนะ ทำไมร้านเครื่องเขียนอื่นๆ นอกจากร้านนี้ ถึงไม่มีใครรู้จัก "ระดับความเข้ม" เลยล่ะ??

"ผมว่าคงเป็นเพราะบนแท่งดินสอของที่นี่ไม่ได้ระบุระดับความเข้มไว้น่ะ แต่ยังไงก็ตาม ก็ขอขอบคุณพวกเธออีกครั้งหนึ่งนะ!"

เนียมิ: ไม่ต้องขอบคุณพวกเราหรอก ที่ต้องขอบคุณน่ะ ต้องเป็นร้านเครื่องเขียนเก่านั่นต่างหากล่ะ ^_^

มิมิ: จริงด้วยสิ แล้วคุณชื่ออะไรเหรอ พวกเรายังไม่ได้รู้จักชื่อของคุณเลย ส่วนฉันชื่อมิมิ และนี่ก็คือเนียมิ เพื่อนซี้ของฉัน

"ผมชื่อ "มุทสึกิ" (MUTSUKI) ยินดีที่ได้รู้จักด้วยนะ แล้วพรุ่งนี้พวกเธอจะไปกับผมไหมล่ะ?"

เนียมิ: ไปไหนเหรอ?

มุทสึกิ: ก็ไปหาผู้หญิงในรูปกันไงล่ะ ^_^ รู้ไหมว่าตั้งแต่ที่ได้เจอกับพวกเธอ มันกลับทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีกำลังใจขึ้นมาแบบแปลกๆ ยังไงไม่รู้สิ

เนียมิ: งั้นเหรอ ^_^ (แต่เหมือนเคยได้ยินคำนี้มาจากที่ไหนแล้วนะ?)

มุทสึกิ: แต่เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ผมขอป๊อปปินแบทเทิลด้วยสักหน่อยได้หรือเปล่าครับ?

มิมิ: จะป๊อปปินแบทเทิลกับพวกเราเหรอ?

มุทสึกิ: อืม! ถ้าพวกเธอชนะฉันได้ ฉันถึงจะยอมให้ตามไปด้วย และอาจจะให้ค่าดินสอคืนด้วยก็ได้นะ

เนียมิ: โอเค! งั้นก็มาเริ่มแข่งกันเลยเถอะ!

===== POP'N BATTLE =====
Mimi/Nyami vs MUTSUKI
Catch You / Forte Escape
===== END BATTLE =====

ผลการแข่งขัน มิมิกับเนียมิ เป็นฝ่ายชนะ

หลังจากที่จบการแข่งขันเขาก็หยิบเงินออกมามอบให้กับมิมิ

มุทสึกิ: นี่ค่าดินสอ ฉันคืนให้นะ

มิมิ: ขอบคุณค่ะ!! (^◇^)

จากนั้นเนียมิก็เริ่มคิดเรื่องในใจ

เนียมิ: (มุทสึกิคุงนี่เป็นคนจิตใจดีกว่าที่คิดไว้อีกแฮะ ผิดกับรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูเงียบขรึมเลย)

แต่ทันใดนั้นภาพของไทม์เมอร์ก็ปรากฏออกมาในหัวของเธออย่างกะทันหัน

เนียมิ: (แต่ทำไม ภาพของไทม์เมอร์ถึงโผล่ออกมาด้วยล่ะเนี่ย?? ฉันไม่ได้ตั้งใจคิดถึงเขาซะหน่อยนะ!)

--------------------------------------------------------------------------------

วันต่อมา มุทสึกิได้เดินทางไปยังหมู่บ้านวินด์มิลล์เพื่อไปหาคลาล่า โดยที่มี มิมิและเนียมิ ติดตามไปด้วย

ในขณะนั้นคลาล่ากำลังให้อาหารลูกแกะอยู่ภายในสวนของบ้านเธอ

มุทสึกิ: สวัสดีครับ ผมมีเรื่องอยากจะรบกวนหน่อยครับ!

แล้วจากนั้นเธอจึงหันมามองยังต้นเสียง

คลาล่า: ว้าย! แม่เจ้า ((⊙﹏⊙))!!

เธอรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เพราะบุคคลที่เคยสบตากันเหมือนวานนี้มาอยู่ตรงหน้าของเธอ

คลาล่า: ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ...

มุทสึกิ: แฮะๆ ^_^ ขอโทษด้วยหากทำให้ตกใจนะ ที่จริงแล้วคือผมกำลัง...

เขานำรูปสเก็ตที่ตัวเองเคยวาดไว้ออกมาให้ดู

คลาล่า: หรือแปลว่ารูปทั้งหมดนี้ก็คือ...

มุทสึกิ: ใช่ครับ ผมเป็นคนสเก็ตมันเองแหละ

คลาล่า: แล้วทำไมคุณถึงสเก็ตรูปฉันล่ะ?

มุทสึกิ: ก็เพราะว่า... เธอน่ารักดีนี่ครับ ^_^

คลาล่า: แค่นี้เองเหรอ?

มุทสึกิ: อืม!! ^_^ ที่จริงผมกำลังหัดวาดภาพเหมือนอยู่น่ะ แต่ไม่รู้จะหาใครมาเป็นแบบดีก็เลย...

คลาล่า: ฉันเข้าใจแล้วค่ะ

คลาล่าลุกขึ้นจากจุดที่เธอนั่งย่อตัว แล้วพูดต่อ

คลาล่า: วันนี้ฉันอนุญาตให้คุณวาดได้เต็มที่เลยค่ะ!! จะเอาสักกี่รูปก็เชิญตามสบายเลย ^_^

มุทสึกิ: จริงเหรอครับ?! งั้นก็ขอบคุณนะครับ!!

แล้วมิมิกับเนียมิก็หันมามองหน้ากันแล้วยิ้มให้กัน

จากนั้นคลาล่าก็มานั่งเป็นแบบให้กับมุทสึกิได้วาดแบบใกล้ๆ ซึ่งทำให้เขาสามารถสเก็ตภาพได้อย่างละเอียดและดูเหมือนตัวจริงมากกว่าทุกภาพที่เขาเคยวาดมา

และหลังจากที่วาดเสร็จแล้ว เขาก็ได้มอบหนึ่งในรูปที่วาดให้กับเธอเป็นของที่ระลึก ก่อนที่เขาจะจากไปหลังเสร็จภารกิจของเขา



มิมิกับเนียมิ ได้รับสแตมป์ดวงที่ 4 เรียบร้อยแล้ว!!

มิมิ: วันนี้ก็เป็นวันที่สดใสอีกวันนะ

เนียมิ: นั่นสิเนอะ (*^_^*)




>>>>> TO BE CONTINUED <<<<<