28 มีนาคม 2568

[FlightGear: Red Griffin ATC] วิธีติดตั้ง Arch Linux ผ่าน VM เพื่อใช้งาน Festival Server Mode บน Windows

สวัสดีครับ แอดมินเอครับผม ' w')/

สืบเนื่องจาก Add-ons ของโปรแกรมจำลองการบิน FlightGear ที่ชื่อว่า Red Griffin ATC นั้น รองรับการเชื่อมต่อกับโปรแกรมสังเคราะห์เสียงที่ชื่อว่า Festival คือ หากเราทำการเชื่อมต่อ FG เข้ากับโปรแกรมดังกล่าว จะทำให้ได้ยินเสียงของ ATC (เจ้าหน้าที่ควบคุมการบิน) ที่แตกต่างกันถึง 10 แบบ จากเดิมจะมีเสียงแค่ 2 แบบเท่านั้น ทำให้ได้ความสมจริงมากยิ่งขึ้น เพราะทุกครั้งที่เราจูนคลื่นวิทยุใหม่ จะทำให้ได้ยินเสียงที่ไม่ซ้ำกันนั่นเอง

แต่น่าเสียดายที่ Festival เวอร์ชั่น Windows ไม่รองรับการเชื่อมต่อกับ Client (ช่องเสียง) มากกว่า 1 ด้วยเหตุผลใดก็ไม่ทราบ ทำให้เปลี่ยนเสียงได้แค่เฉพาะเสียงของนักบินเท่านั้น เสียงของ ATC ยังคงเป็นเสียง Default เหมือนเดิม

แต่โชคดีที่ยังมีทางแก้อยู่ครับ ด้วยการเชื่อมต่อ FG เข้าไปยัง Festival ที่รันในเครื่อง VM ด้วยระบบ Linux ซะเลย!



สิ่งที่ต้องเตรียม
- RAM อย่างน้อย 12 GB
- โปรแกรม VM (VMware Workstation Pro หรือ VirtualBox ก็ได้)
- ไฟล์ ISO ของ Arch Linux
- ไฟล์เสียงของ Festival
- เวลาในการทำ 😉

เริ่มต้นด้วยการลงโปรแกรม VM ซึ่งในบทความนี้จะใช้ VMware นะครับ

ซึ่งที่ผมเลือกใช้ VMware เพราะมันทำงานได้เร็วกว่า VirtualBox พอสมควรเลย แต่ถ้าใครอยากจะใช้ VirtualBox ก็ไม่ว่ากันนะครับ เพราะแนวทางการตั้งค่าเครื่องจำลองของ VirtualBox แทบไม่ต่างกัน

1. ดาวน์โหลด และติดตั้ง VMware Workstation Pro **ต้องสมัครก่อนโหลด (ฟรี)**
https://www.vmware.com/products/desktop-hypervisor/workstation-and-fusion

หรือหากใครไม่อยากสมัคร สามารถหาไฟล์ Mirror ได้ที่ Internet Archive ครับ โหลดได้เลย ไม่ต้อง Login (พิมพ์ VMware Workstation ลงในช่องค้นหา)

ซึ่งเวอร์ชั่นล่าสุด ณ ที่เขียนบทความนี้คือ 17.6.3

2. ดาวน์โหลดไฟล์ ISO ของ Arch Linux (เลื่อนลงมาเรื่อยๆ หาลิงค์ Thailand)
https://archlinux.org/download/

3. ดาวน์โหลดไฟล์เสียงของ Festival
http://www.festvox.org/packed/festival/2.5/voices/

ตามรายชื่อนี้

cmu_us_rms
cmu_us_ahw
cmu_us_eey
cmu_us_bdl
cmu_us_rxr
cmu_us_clb
cmu_us_jmk
cmu_us_lnh
cmu_us_slt
cmu_us_ljm
kallpc16k


เมื่อโหลดครบแล้ว แตกไฟล์ออกมา จะได้โฟลเดอร์ชื่อ festival ขนาด 594 MB

4. เปิดโปรแกรม VMware Workstation Pro แล้วทำการสร้างเครื่องจำลองขึ้นมา


4.1 เลือก Typical
4.2 เลือกไฟล์ ISO ของ Arch Linux
4.3 เลือก Linux และตั้ง Version เป็น Other Linux 6.x kernel 64-bit
4.4 ตั้งชื่อเครื่องเป็น Arch Linux (หรือชื่ออื่นก็ได้)
4.5 ตั้งขนาด HDD จำลองเป็น 50 GB และเลือก Store virtual disk as a single file
4.6 กด Finish

5. คลิกที่ชื่อเครื่อง VM ที่เราเพิ่งสร้าง แล้วคลิก Edit virtual machine settings

5.1 ตั้ง RAM เป็น 4 GB (4096 MB) * Festival ในโหมด Server ต้องการ RAM อย่างน้อย 4 GB ถึงจะใช้งานได้โดยไม่เกิดปัญหา *
5.2 Number of processors ตั้งเป็น 2
Number of cores per processor ตั้งเป็น 1
5.3 แถบ Options เลือกเปิด Shared Folder กับโฟลเดอร์ festival ที่เราแตกไฟล์เสียงออกมา
5.4 Advanced -> Fireware type เลือกเป็น UEFI

6. เปิดเครื่องจำลอง แล้วพอบูทเข้าตัวติดตั้งสำเร็จแล้ว (จะเห็นเป็นแถบหลายสี กับ root@archiso ~ #) ให้พิมพ์ archinstall


7. ตั้งค่าตามนี้

7.1 Mirrors -> Mirror region -> Thailand
7.2 Disk configuration -> Partitioning -> Use a best-effort default partition layout -> กด Enter -> ext4
7.3 Root password -> ตั้งรหัสตามต้องการ
7.4 User account -> Add a user -> ตั้งชื่อและรหัสตามต้องการ -> Yes -> Confirm and exit
7.5 Profile -> Type -> Desktop -> Xfce4
7.6 Audio -> pulseaudio
7.7 Network configuration -> Copy ISO network configuration to installation
7.8 Additional packages -> พิมพ์ festival

เสร็จแล้วกด Install ได้เลย


8. เมื่อรอติดตั้งจนเสร็จแล้ว เลือก No แล้วพิมพ์ reboot

9. เมื่อรีบูทจนเข้าหน้า Desktop แล้ว ให้เปิด Terminal แล้วพิมพ์ตามลำดับนี้ กด Y แล้ว Enter เมื่อถาม


สำหรับผู้ใช้งาน VMware Workstation
sudo pacman -S open-vm-tools
sudo pacman -S gtkmm3
systemctl enable vmtoolsd.service
systemctl start vmtoolsd.service
systemctl enable vmware-vmblock-fuse.service
systemctl start vmware-vmblock-fuse.service
sudo pacman -S sof-firmware
sudo pacman -S alsa-firmware
sudo pacman -S alsa-utils
sudo pacman -S alsa-oss
sudo pacman -S pulseaudio-alsa
sudo pacman -R pulseaudio-alsa
sudo pacman -R pulseaudio


สำหรับผู้ใช้งาน VirtualBox
sudo pacman -S virtualbox-guest-utils
systemctl enable vboxservice.service
systemctl start vboxservice.service
sudo pacman -S sof-firmware
sudo pacman -S alsa-firmware
sudo pacman -S alsa-utils
sudo pacman -S alsa-oss
sudo pacman -S pulseaudio-alsa
sudo pacman -R pulseaudio-alsa
sudo pacman -R pulseaudio


10. จากนั้นทำการรีบูทเครื่องจำลอง แล้วเปิด Terminal ต่อมาพิมพ์ sudo alsamixer

ทำการปรับระดับเสียงเป็น 100% ให้หมด แล้วเปลี่ยนค่า MM ให้เป็น OO ด้วยการกด M ที่ช่องนั้นๆ เสร็จแล้วกด Esc


11. พิมพ์ sudo thunar แล้วคลิก View -> Show Hidden Files จากนั้นเข้าไปยัง File System /mnt/hgfs/festival/lib/voices/ เลือกโฟลเดอร์ english กับ us แล้วคลิกขวาเลือก Copy

* หากไม่เห็น hgfs ให้กด Alt+Ctrl ออกมาที่โปรแกรม VMware แล้วคลิกแถบ VM -> Settings -> Options -> Shared Folder -> Disabled -> OK แล้วทำซ้ำอีกครั้งแต่ให้เลือกเป็น Enabled until next power off or suspend แทน *

12. จากนั้นไปยัง /usr/share/festival/voices/ คลิกขวาเลือก Paste เสร็จแล้วปิด Thunar

13. เข้าโฟลเดอร์ Home จากหน้า Desktop แล้วคลิก View -> Show Hidden Files จากนั้นคลิกขวาเลือก Create Document -> Empty File -> พิมพ์ .festivalrc -> Create

14. เปิดไฟล์ .festivalrc แล้วพิมพ์ (set! server_access_list nil) จากนั้นกด Ctrl+S แล้วปิดไฟล์


15. คลิกขวาที่หน้า Desktop -> Create Launcher แล้วใส่ค่าตามนี้

Name ตั้งเป็น Festival Server Mode
Command ตั้งเป็น festival --server
Icon เลือกเป็นรูปหูฟัง
ติ๊ก Run in terminal

เสร็จแล้วกด Create

16. เปิด Terminal แล้วพิมพ์ ip address จากนั้นดูที่เลขหน้าค่า inet

2: ens33: <BROADCAST,MULTICAST,UP,LOWER_UP> mtu 1500 qdisc fq_codel state UP group default qlen 1000
    link/ether 00:0c:29:bb:b9:44 brd ff:ff:ff:ff:ff:ff
    altname enp2s1
    altname enx000c29bbb944
    inet 192.168.100.29/24 metric 1024 brd 192.168.100.255 scope global dynamic ens33
       valid_lft 2419134sec preferred_lft 2419134sec
    inet6 2403:6200:88a2:7c0c:20c:29ff:febb:b944/64 scope global dynamic mngtmpaddr noprefixroute
       valid_lft 863934sec preferred_lft 431934sec
    inet6 fe80::20c:29ff:febb:b944/64 scope link proto kernel_ll
       valid_lft forever preferred_lft forever


ให้จดตรงเลขสีแดงไว้ (ตรงค่า inet ที่ไม่ใช่ "127.0.0.1")

17. ปิดเครื่องจำลองไปก่อน แล้วมาเปิด C:\Users\(Name)\FlightGear\Downloads\fgdata_20XX_X\defaults.xml ที่เครื่องจริง ด้วยโปรแกรม Text Editor

แล้วหาค่าที่เขียนว่า "localhost"

      <voices>
        <host type="string" write="n">localhost</host>
        <port type="string" write="n">1314</port>
        <enabled type="bool" userarchive="y">true</enabled>


ให้เปลี่ยนตรง localhost เป็นเลขเดียวกับที่จดมา แล้วกด Ctrl+S (ตัวอย่างนี้คือ 192.168.100.29)

        <host type="string" write="n">192.168.100.29</host>

18. เปิดเครื่องจำลอง แล้วเปิด Festival Server Mode ที่หน้า Desktop เพื่อเริ่มใช้งาน จากนั้นสลับออกมาเครื่องจริง (กด Alt+Ctrl)
แล้วเปิด FlightGear ด้วยค่า --config=<ที่อยู่ของ>/RedGriffinATC/festival.xml ในกล่อง "Additional Settings"



หากไม่มีอะไรผิดพลาด ก็จะสามารถใช้งานได้ตามคลิปนี้ครับ



และในการใช้งานครั้งต่อไป ก็เพียงแค่เปิด Festival ในเครื่อง VM แล้วรัน FG ตามทีหลังเท่านั้นเองครับ

รายละเอียดเพิ่มเติม (ภาษาอังกฤษ)
https://wiki.flightgear.org/Red_Griffin_ATC#Festival_Speech_Synthesis_System_Support

5 มีนาคม 2568

มารู้จักกับ Kirby กัน!

Kirby หรือ โฮชิ โนะ คาบี (ญี่ปุ่น: 星のカービィ; โรมาจิ: Hoshi no Kābī, แปลตรงตัว: เคอร์บีแห่งดวงดาว) เป็นแฟรนไชส์วิดีโอเกมแนวแพลตฟอร์ม ที่พัฒนาโดย HAL Laboratory และจัดจำหนายโดย Nintendo

หลังจากที่เกมแรกได้เปิดตัวในปี ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ปัจจุบันมีทั้งหมด 39 เกมด้วยกัน โดยภาคที่มียอดขายสูงที่สุดในขณะนี้คือ Kirby and the Forgotten Land ซึ่งทำยอดขายไปได้สูงถึง 7 ล้านชุด ณ ปี ค.ศ. 2024 (พ.ศ. 2567) และยังเป็นภาคแรกในซีรี่ส์ที่สร้างสถิติสุดยอด ด้วยการคว้ารางวัลจากเวทีใหญ่มาได้หลายรายการอีกด้วย หนึ่งในนั้นคือรางวัลในสาขาเกมสำหรับครอบครัวยอดเยี่ยม (Best Family Game) จาก The Game Awards 2022

รูปแบบการเล่น
เกมส่วนใหญ่ในซีรี่ส์จะเป็นแนวแพลตฟอร์ม 2 มิติ หรือ 2.5 มิติ มุมมองด้านข้าง โดยมีจุดเด่นที่ต่างจากเกมอื่นๆ ในแนวเดียวกันคือ ความยากที่เป็นมิตรกับเกมเมอร์มือใหม่ ความน่ารักของตัวละคร เพลงจังหวะสวยงาม รวมไปถึงสีสันของกราฟิกที่เรียกว่าสดใสสบายตา ในขณะเดียวกับก็ยังมีความลับต่างๆ ให้เกมเมอร์ระดับสูงได้กลับมาค้นหาและท้าทายความสามารถในบางโหมดการเล่นด้วยเช่นกัน


ใน Kirby's Adventure ได้มีการเพิ่มระบบทำให้ตัวละครสามารถกินวัตถุและสิ่งมีชีวิตเพื่อนำทักษะมาใช้งาน ซึ่งเป็นกลไกหลักของเกมที่คงมาจนถึงปัจจุบัน เช่น หากกินตัวที่พ่นไฟได้ Kirby จะสามารถใช้พลังที่เกี่ยวกับไฟได้ หรือกินตัวที่ถือดาบ ก็จะได้ดาบมาเป็นอาวุธเช่นกัน นอกจากนี้ในเกมทุกภาค Kirby สามารถบินได้ไม่จำกัด ยกเว้น Kirby 64: The Crystal Shards และเกมประเภทแข่งขัน ที่จะมีระยะเวลาในการบินจำกัด


เกม Kirby เกือบทุกภาคจะมีไอเทมลับให้ค้นหา เพื่อใช้ในการปลดล็อกโหมดต่างๆ หรือทำให้สามารถไปสู้กับบอสใหญ่ได้ และจำเป็นต้องเก็บให้ครบเพื่อทำระดับความสำเร็จให้เป็น 100% เช่นปุ่มสวิตซ์ในภาค Adventure หรือตัวประกันในภาค Forgotten Land เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีเกมภาคแยกที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลักออกมามากมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเกมแนวอื่นที่ไม่ใช่แนวแพลตฟอร์ม เช่น พินบอล (Kirby's Pinball Land) ตัวต่อบล็อก (Kirby's Star Stacker) แข่งความเร็ว (Kirby Air Ride และ Kirby's Dream Buffet) ต่อสู้ (Kirby Battle Royale และ Kirby Fighters) หรือแม้กระทั้ง เกมตามจังหวะ (Dedede's Drum Dash Deluxe)

รายชื่อเกม ณ ปี ค.ศ. 2025 (พ.ศ. 2568)

= มีในแอป Nintendo Switch Online (NSO)

GB
Kirby's Dream Land
Kirby's Dream Land 2
Kirby's Pinball Land
Kirby's Block Ball
Kirby's Star Stacker

NES
Kirby's Adventure

SNES
Kirby Super Star
Kirby's Dream Land 3
Kirby's Dream Course
Kirby's Avalanche
Kirby no Kirakira Kids

เฉพาะ Satellaview
Kirby no Omochabako: Arrange Ball
Kirby no Omochabako: Ball Rally
Kirby no Omochabako: Baseball
Kirby no Omochabako: Cannon Ball
Kirby no Omochabako: Guruguru Ball (Skee-Ball)
Kirby no Omochabako: Hoshi Kuzushi (Star Block Ball)
Kirby no Omochabako: Pachinko
Kirby no Omochabako: Pinball

N64
Kirby 64: The Crystal Shards

GC
Kirby Air Ride

GBA
Kirby: Nightmare in Dream Land
Kirby & the Amazing Mirror

NDS
Kirby: Canvas Curse
Kirby: Squeak Squad
Kirby Super Star Ultra
Kirby Mass Attack

Wii
Kirby's Epic Yarn
Kirby's Return to Dream Land
Kirby's Dream Collection

Wii U
Kirby and the Rainbow Curse

3DS
Kirby: Triple Deluxe
Kirby: Planet Robobot
Kirby Battle Royale
Kirby's Extra Epic Yarn

เฉพาะ eShop
Kirby Fighters Deluxe
Dedede's Drum Dash Deluxe
Team Kirby Clash Deluxe
Kirby's Blowout Blast

NS1
Kirby Star Allies
Kirby and the Forgotten Land
Kirby's Return to Dream Land Deluxe

เฉพาะ eShop
Super Kirby Clash
Kirby Fighters 2
Kirby's Dream Buffet

ที่มาข้อมูล
- kirby.jp
- wikipedia.org
- kirbysrainbowresort.net

3 มีนาคม 2568

วิธีเข้าห้อง HAL ใน Kirby's Return to Dream Land

สวัสดีครับ แอดมินเอครับผม ' w')/

ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่ายังมีคนไทยหลายคนที่ยังไม่รู้สูตรต่างๆ ใน Kirby's Adventure และในหลายคนที่ว่ามานี้ เพิ่งมารู้สูตรลับจากเว็บเราเป็นที่แรกอีกด้วย แต่ก็นะ เกมซีรี่ส์ Kirby มันเพิ่งมาเริ่มดังในบ้านเราเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง จากกระแสของ Kirby and the Forgotten Land เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับผม (และเชื่อเลยว่าหลายท่านยังไม่ทราบเช่นกัน ...หากไม่ได้ไปหาดู FAQ ของต่างประเทศ)

* สามารถใช้กับเวอร์ชั่น Deluxe ของสวิตซ์ได้ด้วยนะ ยืนยันโดย bonbonbon *

เข้าด่านที่ 4 ของ World แรก


ในฉากแรกเมื่อวิ่งไปจนสุดทางจนพบประตูแล้ว ให้วิ่งชิดขวาจอประมาณ 3 วินาที แล้ววิ่งกลับไปทางซ้าย โดยที่ไม่ต้องเข้าประตูนะครับ


และเมื่อวิ่งกลับมาอีกนิด ก็จะพบกับประตูลับใต้หลุม ซึ่งในตอนแรกจะยังไม่มีหลุมและประตูตรงนี้


เมื่อเข้าไปก็จะพบกับห้อง HAL พร้อมกับพลังให้เลือกเก็บได้อีก 4 อย่างครับ 😊 (Hammer หาที่ไหนไม่ได้ใน World 1 และ 2 นอกจากห้องนี้เท่านั้น)


18 กุมภาพันธ์ 2568

บทสรุป Kirby's Adventure (เฉลยตำแหน่งสวิตซ์ และ วิธีปราบบอสประจำด่านต่างๆ)

บทความโดย bonbonbon
พิสูจน์อักษรและเพิ่มเติมข้อมูลโดย WindyDancer/WindyKirby

* เนื่องจากบทความ(กระทู้)นี้ เดิมมีแผนจะโพสเป็นกระทู้ในเว็บบอร์ดที่ปิดตัวไปได้ไม่กี่วัน ผมได้รับการติดต่อจากเจ้าตัวทาง LINE ให้นำบทความมาลงหน้าเว็บได้เป็นกรณีพิเศษครับ *

ขอเนื้อเรื่อง Kirby ภาคหลักหน่อยนะครับ เอาจนถึงภาคล่าสุดเลย Kabox_us

สวัสดีค้า ชาว MDL ที่น่ารักทุกท่าน \^o^/

นี่ก็เป็นบทความชุดที่สองของเราแล้วนะคะ ถ้าหากข้อมูลผิดพลาดประการใด ก็ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยค่ะ 🙏

บทนำ
Kirby's Adventure เป็นภาคต่อจาก Kirby's Dream Land ที่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรต่ออะไรเยอะมาก เมื่อเทียบกับภาคแรก ซึ่งคราวนี้ได้ลงให้กับเครื่อง Famicom หรือ NES ภาพตัวเกมจึงทำออกมาดีขึ้น จากเดิมที่มีเพียงสีเดียว ภาคนี้จะกลายเป็น 4 สีทั้งเกมแล้ว และภาคนี้ยังเป็นภาคแรกที่มีระบบ Auto Save ด้วย โดยเกมจะเซฟให้เองทันทีที่เล่นจบในแต่ละด่าน และนอกจากที่จะลงให้กับ Famicom/NES แล้ว ยังลงให้ Wii (รวมอยู่ในเกมชุด Kirby's Dream Collection: Special Edition), 3DS และ Nintendo Switch Online ด้วย ภาคนี้น้องเคอร์บี้สามารถดึงพลังจากศัตรูมาใช้ได้ด้วยการดูดกิน จากเดิมที่ทำได้เพียงแค่ดูดแล้วยิงออกมาอย่างเดียวเท่านั้น และได้กลายเป็นกลไกหลักของเกมนับแต่นั้นมา

เพื่อความรวดเร็วในการสรุปเนื้อหา เราจะขอลงแค่เฉพาะวิธีหาสวิตซ์ลับ และวิธีปราบบอสประจำด่านเท่านั้นแล้วกันนะจ๊ะ! (. ❛ ᴗ ❛.) (คิดว่าสองอย่างนี้ คงเป็นเหตุผลหลักที่หลายคนอยากเข้ามาอ่านบทสรุปอยู่แล้วแหละเนอะ)

* ตำแหน่งสวิตซ์และวิธีปราบบอสของ Kirby: Nightmare in Dream Land นั้น เหมือนเวอร์ชั่นต้นฉบับทุกประการ

ตำแหน่งสวิตซ์ในด่านต่างๆ

Level 3-1
พอถึงห้องในอาคารที่มีหลุมอยู่ 2 หลุม และมีสวิตซ์อยู่ข้างบน ให้ลงไปยังหลุมที่ 2 แล้วกินบล็อกจะพบกับประตูลับเพื่อเข้าไปกดสวิตซ์ค่ะ

Level 3-6
พอถึงช่วงที่ไต่ระดับขึ้นไปข้างบนเรื่อยๆ ให้บินชิดขวาไปเรื่อยๆ จนพบกับบล็อกดาวที่ทำลายได้ ให้ทำลายแล้วเข้าประตูลับไป พอเข้ามาแล้วให้ทำลายบล็อกระเบิด จากนั้นรีบวิ่งไปเข้าประตูอีกฝั่งให้ทัน แล้วจะพบกับสวิตซ์ของด่านนี้ (หากไม่ทัน สามารถออกแล้วกลับเข้าห้องมาลองใหม่ได้เรื่อยๆค่ะ)

Level 4-1
พอถึงห้องมืด ช่วงท้ายๆ จะมีบล็อกที่เรียงเป็นลายกระดานหมากรุก ถ้าสังเกตให้ดีจะมีอยู่จุดนึงตรงด้านบนที่ดูแปลกไป ให้ทำลายจุดนั้นแล้วกดเข้า "ประตูล่องหน" ค่ะ

Level 4-3
ช่วงที่เป็นเรือบิน (ที่มีแรงลมพัดตัวเราไปทางขวา) ให้บินไปเรื่อยๆ จนสุดฉากทางขวา แล้วค่อยๆ บินลงมาจะพบกับประตูลับเพื่อเข้าไปกดสวิตซ์ค่ะ

Level 4-6
ในห้องมืด (ที่พอเข้ามาแล้วเพลงจะเปลี่ยน) พอผ่านเสาสูงแรกแล้วให้ยืนชิดขอบทางซ้ายล่าง แล้วกดขึ้นเพื่อเข้าประตูล่องหน (หรือจะใช้พลัง Light ที่ได้จากตัวคล้ายๆนางฟ้าในห้องเดียวกัน จุดไฟในห้องให้สว่าง เพื่อทำให้มองเห็นประตูล่องหนตรงจุดดังกล่าวได้ด้วยนะคะ)

Level 5-1
หลังจากเข้าประตูแรก แล้วเราจะมาอยู่ในห้องที่ให้ดิ่งตัวลงไปเรื่อยๆ พอลงมาจนพบประตู ให้เจาะบล็อกดาวลงต่อไปอีกจนพบกับบล็อกดาวและบันใดด้านล่างสุด ให้ทำลายบล็อกทางซ้ายเพื่อเข้าประตูลับค่ะ (ปล. ตรงนี้ต้องระวังนิดนึง หากเผลอเจาะบล็อกด้านล่างมากไป อาจตกลงไปตายได้!)

Level 5-4
พอถึงช่วงที่มีน้ำตก จะมีอยู่ช่วงนึงที่มีน้ำไหลออกมาจากรูเล็กๆ ให้กดเข้าไปในรูนั้นเลยค่ะ

Level 5-5
อันนี้ค่อนข้างยากนิดนึง หลังจากเริ่มด่านมา จะมีประตูอยู่ห่างจากจุดเริ่มต้นไม่ไกลอยู่ด้านล่าง เมื่อเข้ามาให้รีบกินตัวบินเพื่อเอาพลัง Hi Jump แล้วโดดเจาะบล็อกด้านบน จากนั้นกดทิ้งพลัง แล้วกินตัวไฟเพื่อเอา Fire แล้วจุดสายชนวน จากนั้นรีบบินไปเข้าปืนใหญ่ให้ทันค่ะ  (หากไม่ทัน สามารถออกแล้วกลับเข้าห้องมาลองใหม่ได้เรื่อยๆค่ะ)

Level 5-6
ก่อนเข้าด่านนี้ เราต้องมีพลัง Hammer ติดตัวก่อนนะคะ หาได้จากมินิบอสของด่าน 5-2 หรือจากห้อง Arena ของโลกที่ 5 นี้ก็ได้

พอมาจนถึงห้องสุดท้ายที่เป็นชายหาดแล้ว จะมีประตูอยู่ เมื่อเข้ามาจะมีบล็อกพิเศษอยู่กลางฉาก ซึ่งจะทำลายได้ก็ต่อเมื่อใช้ Hammer เท่านั้น ทำลายแล้วเข้าประตูลับเลย

[Tips โดยแอดมิน WindyDancer: เมื่อได้พลัง Hammer จากด่าน 5-2 แล้ว ให้กด Start (+) กับ Select (-) พร้อมกัน หากเห็นดาวขึ้นที่ตัวเราจากด้านหลัง ในจังหวะที่ภาพกำลังตัดไปเป็นหน้า Pause Menu ให้กดออกด่านมา แล้วพลัง Hammer จะไม่มีวันหลุดออกจากตัวเมื่อถูกโจมตีครับ สังเกตได้จากรูปพลังด้านล่างจะโชว์เป็น "Normal"  ทั้งที่เราถือค้อนอยู่!! 😮



หรือหากได้พลังมาจาก Arena ให้เข้าไปด่านไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ด่านใหม่ที่สุด แล้วทำแบบเดียวกันครับ

ปล. สูตรนี้ใช้ได้เฉพาะภาคต้นฉบับเท่านั้น GBA ทำไม่ได้นะ]

Level 6-1
*จำเป็นต้องมี Hammer* พอถึงช่วงที่มีเหวเยอะๆ จะมีประตูอยู่ เมื่อเข้ามาก็ใช้ค้อนเจาะบล็อกพิเศษกลางฉากเลยจ้า

Level 6-2
*จำเป็นต้องมี Hammer* คล้ายกับด่านที่แล้ว แต่คราวนี้หากเราไม่มี Hammer (หรือมีแต่ทำหลุดมือไปซะก่อน) เราสามารถรอให้ตัวไฟฟ้าเขียวๆ 2 ตัวในห้องที่มีบล็อกพิเศษ มาอยู่ใกล้กัน แล้วพอเรากินทั้งสองตัวเข้าไป ให้รอเกมหมุนพลังไปเรื่อยๆโดยไม่ต้องกดอะไร แล้วจะหยุดอยู่ที่ Hammer พอดี ก็จัดการทุบบล็อกพิเศษเลย

Level 6-3
*จำเป็นต้องมี Hammer* หลังจากเก็บมินิบอสในเรือแล้ว ให้ทุบบล็อกพิเศษทางขวา แล้วลงมายังใต้ท้องเรือ แล้ววิ่งต่อไปทางซ้ายจะพบกับบล็อกระเบิด ทำลายแล้วกดขึ้นตรงจุดเดียวกับที่มีบล็อกระเบิดอยู่ก่อนหน้านี้

เมื่อเข้ามาห้องลับ ให้เข้ารูทางขวาก่อน แล้วรีบกินตัวลูกบอลเพื่อเอา Laser จากนั้นกลับมาที่ห้องก่อนหน้าแล้วเข้ารูซ้าย และในห้องต่อมาให้ขึ้นไปอยู่บนเกาะกลางแล้วยิง Laser ใส่มุมขวาบน จากนั้นรีบมาขึ้นปืนใหญ่ค่ะ

Level 6-4
พอถึงถ้ำที่มีน้ำอยู่ข้างล่างสุด พอว่ายมาจนถึงมุมขวาล่างสุดที่มีบันใดแล้ว จะเห็นเป็นช่องทางเดินเล็กๆอยู่ทางซ้ายในน้ำ เดินเข้าไปในนั้นจนสุดแล้วกดขึ้นค่ะ [เพิ่มเติมโดยแอดมิน: ตรงนี้หากเป็นเวอร์ชั่น GBA จะเห็นเป็นรูดำๆ ให้สังเกตได้ง่ายด้วยนะครับ]

Level 6-5
ขอเตือนก่อนว่าเป็นสวิตซ์ที่คาดว่าน่าจะยากที่สุดในทุกด่านแล้วล่ะ (เราเล่นอยู่หลายรอบกว่าจะทำได้) เมื่อมาถึงห้องสุดท้ายที่มีทางเนินขึ้น (ที่มี Waddle Dee วิ่งด้วยความเร็วสูงกับตัวลูกบอลเยอะๆ) ให้ทำลายบล็อกระเบิดเพื่อเปิดหลุมแรก จากนั้นไปต่อเพื่อทำลายบล็อกระเบิดอีกหลุมที่อยู่ใกล้ๆกัน แล้วกลับมายังหลุมแรกเพื่อจุดไฟใส่สายชนวน แล้วจากนั้นรีบวิ่งไปเข้าปืนใหญ่ในหลุมที่ 2 ให้ทันค่ะ ... ขอให้โชคดีในการวิ่งนะคะ ฮ่าๆๆ

[Tips โดยแอดมิน WindyDancer: หลังจากจุดชนวน เมื่อขึ้นมาถึงพื้นข้างบนแล้ว เราต้อง "วิ่ง" กระโดดหลบ Waddle Dee กับ Waddle Doo ที่วิ่งสวนมาด้วยความเร็วจำนวน 2 ตัวครับ เล่นบ่อยๆ เดี๋ยวก็จำทางได้เอง]

Level 6-6
พอเข้าประตูแรก จะเจอ UFO ให้รีบกินเพื่อเอาพลังจากมัน จากนั้นกลับมาห้องก่อนหน้า แล้วบินไปทางซ้ายล่างใต้เหวจะพบกับบล็อกน้ำแข็งที่ต้องใช้ท่าชาร์ตของ UFO เพื่อทำลาย แล้วเข้าประตูไปค่ะ

Level 7-1
ในห้องน้ำแข็งที่มีมอนฯ 2 ตัวถูกขังอยู่ทางซ้าย ให้กินตัวไฟฟ้าจากทางซ้าย แล้วไปทำลายบล็อกน้ำแข็งเพื่อเปิดหลุมที่อยู่กลางห้อง จากนั้นกิน Waddle Doo ในหลุมแล้วใช้ Beam ทำลายบล็อกน้ำแข็งด้านบนที่อยู่ทางขวาสุดของห้อง (ที่มี Waddle Dee อยู่ 3 ตัว) พอเจาะจนได้ยินเสียงน้ำแข็งแล้ว กลับไปกินตัวลูกไฟ แล้วกลับมายังจุดที่เราเจาะบล็อกน้ำแข็งทางขวาสุด แล้วใช้ท่าพุ่งเจาะน้ำแข็งด้านบนสุด (ตรงที่เรายิง Beam ใส่แล้วได้ยินเสียง ปี๊ปๆ นั่นแหละ)

Level 7-6
ในห้องสุดท้ายที่ให้เราบินขึ้นไปเรื่อยๆ ให้บินไปเข้าดวงจันทรด้านบนสุดของฉากเลยค่ะ

วิธีปราบบอสต่างๆ

Level 1: Whispy Woods
พลังที่แนะนำ: อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ Stone


บอสตัวนี้ง่ายมาก เพราะเป็นบอสประจำโลกแรก ไม่ว่ามันจะทำอะไรก็ตาม เช่น ปล่อยแอปเปิ้ล, ปล่อยกระสุนลม แต่ละท่าสามารถหลบได้ง่ายมาก ให้ตีที่ลำต้นไปเรื่อยๆ และระวังอย่ากระโดดบ่อยๆ โดยไม่จำเป็น (เพราะจะทำให้โดนกระสุนลม) ก็เป็นอันใช้ได้

Level 2: Paint Roller
พลังที่แนะนำ: อะไรก็ได้ แต่แนะนำดูดแล้วยิง


มันจะเคลื่อนไหวด้วยความเร็วแต่มีเพียงแค่ท่าเดียวเท่านั้นคือการวาดรูปออกมาโจมตี ส่วนรูปแบบการเคลื่อนไหวของมันคือ มันจะสุ่มวิ่งไปที่วาดภาพเปล่าจาก 1 ใน 4 ที่อยู่มุมฉาก แล้ววาดรูปต่างๆออกมาโจมตี แล้วจากนั้นสุ่มวิ่งไปที่รูปอื่น แล้วทำแบบเดิมไปเรื่อยๆ

วิธีสู้กับมันคือ ตอนที่มันเริ่มวิ่งไปครั้งแรกให้ตามไปตีมันตรงๆเลย แล้วพอมันวาดภาพออกมา ก็รอตีหรือดูดสิ่งที่มันวาดออกมาแล้วรีบยิงกลับทันที ซึ่งหลังจากนั้นหากตัวเรา..

อยู่ที่ชั้นล่าง – ให้เรารีบวิ่งไปอยู่หลังรูปภาพที่อยู่อีกฝั่งทันที
อยู่ที่ชั้นบน – ให้เราบินชิดเพดานอยู่ที่เดิมเพื่อรอดูว่ามันเคลื่อนที่ไปทางไหน

หากมันมาหาเราในกรณีแรก เราจะอยู่หลังมันพอดี ก็ระดมตีไปเรื่อยๆ (หรือรอดูดรูปวาด) จนกว่ามันจะเปลี่ยนที่ พอมันย้ายที่เราก็ตามไปตีต่อ
หากเป็นกรณีที่สอง หรือว่าเราอยู่ชั้นล่างแล้วมันกระโดดขึ้นไปชั้นบน ก็ตามขึ้นไปตีหรือดักดูดหน้ามันเลย

และในบางครั้งมันจะวาดรูปไมค์ออกมาด้วย หากเรากินไมค์เข้าไปจะได้พลังพยัคฆ์คำราม Mike  ด้วยนะ!

Level 3: Mr. Shine & Mr. Bright
พลังที่แนะนำ: Laser


มันจะมีการเคลื่อนไหวดังนี้

ดวงจันทร์อยู่ล่าง ดวงอาทิตย์อยู่บน – ดวงอาทิตย์ที่อยู่ข้างบนจะปล่อยลำแสงลงมาในแนวดิ่ง ณ จุดที่มันอยู่ ส่วนดวงจันทร์จะกระโดดไปมา และมี 2 ท่าคือ Cutter กับพุ่งชนเรา
ดวงอาทิตย์อยู่ล่าง ดวงจันทร์อยู่บน – ดวงจันทร์ที่อยู่ข้างบนจะปล่อยดาวออกมาในแนวทแยงแบบสุ่มทั่วทั้งฉาก (หลบยากมาก) ส่วนดวงอาทิตย์จะกระโดดไปมา และมี 2 ท่าคือ Laser กับพุ่งชนเรา

มันจะคอยสลับตำแหน่งกันเป็นระยะ ให้ใช้ Laser ยิงรัวไปเลย หากเห็นตัวที่อยู่ข้างล่างกระพริบแสดงว่ามันจะใช้ท่าพุ่งชน ก็ให้รอกะจังหวะกระโดดหลบ

Level 4: Kracko
พลังที่แนะนำ: Hi-Jump


หลังจากที่ได้พลัง Hi-Jump และกระโดดหนีร่างแรกขึ้นมาจนถึงชั้นบนสุดแล้ว มันจะกลายเป็นร่างสองทันที ท่าที่มันใช้คือ

1. ปล่อย Waddle Doo ออกมา
2. ยิง Beam รอบตัว
3. พุ่งลงมาชนเรา
4. ไปอยู่ชิดทางซ้ายหรือขวา แล้วปล่อยสายฟ้าแบบลากจากทางใดไปทางหนึ่ง

วิธีปราบคือ หากมี Hi-Jump ก็กระโดดพุ่งใส่ไปเรื่อยๆได้เลย แต่หากไม่มีพลัง (หรือโดนมันตีจนพลังหลุด) ให้รอดูด Waddle Doo ที่มันปล่อยออกมาแล้วยิงกลับ (ไม่แนะนำให้กินเพื่อเอา Beam)

Level 5: Heavy Mole
พลังที่แนะนำ: Hammer หรือ Parasol (ไม่แนะนำ Sword)


มันจะเคลื่อนไหวช้าแต่ทรงพลังทีเดียว รูปแบบการเคลื่อนไหวของมันมี

1. เคลื่อนที่ขึ้นหรือลงในแนวทแยงไปเรื่อยๆ
2. มันจะยิงจรวดออกมา
3. ใช้หมัดชกในแนวทแยง

ใช้ Hammer ตีใส่มัน ไม่นานก็ชนะได้แล้ว หากโดนมันแล้วพลังหลุด สามารถกินจรวดที่มันยิงออกมาเพื่อเอา Hammer คืนได้ด้วย!

Level 6: Meta Knight
พลังที่แนะนำ: Sword (บังคับ)


หลังจากเข้าไปเก็บดาบ (ตามที่มันบอก) แล้วก็ให้บินชิดเพดานอย่างเดียวเลยครับ แล้วรอจังหวะที่มันกระโดด พอเห็นว่ามันเริ่มกระโดดเมื่อไหร่ ให้รีบดิ่งลงมาฟันทันที เพราะท่ากระโดดจะเป็นเพียงท่าเดียวที่จะไม่มีการป้องกันใดๆ ครับ

ให้ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ครับ แล้วเราก็จะได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของ Meta Knight ง่ายมากๆ

Cr. WindyDancer

Level 7: King Dedede
พลังที่แนะนำ: Hi-Jump


มันจะมีการเคลื่อนไหว 5 Pattern ดังนี้

1. กระโดดขึ้นฟ้าแล้วลงมาทับ – มีดาวออกมาทั้ง 2 ฝั่ง: พยายามเดินให้พ้นจุดที่ลงมาทับ เมื่อลงมาทับแล้ว รีบดูดดาวแล้วยิงสวนทันที
2. ถือค้อน วิ่งเข้ามาหา แล้วทุบ – เมื่อทุบแล้วมีดาวออกมา: หากตัวเราอยู่กลางจอ ให้รอมันวิ่งเข้ามาใกล้ๆ พอมันเข้าใกล้เราแล้วให้กระโดดถอยออกมา แล้วรีบดูดดาว จากนั้นยิงสวนทันที
3. วิ่งเข้ามาหาโดยไม่ถือค้อน แล้ว Bodyslam – ไม่มีดาว: เมื่อเห็นวิ่งเข้ามาแบบไม่มีค้อน ให้บินหลบเลย
4. วิ่งเข้ามาหาโดยไม่ถือค้อน แล้วยืนดูดอยู่กับที่ – ไม่มีดาว: เมื่อเห็นวิ่งเข้ามาแบบไม่มีค้อน ให้บินหลบเลย
5. พองตัวแล้วบินไปมา – ไม่มีดาว: ให้เดินหลบไปมาบนพื้นและห้ามบินเป็นอันขาด แต่หากมี Hi-Jump อยู่ก็สอยมันเลย

Cr. WindyDancer

Nightmare ร่าง 1
พลังที่แนะนำ: Star Rod (บังคับ)


มาทำความเข้าใจก่อนที่จะลุยบอสตัวนี้กันก่อน – เราจะได้ใช้ Star Rod บินขึ้นไปบนฟ้า สามารถปล่อยกระสุนได้ เวลาสู้ก็คล้ายกับเล่นเกมแนวยานยิงหรือ Shoot 'em up เลย คือ เคลื่อนที่ บน-ล่าง-ซ้าย-ขวา อยู่ภายในหน้าจอ โดยที่ตัวเราหันไปทางขวาอย่างเดียว แต่ระวังไว้หน่อยตรงที่ Nightmare ร่างแรกจะมีระยะเวลาในการต่อสู้จำกัด (นับได้ประมาณ 60 วินาที) หากเราปราบมันไม่ทันเวลา จะโดนพื้นบีบอัดตายทันที

Nightmare ร่าง 2
พลังที่แนะนำ: Star Rod (บังคับ)


มันมีสารพัดมุกออกมาเล่นกับเรา มันจะโผล่ๆ หายๆ ออกมาสู้กับเรา มันจะมีการเคลื่อนไหว 5 Pattern ดังนี้

(Updated by WindyDancer)
1. มันจะโผล่ออกมาแล้วบินโฉบลงมาข้างล่างแล้วหายไป จากนั้นโผล่มายิงดาวทั้ง 2 ฝั่ง – เอาคฑากระโดดใส่ที่จุดอ่อน (หากทัน)
2. โผล่มาอยู่กับที่ แล้วยิงดาวออกมาทั้ง 2 ฝั่ง – เอาคฑากระโดดใส่ที่จุดอ่อน (หากทัน)
3. มันจะโผล่ออกมาแล้วบินไปฝั่งใดฝั่งหนึ่ง แล้ว(ร่อนลงมาก่อนที่จะ)ยิงดาว – พยายามวิ่งไปอยู่ข้างหลังมัน หากมันเริ่มยิงทันที เอาคฑากระโดดใส่ แต่หากมันร่อนลงมา ให้ยิงแทน
4. โผล่มาอยู่กับที่ แล้วบินเข้าหาเราแบบช้าๆ – กระโดดยิงไปเลย
5. โผล่มาอยู่กับที่ แล้วบินขึ้นไปข้างบนจนหายไปจากฉาก แล้วโผล่มาข้างล่าง ณ จุดที่เราอยู่ – กระโดดหลบแล้วพยายามยิงกลับ (หากทัน)

จุดอ่อนของมันอยู่ที่จุดสีรุ้งใต้ผ้าคลุม การต่อสู้กับมันนั้นไม่ยาก แต่นาน อ้อ อีกอย่างนึง หากเรามาตายในช่วงนี้ จะต้องกลับไปเริ่มใหม่ตั้งแต่ร่างแรกนะคะ T^T

สูตรลับต่างๆ

ห้อง HAL (เวอร์ชั่นต้นฉบับเท่านั้น)

ในด่าน 2 ของโลกแรก พอเดินมาสุดฉากจนเห็น Warpstar แล้ว ให้กลับไปฆ่า(หรือกิน)ตัว Cutter แล้วยืนตามตำแหน่งในภาพจากนั้นกดทิ้งพลัง


จากนั้นเดินหน้าไปทางที่มี Warpstar อยู่ จะพบว่า Warpstar ได้หายไปแล้ว! และเมื่อเดินต่อไปอีกนิด (ปกติจะไปต่อไม่ได้) ก็จะพบกับบล็อกที่เรียงเป็นตัวอักษร HAL ค่ะ


[เพิ่มเติมโดยแอดมิน: ห้อง HAL กลับมาอีกครั้งในภาค Super Star Ultra และยังคงมีมาเรื่อยๆ ทุกภาคหลัก นับแต่นั้นมา จนกลายเป็นธรรมเนียมไปเลย (Planet Robobot มีตั้ง 3 ห้องแหน่ะ)]

เอา UFO ในด่านแรก และ 3-2

ในด่านแรกสุด ให้บินเข้าไปยังตำแหน่งในภาพเพื่อเอา UFO ได้ตั้งแต่ด่านแรกเลย! (แต่เอาได้เพียงแค่ครั้งเดียวต่อ 1 เซฟเท่านั้นนะ)


[เพิ่มเติมโดยแอดมิน: ในด่าน 3-2 ช่วงที่ให้ไต่ขึ้นข้างบน พอไปถึงมุมที่ต้องขึ้นไปทางซ้าย จะมีตัว Togezo อยู่ที่พื้นลอยชั้นแรกทางขวา ให้เรากระโดดขึ้นไปแล้วรีบดูดตัว Togezo ที่พื้นลอยทางขวาทันที หากไม่มีอะไรผิดพลาดจะเป็นการดูด Rocky ที่เพิ่งร่วงมาจากทางเดียวกันไปด้วย แล้วจากนั้นจะเกิด Mix Abilities ขึ้น ให้รอเกมหยุดการหมุนเองโดยไม่ต้องกด แล้วจะได้พลัง UFO ครับ!! ที่สำคัญสามารถกลับมาทำใหม่ได้ไม่จำกัดจำนวน และยังใช้ร่วมกับสูตรพลังไม่มีวันหลุดได้อีกด้วย]

สูตร Mike ใช้ได้ 255 ครั้ง (เวอร์ชั่นต้นฉบับเท่านั้น)

ที่บอสด่าน 2 เมื่อเริ่มสู้ ให้ยิงดาวใส่ไป 3 ครั้ง แล้วจากนั้นรอมันวาดไมค์ออกมาแล้วกิน จากนั้นกดไป 2 ครั้ง และในครั้งที่ 3 ให้เราไปยืนและกระโดดตามตำแหน่งในรูปแล้วกดไมค์



หากไม่มีอะไรผิดพลาด เมื่อผ่านด่านนี้เราจะกดไมค์ได้ 255 ครั้งค่ะ

ประตูลับในด่าน 7-2

เมื่อเริ่มมา แทนที่จะเข้าประตูที่เห็น ให้บินขึ้นไปตรงกลางข้างบนเพื่อเข้าประตูลับค่ะ


ผลของมันคือเมื่อสู้กับมินิบอสครบแล้วจะได้เข้าห้องลับที่มี 1 UP ให้เก็บ 5 อัน (เข้าประตูปกติจะไม่ได้)

วิธีเข้าปืนใหญ่ในด่าน 7-5 (by WindyDancer)

เราต้องเอาพลัง Crash ที่ได้จากตัวระเบิดตอนเริ่มฉากก่อนครับ เมื่อได้มาแล้วให้เราพยายามเก็บพลังนี้ไว้ใช้กับปืนใหญ่ในห้องสุดท้ายให้ได้ โดยในช่วงที่สู้กับ Wheelie พอมันปล่อยตัวลูกออกมา ให้เรากดทิ้งพลังแล้วดูดลูกมายิงจากนั้นรีบกินดาว Crash กลับทันที แล้วทำแบบเดิมจนว่าจะผ่านได้

และเมื่อมาถึงห้องสุดท้ายที่มีสายชนวน ให้ไปยืนให้ต้นชนวนอยู่ในริมจอทางซ้ายให้ได้มากที่สุด แล้วกดใช้พลัง Crash จากนั้นรีบวิ่งมาเข้าปืนใหญ่ทางขวา หากเข้าทันจะได้เข้าห้องลับที่มี 1 UP จำนวน 5 อันครับ

โบนัส 30 ตัว (by WindyDancer)

ในมินิเกมกระโดดหลังจบด่าน ให้เราโดดให้ได้ชั้น 7-6-5-4-3-2-1 เรียงลำดับแบบนี้ให้ได้ และในลำดับสุดท้ายที่ให้โดดไปชั้น 1 จะได้เป็น 30 UP แทน 1 UP ครับ


ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.kirbysrainbowresort.net/

14 กุมภาพันธ์ 2568

[สรุปเนื้อเรื่อง] Kirby's Dream Land 3

Kirby's Dream Land 3 (星のカービィ3)

ขอเนื้อเรื่อง Kirby ภาคหลักหน่อยนะครับ เอาจนถึงภาคล่าสุดเลย - Page 3 Image2

วันหนึ่งที่แสนสงบ ในขณะที่ Kirby กับ Gooey (ตัวประกันจากภาค 2) กำลังนั่งตกปลาอยู่นั้น อยู่ๆก็มีเมฆดำปริศนา ลอยเข้ามาปกคลุมเหนือน่านฟ้า ก่อนที่จะค่อยๆแพร่กระจายไปทั่วทั้งโลก Popstar และจากนั้น Coo ก็ได้บินมาบอกทั้งสองว่าโลกกำลังตกอยู่ในอันตราย ทั้งสองจึงออกเดินทางไปจัดการกับต้นตอของเหตุวิปลาสอีกครั้ง

ในภาคนี้มีสัตว์ผู้ช่วยเพิ่มมาอีก 3 ตัวคือ (เป็นเพศเมียทั้งหมด)
ขอเนื้อเรื่อง Kirby ภาคหลักหน่อยนะครับ เอาจนถึงภาคล่าสุดเลย - Page 3 Nago Nago แมว
ขอเนื้อเรื่อง Kirby ภาคหลักหน่อยนะครับ เอาจนถึงภาคล่าสุดเลย - Page 3 Pitch Pitch นก
ขอเนื้อเรื่อง Kirby ภาคหลักหน่อยนะครับ เอาจนถึงภาคล่าสุดเลย - Page 3 Chuchu ChuChu ปลาหมึกยักษ์

และภายหลังจากที่เอาชนะ King Dedede ก็มีบางอย่างหลุดออกมาจาก King Dedede พุ่งขึ้นไปบนฟ้า (อีกแล้ว) มันคือ Dark Matter นั่นเอง และ Heart Stars ทั้ง 5 ก็ได้รวมตัวกันจนกลายเป็น "Love-Love Stick" คฑารูปหัวใจ แล้วจากนั้น Kirby ก็บินตามไปปะทะกับ Dark Matter ในต่างมิติ (ในช่วงนี้เราจะไม่ได้ลงมือสู้เอง) และในภายหลังจากที่ปราบ Dark Matter ได้แล้ว "Zero" ลูกตายักษ์ ผู้ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชากองทัพ Dark Matter ก็ได้ปรากฏตัวออกมาสู้กับ Kirby และหลังจากที่ปราบ Zero ได้แล้ว มันก็ได้ใช้พลังเฮือกสุดท้าย ถอดลูกตาสีแดงออกมาสู้ต่อ โดยที่มีเลือดสาดไปทั่วทั้งฉาก!! (ขอย้ำว่าที่เห็นเม็ดสีแดงๆ ปลิวออกมานั่นคือ "เลือด" จริงๆ !! ...ตอนที่แอดมินเห็นครั้งแรก ทำให้นึกถึงอนิเมะเรื่อง Puella Magi Madoka Magica ขึ้นมาเลย... แบบว่า โดนหน้าปกหลอกเต็มๆ !!) และหลังจากที่ปราบ Zero ร่างสุดท้ายได้แล้ว โลกก็กลับสู่ความสงบอีกครั้ง

TO BE CONTINUED.....

* Fact โดยแอดมิน: บางคนอาจจะสงสัยว่า Batamon ขอเนื้อเรื่อง Kirby ภาคหลักหน่อยนะครับ เอาจนถึงภาคล่าสุดเลย - Page 3 Batamon เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับ Kirby หรือเปล่า คำตอบคือ ไม่ได้เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับ Kirby นะครับ แค่เป็นสิ่งมีชีวิตที่หน้าตาคล้าย Kirby ก็เท่านั้น

ทว่า เท่าที่ผมไปหาอ่านเจอในสแกนมังงะ พบว่า Batamon เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นมาจากรูปวาดของ Ado/Adeleine และอาจจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็ได้ครับ เพราะในโลก 4 ด่านที่ 3 หลังจากที่ถึงประตูเส้นชัยแล้ว เราสามารถบินทะลุกำแพงไปออกประตูลับได้ ซึ่งภายในห้องลับนี้มี Batamon เต็มไปหมดเลย!! และ Ado/Adeleine ก็เป็นบอสประจำโลก 4 อีกด้วย

และในภาค Star Allies หากเล่นเป็น Adeleine จะสามารถวาด Batamon ออกมาได้ด้วย!!

สรุปก็คือ Batamon เป็นรูปวาดของ Ado/Adeleine ที่พยายามวาดให้ออกมาเป็น Kirby แต่ไม่ได้เหมือนตัวจริงเลยกลายเป็น Batamon แทนนั่นเอง...