11 กุมภาพันธ์ 2566

[Review] SuperTuxKart เกม Mario Kart ในโลก Linux ที่เล่นได้ทั้งพีซีและมือถือ

สวัสดีครับ แอดมินเอครับผม ' w')/

หายหน้าหายตาไปนานสำหรับบทความรีวิวเกมนะครับ ก่อนอื่นต้องขอเล่าสาเหตุที่ทำให้แอดมินอยากเขียนรีวิวนี้ก่อน ... เมื่อ 4-5 วันที่แล้ว ผมกำลังตบปุ่มในเกม Pop'n Music Lively อยู่ (เพื่อนให้ไอดีมาเล่น) พอจบแล้วก็มีเพื่อนในกลุ่ม LINE ทักมาแนะนำเกมๆ หนึ่งพอดี เป็นเกมแนวแข่งรถ เขาบอกว่าในเกมนี้มีม็อดเป็นรถ Toyota Sprinter Trueno AE86 จาก Initial D ด้วย ซึ่งดูน่าสนใจดีผมจึงเลยลองโหลดมาเล่นดู ปรากฏว่า.. ติด! ติดเลยครับพี่น้อง "ติด" ที่ว่านี้ไม่ได้หมายถึงเกมมันยากจนเล่นไม่ผ่านนะ แต่หมายถึงเกมมันสนุกมากจนหยุดไม่ได้นั่นเอง! เอาล่ะ มาดูกันดีกว่าว่าทำไมผมถึงติดใจกับเกมนี้กันครับ!!



SuperTuxKart (เรียกสั้นๆ ว่า STK) เป็นเกมแข่งรถแนว Mario Kart ที่มาในธีมของโลกระบบปฏิบัติการ Linux ซึ่งนำตัวละครมาสคอตประจำโปรแกรม Open Source ต่างๆ มาชิงชัยกัน เช่นเจ้าเพนกวิน Lux จาก Linux หรือเจ้าปลาปักเป้า Puffy จาก OpenBSD เป็นต้น แน่นอนว่าเกมนี้เป็นเกม Open Source ที่สามารถดาวนโหลดมาเล่นได้ฟรีๆ อีกด้วย แต่ที่เซอร์ไพรส์มากๆ คือ รองรับภาษาไทยด้วยนะ

กราฟิกดีงาม แต่ยังขาดรายละเอียดบางส่วน


เกมนี้ได้เริ่มต้นพัฒนามาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) แต่เพิ่งได้ออกเป็นเวอร์ชั่น 1.0 หรือเวอร์ชั่นเต็มเมื่อปี ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ที่ผ่านมานี้เอง เรียกว่าพัฒนามาอย่างยาวนานมากๆ โดยเกมนี้ขับเคลื่อนด้วยเอนจิน Antarctica เป็นเอนจินที่พัฒนาขึ้นมาเอง แต่ให้คุณภาพของกราฟิกที่สวยงามไม่แพ้ Unreal Engine 4 เลยทีเดียว (หากปรับระดับกราฟิกเต็ม Max นะ) ไม่ว่าจะเป็นฉากของสนามแข่ง, ความคมชัดของภาพ, แสง-เงา ซึ่งเกมนี้ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ในส่วนรายละเอียดของฉากหลัง (ส่วนที่อยู่นอกสนามแข่งออกไป) ส่วนใหญ่เท่าที่ได้ลองสังเกตจะพบว่ารายะละเอียดหลายๆ ส่วนของฉากหลังจะดูไม่มีจุดเด่นอะไรมากนัก อีกทั้งในเรื่องของเอฟเฟกระเบิดรวมถึงเอฟเฟกของไอเทมต่างๆ ที่ยังดูไม่ค่อยมีรายละเอียดเท่าไหร่นัก ก็อาจสร้างความผิดหวังเล็กน้อยได้สำหรับกลุ่มคนที่หวังจะเล่นเกมนี้เพื่อบริโภคกราฟิกเพียงอย่างเดียวได้

รูปแบบการเล่นมีจุดดึงดูดอยู่ที่ความหลากหลาย


เมื่อเข้าเกมมาเราจะพบกับเมนู 5 ปุ่มหลักๆ ด้วยกันคือ

Story Mode: เป็นโหมดเล่นตามเนื้อเรื่องของเกมที่ผู้เล่นต้องทำตามเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งภายในเกมนี้จะใช้วิธีการดำเนินเกมคล้ายๆ กับ Crash Team Racing คือจะมีจุดวาร์ปเข้าสู่สนามแข่งกระจายอยู่ทั่วแผนที่ และเมื่อเราเอาชนะในแต่ละด่านได้ก็จะค่อยๆ ปลดล็อคด่านอื่นๆ เพิ่มตามจำนวนแต้มสะสมนั่นเอง และยังมีเนื้อเรื่องให้เราชมด้วยแม้จะไม่ได้มีคัตซีนที่อลังกาลก็ตาม

Singleplayer: เปรียบเสมือนโหมด Quick Race หรือ Arcade Mode ในเกมแข่งรถทั่วไป โดยผู้เล่นสามารถเลือกตัวละครและสนามแข่งรวมถึงโหมดต่างๆ มาเล่นได้อย่างอิสระตามความชอบของผู้เล่นแต่ละคน แต่ทว่า หากต้องการเล่นตัวละครบางตัวหรือบางสนาม จำเป็นต้องทำการปลดล็อคจาก Story Mode ก่อนด้วยนะครับ

โดยในโหมดนี้หลังจากเลือกตัวละครแล้วจะแบ่งออกเป็นโหมดย่ออีกหลายโหมดด้วยกันดังนี้


• Normal Race: โหมดการเล่นแบบปกติ การแข่งขันในโหมดนี้ระหว่างทางจะมีไอเทมต่างๆ ให้ผู้เล่นเก็บไปใช้ได้ตลอดทางเพื่อยิงอัดใส่คู่แข่งขันหรือสร้างอุปสรรคให้กับคู่แข่งเพื่อเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน ขอบอกว่า AI ค่อนข้างฉลาดเหมือนเล่นกับคนจริงเลยครับ
• Time Trial: โหมดการเล่นที่เน้นเทคนิคในการขับรถเป็นหลัก การแข่งขันในโหมดนี้จะไม่มีการใช้ไอเทมใดๆ นอกจากไอเทมเพิ่มความเร็วเท่านั้น ผู้เล่นจะต้องใช้เทคนิคในการขับรถเพื่อฝ่าฟันเข้าสู่เส้นชัยเพียงอย่างเดียว เป็นโหมดที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการขับรถแบบเน้นความเร็วและทักษะต่างๆ เป็นอย่างมาก
• Follow-the-leader: คล้ายกับ Normal Race ทว่าจะเป็นแบบ "ที่โหล่คัดออก" แทน โดยในแต่ละรอบจะมีเวลา 30 วินาที เมื่อหมดเวลาผู้ที่อยู่อันดับสุดท้ายจะถูกคัดออกจากการแข่งขันทันที
• Battle: สำหรับในโหมดนี้จะเป็นการเก็บไอเทมแล้วโจมตีใส่รถคู่แข่งเพื่อเก็บคะแนน โดยแบ่งออกเป็นอีก 2 โหมดย่อคือ 3-Strikes (คล้าย Battle Royale) และ Free-for-all (คล้าย Deathmatch ยิงกันไปเรื่อยๆ จนกว่าเวลาจะหมด)
• Soccer: โหมดขับรถเตะบอลโดยมีลูกบอลขนาดยักษ์ให้แย่งกันทำประตู (คล้ายกับในเกม GTI Club: Supermini Festa! หรือ Rocket League) เป็นโหมดที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ในการเล่นอย่างมาก
• Egg Hunt: ในโหมดนี้ผู้เล่นจะต้องค้นหาไข่ที่ซ่อนอยู่ภายในสนาม ซึ่งมีทั้งหมด 7 ฟองด้วยกัน และต้องหาให้ครบให้เร็วที่สุด
• Ghost replay Race: แข่งขันกับสถิติของรีเพลย์ต่างๆ ซึ่งผู้เล่นสามารถบันทึกรีเพลย์ของตัวเองได้จากการเล่นในโหมด Time Trial แล้วนำรีเพลย์นั้นๆ มาเล่นในโหมดนี้ได้ (มาเป็นร่างเงาเลยแหละ) ซึ่งทำให้ผู้เล่นสามารถเรียนรู้ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นและสามารถฝึกฝนไปได้เรื่อยๆ จนกว่าจะพอใจได้
• Lap Trial: คล้ายกับ Time Trial แต่จะเป็นแบบให้ผู้เล่นวิ่งทำรอบให้ได้มากที่สุดภายในระยะเวลาที่กำหนด

ทุกโหมดสามารถเลือกระดับความยากได้ 4 ระดับ ซึ่งจะมีผลต่อความเร็วสูงสุดของรถ และความเก่งกาจของ AI

Multiplayer Split-Screen: เหมือนกับ Singleplayer แต่จะเป็นการเล่นแบบแบ่งหน้าจอเล่นกับเพื่อน ซึ่งรองรับได้สูงสุด 4 คน

Online: เป็นโหมดเล่นออนไลน์ที่ผู้เล่นจะเข้าร่วมการแข่งกับผู้เล่นทั่วโลก และเล่นได้มากสุดพร้อมกัน 20 คน ซึ่งรองรับทั้งรูปแบบ LAN และอินเตอร์เน็ต (แบบอินเตอร์เน็ตจำเป็นต้องล็อคอินเข้าบัญชีออนไลน์ของเกมด้วย)

Add-ons: เปรียบเสมือนเป็น Steam Workshop ที่รวบรวม Custom Content หรือม็อดต่างๆ จากผู้เล่น ซึ่งแบ่งเป็น 3 ประเภทคือ ตัวละคร/รถ, สนามแข่ง, และสนามในโหมด Battle

เกมเพลย์ก็ Mario Kart นั้นแหละ


แน่นอนว่าว่าเจตนาของผู้สร้างคือการนำมาสคอตประจำโปรแกรม Open Source มาเป็นแนวแข่งรถโกคาร์ทที่สนุกสนานไม่เน้นความสมจริง และหากคุณเคยเล่น Mario Kart มาก่อน การควบคุมบังคับก็แทบจะเหมือนกัน ซึ่งปุ่มหลักๆ ที่ใช้งานก็คือปุ่มทิศทางไว้สำหรับเดินหน้า ถอยหลัง เบรค และบังคับทิศทางรถ Spacebar ไว้เรียกใช้ไอเทม N ไว้ใช้ไอเทมเร่งความเร็ว B ใช้มองหลังและปล่อยไอเทมไปด้านหลัง V ไว้ดริฟท์ Backspace ไว้สำหรับเรียกนกฟ้า Mozilla Thunderbird มาช่วยนำรถกลับขึ้นถนนในกรณีที่หลุดโค้ง นอกจากนี้ยังรองรับจอยทุกประเภท รวมถึงยังรองรับระบบสั่น Force Feedback อีกด้วย

ในส่วนของการควบคุมบนมือถือนั้นสามารถเลือกรูปแบบการบังคับควบคุมได้ 3 รูปแบบ ทั้งการเอียงเครื่องด้วยเซนเซอร์ Accelerometer หรือ Gyroscope และการใช้ปุ่มบนหน้าจอในการบังคับ แต่การควบคุมทิศทางรถด้วยปุ่มบนหน้าจอนั้นกลับใช้ระบบแอนาล็อก ซึ่งรถจะเลี้ยวมาก-น้อยตามน้ำหนักการเลื่อนนิ้วจากจุดศูนย์กลาง ทำให้การควบคุมเป็นไปได้ยากมากๆ แต่เราก็สามารถเปลี่ยนเป็นแบบดิจิตอลหรือ "แตะเพื่อเลิ้ยว" คล้ายกับในเกม Garena Speed Drifters (หรือ KartRider Rush+/Drift) ได้เช่นกันครับ โดยการตั้งตามในรูปข้างล่างนี่เลย


โดยความรู้สึกของการบังคับในเกมนี้อาจรู้สึกแข็งๆ ไม่เป็นธรรมชาติเล็กน้อยโดยเฉพาะเวลาดริฟท์ เนื่องจากเกมนี้ไม่ได้เรียกใช้ในส่วนของระบบฟิสิกส์มากนัก ทำให้การเคลื่อนไหวของรถดูไม่เป็นธรรมชาติ หากเทียบกับ Mario Kart ทุกภาค

Add-ons คือจุดเด่นของเกมนี้


นอกจาก Content ภายในเกมที่หลากหลายแล้ว เกมนี้ยังรองรับในส่วนของ Add-ons หรือที่เรียกอีกอย่างว่า Mod อีกด้วย และเชื่อว่าหลายคนอาจจะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงกับระบบนี้ เพราะผู้เล่นสามารถเลือกดาวน์โหลดตัวละครและสนามแข่งขันที่สร้างขึ้นมาจากผู้่เล่นคนอื่นๆ ได้อย่างอิสระ ซึ่งสามารถโหลดได้ผ่านตัวเกมโดยตรงเลย และมีให้เลือกเยอะมากๆ นับพันกว่ารายการ และ Add-ons ส่วนใหญ่ก็มีคุณภาพดีเยี่ยม จุดนี้เองเป็นส่วนที่ผู้เขียนรู้สึกชื่นชอบเป็นพิเศษและทำให้อยู่กับเกมได้นานยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน (แอดมินลองดัดแปลงเอาเพลงของเกม Initial D Arcade Stage มาใส่ในบางสนามด้วยนะ แถมเพลงก็เข้ากันมากๆ ด้วยล่ะ ^_^)

การเล่นที่ไร้พรมแดนด้วยระบบ Cross-Platform


อีกหนึ่งจุดเด่นของเกมนี้คือ เป็นเกมที่รองรับการเล่นข้ามแพลตฟอร์มทั้งบน PC และสามารถเล่นได้ในมือถือรวมไปถึง Android TV ด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้ง 3 แพลตฟอร์มนี้สามารถเล่นด้วยกันในโหมด LAN และออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ตได้อย่างไม่มีปัญหา เรียกได้ว่า สนุกกับเกมเมื่อไหร่ที่ไหนก็ได้เลยนั่นเอง

สรุปแล้ว



อย่างแรกต้องยอมรับอย่างหนึ่งก่อนครับว่า เกม SuperTuxKart เลือกรูปแบบเกมที่อาจจะเน้นไปทาง Add-ons และ Modding เช่นเดียวกับเกมอย่าง Friday Night Funkin'  ในขณะที่ Stock Contents ที่มากับตัวเกมหลักนั้นดูเหมือนจะไม่ถูกเน้นมากนัก เพราะถ้าเราดูจากเรื่องของ User Contents แล้วจะค่อนข้างโดดเด่นกว่า Stock Contents ค่อนข้างมาก

โดยรวมแล้วเป็นเกมขับรถที่เล่นได้เพลินๆ และเหมาะกับทุกเพศทุกวัย แต่เสียดายที่โหมดเนื้อเรื่องธรรมดาและมีหลายจุดที่ดูน่าเบื่อไปหน่อย ส่วนการแปลภาษาไทยในเกมก็ทำได้ดี แต่ยังมีบางจุดที่แปลผิดกับตกหล่นอยู่บ้าง ใครชอบเกมแข่งรถแนวใช้ไอเทม สนุกสนานเฮฮาแถมยังลงม็อดเพิ่มได้ก็ลองไปดาวน์โหลดเกมนี้มาเล่นกันดูได้เลย หรือหากคุณกำลังหาเกมมือถือเล่นฆ่าเวลาแบบที่สามารถเล่นโดยไม่ต้องใช้อินเตอร์เน็ตได้แล้วล่ะก็ แนะนำเลยครับ ที่สำคัญ ฟรี และไม่มีทั้งโฆษณาหรือการใช้เงินจริงซื้อของในเกม แต่สำหรับโหมดออนไลน์นี่ไม่รู้ทำไมเข้าไปทีไรห้องแข่งมันเงียบเหงาเสียเหลือเกิน

ดาวน์โหลดตัวเกมได้ที่

https://supertuxkart.net/Download


จุดเด่น
• ภาพสวยเกินกว่าเกม Open Source ทั่วไป
• มีโหมดการเล่นหลากหลาย
• AI ฉลาด รู้จักที่จะใช้ไอเทมโจมตีในจังหวะไหน และป้องกันในเวลาไหน
• เล่นกับเพื่อนได้ทั้งแบบแบ่งหน้าจอ LAN และออนไลน์
• โหมด LAN และออนไลน์ รองรับการเล่นข้ามแพลตฟอร์ม
• รองรับ Add-ons และมีให้เลือกโหลดเยอะมาก
• เป็นเกมฟรีที่ไม่มีโฆษณา และไม่มีระบบใช้เงินจริงซื้อของในเกม
• สามารถเล่นแบบออฟไลน์ (ไม่มีอินเตอร์เน็ต) ได้

จุดสังเกต
• โหมดเนื้อเรื่องธรรมดาไปหน่อย
• กราฟิกบางส่วนของเกมขาดรายละเอียดไปเล็กน้อย
• ฟิสิกส์การดริฟท์ที่ยังดูแข็งๆ
• ระบบการสุ่มไอเทมตามอันดับที่ยังทำได้ไม่ค่อยสมดุล