1 กันยายน 2568

[บทความ] Kirby และ Gimmick! กับความเหมือนที่แตกต่างกัน


ไม่ได้พบกันนานเลยนะครับสำหรับบทความพิเศษ เมื่อไม่กี่วันก่อน เบื่อๆเลยลองเข้าไปอ่านรีวิวเกม Gimmick! 2 ในเพจ Steam ดูเล่นๆ น่าแปลกใจที่เห็นมีหลายคนเอามาเทียบกับ Kirby กันค่อนข้างเยอะเลย (ส่วนใหญ่เทียบกับภาคที่เป็นแบบ 2D โดยเฉพาะ Kirby's Adventure กับ Star Allies)

และหลายคนที่อาจไม่ได้เป็นแฟน Kirby ตัวโยงคงเริ่มสงสัยแล้วว่าทำไมผู้ที่เล่น Gimmick! เกือบทั้งหมดถึงเอามาเทียบกับ Kirby นั่นเป็นเพราะว่าเกมนี้มีหลายสิ่งที่มะลายคล้ายกับ Kirby ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ตั้งแต่ตัวละครยันระบบการเล่น ซึ่งแอดมินจะมาสรุปเป็นข้อๆดังนี้ครับ

Kirby และ Yumetaro มีรูปร่าง "กลม" เหมือนกัน
เคอร์บีเป็นนักรบแห่งดวงดาว (Star Warrior) ส่วนยุเมะทาโรนั้นเป็นโยวไค (ซึ่งถูกพ่อของนางเอกที่ไม่มีชื่อ เข้าใจผิดว่าเป็นตุ๊กตา เลยซื้อกลับบ้านมาเลย) เคอร์บีสู้เพื่อปกป้องดาว Popstar ในขณะที่ยุเมะทาโรนั้น สู้เพื่อคนรักของตัวเอง! 💖

Kirby และ Yumetaro มี "ดาว" ที่ใช้เป็นยานพาหนะได้เหมือนกัน
เคอร์บีมีสีชมพู รูปร่างกลม ส่วนยุเมะทาโร มีสีเขียว รูปร่าง "ค่อนข้างกลม" และมีเขาสีเหลืองสำหรับปล่อยพลังดาว ซึ่งดาวนี้นอกจากจะใช้ต่อสู้กับศัตรูได้แล้ว ยังใช้ "ขี่" ได้เหมือนกับ Warp Star ของเคอร์บีด้วย!

ศัตรูและมอนสเตอร์เกือบทั้งหมดของ Gimmick! มีความคล้ายคลึงกับของ Kirby
พวกตัวสีดำกลมๆนั้น ก็คงเทียบได้กับ Waddle Dee นั่นเอง และมีหลายชนิดเช่นกัน รวมไปถึงมอนสเตอร์และบอสบางตัวยังมีหน้าตาและรูปแบบการโจมตีที่คล้ายกับของเกมเคอร์บีอีกด้วย

รูปแบบการเล่นของ Gimmick! นั้น คล้ายกับ Kirby's Dream Land
ปล่อยดาวยิงใส่ศัตรูเหมือนกันทั้งสองเกม ที่ต่างกันคือ Gimmick! นั้นสามารถชาร์ตแล้วยิงได้ทันทีโดยไม่ต้องดูดศัตรูหรืออะไรก็ตามที่ดูดได้มาก่อน

เรื่องของความยาก...ต่างกันคนละขั้ว
ท่าน มาซาฮิโระ ซากุไร บิดาผู้ให้กำเนิดเคอร์บี ระบุว่าเกมเคอร์บีนั้นเป็นเกมที่ถูกออกแบบมาให้เกมเมอร์มือใหม่สามารถเล่นให้จบเกมได้แบบง่ายๆ ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆครับ ง่ายหมดทุกภาคจริงๆ จะไปยากก็เฉพาะในโหมดพิเศษที่ปลดล็อคหลังจบเกมหลักแล้วเท่านั้น

ส่วนกิมมิคหน่ะเหรอ ผมบอกได้เลยว่ามันคือเกมแนว Soulslike ดีๆนี่เอง คือแบบว่า "ยากนรกแตก" ตั้งแต่ต้นเกมเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีของศัตรูที่มีความรวดเร็ว รวมถึงกับดักต่างๆที่พร้อมจะฆ่าเราได้ทุกเมื่อ ทำให้ต้องอาศัยการจดจำที่ค่อนข้างสูงพอสมควร (ตายเพื่อให้รู้ความผิดพลาด) ไม่ต่างจากเกมซีรี่ส์ร็อคแมน/เมกาแมนเลยล่ะครับ และในด่านหลังๆยังจำเป็นต้องใช้เทคนิคการขี่ดาวเพื่อผ่านจุดต่างๆของฉากอีกด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต่างกับเคอร์บีที่เดินลุยไปได้เรื่อยๆแบบชิวๆ ขอแค่เพียงหลบการโจมตีของศัตรูให้ทันก็พอ

แต่ถ้าหากบางท่านที่เล่นจนคล่องแล้วรู้สึกว่าเกมหลักมันยังยากไม่พอ ยังมีเงื่อนไขพิเศษในการปลดล็อคด่านสุดท้ายที่โหดหินมากๆซ่อนอยู่อีกด้วย แต่ดีหน่อยที่ฉบับรีมาสเตอร์ของภาคแรกกับภาค 2 มีการเพิ่มโหมดง่ายเข้ามา แต่ถ้าเล่นโหมดง่ายจะไปเล่น World สุดท้ายไม่ได้นะเออ...

และสิ่งที่แตกต่างอีกอย่างคือ เคอร์บีบินได้ แต่ยุเมะทาโร บินไม่ได้! 😭


ก็จบเรียบร้อยแล้วนะครับสำหรับบทความชุดนี้ แอดมินเองไม่อยากนึกเลยว่าถ้าเกิด Gimmick! กลายเป็นแบบ 3D เหมือนกับ Kirby and the Forgotten Land แล้วระบบการยิงกับขี่ดาวมันจะโหดหินกว่าแบบ 2D มากขนาดไหนกันนะ ฮ่าๆๆ 😊