21 ตุลาคม 2565

pop'n music RESPECT : STAGE 2B 「การพบพานแห่งโชคชะตา เนียมิมาแล้ว!!」

สวัสดีค่ะ!! ฉันชื่อ มิมิ (Mimi) อายุ 14 ปี ค่ะ!! ฉันน่ะ ชื่นชอบดนตรีมากๆ เลยล่ะ♪ และฉันก็ยังชอบมายเมโลดี้ที่เป็นตัวการ์ตูนของซานริโอ้อีกด้วยนะ อิอิ (^///^)

ฉันเดินทางมายังเกาะป๊อปปินเพราะต้องการเงินรางวัลก้อนใหญ่จากการเป็นแชมป์ทัวร์นาเมนต์ Pop'n Music มาเป็นค่าประมูลสินค้ามายเมโลดี้รุ่นลิมิเต็ดที่ค้างไว้อยู่ค่ะ!! (^_<)☆

แต่หลังจากที่เดินทางมาถึงแค่วันแรก ฉันก็ตกที่นั่งลำบากซะแล้วล่ะ! `(*>﹏<*)′ เพราะมัวแต่ไปเที่ยวเพลินจนลืมเช็คอินโรงแรมที่จองไว้ซะงั้น ผลลัพธ์คือ อดได้สิทธิพิเศษสำหรับเพลเยอร์ใหม่ไปโดยปริยายเลย (┬┬﹏┬┬) ส่วนสิทธิพิเศษที่ว่านี้ก็คือ เพลเยอร์ที่เพิ่งเดินทางมาใหม่จะสามารถเข้าพักโรงแรมใดๆ ก็ได้ฟรีเป็นเวลา 7 วัน ซึ่งรวมไปถึงบริการต่างๆ ทุกอย่างภายในโรงแรมอีกด้วย หมายความว่าภายในระยะเวลาดังกล่าวจะสามารถ กินฟรี นอนฟรี และใช้บริการทุกอย่างได้ฟรีหมดเลยล่ะ!

และในคืนวันนั้นระหว่างที่ฉันกำลังเดินไปเรื่อยเปื่อยอย่างไร้จุดหมาย อยู่ๆ ก็พบกับหมอดูท่านหนึ่งมาทักว่า "หัวใจกำลังถูก "โซ่แห่งความพลาดหวัง" พันธนาการไว้อยู่ แต่จะมีคนๆ หนึ่งมาช่วยแกะออกให้ และคนๆ นั้นจะเป็นผู้นำพาไปพบกับความรักที่แท้จริง" ว่าแต่มันหมายความว่ายังไงกันนะ? ไม่เข้าใจเลย และหวังว่าคนที่มาแกะโซ่ออกให้คงไม่ได้หมายถึงเจ้าเด็กผู้หญิง "แมว" ที่มีหน้าตาคล้ายกับฉัน ที่เคยเจอที่สนามบินหรอกนะ...?

เอาล่ะ! ถึงแม้ว่านับจากนี้ฉันต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมดแล้ว แต่ก็จะพยายามหาทางอยู่รอดบนเกาะแห่งนี้ให้ได้อย่างสุดความสามารถค่ะ!☆

วันนี้ต้องลุยให้เต็มที่เลย!! o(*^@^*)o

--------------------------------------------------------------------------------


STAGE 2B
「การพบพานแห่งโชคชะตา เนียมิมาแล้ว!!」

--------------------------------------------------------------------------------

-วันต่อมา-

มิมิค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา หลังจากที่เธอได้ยินเหล่านกส่งเสียงร้องในย่ามเช้า

และเมื่อเธอลุกขึ้นมาจากม้านั่งแล้ว สิ่งที่เธอเห็นในขณะนี้คือ ผู้คนที่กำลังเดินออกกำลังกายภายในสวนสาธารณะกันอย่างร่าเริงในย่ามเช้า

มิมิ: นี่ฉัน... เผลอหลับไปงั้นเหรอเนี่ย??

มิมิพูดพลางมองดูบรรยายกาศโดยรอบ เพราะแทบไม่เชื่อกับตัวเองว่า เผลอหลับบนม้านั่งในสวนสาธารณะนี้จนข้ามคืน

"ในที่สุดก็ตื่นแล้วสินะ"

อยู่ๆ ก็มีเสียงของผู้ชายคนหนึ่งทักขึ้นมา เธอจึงหันไปมอง

มิมิ: เอ๊!?

เขาผู้นั้นเป็นชายหนุ่มรุ่นราวเดียวกับเธอ มีผมสีบลอนด์ ผิวแทน

"ทำไมเธอถึงมาหลับปุ๋ยอยู่ในสวนล่ะ?"

มิมิ: (คนญี่ปุ่นเหมือนกันเหรอเนี่ย) ก็... ฉันเช็คอินห้องพักไม่ทันเวลาน่ะ

"เอ๊!? จริงเหรอเนี่ย!? บังเอิญจังเลยนะ ^_^"

แล้วเขาก็มานั่งบนม้านั่งอยู่ข้างๆ มิมิ

มิมิ: นายเองก็เช็คอินไม่ทันเหมือนกันเหรอ?

"อืม! พอดีฉันกำลัง "หนี" คนๆ หนึ่งอยู่ ก็เลยไม่ได้ไปเช็คอินห้องพักที่จองไว้น่ะ"

มิมิ: "หนี" อยู่งั้นเหรอ? แล้วคนที่นายกำลังหนีอยู่เป็นใครกันล่ะ?

"ที่จริงแล้วเขาเป็นเพื่อนฉันเองแหละ แต่เขาจะมาตามตัวฉันกลับญี่ปุ่น"

มิมิ: มาตามกลับไป เพื่ออะไร?

"เพราะว่าฉันแอบหนีมาที่เกาะนี่โดยไม่บอก "คนๆ นั้น" น่ะ"

มิมิ: แล้ว "คนๆ นั้น" ที่นายกำลังหนีอยู่เป็นใครล่ะ?

แล้วจากนั้นเขาก็หันไปมองรอบๆ อยู่พักหนึ่งเพื่อเช็คดูว่ามี "คนๆ นั้น" อยู่แถวนี้ไหม

แล้วเขาก็เห็น "คนๆ นั้น" กำลังเดินมองหาอะไรบางอย่างอยู่ ซึ่งเป็นผู้หญิงมีสองคน (1) (2) ทำให้เขาเกิดอาการตื่นตระหนกขึ้นมา

"ฉันต้องไปแล้วล่ะ!"

มิมิ: อ้าว! จะไปแล้วเหรอ? (ยังคุยกันไม่เสร็จเลย)

"อืม! เธอยังไม่ได้ไปรับการอบรมที่ Pop'n Center สินะ?"

มิมิ: เออ.. ใช่แล้วล่ะ (ขอบคุณที่ช่วยเตือนความจำนะ)

"อืม! ต้องไปเข้าอบรมเพื่อเลื่อนขั้นเป็นเพลเยอร์ระดับ 10 ก่อนนะ ไม่งั้นจะไม่สามารถไปแข่งขันหรือรับภารกิจใดๆ ภายในเกาะนี้ได้ ...เอ่อ! ฉันชื่อ "เรียวตะ" (Ryuta) นะ ถ้าเกิดคิดถึงก็ไลน์มาหาฉันได้ทุกเมื่อเลย ไปล่ะ!♥"

แล้วเขาก็วิ่งจากไป

มิมิ: ไปซะแล้วแฮะ.. แต่ตอนนี้รู้สึกเหมือนเครื่องเริ่มอุ่นขึ้นมายังไงก็ไม่รู้สิ ดีล่ะ! งั้นเราเองก็ต้องพยายามแบบเขาบ้าง ^_^

เธอรู้สึกเริ่มมีกำลังใจขึ้นมาหลังจากที่ได้คุยกับเขา

แล้วจากนั้นเธอจึงเริ่มมุ่งหน้าไปหาร้าน Pop'n Center หรือศูนย์บริการผู้เล่น เพื่อเข้าอบรมการเล่นเกม เพื่อเลื่อนขั้นจาก Beginner เป็นผู้เล่นระดับแรกคือ ระดับ 10 ซึ่งนักเล่นเกมเสมือนจริงทุกคนจำเป็นจะต้องผ่านการอบรมวิธีการเล่นในเบื้องต้นเสียก่อน จึงจะมีสิทธิเริ่มออกผจญภัยบนเกาะแห่งนี้ได้ โดยร้าน Pop'n Center จะกระจายอยู่ตามหัวเมืองต่างๆ ทั่วทั้งเกาะ

--------------------------------------------------------------------------------

และผ่านไปประมาณ 30 นาที มิมิได้เดินทางมายังร้าน Pop'n Center สาขาหนึ่งภายในเมืองที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ ซึ่งบริเวณนั้นมีผู้คนค่อนข้างพลุกพล่านพอสมควร

เมื่อมาถึงเธอจึงเดินไปยังเคาน์เตอร์บริการเพื่อลงทะเบียนเข้าอบรม โดยภายในร้านทุกสาขาจะมีบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่คล้ายๆ กันคือ เคาน์เตอร์รับบริการและสอบถามปัญหาต่างๆ ตู้จำหน่ายเกียร์และสกินป๊อปคุงลวดลายต่างๆ (ทุกคนที่เข้าเกมครั้งแรกจะได้รับเกียร์ลวดลายเดียวกันหมด) ตู้ฝาก-ถอนเงินจากบัญชีผู้เล่น ซึ่งบัตร Pop'n Pass สามารถใช้เป็น e-Wallet ได้ด้วย ลานแข่งขันที่ลักษณะเป็นแท่นยืน 2 ฝั่งหันหน้าเข้าหากัน ตู้ซิมูเลชั่นสำหรับฝึกซ้อมกับคู่แข่งจำลอง (คือตู้เกม Pop'n Music นั่นเอง) เวทีสำหรับจัดมินิทัวร์นาเมนต์และอีเวนท์ต่างๆ และห้องอบรมที่แยกกับตัวร้านหลักต่างหาก ทำให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถเรียนรู้ได้โดยไม่ถูกเสียงเพลงจากการแข่งขันด้านนอกรบกวน นอกจากนี้ หากผู้เล่นคนใดยังไม่ได้ลงทะเบียนรับบัตร Pop'n Pass และเกียร์เริ่มต้นตอนอยู่สนามบิน (ไม่ว่าจะเพราะลืม หรือต้องรีบไปเช็คอินห้องพักก็ตาม) ก็สามารถมาทำได้ที่นี่อีกด้วย

"ยินดีต้อนรับค่ะ ไม่ทราบว่ามาทำอะไรคะ?"

พนักงานหน้าเคาน์เตอร์กล่าว

มิมิ: คือว่า มาเข้าอบรมหน่อยน่ะคะ

"งั้นขอดูบัตร Pop'n Pass หน่อยค่ะ"

แล้วเธอก็ยื่นบัตรให้พนักงานดู

"โอเค เชิญเข้าไปที่ห้องอบรมได้เลย"

มิมิ: ค่ะ!! ^_^

แล้วจากนั้นเธอก็เดินผ่านประตูเลื่อนอัตโนมัติเข้าไปยังห้องอบรม เมื่อเข้ามาแล้วพบว่าด้านในได้มีการแบ่งเป็นห้องย่อหลายห้องอีกทีหนึ่ง แต่ละห้องมีหมายเลขประจำห้อง โดยห้องที่สามารถเข้าได้จะมีหลอดไฟแนวนอนสีเขียวติดอยู่ด้านบนของประตู และห้องที่มีคนเข้าอยู่แล้วไฟก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดง ส่วนลักษณะของห้องหลักจะเป็นทางเดินตรงยาวไปจนสุด สองข้างทางก็เป็นประตูห้องอบรมของจริงที่มีหลายห้องนั่นเอง

แล้วจากนั้นเธอก็เดินเข้าไปที่ห้องหมายเลข 3 เมื่อเข้าไปก็พบว่าเป็นเพียงห้องเล็กๆ คล้ายกับห้องคาราโอเกะ ตรงหน้ามีแท่นโพเดียมแบบเดียวกับที่ใช้แข่งขัน และมีจอขนาดใหญ่ติดอยู่บนผนังตรงหน้าโพเดียม

แล้วสักพักบนหน้าจอก็ขึ้นข้อความแจ้งให้นำเกียร์มาวางบนโพเดียม แล้วเสียบการ์ด Pop'n Pass ลงในช่องอ่านการ์ดบนแท่นโพเดียมเพื่อเริ่มการฝึกฝน เมื่อเสียบเข้าไปแล้วเครื่องก็กินบัตรเข้าไปข้างใน แล้วจากนั้นเครื่องก็เริ่มอ่านข้อมูล บนหน้าจอแสดงผลการ Loading ดังนี้

[A.I. TUTORIAL SYSTEM : ALT] FRONTEND MODULE
BOOTING UP.....COMPLETE

LOADING TUTORIAL SYSTEM V.388
...COMPLETE

LINKING POP'N GEAR INPUT.....OK!
ACCESSING PLAYER DATA.....OK!
STARING TUTORIAL
NOW..........................................

HELLO DARLIN’♡


เมื่อโหลดข้อมูลเสร็จแล้ว บนจอก็ปรากฏภาพของหุ่นยนต์ตัวหนึ่งขึ้นมา

"ยินดีต้อนรับเข้าสู่ระบบการฝึกสอนด้วยเอไอ ดิฉันชื่อ "เอทีเอล" (ALT) เป็นบอตไอดอล คอยทำหน้าที่ฝึกสอนการเล่น Pop'n ให้กับผู้เล่นระดับ Beginner ทุกท่านค่ะ ^_^"

หุ่นยนต์ตัวนั้นกล่าวพร้อมกับก้มคำนับ

มิมิ: คะ...ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ^^;

เธอทักท้ายแบบเกร็งๆ เพราะยังไม่แน่ใจว่าหุ่นตัวนี้สามารถตอบโต้กับเธอได้หรือไม่

ALT: ดิฉันเป็นเอไอที่สามารถพูดคุยตอบโต้กับคุณได้ ถ้าเกิดมีข้อสงสัยอะไรก็ถามมาได้เลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ ^_^

มิมิ: ค่ะ (^^)

ALT: เอาล่ะ งั้นเรามาเริ่มบทฝึกหัดกันเลยดีกว่า

แบบฝึกหัดจะมีทั้งหมด 5 บทด้วยกันคือ

Lesson 1: แนะนำหน้าจอและการใช้งานป๊อปปิ้งเกียร์เบื้องต้น
Lesson 2: ทำความคุ้นเคยกับปุ่มกด ด้วยมินิเกม
Lesson 3: แนะนำวิธีการเล่น
Lesson 4: Hi-Speed นั้น สำคัญไฉน?
Lesson 5: วิธีการคิดคะแนน


จากนั้นก็จะเป็นการทดสอบความสามารถ หากผ่านการทดสอบ ก็จะได้รับการเลื่อนขั้นเป็นระดับ 10 ทันที

มิมิ: การทดสอบ เหรอคะ

ALT: ใช่ แต่ไม่ยากหรอกนะ ขอแค่ศึกษาวิธีการเล่นให้ดีก็พอจะให้สอบผ่านได้สบายๆ แล้วล่ะ เอาล่ะ เรามาเริ่มแบบฝึกหัดบทแรกกันเลยดีกว่า

『Lesson 1: แนะนำหน้าจอและการใช้งานป๊อปปิ้งเกียร์เบื้องต้น』


① เส้นกำกับจังหวะ (Judgement Line): ตัวบอกจังหวะที่ผู้เล่นต้องกดปุ่มเมื่อป๊อปคุงเลื่อนลงมาถึงที่นี่
② ป๊อปคุง: ตัวโน้ตน่าตาน่ารักหลากสีพวกนี้ จะคอยเลื่อนลงมาตามรางของเกียร์เรื่อยๆ เมื่อป๊อปคุงเลื่อนลงมาถึงเส้นกำกับจังหวะด้านล่างเมื่อไหร่ ให้กดปุ่มในทันที
③ Groove Gauge: ถ้าผู้เล่นกดปุ่มได้ถูกต้องและแม่นยำ แถบนี้จะเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ถ้ากดพลาด หรือกดป๊อปคุงตัวยาวไม่สุด แถบก็จะลดอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เล่นอยู่ ผู้เล่นจะต้องเพิ่มพลังในเกจให้อยู่ในโซนสีแดงหรือ 70% ขึ้นไป เมื่อจบเพลง หากแถบอยู่ในโซนสีแดง หน้าจอจะแสดงคำว่า STAGE CLEARED แสดงถึงการผ่านเพลงที่เล่นได้ แต่หากอยู่ในโซนสีฟ้า หน้าจอจะแสดงคำว่า STAGE FAILED แสดงถึงการเล่นไม่ผ่านเพลงนั้นๆ
④ เกจ FEVER: เป็นระบบที่เพิ่มเข้ามาใหม่ใน pop'n music RESPECT ในระหว่างเล่นผู้เล่นจะสะสมเกจ Fever จากการกดตัวโน้ตได้ถูกต้องและแม่นยำ เมื่อเต็มแล้วสามารถใช้งานได้ด้วยการเหยียบลงบนแป้นเหยียบ ซึ่งผลของ Fever นั้นจะทำหน้าที่ทวีคูณคอมโบไปเรื่อยๆ ในห้วงเวลาหนึ่ง (ประมาณ 14 วินาที) นอกจากนั้นหากผู้เล่นเก็บเกจ Fever จนเต็มแล้วใช้อีกครั้งก่อนที่เวลา Fever จะหมดลง คอมโบทวีคูณขึ้นไปอีก สูงสุดที่ x5 แต่ถ้ากดพลาดในระหว่างที่ Fever แสดงผลอยู่ จะทำให้ระยะเวลาแสดงผลลดลง หรืออาจทำให้เวลาหมดทันทีเลยก็ได้เช่นกัน
⑤ เกียร์: ด้านล่างจะแสดงตำแหน่งของปุ่มกดสีต่างๆ คะแนน และ Option ที่เลือกใช้งาน โดยเรียงตามช่องคือ Hi-Speed (สีฟ้า) Fever (สีเขียว)* Appearance (สีเหลือง) และ Random & Mirror (สีขาว) *อนึ่ง ในภาคนี้ การตั้งค่าสกินป๊อปคุงได้ย้ายไปรวมกับเมนูตั้งค่าสกินเกียร์แทน*
⑥ คอมโบ: แสดงจำนวนการกดตัวโน้ตได้ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง หากพลาด จำนวนจะเริ่มนับใหม่ *ในภาคนี้ จำนวนคอมโบจะแสดงอยู่ด้านบนของจอ เหมือนกับภาค 6*

ประเภทของตัวโน้ต
1. โน้ตธรรมดา: ให้กดหรือตบลงไปบนปุ่มหนึ่งครั้ง
2. โน้ตแบบยาว: ให้กดปุ่มนั้นค้างไว้ เมื่อสุดหางแล้วให้ปล่อยมือออกได้ โน้ตชนิดนี้มีความพิเศษอยู่อย่างนึงคือ ตลอดระยะเวลาที่กดค้าง จำนวนคอมโบ รวมถึงพลังในเกจ Fever จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย (แต่คะแนน, Groove Gauge, และระดับ Judgement ยังคงขึ้นแค่ครั้งเดียวเหมือนเดิม)

『Lesson 2: ทำความคุ้นเคยกับปุ่มกด ด้วยมินิเกม』

ボタンとポップくんの色が対応しているよ

ก่อนที่จะไปเรียนรู้วิธีการเล่น เรามาทำความคุ้นเคยกับปุ่มกดบนแผงกันก่อนนะคะ เพราะการที่เราคุ้นเคยกับปุ่มจะทำให้สามารถรู้ได้ว่าจะต้องวางมือหรือกดยังไงนั่นเอง ซึ่งวิธีการที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดนั่นคือการใช้มินิเกมมาช่วยฝึกฝนนั่นเอง

และมินิเกมที่เราจะได้เล่นกันนี้ คือเกม "สงครามอวกาศ" วิธีการเล่นคือ ภายในเกมจะมียานข้าศึกปล่อยกระสุนสีต่างๆ ออกมาหายานของเราที่อยู่ด้านล่าง เราจะต้องกดปุ่มตามสีนั้นๆ เพื่อยิงกระสุนกลับไป โดยต้องทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนจบเกมค่ะ คำเตือน: หากกดผิดสีหรือกดไม่ทัน คอมโบจะเริ่มนับใหม่ทันที

เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้ว 3...2...1...GO!

===== MINI GAME =====
"สงครามอวกาศ"
วิธีการควบคุม: ปุ่มกดทั้ง 9 ปุ่ม
เงื่อนไข: Groove Gauge มากกว่า 70% ขึ้นไป
วิธีเล่น: ภายในเกมจะมียานข้าศึกปล่อยกระสุนสีต่างๆ ออกมาหายานของเราที่อยู่ด้านล่าง ผู้เล่นจะต้องกดปุ่มตามสีนั้นๆ เพื่อยิงกระสุนกลับไป โดยต้องทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนจบเกม ยิ่งกดถูกต้องเท่าไร “Groove Gauge” ก็จะเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น หากเล่นจบแล้ว Groove Gauge เลยเส้น Clear ก็จะถือว่าเล่นผ่าน หากเกจไม่ถึงจะต้องเริ่มใหม่
(โดยในระหว่างเกม ได้ใช้เพลง Ray of Illuminati - ESTi มาประกอบการเล่น)
===== END GAME =====

หลังจากที่เกมจบลง ผลลัพธ์ของเธอคือ เล่นไม่ผ่าน...

ALT: อ้าว! พลาดซะแล้ว ไม่เป็นไร ค่อยๆ นะ มีสมาธิหน่อย

เนื่องด้วยปุ่มที่ใหญ่และมีมากถึง 9 ปุ่ม ทำให้เธอเกิดอาการ "หลงปุ่ม" ได้อย่างง่ายดาย (ประมาณว่า ตั้งใจจะกดปุ่มนี้ แต่กลายเป็นไปกดปุ่มอื่นแทน)

จากนั้นมิมิจึงลองเริ่มใหม่อีกครั้ง เธอค่อยๆ ซึมซับจังหวะและเรียนรู้วิธีการกดปุ่มไประหว่างเล่น สมาธิทั้งหมดรวมตัวไปยังหน้าจอที่บัดนี้เสมือนเป็นสังเวียนให้เธอได้ขึ้นไปอยู่ในจุดๆ หนึ่งซึ่งตัดกับโลกแห่งความเป็นจริง

และผลลัพธ์ในรอบนี้คือ... ผ่านเรียบร้อย!

ALT: เยี่ยมมากเลยจ้า!! [^_^]

มิมิพลางยิ้มเล็กน้อย ซึ่งเธอค่อนข้างทำได้ดีทีเดียวในรอบนี้

『Lesson 3: แนะนำวิธีการเล่น』

pop'n music เป็นเกมกดตามจังหวะดนตรี ผู้เล่นต้องกดปุ่มต่างๆ เพื่อเล่นเป็นเพลง วิธีเล่นคือการกด(หรือตบ)บนปุ่มตามจังหวะของเพลงที่ได้ยิน โดยบนกระดานของเกียร์จะมีตัว "ป๊อปคุง" สีต่างๆ เลื่อนลงมา เมื่อป๊อปคุงเลื่อนมาถึงเส้นสีแดงด้านล่าง ให้กดปุ่มเมื่อตำแหน่งปากสีขาวของป๊อปคุงตรงกับเส้นสีแดงพอดี ซึ่งป๊อปคุงที่ลงมาในแต่ละตัวนั้น ตรงตามจังหวะของเพลงที่บรรเลงอยู่ และเมื่อกดก็จะมีเสียงเพลงออกมาจริงๆ และยังสามารถปรับความเร็วการเลื่อนลงของป๊อปคุงเองได้อย่างอิสระ เพื่อให้เหมาะกับความถนัดของแต่ละบุคคล (จะขอกล่าวถึงอย่างละเอียดในบทต่อไป)

こんなかんじで叩こう

และที่ด้านใต้ของเกียร์จะมีแป้นเหยียบ ไว้สำหรับใช้งาน "FEVER" หรือหลอดสะสมจากการกดโน้ตเพลงได้ถูกต้อง เมื่อหลอดสะสมเต็มแล้วสามารถใช้งานได้ด้วยการเหยียบลงบนแป้นเหยียบ โดยจะทำให้จำนวนการกดคอมโบต่อป๊อปคุงหนึ่งตัว เพิ่มขึ้นเป็น X2 แล้วสะสมเรื่อยๆ จนสูงสุดที่ X5 แต่ในกรณีที่ใช้งาน FEVER แบบออโต้ หรือปิดการใช้ การเหยียบแป้นจะเป็นการเปิดเอฟเฟคเสียงแทน (Echo, Low Pass, High Pass, Flanger, Phaser, Volume Bass, Lo-Fi, ฯลฯ) นอกจากนี้ยังสามารถเซ็ทให้การเหยียบแป้นเป็นการใช้งาน 1 ใน 9 ปุ่มการเล่นได้อีกด้วย โดยปุ่มที่ถูกเซ็ทให้ใช้งานโดยการเหยียบจะแสดงเป็นโน้ตสีม่วง (ตัวอย่างเช่น: เซ็ทเหยียบไว้ที่ปุ่มฟ้าซ้าย โน้ตสีฟ้าซ้ายจะกลายเป็นสีม่วงแทน)

เอาล่ะ เมื่อทราบวิธีเล่นอย่างคร่าวๆ กันแล้ว เรามาลองเริ่มเล่นจริงกันเลยดีกว่า

===== TUTORIAL =====
ท่อนที่ 1: ทดลองกดปุ่มตามจังหวะของเพลง โดยใช้แค่ปุ่มแดงปุ่มเดียว
ท่อนที่ 2: กดปุ่มไล่ตามลำดับของตัวโน้ตจากซ้ายไปขวา
ท่อนที่ 3: ทดลองกดปุ่มพร้อมกัน 2 ตัว
ท่อนที่ 4: ทดลองกดตัวโน้ตยาว
===== END TUTORIAL =====

เยี่ยมค่ะ! เล่นได้เจ๋งเลยทีเดียว งั้นก็เข้าสู่บทต่อไปกันเลย

『Lesson 4: Hi-Speed นั้น สำคัญไฉน?』



หนึ่งในออฟชั่นเสริมของเกียร์ที่สามารถเลือกปรับได้ก็คือ Hi-Speed ซึ่งออฟชั่นตัวนี้มีความสำคัญยิ่ง เนื่องจากมันช่วยให้เราสามารถ "อ่านจังหวะ" ได้ง่ายขึ้น ยิ่งเราปรับค่านี้มากเท่าไหร่ ระยะห่างระหว่างโน้ตแต่ละตัวก็จะยิ่งมากเท่านั้น ในขณะเดียวกัน ก็จะต้องแลกกับระยะเวลาการตอบสนองที่น้อยลงเช่นกัน เนื่องจากตัวโน้ตเลื่อนลงมาเร็วขึ้นกว่าเดิม

เอาล่ะ เรามาลองเล่นแบบปกติโดยไม่ใช้ Hi-Speed กันดูก่อนดีกว่า

===== TUTORIAL =====
ทดลองเล่นเพลงโดยไม่ใช้ Hi-Speed
[กดแต่ปุ่มแเดงอย่างเดียวจนจบ]
===== END TUTORIAL =====

แล้วทีนี้ มาลองดูความแตกต่างจากการใช้งานออฟชั่น Hi-Speed กัน!

===== TUTORIAL =====
ทดลองเล่นเพลงโดยใช้ Hi-Speed x3.0
[กดแต่ปุ่มแเดงอย่างเดียวจนจบ]
===== END TUTORIAL =====

เป็นยังไงคะ รู้สึกได้ทันทีเลยใช่มั้ยล่ะ ว่ามันช่วยทำให้ "อ่านจังหวะ" ได้ง่ายขึ้นมากกว่าเดิมจริงๆ ทั้งนี้ควรจะตั้งความเร็วไว้ในระดับไหนนั้น ก็คงต้องเป็นเรื่องของความถนัดส่วนตัวของผู้เล่นจริงๆ เพราะแต่ละคนมีความเร็วที่ถนัดไม่เท่ากัน อันนี้คงต้องให้เธอลองไปค้นหาความเร็วที่เหมาะสมเอาเองแล้วกันนะ!

※ อนึ่ง, ในภาค RESPECT ค่า BPM ของเพลงจะไม่มีผลกับการตั้งค่า Hi-Speed นั่นหมายความว่า หากเราตั้ง Hi-Speed ไว้ระดับไหน ก็จะได้ความเร็วเท่านั้นตลอดเสมอ (ตัวอย่างเช่น Hi-Speed x6.2 ความเร็วก็จะเป็น x6.2 เท่ากันทุกเพลง)

『Lesson 5: วิธีการคิดคะแนน』

การคิดคะแนนในภาค RESPECT จะมีความแตกต่างจะต้นฉบับเล็กน้อยคือ มีการแบ่งคะแนนออกเป็นสองส่วนคือ คะแนนหลัก 100,000 กับ โบนัสจากการใช้งานฟรีเวอร์เกจ

คะแนนหลัก: 100,000

COOL!! = 100,000/จำนวนโน้ตทั้งหมด
GREAT = 70% จาก COOL!!
GOOD = 40% จาก COOL!!
BAD = 0

※ หมายเหตุ: ในกรณีโน้ตยาว จะนับจำนวนโน้ตเพียงแค่ครั้งเดียว คือ ช่วงปล่อยปุ่มเท่านั้น ถึงแม้ว่าในระหว่างกดค้างคอมโบจะเพิ่มเรื่อยๆ ก็ตาม
หากทำ ALL COOL ได้สำเร็จ ท่านจะได้คะแนนเต็มที่ 100,000 อย่างแน่นอน

ฟรีเวอร์โบนัส
เมื่อใช้งาน FEVER ในแต่ละครั้ง ท่านจะได้รับคะแนนโบนัสจากการเรียกใช้ฟรีเวอร์เกจในทันที ดังนี้
X2: 200
X3: 300
X4: 400
X5: 500

นอกจากนี้ คะแนนโบนัสยังสามารถรับได้หลังจากที่ขึ้น FULL COMBO / PERFECT / ALL COOL หลังจากกดโน้ตตัวสุดท้าย นั่นหมายความว่าหากเกจเต็มหลังเพลงจบแล้วให้รีบใช้งานในทันที ก่อนที่ระบบจะทำการล็อคปุ่มไม่ให้กดได้! (ช่วงที่แสดงอนิเมชั่น ชนะ-แพ้ ของตัวละคร)

เกี่ยวกับคอมโบ
การนับคอมโบในภาค RESPECT จะมีความแตกต่างจะต้นฉบับเล็กน้อยคือ เมื่อกดตัวโน้ตแบบยาว จำนวนคอมโบจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตลอดระยะความยาวของโน้ต โดยเพิ่มขึ้นทุกๆ 8 ช่วงจังหวะ

แรงค์
แรงค์จะถูกประเมินจากคะแนนหลักเท่านั้น ไม่นับรวมฟรีเวอร์โบนัส
SS: 100,000 (เฉพาะภาค RESPECT)
S: 98,000-99,999
AAA: 95,000-97,999
AA: 90,000-94,999
A: 82,000-89,999
B: 72,000-81,999
C: 62,000-71,999
D: 50,000-61,999
E: ต่ำกว่า 49,999
E+: ต่ำกว่า 25,000 และ Groove Gauge เต็ม (เฉพาะภาค RESPECT)

『-การทดสอบความสามารถ-』

ALT: ในที่สุดก็มาถึงช่วงเวลาสำคัญแล้วนะคะ กับบททดสอบความสามารถ เพื่อเตรียมก้าวเข้าสู่เกม ป๊อปปินมิวสิก อย่างเต็มภาคภูมิ ซึ่งบททดสอบนี้ ก็เพียงแค่ลองเล่นเพลงง่ายๆ เพลงนี้ให้ผ่านให้ได้ ก็เป็นอันใช้ได้แล้วล่ะ ... พร้อมที่จะเริ่มการทดสอบแล้วรึยังเอ่ย?

มิมิ: ฉันพร้อมจะลุยกันตั้งนานอยู่แล้วล่ะ!! (^▽^)

ALT: ถ้างั้นก็ ... MUSIC START!!

===== POP'N MUSIC =====
ACCESS / SPHAZER
===== END MUSIC =====

หลังจากที่เพลงจบลง ผลลัพธ์ของเธอคือ เล่นผ่านฉลุย

ALT: เยี่ยมมากเลยจ้า!! ตอนนี้เธอได้เลื่อนขั้นเป็นผู้เล่นระดับ 10 แล้วนะ

มิมิ: ขอบคุณมากค่ะ!! (@^0^@)

มิมิยิ้มกว้าง นานแล้วที่เธอไม่ได้รู้สึกดีใจขนาดนี้...

จากนั้นบัตร Pop'n Pass ก็คลายคืนออกมาจากเครื่องอ่านการ์ดบนแท่นโพเดียม ซึ่งข้อมูลบนบัตรในตอนนี้ได้ระบุว่าเธอเป็นผู้เล่น Pop'n ระดับ 10 แล้วเรียบร้อย

มิมิ: แบบนี้ก็ได้เวลาออกไปลุยบนเกาะได้แล้วสินะ ถ้างั้นก็ขอตัวลาก่อนนะค่า~

ALT: เดี๋ยวก่อน!!

ALT เรียกมิมิในขณะที่เธอกำลังจะเดินออกจากห้องไป

มิมิ: เอ๊ๆ มีอะไรอีกเหรอ??

ALT: ยัง...ยังไม่จบ ยังเหลือรายละเอียดเกี่ยวกับ "จุดมุ่งหมายของเกม" น่ะ เธออยากจะฟังเพิ่มเติมไหมล่ะ? (แต่อันนี้ไม่บังคับหรอกนะ)

จากคำถามนี้ ทำให้เธอต้องหยุดคิดอยู่ชั่วครู่

มิมิ: เออ...ฟังก็ได้คะพี่... (จะว่าไป ฉันเองก็ยังไม่รู้จุดหมายจริงๆ นั่นแหละ -.-)

『บทส่งท้าย: จุดมุ่งหมายโดยรวมของเกม』


จุดมุ่งหมายของเกมนี้คือการเอาชนะเหล่า Pop'n Leader ที่อยู่ตามสถานที่ต่างๆ บนเกาะอันกว้างใหญ่แห่งนี้ด้วยเสียงเพลง เพื่อไต่ระดับผู้เล่นไปสู่ระดับสูงสุด โดยมีทั้งหมด 10 ระดับด้วยกัน เรียงลำดับชั้นจากมากไปหาน้อย ซึ่งผู้เล่นที่ผ่านการทดสอบกับเหล่า Pop'n Leader จนมาถึงระดับ 1 ได้ จะมีสิทธิเข้าร่วมแข่งขันในรายการทัวร์นาเมนต์สุดท้ายเพื่อชิงเงินรางวัลสูงสุดได้

ขอบอกก่อนนะว่า มันไม่ง่ายหรอกนะที่จะก้าวสู่จุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้ เพราะก่อนที่จะไปแข่งกับเหล่า Pop'n Leader ของแต่ละเมืองได้นั้น คุณจำเป็นต้องรวบรวม "สแตมป์" ให้ครบทั้ง 6 ดวงเสียก่อน ซึ่ง "สแตมป์" นี้สามารถหาได้จากการทำ "ภารกิจ" ต่างๆ ในแต่ละเมือง อย่าหวังนะว่าจะเดินตัวปลิวเข้าเส้นชัย

และการเล่น Pop'n มีความสำคัญอย่างมากต่อการอยู่รอดบนเกาะแห่งนี้ เพราะหากการเจรจาครั้งใดไม่เป็นผลแล้วล่ะก็ ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นด้วยกันเอง หรือผู้พำนักบนเกาะก็ตาม ต้องตัดสินแพ้ชนะกันด้วยการเล่น Pop'n เท่านั้น ซึ่งผู้แพ้จะต้องยอมรับความพ่ายแพ้อย่างเลี่ยงเสียมิได้ และ Pon เป็นค่าเงินที่ใช้ในเกาะ Pop'n คุณสามารถหามันได้จากการแข่งขันหรือทำภารกิจย่อย

ก็เป็นว่าเข้าใจแล้วนะคะ

มิมิ: ค่ะ!!

ALT: งั้นก็ถือว่าตอนนี้หมดหน้าที่ของดิฉันแล้ว ก็ขอตัวลาก่อนนะค่ะ [^_^]

[A.I. TUTORIAL SYSTEM : ALT] FRONTEND MODULE
WILL BE SHUTDOWN.

GOOD-BYE DARLIN’.


แล้วจากนั้นหน้าจอก็ดับลง จากนั้นเธอจึงเดินออกจากห้องไป

และในขณะเดียวกัน ท้องของเธอก็ร้องออกมา

มิมิ: นั่นสินะ.. ตั้งแต่ตื่นมาเรายังไม่ได้กินอะไรเลยนี่หนา ( ̄_ ̄|||)

จากนั้นเธอได้เดินออกจากศูนย์บริการผู้เล่น เพื่อไปหาอะไรกินแถวๆ นั้น

--------------------------------------------------------------------------------

มิมิได้มานั่งกินราเมงญี่ปุ่นอยู่ที่ร้านหนึ่ง ใกล้ๆ กับ Pop'n Center ร้านนั้น และเวลาผ่านไปหลังจากที่เธอกินเสร็จแล้ว เธอก็เดินออกมาหน้าร้าน

และในขณะนั้นก็มีเสียงเตือนข้อความจากมือถือดังขึ้นมา เธอจึงหยิบมือถือขึ้นมาดู

พบว่าเป็นข้อความแอปพลิเคชัน LINE จากเรียวตะ คนที่เธอเคยเจอเมื่อเช้า เธอจึงเปิดอ่านดู ซึ่งมีใจความคือ...

เรียวตะ: "เธอชื่อ มิมิจัง งั้นเหรอ ชื่อน่ารักมากเลยนะ เหมาะกับหูยาวๆ* ของเธอดีด้วย ^_^ ตอนนี้ฉันผ่านการอบรมเรียบร้อยแล้วล่ะ!☆ ถ้าเธออบรมเสร็จแล้ว ก็มาลองแข่ง "ป๊อปปินแบทเทิล" กับฉันดูได้นะ! ปล. ฉันเจอที่พักแบบโฮสเทลราคาไม่แพงด้วยล่ะ! ถ้าเธอสนใจก็ทักกลับมาหาได้เลยนะ!♡"

*หมายเหตุโดยผู้เขียน: คำว่า "มิมิ" (耳; みみ) ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า "หู"


แล้วมิมิจึงพิมพ์ตอบกลับไปว่า...

มิมิ: "อืม! ขอบใจที่ชวนแข่งและช่วยหาโฮสเทลให้นะ แต่ตอนนี้ฉันต้องไปหาภารกิจทำก่อนแล้วล่ะ ไว้เดี๋ยวช่วงเย็นจะทักกลับมาใหม่อีกทีแล้วกัน"

จากนั้นไม่นาน เขาก็ตอบกลับมาว่า...

เรียวตะ: "โอเคจ้า! และหวังว่าเธอคงไม่ลืมเวลานัดซะเองนะ (*^_^*)"

เมื่อเธออ่านข้อความนี้จบ เธอก็เก็บมือถือกลับเข้าที่ไป

แล้วหลังจากนั้นเธอก็เริ่มออกเดินสำรวจไปเรื่อยๆ เพื่อตามหาภารกิจแรก ซึ่งตลอดทางเต็มไปด้วยผู้คนและรถรามากมายไม่ต่างจากโตเกียวเลย

มิมิ: อืม... เมืองนี้ใหญ่กว่าที่คิดไว้อีกแฮะ ดูท่าคงจะต้องใช้ตัวช่วยจากแอป Pop'n Player ซะแล้ว

แต่ในระหว่างที่เธอเดินไปได้สักพัก เธอก็เหลือกไปเห็นป้ายกระดาษขนาดใหญ่แปะไว้ที่กำแพงข้างทาง ซึ่งมันดึงดูดความสนใจเธอเป็นอย่างมากจนทำให้เธอต้องเข้าไปดู

เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ พบว่าเป็นป้ายประกาศจับผู้ร้าย และผู้ที่ถูกหมายหัวคือ "เจเรมิ" (Jeremi) เป็นหัวหน้าแก็งมาเฟีย "ไรท์ซิ่งซัน" (Rising Sun) โดยมีรางวัลนำจับสูงถึง 10,000 ปอง

มิมิ: โห้... ประกาศจับผู้ร้ายงั้นเหรอ!? แต่ท่าทางฉันคงจะไม่มีปัญญาตามจับหรือหาเบาะแสได้แน่ๆ อยู่แล้วล่ะ ::>_<::

จากนั้นเธอก็เริ่มออกเดินทางต่อไป โดยที่ไม่คิดถึงเรื่องหมายจับดังกล่าวอีก เพราะเธอคิดว่าไม่มีทางตามจับได้

แต่หลังจากที่เดินออกไปได้ไม่นาน เธอก็ได้ยินกลุ่มคนที่เดินสวนมาคุยเกี่ยวกับเรื่องผู้ร้ายคนดังกล่าว

"ได้ยินว่าวันนี้พวกแก็งไรท์ซิ่งซันเตรียมบุกไปยึดย่านการค้าที่อยู่ในเขตฟุจิวาระนี่หนา"

ผู้ชายคนหนึ่งกล่าว

"ห๊ะ!? จริงเหรอเนี่ย"

ผู้ชายอีกคนที่เดินมาด้วยกันกล่าวด้วยความตกใจ

และหลังจากที่คนกลุ่มนั้นเดินผ่านหลังเธอไปจนไม่ได้ยินเสียงพูดคุยแล้ว เธอก็เกิดเอะใจขึ้นมา

มิมิ: เขตฟุจิวาระ เหรอ... ดีล่ะ! ลองไปสำรวจที่นั้นดูดีกว่า!!

แล้วเธอก็เดินทางไปยังย่านการค้าที่อยู่ในเขตฟุจิวาระ ด้วยความดึงดูดใจบางอย่าง เพราะเธอคิดว่าที่นั้นอาจจะมีภารกิจรออยู่ก็เป็นได้

--------------------------------------------------------------------------------

และก็ดูเหมือนโชคจะเข้าข้างเธอ เพราะย่านดังกล่างอยู่ห่างจากจุดที่เธออยู่ไม่มากนัก ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้บริการขนส่งมวลชนใดๆ ให้เปลืองเงิน ซึ่งตอนนี้เธอมีเงินปองติดตัวอยู่น้อยเต็มทีแล้ว...

และเมื่อเดินทางมาถึง เธอก็เริ่มออกเดินสำรวจสถานที่ สถานที่แห่งนี้เป็นลักษณะถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ ตลอดสองข้างทาง และมีระยะทางที่ค่อนข้างยาวพอควร กว่าจะถึงจุดสิ้นสุดของถนนการค้า

และหลังจากที่เดินมาจนสุดทางจนทะลุออกมายังหน้าถนนใหญ่สายหนึ่ง

มิมิ: อืม... ไม่เห็นจะมีอะไรน่าสนใจเลย ก็แค่ย่านการค้าทั่วๆ ไปเท่านั้นเอง ...เดี๋ยวก่อนนะ? เห็นเขาบอกว่า จะมีแก็งมาเฟียมายึดที่นี่นิ? หรือว่าบางที...?

แล้วเธอก็เดินกลับไปยังทางเก่าที่เดินมา เพื่อตามหาอะไรบางอย่างในย่านการค้า

มิมิ: ก่อนอื่นลองไปถามหาเบาะแสจากคนแถวนี้ดูแล้วกัน เพื่ออาจจะได้ใช้ประโยชน์อะไรก็ได้

แล้วจากนั้นเธอก็ได้เดินเข้าไปยังร้าน Pop'n Center ที่อยู่ภายในถนนการค้าแห่งนั้น ซึ่งมีชื่อร้านว่า "มิคาโด ป๊อปปินเซนเตอร์ แอนด์ อะมิวส์เม้นท์" เพื่อถามข้อมูลเกี่ยวกับแก็งมาเฟีย


มิมิ: นี่ๆ เรื่องที่พวกแก็งมาเฟียจะบุกมาที่ย่านนี้ เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าคะ? (พอดีได้ยินจากคนอื่นเขาเล่ามา...)

"จริงครับ..."

พนักงานคนนั้นตอบด้วยท่าทางลังเลเหมือนไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้

มิมิ: แล้วทำไมพวกมันถึงอยากจะยึดพื้นที่นี้ล่ะ?

"เพราะพวกมันอยากจะขยายอิทธิพลภายในเมืองไปเรื่อยๆ น่ะ โดยพวกมันจะคอยออกตะเวนยืดครองกิจการตามย่านการค้าต่างๆ ในตัวเมือง ให้กลายมาเป็นของตนเอง และพวกนั้นก็จะใช้กิจการที่ยืดมาได้ ดำเนินไปในทางที่มิชอบ ...แต่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ เพราะตอนนี้มีคนๆ หนึ่งเสนอตัวจะมาช่วยปลดปล่อยย่านนี้จากพวกมันเรียบร้อยแล้วล่ะ!"

มิมิ: อ๋อ งั้นเหรอคะ ...ถ้างั้นก็ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ!

"เอ่อ! จริงสิ แล้วเธอสนใจจะมาแข่งมินิทัวร์นาเมนต์ไหมล่ะ?"

มิมิ: มินิทัวร์นาเมนต์เหรอค่ะ?

"ใช่! คืนนี้ทางร้านจะมีการจัดแข่ง "ป๊อปปินแบทเทิล" กันน่ะ ผู้ที่ชนะจะได้เงินเป็นรางวัลด้วยนะ...!"

มิมิ: ห๊า!? จริงเหรอค่ะ (☆▽☆)

"แน่นอน! ^_^ ถ้าหากสนใจก็เชิญลงทะเบียนไว้ก่อนได้เลยนะ!"

แล้วจากนั้นเธอก็ได้กรอกแบบฟอร์มลงชื่อไว้เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันในคืนนี้

เมื่อเสร็จธุระเธอก็เดินออกมานอกร้าน

มิมิ: สรุปแล้วเราไม่ต้องยุ่งอะไรกับเรื่องนี้แล้วแฮะ แต่อย่างน้อยก็หาแหล่งเงินทุนได้ซะทีนะ ^_^ ต่อไปก็ลองไปหาอะไรน่ารักๆ ที่ร้าน ซานริโอ้กิ๊ฟเกท ดูเพื่อผ่อนคลายจิตใจก่อนลุยศึกในคืนนี้ดีกว่า!

แล้วจากนั้นเธอก็เดินไปหาร้าน ซานริโอ้กิ๊ฟเกท ที่ "คาดว่า" อาจจะมีอยู่ในย่านนี้

แต่ทว่า หลังจากที่เดินหาจนทั่วแล้ว ก็ไม่พบร้านซานริโอ้ แต่อย่างใด

มิมิ: ที่นี่ไม่มีร้านซานริโอ้แฮะ (┬﹏┬) สงสัยคงต้องกลับไปที่ห้างนั้นอีกครั้งแล้วล่ะ เพื่อความชัวร์...

ทันใดนั้นเธอก็นึกอะไรออกมาได้

มิมิ: Σ( °_°) จริงสิ! หรือว่าบางทีมันอาจจะซ่อนอยู่บนตึกแถวนี้ก็เป็นได้? (เหมือนร้านเล็กๆ ที่อยู่บนตึกในโตเกียว)

แล้วเธอก็ได้ตัดสินใจลอง "สุ่ม" เดินเข้าไปตามทางกับคนๆ หนึ่งที่กำลังเตรียมจะกินไอศกรีมที่ซื้อมา

มิมิ: เออ...ไม่ทราบว่า ร้านซานริโอ้กิ๊ฟเกทอยู่ทางไหนเหรอค่ะ?

และเมื่อคนๆ นั้นหันมา พบว่าเธอผู้นี้คือ "แมว" ที่เคยเจอเมื่อตอนที่อยู่สนามบินนั่นเอง!!

ทั้งสองจ้องหน้ากันอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่จะลองทำทางท่าต่างๆ ใส่กัน ทั้งชี้หน้า ยกมือ โบกมือ ฯลฯ ซึ่งทั้งสองทำออกมาเป็นท่าเดียวกันและจังหวะพร้อมกัน

"เธอชื่ออะไร..."

มิมิ: เธอนั่นแหละชื่ออะไร??

มนุษย์แมวหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วตอบกลับ

"ชั้นชื่อ เนียมิ (Nyami) น่ะ"

มิมิ: ฮิฮิ (∩_∩) ส่วนชั้นชื่อ มิมิ ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะ!

แล้วมิมิก็ยื่นมือออกไปหาเนียมิ เนียมิก็ทำหน้างงๆ

มิมิ: จับสิคะ

แล้วเนียมิก็ตัดสนใจยื่นมือออกมาจับด้วยกัน

ระหว่างนั้นเนียมิแอบคิดในใจ "ทำไมโลกมันกลมจังแฮะ...."

เนียมิ: เอาเป็นว่านับตั้งแต่วันนี้ ก็ขอฝากตัวด้วยแล้วกันนะ! (∩_∩) ว่าแต่.. ทำไมเธอถึงมีหน้าตาคล้ายกับชั้นมากเลยล่ะ

มิมิ: นั่นสิ ทำไมหว่า... = =" ??

เนียมิ: ฮ่าๆ เรื่องนั้นช่างมันเถอะ แต่ชั้นเองก็เคยได้ยินมาเหมือนกันนะว่า...บนโลกนี้จะมีคนที่หน้าตาเหมือนกับเราเป๊ะๆ อยู่คนหนึ่ง.. ส่วนเรื่องร้านซานริโอ้ ชั้นไม่รู้หรอกนะว่าอยู่ที่ไหน

มิมิ: อืม โทษทีนะที่รบกวน แล้วเธอกำลังจะไปไหนเหรอ (ทำภารกิจอยู่หรือเปล่า?)

เนียมิ: เออ.. กำลังเที่ยวสำรวจแถวๆ นี้อยู่น่ะ แล้วเธอจะไปหาร้านที่ว่าด้วยกันกับชั้นเลยมั้ยล่ะ (ที่จริงกำลังว่างอยู่พอดี)

มิมิ: ก็เอาสิ (*^_^*)

แล้วทั้งสองก็เริ่มต้นออกเดินทางด้วยกันเป็นครั้งแรก.. การที่มีเพื่อนเดินตามไปด้วยมันเป็นอะไรที่เนียมิไม่ชินเอาซะเลย

และแล้วในที่สุด เรื่องราวการผจญภัยของทั้งสองคนบนเกาะป๊อปปิ้งได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ณ บัดนี้!!




>>>>> TO BE CONTINUED <<<<<

 いっしょに遊ぼうよ!

14 ตุลาคม 2565

pop'n music RESPECT : STAGE 1B 「กอรี่เดย์ (glory day)」 -Mimi Side-

ข่าวด่วนจาก PHK~!

เมื่อเวลาประมาณ 6 โมงเช้าของวันนี้ MZD มหาเศรษฐีและผู้ก่อตั้งบริษัทเกมระดับโลก "PONAMI" ได้เสียชีวิตลงแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มหาเศรษฐี MZD เสียชีวิตลง เรื่องหนึ่งที่มีการถกเถียงกันอย่างหนักเลยก็คือ มรกดกหมึ่นล้านเยน ที่ระบุถึงผู้สืบทอดไว้อย่างมีเงื่อนงำ ล่าสุดทนายส่วนตัวของ MZD ได้ออกมาเปิดเผยพินัยกรรมดังกล่าวแล้วโดยมีใจความสำคัญดังนี้

"ข้าพเจ้า MZD ได้ทิ้งพินัยกรรมฉบับนี้ไว้เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับมรดกทั้งหมดของข้าพเจ้า อย่างแรกที่ข้าพเจ้า นาย MZD จะแจ้งให้ทุกท่านได้ทราบก็คือ เรื่องที่ทุกท่านกำลังสงสัยกันอยู่ว่าใครจะเป็นผู้ได้รับมรดกของข้าพเจ้าไป

ข้าพเจ้าขอชี้แจงว่า ข้าพเจ้าจะไม่เลือกผู้สืบทอดเพียงคนใดคนหนึ่งแต่ต้องการแบ่งทรัพย์สมบัติทุกอย่างให้กับทุกๆคนที่มีส่วนร่วมในการแข่งขันครั้งนี้ โดยมีเงื่อนไขอยู่ข้อหนึ่งคือ ใครที่สามารถเอาชนะ และเป็นแชมป์ในทัวร์นาเมนต์ Pop'n Music ซึ่งถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของข้าพเจ้า ก็จะได้รับมรดกทั้งหมดไป ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า~!!!!!"


ข่าวเรื่องนี้ได้แพร่ออกไปอย่างรวดเร็วทั่วโลก และเหล่านักเล่นเกมจำนวนมากมายได้เดินทางมาที่เกาะเล็กๆ ใจกลางมหาสมุทรอินเดีย เพราะต้องการมีส่วนร่วมในมรดกของ MZD เราได้ส่งทีมข่าวไปยังเกาะของ MZD เพื่อคอยเกาะติดเรื่องนี้ต่อไป และถ้ามีอะไรคืบหน้าเราจะรีบรายงานให้ทราบโดยทันที!

ขณะนี้ สายตาเกือบทุกคู่บนโลกได้จ้องมาที่ "เกาะป๊อปปิน" (Pop'n Island) เกาะในใจกลางมหาสมุทรอินเดีย ที่เพิ่งปรากฎขึ้นมาบนแผนที่โลกเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาจากการขยับตัวของเปลือกโลก บริษัทเกมชั้นนำของโลก "PONAMI" ซึ่งก่อตั้งโดย MZD ได้เลือกสถานที่นี้เพื่อสร้างเวทีของเกมดนตรีเสมือนจริง "Pop'n Music" ผู้คนจากต่างเชื้อชาติ ต่างเผ่าพันธุ์ และต่างเหตุผล ได้มุ่งหน้ามาที่เกาะนี้เพื่อเข้าร่วมเกม

และการที่จะแข่งขันกับเหล่าคู่แข่งต่างๆ ได้นั้น คุณจำเป็นที่จะต้องใช้อุปกรณ์พิเศษที่เรียกว่า "เกียร์" (Gear) ที่ทางบริษัท PONAMI จัดให้ ซึ่งมีลักษณะเป็นแผงปุ่มกดหลากสีจำนวน 9 ปุ่ม และมีกระดานโปร่งใสที่ตีเป็นตารางหลากสีอยู่ด้านหน้าเหนือแผงปุ่มกดของเกียร์

ใครกันแน่ที่จะได้เป็นผู้ครอบครองมรดกทั้งหมดไป !?

--------------------------------------------------------------------------------

แต่ทว่า..

เมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้าที่ตัวเกาะจะเปิดทำการจริง อยู่ดีๆ ก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ได้ลักลอบเข้ามาที่เกาะป๊อปปินแห่งนี้โดยที่ไม่มีใครบนเกาะรู้ เธอเดินทางไปยังสถานที่หนึ่งบนเกาะที่มีชื่อว่า "สุสาน CS" (CS Graveyard)

"ที่นี่เองสินะ"

เด็กผู้หญิงคนนี้กล่าวหลังจากที่เดินทางมาถึงหน้าประตูทางเข้า สุสาน CS แล้วจากนั้นเธอก็เดินเข้าไปในสุสานแห่งนั้น

สุสานแห่งนี้ ตลอดสองข้างทางที่เธอเดินไปตามเส้นทางเดินนั้น เต็มไปด้วยศิลาหลุมศพที่จารึกชื่อของเกม Pop'n Music เวอร์ชั่นบนเครื่องคอนโซลจำนวนมาก ซึ่งเรียงไปตั้งแต่ภาคแรกในปี 1999 จนไปสิ้นสุดที่ Pop'n Music Portable 2 ในปี 2011

"นี่มันอะไรกันเนี่ย..."

เธอกล่าวหลังจากที่ได้เห็นศิลาหลุมศพ Pop'n Music เวอร์ชั่นคอนโซลจำนวนมากที่ตั้งอยู่ระหว่างทาง

และแล้วเธอก็เดินมาจนสุดทางเดิน ตรงหน้าเป็นอนุสาวรีย์ของ MZD ซึ่งได้จารึกปีที่สิริอายุไว้บนฐานรูปปั้นคือ 1999-2012

"โห..."

เธอกล่าวด้วยความตื่นเต้นหลังจากที่ได้เห็นอนุสาวรีย์ที่ดูยิ่งใหญ่

จากนั้นเด็กผู้หญิงคนนี้ก็นำสิ่งของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเป้ แล้วนำมาวางรวมกันตรงหน้าอนุสาวรีย์ พร้อมกับที่เธอพลางหยิบสมุดบางอย่างออกมาอ่านไปด้วย มันคือสมุดที่บอกแหล่งซ่อนสมบัติบนเกาะแห่งนี้

ในหน้าที่เธออ่านนั้นได้ระบุสิ่งของที่ต้องเตรียมออกมาเพื่อใช้เรียกสมบัติออกมาจากอนุสาวรีย์ MZD ซึ่งมีทั้งหมด 5 อย่างด้วยกันดังนี้






"เอาล่ะ พร้อมแล้วนะ"

จากนั้นเธอก็ทำการสวดมนต์ ตามที่ในสมุดได้บอก ทันใดนั้นก็เกิดแสงสว่างและประกายแสงลอยออกมารอบๆ ตัวเธอ

...หากรู้ไหมว่า แท้จริงแล้วมันไม่ใช่เวทมนตร์ที่ใช้เรียกสมบัติที่ถูกซ่อนออกมา แต่มันคือเวทมนตร์ที่ชุบชีวิตให้ MZD ฟื้นกลับขึ้นมาอีกครั้งต่างหาก...

แล้วจากนั้นสักพักตัวรูปปั้นก็ค่อยๆ เกิดรอยแตกร้าว ก่อนที่รูปปั้นจะแตกออกในเวลาต่อมา

แล้วจู่ๆ ก็มีร่างของเงาบางอย่างที่ออกมาจากรูปปั้น พุ่งเข้าใส่ตัวเด็กผู้หญิง

"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"

เธอร้องเสียงหลง ก่อนที่จะหมดสติไป

--------------------------------------------------------------------------------

Project 『pop'n MAX』

ป๊อปปินมิวสิก รีสเปคท์

【Press RED to Pay Respect】

Opening Theme



--------------------------------------------------------------------------------

STAGE 1B
「กอรี่เดย์ (glory day)」
-Mimi Side-

--------------------------------------------------------------------------------

ปี ค.ศ. 20XX กันยายน 28 เวลา 9:50 น.

ท่าอากาศยานนานาชาติ นะริตะ ประเทศญี่ปุ่น

"หนูต้องไปขึ้นเครื่องแล้วนะคะ!"

เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักและมี "หูกระต่าย" คนนี้ กำลังคุยโทรศัพท์มือถือกับคุณแม่ของเธออยู่

"จ้า! เดินทางโดยสวัสดิภาพนะ!"

"ค่ะ แม่!! ^_^"

แล้วเธอก็วางสายไป

และนี่คือ เรื่องราวของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้ที่กำลังจะเตรียมเดินทางไปยังเกาะป๊อปปิน เพื่อที่จะทำความฝันของเธอให้กลายเป็นจริง

"เอาล่ะ.. ได้เวลาออกเดินทางแล้ว!"

เธอกล่าวก่อนที่จะเดินไปขึ้นเครื่องที่ Gate

"อ่ะ!! สวัสดีค่ะ!! ฉันชื่อ มิมิ (Mimi) อายุ 14 ปี เป็นชาวญี่ปุ่น กำลังจะมุ่งหน้าไปยังเกาะป๊อปปินเพื่อเข้าร่วมเล่นเกม Pop'n Music ค่ะ!! ... สาเหตุที่ฉันอยากไปเกาะป๊อปปิน เพราะว่าฉัน... ผิดหวังกับชีวิตรักค่ะ ฉันน่ะ เคยมีคนที่แอบชอบมาแล้วหลายคน แต่เพราะด้วยเหตุการณ์ต่างๆ หรือเป็นเพราะเคราะห์ร้ายก็ไม่ทราบ ก็เลยทำให้ยังไม่ได้สารภาพรักกับใครสำเร็จเลยแม้แต่คนเดียว บางทีถ้าฉันไปที่นั่น อาจจะทำให้ลืมเรื่องราวอกหักที่ผ่านมาทั้งหมดก็เป็นได้ แต่ที่จริงแล้วยังมีสาเหตุอื่นอยู่อีกก็คือ... ถ้าหากว่าฉันได้เงินรางวัลก้อนใหญ่มาจริงๆ ละก็ ฉันจะเอาไปเป็นค่าประมูลสินค้ามายเมโลดี้รุ่นลิมิเต็ดที่มีอยู่เพียงชิ้นเดียวในโลกค่ะ! เพราะว่าฉันเป็นแฟนตัวยงของมายเมโลดี้กับคุโรมิไงละคะ! ฮิฮิ ^^;"

มิมิแนะนำตัวกับผู้อ่านนิยายในขณะที่กำลังเดินไปตามทางของงวงช้างที่เชื่อมต่อระหว่างตัวเครื่องและอาคาร

และหลังจากที่ขึ้นมาบนเครื่องแล้ว เธอก็เดินไปหาที่นั่งตามหมายเลขที่ระบุไว้บนบัตรโดยสาร และเมื่อหาเจอแล้ว เธอก็นั่งลงพร้อมกับจัดการวางสัมภาระต่างๆ ให้เรียบร้อย

และหลังจากที่ทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว เธอก็พลางมองออกไปทางหน้าต่าง

มิมิ: (หวังว่านายคงจะกลับมาตามสัญญานะ อิคุโตะคุง...)

มิมินึกถึงแฟนคนล่าสุดของเธอด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

*****************************************************

ย้อนกลับไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ณ ชานชาลาของสถานีรถไฟแห่งหนึ่ง

มิมิได้มาบอกลาชายหนุ่มอายุ 16 ปีที่ชื่อ อิคุโตะ ซึ่งเป็นแฟนคนล่าสุดของเธอ

มิมิ: เมื่อถึงวันนั้น จะกลับมารอฉันที่สถานีนี้จริงๆ ใช่ไหม?

มิมิถามอิคุโตะที่อยู่ในชานชาลา ส่วนมิมิอยู่บนรถไฟ

อิคุโตะ: แน่นอนอยู่แล้ว! สัญญาเลย และฉันก็จะไม่มีวันลืมเธออย่างแน่นอน!

เมื่อสิ้นคำประตูรถไฟก็ค่อยๆ ปิดลงจนสนิท

แล้วมิมิก็พลางเอามือทั้งสองข้างเกาะบนประตู ก่อนที่รถไฟจะแล่นออกไป

*****************************************************

เมื่อเธอนึกถึงเรื่องนั้น มันทำให้เธอน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เพราะไม่อาจทราบอนาคตได้ว่าเขาจะกลับมารอเธอตามที่ได้สัญญากันไว้หรือไม่

และในขณะเดียวกัน ก็มีเด็กผู้หญิง "หูแมว" คนหนึ่งที่หน้าตามะลายคล้ายกับเธอเป็นอย่างมาก เดินผ่านข้างที่นั่งเธอไป โดยที่เธอยังไม่ทันได้เห็น...

--------------------------------------------------------------------------------

ผ่านมาอีกหลายชั่วโมง ในที่สุด เครื่องบินก็ได้ลงจอดที่ท่าอากาศยานของเกาะป๊อปปินแล้ว และหลังจากที่เครื่องเทียบท่ากับหลุมจอดเรียบร้อยแล้ว ผู้โดยสารทุกคนรวมทั้งมิมิก็ได้ลุกจากที่นั่งเพื่อเดินไปเข้าอาคารสนามบินผ่านงวงช้างที่เชื่อมต่อระหว่างตัวเครื่องและอาคาร

แต่ทว่า.. ในระหว่างที่เธอกำลังเดินไปตามทางบนเครื่อง เธอก็ได้พบกับใบ ตม. ฉบับหนึ่งตกอยู่บนพื้น เมื่อเธอเห็นจึงเก็บขึ้นมาดู

มิมิ: หืม? ใครทำหล่นไว้นะ?

แล้วเธอก็เดินไปหาเจ้าหน้าที่บนเครื่อง

มิมิ: ขอโทษนะคะ

"มีอะไรให้ช่วยเหรอ?"

มิมิ: คือว่าฉันเจอ ใบ ตม. ของใครก็ไม่รู้ตกอยู่น่ะคะ

"ไหนขอดูหน่อยสิ"

แล้วมิมิก็ส่ง ใบ ตม. ให้เขาตรวจสอบดู

"เอาไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ด่าน ตม. นะ เดี๋ยวเขาจะเก็บไว้เพื่อประกาศตามหาเจ้าของให้เอง"

มิมิ: ทราบแล้วค่ะ!

มิมิรับ ใบ ตม. ของคนที่ทำหายกลับมา แล้วเธอก็มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวอาคารสนามบิน

มิมิเดินไปตามป้าย Immigration เพื่อไปเข้าด่านตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งตลอดทางจะเป็นทางตรงยาว ที่มีทางเลื่อนให้ขึ้นไปยืนได้ และเมื่อมาถึงหน้าด่าน ตม. แล้ว เธอก็พบกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังโวยวายอยู่

"ไม่มี.. ไม่มี.. ตรงนี้ไม่มี... ใบ ตม. หายไปไหนซะแล้ว?!"

เมื่อเธอเห็นดังนั้นจึงรีบเข้าไปหา

มิมิ: เออ คือว่า...

มิมิทักเด็กผู้หญิงคนนั้นที่มี "หูแมว"

มิมิ: ใช่ของเธอหรือเปล่า ฉันเจอมันตกอยู่บนเครื่องบินน่ะ

"ใช่เลยๆ อันนี้แหละ!! ขอบใจมากนะ ... เอ๊??"

มิมิ: มีอะไรอีกรึเปล่า?

"เออ..ก็แค่คิดว่าเธอนี่บังเอิญดูเหมือนกับฉันมากเลยนะ"

มิมิ: คิกๆๆ (*^-^*)

มิมิหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่จะเดินเข้าด่าน ตม. ไป

หลังจากที่เธอผ่านด่าน ตม. ได้แล้ว เธอก็ไปรับกระเป๋าของตัวเองที่สายพาน เมื่อได้กระเป๋าแล้ว เธอจึงเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์เพื่อทำการลงทะเบียนเพลเยอร์ทันที ซึ่งจุดที่ไปมีผู้คนต่อแถวเข้าคิวรอแต่แถวไม่ยาวมากนัก เมื่อถึงคิวเธอแล้วเจ้าหน้าที่ก็ขอดูหนังสือเดินทางเพื่อยืนยันข้อมูลการลงทะเบียนจากช่องทางออนไลน์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็นำหนังสือเดินทางมาคีย์ข้อมูลบางอย่างลงในคอมพิวเตอร์

เมื่อเสร็จแล้วเขาก็ส่งบัตร Pop'n Pass ที่หน้าตาคล้ายกับบัตรประจำตัวประชาชน และหนังสือเดินทางของเธอกลับมาให้ พร้อมกับบอกให้ไปถ่ายรูปติดบัตร Pop'n Pass ที่ตู้ถ่ายรูป แล้วรับ "เกียร์" เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการลงทะเบียน

"ไปถ่ายรูปติดบัตรที่ตู้ตรงนั้นเพื่อยืนยันตัวตนด้วยนะคะ เสร็จแล้วก็นำบัตรไปรับเกียร์ได้ที่ตู้อัตโนมัติที่อยู่ติดกันได้เลย"

เจ้าหน้าที่กล่าวพร้อมกับชี้ไปที่ตู้ถ่ายรูปที่อยู่ใกล้ๆ กัน

มิมิ: ค่ะ

ต่อมาเธอก็เดินไปเข้าตู้ถ่ายรูป ลักษณะคล้ายกับตู้ถ่ายรูปสติ๊กเกอร์ตามห้าง เมื่อเข้าไปแล้วเธอก็ทำตามคำแนะนำที่แสดงบนหน้าจอ โดยการสอดบัตร Pop'n Pass เข้าไปในตู้ แล้วจากนั้นเครื่องก็ทำการถ่ายรูปใบหน้าของเธอ หลังจากถ่ายรูปเสร็จแล้วสักพักตู้ก็คลายบัตรคืนออกมา ซึ่งบนบัตรคราวนี้มีรูปหน้าของเธอติดเรียบร้อยแล้ว

บนบัตรระบุข้อมูลส่วนตัวเบื้องต้นต่างๆ คล้ายกับบัตรประชาชนและใบขับขี่ เช่น ชื่อ วันเกิด หมายเลขประจำตัว และที่สำคัญที่สุดคือ ระดับผู้เล่นของเธอในตอนนี้ที่ระบุว่า "Beginner"

ต่อมาจึงนำบัตรไปเสียบเข้ากับตู้รับอุปกรณ์เล่นเกมที่อยู่ติดกัน แล้วเครื่องก็เริ่มอ่านข้อมูลผู้เล่นอยู่พักหนึ่ง แล้วจากนั้นเครื่องก็ปล่อยเกียร์ออกมาที่ช่องรับสินค้าด้านล้างตู้ พร้อมกับคลายบัตรคืนมาที่ช่องเสียบบัตร

มิมิ: เอาล่ะ ได้เวลาออกไปผจญภัยได้แล้วสินะ! แต่ก่อนอื่นขอไปเที่ยวเล่นภายในตัวเมืองก่อนวันหนึ่งแล้วกัน! ^_^

จากนั้นเธอก็เดินออกจากอาคารผู้โดยสาร เพื่อไปรอขึ้นรถบัสบริเวณหน้าอาคาร

และเมื่อรถบัสมาถึง เธอจึงขึ้นไปยังรถบัสคันนั้น แล้วรถก็มุ่งหน้าไปยังตัวเมือง

ในระหว่างที่รถบัสกำลังวิ่งไปเรื่อยๆ นั้น เธอ(รวมถึงบางคน)ก็มองชมวิวและสถานที่ต่างๆ ระหว่างทางไปพลางๆ ด้วยความสนใจ ซึ่งสภาพบ้านเมืองโดยรวมก็ดูไม่ค่อยจะต่างกับเมืองหลวงของญี่ปุ่นมากนัก

มิมิ: เอาล่ะ งั้นลองไปที่นี่ดูก่อนแล้วกัน!

มิมิดูแผนที่จากแอปมือถือ ซึ่งสถานที่ที่เธอเลือกไปเยือนเป็นที่แรกบนเกาะนั่นก็คือ... ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งภายในตัวเมือง "พาราไดซ์" (Metro Paradise) ซึ่งเป็นเมืองหลวงติดทะเลที่อยู่ห่างจากสนามบินไม่มากนัก

--------------------------------------------------------------------------------

ผ่านไปประมาณ 30 นาที ในที่สุดรถบัสก็มาถึงหน้าห้างสรรพสินค้าจุดหมาย เมื่อมาถึงแล้วเธอจึงเดินลงจากรถไป

มิมิ: ก่อนอื่น ขอหาอะไรในนี้ผ่อนคลายอารมณ์ก่อนแล้วกัน ^_^

แล้วเธอก็เดินเข้าไปยังห้างแห่งนั้น

ภายในห้างมีลักษณะคล้ายกับห้างขนาดใหญ่ทั่วไป ภายในมีร้านค้าต่างๆ มากมายหลายประเภท ทั้งร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ และมีพื้นที่กว้างใหญ่มาก

มิมิ: ที่นี่มีครบทุกอย่างเลยนะ เป็นเหมือน MBK สาขาเกาะป๊อปปินจริงๆ

และในทันใดนั้น เธอก็เดินไปพบกับร้านหนึ่งที่น่าสนใจเข้า

มิมิ: เอ๊!? Σ( °Д °)

ร้านค้าที่เตะตาเธอนั้น ก็คือร้าน "ซานริโอ้ กิ๊ฟเกท" นั่นเอง!!

มิมิ: ว้าว!! มีร้านซานริโอ้อยู่บนเกาะป๊อปปินด้วยแหละ!! (♥▽♥)

แล้วเธอจึงรีบเข้าไปยังร้านนั้นทันที

มิมิ: ว้าว!! มีครบหมดทุกอย่างเหมือนที่ญี่ปุ่นด้วย!! (p≧w≦q)♡ (มายเมโลดี้ของฉัน!!)

แต่ทว่า.. ยังไม่ทันที่เธอจะได้เริ่มเดินดูสินค้าภายในร้าน ท้องของเธอก็ร้องออกมา

มิมิ: แต่ก่อนอื่น... ไปหาอะไรกินก่อนแล้วกัน ( ̄_ ̄|||) (เดี๋ยวค่อยมาดูทีหลัง)

จากนั้นเธอจึงไปหาร้านอาหารที่อยู่แถวนั้นกิน

--------------------------------------------------------------------------------

เวลาผ่านไปเกือบ 3 ชั่วโมง หลังจากที่เธอเดินเล่นภายในห้างจนหนำใจแล้ว เธอจึงเดินออกมาบริเวณหน้าห้าง

แล้วเธอก็พบว่าท้องฟ้ามืดแล้ว เธอจึงหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อดูเวลา

พบว่าขณะนี้เป็นเวลา 19:00 น.

มิมิ: ยะ... แย่แล้วสิ!! ดันลืมเช็คอินโรงแรมไปซะสนิทเลย!! (≧﹏ ≦)

จากนั้นเธอจึงรีบเดินทางไปยังโรงแรมที่เธอได้จองห้องพักไว้ด้วยรถแท็กซี่

โรงแรมที่มิมิจองไว้ เป็นโรงแรมธุรกิจ หรือโรงแรมระดับ 3 ดาว ที่ตั้งอยู่ภายในตัวเมืองพาราไดซ์ ลักษณะเป็นตึกสูงคล้ายกับอพาร์ทเมนท์ ไม่มีสระว่ายน้ำ

และเมื่อเธอเดินเข้าไปเช็คอินยังเคาน์เตอร์ในล็อบบี้...

มิมิ: ห๊ะ!! หมดเวลาเช็คอินแล้วเหรอค่ะ!? ∑(°ロ°)

"ต้องขออภัยด้วยนะคะ มันเป็นกฎระเบียบของโรงแรมจริงๆ <(_ _)>"

พนักงานต้อนรับกล่าว

มิมิ: งั้นก็... เข้าใจแล้วคะ... (˘・_・˘)

แล้วมิมิก็เดินออกมายังหน้าโรงแรมด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

ระหว่างนั้นเธอพลางหันกลับมามองตัวอาคารอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่จะเดินจากไป

แล้วมิมิก็เดินไปเรื่อยเปื่อยริมถนนในยามค่ำคืน ราวกับไม่มีจุดหมาย

มิมิ: ถ้าหากไม่ได้เช็คอินโรงแรมที่จองไว้ในวันแรกที่มาถึงเกาะ จะไม่ได้รับ "สิทธิพิเศษสำหรับผู้เล่นใหม่" ไปโดยปริยาย หมายความว่าหากกลับมาเช็คอินในวันพรุ่งนี้ เราต้องเริ่มจ่ายค่าห้องพักเองแล้ว...

มิมิคิดถึงผลเสียที่ตามมาหากเช็คอินไม่ทัน ก่อนที่จะเปิดกระเป๋าเพื่อดูเงินที่เหลือ พบว่าตอนนี้เธอมีเงินติดตัวอยู่ไม่มากนัก

มิมิ: ดันเอาไปช็อปกับเล่นตู้เกมซะหมดเกลี้ยงเลยแฮะ... สงสัยพรุ่งนี้คงต้องเริ่มลุยหาภารกิจทำเพื่อหาเงินซะแล้ว

มิมิเว้นช่วงไว้นิดหนึ่งแล้วคิดต่อ

มิมิ: ว่าแต่... วันนี้เราจะไปนอนที่ไหนดีนะ?? เพราะโรงแรมที่เดิมก็พักไม่ได้แล้ว

"เดี๋ยวก่อน แม่สาว"

อยู่ๆ ก็มีใครบางคนทักขึ้นมา มิมิจึงหันไปมอง พบว่าเป็นหมอดูคนหนึ่งที่ตั้งร้านดูดวงอยู่ข้างทาง เป็นลักษณะร้านเล็กๆ ริมทาง

"เธอน่ะ กำลังมีเรื่องทุกข์ใจอยู่สินะ?"

แล้วมิมิก็รู้สึกสนใจอะไรบางอย่าง เธอจึงเดินเข้าไปหา

"ตอนนี้ หัวใจของเธอกำลังถูกพันธนาการไว้อยู่ ยากที่ใครๆ จะแกะออกมาได้"

จากนั้นหมอดูก็หยิบไพ่ทำนายที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาหนึ่งใบ

มิมิ: หมายความว่าไง?

"เพราะเธอไม่เคยสมหวังในความรัก เธอต้องการที่จะหาใครสักคนมาช่วยปลดปล่อย "โซ่แห่งความพลาดหวัง" ใช่มั้ย?"

แล้วเธอก็รู้สึกสะดุ้งเพราะแทงใจดำเล็กๆ ก่อนที่หมอดูจะหยิบไพ่ทำนายใบที่สองขึ้นมาอีก

มิมิ: แล้วไง มันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย? และอีกอย่าง ฉันไม่มีตังค์จ่ายค่าดูดวงหรอกนะ

มิมิพูดเสร็จก็เดินจากหมอดูไป

"และในอีกไม่นาน จะมีคนมาแกะออกให้อย่างแน่นอน และคนๆ นั้นจะเป็นผู้นำพาไปพบกับความรักที่แท้จริง"

หมอดูพูดออกมาหลังจากที่มิมิเดินจากไปแล้ว พร้อมกับพลิกไพ่ที่ตนถือไว้ ซึ่งออกมาเป็นรูป เทพธิดาแห่งความรัก (The Lovers)

--------------------------------------------------------------------------------

แล้วมิมิก็เดินไปเรื่อยเปื่อย จนมาถึงบริเวณสวนสาธารณะ

ภายในสวนไม่มีใครอยู่เลยสักคนเพราะเป็นเวลามืดแล้ว มีเพียงแสงไฟจากโคมไฟบนเสาเท่านั้น

แล้วมิมิก็เดินมานั่งพักบนม้านั่งที่อยู่ในสวน

มิมิ: คนที่จะมาช่วยแกะโซ่แห่งความพลาดหวังให้อย่างงั้นเหรอ??

มิมินึกถึงคำพูดของหมอดูคนนั้น ก่อนที่เธอจะนึกภาพของ "เด็กผู้หญิงหูแมว" ที่เคยเจอที่สนามบินขึ้นมา

มิมิ: คงไม่ใช่หรอกมั้ง?? (โลกคงไม่กลมง่ายขนาดนั้นแน่ๆ)

แล้วมิมิก็หันมานอนบนม้านั่ง ซึ่งเธอตั้งใจจะแค่นอนคิดหาทางออกสำหรับที่พักในวันนี้ แต่ก็เผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัวเพราะความเหนื่อยล้าจากการเดินห้างเมื่อช่วงเย็น

แย่แล้วล่ะสิ!? เริ่มมาแค่วันแรก มิมิจังก็ตกที่นั่งลำบากซะแล้ว!? แต่ว่า... เด็กผู้หญิง "หูแมว" ที่หน้าตามะลายคล้ายกับเธอนั้น จะมีโอกาสได้พบเจอกันอีกหรือไม่!?




>>>>> TO BE CONTINUED <<<<<

--------------------------------------------------------------------------------

Ending Theme

10 ตุลาคม 2565

pop'n music RESPECT : STAGE 36 「วันแห่งตำนาน! การต่อสู้ครั้งสุดท้ายในอาณาจักรเทพนิยาย」

ขณะนี้ มิมิ เนียมิ และสหายร่วมทางอีก 2 คนคือ อาร์ค และ โรโค่ กำลังมุ่งหน้าไปยัง "วิหาร Kobulr" ด้วยการขี่บนหลังของมอคโค่ที่เป็นสุนัขบินได้ และเป็น สัตว์เลี้ยงคู่ใจของโรโค่

มิมิ: ท่านอาร์คมีอายุกว่าพันปีนี่ เป็นความจริงเหรอค่ะ?

มิมิถามอาร์คที่นั่งอยู่ระหว่างเนียมิที่อยู่ข้างหน้าเธอ กับโรโค่ที่อยู่ด้านหน้าสุด

อาร์ค: จริงแน่นอน! แต่ข้าเองก็ไม่ทราบแล้วเหมือนกันว่าในตอนนี้อายุเท่าไหร่ เพราะไม่ได้นับอายุมานานแล้ว ...แต่เมื่อเกือบหนึ่งพันปีที่แล้ว ข้าเคยเป็นผู้นำทางป๊อปเปอร์สรุ่นก่อนไปยังวิหาร Kobulr และช่วยพวกเธอปิดผนึกผู้นำจักรวรรดิได้สำเร็จมาแล้วครั้งหนึ่งด้วยนะ

มิมิ: งั้นก็แสดงว่า... ท่านคงรู้เส้นทางภายในนั้นเป็นอย่างดีสินะ?

อาร์ค: ก็น่าจะพอจำได้อยู่นะ เพราะหลังจากที่สิ้นสุดภารกิจนั้นข้าก็ไม่ได้ไปเยียนที่นั้นอีกเลย

มิมิ: แล้วในนั้นมันมีกับดับหรือสิ่งอันตรายอะไรบ้าง พอจะจำได้ไหม?

อาร์ค: ก็ค่อนข้างอันตรายอยู่เหมือนกันนะ เพราะในนั้นนอกจากเส้นทางจะสลับซับซ้อนดังเขาวงกตแล้ว ยังเต็มไปด้วยกับดับมากมายที่พร้อมจะฆ่าเราได้ทุกเมื่อเลยล่ะ! ...และด้วยเหตุนี้ ข้าจึงต้องติดตามพวกเจ้ามาด้วยยังไงล่ะ!

เนียมิ: แล้วในตอนนั้น หลังจากที่ปิดผนึกผู้นำจักรวรรดิสำเร็จแล้ว ทุกอย่างก็จบลงทันทีเลยใช่ไหม? (ลองถามผู้รู้ให้แน่ใจ)

อาร์ค: แน่นอน! ถ้าหากนำซิลลี่คีย์ไปเสียบกับ บล็อกกี้ล็อค ได้เมื่อไหร่ละก็.. พวกลูกสมุนที่กำลังต่อสู้กันอยู่ในเมืองหลวง ก็จะหายไปด้วยทั้งหมดในทันที

มิมิ: แต่ปัญหาก็คือ.. ใครกันแน่ที่เป็นผู้ไปปลดผนึกจอมมารในครั้งนี้เนี่ยสิ!

อาร์ค: ข้าคิดว่าผู้นั้นอาจจะต้องการผลประโยคอะไรบางอย่างจากการยึดครองอาณาจักรเทพนิยายก็เป็นได้นะ...?

แล้วทั้งสองก็คิดในใจว่า ต้องเป็นฝีมือของ เซ อย่างแน่นอน...

และหลังจากที่บินมาได้สักพักหนึ่ง กลุ่มเมฆที่อยู่ตรงหน้าก็ค่อยๆ เผยให้เห็นสิ่งที่อยู่เบื้องล่าง ซึ่งนั่นก็คือ "วิหาร Kobulr" นั่นเอง

--------------------------------------------------------------------------------


STAGE 36
「วันแห่งตำนาน! การต่อสู้ครั้งสุดท้ายในอาณาจักรเทพนิยาย」


--------------------------------------------------------------------------------

เมื่อมาถึงจุดหมายแล้ว ทั้งสามยกเว้นโรโค่ ก็ลงมายังพื้นด้านล่าง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับสะพานขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อไปยังวิหารที่อยู่เบื้องหน้า

โรโค่: เดี๋ยวผมต้องรีบกลับไปก่อนนะครับ ถ้าหากเสร็จสิ้นภารกิจเมื่อไหร่ ก็เรียกผมทางโทรศัพท์ได้ทุกเมื่อเลยนะ!

มิมิ: ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวพวกเราจะกลับด้วยเวทย์ประตูมิติของซิลลี่คีย์แทนก็ได้

เนียมิ: แต่เราต้องนำซิลลี่คีย์ไป "เสียบคืน" กับบล็อกกี้ล็อคนะ ซึ่งหมายความว่าหลังจากนั้นพวกเราจะใช้เวทย์จากซิลลี่คีย์ไม่ได้อีกแล้ว

เนียมิหันมาบอกมิมิ

มิมิ: เออ.. นั่นสินะ ( ̄_ ̄|||) (ลืมนึกไปเลย)

โรโค่: ถ้างั้นก็ขอให้โชคดีนะครับ!

เนียมิ: อืม! แล้วเจอกัน!!

จากนั้นโรโค่ที่ยังคงอยู่บนหลังของมอคโค่ก็บินจากไป

ส่วนอาร์คก็นำนาฬิกาลูกตุ้ม (คล้ายๆ กับของไทม์เมอร์) ออกมาดูเวลา

อาร์ค: ดูเหมือนว่าพวกเราจะใช้เวลาเดินทางมาทั้งหมด 5 ชั่วโมงนะ นั่นหมายความว่าตอนนี้เหลืออีกแค่ 60 นาทีเท่านั้น ก่อนที่ "อาวุธสุดท้าย" จะถูกนำมาใช้งาน

อาร์คนำนาฬิกาเก็บกลับไป ก่อนที่จะพูดต่อ

อาร์ค: เอาล่ะ พวกเจ้าทั้งสองรีบเปลี่ยนเป็นร่างป๊อปเปอร์สกันก่อนเถอะ เพราะข้างในนั้นมันอันตรายมาก

มิมิ/เนียมิ: รับทราบ!

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็แปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์ส

อาร์ค: เอาล่ะ.. พร้อมกันแล้วนะ?

ป๊อปเลิฟ/พีช: ค่ะ!!

แล้วจากนั้นทั้งสามก็มุ่งหน้าสู่วิหารที่อยู่ตรงหน้า

วิหาร Kobulr มีลักษณะคล้ายกับปราสาทขนาดใหญ่ ตัวปราสาทมีสีฟ้าที่ตัดสลับกับสีขาวในบางจุด (สีฟ้ามากกว่าขาว) และมีความสูงพอสมควร โดยจุดที่ตั้งของตัวปราสาทนั้นอยู่บนพื้นยกระดับทรงกลมลักษณะคล้ายเกาะลอยฟ้าสูงจากระดับพื้นดิน ซึ่งมีสะพานขนาดใหญ่ที่เชื่อมเข้ามายังบริเวณฐานปราสาท และด้านใต้ของสะพานและฐานปราสาทเป็นทะเลสาบ หากมองจากมุมสูงจะดูสวยงามเป็นอย่างยิ่ง

และหลังจากที่ทั้งสามเข้ามายังด้านในของปราสาทแล้ว พบว่าภายในมีลักษณะเป็นห้องโถงที่มีเพดานยกสูงคล้ายกับห้องโถงของปราสาททั่วๆ ไป แต่บรรยากาศดูมืดมิดกว่า

ป๊อปพีช: แล้วบล็อกกี้ล็อค มันอยู่แห่งไหนกันเหรอ?

อาร์ค: ถ้าข้าจำไม่ผิด มันอยู่ในห้องที่อยู่ชั้นบนสุดของปราสาทหลังนี้ ...เอาล่ะ เดี๋ยวข้าจะเป็นคนนำทางให้เองแล้วกัน ส่วนพวกเจ้าก็คอยช่วยสอดส่องภัยรอบๆ ตัวด้วยนะ

ป๊อปเลิฟ: โอเค!!

แล้วทั้งสามก็เดินเข้าไปต่อเรื่อยๆ โดยที่อาร์คเป็นคนเดินนำป๊อปเปอร์สไป

เส้นทางต่างๆ ที่เดินไปนั้นมีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก เพราะเต็มไปด้วยห้องและทางแยกต่างๆ มากมาย

จนกระทั่งเดินมาถึงจุดหนึ่ง อาร์คได้เดินผ่านกลไกของกับดักโดยที่เขาไม่รู้ตัว

อาร์ค: อ่ะ!! ∑(°ロ°)

เมื่อเดินผ่านจุดนั้น อยู่ๆ ก็มีลูกธนูพุ่งมาจากทางด้านข้างของกำแพง แต่เขาสามารถกระโดดหลบไปได้อย่างเฉียดฉิว

อาร์ค: เฮอ... เกือบไปแล้วไหมล่ะ (ノ_<。)

ส่วนป๊อปเลิฟพลางคิดในใจ "ที่นี่มันอันตรายจริงๆ ด้วยแฮะ"

ป๊อปเลิฟ: นั่นสิ แล้วในเมื่อเป็นสถานที่สำหรับปิดผนึกจอมมาร แล้วทำไมถึงต้องวางกับดักเอาไว้ด้วยนะ?

อาร์ค: ไม่ทราบเหมือนกัน แต่คิดว่าอาจจะทำไว้เพื่อเป็นการป้องกันผู้ไม่หวังดีมาปลดผนึกออกก็ได้

แล้วจากนั้นก็มุ่งหน้ากันต่อไป โดยระหว่างทางได้พบกับอุปสรรคอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หลุมพราง สะพานที่พื้นถล่มเมื่อเคลื่อนที่ผ่าน เพดานหนามที่ค่อยๆ เลื่อนลงมาทับ กองทัพมอนสเตอร์จำนวนหนึ่ง รวมไปถึงปริศนาที่ต้องหาทางแก้ไขเพื่อให้ได้ไปต่ออีกด้วย แต่ก็ยังคงสามารถฝ่าฟันมาได้ด้วยความร่วมมือกันของทั้งสาม

--------------------------------------------------------------------------------

ทางด้านเมืองหลวง หลังจากที่มหาสงครามวันพิพากษาได้เริ่มอุบัติขึ้น เหล่าผู้คนทั้งชาวบ้านและป๊อปปินเพลเยอร์ต่างพากันวิ่งหนีเพื่ออพยพออกนอกเมืองกันด้วยความแตกตื่น แต่โชคยังดีที่การต่อสู้เกิดขึ้นแค่เฉพาะในบริเวณเขตเมืองชั้นในหรือเขตพระราชวังเท่านั้น แต่ทว่า ก็มีพื้นที่บางส่วนในเขตเมืองชั้นนอกได้รับผลกระทบจากลูกหลงของการต่อสู้เช่นกัน ซึ่งในขณะนี้ท้องฟ้าทั่วทั้งเมืองนั้นถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีส้มที่เกิดขึ้นจากเปลวเพลิงภายในพื้นที่การต่อสู้ในเขตพระราชวัง

และทางด้านฟากหนึ่งของเมืองในเขตชั้นนอก ก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เพิ่ง "ตื่น" จากการหลับไหลอย่างยาวนาน และเธอผู้นั้นก็คือ "Minit's" นั่นเอง

มินิต: เอ๊!? นี่เรามาอยู่ที่ไหนอีกละเนี่ย?? (⊙_⊙;)? (ไม่รู้เรื่องเลย)

สิ่งที่เธอเห็นตรงหน้าหลังจากที่ได้สติคืนมาจากการถูกควบคุมจิตใจโดย "!" (คันตัน) ก็คือ ภาพของผู้คนจำนวนมากที่กำลังพากันวิ่งหนีอะไรบางอย่าง

เธอยืนอยู่ภายในซอยแคบๆ ที่คั่นกลางระหว่างอาคาร เธอจึงเดินออกมาจากซอยมายังบริเวณถนนเพื่อดูว่าที่นี่คือที่ไหนและมันเกิดอะไรขึ้น

และสิ่งที่เห็นก็คือ เธอได้ตื่นขึ้นมาอยู่ภายในเมืองสไตล์ยุโรป ซึ่งกำลังมีผู้คนจำนวนมากพากันวิ่งไปยังทิศทางเดียวกันอย่างวุ่นวาย และบนท้องฟ้าทั่วทั้งเมืองกำลังปกคลุมไปด้วยแสงสีส้มที่เกิดจากไฟสงคราม และยังมีเสียงระเบิดดังขึ้นมาจากระยะไกลเป็นระยะๆ อีกด้วย

มินิต: ไม่รู้ว่าที่นี่เกิดอะไรขึ้น รู้เพียงแต่เราต้องรีบ "หนี" ออกไปจากที่นี่ให้ได้ซะแล้ว! o((⊙﹏⊙))o

จากนั้นเธอจึงได้วิ่งตามไปยังทิศทางเดียวกับที่ผู้คนวิ่งหนีตามกันไป

แต่ทว่า หลังจากที่วิ่งไปได้ไม่นานเธอก็รู้สึกเหนื่อย จนต้องเปลี่ยนมาเป็นเดินแทน

มินิต: เฮอ... ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยวิ่งมาราธอนแบบนี้มาก่อนเลย... (≧﹏ ≦) (ถ้าให้เต้นมาราธอนยังพอไหว)

และในจังหวะนั้นเอง ก็มีลูกปืนใหญ่ที่เป็นลูกหลงจากเขตสนามรบ ลอยเข้ามาใส่เธอพอดี

มินิต: ห๊ะ!! ∑(°ロ°)

ชั่วพริบตานั้น อยู่ๆ ก็มีใครบางคนพุ่งเข้ามารับตัวเธอไว้อย่างรวดเร็ว ทำให้หลบพ้นจากวิถีกระสุนได้อย่างหวุดหวิด

โปเอ็ต: ไม่เป็นไรใช่ไหม?

มินิต: อะ อืม..!

คนที่มาช่วยมินิตไว้ก็คือสาวน้อยนางฟ้าผู้แสนน่ารัก Poet นั่นเอง แต่มินิตยังรู้สึกงงๆ อยู่ เพราะตกใจกับลูกปืนใหญ่เมื่อสักครู่จนพูดอะไรต่อไม่ถูก

โปเอ็ต: เธอวิ่งต่อไม่ไหวแล้วสินะ งั้นเดี๋ยวฉันจะช่วยเธอพา "บิน" ไปส่งยังชานเมืองให้แล้วกันนะ ^_^

มินิต: อืม! ขอบใจนะ แล้วเธอเป็นใครเหรอ?

โปเอ็ต: ฉันชื่อ "โปเอ็ต" (Poet) น่ะ แต่ตอนนี้พวกเราต้องรีบหนีไปจากที่นี่ก่อนแล้ว

มินิต: โอเค!

แล้วโปเอ็ตก็อุ้มมินิตไปส่งยังชานเมืองด้วยการบินไป

มินิต: ที่เมืองนี้.. มันเกิดอะไรขึ้นกันเหรอ?

มินิตถามในขณะที่กำลังอยู่บนอากาศกับโปเอ็ต

โปเอ็ต: วันนี้เป็น "วันพิพากษา" น่ะ

มินิต: วันพิพากษางั้นเหรอ? มันคืออะไรกัน?

โปเอ็ต: ฉันเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าคืออะไร แต่เท่าที่เคยได้ยินเขาเล่าต่อๆ กันมา ในรอบ 1,000 ปี จะมีพวกจักรพรรดิปีศาจไม่ทราบแหล่งที่มา บุกมายังเมืองหลวงแห่งนี้เพื่อยึดอำนาจอาณาจักรเทพนิยาย...

มินิต: เอ๊!? งั้นแบบนี้ก็เหมือนใน "เอวานเกเลียน" เลยล่ะสิ!? (⊙_⊙;)

โปเอ็ต: เหอะๆ ก็คงงั้นแหละ... ( ̄_ ̄|||) (ยังไม่เคยดูซะด้วยสิ)

มินิต: แล้วแบบนี้... พวกมันจะใช้ "อาวุธสุดท้าย" โจมตีเมืองด้วยใช่ไหม?

โปเอ็ต: ใช่แล้วล่ะ! เหลืออีกไม่กี่นาทีนับจากนี้แล้วที่พวกมันจะใช้ "อาวุธสุดท้าย" เข้าโจมตีทั้งเมืองจนพินาศ สิ่งที่พวกเราทำได้ในตอนนี้ก็มีเพียงแค่การรีบอพยพไปยังที่ปลอดภัยเท่านั้น

มินิต: แล้ว "อาวุธสุดท้าย" ที่ว่า มันมีลักษณะแบบไหนเหรอ พอจะรู้ไหม?

โปเอ็ต: ไม่รู้เหมือนกัน รู้เพียงแต่ว่ามันมีความรุนแรงมากพอที่จะทำลายทั้งเมืองให้ย่อยยับได้เลย

ผ่านไปได้สักพักทั้งสองก็บินมาถึงบริเวณนอกเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยจากสงคราม

หลังจากนั้นโปเอ็ตก็ร่อนลงมาบนถนนทางเดิน ซึ่งบริเวณโดยรอบเป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ที่มีต้นไม้อยู่เล็กน้อย

มินิต: ขอบใจที่ช่วยมาส่งนะ! ถ้าหากไม่ได้เธอมาช่วยไว้แล้วล่ะก็ ฉันก็คงจะกลายเป็นนางฟ้าเหมือนกับเธอไปแล้วล่ะ ヾ(^▽^*)))

มินิตกล่าวหลังจากที่ลงมาจากอ้อมกอดของโปเอ็ต

โปเอ็ต: ฮ่าๆ *^____^* แต่ฉันไม่ได้เหมือนกับนางฟ้าทั่วไปแบบที่เธอเข้าใจหรอกนะ ...นั่นสิ แล้วเธอชื่ออะไรงั้นเหรอ?

มินิต: ฉันชื่อ "มินิต" (Minit's) ∩_∩♥

โปเอ็ต: มินิตจัง งั้นเหรอ.. ยินดีที่ได้รู้จักด้วยนะ! O(∩_∩)O

ไทม์เมอร์: ห๊ะ! มินิตจัง!! Σ( °_°)

ไทม์เมอร์ที่เดินมาพบกับมินิตโดยบังเอิญจึงทักขึ้นมา ซึ่งเขาได้มากับไอซ์ด้วย

และเมื่อเธอได้ยินเสียงเรียกที่คุ้นเคยจึงหันมาหา

แต่ทว่าหลังจากนั้น อยู่ๆ มินิตก็มีสีหน้าเศร้าหมองเหมือนอัดอั้นอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะร้องไห้ออกมาแล้ววิ่งเข้ามากอดไทม์เมอร์

มินิต: แงๆๆ พี่จ๋า หนูกลัวจังเลย...!! .·´¯`(>▂<)´¯`·.

ไทม์เมอร์: มันเกิดอะไรขึ้นกับเธองั้นเหรอ??

แล้วเธอก็เล่าเหตุการณ์เมื่อสักครู่ให้ฟัง

ไทม์เมอร์: อย่างนี้เอง ได้โปเอ็ตจังช่วยชีวิตไว้สินะ ^_^

แล้วโปเอ็ตก็รู้สึกเขิน และพลางเกาหัว

โปเอ็ต: แฮะๆ มันเป็นหน้าที่ของนางฟ้าผู้ใจบุญอย่างฉันอยู่แล้วล่ะ ^_^;

มินิต: แล้วพี่เองก็หนีออกมาจากเมืองนั้นเหมือนกันเหรอ?

ไทม์เมอร์: อืม!! พวกมันบุกมาถล่มเมืองตอนที่พี่สอบระดับ 6 ผ่านพอดีเลยล่ะ!

มินิต: แล้ว... พี่รู้หรือเปล่าว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับ "ร่างกาย" ของหนูงั้นเหรอ? ทำไมบางทีหนูรู้สึกเหมือนอยู่ๆ ก็มีใครบางคนมา "ควบคุม" เลยล่ะ! แล้วพอรู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้ มันเริ่มมีอาการนี้ตั้งแต่ที่หนูไปยัง สุสาน CS แล้วไปเจอกับตัวอะไรก็ไม่รู้เข้า...

ไทม์เมอร์พลางถอนหายใจแล้วตอบ

ไทม์เมอร์: อืม... คงถึงเวลาต้องเล่าเรื่องนั้นแล้วสินะ

--------------------------------------------------------------------------------

กลับมาทางพวกป๊อปเปอร์ส ในที่สุดก็ได้บุกมาจนถึงชั้นสุดท้ายของปราสาท

ทั้งสามได้วิ่งตรงเข้าไปยังห้องหนึ่ง และเมื่อเข้ามาถึงทั้งสามจึงหยุดเพื่อมองสำรวจภายในห้อง

อาร์ค: ที่นี่แหละ คือสถานที่ปิดผนึกจอมมาร

ภายในห้องเป็นลักษณะห้องโถงขนาดใหญ่ บริเวณพื้นมีพรมสีแดงที่ทอดจากทางเข้าตรงยาวไปยังรูกุญแจขนาดใหญ่ที่อยู่บนกำแพงด้านในสุดของห้อง โดยพื้นที่บริเวณรูกุญแจนั้นมีชั้นบันไดยกระดับขึ้นมาเล็กน้อย และด้านบนของกำแพงรูกุญแจนั้นมีกระจกทรงวงรีแนวตั้งขนาดใหญ่อยู่ด้านบน

ป๊อปเลิฟ: ตรงนั้นคือ "บล็อกกี้ล็อค" สินะ ในที่สุดก็มาถึงสักที! ^_^

ป๊อปพีช: อืม!! ได้เวลามาทำวันนี้ให้เป็นตำนานกันแล้วล่ะ!

แล้วอาร์คก็นำนาฬิกาถือออกมาดูอีกครั้ง

อาร์ค: เหลืออีก 10 นาที พวกเจ้ารีบนำซิลลี่คีย์ไปเสียบกับ บล็อกกี้ล็อค ที่อยู่ตรงนั้นกันเลยเถอะ!

แล้วทั้งสามจึงเดินเข้าไปยังบริเวณรูกุญแจนั้น เพื่อที่จะนำซิลลี่คีย์ไปเสียบ

แต่ทว่า.. ยังไม่ทันที่จะเดินเข้าไปถึง อยู่ๆ ก็มีเสียงปริศนาเรียกขึ้นมา

"ฮ่าๆๆ นึกอยู่แล้วว่าพวกเจ้าต้องมาที่นี่!"

เมื่อได้ยินทั้งสามจึงหยุดทันที แล้วจากนั้นก็ได้ปรากฏร่างของคนๆ หนึ่งออกมาตรงหน้าพวกเขา

ป๊อปพีช: ห๊ะ!? (⊙_⊙;)

อาร์ค: ไม่จริงน่ะ!? (⊙_⊙;)

เซ็นต์ทานัวร์: ฮ่าๆๆ ...ข้าคิดอยู่แล้วเชียวว่าทำไมมันรู้สึกแปลกๆ ข้าก็เลยลองกลับมาเช็คที่นี่ดูยังไงล่ะ! และก็เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิดจริงๆ !!

อาร์ค: ทำไม.. เจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?? เจ้าอยู่บนยานแม่ลำนั้นไม่ใช่เหรอ?

เซ็นต์ทานัวร์: ใช่! ตอนที่ข้าบุกมายังเมืองหลวงข้าอยู่บนยานแม่ลำนั้น แต่ข้าสามารถใช้พลัง "วาร์ป" ไปที่ไหนก็ได้ยังไงล่ะ!! ฮ่าๆๆ ♪(^∇^*)

ป๊อปพีช: โห!! ขี้โกงนี่หนา!! ヽ(≧□≦)ノ

เซ็นต์ทานัวร์: เอาล่ะๆ ..ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายนะ ส่งกุญแจซิลลี่คีย์มาให้ข้าซะดีๆ แล้วข้าจะยอมถอยทัพกลับไปแต่โดยดีเลย!

ป๊อปพีช: ฉันไม่เชื่อคำพูดของแกหรอก!!

ป๊อปเลิฟ: ใช่! พวกเราคิดว่านายต้องนำซิลลี่คีย์นั้นไปทำอะไรสักอย่างเพื่อกลับมาบุกเมืองอีกแน่ๆ

เซ็นต์ทานัวร์: โธ่! ดื้อด้านกันจริงๆ นะ! ...ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องแย่งมาด้วยกำลังแล้วล่ะ!!

แล้วจากนั้นก็เกิดหลุมเวทมนตร์สีดำขึ้นบนอากาศตรงหน้าระหว่างสองฝ่าย แล้วจากนั้นก็มีสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่โผล่ออกมาจากหลุมนั้น ก่อนที่หลุมจะหายไปอีกที

สัตว์ประหลาดมีรูปร่างคล้ายมนุษย์ขนาดยักษ์มีเขาอยู่บนหัวสองอันและถือขวานขนาดใหญ่เป็นอาวุธ ทั้งสามจึงตั้งท่าเตรียมสู้

เซ็นต์ทานัวร์: ฮ่าๆ แล้ว เซ นี่ก็เป็นข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์ดีจริงๆ นะ ..เอาล่ะ! ไปจัดการมันซะ!!

แล้วสัตว์ประหลาดก็พุ่งเข้ามาโจมตีด้วยความเร็ว แต่ทั้งสามหลบไปได้

อาร์คยิงธนูสวนกลับไปเป็นชุดคอมโบต่อเนื่อง แต่ก็เหมือนว่ามันจะไม่สะท้านเลยแม้แต่น้อย

แล้วสัตว์ประหลาดก็ใช้ท่าปล่อยลูกพลังออกจากขวานมาใส่อาร์ค แต่เขาก็ยังหลบไปได้

ป๊อปพีช: เลิฟ!! ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว รีบมาใช้นั่นกันเลยเถอะ!!

ป๊อปเลิฟ: อืม!!

แล้วทั้งคู่ก็เรียกเกียร์วิเศษออกมาจากเข็มกลัดบนชุด โดยมีลูกพลังออกมาจากเข็มกลัด ก่อนที่ลูกพลังทั้งสองจะเข้ามาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน แล้วจากนั้นลูกพลังก็แปลงสภาพกลายเป็นเกียร์อีกที

จากนั้นทั้งคู่มายืนอยู่หน้าเกียร์วิเศษด้วยกันเพื่อเตรียมเริ่มเล่นป๊อปปิน

ป๊อปพีช: ถ้าอยากสู้กับพวกเรา ก็มาสู้กันด้วยเสียงเพลงสิ!!

ป๊อปพีชประกาศอย่างมั่นใจพลางชี้นิ้วไปทางเซ็นต์ทานัวร์

เซ็นต์ทานัวร์: โอะโอ.. อยากจะให้สู้กันด้วยป๊อปปินแบทเทิลเหรอ งั้นก็จัดไป!

แล้วสัตว์ประหลาดก็เปลี่ยนเป้าหมายมาทางป๊อปเปอร์ส

ป๊อปเลิฟ/พีช: Let's pop'n music together! O(∩_∩)O

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มเล่นป๊อปปินด้วยเกียร์ตัวเดียวกัน โดยแบ่งกันกดปุ่มคนละฝั่ง

===== POP'N BATTLE =====
POPPERS vs Diaro
Rage Of Demon / NieN
===== END BATTLE =====

ผลการแข่งขัน ป๊อปเปอร์สเป็นฝ่ายชนะ

หลังจากที่สัตว์ประหลาดแพ้แล้ว ก็เกิดลำแสงพุ่งออกมาจากตัวที่ละจุดรอบๆ ตัว ก่อนที่ร่างจะแตกสลายกลายเป็นสะเก็ดไฟจำนวนมาก แล้วสะเก็ดไฟก็ค่อยๆ ลอยขึ้นไปอย่างช้าๆ และค่อยๆ เลื่อนหายไปในที่สุด

เซ็นต์ทานัวร์: มะ... ไม่มีทาง... เป็นไปไม่ด้ายยยยยยยย!! ╰(艹皿艹 )

ทานัวร์ตะโกนด้วยความตะลึง

เซ็นต์ทานัวร์: ถ้าอย่างงั้นก็คงต้องถึงคราวข้าออกโรงเองบ้างแล้วล่ะ!

อาร์ค: แกทำอะไรต่อไม่ได้อีกแล้วล่ะ!

อาร์คที่โผล่มาแบบไม่ทันตั้งตัว ใช้ธนูจ่อไปทางทานัวร์ ทำให้เขานิ่งไปชั่วขณะเพราะหนีไปไหนไม่ได้

ขณะเดียวกันป๊อปเปอร์สก็อาศัยโอกาสนี้นำซิลลี่คีย์ไปเสียบเข้ากับบล็อกกี้ล็อค โดยที่ทานัวร์ไม่รู้ตัว

ทั้งคู่นำซิลลี่คีย์เสียบเข้าไปด้วยกัน แล้วจากนั้นก็เกิดลำแสงออกมาจากรูบล็อกกี้ล็อค ก่อนที่ร่างของทานัวร์จะถูกปกคลุมไปด้วยแสงสว่าง

เซ็นต์ทานัวร์: อ้ากกกกกกกกกกกก!!

ทานัวร์ร้องลั่น ก่อนที่เขาจะถูกส่งเข้าไปขังอยู่ในกระจกบานใหญ่ที่อยู่เหนือบล็อกกี้ล็อค

ป๊อปพีช: สะ... สำเร็จแล้ว!! \^o^/

ป๊อปเลิฟ: ในที่สุดพวกเราก็ปิดผนึกจอมมารได้แล้วล่ะ!! \^o^/

ส่วนอาร์คก็พลางยิ้มเล็กน้อย

เซ็นต์ทานัวร์: ฮ่าๆๆ ... ฮ่าๆๆๆ !!!

ทานัวร์ที่ถูกขังอยู่ในกระจกหัวเราะออกมา

ป๊อปพีช: ห๊ะ!? ยังจะหัวเราะอะไรอีก??

เซ็นต์ทานัวร์: พวกเจ้าช้าไปซะแล้วล่ะ ตอนนี้ "อาวุธสุดท้าย" เตรียมตัวยิงไปยังเมืองหลวงแล้ว ไม่มีใครหยุดมันได้แล้ว!! ฮ่าๆๆ !! (^▽^)

ป๊อปเลิฟ/พีช: เอ๋!?? ∑(°ロ°)

จากนั้นอาร์คก็นำนาฬิกาถือออกมาดูอีกครั้ง พบว่าหมดเวลาแล้วจริงๆ !

--------------------------------------------------------------------------------

ทางด้านมินิต

มินิต: หมายความว่า "ภารกิจพิเศษ" ที่สองคู่หูเคยบอกไว้ตอนนั้น ก็คือไปทำลาย "กลไก" ที่สุสาน CS เพื่อให้หนูกลับเป็นเหมือนเดิมใช่ไหม??

ไทม์เมอร์: ใช่แล้วล่ะ!! (^_<)☆

แต่ทว่ายังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้คุยต่อ ก็เกิดแสงประหลาดขึ้นมายังบนท้องฟ้าภายในเขตเมือง ทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นั่นหันไปมอง

ไทม์เมอร์: หรือว่า...!? ∑(°ロ°)

ไอซ์: รีบหนีกันเถอะ!!

แต่ทว่าโปเอ็ตกลับพยายามบินเข้าไปในเขตเมือง

ไทม์เมอร์: อ่ะ! จะไปไหนน่ะ??

โปเอ็ต: ฉันอยากจะไป.. ช่วยทุกคน!

ไอซ์: แต่นั่นมันเป็น "อาวุธสุดท้าย" นะ ถ้ากลับไปก็มีแต่ตายเปล่าๆ !

แต่โปเอ็ตก็ไม่สนใจคำเตือน แล้วมุ่งหน้าไปยังเขตเมือง

เธอมาหยุดอยู่ที่ยอดปราสาทของไดโนใจกลางเมือง ก่อนที่จะหลับตาลงพลางท่องอะไรบางอย่างในใจ

โปเอ็ต: คุณแม่คะ... หนูอยากช่วยทุกคนให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์ในครั้งนี้... โปรดช่วยมอบพลังให้กับฉันด้วย!!

แล้วจากนั้นเธอก็เปล่งแสงอ่อนๆ ออกมารอบตัว และในขณะเดียวกันทุกคนที่อยู่ภายในเมืองรวมถึงพวกไทม์เมอร์ที่อยู่นอกเมือง ก็มีลูกไฟสีทองเล็กๆ ลอยออกมาจากตัว ก่อนที่ลูกไฟนั้นจะพุ่งขึ้นไปบนอากาศ

ซึ่งลูกไฟทั้งหมดที่ลอยออกมาจากผู้คนได้เดินทางไปหาโปเอ็ต ทำให้ดูสว่างไสวไปทั่วทั้งเมืองและสวยงามเป็นอย่างมาก และลูกไฟจำนวนมากทั้งหมดได้ลอยเข้ามารวมที่ตัวเธอจากทุกทิศทาง

แล้วจากนั้นสักพักเธอก็ถูกปกคลุมไปด้วยแสงสว่าง ก่อนที่จะ "แปลงร่าง" เป็นอะไรบางอย่าง

[เพลงประกอบ Angel / Laurent Newfield & Ravenant]

เมื่อแสงสว่างจางหาย เธอได้กลายร่างเป็นชุดนักรบหุ้มเกราะ มีหมวกเหล็กที่มีหน้ากากปิดบริเวณดวงตาเพิ่มขึ้นมา และปีกที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม

โปเอ็ต: ความรู้สึกนี้... มันอะไรกันเนี่ย!? รู้สึกเหมือนมีพลังมหาศาลเลยล่ะ!!

โปเอ็ตพลางสำรวจตัวเองในชุดนักรบ ก่อนที่จะหันไปมองบนท้องฟ้า

ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่บนท้องฟ้ามีลำแสงขนาดใหญ่ที่กว้างประมาณสนามบิน พุ่งลงมาจากหลุมบนฟ้าพอดี

เธอได้บินเข้าไปปะทะกับลำแสงนั้นโดยใช้พลังบาเรียที่สร้างขึ้นจากฝ่ามือทั้งสองข้างต้านทานไว้ ทำให้ลำแสงไม่พุ่งลงไปแตะพื้นดิน

ระหว่างการปะทะตัวเธอค่อยๆ ถูกลำแสงดันลงมาอย่างช้าๆ ในช่วงแรก แต่ในเวลาต่อมาเธอก็สามารถค่อยๆ ดันมันกลับขึ้นไปได้

และหลังจากนั้นไม่นาน ลำแสงก็ค่อยๆ หุบลงจนหายไปในที่สุด และหลังจากนั้นท้องฟ้าก็ค่อยๆ กลับมาเป็นสภาพแจ่มใสเหมือนเดิม (หลุมมิติบนฟ้าหายไป)

[END MUSIC]

หลังจากภารกิจปกป้องเมืองจากอาวุธสุดท้ายเสร็จสิ้น โปเอ็ตก็รู้สึกเหนื่อยหอบ ก่อนที่จะกลับเป็นร่างเดิม พร้อมกับหมดสติและร่วงลงสู่พื้น...

--------------------------------------------------------------------------------

เวลาต่อมา เมื่อเธอฟื้นขึ้นมาสิ่งแรกที่เห็นตรงหน้าคือ มิมิกับเนียมิ ที่กำลังจ้องมองเธออยู่ (ซึ่งในตอนนี้ทั้งสองกลับเป็นร่างเดิมแล้วเช่นกัน )

มิมิ: โปเอ็ตจัง!! ( ゚д゚)

โปเอ็ตค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา

เนียมิ: ไม่เป็นไรใช่ไหม?

โปเอ็ต: ห๊ะ.. พวกเธอ...

โปเอ็ตหันไปมองโดยรอบเพื่อดูว่าตัวเองกำลังอยู่ที่ไหน พบว่าเธออยู่บนเตียงภายในห้องหนึ่งของปราสาทของไดโน

ไดโน: โอวโห้!! สุดยอดไปเลยนะ!!

ไดโนเดินเข้ามาหาโปเอ็ตที่อยู่บนเตียง

โปเอ็ต: พี่ไดโน!

ไดโน: เมื่อกี้นี้... เธอกลายร่างเป็น "Heavenly Guardian" นักรบเทวะในตำนาน และสามารถใช้พลังนั้นปกป้องเมืองจากอาวุธสุดท้ายได้!! (ʘ╻ʘ)

ไดโนพลางดูข้อมูลในหนังสือเก่าๆ เล่มหนึ่ง

โปเอ็ต: เอ๊!? จริงเหรอคะ!?

ไดโน: อืม!! ก็เมื่อกี้นี้ เธอได้ภาวนาว่า อยากจะปกป้องเมืองแห่งนี้ใช่ไหมล่ะ?

โปเอ็ตพยักหน้า

ไดโน: นั่นแหละ เพราะด้วย "พลังแห่งความหวัง" ที่ทุกคนพร้อมใจกันมอบมาให้ มันเลยทำให้เธอสามารถกลายร่างเป็นนักรบเทวะได้ยังไงล่ะ!! (ʘ╻ʘ)

โปเอ็ต: แล้ว... นักรบเทวะนั่น มันคืออะไรกัน?

"เอาไว้ถึงเวลานั้นแล้วแม่จะบอกเอง..."

อยู่ๆ ก็มีเสียงของคุณแม่โปเอ็ตดังขึ้นมาจากไหนไม่ทราบ ซึ่งทุกคนได้ยินกันทั้งหมด

โปเอ็ต: คุณแม่คะ??

"ตอนนี้ลูกยังเด็กอยู่ ยังคงไม่ถึงเวลาที่จะต้องไปผจญกับอันตรายใดๆ เพราะฉะนั้น จงทำในสิ่งที่พอจะทำได้ในตอนนี้เท่านั้นนะ"

โปเอ็ต: คะ! หนูเข้าใจแล้วค่ะ!!

"ถ้าอย่างงั้น ก็ขอให้โชคดีกับการเรียนรู้โลกกว้างต่อนะ!"

มิมิ เนียมิ พยายามหันซ้ายหันขวา แต่ก็ไม่เห็นใครที่เป็นเจ้าของเสียงนี้

เนียมิ: เสียงเมื่อกี้นี้ คุณแม่ของเธอเหรอ?

มิมิ: พวกเราเองก็ได้ยินด้วยเหมือนกันนะ!

โปเอ็ต: อืม! ใช่แล้วล่ะ ท่านเป็นคนอ่อนโยนและก็รักหนูมากๆ เลยล่ะ!! *^____^*

ไดโน: เอาล่ะ! เพื่อเป็นการฉลองชัยชนะของฮีโร่ผู้ที่สามารถปิดผนึกจอมมารได้สำเร็จอีกครั้ง ข้าจะขอมอบรางวัลให้กับพวกเจ้าทั้งสอง! และพวกเจ้ายังได้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของอาณาจักรเทพนิยายอีกด้วยนะ!

แล้วพวกองครักษ์ก็นำสิ่งของบางอย่างมามอบให้ เป็นเหรียญรางวัลเกียรติยศ

มิมิ: ว้าว!! ได้เหรียญเกียรติยศด้วย (≧∀≦)

เนียมิ: หรือนี่หมายความว่า...?

ไดโน: ใช่แล้วล่ะ! ^_^ ข้าจะให้พวกเจ้าเลื่อนระดับเป็นเพลเยอร์ระดับ 6 ในทันที โดยที่ไม่ต้องมีการทดสอบใดๆ เป็นกรณีพิเศษ!

มิมิ: จริงเหรอค่ะ!? งั้นก็ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงด้วยนะคะ!! (*^▽^*)

PROMOTED TO LEVEL 6 !

ไดโน: เอาล่ะ!! เพื่อเป็นการส่งท้าย ข้าจะจัดงานเลี้ยงฉลองให้กับผู้กล้าทั้งสองและทุกคนที่อยู่ที่นี่เลย!!

--------------------------------------------------------------------------------

และแล้วงานเลี้ยงก็ได้เริ่มต้นขึ้นในช่วงค่ำคืนนั้นทันที เป็นลักษณะงานเลี้ยงเต้นรำ มีโต๊ะอาหารตั้งอยู่เต็มห้อง ซึ่งมีชุดอาหารบุฟเฟ่ต์แบบบริการตนเอง และมีพื้นที่่ที่ให้แขกมาเต้นลีลาศคู่กันได้ และมีเพลงบรรเลงจากวงดนตรีคลาสสิคให้ฟัง

เนียมิ: ว้าว!! ไม่ได้กินบุฟเฟ่ต์แบบนี้มานานแล้วล่ะ!! (*^_^*)

มิมิ: แถมยังเป็นบุฟเฟ่ต์ระดับราชวังอีกด้วยนะ (*^_^*)

แล้วทั้งสองก็กินอาหารบุฟเฟ่ต์กันอย่างมีความสุข

ทางด้านไทม์เมอร์กับไอซ์ที่ยืนอยู่ข้างกำแพงห้องของมุมหนึ่ง

ไอซ์: ก็จบไปอีกคดีหนึ่งนะ

ไทม์เมอร์: นั่นสินะ...

แล้วไทม์เมอร์ก็จ้องมองดูเนียมิที่กำลังกินอาหารอยู่กับมิมิอย่างไม่วางสายตา

ไทม์เมอร์: (จริงด้วยสินะ... ป๊อปพีชแท้จริงแล้วก็คือส่วนหนึ่งของเนียมิจัง ไม่ว่าเธอจะอยู่ในร่างไหน เธอก็ยังคงเป็นเนียมิจังที่ร่าเริงและห้าวหาญเหมือนเดิม แต่ว่าทำไมผมถึงหลงรักป๊อปพีชมากกว่าได้นะ? รู้สึกบ้ากับตัวเองจริงๆ ... เพราะฉะนั้น คงถึงเวลาแล้วที่ผมต้อง...)

มินิต: พี่คะ?

มินิตเดินเข้ามาหาไทม์เมอร์ ทำให้ความคิดของเขาหยุดชะงัก

ไทม์เมอร์: ห๊ะ? มินิตจัง

มินิต: เป็นอะไรไปเหรอคะ? ทำไมถึงต้องทำหน้าตาน่ากลัวขนาดนั้นด้วยล่ะ? >﹏<

ไทม์เมอร์: อะ! ∑(°ロ°) ขอโทษนะ พอดีกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ ก็เลยเผลอทำหน้าซีเรียสไปโดยไม่รู้ตัว แฮะๆ o(* ̄▽ ̄*)ブ

มินิต: อย่างงั้นเองหรอกเหรอ โธ่... แต่ก็ดีแล้วละนะ ที่ไม่มีเรื่องกลุ้มใจอะไร ^_^ เอ่อ! ไหนๆ ก็ได้กลับมาเจอกันทั้งที หนูอยากเต้นลีลาศกับพี่สักเพลงนะ! O(∩_∩)O

ไทม์เมอร์: เออ ได้สิ..! (*^_^*)

แล้วทั้งสองก็ไปยังโซนเต้นรำที่อยู่หน้าเวที

ไอซ์: เฮ่อ ㄟ( ▔, ▔ )ㄏ ช่วยไม่ได้นะ...

ไอซ์รู้สึกเซ็งเพราะอะไรบางอย่าง...

แต่ทว่ายังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้เริ่มเต้นกัน อยู่ๆ โปเอ็ตก็ถือไมค์แล้วขึ้นไปบนเวที ทำให้การแสดงดนตรีต้องหยุดชะงักลง

โปเอ็ต: เดี๋ยวก่อนสิ แล้วฉันล่ะ!?

โปเอ็ตพูดผ่านไมค์ ทำให้ทุกคนในห้องได้ยินทั้งหมด

"นี่หนู ขึ้นมาบนนี้ไม่ได้นะ!"

องครักษ์คนหนึ่งเข้ามาห้าม

โปเอ็ต: แต่ฉันเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ในครั้งนี้เหมือนกันนะ! (゚Д゚*)ノ

ไดโน: พอเถอะๆ ปล่อยให้นางทำตามใจอยากไปก็แล้วกัน

ไดโนสั่งองครักษ์คนนั้น ทำให้เขาถอยออกห่างโปเอ็ตไป

โปเอ็ต: เออ... ต้องขออภัยที่มาขัดจังหวะการเต้นรำด้วยนะคะ แต่หนูมีเรื่องหนึ่งที่อยากจะบอกให้ได้... คือที่จริงแล้ว หนูอยากจะขอขอบคุณผู้ที่เคยช่วยชีวิตไว้เมื่อครั้งแรกที่หนูลงมาศึกษาเล่าเรียนที่โลกมนุษย์ เขาผู้นั้นก็คือ มิมิกับเนียมิ ผู้กล้าผู้ปิดผนึกจอมมารค่ะ และเพื่อเป็นการตอบแทนในเรื่องดังกล่าว หนูอยากจะขอมอบบทเพลงนี้ให้กับทั้งสอง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านที่อยู่ที่นี่คงจะชอบเพลงของหนูด้วยนะ! (∩_∩)

แล้วเธอก็เริ่มร้องเพลงที่เตรียมมา

===== POP'N MUSIC =====
Eternal Fantasy (Poet Vocal Mix) / XeoN
===== END MUSIC =====

และหลังจากที่เพลงจบลง ทุกคนก็ต่างปรบมือให้ ทำให้เธอรู้สึกตื้นตันใจจนน้ำตาไหลออกมา

และภายนอกปราสาทก็ได้มีการแสดงดอกไม้ไฟเพื่อเป็นการฉลองชัยชนะในวันนี้อีกด้วย เป็นดอกไม้ไฟที่สวยงามและสว่างไสวไปทั่วทั้งเมือง

และสิ่งที่สำคัญที่สุด วีรกรรมของทั้งสองในวันนี้ก็ได้ถูกบันทึกลงในหนังสือประวัติศาสตร์อาณาจักรเทพนิยายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเรื่องราวทั้งหมดก็จะเป็นที่จดจำตลอดไป...

--------------------------------------------------------------------------------

ช่วงเช้าของวันต่อมา ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ มิมิกับเนียมิ ต้องออกเดินทางไปยังเมืองถัดไปแล้ว โดยขณะนี้ทั้งสองได้นั่งอยู่บนรถไฟที่กำลังเตรียมรอออกจากสถานี (ซึ่งตอนนี้ทั้งสองได้กลับมาใส่ชุดลำลองเหมือนเดิมแล้ว )

เนียมิ: น่าเสียดายจังนะ ที่พวกเราไม่มีโอกาสได้แข่งกับลีดเดอร์ของเมืองนี้

มิมิ: อืม! แต่ก็ดีแล้วล่ะที่พวกเราได้เลื่อนเป็นระดับ 6

เนียมิ: เฮ่อ.. อยากรู้จังเลยว่าลีดเดอร์ของเมืองนี้หน้าตาเป็นแบบไหนกันนะ?

มิมิ: ฉันคิดว่าคงเป็นพวกแม่มดไม่ก็อัศวินแน่ๆ เลยล่ะ ^_^ (เข้ากับธีมของเมืองนี้ด้วย)

เนียมิ: นั่นสินะ ^_^

ไทม์เมอร์: (^U^)ノ~ไง! เนียมิจัง!!

ไทม์เมอร์ที่เพิ่งขึ้นรถไฟมาในภายหลัง ได้เดินเข้ามาพบกับทั้งสองโดยบังเอิญ

เนียมิ: อ้าว! ไทม์เมอร์!! Σ( °Д°)

ไทม์เมอร์: ฮ่าๆ ^_^ บังเอิญจังเลยนะที่ได้มานั่งบนรถไฟขบวนเดียวกันด้วย

มิมิ: อืม! อรุณสวัสดิ์ด้วยนะ แล้วมินิตจังล่ะ?

มิมิสังเกตเห็นว่าไม่มีมินิตตามมาด้วย

ไทม์เมอร์: คือว่า... เมื่อเช้านี้ เธอหายตัวไปอีกแล้วล่ะ... (˘・_・˘)

เนียมิ: แสดงว่าคงถูกเจ้าตัวประหลาดที่คล้ายเทวทูตเข้าสิงอีกแน่ๆ เลยล่ะ

ไทม์เมอร์: อืม! แต่ตอนนี้ผมไม่เป็นไรแล้ว เพราะยังไงสักวันหนึ่งพวกเธอทั้งสองต้องช่วยน้องสาวของผมให้กลับเป็นเหมือนเดิมได้อย่างแน่นอน! O(∩_∩)O

มิมิ: อืม! พวกเราจะพยายามจ๊ะ (^_<)☆

และหลังจากนั้นรถไฟก็เริ่มเคลื่อนขบวนออกจากสถานีไป ส่วนไทม์เมอร์ก็เดินไปยังที่นั่งของตนซึ่งอยู่คนละตู้กับพวกเธอ

เนียมิ: แต่ก็รู้สึกเสียดายอยู่อีกเรื่องด้วยนะ ที่พวกเราไม่ได้ใส่ชุดจอมเวทแล้ว

มิมิ: อืม! แต่ไม่เป็นไร เพราะฉันเตรียมชุดพิเศษสำหรับเมืองถัดไปแล้วล่ะ! (^_<)☆

เนียมิ: เอ๊!? Σ( °_°) เมืองถัดไปยังต้องใส่ชุดพิเศษอีกเหรอ!? แล้วเป็นชุดแบบไหนล่ะ??

มิมิ: ที่จริงแล้วเมืองถัดไปไม่จำเป็นต้องใส่ชุดพิเศษก็ได้ แต่ฉันอยากจะใส่เพื่อให้เข้ากับสถานที่น่ะ ..นี่ไง!

มิมินำชุดที่พับใส่ไว้ในถุงออกมาให้เนียมิดู เป็นชุดเสื้อกล้ามสีเหลืองกับฟ้า

เนียมิ: เอ๊!? มันก็ชุดลำลองปกตินิ?

มิมิ: แต่มันไม่ใช่ชุดลำลองทั่วไปนะ เพราะชุดนี้ฉันเป็นคนเลือกมาเองกับมืออีกด้วยนะ

เนียมิ: แต่มันก็คือชุดลำลองปกตินั่นแหละ ไม่เห็นจะดูพิเศษตรงไหนเลย!

มิมิ: ง๊ะ!! เนียมิจังใจร้าย ฉันอุส่าใช้เวลาเลือกนานมากเลยนะ ヽ(*。>Д<)o゜

เนียมิ: ก็ได้ๆ ฉันเชื่อแล้วก็ได้ว่าเป็นชุด "พิเศษ" จริงๆ ^_^

และแล้วการผจญภัยในอาณาจักรเทพนิยายก็ได้ปิดฉากลงอย่างสวยงาม และสถานที่ต่อไปของพวกเธอจะเป็นแบบไหนกันนะ?




>>>>> TO BE CONTINUED <<<<<

--------------------------------------------------------------------------------

Get Reward:
STAGE 1B is now Unlocked!!