20 สิงหาคม 2565

pop'n music RESPECT : STAGE 32 「ป่าแห่งความฝัน」

ช่วงเช้าตรู่ของวันต่อมา ภายในมายแคมป์ของทั้งสอง

ในวันนี้เนียมิได้เสนอตัวเป็นคนทำอาหารมื้อแรกของวันให้ ทำให้มิมิรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก เพราะปกติทุกครั้งมิมิมักจะเป็นคนทำให้มาโดยตลอด

มิมิ: เอ๋?? (⊙_⊙;) เธอจะเป็นคนทำอาหารเช้าเหรอ?! (แปลกนะเนี่ย)

เนียมิ: แน่นอน! เพราะฉันรู้สึกว่าให้มิมิจังเป็นคนทำให้ทุกเช้าอยู่ฝ่ายเดียวมันก็ออกจะดูเกรงใจไปหน่อย วันนี้ฉันก็เลยกะว่าจะลองเป็นคนทำให้แทนดูบ้าง (∩_∩)

มิมิ: งั้นก็ขอบใจนะ เอาเป็นว่าหลังจากนี้พวกเรามาผลัดเวรกันทำอาหารเช้าไปเลยก็แล้วกันนะ!

เนียมิ: โอเค!! (∩_∩)

แล้วหลังจากนั้นเนียมิก็เดินไปยังพื้นที่ครัวเพื่อทำอาหารเช้า

เวลาผ่านไปไม่นาน เนียมิก็ได้ทำไข่ดาวและไส้กรอกที่เสิร์ฟพร้อมกับโกโก้ร้อน

เนียมิ: เอาล่ะ เสร็จเรียบร้อย! (☆▽☆) (เราเองก็มีฝีมือเหมือนกันนะเนี่ย)

จากนั้นเนียมิก็เดินกลับมายังโต๊ะอาหารพร้อมกับถือถาดอาหารมาด้วย

แต่ทว่า...! ในขณะที่กำลังจะเดินมาใกล้โต๊ะได้เพียงแค่ไม่กี่อีกก้าวเท่านั้น เธอก็บังเอิญไปเดินสะดุดกับอะไรบางอย่างเข้า ทำให้ถาดอาหารที่ถือมาค่อยๆ ลอยหลุดมือออกไป

เนียมิ: อ๊า!? o((⊙﹏⊙))o

แล้วจากนั้นถาดอาหารก็ได้ร่วงลงสู่พื้น ทำให้อาหารที่ทำมาทั้งหมดเละเทะในทันที เมื่อมิมิเห็นดังนั้นเธอจึงรีบลุกจากโต๊ะเพื่อมาดูใกล้ๆ

เนียมิ: โธ่.. หมดกัน ~(>_<。)\

มิมิ: ทำไมเธอถึงซุ่มซ่ามอย่างนี้เนี่ย  ̄へ ̄

เนียมิ: เขาขอโทษนะ มันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ตกจริงๆ เลยนะ

แล้วจากนั้นมิมิก็สังเกตเห็นว่า บนกองจานและแก้วที่ร่วงอยู่บนพื้นนั้นมีแก้วใบหนึ่งที่ได้แตกไปแล้วเรียบร้อย

มิมิ: อ่ะ!? แก้วของฉัน!! ∑(°ロ°)

มิมิรีบเข้าไปดูเศษแก้วที่แตกออก พบว่าเป็นแก้วมายเมโลดี้สุดรักสุดหวงของเธอนั่นเอง!!

จากนั้นน้ำตาของมิมิก็ค่อยๆ ไหลออกมา ก่อนที่จะหันมาหาเนียมิด้วยความโกรธ

มิมิ: เป็นเพราะเธอแท้ๆ เลย แก้วมายเมโลดี้แสนแพงที่ฉันอุส่าอดออมเก็บเงินซื้อเอง แตกไปเลยเห็นไหม!! ヽ(*。>Д<)o゜

เนียมิ: คือว่าฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะ มันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ <(_ _)> (สาบานได้)

มิมิ: เธอไม่ต้องมาแก้ตัวเลย เป็นเพราะความซุ่มซ่ามของเธอเองนั่นแหละ ...เมื่อคราวก่อนเธอก็เล่นเกมแล้วเผลอมาเซฟทับไฟล์ของฉัน จนฉันต้องเริ่มเล่นใหม่หมดตั้งแต่ต้นเลยนะ!

เนียมิ: อ้าว! แต่ว่าตอนนั้นฉันเห็นว่าเธอไม่ได้เล่นเกมนั้นมาตั้งนานแล้ว ฉันก็เลยถือโอกาสเล่นเซฟเดิมต่อให้ เพื่อที่จะได้จบเกมได้เร็วขึ้นยังไงล่ะ

มิมิ: แต่ว่านั่นมันเป็นไฟล์เซฟของฉันนะ! เธอก็เล่นส่วนของเธอไปสิ!! ヽ(*。>Д<)o゜

เนียมิ: แต่ตอนที่เล่นเกม ร็อคแมน X9 เอ้ย! Hard Corps: Uprising ด้วยกัน เธอเองก็มาแย่ง 1UP ของฉันด้วยเหมือนกันนั่นแหละ!! (/// ̄皿 ̄)

มิมิ: ว่าไงนะ!! ヽ(≧□≦)ノ

แล้วทั้งสองก็เข้ามาประจันหน้ากันดุจสายฟ้า ก่อนที่ต่างคนต่างหันหน้าหนี

มิมิ/เนียมิ: เชอะ!! (˘︹˘ ) ( ˘︹˘)

--------------------------------------------------------------------------------



STAGE 32
「ป่าแห่งความฝัน」


--------------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่เสร็จสิ้นกิจวัตรแล้ว ก็ได้เวลาที่ทั้งสองออกเดินทางตามหาเศษลูกแก้วเวทมนตร์กันต่อ ...โดยที่เนียมิยังคงฉุนเฉียวอยู่

มิมิ: น่าๆ ฉันขอโทษนะ มันเป็นอารมณ์ชั่ววูบจริงๆ <(_ _)>

มิมิที่หายโกรธแล้วพยายามขอโทษเนียมิ แต่เนียมิก็ยังไม่สนใจในสิ่งที่เธอพูด

มิมิ: งั้นเอาอย่างนี้ เดี๋ยวหลังจากที่เสร็จภารกิจของวันนี้แล้ว ฉันจะพาไปเลี้ยงร้านปิ้งย่างแล้วกันนะ! โอเคไหม?

มิมิพยายามง้ออีกครั้ง แต่ก็ยังคงไม่ได้ผล

มิมิ: งั้นก็ตามใจ เดี๋ยวฉันไปกินคนเดียวก็ได้ เพราะฉันเองก็ไม่ได้เข้าร้านปิ้งย่างมานานแล้วซะด้วยสิ

และหลังจากที่เดินมาได้สักพัก ทั้งสองก็มาพบกับทางแยก

มิมิ: Σ( °_ °) เจอทางแยกซะแล้วแฮะ...

มิมิดูแผนที่จากมือถือเพื่อหาทางไปต่อ

มิมิ: ดูเหมือนว่าพวกเราต้องไปทางขวานะ

แล้วมิมิก็เดินไปทางแยกขวา แต่เนียมิกลับยังยืนอยู่หน้าทางแยก

มิมิ: Σ( °_ °) อ้าว! เป็นอะไรไปล่ะ?

มิมิหันกลับมาถามเนียมิ

เนียมิ: ฉันจะไปทางซ้าย... <(  ̄^ ̄)

เนียมิตอบด้วยเสียงเย็นชา

มิมิ: ตามใจ ถ้าเธอโกรธฉันมากขนาดนั้นล่ะก็ ฉันขอตัดขาดกับเธอตั้งแต่ตรงนี้เลยแล้วกันนะ! แล้วก็.. ถ้าเธอบังเอิญเจอฉันที่ไหน ก็อย่ากลับมาหาฉันอีกเด็ดขาดเลย เข้าใจแล้วนะ?

แล้วเนียมิก็เดินไปทางแยกซ้ายแบบไม่สนใจไยดี

จากนั้นมิมิจึงเดินหน้าต่อไป... แล้วแบบนี้เหตุการณ์จะเป็นยังไงกันต่อนะ?

--------------------------------------------------------------------------------

ทางด้านมิมิ ที่เดินทางต่อไปคนเดียวด้วยท่าทางเซ็งๆ

มิมิ: เฮ่อ... (;´д`)ゞ เจ้าหมอนี่ตื๊อยากจริงๆ แฮะ... (จะเคียดแค้นไปถึงไหนกันนะ)

มิมิพลางถอนหายใจ

มิมิ: แต่ก็เอาเถอะ.. โชคชะตามันได้กำหนดมาแล้วว่า ในท้ายที่สุดยังไงเราก็ต้องอยู่ตัวคนเดียวอยู่ดี (┬┬﹏┬┬) (เพราะเหตุนี้ ฉันก็เลยยังสมหวังในเรื่องความรักไม่ได้สักทียังไงล่ะ)

และในระหว่างที่กำลังเดินไปเรื่อยๆ นั้น เธอพบว่าเส้นทางข้างหน้าเป็นป่าทึบที่เต็มไปด้วยหมอก

มิมิ: รู้สึกว่า... เส้นทางต่อจากนี้จะเป็นเส้นทางอันตรายแล้วละนะ... (ToT)

มิมิกล่าวขึ้นด้วยเสียงเย็นชาราวกับกำลังหวาดกลัวอะไรบางอย่าง ก่อนที่เธอจะมุ่งหน้าเข้าไปยังป่าหมอกนั้น

--------------------------------------------------------------------------------

ทางด้านเนียมิที่แยกตัวมาอีกทาง

เนียมิ: ฮะฮ่า!! ^_^ ในที่สุดเราก็ได้เป็นอิสระเหมือนแมวจรสักที

เนียมิกล่าวด้วยความดีใจที่ได้แยกจากกับมิมิแล้ว

เนียมิ: เอาล่ะ!! ต่อจากนี้ ฉันจะต้องเป็นเจ้าแห่งป๊อปปินให้ได้เลย!! o(*°▽°*)o และก็... จะเอาชนะมิมิจังที่หักหลังเราให้ได้ด้วย!!

เนียมิกล่าวอย่างแรงกล้า แต่ความจริงแล้ว.. เนียมิเองแหละที่เป็นฝ่ายหักหลังมิมิ

และในระหว่างที่กำลังเดินไปเรื่อยๆ นั้น เธอก็ได้พบกับบุคคลที่แสนคุ้นเคยเดินสวนทางมาพอดี

เนียมิ: Σ( °_ °) อ้าว! ไทม์เมอร์!!

ไทม์เมอร์: Σ( °_ °) เนียมิจัง!!

แล้วทั้งสองก็เดินเข้ามาหากัน

เนียมิ: นายมาทำอะไรแถวนี้เหรอ?

ไทม์เมอร์: กำลังตามหาสมุนไพรเพื่อใช้ในภารกิจอยู่น่ะ แล้วเธอล่ะ?

เนียมิ: ฉัน เออ... กำลังเดินทางไปยังสถานที่ของภารกิจถัดไปน่ะ

ไทม์เมอร์: อ๋อ แต่ว่า...?

ไทม์เมอร์เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ เมื่อเนียมิไม่ได้เดินทางมากับมิมิด้วยเหมือนเช่นทุกครั้ง

ไทม์เมอร์: มิมิจังไม่ได้มาด้วยหรอกเหรอ? (⓿_⓿) (แปลกดีนะ?)

เนียมิ: อ่อ! มิมิจังกำลังแยกไปทำภารกิจของตัวเองอยู่น่ะ อีกสักพักก็คงกลับมาแล้วล่ะ มั้งนะ...?

ไทม์เมอร์: หมายความว่ายังไง?? (มันน่าสงสัยนะ)

เนียมิ: ก็แบบว่า.. กำลังตามหาไอเทมภารกิจอยู่ เหมือนกับที่ไทม์เมอร์คุงกำลังทำอยู่นี่ไง!

ไทม์เมอร์ถอนหายใจออกมา เพราะจับใจความบางอย่างได้ แล้วพูดว่า

ไทม์เมอร์: เฮ่อ... (;´д`)ゞ ผมว่าเธอคงมีเรื่องอะไรกับมิมิจังอยู่แน่ๆ เลยล่ะ ถึงได้แยกตัวออกมาแบบนี้!

เนียมิ: ปะ.. เปล่านะ! ไม่ใช่สักหน่อย!! `(*>﹏<*)′

ไทม์เมอร์: นั้นไงล่ะ!! ลักษณะการพูดดูมีพิรุธ แสดงว่าเธอทะเลาะกับมิมิจังสินะ? ยอมบอกความจริงมาเถอะน้า!

เนียมิ: ได้ๆ ฉันยอมบอกแล้วก็ได้... (;′⌒`)

แล้วเนียมิก็เล่าเรื่องเมื่อตอนเช้าให้ไทม์เมอร์ฟัง

ไทม์เมอร์: ฮ่าๆๆ ^_^ อะไรกัน แค่ทำแก้วแตกแค่นี้ก็กลายเป็นเรื่องบานปลายได้ขนาดนี้เลยเหรอ!?

เนียมิ: ก็เพราะว่านั้นมันเป็นของสำคัญของเธอน่ะสิ

จากนั้นไทม์เมอร์ก็คิดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง

ไทม์เมอร์: อืม... แล้วตอนนี้มิมิจังไปอยู่ที่ไหนล่ะ?

เนียมิ: ฉันเดินมากับมิมิจนมาถึงทางแยก มิมิเดินไปคนละทางกับฉันน่ะ และที่ยืนอยู่ตรงนี้ก็คือทางที่ฉันแยกตัวมา

จากนั้นไทม์เมอร์ก็ดูแผนที่ในมือถือเพื่อเช็คเส้นทาง สักพักเขาก็เกิดอาการตกใจออกมาเล็กน้อย

ไทม์เมอร์: ไม่จริงน่ะ?! นั่นมันเป็นสถานที่ๆ ผมกำลังจะไปอยู่พอดีด้วยสิ!!

เนียมิ: ไทม์เมอร์กำลังจะไปหาสมุนไพรที่เส้นทางเดียวกับมิมิเหรอ?

ไทม์เมอร์: อืม!! เส้นทางที่มิมิไป มันคือ "ป่าแห่งความฝัน" ซึ่งที่นั้นมีสมุนไพรที่สามารถนำมาใช้เป็นส่วนผสมของยาวิเศษได้อยู่ แต่ว่า.. ภายในป่านั้นว่ากันว่า หากใครได้ย่างก้าวเข้าไปในนั้นจะต้องพบกับภาพลวงตาบางอย่างด้วยน่ะสิ!!

เนียมิ: ภาพลวงตา!? (; °Д°)

ไทม์เมอร์: อืม!! ซึ่งเจ้าภาพลวงตานี้ฉันเองก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันคืออะไร แต่เท่าที่ฟังจากข่าวลือ มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รอดกลับออกมาได้ เพราะถูกภาพลวงตาทำให้หลงทางอยู่ในป่านั้นไปตลอดชีวิตเลยน่ะสิ!!

เนียมิ: งั้นแบบนี้ก็แย่แล้วสิ!! (; °Д°) มิมิจังอาจจะกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ได้นะ!

ไทม์เมอร์: อืม!! งั้นพวกเราก็รีบไปกันเถอะ!

เนียมิ: แต่ว่านะ... (˘・_・˘)

ไทม์เมอร์: มีอะไรอีกล่ะ?

เนียมิ: ตอนนี้ฉันหายโกรธมิมิแล้วก็จริง แต่มิมิบอกจะตัดขาดกับฉันทุกอย่างแล้ว ฉันรู้สึกกลัวมากที่ต้องไปเจอหน้ามิมิจังอีกครั้งน่ะ... (˘・_・˘)

ไทม์เมอร์: ไม่เป็นไรหรอก มีฉันอยู่ด้วยทั้งคน เดี๋ยวฉันจะช่วยหาทางทำให้เธอคืนดีกับมิมิจังให้เอง! (*^▽^*)

เนียมิ: อืม!! ขอบใจนะ เป็นเพราะนายแท้ๆ เลยที่ทำให้ฉันฉุกคิดและหายโกรธมิมิจังได้ ถ้าหากไม่เจอนายล่ะก็ ป่านนี้ฉันคงกลายเป็นแมวจรของจริงไปแล้วล่ะ!

ไทม์เมอร์: อืม!! งั้นก็ดีแล้วล่ะนะ แต่ตอนนี้พวกเราต้องรีบไปแล้วล่ะ!!

แล้วจากนั้นทั้งสองก็รีบมุ่งหน้าไปยัง "ป่าแห่งความฝัน"

--------------------------------------------------------------------------------

กลับมาทางมิมิ หลังจากที่เดินเข้ามาภายใน "ป่าแห่งความฝัน" แล้ว พบว่าภายในป่าเต็มไปด้วยหมอกตลอดทาง และมีบรรยากาศที่ดูมืดมิด ทั้งที่ยังเป็นเวลากลางวันอยู่ก็ตาม

เธอค่อยๆ เดินไปอย่างช้าๆ ด้วยความระแวง เพราะบรรยากาศที่ดูน่ากลัวประกอบกับไม่รู้ว่าเธอจะได้เผชิญกับอะไรข้างหน้า

มิมิ: รู้งี้ ฉันน่าจะไปทางเดียวกับเนียมิจังตั้งแต่แรกก็ดีแล้ว >﹏<

และระหว่างที่เดินไปได้สักพัก เธอก็ได้พบกับเงาแปลกๆ ที่อยู่หลังหมอกข้างหน้า

มิมิ: (⊙_⊙;)!!

เธอจึงหยุดเดินและจ้องมองเงาตรงหน้าอยู่พักหนึ่งด้วยความกลัว

"ฉันกลับมาหาเธอตามที่ได้สัญญากันไว้แล้วนะ..."

เสียงผู้ชายวัยรุ่นตอนปลายดังออกมาจากเงานั้น แต่ทว่า เสียงนั้นเป็นเสียงที่คุ้นหูเธอมาก ทำให้เธอรู้สึกแปลกใจขึ้นมา

มิมิ: เอ๊!? (⊙_⊙;)!!

"ช่วงที่ฉันไม่อยู่ เธอเองก็คงคิดถึงฉันมากเหมือนกันสินะ..."

มิมิ: ไม่จริง.. เสียงนั่นมัน...!?

"มาสิ มิมิจัง ฉันกำลังรอเธออยู่นะ!"

จากนั้นมิมิก็ตัดสินใจค่อยๆ ก้าวเท้าเข้าไปหาเงาอย่างช้าๆ

และเมื่อเดินมาจนถึงบริเวณหน้าเงาปริศนา อยู่ๆ ก็เกิดแสงสว่างว้าบขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำให้เธอต้องยกแขนขึ้นมาบังตาไว้เพราะแสบตา

และหลังจากที่แสงสว่างจางลง เธอพบว่าตัวเองได้กลับมาอยู่ที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง...

มิมิ: เอ๊!? (⊙_⊙;)

เธอหันไปสำรวจโดยรอบ พบว่าเธอกำลังอยู่ในเมืองที่เป็นบ้านเกิดของเธอจริงๆ โดยจุดที่เธอยืนอยู่เป็นบริเวณริมรางรถไฟซึ่งใกล้กันมีสถานีรถไฟอยู่

มิมิ: ไม่จริงน่ะ.. นี่เรากลับมาอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้วเหรอเนี่ย?? (หรือหมอกเมื่อกี้ จะเป็นประตูมิติกันนะ?)

แล้วมิมิก็หันไปสังเกตที่ป้ายสถานีรถไฟ พบว่าที่นี่คือสถานี "ทามาโกะ" (多摩湖駅) ซึ่งเป็นสถานีเดียวกับที่เธอเคยมาส่งลาคนรักเก่าของเธอที่เป็นนักเรียนเตรียมทหาร

มิมิ: นี่มันสถานีที่เราได้พบกับนักเรียนเตรียมทหารเป็นครั้งสุดท้ายนิ ...หรือว่าเสียงเรียกเมื่อกี้ จะมาจากในสถานีนี้กันนะ? (ลองเข้าไปดูหน่อยดีกว่า)

จากนั้นเธอก็ได้ลองเดินเข้าไปยังสถานีนั้นด้วยความรู้สึกที่คาใจกับอะไรบางอย่าง

เมื่อเดินเข้ามาถึงบริเวณชานชาลา เธอก็ได้พบกับชายหนุ่มที่แสนคุ้นเคย นั่นก็คือนักเรียนเตรียมทหารนั่นเอง!

"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ มิมิจัง"

จากนั้นจู่ๆ เธอก็เกิดอาการน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เพราะความคิดถึงบวกกับความยินดี

แล้วจากนั้นเธอก็วิ่งเข้าไปหาเขาเพื่อที่จะเข้าไปกอด

แต่ทว่า... หลังจากที่เธอได้เข้าไปกอดเขาแล้ว อยู่ๆ ก็เกิดแสงสว่างว้าบขึ้นมาอย่างกะทันหันอีกครั้ง โดยคราวนี้เป็นแสงสีแดง

และหลังจากที่แสงสว่างจางลง เธอพบว่าตัวเองได้มาอยู่ในสถานที่ๆ หนึ่ง ซึ่งมีแต่ความมืด

มิมิ: เอ๊!? Σ(⊙_⊙;)

เมื่อเธอหันไปมองโดยรอบ พบว่าที่นี่มีเพียงแค่เส้นทางแคบๆ ที่ทอดยาวตรงไปเท่านั้น นอกนั้นมีแต่ความมืดมิด

มิมิ: เมื่อกี้เราอยู่ที่สถานีรถไฟที่บ้านเกิดนี่นา? แล้วทำไมอยู่ๆ ถึงมาอยู่ที่นี่ได้?

จากนั้นเธอก็ลองเดินไปตามทางที่ทอดยาวตรงไปเรื่อยๆ

เมื่อเดินมาได้สักพัก เธอก็ได้พบกับประตูที่มีลักษณะเป็นเหมือนหน้าคนขนาดใหญ่ซึ่งประตูเป็นปากของหน้ายักษ์นั้น

เธอหยุดมองอยู่สักพักก่อนที่จะพลางกลืนน้ำลายตัวเองด้วยความตื่นเต้น และเดินเข้าไปภายในปากประตูนั้น

เมื่อเข้ามาแล้ว พบว่ายังคงเป็นทางตรงไปแบบยาวๆ เหมือนเคย แต่ตลอดสองข้างทางนั้น เต็มไปด้วยป้ายรูปแปลกๆ ที่ลอยอยู่ตลอดทาง ซึ่งก็ดูคล้ายกับเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ แต่ก็ไม่ใช่ เพราะนอกจากป้ายรูปและทางเดินแล้ว นอกนั้นก็เป็นฉากดำมืดทั้งหมด

มิมิ: ที่นี่มันคืออะไรกันแน่เนี่ย...?? (หวังว่าคงไม่มีตัวอะไรโผล่ออกมานะ)

และหลังจากที่เดินชมรูปประหลาดต่างๆ มาได้พักใหญ่ เธอก็เดินมาจนถึงทางตัน ซึ่งตรงหน้าไม่มีอะไรเลยนอกจากความมืด

มิมิ: สุดทางเดินแล้วแฮะ...

จากนั้นก็มีแสงประหลาดค่อยๆ โผล่ออกมาตรงหน้า ทำให้เธอเริ่มหวาดกลัว

และหลังจากที่แสงประหลาดได้ลอยเข้ามาหาเธอสักพัก แสงนั้นก็เปลี่ยนเป็นลูกกรงซึ่งมีเนียมิติดอยู่ข้างใน

มิมิ: ห๊ะ?? Σ(⊙_⊙;)

เนียมิ: มิมิจัง!! ช่วยฉันด้วย!! ฉันกำลังจะถูกสัตว์ประหลาดจับกินแล้ว!!

เนียมิตะโกนขอความช่วยเหลือจากกรง

มิมิ: ว่าไงนะ!!

แล้วจากนั้นมิมิก็เหมือนจะฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้

มิมิ: เอ๊... แต่ว่า.. เราเลิกคบกับเนียมิจังไปแล้วนิ แล้วเราจะต้องไปช่วยเธออีกทำไมกันล่ะ?

เนียมิ: มิมิจัง!! ช่วยฉันทีเถอะ!!

มิมิกำหมัดแน่นเพราะทนคำขอไว้ชีวิตไม่ไหว ก่อนที่จะตัดสินใจวิ่งเข้าไปช่วย โดยกระโดดเข้าไปใส่ลูกกรงนั้น

แต่ทว่า... หลังจากที่เข้าไปจับลูกกรงแล้ว ก็เกิดแสงสว่างว้าบขึ้นมาอย่างกะทันหันอีกครั้ง โดยคราวนี้เป็นแสงสีฟ้า

และหลังจากที่แสงสว่างจางลง เธอพบว่าตัวเองได้มาอยู่ในสถานที่ๆ หนึ่ง ซึ่งเป็นสนามแข่งรถ

มิมิ: เอ๊!? Σ(⊙_⊙;)

และเมื่อสำรวจโดยรอบ พบว่าเธอยืนอยู่กลางถนนของสนามแข่งรถนั้น

จากนั้นก็มีกลุ่มรถแข่งวิ่งกันมาด้วยความเร็วสูง ทำให้เธอต้องรีบวิ่งไปหลบยังรั้วที่อยู่ข้างถนน ซึ่งหลังรั้วเป็นอัฒจันทร์

มิมิ: นี่มันอะไรกันแน่เนี่ยยยยยยยย??? `(*>﹏<*)′ (แต่ฉันไม่ชอบดูแข่งรถนะ!!)

--------------------------------------------------------------------------------

ทางด้านเนียมิกับไทม์เมอร์ ทั้งสองก็ได้เดินเข้ามาภายในป่าแห่งความฝัน

เนียมิ: ที่นี่น่ะเหรอ คือเส้นทางที่มิมิจังมา?

เนียมิกล่าวหลังจากที่ได้เห็นบรรยากาศภายในป่าซึ่งเต็มไปด้วยหมอกหนา

ส่วนไทม์เมอร์ก็เดินโดยพยายามสังเกตรอยเท้าบนพื้นไปด้วย แต่ดูเหมือนว่าตั้งแต่ที่เริ่มเดินมาตั้งแต่ทางแยกจนถึงตอนนี้ ยังไม่เห็นมีรอยเท้าของมิมิเลย

ไทม์เมอร์: หืม.. ไม่มีรอยเท้าของมิมิจังเลยแฮะ...

และหลังจากที่เดินมาได้สักพัก ทั้งสองก็เดินมาจนพบกับแสงสว่างปริศนาที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งดูคล้ายกับแสงแดดที่ส่องออกมาจากปากถ้ำในช่วงขาออกจากถ้ำ ทั้งสองจึงหยุดเดินสักครู่

เนียมิ: นั่นมันคืออะไรกันน่ะ?

ไทม์เมอร์คิดอะไรอยู่สักครู่ก่อนที่จะพูด

ไทม์เมอร์: ดูเหมือนว่ามิมิจังจะเดินหลงเข้าไปในมิติแห่งความฝันแล้วล่ะนะ...

เนียมิ: มิติแห่งความฝันงั้นเหรอ?

ไทม์เมอร์: อืม! ฉันเองก็ไม่รู้รายละเอียดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอกนะ แต่เห็นเขาลือกันว่ามีเพียงแค่น้อยคนเท่านั้นที่เมื่อเข้าไปแล้วจะรอดกลับออกมาได้

เนียมิ: เรื่องนั้นเอาไว้ที่หลังเถอะ ตอนนี้พวกเราต้องรีบไปหามิมิจังกันก่อนนะ!

ไทม์เมอร์: อืม!!

แล้วจากนั้นทั้งสองจึงเดินผ่านเข้าไปยังหลังแสงสว่างนั้น

เมื่อเข้ามาแล้ว ทั้งคู่ได้มาโผล่อยู่ในสถานที่หนึ่งซึ่งมีลักษณะเป็นลานหญ้ากว้าง

เนียมิ: ที่นี่มันที่ไหนกันเนี่ย?

ไทม์เมอร์: ที่นี่แหละ คือโลกแห่งความฝันล่ะ!

จากนั้นทั้งคู่จึงมองสำรวจโดยรอบพบว่าที่นี่เป็นเกาะลอยฟ้า ซึ่งบริเวณนอกเกาะออกไปไม่มีอะไรอยู่นอกจากท้องฟ้าสีครามเท่านั้น

เนียมิ: เรามาอยู่ในสรวงสวรรค์เหรอ?

ไทม์เมอร์: ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน...

และหลังจากที่ลองเดินสำรวจไปเรื่อยๆ ทั้งสองก็พบกับคู่ของหมีและกระต่ายคู่หนึ่งกำลังกอดกันอย่างมีความสุข โดยที่กระต่ายมีขนาดใหญ่เท่ากับหมี

เนียมิ: ( ̄_ ̄|||) นี่มันอะไรกันเนี่ย??

ไทม์เมอร์: นั่นสิ ( ̄_ ̄|||)

จากนั้นหมีกับกระต่ายก็หันมาเห็นทั้งสองเข้า คุณหมีจึงทักท้าย

หมี: Σ( °_ °) อ้าว! พวกคุณเป็นใครกันรึ?

เนียมิ: คือว่าพวกเรามาตามหาคนที่ชื่อมิมิน่ะคะ คุณพอจะเคยเห็นบ้างไหม?

เนียมิเปิดรูปของมิมิจากโทรศัพท์มือถือให้คุณหมีดู

หมี: โอ้! (⊙o⊙) เห็นสิ! เพิ่งมาที่นี่เมื่อกี้นี้เลยล่ะ!!

เนียมิ: เอ๋!? จริงเหรอค่ะ!!

กระต่าย: อืม! แต่ว่าอยู่ๆ ก็หายตัวไปซะเฉยๆ เลยล่ะ

ไทม์เมอร์: หายตัวงั้นเหรอ??

หมี: ใช่! ผมเห็นเธอกำลังนั่งดูดอกไม้แล้วอยู่ดีๆ ก็หายตัวไปเลย

แล้วไทม์เมอร์ก็คิดอะไรอยู่สักครู่ก่อนที่จะพูด

ไทม์เมอร์: อืม... มันแปลกอยู่นะ

เนียมิ: หรือว่าจะเป็นฝีมือของเซ?

ไทม์เมอร์: ผมว่าลองสำรวจแถวนี้กันต่อเถอะนะ อาจจะเจอเบาะแสอะไรก็ได้

แล้วเนียมิก็หันมาทางหมีกับกระต่าย

เนียมิ: ขอบคุณสำหรับเบาะแสนะคะ!

เนียมิโค้งตัวคำนับ

หมี: อืม!! แล้วก็ขอบคุณที่มาเยี่ยมที่นี่ด้วยนะ ^_^

คุณหมียื่นมือออกมาหาเนียมิ

เนียมิ: เช่นกันค่ะ! ^_^

แล้วเนียมิก็ไปจับมือกับคุณหมีเพื่อรับคำขอบคุณ

แต่ทว่า... หลังจากที่เธอได้จับมือแล้ว อยู่ๆ ก็เกิดแสงสว่างว้าบขึ้นมาอย่างกะทันหัน โดยเป็นแสงสีฟ้า

เนียมิ: ห๊ะ!? Σ(⊙_⊙;)

ไทม์เมอร์: เกิดอะไรขึ้นน่ะ?? Σ(⊙_⊙;)

และหลังจากที่แสงสว่างจางลง ทั้งคู่ก็พบว่าได้มาอยู่ในสถานที่หนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเป็นร้านตู้เกมอาร์เคด

เนียมิ: มาโผล่อีกที่เฉยเลยแฮะ..

จากนั้นทั้งคู่จึงเดินสำรวจภายในร้านกันอย่างงุนงง พบว่าร้านนี้ยังอยู่ในสภาพที่ยังไม่ได้เปิดร้าน โดยภายในร้านเต็มไปด้วยตู้เกมและตู้ชิงรางวัลมากมาย

ไทม์เมอร์: ที่นี่มันคืออะไรกันแน่นะ? (ร้านยังไม่ได้เปิดงั้นเหรอ?)

แล้วอยู่ๆ เนียมิก็นึกอะไรออกได้

เนียมิ: เอ๊!? หรือว่า...? ∑(°ロ°)

จากนั้นเธอจึงวิ่งออกไปดูนอกร้าน พบว่าที่นี่คือประเทศญี่ปุ่น และเป็นบริเวณบ้านเกิดของเธอเอง คือ เมืองโยโกฮามะ จังหวัดคานางาวะ

เนียมิ: ใช่จริงๆ ด้วย! ที่นี่มันเมืองที่ฉันอาศัยอยู่นี่น้า!!

และเมื่อเธอลองมองขึ้นไปดูป้ายชื่อร้าน พบว่าร้านนี้คือ "คงไม เกมเซ็นเตอร์ อิน โยโกฮามะ" (KONMAI Game Center in Yokohama)

เนียมิ: นี่มันคือร้านเกมของฉันเองนี่!! ∑(°ロ°)

จากนั้นไทม์เมอร์ก็เดินตามออกมา

ไทม์เมอร์: มีอะไรเหรอ?

เนียมิ: ที่นี่เป็นร้านเกมของฉันเองแหละ!!

ไทม์เมอร์: เอ๊!? จริงเหรอ!? Σ( °_ °)

เนียมิ: อืม! ^_^ ฉันวางแผนเอาไว้ว่า ถ้าหากฉันเป็นแชมป์ทัวร์นาเมนต์ได้เมื่อไหร่ ฉันจะนำรางวัลใหญ่มาเปิดร้านเกมเป็นของตัวเองน่ะ!!

ไทม์เมอร์: โห้!! งั้นนี่ก็คือความฝันสุดสูงของเธอเองงั้นเหรอ? (เพิ่งรู้เรื่องนี้นะเนี่ย)

เนียมิ: เอาล่ะ!! ไหนๆ ความฝันก็ได้เป็นจริงล่วงหน้าไปแล้ว ขอลองเล่นตู้เกมของตัวเองสักเกมดูหน่อยดีกว่า! (*^_^*)

จากนั้นเนียมิก็กลับเข้าไปในร้านเพื่อทดลองเล่นเกม โดยเธอได้เลือกเล่นตู้เกมเต้น "DANCERUSH STARDOM"

เนียมิ: อยากเล่นเกมนี้แบบ FREEPLAY มานานแล้ว!! ฮะ ฮ่า โย่ว!!  (*^o^*) (หยอดเหรียญเองมันเปลืองตังค์จริงๆ)

แต่ทว่า... หลังจากที่เธอได้เข้าไปกดปุ่ม START ที่หน้าตู้ อยู่ๆ ก็เกิดแสงสว่างว้าบขึ้นมาอย่างกะทันหันอีกครั้ง โดยเป็นแสงสีแดง

และหลังจากที่แสงสว่างจางลง ทั้งคู่พบว่าได้มาอยู่ในสถานที่หนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเป็นเกาะลอยฟ้าคล้ายๆ กับที่แรก แต่คราวนี้เป็นท้องฟ้าสีชมพูแทน

เนียมิ: อ้าว.. มาโผล่อีกที่ซะแล้ว!?

ไทม์เมอร์: เอ๊! หรือว่า...? ∑(°ロ°)

ไทม์เมอร์นึกอะไรออกได้

เนียมิ: มีอะไรเหรอ?

ไทม์เมอร์: เมื่อกี้นี้ คุณหมีบอกว่ามิมิจังหายตัวไปขณะที่กำลังดูดอกไม้ใช่ไหม?

เนียมิ: อืม!

เนียมิพยักหน้า

ไทม์เมอร์: หรือว่า... เวลาที่เราสัมผัสกับอะไรก็ตามที่อยู่ในโลกนี้ จะทำให้ถูกส่งไปยังสถานที่อื่น?

เนียมิ: เอ๊!? ถูกส่งไปที่อื่นทุกครั้งที่สัมผัสกับสิ่งต่างๆ ภายในโลกนี้งั้นเหรอ?

ไทม์เมอร์: อืม! ตอนแรกที่เนียมิจังเข้าไปจับมือคุณหมี พวกเราก็ถูกวาร์ปมาอยู่ที่ร้านเกมก่อนใช่ไหม?

เนียมิ: อืมๆ

เนียมิพยักหน้า

ไทม์เมอร์: แล้วจากนั้นพอเธอไปกดปุ่ม START ที่ตู้เกม พวกเราก็ถูกวาร์ปอีกครั้งจนมาอยู่ที่นี่

เนียมิ: เอ๊!? งั้นก็แปลว่ามิมิจัง...?

ไทม์เมอร์: ใช่! มิมิจังจะหายตัวไปทุกครั้งที่สัมผัสกับสิ่งต่างๆ ภายในโลกนี้ยังไงล่ะ! ผมว่ามิมิอาจจะเข้าไปจับดอกไม้ก็เลยทำให้ถูกวาร์ปไปอยู่ที่อื่น และอาจกำลังวาร์ปไปอีกเรื่อยๆ ก็ได้

เนียมิ: แล้วแบบนี้พวกเราจะตามหามิมิจังเจอได้ยังไงกันล่ะ?

ไทม์เมอร์: ผมคิดว่ามิมิจังอาจจะหลงทางอยู่ในมิติใดมิติหนึ่งในโลกนี้ก็เป็นได้ ซึ่งหมายความว่าพวกเราต้องลองวาร์ปไปเรื่อยๆ จนว่าจะเจอมิมิจังนะ

แล้วจากนั้นอยู่ๆ ก็เกิดแรงสั่นสะเทือนคล้ายแผ่นดินไหวขึ้นมา

เนียมิ: เกิดอะไรขึ้นน่ะ??

จากนั้นก็มีสัตว์ประหลาดโผล่มาจากด้านหลัง โดยที่สัตว์ประหลาดตัวนั้นกำลังมุ่งหน้าเข้ามาหาทั้งสองด้วยการกัดกินเส้นทางที่มีลักษณะเป็นบันไดไปด้วย

ไทม์เมอร์: พวกเรารีบหนีกันเถอะ!!

แล้วจากนั้นทั้งสองก็รีบวิ่งหนีสัตว์ประหลาดตัวนั้น โดยเส้นทางที่ทั้งสองอยู่นั้นมีลักษณะเป็นขั้นบันไดขาลง

แต่ด้วยความที่เป็นขั้นบันไดทำให้ไม่สามารถเคลื่อนที่ด้วยการวิ่งได้ ทำให้สัตว์ประหลาดค่อยๆ คืบคลานเข้ามาได้อย่างช้าๆ

และในจังหวะที่กำลังใกล้จะปราชัยนั่นเอง ทั้งสองก็วิ่งมาจนถึงช่องอุโมงค์ที่อยู่เบื้องหน้า

ไทม์เมอร์: พวกเรารีบกระโดดพุ่งเข้าอุโมงค์นั้นเถอะ!

เนียมิ: โอเค!!

แล้วทั้งสองก็ทำการกระโดดเข้าอุโมงค์ที่อยู่ตรงหน้าไป ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่สัตว์ประหลาดเข้าประชิดตัวทั้งสองพอดี

และหลังจากที่เข้าอุโมงค์ไปได้อย่างปลอดภัยแล้ว ทั้งสองก็ได้มาโผล่อยู่ในอีกสถานที่หนึ่ง ซึ่งคราวนี้ทั้งสองได้ "ร่วง" ลงมา

ลักษณะของสถานที่ดังกล่าวเป็นมิติที่มีพื้นหลังเป็นสีชมพูอ่อน โดยรอบเต็มไปด้วยฟองสบู่มากมาย

ทั้งสองร้องเสียงหลงราวกับนั่งรถไฟเหาะเพราะว่าได้ "ร่วง" ลงไปอย่างต่อเนื่องภายในมิตินี้

และหลังจากที่ร่วงลงมาได้สักพัก ก็ต่อด้วยการไถลไปกับเส้นทางที่เป็นสไลด์เดอร์

และผ่านไปได้สักพักทั้งสองก็ได้เข้าอุโมงค์อีกครั้ง แต่หลังจากที่ได้เข้าไปแล้ว ทั้งสองก็ได้สิ้นสุดการไถลมาหยุดอยู่บนพื้น

ไทม์เมอร์: เนียมิจังไม่เป็นไรนะ?

เนียมิ: อืม! ยังโอเคอยู่

และหลังจากที่ทั้งสองลุกขึ้นมา พบว่าที่นี่มีลักษณะเป็นห้องสีขาวทั้งห้อง ซึ่งโดยรอบไม่มีอะไรเลยนอกจากสีขาว

เนียมิ: แล้วที่นี่มันคืออะไรกัน?

"ฮ่าๆๆ ในที่สุดก็ได้เจอกันอีกครั้งนะ!"

ไทม์เมอร์: เสียงนี่มัน...!

จากนั้น เซ ก็ได้ปรากฏตัวออกมาตรงหน้าทั้งสอง

เนียมิ: เซ!!! (°ロ°)

เซ: ฮ่าๆ ขอต้อนรับสู่ดินแดนแห่งความฝันที่แสนวิเศษนะ

เนียมิ: ที่แท้ทั้งหมดนี่ก็เป็นฝีมือของแกเองสินะ!

เซ: ใช่! ฉันใช้พลังเปลี่ยนให้มิติแห่งความฝันคงอยู่ไปตลอดยังไงล่ะ!

เนียมิ: ทำให้มิติแห่งความฝันคงอยู่ไปตลอดงั้นเหรอ??

เนียมิสงสัยในคำพูดของเซ

ไทม์เมอร์: อืม! ปกติแล้วผู้ที่หลงเข้าไปในมิติแห่งความฝันจะถูกส่งกลับมายังโลกจริงเองหลังจากผ่านไป 10 นาที ถ้าหากอยู่จนถึงเวลานั้นได้โดยที่ไม่ประสบกับเคราะห์กรรมอะไรก่อนนะ ...แต่ดูเหมือนว่าเซจะใช้พลังทำให้พวกเราติดอยู่ในนี้ไปตลอดน่ะ

เซ: ปิ๊งปองๆ เข้าใจถูกแล้ว! และก็.. แผนที่ทำให้พวกเจ้าแตกคอกันทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนอีกด้วย! ^_^

เนียมิ: เอ๊!? หรือว่าตอนนั้น...??

เซ: ใช่! ฉันเป็นคนทำให้เธอสะดุดล้มเองแหละ! ฮ่าๆๆ !!

*****************************************************

【ย้อนความจากช่วงแรก】

ในขณะที่เนียมิกำลังจะเดินมาใกล้โต๊ะได้เพียงแค่ไม่กี่อีกก้าวเท่านั้น เธอก็บังเอิญไปเดินสะดุดกับอะไรบางอย่างเข้า ทำให้ถาดอาหารที่ถือมาค่อยๆ ลอยหลุดมือออกไป

เนียมิ: อ๊า!? o((⊙﹏⊙))o

ซึ่งสิ่งที่ทำให้เธอสะดุดก็คือ "เปลือกกล้วย" ที่เซได้ใช้ "ป๊อปคุงสีดำ" แอบโยนมาจากทางหน้าต่างเข้าไปใส่บนพื้นตรงนั้น และป๊อปคุงสีดำตัวนั้นก็ได้กลายร่างเป็นเปลือกกล้วย ซึ่งในตอนนั้นเธอกำลังทำอาหารอยู่ในครัว ส่วนมิมิก็กำลังเล่นมือถืออยู่ ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าเปลือกกล้วยนั้นมาจากไหนและตั้งแต่เมื่อไหร่

*****************************************************

เนียมิ: แกนี่มันเลวไม่มีที่ติจริงๆ นะ ...เอาล่ะ!!

จากนั้นเธอก็ยกแขนข้างที่สวมกำไลแปลงร่างขึ้นมา แล้วตะโกนว่า

เนียมิ: "ป๊อปปินแปลงร่าง!!"

แต่ทว่า... กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

เนียมิ: อะ เอ๋? ทำไมแปลงร่างไม่ได้ล่ะ...? (⊙_⊙)?

เซ: ฮ่าๆๆ ก็เพราะว่าคู่หูของเธอไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วยยังไงล่ะ ก็เลยทำให้แปลงร่างไม่ได้ ฮ่าๆๆ !! \(@^0^@)/

เนียมิ: โธ่! เล่นวิธีสกปรกนี่นา ขี่โกงชะมัด! (╬▔皿▔)╯

เซ: เอาล่ะ! จงติดอยู่ในโลกแห่งความฝันนี้ไปตลอดกาลเถอะนะ!!

จากนั้นเซก็ได้ถอดผ้าปิดตาของเธอออก แล้วเรียก "ป๊อปคุงสีดำ" ออกมาจากผ้าปิดตาอีกที

เซ: ไปเลย "สัตว์ประหลาด SL" !!

เซโยนป๊อปคุงสีดำออกไป แล้วจากนั้นป๊อปคุงสีดำก็กลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายสมเสร็จขนาดมหึมา

และในขณะเดียวกัน ฉากหลังก็ได้เปลี่ยนจากห้องสีขาวกลายมาเป็นเกาะภูเขาไฟแทน

เซ: เอาล่ะ แล้วที่นี้เธอจะทำยังไงกับสัตว์ประหลาดตัวนี้ล่ะ??

เนียมิเหงื่อไหลจนแทบท่วมหัว เพราะไม่รู้ว่าจะเอายังไงต่อไปดี

--------------------------------------------------------------------------------

ทางด้านมิมิ หลังจากที่ได้วาร์ปไปวาร์ปมาภายในโลกแห่งความฝันมาหลายที่ ในที่สุดเธอก็ได้กลับมายังโลกแห่งความจริงอีกครั้ง หลังจากที่อยู่ในโลกความฝันจนครบ 10 นาที

มิมิ: กลับมาอยู่ที่ป่าหมอกเหมือนเดิมแล้วล่ะ! (⊙_⊙;)

มิมิมองไปรอบๆ เพื่อเช็คให้ชัวร์ว่าเธอได้กลับมาอยู่ที่ป่าแห่งความฝันเหมือนเดิมแล้วจริงๆ

มิมิ: ว่าแต่... โลกประหลาดที่เราหลงเข้าไปเมื่อกี้นี้ มันคืออะไรกันแน่นะ?

จากนั้นเธอก็เริ่มมุ่งหน้าเดินทางต่อไป โดยที่เธอได้พยายามใช้เข็มทิศเพื่อช่วยนำทาง แต่พบว่าเข็มทิศกลับหมุนไปหมุนมาอย่างบ้าคลั่งตลอดเวลา ทั้งที่เดินไปยังทิศทางเดียวกันตลอด

มิมิ: ดูเหมือนว่าเข็มทิศจะใช้กับที่นี่ไม่ได้แฮะ... (อย่างนี้คิดว่าแผนที่ในมือถือก็คงใช้ไม่ได้เหมือนกันแน่ๆ)

และหลังจากที่เธอลองเดินตรงไปเรื่อยๆ อยู่สักพัก เธอก็ได้เดินมาจนพ้นอาณาเขตของป่า

มิมิ: ฮะ! ในที่สุดก็ออกจากป่าแล้วล่ะ!! ╰(*°▽°*)╯

แต่เมื่อเธอสังเกตสถานที่และบรรยากาศที่อยู่ตรงหน้า พบว่าเธอได้เดินย้อนกลับมายังทางเดียวกับที่เธอเดินเข้าป่าไปในตอนแรก

มิมิ: แต่เอ๊? นี่เรา... กลับมาที่เดิมเหรอเนี่ย?! โธ่... {{{(>_<)}}}

มิมิถึงกับทรุดลงด้วยความเซ็ง

แต่ทว่าในตอนนั้นเอง อยู่ๆ ที่กำไลแปลงร่างของมิมิก็ส่องแสงแบบกระพริบๆ เป็นจังหวะออกมา

มิมิ: เอ๊!? ทำไมกำไลถึงส่องแสงล่ะ?

MZD: เพราะว่าตอนนี้คู่หูของเธอกำลังประสบกับสถานการณ์ยากลำบากอยู่น่ะสิ!

อยู่ๆ ก็มีเสียงกระซิบของ MZD (จากโลก AC) ดังเข้ามาในหูของมิมิ

มิมิ: เสียงนี่มัน...!

MZD: เหตุที่กำไลป๊อปเปอร์เปล่งแสงออกมา เพราะเป็นการแจ้งเตือนให้ทราบว่าคู่หูของเธอกำลังต้องการความช่วยเหลือจากเธออยู่ เพราะตามกฎแล้วการจะแปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์ได้นั้น เป็นจำต้องอยู่พร้อมกันทั้ง 2 คน ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถแปลงร่างได้ยังไงล่ะ!

จากนั้นมิมิก็หลับตาลงพลางกำหมัดแน่น

มิมิ: โธ่... เจ้าแมวบ้าบิ่นนะ...

จากนั้นเธอจึงลองถาม MZD

มิมิ: แล้ว... พอจะบอกได้ไหมว่าเนียมิจังตอนนี้อยู่ที่ไหนล่ะ??

แต่หลังจากที่ถามไป ก็ไม่มีเสียงตอบกลับแต่อย่างใด

มิมิ: เงียบ... \แล้วแบบนี้ฉันจะรู้ได้ไงว่าเนียมิจังอยู่ที่ไหนกันล่ะ!!/ ヽ(≧□≦)ノ

มิมิตะโกนในประโยคต่อมา

จากนั้นบนกำไลป๊อปเปอร์ก็เปล่งแสงสว่างจ้าออกมา ทำให้เธอต้องหันมามองด้วยความสงสัย ก่อนที่จะมีลูกไฟสีขาวค่อยๆ ลอยออกมาจากกำไล และลูกไฟนี้ได้พุ่งไปยังทางป่าแห่งความฝัน

มิมิ: หรือว่าลูกไฟนั้น ต้องการจะบอกตำแหน่งของเนียมิจัง?

จากนั้นเธอจึงกลับเข้าไปยังป่าอีกครั้งโดยเธอได้วิ่งตามลูกไฟดวงนั้นไปเรื่อยๆ

และหลังจากที่วิ่งมาได้สักพัก ลูกไฟนำทางดวงนั้นก็ได้ลอยเข้าไปยังกำแพงแสงสว่างอันเป็นประตูมิติไปสู่โลกแห่งความฝัน

มิมิ: Σ( °_ °) มันลอยเข้าไปในแสงประหลาดนั่นแฮะ เอ๊!? หรือว่า...??

จากนั้นเธอก็ได้ฉุกนึกถึงภาพตอนที่เนียมิกำลังถูกขังอยู่ในมิติมืดมิดเมื่อคราวนั้นออกมา

มิมิ: จริงด้วยสินะ เนียมิกำลังถูกจับขังอยู่ในมิตินั้นนี่นา!! คงต้องลองเสี่ยงตามเข้าไปแล้ว!!

แล้วจากนั้นเธอจึงตัดสินใจวิ่งเข้าไปยังหลังแสงสว่างนั้น เพื่อไปช่วยเนียมิที่กำลังติดอยู่ในโลกแห่งความฝัน

--------------------------------------------------------------------------------

กลับมาทางเนียมิ ซึ่งในขณะนี้เธอกับไทม์เมอร์กำลังพยายามวิ่งหนีการโจมตีของสัตว์ประหลาด SL อยู่ เพราะเธอไม่สามารถแปลงร่างได้

สัตว์ประหลาดได้โจมตีทั้งสองด้วยการปล่อยพลังคลื่นวงแหวนใส่เป็นระยะๆ แต่ทั้งสองก็หลบได้อย่างฉิวเฉียวมาตลอด

จนกระทั้งได้วิ่งมาจนถึงสุดขอบของพื้น ซึ่งตรงหน้าเป็นทะเลลาวา ทำให้ไม่สามารถที่จะวิ่งหนีต่อไปได้

ไทม์เมอร์: อ่ะ!! ∑(°ロ°)

เนียมิ: ไปต่อไม่ได้ซะแล้วล่ะ!! ( °Д °;)

เซ: ฮ่าๆๆ ! (@^0^@) ในที่สุดก็มาถึงจุดจบสักทีนะ เอาล่ะ! จงดูคนรักตายไปต่อหน้าต่อตาของนายซะ!

จากนั้นสัตว์ประหลาดก็ได้ชาร์ตพลังเพื่อเตรียมปล่อยท่าไม้ตาย

แต่ทว่าไทม์เมอร์กลับไปยืนอยู่ด้านหน้าเธอ เพื่อพยายามที่จะรับการโจมตีแทน

ไทม์เมอร์: ผมจะไม่ยอมให้เธอมาตายที่นี่โดยเด็ดขาด!! ╚(•⌂•)╝

เนียมิ: ไทม์เมอร์คุงมันอันตรายนะ!! ถอยไปเถอะ!!

แล้วเสี้ยววินาทีในพริบตานั้น สัตว์ประหลาดก็ได้ปล่อยลำแสงขนาดใหญ่ออกมา ซึ่งลำแสงนี้ได้พุ่งเข้าไปใส่ไทม์เมอร์แบบเต็มๆ

ร่างของเขาลอยกระเด็นออกไป

เนียมิ: ม่ายยย!!! (≧□≦)

เนียมิรีบวิ่งเข้าไปดูอาการของเขา

เนียมิ: ไม่เป็นไรนะ...?

ไทม์เมอร์: อืม! ฉัน...ไม่เป็น...ระ

เขาพยายามตอบแต่ก็ต้องทรุดลงด้วยความเจ็บปวด

เนียมิ: นายคิดจะทำบ้าอะไรของนายน่ะ!! นายไม่ได้แปลงร่างได้แบบพวกเรานะ!!

ไทม์เมอร์: แบบนี้ก็ดีแล้วนิ... ผู้หญิงที่อยู่ตรงนั้น ไม่ใช่น้องสาวที่ผมรู้จักอีกแล้ว...

เนียมิ: นายอย่าเพิ่งสิ้นหวังง่ายๆ แบบนั้นสิ!! เธอก็แค่ถูกพลังความมืดครอบงำเท่านั้นแหละ!!

เซ: เอาล่ะๆ เลิกดราม่ากันได้แล้ว คราวนี้ก็ถึงตาของเธอมั้งแล้วละนะ!

จากนั้นสัตว์ประหลาดก็ได้ชาร์ตพลังอีกครั้งเพื่อเตรียมปิดบัญชีกับเนียมิ

ไทม์เมอร์: หนอย... ทำไมฉันถึงไม่มีพลังพิเศษเหมือนพวกป๊อปเปอร์สบ้างนะ เจ็บใจที่สุด!! (〃>目<)

แต่ทว่า... ในพริบตานั้นก็เกิดหลุมมิติขึ้นมาที่บริเวณเหนือสัตว์ประหลาด และมีสิ่งหนึ่งโผล่ออกมาจากหลุมนั้น ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ มิมิ นั่นเอง!! โดยเธอได้ร่วงลงมากลางหัวของสัตว์ประหลาดพอดี ทำให้การชาร์ตพลังของสัตว์ประหลาดถูกยกเลิกในทันที ก่อนที่มิมิจะร่วงลงมาสู่พื้นอีกทีหนึ่ง

เซ: เกิดอะไรขึ้นน่ะ?? (⊙_⊙;)

มิมิค่อยๆ ลุกขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดจากแรงกระแทก

เนียมิ: มิมิจัง!! (o゜▽゜)o

เนียมิที่สังเกตเห็นเธอแล้วตะโกนเรียก แล้วจากนั้นเธอจึงวิ่งเข้าไปหา

เนียมิ: ในที่สุดเธอก็มาจนได้สินะ แล้วเธอมาจนถึงที่นี่ได้ยังไงกัน?

มิมิ: ก็... ใช้ไอ้นี่ไง!

มิมิโชว์ "ซิลลี่คีย์" ให้ดู

เนียมิ: ซิลลี่คีย์??

มิมิ: อืม!! ฉันลองใช้มันควบคุมเส้นทางการวาร์ปภายในโลกประหลาดนี้ดูน่ะ มันใช้ได้ผลเยี่ยมมากเลยล่ะ!!

เนียมิ: โห้!! ทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอเนี่ย??

มิมิ: อืม!! ^_^ รู้สึกว่ามันจะใช้ประโยชน์ได้อีกหลายอย่างเหมือนที่โปโตเคยบอกเลยล่ะ แต่ว่าพวกเรายังรวบรวมเศษลูกแก้วได้ไม่ครบ พลังก็เลยยังไม่ค่อยเสถียรเท่าไหร่

เนียมิ: งั้นก็แสดงว่าเราสามารถใช้กุญแจนี้กลับสู่โลกเดิมได้ด้วยสินะ!

มิมิ: แน่นอน!! ...คิดว่านะ ( ̄_ ̄|||)

จากนั้น มิมิกับเนียมิ ก็หันมามองทางเซกับสัตว์ประหลาด

เซ: มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?? ทำไมป๊อปเลิฟ.. ไม่สิ มิมิถึงมาอยู่ที่นี่ได้??

มิมิ: ก็เพราะว่าพวกเราทอดทิ้งกันไม่ได้ยังไงล่ะ!! (*^▽^*)┛

เนียมิ: ใช่แล้วล่ะ!! ☆⌒(*^-゜)v

จากนั้นทั้งสองก็หันมาหากัน ก่อนที่จะพยักหน้าให้กัน แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ยกแขนข้างที่สวมกำไลแปลงร่างขึ้นมา แล้วตะโกนว่า

มิมิ/เนียมิ: "ป๊อปปินแปลงร่าง!!"

จากนั้นก็เกิดคลื่นแสงสีชมพูออกมาจากกำไล ก่อนที่คลื่นแสงจะเข้ามาครอบร่าง

จากนั้นทั้งคู่ก็เข้าไปอยู่ในมิติพิเศษ แล้วชิ้นส่วนของชุดป๊อปเปอร์สก็ค่อยๆ ปรากฏออกมาตามตัว เริ่มจากรองเท้า ถุงน่อง ถุงมือและถุงแขน ชุด และสุดท้ายหมวกกับผมเกลียวด้านข้างที่เพิ่มมา

หลังจากที่แปลงร่างเสร็จแล้วทั้งคู่ก็ออกจากมิติแปลงร่างด้วยการพุ่งตัวลงมาจากฟ้า เมื่อเท้าแตะพื้นแล้วก็ถึงเวลาเริ่มกล่าวบทแนะนำประจำตัว

ป๊อปเลิฟ: ด้วยรักและมิตรภาพ ป๊อปเลิฟ!

ป๊อปพีช: ด้วยสุขและสันติภาพ ป๊อปพีช!

ป๊อปเลิฟ/พีช: พวกเราคือ... ป๊อปเปอร์ส!!

ป๊อปเลิฟ: เจ้าผู้ที่ทำให้ความเคารพต้องสูญสลาย

ป๊อปพีช: จงหยุดการกระทำที่โลภมากของแกซะ

หลังจบฉากแปลงร่าง

เซ: หนอย!! น่ารำคาญจริงๆ ไปจัดการมันซะ!!

เซสั่งให้สัตว์ประหลาดเริ่มการต่อสู้กับป๊อปเปอร์ส

ป๊อปพีช: เลิฟ! ตอนนี้ไทม์เมอร์กำลังบาดเจ็บอยู่ พวกเรามาลองใช้พลังนั้นกันอีกครั้งเถอะ! อาจจะช่วยทำให้ไทม์เมอร์หายดีไปด้วยก็ได้

ป๊อปเลิฟ: อืม!!

แล้วทั้งคู่ก็เรียกเกียร์พิเศษออกมาจากเข็มกลัดบนชุด โดยมีลูกพลังออกมาจากเข็มกลัด ก่อนที่ลูกพลังทั้งสองจะเข้ามาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน แล้วจากนั้นลูกพลังก็แปลงสภาพกลายเป็นเกียร์อีกที

จากนั้นทั้งคู่มายืนอยู่หน้าเกียร์พิเศษด้วยกันเพื่อเตรียมเริ่มการต่อสู้ด้วยเสียงเพลง

เซ: อ่ะ!? คิดจะให้มาป๊อปปินแบทเทิลกับสัตว์ประหลาดงั้นเหรอ..? ไม่ต้องไปสนใจมัน โจมตีเข้าไปเลย!!

แล้วจากนั้นสัตว์ประหลาดก็พุ่งเข้ามาหาทั้งสองเพื่อเริ่มการโจมตี

ป๊อปเลิฟ: พร้อมแล้วนะ!

ป๊อปพีช: อืม!!

ป๊อปเลิฟ/พีช: Let's pop'n music together! O(∩_∩)O

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มเล่นป๊อปปินด้วยเกียร์ตัวเดียวกัน โดยแบ่งกันกดปุ่มคนละฝั่ง

===== POP'N MUSIC =====
Dream Again... / 柴田浩之

เป็นจังหวะเดียวกับที่สัตว์ประหลาดได้พุ่งเข้ามาจนถึงระยะประชิด แต่ทว่า สัตว์ประหลาดก็ได้โดนคลื่นพลังที่ปล่อยออกมาจากเกียร์กระแทกเข้าใส่ ทำให้สัตว์ประหลาดกระเด็นกลับไปอย่างง่ายดาย

เซ: อ่ะ!? ⊙﹏⊙∥

เซถึงกับช็อกไปเลย

ในขณะเดียวกันทางด้านไทม์เมอร์ ก็เกิดคลื่นแสงสีเขียวขึ้นมารอบๆ ตัวของเขา ซึ่งพลังจากคลื่นแสงนี้ได้ค่อยๆ รักษาบาดแผลของเขาจนหายเป็นปลิดทิ้ง

ส่วนทางด้านสัตว์ประหลาดก็ยังไม่ยอมแพ้ กลับมาโจมตีต่อด้วยการปล่อยเลเซอร์วงแหวนใส่ แต่พลังนี้ก็ทำอะไรไม่ได้ ติดม่านบาเรียที่เกิดจากพลังของเกียร์

จากนั้นก็มีลำแสงเลเซอร์ปล่อยออกมาจากเกียร์อีกครั้ง ทำให้สัตว์ประหลาดเริ่มเป็นฝ่ายเสียเปรียบเพราะบาดเจ็บอย่างหนัก
===== END MUSIC =====

หลังจากที่การเล่นป๊อปปินจบลงแล้ว

ป๊อปพีช: เอาล่ะ! มาเคลียร์สเตจกันเถอะ!!

แล้วจากนั้นทั้งสองก็นำแขนข้างหนึ่งมาประกบกันด้านข้างซึ่งกันละกัน แล้วมือข้างที่ประกบแขนกันก็เกิดแสงขึ้นมา เป็นการชาร์ตพลังเพื่อเตรียมปล่อยท่าไม้ตาย โดยแขนของพวกเธอชูตรงไปที่สัตว์ประหลาด

ป๊อปเลิฟ/พีช: "ป๊อปปินอิมแพ็ค ไฮเปอร์" !!!

จากนั้นก็เกิดลำแสงสีฟ้าและชมพูขนาดใหญ่ม้วนกันเป็นเกลียวพุ่งเข้าไปเผด็จศึกสัตว์ประหลาด และแล้วทั้งสองก็สามารถกำจัดสัตว์ประหลาดลงได้อย่างสวยงาม

เซ: ชิ! แผนเกือบจะสำเร็จอยู่แล้วเชียว! (╬▔皿▔)╯

เซกล่าวก่อนที่จะใช้พลังหายตัวไป

จากนั้นทั้งคู่ก็ได้กลับร่างเดิม แล้ววิ่งเข้ามาหาไทม์เมอร์

เนียมิ: เป็นยังไงมั้ง?

ไทม์เมอร์: ก็... บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่อยู่ๆ มันเหมือนความเจ็บปวดหายไปซะเฉยๆ เลยล่ะ! ^_^

มิมิ: ใช่แล้วล่ะ นั่นแหละคือหนึ่งในพลังใหม่ของพวกเรานั่นแหละ ^_^

ไทม์เมอร์: จริงเหรอเนี่ย!? วิเศษไปเลยนะ!

เนียมิ: อืม!! ^_^

มิมิ: แล้วก็... เรื่องเมื่อเช้านี้... ฉันขอโทษนะ

มิมิหันมาทางเนียมิ

เนียมิ: อ๋อ! หมายถึงเรื่องนั้นเหรอ ตอนนี้ฉันหายโกรธแล้วล่ะ! ...ที่จริงแล้วฉันคงต้องขอบคุณไทม์เมอร์ด้วยแหละ ถ้าหากไม่ได้นายช่วยฉุดสติฉันไว้ล่ะก็ ฉันคงกลายเป็นแมวจรไปเรียบร้อยแล้วล่ะ!

แล้วไทม์เมอร์ก็เกาหัวด้วยความเขินอาย

มิมิ: อืม!! งั้นก็ดีแล้วล่ะนะ ที่เธอหายโกรธ ^_^

เนียมิ: งั้นคืนนี้เรามาเล่นเกมนั้นด้วยกันอีกนะ!

มิมิ: อืม!! คราวนี้ก็เล่นกันอย่างทีมเวิร์กด้วยล่ะ! (ไม่แย่งเก็บของกัน)

เนียมิ: โอเค!! ฉันสัญญาเลย!!

แล้วไทม์เมอร์ก็มองดูทั้งสองอย่างมีความสุข หลังจากที่ทั้งสองหายโกรธกันแล้ว

จากนั้นมิมิก็ใช้ "ซิลลี่คีย์" เปิดประตูมิติจนสามารถกลับออกมายังโลกจริงได้อีกครั้ง โดยทุกคนออกมาอยู่หน้าปากทางเข้าป่า

มิมิ: น่าเสียดายนะที่วันนี้เรายังไม่ได้เศษลูกแก้วเพิ่ม

เนียมิ: อืม!! แต่ว่า...

แล้วทั้งหมดก็หันไปทางตรงข้ามกับทางเข้าป่า พบว่าสถานที่ตรงหน้าเป็นคนละเส้นทางกับขาเข้าป่าในตอนแรก

เนียมิ: ดูเหมือนว่าซิลลี่คีย์จะพาพวกเรามาถึงสถานที่ของภารกิจถัดไปแล้วละนะ!

ไทม์เมอร์: อืม!! ^_^ ยินดีด้วยนะ แต่ตอนนี้ฉันได้นี่มาเรียบร้อยแล้วล่ะ!

ไทม์เมอร์โชว์สมุนไพรที่เก็บมาได้จากในป่าให้ทั้งสองดู

เนียมิ: โห้่!! ได้มาเรียบร้อยแล้วเหรอ?? แล้วได้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ?? (ไม่เห็นรู้เรื่องเลย)

ไทม์เมอร์: ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าพอหลังจากกลับมายังโลกจริงแล้ว ก็มีเจ้านี้ติดมาด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

มิมิ: สงสัยคงจะเป็นเพราะพลังของซิลลี่คีย์แน่ๆ เลยล่ะ

ไทม์เมอร์: อืม! นั่นสินะ ^_^ แต่ว่า...

เนียมิ: มีอะไรงั้นรึ?

ไทม์เมอร์: ก็เพราะว่าจุดที่ฉันอยู่ตรงนี้ มันเป็นคนละทางกับที่ฉันต้องกลับไปส่งสมุนไพรน่ะสิ!!

มิมิ/เนียมิ: เอ๋!? Σ(⊙o⊙;)

ทั้งสองร้องออกมาด้วยความตกใจ แล้วไทม์เมอร์ก็ถึงกับคอตกไปเลย

ไทม์เมอร์: โธ่... คงต้องใช้เวลาทั้งคืนเลยล่ะ กว่าจะเดินอ้อมกลับไปถึงที่เดิมได้... /(ㄒoㄒ)/~~ (ไม่อยากลัดเข้าป่านี้แล้ว)

แล้วทั้งสองก็หัวเราะกันอย่างมีความสุข เขาเองก็พลางขำไปด้วยอย่างเบาๆ เช่นกัน ^_^

และในขณะเดียวกันไทม์เมอร์ก็คิดในใจว่า

ไทม์เมอร์: จะว่าไป.. เนียมิจังเองก็มีข้อดีของเธอเหมือนกันนี่นา... ทั้งน่ารักและห้าวหาญด้วย

แล้วจากนั้นภาพของเนียมิกับป๊อปพีชก็ปรากฏออกมาในหัวของเขา

ไทม์เมอร์: ป๊อปพีช? ใช่สิ! เหมือนกับป๊อปพีชไม่มีผิดเลย แต่ว่าทำไมกันนะฉันถึงหลงรักป๊อปพีชมากกว่้า??

ไทม์เมอร์ตั้งคำถามกับตัวเองทิ้งท้าย ก่อนที่จะจากลากับทั้งสองไป

มิมิ: ถึงแม้ว่าวันนี้เราจะยังไม่ได้เศษลูกแก้ว แต่พรุ่งนี้พวกเราต้องคว้ามาให้ได้เลยนะ!

เนียมิ: อืม!! แต่เส้นทางข้างหน้านับจากนี้ คือสถานที่ต่อไปของพวกเราแล้ว!!

มิมิ/เนียมิ: ไปลุยกันเลย!! LET'S ADVENTURE!! (^_-)/☆\(-_^)






>>>>> TO BE CONTINUED <<<<<

7 สิงหาคม 2565

PMR's FAQs: ตอบทุกคำถามจากแฟนนิยาย!

สวัสดีครับ แอดมินเอครับผม ' w')/

ในบทความนี้จะเป็นการรวบรวมคำถามจากแฟนนิยายที่ได้ถามกันเข้ามาผ่านทางกลุ่มส่วนตัวและทางเพจ LINE ที่ผมได้กลับมาโพสต์ใหม่อีกครั้งในรอบหลายเดือนหลังจากที่เคยถูกแบนไปก่อนหน้านี้ (ทำให้โพสต์และวิดีโอทุกอยากปลิวหายไปหมด) ส่วนจะมีคำถามอะไรบ้างนั้น เชิญอ่านกันได้เลยขอรับ (∩_∩)



หมายเหตุ: ขณะนี้เพจ LINE ส่วนตัวของแอดมินได้กลับมาเปิดอีกครั้งแล้วครับ แต่รอบนี้ไม่ได้เปิดเป็น Public แล้ว เปิดให้เข้ามาดูได้เฉพาะเพื่อนเท่านั้น

Q: นิยายเรื่องนี้จะมีทั้งหมดประมาณกี่ตอน?
A: คำถามแรกนี้แอดมินขอใช้คำตอบเดียวกับนักเขียนอาชีพหลายๆ ท่านเลยแล้วกันครับว่า "ให้คำตอบที่แน่นอนไม่ได้" ครับ

แต่ว่าช่วงก่อนที่จะเริ่มลงมือเขียนต้นฉบับของตอนแรกนั้น แอดมินได้วางโปรเจกต์ไว้คร่าวๆ แล้วว่า ในเรื่องนี้จะมีองก์หรือ PHASE ทั้งหมด 10 องก์ด้วยกัน โดยจะใช้วิธีแบ่งจำนวนองก์ตามเมืองที่ มิมิ เนียมิ ได้เดินทางไปเยือนนั่นเอง ซึ่งขณะนี้ดำเนินมาจนถึง PHASE 4 หรือก็คือผ่านมาได้ครึ่งทางจากทั้งหมด 10 องก์แล้ว ถ้าหากให้แอดมินลอง "เดา" จำนวนตอนทั้งหมด คาดว่าน่าจะประมาณ 80-90 ตอนจบครับ

นอกจากนี้ นิยายเรื่องนี้ยังเป็นเรื่องแรกและเรื่องเดียวของแอดมินด้วย ที่มีจำนวนตอนมากกว่า 30 ตอนครับ ยาวกว่าทุกๆ เรื่องที่เคยเขียนมาก่อนหน้านี้ทั้งหมดเลย

Q: แอดมินเคยเขียนนิยายเรื่องอื่นมาก่อนหน้าแล้วหรือไม่?
A: เคยเขียนนิยายเรื่องอื่นมาก่อนหน้าแล้วครับ แถมมีหลายเรื่องด้วยนะ แต่ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดจะเขียนได้ไม่เคยจบ (พูดอีกอย่างก็คือ "ดองจนตัดจบ" นั่นเอง...)

เหตุผลหลักๆ เพราะแอดมินหาไอเดียเขียนต่อไม่ได้นั่นเอง ( ̄_ ̄|||) แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เขียนจนจบได้ นั่นก็คือ แฟนฟิคจากอนิเมะ Ojamajo Doremi (แม่มดน้อยโดเรมี) นั่นเอง เป็นภาค ม.ปลาย ซึ่งมีมาก่อน Ojamajo Doremi 16-20's ที่เป็น Official Light Novel ซะด้วย!

ส่วนรายชื่อผลงานทั้งหมดก็มีตามนี้ครับ

เรื่องที่เขียนไม่จบ
• หมึกสาว♪ ลุยหลุดโลก ภาค ลุยสนั่นพัทยา (Shinryaku♪ Ika Musume: Pattaya Edition / Squid Girl: Pattaya Edition) [ดอง 13 ตอน]
• Lovely Day 3: Save My Dream [ดอง 2 ตอน]
• NosTale 2: ฮีโร่พันธุ์เปิ่น [ดอง 7 ตอน]
• คาแรคเตอร์ผู้พิทักษ์ ปี 4 (Shugo Chara! ZONE4: The Ultimate Chara-Nari Fighting) [ดอง 23 ตอน] - คล้ายกับเรื่องปัจจุบันที่กำลังเขียนอยู่
• มิรุโมะ ภูตจิ๋วจอมยุ่ง เอ็กซ์ตรีม (Wagamama Fairy Mirumo de Pon! X-TREME) [ดอง 2 ตอน]
• มิรุโมะ เวิลด์ทัวร์ ภูตจิ๋วจอมยุ่ง ปี 5 (Wagamama Fairy Mirumo de Pon! WORLD TOUR) [ดอง 8 ตอน]
• แม่มดน้อยจอมซ่า ฟามีจัง เอ็กซ์ (Ojamajo Fami X) [ดอง 12 ตอน]
• แม่มดน้อยจอมยุ่งโดเรมี มิโรติก 2: ขบวนการจอมเวทย์ป่วนโลก (Ojamajo Doremi MIROTIC 2) [ดอง 15 ตอน]
• ลัคกี้สตาร์: รักฉบับรั่ว หัวใจสี่ดวง (LuckyStar: Konata Love Story) [ดอง 4 ตอน]

เรื่องที่เขียนจบ
• Lovely Day: สื่อรักปาโต้เยา [9 ตอนจบ]
• Lovely Day 2: Night To Miss You [12 ตอนจบ]
• Refresh: ศึกสงคราม มหาเวทย์ [9 ตอนจบ] - เป็นแนวสาวน้อยเวทมนตร์นักสู้คล้ายๆ กับเรื่องปัจจุบันที่กำลังเขียนอยู่
• Refresh 2: Wonder Land [8 ตอนจบ]
• Super Adventure Trickster [26 ตอนจบ] - คล้ายกับเรื่องปัจจุบันที่กำลังเขียนอยู่
• Super Dancer IIDX: มหาสงครามเกมเต้นสท้านจักรวาล [19 ตอนจบ + 1 ตอนพิเศษ]
• แพนตะ ภูตเทวดาจอมป่วน (Panta de Pon!) [ตอนเดียวจบ]
• แม่มดน้อยโดเรมี มิโรติก: ปฏิบัติการพ่อมดล่าฝัน (Ojamajo Doremi MIROTIC) [30 ตอนจบ]

เรื่องที่วางโปรเจกต์ไว้แต่ถูกยกเลิกในภายหลัง
• คาแรคเตอร์ผู้พิทักษ์ ปี 5 (Shugo Chara! Fiesta)
• เครย่อนเวิลด์ เจ้าหญิงน้อยแดนซ์หลุดโลก (Yume no Crayon World) - ภาคต่อแบบไม่เป็นทางการของอนิเมะเรื่อง Yume no Crayon Oukoku
• Onegai My Melody G
• นักขุด...ซิ่งสายฟ้า (Mr. Driller Initial) - ยกเลิกเนื่องจากเนื้อเรื่องเหมือนกับ Initial D มากเกินไป
• ซินามอโรล ผจญภัยแดนมหัศจรรย์ (Cinnamoroll: Dreamy Rider)

ผลงานปัจจุบัน

• pop'n music RESPECT [31 ตอน ณ วันที่โพสต์บทความนี้]

ส่วนใครที่กลัวว่าเรื่องปัจจุบันนี้จะถูกดองจนเหมือนตัดจบไหม แอดมินขอยืนยันเลยว่า "ไม่มีดองแน่นอน!" เพราะเรื่องนี้แอดมินตั้งใจว่าจะเขียนเป็นเรื่อง "สุดท้าย" แล้ว และจะพยายามเขียนให้ถึงตอนจบให้ได้อีกด้วย เพราะหลังจากนี้อีกไม่กี่ปีข้างหน้าแอดมินจะไม่มีเวลาว่างมาเขียนนิยายต่อได้อีกต่อไปแล้ว ส่วนเหตุผลเดี๋ยวจะบอกในช่วงท้ายบทความครับ

Q: ทำไมถึงไม่นำนิยายเรื่องนี้ไปลงในแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Dek-D.com
A: เพราะว่าปัจจุบันเว็บเด็กดีมันแทบจะกลายเป็นเว็บบอร์ดไปแล้วล่ะครับ ไม่ค่อยมีใครเอานิยายมาลงกัน(จริงๆ)เท่าไหร่นัก

และอีกเหตุผลก็คือ เพื่อไม่ให้บล็อกนี้ "ตาย" จากการที่ไม่มีบทความลงเป็นเวลานานยังไงล่ะครับ เพราะปัจจุบันบล็อกนี้แอดมินเองก็แทบจะไม่ได้โพสต์อะไรที่เกี่ยวข้องกับเกมซีรี่ส์ Cotton แล้ว (เพราะไม่มีข่าวหรือข้อมูลที่เกี่ยวกับ Cotton ให้โพสต์เพิ่มอีก) นอกจากนี้ยังเพื่อให้ง่ายต่อการจัดการและแก้ไขในภายหลัง แถมยังได้บูทยอดวิวบล็อกไปด้วยในตัว เพราะถ้าอยากอ่านก็ต้องมาเฉพาะที่บล็อกของเราเท่านั้น

Q: ทำไมบล็อกนี้ถึงไม่อนุญาตให้โพสต์คอมเมนท์ใต้บทความแบบบล็อกอื่นๆ ?
A: เพราะว่าโดน "สแปม" ถล่มเป็นระยะๆ ครับ โดยเฉพาะพวกที่โพสต์โฆษณาเว็บพนันนี่ แทบจะ 90% เลยเห็นจะได้ที่มาโพสต์ลงในช่องคอมเมนท์ตามบทความต่างๆ ซึ่งแอดมินก็เคยลองตั้งให้โพสต์ได้เฉพาะผู้ที่ล็อคอิน Google ดูแล้ว แต่ก็ยังมีประปรายอยู่ดี

แต่ในอนาคตอาจจะพิจารณาลองเปิดให้โพสต์ได้เฉพาะบทความที่กำหนดเท่านั้นครับ ไม่เปิดให้โพสต์ได้ทุกบทความในบล็อก

Q: อยากให้พี่เอเอานิยาย PMR มาดัดแปลงเป็นม็อดเกม Friday Night Funkin
A: ข้อนี้ขอตอบเลยว่า "ไม่" ครับ จริงๆ แล้วก็อยากทำนะ แต่แอดมินอยากให้มันออกมาเป็นแนวกึ่งๆ Visual Novel มากกว่า ...ถ้าจะให้ยกตัวอย่างแบบใกล้เคียงกับสิ่งที่ผมจินตนาการไว้มากที่สุด ก็คงจะเป็นสไตล์คล้ายๆ กับเกม Deemo: Reborn หรือ Yurukill: The Calumniation Games นี่แหละครับ (เกมหลังแอดมินกำลังเล่นอยู่) ซึ่งก็ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอนสำหรับเอ็นจิน FNF (เพราะถ้าจะทำแบบนั้น แอดมินต้องเขียนโค้ดขึ้นมาใหม่เองทั้งหมด เพื่อที่จะใส่พวกมินิเกม คัดซีนแบบเลือกคำตอบได้ หรือฉากแก้ปริศนาลงไป)

และอีกอยากถึงทำได้ ก็จะต้องทำเป็นแบบคัดซีนยาวเกือบ 30 นาทีแน่นอน เพราะผมอยากให้เป็นเกมที่เน้นเนื้อเรื่องเป็นหลัก เอาง่ายๆ สมมุติว่าม็อด FNF ของผมขนาดสัก 5 GB (ใหญ่เพราะไฟล์ภาพประกอบระดับ 4K ในคัดซีน) แต่ต้องนั่งดูคัดซีนที่กดข้ามไม่ได้ยาว 30 นาทีเพื่อเล่นเพลงๆ เดียว ... และไม่มีโหมด Freeplay ด้วย (เพราะม็อดจะแบ่งออกเป็นตอนๆ และมีแค่เพลงเดียวต่อม็อดหนึ่งตอน) เป็นคุณอยากจะโหลดมาเล่นไหมครับ?

Edit: ถ้าใครอยากเล่นม็อด Pop'n ตอนนี้มีคนทำออกมาแล้วครับ แถมพอร์ตมาได้ดีมากเสียด้วย (FNF x PNM Demo Mod) ลองไปหามาเล่นดูได้

ปล. แต่ไม่มีโหมด 9 ปุ่มนะ และทาง Devs ของม็อดดังกล่าวจะไม่ทำด้วย เพราะเรื่องลิขสิทธิ์
อ้างอิงจากเพจ Mod FAQ
*****************************************************
Where's 9 keys mode?
This mod does not contain 9 keys mode. Konami will sue.
*****************************************************

Q: แอดมินชอบ Pretty Cure ?
A: ใช่แล้วครับ! ชอบมากๆ ด้วยนะ! แต่ส่วนตัวเคยดูตั้งแต่ต้นจนจบแค่ภาค 3 (Splash Star) ภาคเดียวที่ทางช่อง 9 เคยเอามาฉายเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว แน่นอนว่าป๊อปเปอร์ส (ทั้งไอเทมและความสามารถต่างๆ) ในนิยายก็ได้ต้นแบบมาจากพรีเคียวในภาคดังกล่าวด้วยเช่นกัน

แต่ว่าน่าเสียดายที่อนิเมะซีรี่ส์นี้ในปัจจุบันยังไม่มีสตรีมมิ่งเจ้าไหนในไทย LC เข้ามาฉายเลยครับ
.·´¯`(>▂<)´¯`·.  (ที่จริงมีใน Crunchyroll แต่บ้านเราโดน Geo-Blocking)

Q: ทำไมแอดมินถึงออกแบบให้ มิมิ เนียมิ แปลงร่างเป็นสาวน้อยเวทมนตร์ได้ในเรื่องนี้?
A: ย้อนกลับขึ้นไปดู Q&A ข้อที่ผ่านมาข้างบนครับ และอีกสาเหตุก็คือ เนื่องจากยังไม่มีใครนำพรีเคียวเข้ามาฉายทางสตรีมมิ่งในไทย จึงสร้างเองเสียเลย...

Q: รู้สึกว่า มิมิ เนียมิ จะได้แปลงร่างน้อยครั้งไปหน่อย?
A: เพราะว่าในช่วงแรกแอดมินตั้งใจจะให้แปลงร่างแค่เฉพาะเวลาที่ต้องสู้กับเซเท่านั้นครับ ซึ่งมีเพียงแค่ไม่กี่ตอนเท่านั้นที่เซปรากฎตัวออกมา ประมาณว่า นานๆ ทีถึงมาสักครั้ง แต่ถ้าลองสังเกตตั้งแต่ตอนที่ 29 เป็นต้นมา จะเห็นว่าทั้งสองได้แปลงร่างแทบจะทุกตอนติดต่อกันเลยก็ว่าได้ ถึงแม้จะไม่มีเซปรากฎตัวออกมาก็ตาม ซึ่งเป็นผลมาจากการที่แอดมินอยากให้ทั้งสองได้ใช้ประโยชน์จากการแปลงร่างมากขึ้นนั่นเอง นอกเหนือไปจากการต่อสู้กับเซ

Q: ทำไมรู้สึกว่าสไตล์การเขียนบทสนทนามันคุ้นๆ จัง? คล้ายในเรื่อง Lucky Star ฉบับมังงะ?
A: ใช่แล้วครับ ผมใช้วิธีการเขียนบทสนทนาจาก Lucky Star จริงๆ ประมาณว่า จะมีความเห็นของตัวละครลงท้ายในบางท่อนด้วย ที่เป็นข้อความตัวเล็กๆ หลังบทสนทนาหลักนั่นแหละ (ถ้าใครเคยอ่าน Lucky Star มาก่อนจะเข้าใจ)

และถ้าลองสังเกตจากวิธีการสนทนาและอุปนิสัยของ มิมิ เนียมิ ในเรื่องนี้ให้ดีจะพบว่า...
เนียมิ = โคนาตะ
มิมิ = คางามิ
อาจจะเรียกได้ว่า โคนาตะ กับ คางามิ มาเกิดใหม่เป็น เนียมิ กับ มิมิ ในโลก Mega Tier ก็เป็นได้ ^_^

Q: ไม่เข้าใจปฐมบท‎ "กำเนิด Mega Tier" อ่ะ...
A: จะให้แนะนำยังไงดีหว่า?
เอาเป็นว่าอธิบายง่ายๆ คือ ตัวละครในเรื่องนี้กับตัวละครในเกมเป็นตัวละครเดียวกัน แต่ไม่ใช่คนเดียวกัน เป็น "จักรวาลคู่ขนาน" กับฉบับเกม

Q: อยากให้เขียนตอนเปิดตัวของฝั่งมิมิด้วย?
A: เร็วๆ นี้แน่นอนครับ! (^_<)☆

Q: มีแผนจะเขียนภาคต่อหรือไม่ หลังจากที่จบแล้ว?
เคยวางแผนไว้ว่าจะให้มีภาคต่อด้วยครับ และมีถึง 3 ภาคด้วยกัน แต่จากสถานการณ์เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของแอดมินในปัจจุบันและอนาคตข้างหน้า จะขอสิ้นสุดแค่ pop'n music RESPECT เท่านั้นนะครับ ไม่มีภาคต่ออีกแล้ว...

Q: อยากสนับสนุนผลงานของแอดมิน เพราะชอบนิยายเรื่องนี้มากๆ !
A: ขอบคุณมากๆ เลยครับผม แต่ถ้าหมายถึงการ Donate เงินละก็ ณ ขณะนี้ยังไม่มีแผนจะเปิดให้มีการสนับสนุนในช่องทางใดๆ นะครับ แต่ในอนาคตอาจจะออกตอนพิเศษที่เปิดให้อ่านได้เฉพาะ Donor เท่านั้น หรืออาจจะทำของที่ระลึกมาวางขายก็เป็นได้

ทิ้งท้าย:
ช่วงนี้นิยายจะเริ่มกลับมาอัพตอนใหม่เร็วขึ้น ซึ่งเป็นเพราะตอนนี้แอดมินได้เว้นว่างจากงานดีบั๊กสุดทรหดเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเองครับ!

แอดมินก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะสามารถเขียนได้จนถึงตอนจบทันก่อนขึ้นบ้านใหม่ในอีก 1 ปีข้างหน้านี้ เพราะหลังจากนี้แอดมินจะไม่มีเวลาว่างมาเขียนนิยายต่อได้อีกต่อไปแล้ว...



      peace!     

5 สิงหาคม 2565

pop'n music RESPECT : STAGE 31 「ความลับของกุญแจเวทมนตร์」

วันต่อมา หลังจากที่ทั้งสองเดินทางฝ่าเส้นทางป่ามาเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมง ในที่สุด ตอนนี้พวกเธอก็ได้เดินทางมาจนถึงจุดหมายเรียบร้อยแล้ว

สิ่งที่ทั้งสองเห็นตรงหน้าในขณะนี้ก็คือ สะพานข้ามแม่น้ำที่มีซุ้มประตูต้อนรับ ป้ายต้อนรับบนซุ้มประตูระบุว่า "หมู่บ้าน Role"

มิมิ: เฮ่อ.. ในที่สุดก็มาถึงสักทีนะ o(* ̄▽ ̄*)o

เนียมิ: เดินกันมาตั้งนานแล้ว ฉันว่าหาอะไรเย็นๆ ดึ่มให้ชื่นใจกันก่อนดีกว่า

มิมิ: อืม!! (∩_∩)

จากนั้นทั้งสองก็เดินข้ามสะพานนั้นไป เพื่อเข้าสู่ตัวหมู่บ้าน

--------------------------------------------------------------------------------



STAGE 31
「ความลับของกุญแจเวทมนตร์」

--------------------------------------------------------------------------------

ภายในตัวหมู่บ้านมีลักษณะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีบ้านขนาดเล็กตั้งกระจัดกระจายกันไป และรอบๆ หมู่บ้านเต็มไปด้วยต้นไม้และพืชพันธุ์หลากหลายชนิด บรรยากาศโดยรวมดูคล้ายกับหมู่บ้านที่อยู่ภายในพื้นที่ป่า แน่นอนว่าที่นี่ไม่มีมลพิษเลยแม้แต่น้อย

มิมิ: เป็นหมู่บ้านที่มีทิวทัศน์สวยงามมากเลยนะ

เนียมิ: อืม!! อากาศก็สดชื่นมากๆ ด้วยล่ะ!

หลังจากที่เดินสำรวจรอบหมู่บ้านแล้ว ทั้งสองได้เดินเข้าไปยังร้านอาหารเล็กๆ ร้านหนึ่ง ที่มีลักษณะเป็นคาเฟ่

โดยทั้งสองได้สั่งพาร์เฟต์ (ไอศกรีมแก้ว) ซึ่งเป็นหนึ่งในเมนูแนะนำของร้านนี้

และทันทีที่เมื่อทั้งสองได้กินเข้าไป

เนียมิ: ว้าว!! อร่อยจัง!!! (p≧w≦q)♥

มิมิ: พอได้กินพาร์เฟต์นี้แล้ว มันรู้สึกเหมือนได้ลืมความเหนื่อยล้าจากการเดินไกลไปเลยล่ะ!! (p≧w≦q)

"ขอโทษที่รบกวนเวลากินนะ พวกท่านคือมิมิกับเนียมิใช่หรือเปล่า?"

อยู่ๆ คุณเจ้าของร้านก็มาทักทั้งสอง

มิมิ: ใช่แล้วค่ะ มีอะไรงั้นเหรอ?

"คือได้ยินมาว่าพวกท่านกำลังตามหา เศษลูกแก้วเวทมนตร์ กันอยู่สินะ?"

เนียมิ: ทำไมถึงรู้ล่ะ??

คุณเจ้าของร้านหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วพูดว่า

"ฮ่าๆ (∩_∩) ก็เพราะพวกเธอใส่ชุดผู้กล้าอยู่นี่ไง และฉันก็ได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับพวกเธอมาได้สักพักแล้วล่ะ (ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอตัวเป็นๆ วันนี้)"

เนียมิ: อ๋อ งั้นเองเหรอคะ (∩_∩)

"ฉันว่าพวกเธอน่าจะลองไปหาคนในหมู่บ้านคนนี้ดูนะ บางทีเขาอาจจะพอช่วยเหลืออะไรเกี่ยวกับกุญแจเวทมนตร์ก็ได้"

แล้วเธอก็ให้รูปถ่ายของบุคคลหนึ่งมา เป็นเด็กผู้ชายวัยไล่เลี่ยกับทั้งสอง (ประมาณ 12-14 ปี) มีผมสีน้ำเงินและผูกผ้าพันศีรษะ

มิมิ: อืม!! เดี๋ยวพวกเราจะไปหาค่ะ!!

--------------------------------------------------------------------------------

เวลาต่อมา หลังจากที่ทั้งสองกินเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาที่ทั้งสองต้องออกตามหาบุคคลตามในรูปถ่ายเพื่อทำภารกิจ

มิมิ: ช่วยเหลือเกี่ยวกับกุญแจเวทมนตร์ งั้นเหรอ?? (มันหมายความว่ายังไงกันนะ)

เนียมิ: บางทีเขาอาจจะรู้อะไรเกี่ยวกับกุญแจเวทมนตร์ก็ได้

มิมิ: อืม! นั่นสินะ

และในระหว่างที่ทั้งสองกำลังเดินหาไปเรื่อยๆ นั้น ก็มีคนกลุ่มหนึ่งที่เดินมาเจอพวกเธอพอดี

"เฮ้ย! นั่นมันมิมิกับเนียมิไม่ใช่เหรอน่ะ"

"ตัวจริงด้วยสินะ"

แล้วจากนั้นบุคคลกลุ่มนั้นก็เดินเข้ามาหาทั้งสอง

"พวกท่านคือมิมิกับเนียมิที่เป็นผู้กล้าใช่หรือเปล่า?"

มิมิ: ชะ.. ใช่แล้วค่ะ มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า?

"คือว่า... ขอลายเซ็นหน่อยนะ!"

คนกลุ่มนั้นยื่นกระดาษเปล่าให้

มิมิ: เอายังไงดี? ( ̄_ ̄|||) (ฉันไม่เคยวาดลายเซ็นมาก่อนซะด้วยสิ)

เนียมิ: ก็คงต้องเอาตามนั้นแหละ

แล้วจากนั้นทั้งสองก็ได้วาดลายเซ็นใส่กระดาษเปล่าให้กับพวกเขา

"ขอบคุณสำหรับลายเซ็นนะ!"

แล้วคนกลุ่มนั้นก็จากไปอย่างมีความสุข

แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน ก็มีอีกหลายคนที่ได้เข้ามาขอลายเซ็นด้วยเช่นกัน

"เฮ้ย! ขอลายเซ็นหน่อยนะ!"

"ขอลายเซ็นหน่อยนะ!"

"มิมิกับเนียมิ ตัวจริงเสียงจริง!"

กลุ่มคนจำนวนมากได้รุมเข้ามาขอลายเซ็นกันเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ จนทั้งสองไม่ทันได้ตั้งตัว

มิมิ: นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?? ≧ ﹏ ≦

--------------------------------------------------------------------------------

เวลาผ่านไป หลังจากที่ทั้งสองได้แจกลายเซ็นให้กับทุกคนครบหมดแล้ว ทั้งสองก็ทรุดตัวลงด้วยความเหนื่อยล้า

มิมิ: เฮ่อ... หมดสักที... (;´д`)ゞ

เนียมิ: รู้สึกกลับมาเหนื่อยเหมือนตอนก่อนจะกินพาร์เฟต์อีกแล้วล่ะ... (><;) (เป็นคนดังนี่มันลำบากจริงๆ)

"พวกเจ้ากำลังตามหาข้าอยู่เหรอ?"

อยู่ๆ ก็มีคนมาทักพวกเธอ ทั้งสองจึงหันไปมอง

มิมิ: ถ้าจะมาขอลายเซ็นล่ะก็ พวกฉันไม่ให้แล้วนะ... เอ๊!? Σ( °Д °)

เมื่อทั้งสองสังเกตดูดีๆ พบว่าคนๆ นั้นเป็นบุคคลที่พวกเธอกำลังตามหาอยู่

"ยินดีที่ได้รู้จักด้วยนะ ข้าชื่อ "โปโต" (poto)"

มิมิ: ยะ.. ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ!! (∩_∩)

โปโต: เฮ่อ.. แต่ก็น่าอิจฉาอยู่นิดหนึ่งนะ

เนียมิ: ทำไมล่ะ??

โปโต: ก็เพราะพวกเธอได้เป็นผู้กล้ากันแล้วนี่นา...

เนียมิ: เออ.. ก็ใช่นะ! แม้ตอนนี้นายอาจจะยังไม่ได้เป็น แต่ก็ยังพอมีโอกาสอยู่นี่นะ? (ถ้าพยายามหมั่นฝึกซ้อมบ่อยๆ)

โปโต: มันก็จริงนะ แต่ว่าข้าเพิ่งแพ้ให้กับ "ผู้กล้าจอมปลอม" มาหมาดๆ เนี่ยสิ

มิมิ: ผู้กล้าจอมปลอม!? หรือจะหมายถึง แอสคอต?

โปโต: ทำไมเจ้าถึงรู้ล่ะ??

มิมิ: ก็เพราะพวกเราเคยแบทเทิลกับเขาในศึกคัดเลือกผู้กล้าที่ปราสาทของเมืองหลวงไงล่ะ

โปโต: แบบนี้เอง... พวกเธอก็เลยได้ถูกคัดเลือกให้กลายเป็นผู้กล้าตัวจริงสินะ

มิมิ: อืม!!

มิมิพยักหน้า

เนียมิ: แล้วเขามาหานายที่นี่เหรอ หรือว่านายไปแข่งกับเขาที่ปราสาท?

โปโต: เขามาท้าแข่งกับข้าที่นี่น่ะ แต่ว่า.. ก็สู้ไม่ได้เลย... (>_<)

มิมิ: ( ̄_ ̄|||) อย่างนี้เอง นายก็เลยหมดสิทธิเดินทางไปที่ปราสาทเพื่อร่วมศึกคัดเลือกตัวผู้กล้าสินะ...

โปโต: เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ( ̄_ ̄|||) เอาล่ะ ไหนข้าขอดูกุญแจเวทมนตร์ของพวกเจ้าหน่อยสิ

มิมิ: อืม! ได้สิ

จากนั้นมิมิก็ยื่นมือออกไปข้างหน้า แล้วซิลลี่คีย์ก็ปรากฎออกมาในมือ

แล้วโปโตก็มองดูซิลลี่คีย์อย่างตกตะลึงจนแทบไม่กระพริบตา

โปโต: โห๊!! (⊙o⊙) สุดยอด!! เกิดมาข้าเพิ่งเคยเห็นซิลลี่คีย์ของจริงกับตาตัวเองเป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย!! (เคยเห็นแต่ในรูป)

เนียมิ: นั่นสิ! แล้วนายรู้อะไรเกี่ยวกับซิลลี่คีย์นี่หรือเปล่า?

โปโต: อืม!! รู้สิ ข้าศึกษามาเป็นอย่างดีเลยล่ะ!! ...ไหนขอให้ข้าลองตรวจสอบดูหน่อยสิ

แล้วมิมิก็ส่งซิลลี่คีย์ให้โปโตไป เขาก็ลองตรวจสอบและพลิกไปหมุนมาอยู่หลายรอบ

โปโต: อืม! เป็นของแท้จากพระราชวังจริงๆ ด้วยนะ.. แล้วลูกแก้วที่อยู่บนนี้ ทำไมถึงมันแหว่งแบบนั้นล่ะ...

โปโตถามถึงเศษลูกแก้วที่ขาดหายไปบนหัวกุญแจ

มิมิ: คือพวกเราได้รับภารกิจให้ตามหาเศษลูกแก้วของกุญแจที่หายไปน่ะ

โปโต: อ๋อ.. เข้าใจแล้ว ภารกิจการเป็นผู้กล้าของพวกเธอก็คือการรวบรวมเศษลูกแก้วเพื่อทำให้กุญแจนี้กลับคืนสู่สภาพเดิมสินะ (ข้าเพิ่งทราบเรื่องนี้เองนะ)

มิมิ: ถูกต้องแล้วจ๊ะ ^_^

โปโต: งั้นก็แปลว่า..!! เมื่อรวบรวมเศษลูกแก้วครบแล้ว พวกเจ้าจะนำกุญแจนี้ไปปราบหัวหน้าของ "จักรพรรดิ Desperus" กันสินะ!?

เนียมิ: เปล่า... พวกเราจะนำกุญแจกลับไปคืนพระราชวังหลังจากที่รวบรวมได้ครบแล้วน่ะ

โปโต: งั้นเหรอเนี่ย โธ่... >︿<

เนียมิ: แล้ว "จักรพรรดิ Desperus" ที่ว่า มันคืออะไรกันเหรอ?

โปโต: เป็นจักรพรรดิของเผ่าจอมมารชั่วร้ายที่หวังจะยึดครองอาณาจักรเทพนิยายแห่งนี้น่ะ ในครั้งอดีตเมื่อหลายพันปีก่อน พวกมันเคยยกกองทัพปิศาจบุกมายังอาณาจักรเทพนิยายมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็ถูกผู้กล้าในขณะนั้นใช้เวทมนตร์จากซิลลี่คีย์ปิดผนึกตัวหัวหน้าไว้ได้ ทำให้ชาวอาณาจักรในรุ่นต่อๆ มา มีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขจนถึงทุกวันนี้ยังไงล่ะ!

เนียมิ: อ๋อ..! (⊙o⊙)

โปโต: แต่ทว่า... ไม่กี่สัปดาห์ก่อน ดันมีใครบางคนไปทำการ "คลายผนึก" มันออกมาซะแล้วล่ะ...

แล้วทั้งสองก็คิดในใจ "หรือจะหมายถึง เซ?"

เนียมิ: แล้วคนที่ไปคลายผนึกจอมมารออก พอจะทราบไหมว่าเป็นใคร?

โปโต: ข้าเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน... แต่เท่าที่ได้ยินข่าวลือมาล่าสุด พวกมันกำลังเริ่มวางแผนเพื่อเตรียมบุกเมืองหลวงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้แล้วล่ะ...

มิมิ: นั่นสิ! แล้วเวทมนตร์ของซิลลี่คีย์นี่ มันเป็นยังไงเหรอ?

โปโต: เรื่องนั้นข้าขอเอาไว้เล่าทีหลังจะได้ไหม?

มิมิ/เนียมิ: เล่าทีหลัง?

ทั้งสองเริ่มสงสัยท่าทางแปลกๆ ของเขา

โปโต: อืม!! ถ้าพวกเจ้าอยากรู้เรื่องนี้ล่ะก็... ข้าขอร้องให้พวกเจ้าช่วยข้าเรื่องหนึ่งจะได้ไหม? ถ้าพวกเจ้าช่วยเหลือข้า ข้าจะบอกเรื่องสำคัญนี้ให้เป็นการตอบแทน

เนียมิ: ได้สิ! มีอะไรให้พวกเราช่วยก็ว่ามาได้เลย!!

โปโต: คือว่าตอนนี้ข้ากำลังตามล่าเจ้าตัวนี้อยู่น่ะ...

โปโตหยิบรูปบางอย่างมาให้ทั้งสองดู เป็นรูปของมังกรตัวหนึ่ง

มิมิ: นี่มัน...!?

โปโต: ข้ากำลังตามล่ามังกรตัวนี้อยู่น่ะ มันเป็นหนึ่งในมังกรที่แข็งแกร่งมาก ข้าเคยสู้กับมันมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็สู้ไม่ไหว... ข้าเลยอยากได้สหายร่วมศึกในการต่อสู้ครั้งนี้

เมื่อทั้งสองได้ทราบคำขอ ก็ออกอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด

เนียมิ: เอ๊!? Σ( °Д °) จะให้พวกเราไปล่ามังกรกันเลยเหรอ!?

โปโต: ใช่แล้วล่ะ! และอีกเรื่องหนึ่งก็คือ.. ข้าได้ยินมาว่าหนึ่งในเศษลูกแก้วอยู่กับมังกรตัวนี้ด้วยนะ บางทีถ้าพวกเราเอาชนะมันได้ พวกเจ้าก็อาจจะได้เศษลูกแก้วมาเป็นรางวัลด้วยก็ได้นะ

เนียมิ: อย่างนี้เอง... แต่ว่าพวกเราไม่มีวิชาการสู้รบอะไรเลยนะ...?

มิมิ: มีสิ! ก็ไอ้นี่ไง!!

แล้วมิมิก็ยกแขนข้างขวาที่สวมกำไลป๊อปเปอร์สให้เนียมิดู

เนียมิ: อ่อ จริงสินะ พวกเรามีวิชาเวทมนตร์นี่นา ฮ่าๆ ^_^

โปโต: ท่านทั้งสองเป็นนักเวทย์กันสินะ? (ลืมถามเรื่องอาชีพไปซะสนิทเลย)

เนียมิ: อืม!! ใช่แล้วล่ะ นี่ไง!

แล้วเนียมิก็แสดงเวทมนตร์แบบง่ายๆ ให้โปโตดู เป็นเวทย์เรียกลูกบอลพลังงานออกมา ซึ่งเป็นพลังที่เกิดจากถุงมือที่ใส่อยู่

โปโต: ว้าว!! Σ( °o °) ใช้เวทมนตร์ได้จริงๆ ด้วย พอดีข้าก็อยากได้นักเวทย์มาร่วมทีมอยู่พอดีเลย!! เพราะที่หมู่บ้านนี้ไม่ค่อยมีใครสนใจจะเรียนเวทมนตร์กันเท่าไหร่ นักเวทย์ที่นี่ก็เลยมีน้อยตามไปด้วย ...งั้นศึกในครั้งนี้ก็คงจะเป็นเรื่องหมูๆ แล้วสินะ! ^_^

มิมิ: อืม!! มันแน่นอนอยู่แล้ว!! (∩_∩) (รับประกันฝีมือได้เลย)

เนียมิ: เอาเป็นว่าในตอนนี้พวกเราก็...

มิมิ/เนียมิ/โปโต: ไปลุยกันเลย!! LET'S ADVENTURE!! (^_-)/(^_-)/(^_-)/☆



--------------------------------------------------------------------------------

และแล้วก็ถึงเวลาที่ทั้งสามเริ่มออกเดินทางไปล่ามังกร เพื่อชิงเศษลูกแก้วจากมันมา

มิมิ: แล้วเจ้ามังกรที่ว่า อยู่ที่ไหนเหรอ?

โปโต: อยู่ที่หุบเขาแถวๆ นี้แหละ

เนียมิ: แล้วอีกไกลมั้ยกว่าจะถึงจุดหมาย?

โปโต: ก็... น่าจะต้องเดินไปอีกประมาณ 40 นาที ถึงจะไปถึงที่หุบเขานั้นน่ะ

เนียมิ: ห๊ะ!? Σ( °Д °) 40 นาทีเลยเหรอ??

โปโต: ข้าก็แค่ลอง "ประมาณ" จากความรู้สึกที่เคยเดินทางไปเท่านั้นนะ จริงๆ แล้วข้าก็ไม่รู้หรอกว่าต้องเดินไปอีกกี่นาที..

เนียมิ: แต่ก็แปลว่า "ไกล" จากหมู่บ้านมากอยู่ดี ( ̄▽ ̄)"

มิมิ: อย่างนี้สงสัยขากลับพวกเราคงต้องแวะไปกินพาร์เฟต์มหัศจรรย์ที่ร้านนั้นอีกครั้งแล้วสินะ (∩_∩;)

โปโต: พูดถึงพาร์เฟต์ที่ร้านในหมู่บ้านเหรอ??

มิมิ: อืม!! ฉันชอบมากเลยล่ะ!! พอได้กินแล้วก็รู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งจริงๆ !!

โปโต: ใช่! เพราะพาร์เฟต์ที่ร้านนั้น ที่จริงแล้วเป็นพาร์เฟต์ที่ทำจากยาเวทมนตร์น่ะ

เมื่อทั้งสองได้ยินคำตอบจากเขา ทั้งคู่ก็ถึงกับอึ้ง

มิมิ: เอ๊!? แสดงว่าพาร์เฟต์ที่พวกเรากิน เป็น "พาร์เฟต์วิเศษ" จริงๆ งั้นเหรอ?

โปโต: ถูกต้องแล้วล่ะ! จริงๆ แล้วร้านคาเฟ่นั่น เดิมทีเคยเปิดเป็นร้านขายยาเวทมนตร์มาก่อน คอยขายพวกยาโพชั่นประเภทต่างๆ ให้กับนักเดินทางและคนในหมู่บ้าน แต่ว่ากิจการกลับไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ต่อมาร้านนั้นก็เลยทดลองปรับกลยุทธ์ใหม่ด้วยการเปลี่ยนเป็นร้านอาหารแทน แต่เป็นอาหารที่ใส่ส่วนผสมของโพชั่นลงไป ทำให้เกิดรสชาติที่แปลกใหม่ แถมยังทำให้ผู้ที่กินเข้าไปรู้สึกเหมือนได้ฟื้นฟูสภาพร่างกายไปด้วย ซึ่งผลลัพธ์คือ นับตั้งแต่นั้นมาร้านนั้นก็เป็นที่นิยมจากเหล่านักเดินทางเป็นอย่างมาก เพราะมันเหมือนได้ฟื้นฟูความเหนื่อยและได้อิ่มพร้อมกันไปด้วยเลยยังไงล่ะ! ^_^

เนียมิ: อย่างนี้ก็มีด้วยแฮะ... ( ̄_ ̄|||) แต่รสชาติเขาดีจริงๆ มากเลยนะ! (ฉันเองก็ชอบเหมือนกัน)

และหลังจากที่เดินมาได้สักพัก ก็มีนกตัวหนึ่งบินเข้ามาหาโปโต

โปโต: ว่าไง! เมลโล่ (Mellow)

เขาทักนกตัวนั้น นกตัวนั้นก็มองเขาอยู่พักหนึ่งเหมือนต้องการจะพูดอะไรด้วย ก่อนที่จะบินมาเกาะที่ไหล่ของเขา

มิมิ: เอ๊!? Σ( °o °) แล้วนั่น...??

เธอรู้สึกแปลกใจที่อยู่ๆ ก็มีนกมาเกาะไหล่โปโต

โปโต: อืม! เจ้านกอินทรีนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของข้าเอง ชื่อ "เมลโล่"

เนียมิ: โห้!? (⊙o⊙) มีนกอินทรีเป็นเพื่อนคู่กายด้วยเหรอเนี่ย!?

โปโต: อืม! ที่จริงแล้วเจ้านี่เป็นนกจรที่อาศัยอยู่แถวนี้น่ะ ตอนที่เจอกันครั้งแรกมันบาดเจ็บจากเหตุใดไม่ทราบ ข้าก็เลยเก็บมันมารักษา แล้วหลังจากนั้นมันก็ติดข้ามาก จนเรียกได้ว่า เวลาข้าไปไหน มันก็บินตามไปด้วยเสมอเลยล่ะ.. และเจ้าเมลโล่ก็เป็นนกที่ฉลาดมาก เวลาที่ข้าสั่งให้ทำอะไรมันก็ทำตามได้แทบจะทุกอย่างเลยล่ะ!

เนียมิ: โห สุดยอด...! (⊙o⊙)

มิมิ: ฉันเองก็อยากมีสัตว์เลี้ยงที่ฉลาดแบบนี้บ้างจัง ^_^

โปโต: เอาล่ะ ลองไปสำรวจที่หุบเขาที่เคยไปเมื่อตอนนั้นหน่อยสิ ดูว่ายังมีมังกรตัวนั้นอยู่ไหม

เขาออกคำสั่งให้กับเมลโล่ แล้วจากนั้นเมลโล่ก็บินออกไปทันที

เนียมิ: แล้วจากนี้จะเป็นยังไงต่อเหรอ?

โปโต: เดี๋ยวสักพักเมลโล่ก็บินกลับมารายงานสถานการณ์เองแหละ พวกเราก็เดินต่อไปเรื่อยๆ กันเถอะ

มิมิ: อืม!!

แล้วจากนั้นทั้งหมดก็เดินทางกันต่อไป

--------------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่เดินทางมาได้สักระยะหนึ่ง ในที่สุดก็มาถึงบริเวณหุบเขาที่เป็นจุดหมายปลายทาง ลักษณะเป็นพื้นที่โล่งที่มีเพียงแค่พื้นหญ้า และตรงหน้าเป็นเหวที่สามารถมองเห็นพื้นที่หญ้าโล่งที่อยู่ข้างล่าง และภูเขาที่อยู่ไกลออกไปในอีกฝากฝังหนึ่ง

โปโต: มาถึงแล้วล่ะ! นี่ที่แหละ!

แล้วทั้งสองก็สอดส่องดูบรรยากาศโดยรอบ

มิมิ: วิวสวยมากด้วยนะ!

เนียมิ: อืม!! ^_^

แล้วจากนั้นสักพักเมลโล่ก็บินกลับมาหาโปโต ทั้งสองจ้องมองกันอยู่พักหนึ่งเหมือนจะคุยอะไรกัน

โปโต: มังกรตัวนั้นยังอยู่ด้วยล่ะ!

โปโตหันมาบอกพวกมิมิ

มิมิ: จริงเหรอ!? (⊙o⊙)

เนียมิ: แล้วนายคุยกันรู้เรื่องด้วยเหรอ?

โปโต: ก็... ไม่รู้เหมือนกันนะ แต่ว่าข้าสามารถได้ยินสิ่งที่เมลโล่พูดออกมาทั้งหมดเลยล่ะ! ^_^

เนียมิ: อ๋อ.. ก็คล้ายกับเวลาที่ฉันชอบไปคุยกับแมวจริงๆ สินะ ^_^; (ไม่มีใครเข้าใจที่แมวพูดยกเว้นเราคนเดียว)

โปโต: แล้วเจ้ามังกรนั่นอยู่ที่ไหนล่ะ??

โปโตถามเมลโล่อีกครั้ง ก่อนที่จะหันมาบอกพวกมิมิ

โปโต: มันอยู่บริเวณไม่ไกลจากแถวนี้แหละ! เดินเลาะไปตามเหวเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ได้เจอแล้วล่ะ!

แล้วจากนั้นทั้งหมดจึงรีบเดินทางไปหามังกร โดยที่เมลโล่บินนำทางไป

และหลังจากที่เดินมาได้สักระยะ ในที่สุดก็ได้พบกับมังกรสีเทาขนาดมหึมา ที่กำลังนอนหลับอยู่กลางพื้นหญ้า

มิมิ: หรือนี่จะเป็น...?

โปโต: ใช่! เจ้านี่แหละ!!

จากนั้นพวกมิมิจึงสอดส่องมังกรอยู่พักหนึ่งเพื่อมองหาเศษลูกแก้วและศึกษาลักษณะทางกายภาพของมังกรไปพร้อมๆ กัน

โปโต: เอาล่ะ พร้อมหรือยัง?

มิมิ/เนียมิ: โอเค!!

แล้วจากนั้นโปโตก็ชักดาบออกจากฝัก แล้ววิ่งตรงเข้าไปหามังกรเพื่อเปิดฉากการต่อสู้

โปโต: ย้ากกกกก!!

เนียมิ: ตอนนี้พวกเราก็รีบแปลงร่างกันเถอะ!!

มิมิ: อืม!!

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ยกแขนข้างที่สวมกำไลแปลงร่างขึ้นมา แล้วตะโกนว่า

มิมิ/เนียมิ: "ป๊อปปินแปลงร่าง!!"

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็แปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์ส

และในจังหวะเดียวกันกับที่ทั้งคู่แปลงร่างเสร็จ ขณะที่โปโตกำลังวิ่งเข้าไปใกล้กับมังกร มังกรก็ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาพอดี และได้ใช้หางฟาดเข้าใส่ในทันที

โปโต: อ้ากกกก!!

โปโตกระเด็นลอยกลับมา

ป๊อปเลิฟ: ไม่เป็นไรนะ!

ป๊อปเลิฟเข้าไปหาโปโตที่ลอยลงมากระแทกกับพื้น

โปโต: อืม! ข้ายังไหวอยู่ ...ว่าแต่ พวกท่านเป็นใครกันน่ะ??

โปโตสงสัยทั้งสองที่ชุดและหน้าตา(ทรงผม)ไม่เหมือนเดิม

ป๊อปพีช: นั่นสิ แล้วพวกเรามาทำอะไรที่นี่กันหว่า?? ( ̄_ ̄|||)

ป๊อปเลิฟ: พวกเราก็คือ.. เออ... นี่ก็คือ "ชุดรบ" ของพวกเรา มิมิ เนียมิ เองยังไงล่ะ!

ป๊อปพีช: เอ๋?? Σ( °Д °) แล้วจะบอกเรื่องความลับไปทำไมล่ะ??

ป๊อปเลิฟ: เดี๋ยวฉันเคลียร์เรื่องนี้ให้เขาทีหลังแล้วกัน ตอนนี้พวกเราต้องช่วยเขาสู้ก่อน

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ตั้งท่าเตรียมร่วมการต่อสู้

โปโต: เออ.. ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเจ้าเมื่อกี้ แต่ชุดจอมเวทย์ของพวกเจ้าก็สวยดีเหมือนกันนะ (* ̄▽ ̄*)

ป๊อปพีช: เอาล่ะ พวกเราทั้งหมดมาลุยด้วยกันเถอะ!

ป๊อปเลิฟ: อืม!!

แล้วจากนั้นก็เริ่มศึกล่ามังกรที่แท้จริง ทั้งสองเป็นฝ่ายนำเข้าไปก่อน โดยป๊อปพีชเข้าไปต่อยด้านหน้ามังกร ส่วนป๊อปเลิฟก็กระโดดเตะจากอีกด้านของมังกร

ส่วนโปโตก็ตามกระโดดเข้าไปฟันหลังจากที่ทั้งสองโจมตีเสร็จ

จากนั้นมังกรจึงใช้ท่าปล่อยพลังเป็นลักษณะวงแหวนออกมาจากกรงเล็บ พลังนี้ได้พุ่งเข้าใส่เขา แต่ป๊อปพีชเห็นก่อนจึงเข้ามาใช้ "ป๊อปเปอร์ชิล" หรือสนามโล่พลังป้องกันไว้ได้

ป๊อปพีช: ไม่เป็นไรนะ!

โปโต: อืม! ขอบใจนะ!

แล้วจากนั้นโปโตก็เป็นฝ่ายโจมตีต่อโดยเข้าไปฟันอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ได้กระหน่ำฟันเป็นคอมโบชุดใหญ่เลย ส่วนป๊อปเปอร์สก็ช่วยโจมตีเสริมด้วยท่ากายภาพ จนมังกรล้มลงไป

ต่อมามังกรได้ลุกขึ้นอีกครั้ง แล้วคราวนี้มันได้ใช้ท่าปล่อยคลื่นพลังออกมาจากมือทั้งสองข้าง แต่ทว่าครั้งนี้ป๊อปเปอร์สช่วยป้องกันไว้ไม่ทันเพราะท่าออกเร็วมาก ทำให้เขารับแรงโจมตีไปแบบเต็มๆ จนตัวกระเด็นไปอีกครั้ง

ป๊อปเลิฟ: โปโต!! Σ(; °Д °)

โปโตอยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัส เขาพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาเพื่อสู้ต่อ แต่ก็ไม่ไหว

ป๊อปพีช: เป็นอะไรหรือเปล่า??

โปโต: ข้ายัง... ไหวอยู่... อ่า...

เขาทรุดตัวลงไปนอนจากความเจ็บปวด

ป๊อปเลิฟ: โปโตแข็งใจไว้ก่อนนะ!! (っ °Д °;)っ

ป๊อปพีช: อย่าเพิ่งตายนะ!! ( °Д °;)

แล้วในทันใดนั้นเอง อยู่ๆ ที่เข็มกลัดบนชุดของป๊อปเลิฟก็ส่องแสงออกมา ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจ

ป๊อปเลิฟ: เอ๊!? (เกิดอะไรขึ้นน่ะ??)

แล้วจากนั้นก็มี "ใบโคลเวอร์สี่แฉก" ที่โปเอ็ตเคยมอบให้กับเธอ ลอยออกมาจากเข็มกลัดที่กำลังส่องแสง ซึ่งใบโคลเวอร์นั้นก็กำลังส่องแสงอยู่ด้วยเช่นกัน

"พวกเจ้าช่วยบรรเลงบทเพลงปลุกใจให้กับสหายของพวกเจ้าด้วยนะ!"

เสียงปริศนาดังออกมาจากใบโคลเวอร์เพื่อบอกบางสิ่งให้กับพวกป๊อปเปอร์ส แล้วจากนั้นใบโคลเวอร์ก็แปลงสภาพกลายเป็นลูกบอลพลังสีเขียว ก่อนที่ลูกพลังนี้จะพุ่งเข้าไปหาโปโต ซึ่งหลังจากนั้นบริเวณรอบๆ ตัวเขาก็เกิดขอบแสงออร่าอ่อนๆ ขึ้นมารอบตัว

จากนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายได้รับการฟื้นฟูอีกครั้ง ความเจ็บปวดเมื่อสักครู่กำลังค่อยๆ หายไป

แล้วเขาก็ค่อยๆ ลุกขึ้นมายืนได้อีกครั้ง

โปโต: นี่มัน... เกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย??

โปโตพูดพลางมองที่มือของตัวเองเพื่อดูแสงออร่า เขายังคงทึ่งและสับสนกับตัวเองอยู่

ป๊อปพีช: หรือว่าใบโคลเวอร์นั่นจะ...?

ป๊อปเลิฟ: ใช่แล้วล่ะ ใบโคลเวอร์ที่ฉันเคยได้มาในตอนนั้น ช่วยคืนชีพให้กับเขาน่ะ!

ป๊อปพีช: อย่างนี้เอง คล้ายกับเป็นไอเทม "ใบชุบชีวิต" ในเกมอาร์พีจีสินะ แล้วเสียงเมื่อกี้นี้ล่ะ??

ป๊อปเลิฟ: อืม!! พวกเราต้องเล่นป๊อปปินเพื่อช่วยโปโตนะ!

ป๊อปพีช: งั้นก็มาลุยกันเลย!!

ป๊อปเลิฟ: โอ้!! \^o^/

แล้วทั้งคู่ก็เรียกเกียร์ออกมาจากเข็มกลัดบนชุด โดยมีลูกพลังออกมาจากเข็มกลัด ก่อนที่ลูกพลังทั้งสองจะเข้ามาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน แล้วจากนั้นลูกพลังก็แปลงสภาพกลายเป็นเกียร์อีกที ซึ่งเกียร์ที่เรียกออกมานั้น มีรูปร่างไม่เหมือนกับเกียร์ที่พวกเธอใช้ในร่างปกติ โดยมีขนาดที่ใหญ่กว่าปกติ ซึ่งใหญ่พอจนสามารถยืนเล่นได้สองคนพร้อมกัน

ป๊อปพีช: นี่มันเกียร์อะไรกันน่ะ?? (ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย)

ป๊อปเลิฟ: ดูเหมือนว่าพวกเราต้องร่วมมือกันใช้เกียร์ตัวนี้ด้วยกันนะ

ป๊อปพีช: งั้นพวกเรามาเริ่มบรรเลงด้วยกันเถอะ!

ป๊อปเลิฟ: Let's pop'n music together! O(∩_∩)O

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มเล่นป๊อปปินด้วยเกียร์ตัวเดียวกัน โดยแบ่งกันกดปุ่มคนละฝั่ง

===== POP'N MUSIC =====
Mellow D Fantasy / NieN

โปโต: ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง แต่รู้สึกเหมือนพลังกำลังแพร่ไปทั่วร่างกายเลยแฮะ!! ...ดีล่ะ!!

จากนั้นโปโตก็เริ่มกลับมาต่อสู้กับมังกรอีกครั้ง โดยดาบได้เปล่งแสงสีเขียวอ่อนๆ ออกมา

โปโต: ย้ากกกกกกกกกกก!!!

เขาวิ่งพุ่งเข้าไปหามังกร แล้วเริ่มการต่อสู้อย่างดุเดือด ซึ่งในครั้งนี้ทั้งสองฝ่ายต่างผลัดกันรุกและรับได้อย่างสูสีมาก แต่ดูเหมือนว่าทางฝ่ายโปโตจะได้เปรียบกว่าเล็กน้อย เพราะพลังของดาบที่พาวเวอร์อัพจากพลังของป๊อปเปอร์ส

และหลังจากที่สู้กันได้พักหนึ่ง โปโตก็ได้ใช้ท่าไม้ตายเป็นท่าปล่อยคลื่นพลังรูปทรงพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวออกมาจากดาบ ซึ่งคลื่นพลังนี้ได้พุ่งตรงไปหามังกรจากระยะไกล
===== END MUSIC =====

หลังจากที่เพลงจบลง ในที่สุด เขาก็สามารถเอาชนะมังกรได้สำเร็จ ซึ่งมังกรก็ได้แตกตัวออกกลายเป็นสะเก็ดไฟจำนวนมาก แล้วสะเก็ดไฟก็ค่อยๆ ลอยขึ้นไปอย่างช้าๆ และค่อยๆ เลื่อนหายไปในที่สุด

ป๊อปพีช: สำเร็จแล้วล่ะ!! \^o^/

ป๊อปเลิฟ: ในที่สุดก็เอาชนะได้แล้ว!! ☆⌒(*^-゜)v

จากนั้นทั้งคู่ก็กลับร่างเดิม และในจังหวะเดียวกันนั้นก็มีสิ่งของบางอย่างร่วงลงมาจากฟ้า เมื่อพวกเธอเห็นจึงรีบรับมันไว้

และเมื่อตรวจดู ก็พบว่าเป็น "เศษลูกแก้ว" นั่นเอง!!

เนียมิ: ได้เศษลูกแก้วชิ้นที่ 3 เรียบร้อยแล้วล่ะ!! ^_^

ส่วนมิมิก็พลางยิ้มด้วยความยินดี

แล้วเนียมิก็นำเศษลูกแก้วเวทมนตร์ชิ้นที่สามมาประกอบรวมกับเศษลูกแก้วชิ้นอื่นที่อยู่บนซิลลี่คีย์



มิมิกับเนียมิ ได้รับสแตมป์ดวงที่ 3 เรียบร้อยแล้ว!!

เนียมิ: \โปโตคุง!! พวกเราได้ "เศษลูกแก้ว" แล้วล่ะ!!/

เนียมิตะโกนเรียกโปโตที่อยู่อีกฝั่ง พลางชูซิลลี่คีย์ขึ้นฟ้า

โปโต: เอ๊!? ได้แล้วเหรอ?? ยินดีด้วยนะ ^_^

โปโตเดินเข้ามาหาทั้งสอง

เนียมิ: เป็นเพราะนายแท้ๆ เลย พวกเราถึงได้เศษลูกแก้วมาอีกชิ้น ^_^

โปโต: ไม่หรอก ข้าว่าคงเป็นเพราะเวทมนตร์ของพวกเจ้านั้นแหละ ที่ช่วยทำให้ข้าพิชิตมังกรได้ (^_<)☆

มิมิ: นั่นสิ จริงด้วยนะ ^_^

แล้วโปโตก็พลางมองดูดาบของตัวเองด้วยความรู้สึกอบอุ่นหัวใจ ซึ่งในตอนนี้ดาบไม่ส่องแสงแล้ว

--------------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่จบภารกิจแล้ว ทั้งหมดก็เดินทางกลับมายังหมู่บ้าน โดยทั้งสองได้เข้าไปยังบ้านของโปโตที่เป็นบ้านไม้หลังเล็กๆ มีชั้นเดียว ซึ่งในขณะนี้เป็นเวลาช่วงค่ำ

โปโต: เอาล่ะ ตามที่ได้สัญญาไว้ ข้าจะเล่าความลับเกี่ยวกับกุญแจเวทมนตร์ให้ฟังนะ

มิมิ/เนียมิ: อืม!!

ทั้งสองพยักหน้า

โปโต: กุญแจเวทมนตร์นี้เมื่อรวบรวมเศษลูกแก้วได้ครบจนกลับเป็นลูกแก้วที่สมบูรณ์แล้ว จะสามารถเรียกใช้ "สุดยอดพลัง" จากกุญแจได้ ซึ่งพลังของซิลลี่คีย์นั้นมีอยู่หลายรูปแบบ แต่ตามตำนานเท่าที่ข้าเคยศึกษามา มีพลังที่เคยถูกนำมาใช้งานจริงอยู่ 3 อย่างด้วยกัน อย่างแรกคือสามารถนำมาใช้เป็นอาวุธได้ โดยการปล่อยคลื่นพลังออกมาจากกุญแจ ซึ่งคลื่นพลังนี้มีความรุนแรงมาก สามารถทำให้มอนสเตอร์ละลายเป็นผงได้ในการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียวเลย!

พลังที่ 2 คือสามารถใช้เปิดประตูแห่งความฝันได้ เมื่อใช้เวทมนตร์ดังกล่าวจะทำให้ความปรารถนาของผู้นั้นเป็นจริงในทันที แต่ทว่า เวทมนตร์นี้สามารถใช้ได้กับผู้อื่นเท่านั้น ไม่สามารถใช้กับเจ้าของกุญแจได้ และผู้ที่จะถูกเปิดประตูแห่งความฝันออกได้ต้องเป็นผู้ที่มีจิตใจบริสุทธ์เท่านั้น

และพลังสุดท้ายคือการใช้ปิดผลึกจอมมาร หากพวกเจ้าเดินทางไปยังวิหาร Kobulr ซึ่งที่นั่นมี "บล็อกกี้ล็อค" (Blockie Lock) ซึ่งเป็นแท่นสำหรับนำซิลลี่คีย์มาเสียบลงในช่องที่อยู่บนแท่นนั้น หากนำซิลลี่คีย์ไปเสียบลงในแท่นนั้นเมื่อไหร่ ก็จะเกิดพลังวิเศษที่ทำให้จอมมารถูกปิดผลึกลงในที่สุด โดยตัวจอมมารจะถูกส่งมาจองจำยังวิหารดังกล่าวทันทีไม่ว่าจะอยู่หนไหนในโลกนี้ก็ตาม

...แต่ทว่า ข้าเองก็ยังหาข้อมูลไม่เจอว่า เพราะเหตุใดซิลลี่คีย์ถึงกลายมาเป็นราชสมบัติของอาณาจักรเทพนิยายได้ ทั้งที่มันควรจะอยู่ที่วิหาร Kobulr ตลอดนะ

เนียมิ: งั้นก็แปลว่า... หากเกิดพวกจักรพรรดิ Desperus เริ่มรุกรานอีกครั้ง พวกเราก็ต้องนำกุญแจนี่ไปเสียบที่วิหารนั้นสินะ

โปโต: ถูกต้องแล้วล่ะ! แต่ว่าการจะฝ่าเข้าไปยังวิหารนั้นเพื่อนำกุญแจไปเสียบมันไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิดนะ เพราะในนั้นเต็มไปด้วยกับดักมากมาย หากพลาดแม้แต่นิดเดียวล่ะก็ พวกเจ้าก็อาจต้องตายสถานเดียว... และความลับทั้งหมดก็มีเพียงเท่านั้นแหละ ขอรับ

มิมิ: อืม!! ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากๆ เลยนะ!

เนียมิ: งั้นพวกเราก็ขอตัวลากันแล้วนะ!

โปโต: อืม!! ขอให้พลังของซิลลี่คีย์จงอยู่กับพวกเจ้าล่ะ!! (∩_∩)

แล้วทั้งสองก็เดินออกมาจากบ้านของโปโต

เนียมิ: ในที่สุดก็เหลืออีกเพียงแค่ 2 ชิ้นแล้วนะ!

มิมิ: อืม!! รู้สึกว่าพวกเราจะตามรวมรวบได้ไวกว่าที่ฉันเคยคิดไว้เยอะเลยนะ งั้นพรุ่งนี้พวกเราก็รีบไปลุยยังสถานที่ต่อไปกันเถอะ!

เนียมิ: โอ้!!! \^o^/

หลังจากนั้นทั้งสองก็เดินทางไปกินพาร์เฟต์ที่ร้านเดิมกันอีกครั้งอย่างมีความสุข♥

--------------------------------------------------------------------------------

แต่ทว่า... ในขณะเดียวกัน บริเวณรอบๆ เมืองหลวงของอาณาจักรเทพนิยายนั้น ก็ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดบางอย่างขึ้นบนท้องฟ้า

ไดโน: นี่พวกมัน... กำลังจะกลับมาแล้วเหรอเนี่ย?!

ไดโนในชุดพระราชโอรสแบบเต็มยศเดินออกไปที่ระเบียงและทรงตกพระทัยกับความรู้สึกบางอย่างที่กำลังจะมาในอีกไม่ช้านี้

--------------------------------------------------------------------------------

ทางด้านโปเอ็ตที่กำลังทำงานส่งสิ่งของให้กับลูกค้าอยู่

โปเอ็ต: หายนะกำลังจะมา...

โปเอ็ตหลังจากที่ส่งของเสร็จแล้วได้แหงนหน้าไปมองบนฟ้า เพราะรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่เลวร้ายกำลังจะมา

รวมทั้งเหล่าชาวบ้านก็มองไปบนฟ้าเช่นกัน รวมถึงพวกของอาเรสะ(ไก่)กับสตอนสตอน(หมู) แม้กระทั้งแอสคอตกับไซฟา และ บารามกับอลินี่ ก็เห็นเช่นเดียวกันหมดทุกคน

ทุกคนในอาณาจักรเทพนิยายเกิดรู้สึกสงสัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่มีใครสามารถสรุปได้ว่ามันคืออะไร...




>>>>> TO BE CONTINUED <<<<<