5 สิงหาคม 2565

pop'n music RESPECT : STAGE 31 「ความลับของกุญแจเวทมนตร์」

วันต่อมา หลังจากที่ทั้งสองเดินทางฝ่าเส้นทางป่ามาเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมง ในที่สุด ตอนนี้พวกเธอก็ได้เดินทางมาจนถึงจุดหมายเรียบร้อยแล้ว

สิ่งที่ทั้งสองเห็นตรงหน้าในขณะนี้ก็คือ สะพานข้ามแม่น้ำที่มีซุ้มประตูต้อนรับ ป้ายต้อนรับบนซุ้มประตูระบุว่า "หมู่บ้าน Role"

มิมิ: เฮ่อ.. ในที่สุดก็มาถึงสักทีนะ o(* ̄▽ ̄*)o

เนียมิ: เดินกันมาตั้งนานแล้ว ฉันว่าหาอะไรเย็นๆ ดึ่มให้ชื่นใจกันก่อนดีกว่า

มิมิ: อืม!! (∩_∩)

จากนั้นทั้งสองก็เดินข้ามสะพานนั้นไป เพื่อเข้าสู่ตัวหมู่บ้าน

--------------------------------------------------------------------------------



STAGE 31
「ความลับของกุญแจเวทมนตร์」

--------------------------------------------------------------------------------

ภายในตัวหมู่บ้านมีลักษณะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีบ้านขนาดเล็กตั้งกระจัดกระจายกันไป และรอบๆ หมู่บ้านเต็มไปด้วยต้นไม้และพืชพันธุ์หลากหลายชนิด บรรยากาศโดยรวมดูคล้ายกับหมู่บ้านที่อยู่ภายในพื้นที่ป่า แน่นอนว่าที่นี่ไม่มีมลพิษเลยแม้แต่น้อย

มิมิ: เป็นหมู่บ้านที่มีทิวทัศน์สวยงามมากเลยนะ

เนียมิ: อืม!! อากาศก็สดชื่นมากๆ ด้วยล่ะ!

หลังจากที่เดินสำรวจรอบหมู่บ้านแล้ว ทั้งสองได้เดินเข้าไปยังร้านอาหารเล็กๆ ร้านหนึ่ง ที่มีลักษณะเป็นคาเฟ่

โดยทั้งสองได้สั่งพาร์เฟต์ (ไอศกรีมแก้ว) ซึ่งเป็นหนึ่งในเมนูแนะนำของร้านนี้

และทันทีที่เมื่อทั้งสองได้กินเข้าไป

เนียมิ: ว้าว!! อร่อยจัง!!! (p≧w≦q)♥

มิมิ: พอได้กินพาร์เฟต์นี้แล้ว มันรู้สึกเหมือนได้ลืมความเหนื่อยล้าจากการเดินไกลไปเลยล่ะ!! (p≧w≦q)

"ขอโทษที่รบกวนเวลากินนะ พวกท่านคือมิมิกับเนียมิใช่หรือเปล่า?"

อยู่ๆ คุณเจ้าของร้านก็มาทักทั้งสอง

มิมิ: ใช่แล้วค่ะ มีอะไรงั้นเหรอ?

"คือได้ยินมาว่าพวกท่านกำลังตามหา เศษลูกแก้วเวทมนตร์ กันอยู่สินะ?"

เนียมิ: ทำไมถึงรู้ล่ะ??

คุณเจ้าของร้านหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วพูดว่า

"ฮ่าๆ (∩_∩) ก็เพราะพวกเธอใส่ชุดผู้กล้าอยู่นี่ไง และฉันก็ได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับพวกเธอมาได้สักพักแล้วล่ะ (ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอตัวเป็นๆ วันนี้)"

เนียมิ: อ๋อ งั้นเองเหรอคะ (∩_∩)

"ฉันว่าพวกเธอน่าจะลองไปหาคนในหมู่บ้านคนนี้ดูนะ บางทีเขาอาจจะพอช่วยเหลืออะไรเกี่ยวกับกุญแจเวทมนตร์ก็ได้"

แล้วเธอก็ให้รูปถ่ายของบุคคลหนึ่งมา เป็นเด็กผู้ชายวัยไล่เลี่ยกับทั้งสอง (ประมาณ 12-14 ปี) มีผมสีน้ำเงินและผูกผ้าพันศีรษะ

มิมิ: อืม!! เดี๋ยวพวกเราจะไปหาค่ะ!!

--------------------------------------------------------------------------------

เวลาต่อมา หลังจากที่ทั้งสองกินเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาที่ทั้งสองต้องออกตามหาบุคคลตามในรูปถ่ายเพื่อทำภารกิจ

มิมิ: ช่วยเหลือเกี่ยวกับกุญแจเวทมนตร์ งั้นเหรอ?? (มันหมายความว่ายังไงกันนะ)

เนียมิ: บางทีเขาอาจจะรู้อะไรเกี่ยวกับกุญแจเวทมนตร์ก็ได้

มิมิ: อืม! นั่นสินะ

และในระหว่างที่ทั้งสองกำลังเดินหาไปเรื่อยๆ นั้น ก็มีคนกลุ่มหนึ่งที่เดินมาเจอพวกเธอพอดี

"เฮ้ย! นั่นมันมิมิกับเนียมิไม่ใช่เหรอน่ะ"

"ตัวจริงด้วยสินะ"

แล้วจากนั้นบุคคลกลุ่มนั้นก็เดินเข้ามาหาทั้งสอง

"พวกท่านคือมิมิกับเนียมิที่เป็นผู้กล้าใช่หรือเปล่า?"

มิมิ: ชะ.. ใช่แล้วค่ะ มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า?

"คือว่า... ขอลายเซ็นหน่อยนะ!"

คนกลุ่มนั้นยื่นกระดาษเปล่าให้

มิมิ: เอายังไงดี? ( ̄_ ̄|||) (ฉันไม่เคยวาดลายเซ็นมาก่อนซะด้วยสิ)

เนียมิ: ก็คงต้องเอาตามนั้นแหละ

แล้วจากนั้นทั้งสองก็ได้วาดลายเซ็นใส่กระดาษเปล่าให้กับพวกเขา

"ขอบคุณสำหรับลายเซ็นนะ!"

แล้วคนกลุ่มนั้นก็จากไปอย่างมีความสุข

แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน ก็มีอีกหลายคนที่ได้เข้ามาขอลายเซ็นด้วยเช่นกัน

"เฮ้ย! ขอลายเซ็นหน่อยนะ!"

"ขอลายเซ็นหน่อยนะ!"

"มิมิกับเนียมิ ตัวจริงเสียงจริง!"

กลุ่มคนจำนวนมากได้รุมเข้ามาขอลายเซ็นกันเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ จนทั้งสองไม่ทันได้ตั้งตัว

มิมิ: นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?? ≧ ﹏ ≦

--------------------------------------------------------------------------------

เวลาผ่านไป หลังจากที่ทั้งสองได้แจกลายเซ็นให้กับทุกคนครบหมดแล้ว ทั้งสองก็ทรุดตัวลงด้วยความเหนื่อยล้า

มิมิ: เฮ่อ... หมดสักที... (;´д`)ゞ

เนียมิ: รู้สึกกลับมาเหนื่อยเหมือนตอนก่อนจะกินพาร์เฟต์อีกแล้วล่ะ... (><;) (เป็นคนดังนี่มันลำบากจริงๆ)

"พวกเจ้ากำลังตามหาข้าอยู่เหรอ?"

อยู่ๆ ก็มีคนมาทักพวกเธอ ทั้งสองจึงหันไปมอง

มิมิ: ถ้าจะมาขอลายเซ็นล่ะก็ พวกฉันไม่ให้แล้วนะ... เอ๊!? Σ( °Д °)

เมื่อทั้งสองสังเกตดูดีๆ พบว่าคนๆ นั้นเป็นบุคคลที่พวกเธอกำลังตามหาอยู่

"ยินดีที่ได้รู้จักด้วยนะ ข้าชื่อ "โปโต" (poto)"

มิมิ: ยะ.. ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ!! (∩_∩)

โปโต: เฮ่อ.. แต่ก็น่าอิจฉาอยู่นิดหนึ่งนะ

เนียมิ: ทำไมล่ะ??

โปโต: ก็เพราะพวกเธอได้เป็นผู้กล้ากันแล้วนี่นา...

เนียมิ: เออ.. ก็ใช่นะ! แม้ตอนนี้นายอาจจะยังไม่ได้เป็น แต่ก็ยังพอมีโอกาสอยู่นี่นะ? (ถ้าพยายามหมั่นฝึกซ้อมบ่อยๆ)

โปโต: มันก็จริงนะ แต่ว่าข้าเพิ่งแพ้ให้กับ "ผู้กล้าจอมปลอม" มาหมาดๆ เนี่ยสิ

มิมิ: ผู้กล้าจอมปลอม!? หรือจะหมายถึง แอสคอต?

โปโต: ทำไมเจ้าถึงรู้ล่ะ??

มิมิ: ก็เพราะพวกเราเคยแบทเทิลกับเขาในศึกคัดเลือกผู้กล้าที่ปราสาทของเมืองหลวงไงล่ะ

โปโต: แบบนี้เอง... พวกเธอก็เลยได้ถูกคัดเลือกให้กลายเป็นผู้กล้าตัวจริงสินะ

มิมิ: อืม!!

มิมิพยักหน้า

เนียมิ: แล้วเขามาหานายที่นี่เหรอ หรือว่านายไปแข่งกับเขาที่ปราสาท?

โปโต: เขามาท้าแข่งกับข้าที่นี่น่ะ แต่ว่า.. ก็สู้ไม่ได้เลย... (>_<)

มิมิ: ( ̄_ ̄|||) อย่างนี้เอง นายก็เลยหมดสิทธิเดินทางไปที่ปราสาทเพื่อร่วมศึกคัดเลือกตัวผู้กล้าสินะ...

โปโต: เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ( ̄_ ̄|||) เอาล่ะ ไหนข้าขอดูกุญแจเวทมนตร์ของพวกเจ้าหน่อยสิ

มิมิ: อืม! ได้สิ

จากนั้นมิมิก็ยื่นมือออกไปข้างหน้า แล้วซิลลี่คีย์ก็ปรากฎออกมาในมือ

แล้วโปโตก็มองดูซิลลี่คีย์อย่างตกตะลึงจนแทบไม่กระพริบตา

โปโต: โห๊!! (⊙o⊙) สุดยอด!! เกิดมาข้าเพิ่งเคยเห็นซิลลี่คีย์ของจริงกับตาตัวเองเป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย!! (เคยเห็นแต่ในรูป)

เนียมิ: นั่นสิ! แล้วนายรู้อะไรเกี่ยวกับซิลลี่คีย์นี่หรือเปล่า?

โปโต: อืม!! รู้สิ ข้าศึกษามาเป็นอย่างดีเลยล่ะ!! ...ไหนขอให้ข้าลองตรวจสอบดูหน่อยสิ

แล้วมิมิก็ส่งซิลลี่คีย์ให้โปโตไป เขาก็ลองตรวจสอบและพลิกไปหมุนมาอยู่หลายรอบ

โปโต: อืม! เป็นของแท้จากพระราชวังจริงๆ ด้วยนะ.. แล้วลูกแก้วที่อยู่บนนี้ ทำไมถึงมันแหว่งแบบนั้นล่ะ...

โปโตถามถึงเศษลูกแก้วที่ขาดหายไปบนหัวกุญแจ

มิมิ: คือพวกเราได้รับภารกิจให้ตามหาเศษลูกแก้วของกุญแจที่หายไปน่ะ

โปโต: อ๋อ.. เข้าใจแล้ว ภารกิจการเป็นผู้กล้าของพวกเธอก็คือการรวบรวมเศษลูกแก้วเพื่อทำให้กุญแจนี้กลับคืนสู่สภาพเดิมสินะ (ข้าเพิ่งทราบเรื่องนี้เองนะ)

มิมิ: ถูกต้องแล้วจ๊ะ ^_^

โปโต: งั้นก็แปลว่า..!! เมื่อรวบรวมเศษลูกแก้วครบแล้ว พวกเจ้าจะนำกุญแจนี้ไปปราบหัวหน้าของ "จักรพรรดิ Desperus" กันสินะ!?

เนียมิ: เปล่า... พวกเราจะนำกุญแจกลับไปคืนพระราชวังหลังจากที่รวบรวมได้ครบแล้วน่ะ

โปโต: งั้นเหรอเนี่ย โธ่... >︿<

เนียมิ: แล้ว "จักรพรรดิ Desperus" ที่ว่า มันคืออะไรกันเหรอ?

โปโต: เป็นจักรพรรดิของเผ่าจอมมารชั่วร้ายที่หวังจะยึดครองอาณาจักรเทพนิยายแห่งนี้น่ะ ในครั้งอดีตเมื่อหลายพันปีก่อน พวกมันเคยยกกองทัพปิศาจบุกมายังอาณาจักรเทพนิยายมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็ถูกผู้กล้าในขณะนั้นใช้เวทมนตร์จากซิลลี่คีย์ปิดผนึกตัวหัวหน้าไว้ได้ ทำให้ชาวอาณาจักรในรุ่นต่อๆ มา มีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขจนถึงทุกวันนี้ยังไงล่ะ!

เนียมิ: อ๋อ..! (⊙o⊙)

โปโต: แต่ทว่า... ไม่กี่สัปดาห์ก่อน ดันมีใครบางคนไปทำการ "คลายผนึก" มันออกมาซะแล้วล่ะ...

แล้วทั้งสองก็คิดในใจ "หรือจะหมายถึง เซ?"

เนียมิ: แล้วคนที่ไปคลายผนึกจอมมารออก พอจะทราบไหมว่าเป็นใคร?

โปโต: ข้าเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน... แต่เท่าที่ได้ยินข่าวลือมาล่าสุด พวกมันกำลังเริ่มวางแผนเพื่อเตรียมบุกเมืองหลวงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้แล้วล่ะ...

มิมิ: นั่นสิ! แล้วเวทมนตร์ของซิลลี่คีย์นี่ มันเป็นยังไงเหรอ?

โปโต: เรื่องนั้นข้าขอเอาไว้เล่าทีหลังจะได้ไหม?

มิมิ/เนียมิ: เล่าทีหลัง?

ทั้งสองเริ่มสงสัยท่าทางแปลกๆ ของเขา

โปโต: อืม!! ถ้าพวกเจ้าอยากรู้เรื่องนี้ล่ะก็... ข้าขอร้องให้พวกเจ้าช่วยข้าเรื่องหนึ่งจะได้ไหม? ถ้าพวกเจ้าช่วยเหลือข้า ข้าจะบอกเรื่องสำคัญนี้ให้เป็นการตอบแทน

เนียมิ: ได้สิ! มีอะไรให้พวกเราช่วยก็ว่ามาได้เลย!!

โปโต: คือว่าตอนนี้ข้ากำลังตามล่าเจ้าตัวนี้อยู่น่ะ...

โปโตหยิบรูปบางอย่างมาให้ทั้งสองดู เป็นรูปของมังกรตัวหนึ่ง

มิมิ: นี่มัน...!?

โปโต: ข้ากำลังตามล่ามังกรตัวนี้อยู่น่ะ มันเป็นหนึ่งในมังกรที่แข็งแกร่งมาก ข้าเคยสู้กับมันมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็สู้ไม่ไหว... ข้าเลยอยากได้สหายร่วมศึกในการต่อสู้ครั้งนี้

เมื่อทั้งสองได้ทราบคำขอ ก็ออกอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด

เนียมิ: เอ๊!? Σ( °Д °) จะให้พวกเราไปล่ามังกรกันเลยเหรอ!?

โปโต: ใช่แล้วล่ะ! และอีกเรื่องหนึ่งก็คือ.. ข้าได้ยินมาว่าหนึ่งในเศษลูกแก้วอยู่กับมังกรตัวนี้ด้วยนะ บางทีถ้าพวกเราเอาชนะมันได้ พวกเจ้าก็อาจจะได้เศษลูกแก้วมาเป็นรางวัลด้วยก็ได้นะ

เนียมิ: อย่างนี้เอง... แต่ว่าพวกเราไม่มีวิชาการสู้รบอะไรเลยนะ...?

มิมิ: มีสิ! ก็ไอ้นี่ไง!!

แล้วมิมิก็ยกแขนข้างขวาที่สวมกำไลป๊อปเปอร์สให้เนียมิดู

เนียมิ: อ่อ จริงสินะ พวกเรามีวิชาเวทมนตร์นี่นา ฮ่าๆ ^_^

โปโต: ท่านทั้งสองเป็นนักเวทย์กันสินะ? (ลืมถามเรื่องอาชีพไปซะสนิทเลย)

เนียมิ: อืม!! ใช่แล้วล่ะ นี่ไง!

แล้วเนียมิก็แสดงเวทมนตร์แบบง่ายๆ ให้โปโตดู เป็นเวทย์เรียกลูกบอลพลังงานออกมา ซึ่งเป็นพลังที่เกิดจากถุงมือที่ใส่อยู่

โปโต: ว้าว!! Σ( °o °) ใช้เวทมนตร์ได้จริงๆ ด้วย พอดีข้าก็อยากได้นักเวทย์มาร่วมทีมอยู่พอดีเลย!! เพราะที่หมู่บ้านนี้ไม่ค่อยมีใครสนใจจะเรียนเวทมนตร์กันเท่าไหร่ นักเวทย์ที่นี่ก็เลยมีน้อยตามไปด้วย ...งั้นศึกในครั้งนี้ก็คงจะเป็นเรื่องหมูๆ แล้วสินะ! ^_^

มิมิ: อืม!! มันแน่นอนอยู่แล้ว!! (∩_∩) (รับประกันฝีมือได้เลย)

เนียมิ: เอาเป็นว่าในตอนนี้พวกเราก็...

มิมิ/เนียมิ/โปโต: ไปลุยกันเลย!! LET'S ADVENTURE!! (^_-)/(^_-)/(^_-)/☆



--------------------------------------------------------------------------------

และแล้วก็ถึงเวลาที่ทั้งสามเริ่มออกเดินทางไปล่ามังกร เพื่อชิงเศษลูกแก้วจากมันมา

มิมิ: แล้วเจ้ามังกรที่ว่า อยู่ที่ไหนเหรอ?

โปโต: อยู่ที่หุบเขาแถวๆ นี้แหละ

เนียมิ: แล้วอีกไกลมั้ยกว่าจะถึงจุดหมาย?

โปโต: ก็... น่าจะต้องเดินไปอีกประมาณ 40 นาที ถึงจะไปถึงที่หุบเขานั้นน่ะ

เนียมิ: ห๊ะ!? Σ( °Д °) 40 นาทีเลยเหรอ??

โปโต: ข้าก็แค่ลอง "ประมาณ" จากความรู้สึกที่เคยเดินทางไปเท่านั้นนะ จริงๆ แล้วข้าก็ไม่รู้หรอกว่าต้องเดินไปอีกกี่นาที..

เนียมิ: แต่ก็แปลว่า "ไกล" จากหมู่บ้านมากอยู่ดี ( ̄▽ ̄)"

มิมิ: อย่างนี้สงสัยขากลับพวกเราคงต้องแวะไปกินพาร์เฟต์มหัศจรรย์ที่ร้านนั้นอีกครั้งแล้วสินะ (∩_∩;)

โปโต: พูดถึงพาร์เฟต์ที่ร้านในหมู่บ้านเหรอ??

มิมิ: อืม!! ฉันชอบมากเลยล่ะ!! พอได้กินแล้วก็รู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งจริงๆ !!

โปโต: ใช่! เพราะพาร์เฟต์ที่ร้านนั้น ที่จริงแล้วเป็นพาร์เฟต์ที่ทำจากยาเวทมนตร์น่ะ

เมื่อทั้งสองได้ยินคำตอบจากเขา ทั้งคู่ก็ถึงกับอึ้ง

มิมิ: เอ๊!? แสดงว่าพาร์เฟต์ที่พวกเรากิน เป็น "พาร์เฟต์วิเศษ" จริงๆ งั้นเหรอ?

โปโต: ถูกต้องแล้วล่ะ! จริงๆ แล้วร้านคาเฟ่นั่น เดิมทีเคยเปิดเป็นร้านขายยาเวทมนตร์มาก่อน คอยขายพวกยาโพชั่นประเภทต่างๆ ให้กับนักเดินทางและคนในหมู่บ้าน แต่ว่ากิจการกลับไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ต่อมาร้านนั้นก็เลยทดลองปรับกลยุทธ์ใหม่ด้วยการเปลี่ยนเป็นร้านอาหารแทน แต่เป็นอาหารที่ใส่ส่วนผสมของโพชั่นลงไป ทำให้เกิดรสชาติที่แปลกใหม่ แถมยังทำให้ผู้ที่กินเข้าไปรู้สึกเหมือนได้ฟื้นฟูสภาพร่างกายไปด้วย ซึ่งผลลัพธ์คือ นับตั้งแต่นั้นมาร้านนั้นก็เป็นที่นิยมจากเหล่านักเดินทางเป็นอย่างมาก เพราะมันเหมือนได้ฟื้นฟูความเหนื่อยและได้อิ่มพร้อมกันไปด้วยเลยยังไงล่ะ! ^_^

เนียมิ: อย่างนี้ก็มีด้วยแฮะ... ( ̄_ ̄|||) แต่รสชาติเขาดีจริงๆ มากเลยนะ! (ฉันเองก็ชอบเหมือนกัน)

และหลังจากที่เดินมาได้สักพัก ก็มีนกตัวหนึ่งบินเข้ามาหาโปโต

โปโต: ว่าไง! เมลโล่ (Mellow)

เขาทักนกตัวนั้น นกตัวนั้นก็มองเขาอยู่พักหนึ่งเหมือนต้องการจะพูดอะไรด้วย ก่อนที่จะบินมาเกาะที่ไหล่ของเขา

มิมิ: เอ๊!? Σ( °o °) แล้วนั่น...??

เธอรู้สึกแปลกใจที่อยู่ๆ ก็มีนกมาเกาะไหล่โปโต

โปโต: อืม! เจ้านกอินทรีนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของข้าเอง ชื่อ "เมลโล่"

เนียมิ: โห้!? (⊙o⊙) มีนกอินทรีเป็นเพื่อนคู่กายด้วยเหรอเนี่ย!?

โปโต: อืม! ที่จริงแล้วเจ้านี่เป็นนกจรที่อาศัยอยู่แถวนี้น่ะ ตอนที่เจอกันครั้งแรกมันบาดเจ็บจากเหตุใดไม่ทราบ ข้าก็เลยเก็บมันมารักษา แล้วหลังจากนั้นมันก็ติดข้ามาก จนเรียกได้ว่า เวลาข้าไปไหน มันก็บินตามไปด้วยเสมอเลยล่ะ.. และเจ้าเมลโล่ก็เป็นนกที่ฉลาดมาก เวลาที่ข้าสั่งให้ทำอะไรมันก็ทำตามได้แทบจะทุกอย่างเลยล่ะ!

เนียมิ: โห สุดยอด...! (⊙o⊙)

มิมิ: ฉันเองก็อยากมีสัตว์เลี้ยงที่ฉลาดแบบนี้บ้างจัง ^_^

โปโต: เอาล่ะ ลองไปสำรวจที่หุบเขาที่เคยไปเมื่อตอนนั้นหน่อยสิ ดูว่ายังมีมังกรตัวนั้นอยู่ไหม

เขาออกคำสั่งให้กับเมลโล่ แล้วจากนั้นเมลโล่ก็บินออกไปทันที

เนียมิ: แล้วจากนี้จะเป็นยังไงต่อเหรอ?

โปโต: เดี๋ยวสักพักเมลโล่ก็บินกลับมารายงานสถานการณ์เองแหละ พวกเราก็เดินต่อไปเรื่อยๆ กันเถอะ

มิมิ: อืม!!

แล้วจากนั้นทั้งหมดก็เดินทางกันต่อไป

--------------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่เดินทางมาได้สักระยะหนึ่ง ในที่สุดก็มาถึงบริเวณหุบเขาที่เป็นจุดหมายปลายทาง ลักษณะเป็นพื้นที่โล่งที่มีเพียงแค่พื้นหญ้า และตรงหน้าเป็นเหวที่สามารถมองเห็นพื้นที่หญ้าโล่งที่อยู่ข้างล่าง และภูเขาที่อยู่ไกลออกไปในอีกฝากฝังหนึ่ง

โปโต: มาถึงแล้วล่ะ! นี่ที่แหละ!

แล้วทั้งสองก็สอดส่องดูบรรยากาศโดยรอบ

มิมิ: วิวสวยมากด้วยนะ!

เนียมิ: อืม!! ^_^

แล้วจากนั้นสักพักเมลโล่ก็บินกลับมาหาโปโต ทั้งสองจ้องมองกันอยู่พักหนึ่งเหมือนจะคุยอะไรกัน

โปโต: มังกรตัวนั้นยังอยู่ด้วยล่ะ!

โปโตหันมาบอกพวกมิมิ

มิมิ: จริงเหรอ!? (⊙o⊙)

เนียมิ: แล้วนายคุยกันรู้เรื่องด้วยเหรอ?

โปโต: ก็... ไม่รู้เหมือนกันนะ แต่ว่าข้าสามารถได้ยินสิ่งที่เมลโล่พูดออกมาทั้งหมดเลยล่ะ! ^_^

เนียมิ: อ๋อ.. ก็คล้ายกับเวลาที่ฉันชอบไปคุยกับแมวจริงๆ สินะ ^_^; (ไม่มีใครเข้าใจที่แมวพูดยกเว้นเราคนเดียว)

โปโต: แล้วเจ้ามังกรนั่นอยู่ที่ไหนล่ะ??

โปโตถามเมลโล่อีกครั้ง ก่อนที่จะหันมาบอกพวกมิมิ

โปโต: มันอยู่บริเวณไม่ไกลจากแถวนี้แหละ! เดินเลาะไปตามเหวเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ได้เจอแล้วล่ะ!

แล้วจากนั้นทั้งหมดจึงรีบเดินทางไปหามังกร โดยที่เมลโล่บินนำทางไป

และหลังจากที่เดินมาได้สักระยะ ในที่สุดก็ได้พบกับมังกรสีเทาขนาดมหึมา ที่กำลังนอนหลับอยู่กลางพื้นหญ้า

มิมิ: หรือนี่จะเป็น...?

โปโต: ใช่! เจ้านี่แหละ!!

จากนั้นพวกมิมิจึงสอดส่องมังกรอยู่พักหนึ่งเพื่อมองหาเศษลูกแก้วและศึกษาลักษณะทางกายภาพของมังกรไปพร้อมๆ กัน

โปโต: เอาล่ะ พร้อมหรือยัง?

มิมิ/เนียมิ: โอเค!!

แล้วจากนั้นโปโตก็ชักดาบออกจากฝัก แล้ววิ่งตรงเข้าไปหามังกรเพื่อเปิดฉากการต่อสู้

โปโต: ย้ากกกกก!!

เนียมิ: ตอนนี้พวกเราก็รีบแปลงร่างกันเถอะ!!

มิมิ: อืม!!

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ยกแขนข้างที่สวมกำไลแปลงร่างขึ้นมา แล้วตะโกนว่า

มิมิ/เนียมิ: "ป๊อปปินแปลงร่าง!!"

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็แปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์ส

และในจังหวะเดียวกันกับที่ทั้งคู่แปลงร่างเสร็จ ขณะที่โปโตกำลังวิ่งเข้าไปใกล้กับมังกร มังกรก็ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาพอดี และได้ใช้หางฟาดเข้าใส่ในทันที

โปโต: อ้ากกกก!!

โปโตกระเด็นลอยกลับมา

ป๊อปเลิฟ: ไม่เป็นไรนะ!

ป๊อปเลิฟเข้าไปหาโปโตที่ลอยลงมากระแทกกับพื้น

โปโต: อืม! ข้ายังไหวอยู่ ...ว่าแต่ พวกท่านเป็นใครกันน่ะ??

โปโตสงสัยทั้งสองที่ชุดและหน้าตา(ทรงผม)ไม่เหมือนเดิม

ป๊อปพีช: นั่นสิ แล้วพวกเรามาทำอะไรที่นี่กันหว่า?? ( ̄_ ̄|||)

ป๊อปเลิฟ: พวกเราก็คือ.. เออ... นี่ก็คือ "ชุดรบ" ของพวกเรา มิมิ เนียมิ เองยังไงล่ะ!

ป๊อปพีช: เอ๋?? Σ( °Д °) แล้วจะบอกเรื่องความลับไปทำไมล่ะ??

ป๊อปเลิฟ: เดี๋ยวฉันเคลียร์เรื่องนี้ให้เขาทีหลังแล้วกัน ตอนนี้พวกเราต้องช่วยเขาสู้ก่อน

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ตั้งท่าเตรียมร่วมการต่อสู้

โปโต: เออ.. ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเจ้าเมื่อกี้ แต่ชุดจอมเวทย์ของพวกเจ้าก็สวยดีเหมือนกันนะ (* ̄▽ ̄*)

ป๊อปพีช: เอาล่ะ พวกเราทั้งหมดมาลุยด้วยกันเถอะ!

ป๊อปเลิฟ: อืม!!

แล้วจากนั้นก็เริ่มศึกล่ามังกรที่แท้จริง ทั้งสองเป็นฝ่ายนำเข้าไปก่อน โดยป๊อปพีชเข้าไปต่อยด้านหน้ามังกร ส่วนป๊อปเลิฟก็กระโดดเตะจากอีกด้านของมังกร

ส่วนโปโตก็ตามกระโดดเข้าไปฟันหลังจากที่ทั้งสองโจมตีเสร็จ

จากนั้นมังกรจึงใช้ท่าปล่อยพลังเป็นลักษณะวงแหวนออกมาจากกรงเล็บ พลังนี้ได้พุ่งเข้าใส่เขา แต่ป๊อปพีชเห็นก่อนจึงเข้ามาใช้ "ป๊อปเปอร์ชิล" หรือสนามโล่พลังป้องกันไว้ได้

ป๊อปพีช: ไม่เป็นไรนะ!

โปโต: อืม! ขอบใจนะ!

แล้วจากนั้นโปโตก็เป็นฝ่ายโจมตีต่อโดยเข้าไปฟันอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ได้กระหน่ำฟันเป็นคอมโบชุดใหญ่เลย ส่วนป๊อปเปอร์สก็ช่วยโจมตีเสริมด้วยท่ากายภาพ จนมังกรล้มลงไป

ต่อมามังกรได้ลุกขึ้นอีกครั้ง แล้วคราวนี้มันได้ใช้ท่าปล่อยคลื่นพลังออกมาจากมือทั้งสองข้าง แต่ทว่าครั้งนี้ป๊อปเปอร์สช่วยป้องกันไว้ไม่ทันเพราะท่าออกเร็วมาก ทำให้เขารับแรงโจมตีไปแบบเต็มๆ จนตัวกระเด็นไปอีกครั้ง

ป๊อปเลิฟ: โปโต!! Σ(; °Д °)

โปโตอยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัส เขาพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาเพื่อสู้ต่อ แต่ก็ไม่ไหว

ป๊อปพีช: เป็นอะไรหรือเปล่า??

โปโต: ข้ายัง... ไหวอยู่... อ่า...

เขาทรุดตัวลงไปนอนจากความเจ็บปวด

ป๊อปเลิฟ: โปโตแข็งใจไว้ก่อนนะ!! (っ °Д °;)っ

ป๊อปพีช: อย่าเพิ่งตายนะ!! ( °Д °;)

แล้วในทันใดนั้นเอง อยู่ๆ ที่เข็มกลัดบนชุดของป๊อปเลิฟก็ส่องแสงออกมา ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจ

ป๊อปเลิฟ: เอ๊!? (เกิดอะไรขึ้นน่ะ??)

แล้วจากนั้นก็มี "ใบโคลเวอร์สี่แฉก" ที่โปเอ็ตเคยมอบให้กับเธอ ลอยออกมาจากเข็มกลัดที่กำลังส่องแสง ซึ่งใบโคลเวอร์นั้นก็กำลังส่องแสงอยู่ด้วยเช่นกัน

"พวกเจ้าช่วยบรรเลงบทเพลงปลุกใจให้กับสหายของพวกเจ้าด้วยนะ!"

เสียงปริศนาดังออกมาจากใบโคลเวอร์เพื่อบอกบางสิ่งให้กับพวกป๊อปเปอร์ส แล้วจากนั้นใบโคลเวอร์ก็แปลงสภาพกลายเป็นลูกบอลพลังสีเขียว ก่อนที่ลูกพลังนี้จะพุ่งเข้าไปหาโปโต ซึ่งหลังจากนั้นบริเวณรอบๆ ตัวเขาก็เกิดขอบแสงออร่าอ่อนๆ ขึ้นมารอบตัว

จากนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายได้รับการฟื้นฟูอีกครั้ง ความเจ็บปวดเมื่อสักครู่กำลังค่อยๆ หายไป

แล้วเขาก็ค่อยๆ ลุกขึ้นมายืนได้อีกครั้ง

โปโต: นี่มัน... เกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย??

โปโตพูดพลางมองที่มือของตัวเองเพื่อดูแสงออร่า เขายังคงทึ่งและสับสนกับตัวเองอยู่

ป๊อปพีช: หรือว่าใบโคลเวอร์นั่นจะ...?

ป๊อปเลิฟ: ใช่แล้วล่ะ ใบโคลเวอร์ที่ฉันเคยได้มาในตอนนั้น ช่วยคืนชีพให้กับเขาน่ะ!

ป๊อปพีช: อย่างนี้เอง คล้ายกับเป็นไอเทม "ใบชุบชีวิต" ในเกมอาร์พีจีสินะ แล้วเสียงเมื่อกี้นี้ล่ะ??

ป๊อปเลิฟ: อืม!! พวกเราต้องเล่นป๊อปปินเพื่อช่วยโปโตนะ!

ป๊อปพีช: งั้นก็มาลุยกันเลย!!

ป๊อปเลิฟ: โอ้!! \^o^/

แล้วทั้งคู่ก็เรียกเกียร์ออกมาจากเข็มกลัดบนชุด โดยมีลูกพลังออกมาจากเข็มกลัด ก่อนที่ลูกพลังทั้งสองจะเข้ามาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน แล้วจากนั้นลูกพลังก็แปลงสภาพกลายเป็นเกียร์อีกที ซึ่งเกียร์ที่เรียกออกมานั้น มีรูปร่างไม่เหมือนกับเกียร์ที่พวกเธอใช้ในร่างปกติ โดยมีขนาดที่ใหญ่กว่าปกติ ซึ่งใหญ่พอจนสามารถยืนเล่นได้สองคนพร้อมกัน

ป๊อปพีช: นี่มันเกียร์อะไรกันน่ะ?? (ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย)

ป๊อปเลิฟ: ดูเหมือนว่าพวกเราต้องร่วมมือกันใช้เกียร์ตัวนี้ด้วยกันนะ

ป๊อปพีช: งั้นพวกเรามาเริ่มบรรเลงด้วยกันเถอะ!

ป๊อปเลิฟ: Let's pop'n music together! O(∩_∩)O

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มเล่นป๊อปปินด้วยเกียร์ตัวเดียวกัน โดยแบ่งกันกดปุ่มคนละฝั่ง

===== POP'N MUSIC =====
Mellow D Fantasy / NieN

โปโต: ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง แต่รู้สึกเหมือนพลังกำลังแพร่ไปทั่วร่างกายเลยแฮะ!! ...ดีล่ะ!!

จากนั้นโปโตก็เริ่มกลับมาต่อสู้กับมังกรอีกครั้ง โดยดาบได้เปล่งแสงสีเขียวอ่อนๆ ออกมา

โปโต: ย้ากกกกกกกกกกก!!!

เขาวิ่งพุ่งเข้าไปหามังกร แล้วเริ่มการต่อสู้อย่างดุเดือด ซึ่งในครั้งนี้ทั้งสองฝ่ายต่างผลัดกันรุกและรับได้อย่างสูสีมาก แต่ดูเหมือนว่าทางฝ่ายโปโตจะได้เปรียบกว่าเล็กน้อย เพราะพลังของดาบที่พาวเวอร์อัพจากพลังของป๊อปเปอร์ส

และหลังจากที่สู้กันได้พักหนึ่ง โปโตก็ได้ใช้ท่าไม้ตายเป็นท่าปล่อยคลื่นพลังรูปทรงพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวออกมาจากดาบ ซึ่งคลื่นพลังนี้ได้พุ่งตรงไปหามังกรจากระยะไกล
===== END MUSIC =====

หลังจากที่เพลงจบลง ในที่สุด เขาก็สามารถเอาชนะมังกรได้สำเร็จ ซึ่งมังกรก็ได้แตกตัวออกกลายเป็นสะเก็ดไฟจำนวนมาก แล้วสะเก็ดไฟก็ค่อยๆ ลอยขึ้นไปอย่างช้าๆ และค่อยๆ เลื่อนหายไปในที่สุด

ป๊อปพีช: สำเร็จแล้วล่ะ!! \^o^/

ป๊อปเลิฟ: ในที่สุดก็เอาชนะได้แล้ว!! ☆⌒(*^-゜)v

จากนั้นทั้งคู่ก็กลับร่างเดิม และในจังหวะเดียวกันนั้นก็มีสิ่งของบางอย่างร่วงลงมาจากฟ้า เมื่อพวกเธอเห็นจึงรีบรับมันไว้

และเมื่อตรวจดู ก็พบว่าเป็น "เศษลูกแก้ว" นั่นเอง!!

เนียมิ: ได้เศษลูกแก้วชิ้นที่ 3 เรียบร้อยแล้วล่ะ!! ^_^

ส่วนมิมิก็พลางยิ้มด้วยความยินดี

แล้วเนียมิก็นำเศษลูกแก้วเวทมนตร์ชิ้นที่สามมาประกอบรวมกับเศษลูกแก้วชิ้นอื่นที่อยู่บนซิลลี่คีย์



มิมิกับเนียมิ ได้รับสแตมป์ดวงที่ 3 เรียบร้อยแล้ว!!

เนียมิ: \โปโตคุง!! พวกเราได้ "เศษลูกแก้ว" แล้วล่ะ!!/

เนียมิตะโกนเรียกโปโตที่อยู่อีกฝั่ง พลางชูซิลลี่คีย์ขึ้นฟ้า

โปโต: เอ๊!? ได้แล้วเหรอ?? ยินดีด้วยนะ ^_^

โปโตเดินเข้ามาหาทั้งสอง

เนียมิ: เป็นเพราะนายแท้ๆ เลย พวกเราถึงได้เศษลูกแก้วมาอีกชิ้น ^_^

โปโต: ไม่หรอก ข้าว่าคงเป็นเพราะเวทมนตร์ของพวกเจ้านั้นแหละ ที่ช่วยทำให้ข้าพิชิตมังกรได้ (^_<)☆

มิมิ: นั่นสิ จริงด้วยนะ ^_^

แล้วโปโตก็พลางมองดูดาบของตัวเองด้วยความรู้สึกอบอุ่นหัวใจ ซึ่งในตอนนี้ดาบไม่ส่องแสงแล้ว

--------------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่จบภารกิจแล้ว ทั้งหมดก็เดินทางกลับมายังหมู่บ้าน โดยทั้งสองได้เข้าไปยังบ้านของโปโตที่เป็นบ้านไม้หลังเล็กๆ มีชั้นเดียว ซึ่งในขณะนี้เป็นเวลาช่วงค่ำ

โปโต: เอาล่ะ ตามที่ได้สัญญาไว้ ข้าจะเล่าความลับเกี่ยวกับกุญแจเวทมนตร์ให้ฟังนะ

มิมิ/เนียมิ: อืม!!

ทั้งสองพยักหน้า

โปโต: กุญแจเวทมนตร์นี้เมื่อรวบรวมเศษลูกแก้วได้ครบจนกลับเป็นลูกแก้วที่สมบูรณ์แล้ว จะสามารถเรียกใช้ "สุดยอดพลัง" จากกุญแจได้ ซึ่งพลังของซิลลี่คีย์นั้นมีอยู่หลายรูปแบบ แต่ตามตำนานเท่าที่ข้าเคยศึกษามา มีพลังที่เคยถูกนำมาใช้งานจริงอยู่ 3 อย่างด้วยกัน อย่างแรกคือสามารถนำมาใช้เป็นอาวุธได้ โดยการปล่อยคลื่นพลังออกมาจากกุญแจ ซึ่งคลื่นพลังนี้มีความรุนแรงมาก สามารถทำให้มอนสเตอร์ละลายเป็นผงได้ในการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียวเลย!

พลังที่ 2 คือสามารถใช้เปิดประตูแห่งความฝันได้ เมื่อใช้เวทมนตร์ดังกล่าวจะทำให้ความปรารถนาของผู้นั้นเป็นจริงในทันที แต่ทว่า เวทมนตร์นี้สามารถใช้ได้กับผู้อื่นเท่านั้น ไม่สามารถใช้กับเจ้าของกุญแจได้ และผู้ที่จะถูกเปิดประตูแห่งความฝันออกได้ต้องเป็นผู้ที่มีจิตใจบริสุทธ์เท่านั้น

และพลังสุดท้ายคือการใช้ปิดผลึกจอมมาร หากพวกเจ้าเดินทางไปยังวิหาร Kobulr ซึ่งที่นั่นมี "บล็อกกี้ล็อค" (Blockie Lock) ซึ่งเป็นแท่นสำหรับนำซิลลี่คีย์มาเสียบลงในช่องที่อยู่บนแท่นนั้น หากนำซิลลี่คีย์ไปเสียบลงในแท่นนั้นเมื่อไหร่ ก็จะเกิดพลังวิเศษที่ทำให้จอมมารถูกปิดผลึกลงในที่สุด โดยตัวจอมมารจะถูกส่งมาจองจำยังวิหารดังกล่าวทันทีไม่ว่าจะอยู่หนไหนในโลกนี้ก็ตาม

...แต่ทว่า ข้าเองก็ยังหาข้อมูลไม่เจอว่า เพราะเหตุใดซิลลี่คีย์ถึงกลายมาเป็นราชสมบัติของอาณาจักรเทพนิยายได้ ทั้งที่มันควรจะอยู่ที่วิหาร Kobulr ตลอดนะ

เนียมิ: งั้นก็แปลว่า... หากเกิดพวกจักรพรรดิ Desperus เริ่มรุกรานอีกครั้ง พวกเราก็ต้องนำกุญแจนี่ไปเสียบที่วิหารนั้นสินะ

โปโต: ถูกต้องแล้วล่ะ! แต่ว่าการจะฝ่าเข้าไปยังวิหารนั้นเพื่อนำกุญแจไปเสียบมันไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิดนะ เพราะในนั้นเต็มไปด้วยกับดักมากมาย หากพลาดแม้แต่นิดเดียวล่ะก็ พวกเจ้าก็อาจต้องตายสถานเดียว... และความลับทั้งหมดก็มีเพียงเท่านั้นแหละ ขอรับ

มิมิ: อืม!! ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากๆ เลยนะ!

เนียมิ: งั้นพวกเราก็ขอตัวลากันแล้วนะ!

โปโต: อืม!! ขอให้พลังของซิลลี่คีย์จงอยู่กับพวกเจ้าล่ะ!! (∩_∩)

แล้วทั้งสองก็เดินออกมาจากบ้านของโปโต

เนียมิ: ในที่สุดก็เหลืออีกเพียงแค่ 2 ชิ้นแล้วนะ!

มิมิ: อืม!! รู้สึกว่าพวกเราจะตามรวมรวบได้ไวกว่าที่ฉันเคยคิดไว้เยอะเลยนะ งั้นพรุ่งนี้พวกเราก็รีบไปลุยยังสถานที่ต่อไปกันเถอะ!

เนียมิ: โอ้!!! \^o^/

หลังจากนั้นทั้งสองก็เดินทางไปกินพาร์เฟต์ที่ร้านเดิมกันอีกครั้งอย่างมีความสุข♥

--------------------------------------------------------------------------------

แต่ทว่า... ในขณะเดียวกัน บริเวณรอบๆ เมืองหลวงของอาณาจักรเทพนิยายนั้น ก็ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดบางอย่างขึ้นบนท้องฟ้า

ไดโน: นี่พวกมัน... กำลังจะกลับมาแล้วเหรอเนี่ย?!

ไดโนในชุดพระราชโอรสแบบเต็มยศเดินออกไปที่ระเบียงและทรงตกพระทัยกับความรู้สึกบางอย่างที่กำลังจะมาในอีกไม่ช้านี้

--------------------------------------------------------------------------------

ทางด้านโปเอ็ตที่กำลังทำงานส่งสิ่งของให้กับลูกค้าอยู่

โปเอ็ต: หายนะกำลังจะมา...

โปเอ็ตหลังจากที่ส่งของเสร็จแล้วได้แหงนหน้าไปมองบนฟ้า เพราะรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่เลวร้ายกำลังจะมา

รวมทั้งเหล่าชาวบ้านก็มองไปบนฟ้าเช่นกัน รวมถึงพวกของอาเรสะ(ไก่)กับสตอนสตอน(หมู) แม้กระทั้งแอสคอตกับไซฟา และ บารามกับอลินี่ ก็เห็นเช่นเดียวกันหมดทุกคน

ทุกคนในอาณาจักรเทพนิยายเกิดรู้สึกสงสัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่มีใครสามารถสรุปได้ว่ามันคืออะไร...




>>>>> TO BE CONTINUED <<<<<