28 กรกฎาคม 2565

pop'n music RESPECT : STAGE 30 「บ้านพิศวง」

ฮาโหล่♪ ป๊อปพิ.. เออ... เนียมิเองค่า~

ว้าว!! ทั้งตื่นเต้นและดีใจมากเลยค่ะ!! ตอนนี้พวกเราได้รับการพาวเวอร์อัปเรียบร้อยแล้วค่ะ!! \^o^/

โดยหลังจากที่ฉันเกือบจะเสียท่าให้กับเซที่ได้พาวเวอร์อัปพลังให้แกร่งขึ้น อยู่ๆ ฉันก็ได้รับการช่วยเหลือจาก ภูตแห่งสายลม และเขาก็ได้มอบพลังใหม่มาให้กับพวกเราด้วยค่ะ! อย่างแรกคือ "ป๊อปเปอร์สปีดเดอร์" เป็นโรลเลอร์เบลดที่ทำให้สามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงได้ แถมยังทำให้พวกเราบินบนฟ้าได้อีกด้วยนะ! ทีนี้ ไม่ว่าจะเจอคู่ต่อสู้แบบไหน พวกเราก็สู้ได้หมดทุกที่แล้วล่ะ!☆

ส่วนพลังใหม่ที่ได้มาอีกอย่างคือ "ป๊อปเปอร์แบนด์" เป็นสายรัดถุงมือ เออ... ยังไม่รู้เหมือนกันนะว่ามันทำอะไรได้ แต่ตอนที่ฉันพุ่งเข้าไปอัดเซด้วยท่าคล้ายดาวตก ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นพลังที่ได้จากป๊อปเปอร์แบนด์เลยนะ!

และสิ่งสำคัญที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ท่าไม้ตายหลักของพวกเราอย่าง "ป๊อปปินอิมแพ็ค" ก็ได้อัปเกรดเป็นเวอร์ชั่นใหม่ที่มีพลังมากขึ้นด้วยเช่นกัน กลายเป็น "ป๊อปปินอิมแพ็ค ไฮเปอร์" ว้าว!! สุดยอดไปเลยจริงๆ O(∩_∩)O

ส่วนการผจญภัยเพื่อตามล่าหาเศษลูกแก้วเวทมนตร์นั้น ในวันนี้พวกเราจะเดินทางไปยัง "หมู่บ้าน Role" ค่ะ!! จะเป็นสถานที่แบบไหนกันแน่นะ ตื่นเต้นจังเลย... `(*>﹏<*)′

--------------------------------------------------------------------------------



STAGE 30
「บ้านพิศวง」

--------------------------------------------------------------------------------

ช่วงเช้าของวันต่อมา ในขณะที่ทั้งสองกำลังเดินทางผ่านเส้นทางป่าเขาเพื่อที่จะมุ่งหน้าไปยังสถานที่ถัดไปนั้น เนียมิก็พลางมองดูที่กำไลป๊อปเปอร์สสีฟ้าของตัวเอง

เนียมิ: สุดยอดไปเลยนะ ไม่นึกเลยว่าพวกเราจะได้พาวเวอร์อัปกับเขาด้วย

มิมิ: อืม! ^_^ ถ้าเกิดไม่ได้คุณภูตสายลมช่วยไว้ล่ะก็.. พวกเราคงเป็นฝ่ายแพ้ไปเรียบร้อยแล้วล่ะ

เนียมิ: แต่ฉันก็ยังสงสัยอยู่อย่างหนึ่งนะ ว่าสายรัดถุงมือ "ป๊อปเปอร์แบนด์" ที่ได้มา มันเอาไว้ทำอะไรกันแน่? (เพราะภูตแห่งสายลมก็ไม่ได้อธิบายไว้ด้วย)

มิมิ: ฉันคิดว่าคงทำให้ปล่อยพลังโจมตีจากระยะไกลได้ละมั้งนะ...? เพราะที่ผ่านมา พวกเราก็สู้กันด้วยมือเปล่ามาตลอดเลย (มีแต่พวกสัตว์ประหลาด SL นี่แหละ ที่มีท่าโจมตีจากระยะไกล)

เนียมิ: อืม.. นั่นสินะ อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้

แล้วจากนั้นเนียมิก็เหมือนจะนึกอะไรออกได้

เนียมิ: Σ(. ❛ ᴗ ❛.)💡 จริงสิ! งั้นพวกเราก็แปลงร่างแล้วมาลองใช้ไอเทมชิ้นใหม่นี้กันดูเลยไหมล่ะ?

มิมิ: ไม่ได้นะ!! ヽ(≧□≦)ノ

มิมิรีบตะโกนห้ามไว้อย่างทันใด

เนียมิ: อ้าว.. ทำไมล่ะ?? (⊙_⊙;)?

มิมิ: เธอลืมเรื่อง "นั้น" ไปแล้วเหรอ? การแปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์สมีขีดพลังจำกัด และการชาร์ตพลังกำไลเพื่อให้กลับมาแปลงร่างได้อีกครั้งต้องใช้เวลาทั้งคืน ถ้าเกิดแปลงร่างในตอนนี้ไปแล้ว เซดันมาโผล่ในช่วงที่เรายังแปลงร่างไม่ได้ก็จะแย่เอานะ!

เนียมิ: เออ.. นั่นสิ โทษทีนะพอดีฉันลืมเรื่องนั้นไปแล้วจริงๆ ( ̄▽ ̄)~*

เนียมิพลางเกาหัว

และหลังจากที่ทั้งสองเดินไปได้เรื่อยๆ อีกสักพักใหญ่นั้น ทั้งสองก็เดินมาจนพบกับทางตัน ซึ่งเส้นทางตรงหน้าถูกตัดด้วยเหว

จากนั้นทั้งสองจึงลองสอดส่องโดยรอบ ก็ไม่พบเส้นทางที่สามารถไปต่อได้แต่อย่างใด

เนียมิ: ไปต่อไม่ได้ซะแล้วแฮะ ( ̄_ ̄|||) แล้วจะเอายังไงกันต่อดี?

จากนั้นมิมิจึงดูแผนที่ ก็พบว่าเส้นทางที่ต้องไปต่อนั้นคือต้องข้ามเหวข้างหน้าไป เธอจึงลองมองหาเส้นทางอื่นที่พอจะอ้อมไปได้ในแผนที่อยู่พักหนึ่ง

มิมิ: ดูเหมือนว่าพวกเราต้องกลับไปที่หุบเขา Seveal อีกครั้งเพื่อเปลี่ยนเส้นทางใหม่แล้วล่ะนะ...

จากคำตอบนี้ ทำให้เนียมิถึงกับตกใจ

เนียมิ: เอ๋!? Σ( °Д °) แต่พวกเราเดินกันมาเป็นชั่วโมงแล้วนะ!! จะให้กลับไปอีกงั้นเหรอ?!

มิมิ: ก็มันไม่มีทางเลือกอื่นจริงๆ นี่นา... ::>_<::

"พวกเธออยากจะข้ามเหวนี่กันงั้นหรือ??"

อยู่ๆ ก็มีเสียงของผู้ชายคนหนึ่งทักขึ้นมา เมื่อเธอหันไปมองก็พบกับหมีสีขาวตัวใหญ่ตัวหนึ่ง

เนียมิ: หืม?!

"ฉันมีบริการจักรยานบินโดยสารข้ามฟากอยู่ที่นี่นะ พวกเธออยากจะข้ามเหวนี่กันใช่ไหม?"

เนียมิ: อ่ะ!! ใช่แล้วค่ะ!!

"ถ้างั้นก็จ่ายเงินมาก่อน 10,000 ปอง"

เมื่อทั้งสองได้รู้ค่าโดยสาร ก็ถึงกับตกตะลึง

เนียมิ: ห๊า!! ตั้ง 10,000 ปองเลยเหรอ!? Σ( °Д °)

มิมิ: ทำไมถึงแพงขนาดนั้นล่ะ??

"ก็เพราะนี่เป็นบริการพิเศษสำหรับผู้ที่ขี้เกียจหาทางอ้อมเหวยังไงล่ะ!! ฮ่าๆๆ q(≧▽≦q)"

เมื่อทั้งคู่ได้รู้คำตอบ ก็ถึงกับเหงื่อตก ( ̄_ ̄|||)

เนียมิ: เอาไงดี มิมิจัง พวกเราไม่มีเงินมากขนาดนั้นด้วยสิ

จากนั้นมิมิก็ใช้สมองคิดทางหาออกอยู่สักพัก

มิมิ: Σ(. ❛ ᴗ ❛.)💡 จริงด้วยสิ!!

จากนั้นมิมิก็ยื่นมือออกไปข้างหน้า แล้วซิลลี่คีย์ก็ปรากฎออกมาในมือ

มิมิ: พวกเราเป็นผู้กล้าที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระราชโอรสแห่งอาณาจักรเทพนิยายอย่างเป็นทางการ โปรดเคารพและให้เกียรติแก่พวกข้าพเจ้าด้วยนะค่ะ!! (∩_∩)

เมื่อหมีขาวได้เห็นซิลลี่คีย์ เขาก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

"หืม...!? เป็นผู้กล้ากันจริงๆ เหรอเนี่ย... แต่ขอบอกไว้ก่อนนะ ต่อให้เป็นถึงผู้กล้าฉันก็ไม่มีสิทธิพิเศษอะไรให้หรอกนะ!! ฮ่าๆๆ q(≧▽≦q)"

หมีขาวขำอย่างสะใจ

เนียมิ: หนอย.. ขี้เหนียวชะมัด!! (〃>目<)

เนียมิเริ่มโมโห

มิมิ: ถ้างั้น... ในเมื่อท่านไม่ยอมให้เกียรติ พวกเราก็ขอแข่งป๊อปปินแบทเทิลเพื่อเป็นการตัดสินเลยแล้วกัน ถ้าหากพวกเราเป็นฝ่ายชนะ ท่านต้องยอมให้พวกเราโดยสารฟรี โอเคนะ?

"โธ่.. (*  ̄︿ ̄) ตื่อกันจริงๆ นะเจ้าเด็กพวกนี้ งั้นก็ขอรับคำท้าแล้วกัน แต่ว่า.. ถ้าหากพวกเธอเป็นฝ่ายแพ้ซะเองล่ะก็... ฉันจะให้พวกเธอมาเป็นทาสคอยทำงานแบบไม่ให้ค่าจ้างไปชั่วชีวิตเลย!! §(* ̄▽ ̄*)§"

เนียมิ: โอเค!! ถ้างั้นก็มาเริ่มกันเลย!! พวกเราไม่กลัวอะไรทั้งนั้นอยู่แล้ว!! (^_<)☆

มิมิ: เดี๋ยวก่อนนะ... ท่านมีนามว่าอะไรกันเหรอ??

"อ๊อ!! โทษทีที่ลืมแนะนำตัว ฉันชื่อ "พาบาเร่" (Pabarle) นะ เอาล่ะ มาลองตัดสินกันเลย!!"

===== POP'N BATTLE =====
Mimi/Nyami vs Pabarle
Again Sunshine / Forte Escape
===== END BATTLE =====

ผลการแข่งขัน มิมิกับเนียมิ เป็นฝ่ายชนะ

ทันทีที่พาบาเร่เป็นฝ่ายแพ้ เขาก็ถึงกับคุกเข่าลงเพื่อยอมรับพ่ายแพ้ในทันที

พาบาเร่: เค้าขอโทษที่กริวกราวนะ ฉันเชื่อแล้วล่ะว่าพวกคุณเป็นผู้กล้าจริงๆๆ !! (^人^)

แล้วจากนั้นทั้งสองก็หันมายิ้มให้กันและพลางหัวเราะออกมาเบาๆ ^_^

พาบาเร่: เอาล่ะ ตามที่ได้สัญญาไว้ ฉันจะพาพวกเธอไปส่งยังจุดหมายที่ต้องการให้แบบฟรีๆ เลยนะ ..เอาล่ะ ตามฉันมาเลย!!

มิมิ/เนียมิ: ค่ะ!!

แล้วทั้งสองก็ขึ้นไปนั่งบนเครื่องบินขนาดเท่ารถยนต์ของพาบาเร่ ซึ่งต้องใช้การปั่นคล้ายกับจักรยานเพื่อขับเคลื่อน

และแล้วเครื่องบิน(หรือจักรยานบิน?)ก็ได้เริ่มออกตัวลอยขึ้นไปบนอากาศ โดยได้บินข้ามเหวที่ตัดระหว่างพื้นดินทั้งสองฝั่ง และบินต่อไปเรื่อยๆ ผ่านป่าไม้ที่อยู่เบื้องล่าง ทั้งสองชื่นชมกับความงดงามของทิวทัศน์โดยรอบจากมุมสูงอย่างตื่นตาตื่นใจ

มิมิ: พอได้มองวิวจากมุมสูงแบบนี้ รู้สึกฟินอย่างบอกไม่ถูกเลยนะ ^_^

เนียมิ: อืม!! สวยงามมากเลยล่ะ!! (∩_∩)

และหลังจากที่บินมาได้สักพัก อยู่ๆ ก็เกิดฝนกระหน่ำขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำให้ทั้งสองตั้งตัวแทบไม่ทัน

เนียมิ: อ่ะ!! Σ( °Д °) ฝกตกซะแล้วล่ะ!!

และในจังหวะนั้นเอง ก็เกิดลมพายุพัดเข้ามาอย่างแรงจากทางด้านหน้าของเครื่องบิน ทำให้ตัวเครื่องเริ่มเสียการควบคุม

พาบาเร่: โอ้!! แย่แล้วล่ะ ต้องหาทางลงจอดฉุกเฉินก่อนแล้วล่ะ!! (ทำไมอยู่ๆ ถึงมีพายุฝนในเวลาแบบนี้กันนะ?)

แต่ทว่า...!! ในระหว่างที่เครื่องกำลังโยกเยกไปมาจากลมพายุนั่นเอง!! มิมิก็เกิดพลัดตกจากเครื่องบินไป!!

มิมิ: อ๊าาาาาาาาาาาาา!!!!! (>o<)

เนียมิ: มิมิจัง!! Σ( °Д °)

มิมิร่วงลงไปยังป่าที่อยู่เบื้องล่าง

เนียมิ: ทำยังไงดี!? ความฝันที่เคยเห็นเมื่อหลายคืนก่อนกลับกลายเป็นจริงซะแล้วล่ะ!! .·´¯`(>▂<)´¯`·. (แต่กลายเป็นมิมิที่ร่วงไปแทน)

เนียมิเริ่มสับสน

แล้วเครื่องบินก็พยายามมุ่งหน้าหาทางลงจอดต่อไป โดยที่เครื่องได้ลอยห่างออกจากจุดที่มิมิร่วงลงไปเรียบร้อยแล้ว...

--------------------------------------------------------------------------------

เวลาต่อมา หลังจากที่มิมิรู้สึกตัว เธอพบว่าตัวเองตกลงมาอยู่บนพุ่มไม้หนา และตอนนี้ฝนได้หยุดตกแล้ว

หลังจากที่เธอลุกขึ้นมา เธอพยายามสำรวจตัวเองดู ก็ไม่พบบาดแผลหรือมีอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด

มิมิ: โชคดีจังแฮะ ที่พุ่มไม้พวกนี้ช่วยรับไว้ ว่าแต่...

มิมิสำรวจสถานที่โดยรอบ พบว่าเป็นป่าทึบที่มีแต่ต้นไม้เต็มไปหมด

มิมิ: แล้วเนียมิจังไปอยู่ที่ไหนกันแล้วตอนนี้!?

มิมิพยายามตั้งสติ แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อดูแผนที่ พบว่าบริเวณนี้ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตแต่อย่างใด ทำให้ไม่สามารถดูแผนที่ได้

มิมิ: อ่ะ..! แถวนี้ไม่มีสัญญาณเน็ตแฮะ... งั้นแบบนี้ก็ไม่รู้กันแล้วละสิว่าอยู่ที่ไหน >﹏<

แล้วจากนั้นเธอก็ลองค้นตัวเองดูเพื่อลองหาไอเทมอะไรที่พอจะนำมาใช้ประโยชน์ได้ แล้วจากนั้นสักพักเธอก็หยิบเข็มทิศออกมาจากกระเป๋าที่อยู่ในเสื้อสีขาว(ใต้เสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำเงิน)

มิมิ: ดูเหมือนว่าชุดนี้จะมีไอเทมที่จำเป็นต่อการผจญภัยติดมาให้ด้วยสินะ!! (゜▽゜*)♪

แล้วจากนั้นมิมิก็ใช้เข็มทิศเพื่อหาทางไปต่อ

มิมิ: ถ้าจำไม่ผิด ทิศทางที่เครื่องบินเริ่มแล่นมาตั้งแต่ออกตัวที่หน้าผาเป็นทิศตะวันออก.. งั้นลองเดินไปตามทิศนี้ดูเรื่อยๆ แล้วกัน อาจจะเจอเมืองหรือหมู่บ้านสักแห่งก็ได้

และแล้วมิมิก็เริ่มมุุ่งหน้าเดินทางไปตามทิศตะวันออก เพื่อตามหาสถานที่สักแห่งที่มีคนพอจะช่วยเหลือเธอได้

--------------------------------------------------------------------------------

ทางด้านเนียมิ หลังจากที่ฝ่าพายุฝนมาได้สักพัก ในที่สุดพาบาเร่ก็สามารถนำเครื่องบินลงจอดที่ข้างแม่น้ำขนาดเล็กในป่าแห่งหนึ่งได้อย่างปลอดภัย (ซึ่งขณะนี้ฝนได้หยุดตกแล้ว)

พาบาเร่: โธ่.. หมดกัน เครื่องบินของฉัน... (>_<。)

พาบาเร่ที่ลงมาเช็คสภาพของเครื่องบินหลังลงจอด กล่าวด้วยสีหน้าเศร้า

เนียมิ: งั้นแบบนี้ก็แปลว่า... ไปต่อไม่ได้อีกแล้วใช่ไหม?

พาบาเร่: ใช่แล้วล่ะ... (┬┬﹏┬┬) (ขอโทษด้วยนะ)

เนียมิ: ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจะออกตามหามิมิเองก็ได้ ..แล้วก็ขอบคุณสำหรับเที่ยวบินนี้ด้วยนะ

พาบาเร่: อืม!! ขอให้หาเพื่อนเจอเร็วๆ ด้วยล่ะ!!

แล้วเนียมิก็เริ่มมุุ่งหน้าออกตามหามิมิที่หายตัวไปในป่าเพียงลำพัง

พาบาเร่: เอ๊อ!! เดี๋ยวก่อนนะ!!

พาบาเร่ตะโกนเรียกเพื่อบอกอะไรบางอย่าง ทำให้เธอต้องหยุดเดินแล้วหันกลับมามองเขาอีกครั้ง

เนียมิ: มีอะไรงั้นเหรอ??

พาบาเร่: ในป่านี้มีบ้านหลังหนึ่งที่เป็นที่สิงสถิตของวิญญาณร้ายที่คอยสาปคนที่หลงเข้ามาในบ้านให้กลายเป็นตุ๊กตา ถ้าหากเธอเกิดไปเจอบ้านที่ตั้งอยู่กลางป่าแบบเดี่ยวๆ ละก็ อย่าเข้าไปข้างในเด็ดขาดเลยนะ!

เนียมิ: ค่ะ!!

จากนั้นเนียมิก็ออกเดินทางต่อ

--------------------------------------------------------------------------------

ทางด้านมิมิ หลังจากที่เดินตามเข็มทิศมาได้เรื่อยๆ ในที่สุดเธอก็พบกับบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่กลางป่า

มิมิ: เอ๊!? Σ( °_ °) มีบ้านอยู่กลางป่าด้วยแฮะ!?

ลักษณะของบ้านเป็นบ้านชั้นเดียวมีขนาดเล็กและไม่กว้างมาก แต่เหนือหลังคาขึ้นไปมีหอสูงที่ดูคล้ายกับหอระฆังอยู่ด้วย

มิมิ: ลองเข้าไปดูดีกว่า อาจจะมีใครพอช่วยอะไรเราก็ได้

แล้วมิมิก็เดินไปยังหน้าประตูบ้าน ก่อนที่จะเคาะประตูเรียก

มิมิ: ฮาโหล่♪ มีใครอยู่ไหมค้า~

มิมิตะโกนเรียก แต่ก็ไม่มีใครออกมาหรือตอบกลับแต่อย่างใด

เธอจึงลองเคาะประตูอีกครั้ง แต่ก็ยังคงไม่มีใครออกมาเช่นเคย

มิมิ: ถ้างั้นฉันจะเข้าไปแล้วนะ..

เมื่อมิมิเปิดประตูเข้ามาข้างใน พบว่าภายในมีเพียงแค่โต๊ะอาหารที่ตั้งอยู่กลางบ้านเท่านั้น

มิมิ: ไม่มีใครอยู่ในนี้แฮะ? (⊙_⊙)?

แล้วเธอก็ลองสำรวจภายในบ้านอยู่พักหนึ่งก็ไม่พบสิ่งของอะไรเพิ่มเติมนอกจากโต๊ะอาหารพร้อมเก้าอี้ 2 ตัวที่ตั้งอยู่กลางบ้านเท่านั้น

มิมิ: แต่ว่า มันรู้สึกแปลกๆ อยู่นะบ้านหลังนี้... มีแค่โต๊ะอาหาร ไม่มีข้าวของอะไรอย่างอื่นเลย

แล้วจากนั้นท้องของเธอก็ร้องดังออกมา

มิมิ: เฮ่อ.. เริ่มหิวซะแล้วแฮะ...

แล้วเธอก็เหลือกไปเห็นจานอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะนั้น เธอพลางกลืนน้ำลายพร้อมกับเข้าไปดูใกล้ๆ พบว่าเป็นขนมเค้กพร้อมชาฝรั่ง

มิมิ: ว้าว!! น่ากินจังเลย!! (✪ ﹃ ✪)

แล้วเธอหันซ้ายหันขวาเช็คดูอีกรอบ ก็ไม่มีใครอยู่ในนี้จริงๆ แล้วจากนั้นเธอจึงตัดสินใจนั่งกินเค้กที่อยู่บนโต๊ะนี้

มิมิ: ในเมื่อไม่มีใครอยู่ที่นี่แล้ว งั้นฉันก็ขอกินเองแล้วละนะ...! O(∩_∩)O

และหลังจากที่เธอกินเค้กเข้าไปได้แค่คำแรก อยู่ๆ พิ้นตรงใต้โต๊ะก็เกิดพลิกตัวกลับด้าน ทำให้เธอร่วงลงไปยังหลุมใต้พื้นนั้น

มิมิ: อ๊าาาาาาาาาาาาา!!!!! (>o<)

และหลังจากนั้นสักพัก เธอก็ร่วงลงมาจนถึงด้านล่าง ซึ่งหลังจากที่เธอตั้งสติได้ เธอก็พบว่าจุดที่ร่วงลงมาเป็นเหมือนกับบ้านเด็กเล่นในห้างสรรพสินค้าที่มีกองลูกบอลขนาดเล็กเต็มห้องไปหมด

มิมิ: ที่นี่มันที่ไหนกันน่ะ??

เธอหันขึ้นไปมองด้านบน พบว่าไม่มีช่องหรือรูแต่อย่างใด เป็นเพดานปิดสนิท

มิมิ: แต่เมื่อกี้นี้ เราร่วงลงมานี่น้า?? แล้วทำไมบนนั้นถึงไม่มีรูอะไรเลยล่ะ?? แต่ก็ช่างมันเถอะ ตอนนี้เราต้องหาทางออกจากที่นี่ให้ได้ก่อน

แล้วจากนั้นเธอก็มองหาทางไปต่อ ก็พบกับประตูที่อยู่ด้านหนึ่งของกำแพง ซึ่งมีประตูเดียว เธอจึงพยายามฝ่าทะเลลูกบอลเพื่อไปหาประตูนั้น

และหลังจากที่เธอเข้าประตูนั้นไปแล้ว ก็พบว่าภายในเป็นห้องปิดตายอีกห้องหนึ่งที่มืดมิด

แล้วจากนั้นอยู่ๆ เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าห้องค่อยๆ "หมุน" ไปอย่างช้าๆ สักพักหนึ่งห้องก็เริ่มหมุนเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนถึงสุดขีด

มิมิ: อ้ากกก!! นี่มันอะไรกันเนี่ย!!?? ≧ ﹏ ≦

มิมิเวียนหัวจนตาลายไปหมดแล้ว...

--------------------------------------------------------------------------------

ทางด้านเนียมิ หลังจากที่เดินกลับมาทางทิศตะวันตกได้สักพักใหญ่

เนียมิ: อืม... แถวนี้ไม่มีสัญญาณเน็ตเลยนะ

เนียมิพลางดูแผนที่ในโทรศัพท์ ซึ่งไม่สามารถใช้การได้

และหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็เดินมาจนเจอบ้านลึกลับกลางป่าหลังเดียวกับที่มิมิเพิ่ง(หลง)เข้าไปได้เมื่อสักครู่นี้

เนียมิ: มีบ้านแปลกๆ อยู่กลางป่าด้วยแฮะ... อ่ะ! Σ( °_ °)

แล้วจากนั้นเธอก็นึกคำเตือนสำคัญที่เคยบอกไว้เมื่อครู่นี้

*****************************************************

พาบาเร่: ในป่านี้มีบ้านหลังหนึ่งที่เป็นที่สิงสถิตของวิญญาณร้ายที่คอยสาปคนที่หลงเข้ามาในบ้านให้กลายเป็นตุ๊กตา ถ้าหากเธอเกิดไปเจอบ้านที่ตั้งอยู่กลางป่าแบบเดี่ยวๆ ละก็ อย่าเข้าไปข้างในเด็ดขาดเลยนะ!

*****************************************************

ขณะเดียวกัน เธอบังเอิญเหลือกไปเห็นรอยเท้าที่อยู่บนพื้น ซึ่งรอยเท้านี้มีต้นทางมาจากทางด้านหน้า(ทิศตะวันตก)ของเธอ และรอยเท้านี้ได้เดินเข้าไปยังบ้านพิศวงหลังนั้น

จากนั้นเธอก็สังเกตเห็นสิ่งของบางอย่างที่ตกอยู่บนพื้นหน้าประตูบ้าน เธอจึงเข้าไปสำรวจดู

สิ่งของชั้นนั้นเป็นใบโคลเวอร์สี่แฉกที่โปเอ็ตเคยมอบให้กับมิมิ เธอจึงหยิบมันขึ้นมาดู

เนียมิ: นี่มันของมิมิจังนี่น้า... หรือว่ามิมิจังจะ...!? Σ( °Д °)

--------------------------------------------------------------------------------

กลับมาทางมิมิ หลังจากที่ห้องหยุดหมุนแล้ว ประตูที่อยู่อีกฝั่งของห้องก็เปิดออก เธอจึงค่อยๆ เดินเข้าไปยังประตูนั้นในสภาพที่ยังคงมึนอยู่

แล้วหลังจากนั้นมิมิก็ได้ผจญกับห้องประหลาดในอีกหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นห้องที่มีหินยักษ์กลิ้งไล่ตาม ห้องที่เต็มไปด้วยกับดักหนาม ห้องกับดักเปลวเพลิง และห้องเขาวงกตกระจกลวงตา (ซึ่งเธอเผลอเดินชนกำแพงกระจกไปหลายรอบอยู่เหมือนกัน)

และหลังจากที่หาทางออกจากเขาวงกตได้ ในที่สุดเธอก็มาถึงห้องที่เป็นลักษณะห้องโถงขนาดค่อนข้างกว้าง มีทางตรงทอดยาวไปด้านหน้า

เธอตัดสินใจยืนพักเหนื่อยสักครู่

มิมิ: (´Д`; ) คราวนี้ ต้องเจอกับอะไรอีกล่ะ??

--------------------------------------------------------------------------------

ทางด้านเนียมิ เธอได้ตัดสินใจเดินเข้ามาภายในบ้านเพื่อตามหามิมิ ซึ่งสิ่งที่เธอเห็นเป็นสิ่งเดียวกับที่มิมิพบเมื่อครู่นี้

เธอพยายามสำรวจรอบห้องอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่พบสิ่งที่บ่งบอกถึงความผิดปกติแต่อย่างใด

เนียมิ: อืม... ก็ดูเหมือนบ้านธรรมดาๆ ทั่วไปนะ ไม่เห็นจะดูน่ากลัวตามที่เขาเล่าเลย

เธอเว้นช่วงไว้นิดหนึ่ง แล้วพูดต่อ

เนียมิ: แต่ว่ามิมิจังเดินหลงเข้าในนี้นี่น้า และก็ไม่เห็นมีรอยเท้าที่เดินกลับออกมาด้วย... แสดงว่าในนี้คงต้องมีอะไรสักอย่างที่ทำให้เธอหายตัวไปแน่ๆ...

แล้วจากนั้นเธอก็สังเกตเห็นรอยแปลกๆ อยู่ที่ใต้โต๊ะอาหาร เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ พบว่าที่พื้นมีรอยแยกอยู่

เธอจึงลองใช้นิ้วเคาะที่พื้นตรงระหว่างรอยแยก แล้วจากนั้นพื้นที่อยู่ตรงโต๊ะอาหารก็พลิกตัวกลับด้าน ทำให้เห็น "หลุม" ตรงบริเวณดังกล่าว ก่อนที่พื้นจะพลิกมาเป็นอีกด้าน ซึ่งด้านนี้ไม่มีโต๊ะแล้ว

เนียมิ: มีกลไกประหลาดด้วยแฮะ Σ( °Д °) หรือว่ามิมิจังจะตกลงไปในหลุมนี้...?!

เนียมิเองกำลังคิดหนักกับเรื่องนี้ว่าจะเอายังไงต่อดี เพราะไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้วนอกจากต้องเสี่ยงลงไปในหลุมนี้ดูเท่านั้น

เนียมิ: จะทิ้งให้มิมิจังเผชิญกับอันตรายไว้คนเดียวก็ไม่ได้ซะด้วยสิ... งั้นก็คงต้องลองเสี่ยงตามลงไปล่ะ!!

แล้วเนียมิก็ตัดสินใจกระโดดลงไปในหลุมกับดับนั้น เพื่อตามหามิมิ

ขณะเดียวกัน... ได้มีบุคคลลึกลับผู้หนึ่ง กำลังส่องมองเนียมิจากที่ๆ มืดมิดแห่งหนึ่ง

"ฮะฮืม... ในที่สุดก็มากันครบแล้วสินะ เดี๋ยวข้าจะให้เจ้าได้เจอหน้ากันเลยก็แล้วกัน!"

--------------------------------------------------------------------------------

กลับมาทางมิมิ เธอได้เดินไปเรื่อยๆ ตามทางตรงยาว ซึ่งตลอดสองข้างทางมีประตูที่เชื่อมต่อไปยังห้องต่างๆ อยู่ตลอดทาง

มิมิ: ห้องนี้มีประตูเต็มไปหมดเลยแฮะ... งั้นลองเดินไปเรื่อยๆ จนสุดทางดูก่อนก็แล้วกัน

จากนั้นเธอก็เดินสำรวจไปเรื่อยๆ จนสุดทาง พบว่าที่ทางตันไม่มีประตูแล้ว ซึ่งประตูที่ใช้เดินทางไปยังห้องถัดไปได้มีเพียงแค่ประตูต่างๆ ที่อยู่ระหว่างทางเท่านั้น

มิมิ: ดูเหมือนว่าจะต้องเลือกหนึ่งในประตูที่เดินผ่านมาซะแล้วสิ... (°ー°〃)

"อ้าาาาาา!!!"

อยู่ๆ เธอก็ได้ยินเสียงกรีดร้องที่ดังมาจากทางหนึ่ง ทำให้เธอขนหัวลุกในทันที...

แล้วจากนั้นสักพักเนียมิก็ได้ร่วงลงมาทับกลางร่างของเธอแบบเต็มๆ

ทั้งสองค่อยๆ ตะเกียกตะกายลุกขึ้นมา

มิมิ: โอ้ย... เจ็บจังเลย Σ( °Д °) ห๊ะ!? เนียมิจัง!?

เนียมิ: มิมิจัง!! Σ( °Д °)

แล้วมิมิก็เข้ามากอดเนียมิ

มิมิ: ในที่สุดเธอก็มาช่วยฉันแล้วสินะ♥

เนียมิ: ใช่แล้วล่ะ!☆

มิมิ: เอ๊!? แต่ว่า...

แล้วมิมิก็เพิ่งนึกอะไรออกได้

มิมิ: แล้วทำไมเธอถึงตามลงมาที่นี่ด้วยล่ะ!? ที่นี่มันเป็น "กับดัก" นะ!! o(≧口≦)o

เนียมิ: ก็เพราะว่าฉันไม่อยากปล่อยให้เธอเจอกับอันตรายนี่นา!!

มิมิ: เธอไม่ต้องห่วงฉันตลอดก็ได้ เพราะยังไงสักวันหนึ่งพวกเราก็ต้องมาตัดสินกันในทัวร์นาเมนต์สุดท้ายอยู่ดี

เนียมิ: แต่ว่าฉันทำแบบนั้นไม่ได้นี่นา!! (>_<。)

มิมิ: ( ̄ー ̄*||| เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ก็เอาเป็นว่าตอนนี้พวกเรามาทางออกจากที่นี่กันก่อนดีกว่า

แล้วจากนั้นทั้งสองก็เดินกลับไปยังทางตรงกันข้ามกับที่เดินมา เพื่อที่จะเลือกเข้าหนึ่งในประตูจากทั้งหมด

เนียมิ: แล้วที่นี่มันคืออะไรกันน่ะ

มิมิ: ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้พวกเราต้องเลือกหนึ่งในประตูจากทั้งหมดนี้ เพื่อหาทางไปต่อนะ

เนียมิ: แต่ฉันพอรู้นะ! ที่นี่เป็นบ้านของวิญญาณร้ายที่ล่อคนให้มาติดกับยังไงล่ะ! (พาบาเร่ เขาเล่ามา)

แล้วจากนั้นมิมิก็ยืนอึ้งอยู่พักหนึ่ง

มิมิ: เอ๋!?? จริงเหรอ?! Σ( °Д °)

เนียมิ: อืม!! ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นฝ่ายติดกับเข้าซะแล้วนะ

มิมิ: งั้นฉันก็ขอโทษนะ ถ้าหากฉันไม่ตกเครื่องบินไปเมื่อกี้ละก็ บางทีฉันอาจจะไม่ต้องมาติดอยู่ในที่ประหลาดแบบนี้ก็ได้ o(TヘTo)

แล้วจากนั้นทั้งสองก็เดินทางกันต่อ โดยทั้งคู่ได้ตัดสินใจเลือกประตูหนึ่งที่อยู่ข้างทาง ก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องหลังประตูนั้น

เมื่อเข้ามาด้านใน พบว่าเป็นห้องที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาจำนวนมาก ซึ่งจัดวางอยู่บนตู้วางของต่างๆ มีหลายขนาดทั้งตัวเล็กและใหญ่

เนียมิ: นี่มันห้องอะไรกันน่ะ??

แล้วในทันใดนั้น มิมิก็เหลือบไปเห็น "ตุ๊กตามายเมโลดี้" ตัวใหญ่ยักษ์ที่วางอยู่บนตู้วางของหลังหนึ่งจากตู้จำนวนมาก

มิมิ: ว้าว!! มี "ตุ๊กตามายเมโลดี้" ด้วยล่ะ!! (♥‿♥) (มาอยู่ในที่แบบนี้ได้ยังไงกันน่ะ?)

มิมิรีบวิ่งเข้าไปหาทันที

เนียมิ: เดี๋ยวก่อน!! นั่นมันอาจจะเป็น...

เนียมิตะโกนห้าม แต่ว่ามันสายไปเสียแล้ว

และทันทีที่มิมิเข้าไปใกล้ตุ๊กตาตัวดังกล่าว อยู่ๆ ก็เกิดระเบิดขึ้นตรงหน้าตุ๊กตา ทำให้เธอกระเด็นออกมา

มิมิ: อ๊าาาาาาา!!!! >﹏<

มิมิร้องลั่นเพราะโดนแรงอัดจากระเบิดบวกกับแรงกระแทกหลังตกลงพื้นอีกที

"ฮ่าๆๆ ในที่สุดก็ตะเกียกตะกายมาจนถึงห้องโปรดของข้าจนได้สินะ"

เนียมิ: หรือว่าจะเป็น...!?

แล้วหมอกควันจากการระเบิดเมื่อสักครู่ก็ค่อยๆ จางหายไป ทำให้ได้เห็นบุคคลเจ้าของเสียงหัวเราะที่อยู่ตรงหน้า

เขาผู้นั้นเป็นบุรุษลึกลับตัวสูงที่อยู่ภายใต้หน้ากากสีขาว-เขียว

มิมิ: ไม่ใช่ เซ แฮะ.. ( ̄_ ̄|||) (นึกว่าจะเป็นฝีมือเซซะอีก)

"ขอต้อนรับพวกเจ้าทั้งสองสู่คฤหาสน์ของข้านะ ข้ามีนามว่า "ซิกซ์" (Zizz)"

มิมิ: แสดงว่าทั้งหมดนี้... เป็นฝีมือของแกสินะ

ซิกซ์: ถูกต้องแล้วล่ะ! ข้าเป็นคนวางกับดับพวกนี้เอง ฮ่าๆๆ

เนียมิ: หนอย... บังอาจมาทำให้เพื่อนรักของฉันต้องติดกับนะ! ...มิมิจัง!!

เนียมิหันมาทางมิมิ

มิมิ: จะให้แปลงร่างเหรอ?! ⊙.☉

เนียมิ: ก็เพราะว่ามันเป็น "วิญญาณร้าย" ยังไงล่ะ ถ้าหากมันใช้เวทมนตร์ได้ล่ะก็ พวกเราเองก็ต้องใช้เวทมนตร์สู้กลับสิ!

มิมิ: เออ.. อืม!! ถ้างั้นก็โอเค

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ยกแขนข้างที่สวมกำไลแปลงร่างขึ้นมา แล้วตะโกนว่า

มิมิ/เนียมิ: "ป๊อปปินแปลงร่าง!!"

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็แปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์ส

แต่ทว่ายังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้ทำอะไร จู่ๆ ก็มีกล่องขนาดยักษ์ที่มีหน้าตาคล้ายกับกล่องใส่หุ่นฟิกเกอร์จำนวน 2 กล่อง หล่นลงมาครอบร่างของพวกเธอ ทำให้พวกเธอติดอยู่ในกล่องนั้น

ป๊อปเลิฟ: อ๊า! นี่มันอะไรกันเนี่ย?? Σ( °Д °)

ซิกซ์: โอะโอ้ว! นึกไม่ถึงเลยว่าพวกเจ้าจะมีพลังแบบนี้อยู่ด้วย แต่ก็ถือว่าโชคดีเลยล่ะที่ได้เหยื่อที่มีวิชาอาคม แถมเจ้ากล่องนี่ยังดูเข้ากับชุดของพวกเจ้าอีกด้วยนะ ฮ่าๆๆ !!

ป๊อปพีช: นี่นายคิดจะทำอะไรกับพวกเราน่ะ ปล่อยพวกเราออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!!

ป๊อปพีชตะโกนพร้อมกับใช้หมัดทุบกล่องไปด้วย

ซิกซ์: ก็มันแน่อยู่แล้ว... ข้าจะสาปให้พวกเจ้ากลายมาเป็น "ตุ๊กตา" ภายใต้อำนาจบัญชาของข้ายังไงล่ะ!! ฮ่าๆๆ

ป๊อปพีช: จะสาปพวกเราให้กลายเป็นตุ๊กตางั้นเหรอ!?

แล้วจากนั้นป๊อปพีชก็คิดอะไรดีๆ ออกได้

ป๊อปพีช: อ่ะ! Σ(. ❛ ᴗ ❛.)💡 จริงสิ!! ลองใช้เจ้านี่ดูดีกว่า

แล้วจากนั้นป๊อปพีชก็ยกมือข้างขวาขึ้นมาพร้อมกับใช้มืออีกข้างจับแขนข้างขวาไว้ มือข้างขวาชูไปที่ตรงหน้ากระจกของกล่อง

ป๊อปพีช: ป๊อปบาสเตอร์!!

จากนั้นสายรัดป๊อปเปอร์แบนด์ที่อยู่ตรงขอบถุงมือด้านขวาก็เปล่งแสงออกมา พร้อมกับที่ปลายมือข้างขวาก็เปล่งแสงออกมาเช่นกัน

แล้วจากนั้นเธอก็ปล่อยคลื่นพลังลูกใหญ่ออกมาจากมือข้างขวา ซึ่งลูกพลังนี้ได้ทำลายกระจกอาคมที่อยู่ตรงหน้า

ซิกซ์: อะไรกันน่ะ!?

ซิกซ์ถึงกับอึ้งสุดขีด

เมื่อหมอกควันจางลง ป๊อปพีชก็สามารถหลุดออกมาจากกล่องได้ในที่สุด

ป๊อปพีช: โห้!! สุดยอด..! (⊙o⊙;) นี่น่ะเหรอ พลังของ "ป๊อปเปอร์แบนด์"

ป๊อปพีชเองก็แทบไม่เชื่อพลังใหม่ของตนเองเช่นกัน

ซิกซ์: ปะ.. เป็นไปไม่ได้... Unbelievable!!

ซิกซ์ตะโกนด้วยความอึ้งสุดขีด

ป๊อปพีช: เลิฟ!! ลองใช้พลังใหม่จากป๊อปเปอร์แบนด์ดูสิ!!

ป๊อปเลิฟ: อืม!!

แล้วจากนั้นป๊อปเลิฟก็ใช้ท่าป๊อปบาสเตอร์ทำลายกล่องฟิกเกอร์ได้เช่นกัน

ซิกซ์: พวกเจ้าเป็นคนแรก.. ไม่สิ กลุ่มแรกเลยนะที่สามารถทะลายอาคมของข้าลงได้!!

ป๊อปพีช: ฮะฮ่า!! (@^0^@) เห็นหรือยัง นี่แหละคือพลังแห่งมิตรภาพของพวกเรา!!

ป๊อปเลิฟ: ใช่แล้วล่ะ!! เพราะฉะนั้น เจ้าจงยอมแพ้ซะแต่โดยดีเถอะนะ! ถึงทนสู้ต่อไป เจ้าก็ไม่มีทางสู้พวกเราได้อยู่ดี *^____^* (ธรรมะยอมชนะอธรรม)

ซิกซ์: โธ่... (#`-_ゝ-) ถ้างั้น..! ข้าขอตัดสินกับพวกเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายด้วยการป๊อปปินแบทเทิลก็แล้วกัน!

ป๊อปพีช: ได้สิ!! เดี๋ยวพวกเราจะแสดงฝีมือของฮีโร่ให้เห็นเป็นขวัญตาเลย!!

แล้วจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็นำเกียร์ของตนออกมาเพื่อเริ่มการแบทเทิล

===== POP'N BATTLE =====
POPPERS vs Zizz
Seeker / M2U
===== END BATTLE =====

ผลการแข่งขัน ป๊อปเปอร์สเป็นฝ่ายชนะ

ซิกซ์: ปะ.. เป็นไปไม่ได้... Unbelievable!! (อีกรอบ)

ซิกซ์ตะโกนด้วยความอึ้งสุดขีด หลังจากที่ตนเป็นฝ่ายแพ้

ป๊อปเลิฟ: เอาล่ะ แล้วเจ้าจะยอมบอกทางออกจากที่นี่กับพวกเราได้แล้วหรือยัง?

ซิกซ์: ได้สิ!! พวกเจ้าเชิญออกไปจากที่นี่ได้เลย ข้าไม่อยากได้พวกเจ้ามาเป็นบริวารแล้วล่ะ! ...เชิญเข้าไปที่ประตูใต้ตู้นาฬิกานี้ได้เลย

ซิกซ์ชึ้ไปที่ตู้นาฬิกาที่มีประตูเล็กๆ อยู่ใต้ตู้

ป๊อปพีช: เป็นทางออกแน่จริงๆ นะ?

ป๊อปเลิฟ: ไม่ใช่ให้พวกเราไปเจอกับดักอะไรต่ออีกนะ?

ทั้งสองถามเพราะยังรู้สึกไม่ไหวใจ

ซิกซ์: เป็นทางออกของจริงแน่นอนอยู่แล้ว ข้าจะไปโกหกให้กับผู้ชนะได้ยังไงกันล่ะ และอีกอยาก ที่จริงแล้วข้าก็ไม่ได้มีนิสัยมืดมนแบบที่พวกเจ้าเห็นจากภายนอกหรอกนะ

ป๊อปพีช: อืม!! ถ้างั้นพวกเราลาแล้วนะ!

ซิกซ์: เดี๋ยวรอก่อน! ข้าจะขอมอบอะไรให้กับพวกเจ้า

แล้วซิกซ์ก็นำของบางอย่างออกมามอบให้กับทั้งสอง เป็นตุ๊กตากระต่ายสีชมพูคล้ายๆ กับมายเมโลดี้

ป๊อปเลิฟ: นี่มัน...

ซิกซ์: เป็นตุ๊กตาที่ข้าเก็บมาได้จากในป่า รู้สึกว่าเจ้าตัวนี้จะพลัดหลงกับเจ้าของเดิมน่ะ แต่ตอนนี้ข้าไม่ต้องการมันแล้ว

ป๊อปเลิฟ: งั้นเหรอค่ะ ขอบคุณนะคะ!! (*^_^*) (น่ารักจัง)

แล้วจากนั้นก็ได้เวลาที่ทั้งสองจากลาจากที่นี่ ด้วยการมุดเข้าไปยังประตูที่อยู่ใต้ตู้นาฬิกา

ป๊อปพีช: ลาก่อนนะ!! \^o^/

ป๊อปพีชโบกมืออำลา ก่อนที่จะเข้าไปในประตูนั้น

ซิกซ์: อืม!!

ต่อมาหลังจากที่ทั้งสองเข้ามาด้านในของประตูแล้ว พบว่าภายในเป็นห้องมืดมิดที่มีบันไดเป็นทาง "ลง" อยู่ข้างหน้า

ป๊อปเลิฟ: อ่ะ!! บันไดเป็นทาง "ลง" ล่ะ!? (⊙_⊙)?

ป๊อปพีช: หรือว่าเราจะโดนหลอกซะแล้ว!? (⊙_⊙;)

ป๊อปเลิฟ: ฉันว่าลองเดินลงไปก่อนดีกว่า อาจจะไม่ใช่อย่างที่คิดก็ได้ (เพราะไหนๆ เขาก็ยอมรับสารภาพแล้ว)

และทันทีที่ทั้งสองก้าวลงมาที่บันไดนั้น อยู่ๆ ขั้นบันไดก็ได้เปลี่ยนเป็นรางสไลด์เดอร์ ทำให้ทั้งสองพุ่งตัวลงไปตามรางอย่างรวดเร็ว

ป๊อปเลิฟ/พีช: อ๊าาาาาาา!!!! >﹏<

ทั้งคู่ร้องเสียงหลงราวกับนั่งรถไฟเหาะ

และหลังจากที่สไลด์ตัวมาจนสุดราง ทั้งคู่ก็ได้กลับมายังภายในบ้านที่มีโต๊ะอาหาร ด้วยการพุ่งตัวลงมาจากช่องบนเพดาน

ป๊อปเลิฟ/พีช: โอ้ย!!! >﹏<

ทั้งสองร้องด้วยความเจ็บปวด (ทั้งที่จริงแล้วไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด เพราะอยู่ในร่างป๊อปเปอร์ส) ก่อนที่จะค่อยๆ ลุกขึ้นมา

ป๊อปเลิฟ: กลับมาที่เดิมแล้วล่ะ! O(∩_∩)O

ป๊อปพีช: ฉันคิดถูกแล้วล่ะที่ลงตามมาช่วยเธอ ^_^

ป๊อปเลิฟ: อืม!! ขอบใจนะ ยังไงพวกเราก็ต้องไม่ทิ้งกันจนกว่าจะถึงวันที่ปราบเซได้นะ ^_^

แล้วจากนั้นป๊อปพีชก็สังเกตเห็นสิ่งของบางอย่างอยู่ที่มือของตุ๊กตากระต่าย

ป๊อปพีช: อ่ะ! นี่มัน "เศษลูกแก้วเวทมนตร์" นี่นา!! Σ(⊙o⊙)

ป๊อปเลิฟ: ท่าทางน่าจะติดมากับตุ๊กตาตัวนี้นะ!

ป๊อปพีช: อืม!! ถ้างั้นก็รีบนำมาประกอบกันเถอะ

จากนั้นทั้งสองก็กลับร่างเดิม แล้วเนียมิก็นำเศษลูกแก้วเวทมนตร์ชิ้นที่สองมาใส่ยังร่องที่อยู่บนซิลลี่คีย์



มิมิกับเนียมิ ได้รับสแตมป์ดวงที่ 2 เรียบร้อยแล้ว!!

มิมิ: ในที่สุดก็ได้มาอีกชิ้นแล้วนะ!

เนียมิ: อืม!! ^_^ งั้นตอนนี้พวกเราก็รีบเดินทางกันต่อเลยเถอะ!!

มิมิ: โอ้!! O(∩_∩)O

และแล้วทั้งสองก็ได้เริ่มออกเดินทางกันต่อด้วยการเดินเท้า แล้วที่จุดหมายปลายทางต่อไปจะมีอะไรรอพวกเธออยู่ที่นั่นบ้างนะ?




>>>>> TO BE CONTINUED <<<<<

14 กรกฎาคม 2565

pop'n music RESPECT : STAGE 29 「เสียงแห่งสายลม」

ฮาโหล่♪ เนียมิเองค้า~

หลังจากที่พวกเราได้เดินทางเข้าไปยังพระราชวังของอาณาจักรเทพนิยายด้วยความบังเอิญ...มั้งนะ? ในที่สุด พวกเราก็ได้รับภารกิจใหม่ที่ยิ่งใหญ่มากๆ มาจากเจ้าชายด้วยล่ะ นั่นคือการตามหาชิ้นส่วนของลูกแก้วเวทมนตร์ทั้ง 5 ที่กระจัดกระจายไปตามที่ต่างๆ ในอาณาจักรค่ะ โดยเมื่อรวบรวมได้ครบแล้วจะสามารถคืนพลังให้กับ "ซิลลี่คีย์" (Sealy Key)" กุญแจเวทมนตร์ในตำนานที่ว่ากันว่าเคยใช้ปิดผนึกพลังอันชั่วร้ายมาแล้ว และนับจากนี้ก็คือเรื่องราวการผจญภัยอย่างเต็มรูปแบบของพวกเราในอาณาจักรเทพนิยายแล้วค่ะ!!
ตื่นเต้นจังเลย... `(*>﹏<*)′

--------------------------------------------------------------------------------



STAGE 29
「เสียงแห่งสายลม」

--------------------------------------------------------------------------------

ในวันนี้ มิมิ กับ เนียมิ ได้เดินทางมายังสถานที่ที่มีชื่อว่า "หุบเขา Seveal" ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่จากทั้งหมด 5 แห่งที่บนแผนที่ได้ระบุไว้ว่า "น่าจะ" มีชิ้นส่วนของลูกแก้วเวทมนตร์ซ่อนอยู่ที่นี่

และในระหว่างที่กำลังเดินไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางธรรมชาตินั้น ทั้งสองก็ได้หาอะไรคุยเล่นไปด้วยในระหว่างนั้นเหมือนเคย

เนียมิ: ฮ่าๆ ! รู้สึกโชคดีชะมัดเลย ที่อยู่ๆ ก็ได้ถูกเลือกให้เป็นผู้กล้ามาทำภารกิจยิ่งใหญ่แบบนี้ (*^▽^*)

มิมิ: นั่นสินะ (*^-^*)

เนียมิ: แต่ฉันก็ยังสงสัยอยู่อย่างหนึ่งนะ.. ว่าทำไมท่านไดโนถึงอยากได้ตัวพวกเราให้มาทำภารกิจตามหาชิ้นส่วนลูกแก้วนี้กันนะ? (ลืมถามเจ้าตัวไปเลย เพิ่งมานึกได้ตอนนี้)

มิมิ: อาจจะเป็นเพราะเรื่องที่พวกเราเคยปราบ "Tomstone" หนึ่งในบอสดันเจี้ยนที่เก่งกาจที่สุดของเกาะป๊อปปินก็ได้นะ...? (คิดว่า)

เนียมิ: อืม.. ก็อาจจะใช่ก็ได้นะ เพราะเมื่อคราวที่พวกเราเคยเอาชนะแก็งมาเฟียได้ ก็กลายเป็นข่าวลือที่โด่งดังไปทั่วทั้งเกาะเลย ฉันคิดว่าเรื่องที่พวกเราปราบ Tomstone ได้ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน (แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่เคยได้ยินใครพูดถึงเรื่องนี้เลยนะ)

มิมิ: ว่าแต่พวกเราก็ไม่ได้เห็นเซมาพักใหญ่แล้วนะ

เนียมิ: ก็นั่นสิ ถ้าลองไล่นับดูในแต่ละครั้งที่ผ่านมา พวกเราเคยสู้กับเซมาไม่กี่ครั้งเองนะ ถ้าเป็นในพริตตี้เคียวละก็ พวกเราคงได้สู้เกือบทุกวันแน่ๆ ...

มิมิ: อืม.. ฉันน่ะอยากรู้จริงๆ เลยว่าช่วงที่เซพักจากการต่อสู้ เธอกำลังไปทำอะไรและอยู่ที่ไหนในระหว่างนั้นกันแน่นะ?

เนียมิ: ก็เอาเถอะ ฉันว่าไม่ต้องปรากฏตัวบ่อยๆ แบบนี้ก็ดีแล้วนะ ขื่นมาบ่อยๆ ฉันเองก็ไม่ไหวเหมือนกัน เพราะหลังจากที่กลับร่างเดิมแล้วอยู่ดีๆ ก็เกิดความเหนื่อยขึ้นมาซะเฉยๆ ทั้งที่ตอนแปลงร่างกลับไม่รู้สึกแบบนั้นเลย

มิมิ: แล้ว "ตัวของพวกเราที่อยู่ในอีกโลก" จะมีพลังแปลงร่างได้แบบนี้ด้วยหรือเปล่านะ...?

เนียมิ: เธอยังเชื่อเรื่องนั้นอยู่อีกเหรอ?

มิมิ: ก็...ไม่รู้สิ อยู่ๆ ก็เกิดนึกเรื่องนี้ได้ขึ้นมา...

แล้วทั้งสองก็เดินทางกันต่อไปโดยไม่คุยอะไรเพิ่มอีกหลังจากนั้น โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า เซ กำลังแอบดูพวกเธออยู่บนต้นไม้จากด้านหลัง ก่อนที่เซจะหายตัวไป

--------------------------------------------------------------------------------

ผ่านมาสักพักใหญ่ๆ ทั้งสองก็เดินมาจนถึงบริเวณที่ราบสูงจุดหนึ่งซึ่งเป็นหุบเหว และมีภูเขาโดยรอบ

มิมิ: ฉันว่าน่าจะมาถึงแล้วล่ะ

มิมิกล่าวหลังจากที่ได้เห็นหุบเหวตรงหน้า

แล้วทั้งสองก็สอดส่องบรรยากาศโดยรอบอยู่พักหนึ่งด้วยความตื่นตาตื่นใจ

เนียมิ: สวยงามมากๆ เลยนะ! (*^▽^*)

มิมิ: อืม! อากาศก็สดชื่นมากๆ ด้วยล่ะ! (∩_∩)

เนียมิ: แล้วต่อไป... พวกเราจะไปเริ่มหาเศษลูกแก้วกันที่ไหนก่อนดี?

มิมิ: ฉันว่าลองเดินสำรวจไปเรื่อยๆ ดูดีกว่านะ เพราะตามหลักแล้วยังไงก็ไม่มีทางหาเจอได้ง่ายๆ อยู่แล้วล่ะ

เนียมิ: อืม! นั่นสินะ ถ้าจะหาเศษลูกแก้วทั้งที ต้องสำรวจให้ทั่ว ^_^ (เหมือนได้มาท่องเที่ยวไปในตัวเลย)

แล้วจากนั้นทั้งสองก็มุ่งหน้าเดินทางกันต่อไป ซึ่งเส้นทางที่กำลังเดินไปนั้นคงยังเป็นเส้นทางธรรมชาติที่มีต้นไม้โดยรอบและมีทางเดินที่เป็นพื้นดินทอดยาวไปเรื่อยๆ เช่นเคย แต่ต่างตรงที่เส้นทางนี้เริ่มมีความชันขึ้นมาเล็กน้อยเนื่องจากเป็นพื้นที่หุบเขา

และในระหว่างที่ทั้งสองกำลังเดินไปเรื่อยๆ นั้น ก็มีคนขี่รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งวิ่งสวนพวกเธอไป แต่นั่นมันกลับทำให้เนียมิรู้สึุกประหลาดใจมาก

เนียมิ: มีรถมอเตอร์ไซค์วื่ง... ในที่แบบนี้เนี่ยนะ?!

เนียมิกล่าวหลังจากที่หันหลังไปมองรถมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งผ่านไป

มิมิ: ฉันว่าแถวๆ นี้อาจจะเป็นที่อยู่ของพวกเกษตรกรก็ได้ (ที่พีชทาวน์เองก็มีเหมือนกัน แต่ไม่มาก)

เนียมิ: แต่ว่าตั้งแต่ที่พวกเราเริ่มออกเดินทางกันมา ยังไม่เห็นมียานพาหนะอะไรวิ่งผ่านพวกเราเลยนะ ...เออ จริงสิ! ลองไปถามเขาดูกันไหม?

เนียมินึกเรื่องอะไรที่สำคัญมากออกได้

มิมิ: หมายถึงถามเบาะแสของเศษลูกแก้วเหรอ... อืม! รีบไปหากันเถอะ

แต่ก่อนที่เนียมิจะเริ่มไป มิมิก็นึกอะไรขึ้นได้

มิมิ: แต่ว่าเราจะตามตัวเขาจากที่ไหนกันล่ะ?? (เพราะรถมันวิ่งหายไปแล้ว)

เนียมิใช้เวลาคิดอยู่พักหนึ่ง

เนียมิ: อืมมม..... ถ้าตลอดทางที่เดินมาไม่มีรถอะไรวิ่งเลย.. และตรงจุดลานกว้างหน้าเหว คือจุดเริ่มต้นของเขตหุบเขา Seveal ล่ะก็... ฉันว่าลองกลับไปที่หน้าเหวตรงนั้นกันไหม? เขาอาจจะไปทำอะไรที่นั่นก็ได้

มิมิ: อืม!

แล้วทั้งสองจึงเดินกลับมายังจุดลานกว้างที่อยู่หน้าหุบเหวอีกครั้ง ก็พบกับรถมอเตอร์ไซค์คันเดียวกับที่วิ่งผ่านไปเมื่อสักครู่ และมนุษย์ผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเขาผู้นั้นกำลังนั่งชมทิวทัศน์ของหุบเหวที่อยู่ตรงหน้า

ทั้งสองตัดสินใจยืนจ้องดูท่าทีของเขาอยู่พักหนึ่ง เพราะยังรู้สึกเกรงใจหากเข้าไปทักเขาในจังหวะนี้ จากนั้นสักพักเขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยแววตาเศร้าๆ ราวกับมีเรื่องกลุ้มใจอะไรบางอย่าง

มิมิ: มีเรื่องกลุ้มใจอะไรอยู่หรือเปล่าค่ะ?

มิมิทักไป แล้วเขาก็หันมามอง มิมิ เนียมิ ด้วยท่าทางแปลกใจเล็กน้อย เพราะไม่เคยเห็นคนที่ใส่ชุดแปลกๆ แบบนี้มาก่อน

"หืม? พวกเธอเป็นใครกัน?"

มิมิ: พวกเราเป็นผู้กล้าค่ะ

"ผู้กล้า... งั้นเหรอ??"

เนียมิ: อืม!! พวกเรามาตามหา ชิ้นส่วนลูกแก้วของซิลลี่คีย์ กันน่ะ คุณพอจะรู้จักบ้างไหม?

"เออ... ซิลลี่คีย์เหรอ ฉันก็เคยได้ยินตำนานของมันมาอยู่เหมือนกันนะ แต่ว่าชิ้นส่วนลูกแก้วที่พวกเธอพูดถึง ฉันไม่รู้หรอกว่ามันอยู่ที่ไหน"

แล้วจากนั้นเขาก็เกิดรู้สึกเอะใจบางอย่าง

"เอ๊!? "ชิ้นส่วนลูกแก้ว→ของซิลลี่คีย์" งั้นเหรอ... หรือว่าพวกเธอจะ..."

จากนั้นมิมิก็ยื่นมือออกไปข้างหน้า แล้วซิลลี่คีย์ก็ปรากฎออกมาในมือ

มิมิ: ใช่แล้วล่ะ พวกเราได้รับภารกิจจากพระราชโอรสแห่งดินแดนเทพนิยายให้มารวบรวมชิ้นส่วนลูกแก้วทั้ง 5 เพื่อทำให้ซิลลี่คีย์กลับคืนสู่สภาพสมบูรณ์อีกครั้ง

"โห้!! จริงเหรอเนี่ย!? (⊙ˍ⊙lll) แต่แค่ได้เห็นซิลลี่คีย์ที่เธอเรียกออกมานั่น ฉันก็เชื่อแล้วล่ะว่าพวกเธอเป็นผู้กล้าจริงๆ !! (เพราะมีเพียงเฉพาะผู้ที่ถูกเลือกจากพระราชโอรสเท่านั้นที่จะเป็นผู้กล้าได้)"

เนียมิพลางเกาหัวด้วยสีหน้าเขินอาย เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนชม(พวก)เธอแบบนี้

"จริงสิ ไหนๆ ก็ได้เจอกับพวกเธอแล้ว ฉันมีเรื่องที่อยากจะขอร้องให้พวกเธอช่วยหน่อยน่ะ"

เนียมิ: เรื่องอะไรเหรอ ว่ามาได้เลย พวกเราพร้อมช่วยอยู่แล้ว (^_<)☆

"คือว่า... ฉันกำลังตามหา... "เสียงแห่งสายลม" อยู่น่ะ"

มิมิ: เสียงแห่งสายลม?? มันคืออะไรงั้นเหรอ??

"ก็ไม่เชิงว่าเป็นไอเทมวิเศษอะไรหรอกนะ แต่มันเป็นเสียงกระซิบจากสายลมที่คล้ายกับเสียงร้องเพลงของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความไพเราะมากๆ ซึ่งว่ากันว่า จะได้ยินก็ต่อเมื่อ "ตะโกนถามถึงอะไรสักอย่าง" ผ่านหุบเขาที่อยู่ตรงหน้านี้ไง"

เขาชี้นิ้วไปทางหน้าผาที่อยู่ตรงหน้า

มิมิ: เอ๊?! หรือเมื่อกี้นี้คุณกำลัง...?

"ใช่ ฉันกำลังรอฟังเสียงที่ว่าอยู่น่ะ แต่ว่า ก็ไม่ได้ยินเลย..."

เนียมิ: แล้วเสียงกระซิบที่ว่ามันมีความพิเศษยังไงเหรอ ทำไมคุณถึงอยากจะได้ยินเสียงนั้นให้ได้ล่ะ??

"ฉันกำลังตามหา "บางสิ่งที่ขาดหายไป" อยู่่น่ะ"

มิมิ/เนียมิ: เอ๊!?

ทั้งสองสงสัยในคำพูดของเขา

"ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจกับตัวเองเท่าไหร่ แต่มันรู้สึกเหมือนฉันกำลังมีความทรงจำบางอย่างที่เลือนหายไปจากฉันน่ะ ...บางทีเสียงนั้นอาจจะเป็น "สิ่งที่เลือนหายไป" จากอดีตก็เป็นได้"

เนียมิ: ถ้างั้นเดี๋ยวฉันจะช่วยให้คุณได้พบกับความทรงจำที่หายไปเอง! (^_<)☆

มิมิ: แล้วเรื่องที่จะต้องตะโกนถามกับสายลม... ต้ิองเป็นคำถามในเรื่องใดเหรอค่ะ?

"อืม... ก็เป็นคำถามอะไรก็ได้ที่เรารู้สึกว่าอยากจะปรารถนามากที่สุดน่ะ"

เนียมิ: อ๋อ ก็คล้ายๆ กับการขอพรสินะ

"ก็คงจะอย่างนั้นแหละ ^^;"

มิมิ: งั้นเดี๋ยวฉันจะลองเริ่มก่อนนะ!

มิมิหลับตาลงเพื่อนึกคำถาม

แต่ในทันใดนั้น เธอก็เกิดนึกถึงหนึ่งใน "คนที่เธอแอบชอบ" ขึ้นมา ซึ่งเขาผู้นั้นคือ "นักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร" ผู้ซึ่งจากไปก่อนหน้าที่เธอจะเดินทางมายังเกาะป๊อปปินได้เพียงไม่กี่อาทิตย์ และสาเหตุที่เธอนึกถึงคนนั้น เพราะเขาเคยให้คำมั่นสัญญาไว้กับเธอก่อนจากไปว่า "จะกลับมาหาเธอให้ได้ในสักวันหนึ่งแน่นอน"

เธอพยายามหยุดคิดถึงเรื่องนั้น แล้วเปลี่ยนไปคิดถึงเรื่องอื่นแทน และสิ่งที่เธออยากจะถามก็คือ...?

มิมิ: \ "มีร้านซานริโอ้กิ๊ฟเกทอยู่แถวนี้บางไหมมมมมมมมมมมมมมมมม......!!!???" /

มิมิตะโกนออกไปยังทางหน้าผาอย่างสุดเสียง แต่คำถามนี้ทำให้เนียมิถึงกับอึ้งไปเลย

เสียงดังก้องกังวานไปทั่วภูเขา แต่เมื่อผ่านไปเกือบ 1 นาที ก็ไม่มีเสียงอะไรตอบรับกลับมาเลย...

"ฉันว่าคงไม่ได้ยินคำตอบกลับแล้วล่ะ"

มิมิ: ก็นั่นสินะ ( ̄﹏ ̄;) (แถวนี้จะไปมีร้านซานริโอ้ได้ยังไงกัน)

เนียมิ: งั้นตาฉันบางล่ะ!

เนียมิสูดหายใจลึก ก่อนที่จะเริ่มตะโกนออกมา

เนียมิ: \ "ไทม์เมอร์คุงอยู่ที่ไหนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน......!!!???" /

เนียมิตะโกนออกไปยังทางหน้าผาอย่างสุดเสียง ด้วยสีหน้าแดงฉานราวกับเขินอะไรอยู่

แต่เมื่อผ่านไปอีก 1 นาที ก็ไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมาอีกเช่นกัน

เนียมิ: ล้มเหลวงั้นเหรอเนี่ย...  (*////▽////*)

เนียมิยังคงหน้าแดงไม่หาย ส่วนมิมิก็แอบหัวเราะออกมาเบาๆ

จากนั้นไม่นานมิมิก็เหมือนจะนึกอะไรออกได้

มิมิ: อ่อ! จริงสิ แล้วเสียงที่คุณได้ยินเมื่อตอนนั้นมันเป็นเสียงแบบไหนเหรอ แล้วเขาตอบกลับมาว่ายังไง พอจะจำได้ไหม?

"มันเป็นเสียงที่คล้ายกับ เสียงร้องเพลงน่ะ ฉันก็ฟังไม่ค่อยออกเท่าไหร่ว่าเนื้อร้องมันเป็นยังไง รู้แต่ว่าพอฉันได้ยิงเสียงที่ว่านี้แล้วมันเหมือนค่อยๆ กระตุ้นความทรงจำที่คุ้นเคยให้กลับมาอีกครั้ง ...บางทีถ้าฉันสามารถแกะเนื้อเพลงนั่นออกได้ อาจจะพอรู้อะไรเกี่ยวกับความทรงจำที่หายไปก็เป็นได้"

แล้วทั้งสองก็หันมามองหน้ากันชั่วครู่ เพื่อจะปรึกษาอะไรบางอย่างกับภารกิจนี้

มิมิ: ถ้าตะโกนถามไปมั่วๆ ไม่ได้ผล ก็คงต้องลองหา "คำตอบที่ถูกต้อง" ให้เจอ??

"เอาเถอะ ฉันว่าพวกเราล้มเลิกความพยายามแค่นี้ดีกว่า ถ้าตะโกนไปแล้วไม่ได้คำตอบ ถึงจะให้ตะโกนอีกกี่ครั้งมันก็ยังไม่มีเสียงตอบรับอยู่ดีนั่นแหละ เพราะฉะนั้น... ฉันไปล่ะ และก็ขอบคุณสำหรับคำขอร้องนะ"

แล้วเขาก็เดินหันหลังกลับเพื่อที่จะไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์

มิมิ: เดี๋ยวก่อนสิค่ะ!! อย่าเพิ่งยอมแพ้ง่ายๆ แบบนี้สิ!!

มิมิเดินเข้ามาขวางหน้าเขา

"แต่ว่า..."

เนียมิ: ใช่!! ถ้าหากเสียงกระซิบนั่นต้องการจะบอกอะไรกับคุณละก็ ฉันว่าคงจะต้องมีวิธีอะไรสักอย่างที่ทำให้ได้ยินเสียงนั้นอีกครั้งแน่ๆ

"แต่ว่าเสียงแห่งสายลมนั่นมันเป็นเพียงแค่เรื่องเล่าในตำนานเท่านั้นนะ เท่าที่ได้ยินมา ก็ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้อยู่ดีว่ามันเป็นเรื่องจริงไหม"

เนียมิ: แต่ถ้าคุณเคยได้ยินมันมาแล้วครั้งหนึ่ง ก็เท่ากับว่ามันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงแล้วสิ!

มิมิ: อืม!! ถ้าหากเสียงแห่งสายลมนั่นมีตัวตนอยู่จริงล่ะก็ ฉันพอจะมีวิธีอะไรดีๆ ได้แล้วล่ะ

แล้วเขาก็ถอนหายใจออกมา ก่อนที่จะกล่าว

"เฮอ.. ช่วยไม่ได้นะ ...แล้ววิธีที่ว่ามันเป็นยังไงเหรอ?"

เขาล้มเลิกการยอมแพ้ แล้วตั้งใจกลับมาถามทั้งสอง

มิมิ: เออ... คุณพอจะจำคำถามที่ตะโกนออกไปในตอนนั้นได้ไหม?

เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะตอบ

"ฉันจำไม่ได้แล้วล่ะ"

แล้วทั้งสองก็ล้มลงกองกับพื้นในทันที

เนียมิ: โธ่... จำคำถามตัวเองไม่ได้หรอกเหรอ ( ̄_ ̄|||)

มิมิ: ฉันคิดว่า "คำตอบ" ของคำถามนั่น... ต้องเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของใครสักคนระหว่างคุณแน่ๆ เลยล่ะ ...คุณพอจะมีคนรู้จักที่สนิทมากๆ บางไหม?

แล้วในทันใดนั้น คำถามของมิมิก็เหมือนไปกระตุ้นให้เขานึกอะไรบางอย่างออกมาได้

"Σ( °_°) เหมือนจะใช่นะ แต่ฉันจำมันไม่ได้แล้วจริงๆ ..."

เนียมิ: เออ.. ขอโทษนะ ฉันขอถามอะไรนิดนึง ...คุณเป็นโรคความจำเสื่อมหรือเปล่าเนี่ย??

"ความจำฉันดีปกติทุกอย่างเลยล่ะ ยกเว้นก็เพียงแค่ "เรื่องนี้เรื่องเดียว" ที่จำไม่ได้เนี่ยแหละ..."

แล้วทั้งสองก็หันมามองหน้ากันชั่วครู่อีกครั้ง เพื่อจะปรึกษาอะไรบางอย่าง

"เอ่อ! จริงสิ ฉันมีที่ดีๆ อยู่ที่นึงนะ พวกเธอจะลองไปกับฉันไหม?"

มิมิ: เอ๊?? จะไปที่ไหนเหรอคะ?

"เป็นน้ำตกที่อยู่ใกล้ๆ กับแถวนี้แหละ พอฉันรู้สึกกลุ้มใจอะไรก็จะไปที่นั่นเพื่อผ่อนคลายจิตใจน่ะ บางทีมันอาจจะช่วยให้พวกเธอมีไอเดียอะไรดีๆ ก็ได้"

มิมิ: ได้สิ! งั้นก็ไปกันเลย!! O(∩_∩)O

เนียมิ: นั่นสิ แล้วคุณชื่ออะไรล่ะ? ยังไม่ได้แนะนำตัวกับพวกเราเลยนะ

"ฉันชื่อ "บาราม" (Baram) น่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ (^_<)☆"

--------------------------------------------------------------------------------

แล้วเขาก็นำทางทั้งสองไปยังพื้นที่น้ำตกแห่งหนึ่งที่อยู่ใจกลางของป่า

ลักษณะสถานที่เป็นน้ำตกที่มีความสูงพอควร บริเวนด้านล่างของน้ำตกเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่มีหินเล็กงอกอยู่ตรงจุดกลางของบ่อพอดี และน้ำตกมีเสียงค่อนข้างดังพอควร

มิมิ: ว้าว!! สวมงามมากเลยล่ะ!! (*°▽°*)

เนียมิ: แต่เสียงของน้ำตกดังมาก จนต้องตะโกนพูดกันเลยล่ะ ถึงจะได้ยิน `(*>﹏<*)′

แล้วทั้งสองก็ชื่นชมความงดงามของธรรมชาติโดยรอบอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะมาสังเกตเห็นหินงอกเดี่ยวๆ ที่อยู่ตรงกลางของบ่อน้ำ

เนียมิ: หืม...? โคนหินที่อยู่ตรงกลางบ่อนั่น ฉันรู้สึกว่ามันดูน่าสงสัยนะ?

มิมิ: ทำไมล่ะ??

เนียมิ: ก็ดูบนพื้นน้ำตรงแถวนั้นสิ

แล้วมิมิก็จ้องมองไปยังบนผิวน้ำที่อยู่บนบริเวนรอบหินงอก ก็พบเห็นภาพลางๆ บางอย่างอยู่บนผิวน้ำนั้น

มิมิ: เอ๊?? เหมือนมีเงาอะไรแปลกๆ อยู่ตรงนั้นด้วยจริงๆ !! (⊙o⊙)

แล้วจากนั้นเนียมิก็หยิบหินก้อนเล็กๆ ที่อยู่บนพื้นข้างๆ เธอ มาขว้างไปยังหินงอกที่อยู่ตรงกลางบ่อ

หินที่ขว้างออกไปได้ตกลงไปยังผิวน้ำที่อยู่ด้านหน้าของหินงอก แล้วในทันใดนั้นเอง ก็เกิดปรากฏการณ์ประหลาดขึ้นที่ผิวน้ำตรงจุดที่หินก้อนเล็กได้จมลงไป

บนพื้นผิวน้ำตรงจุดนั้น ได้เกิดภาพของเงาบางอย่างขึ้นมาลางๆ ซึ่งเนียมิก็สังเกตเห็นในเวลาต่อมา

เนียมิ: Σ( °_°) มิมิจัง ดูตรงนั้นสิ มีเงาอะไรก็ไม่รู้ขึ้นมาบนผิวน้ำด้วย

เนียมิเรียกมิมิให้มาดูตรงจุดนั้น แล้วจากนั้นเงาก็ค่อยๆ ปรากฏเป็นภาพของหน้าผู้หญิงออกมาให้เห็นลางๆ

"เจ้ากำลังตามหาคำตอบของสายลมอยู่ใช่ไหม?"

อยู่ๆ ก็มีเสียงประหลาดดังขึ้นมาจะทางไหนไม่รู้ ทำให้ทั้งสองสะดุ้งทันที

"เจ้าต้องไปที่ "หอสมุดลอยฟ้า" แล้วเจ้าจะพบกับคำตอบเอง"

เสียงประหลาดของผู้หญิงดังขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่เงาบนผิวน้ำจะหายไป

เนียมิ: มิมิจัง เมื่อกี้เธอได้ยินอะไรมั้ย?

มิมิ: ได้ยินสิ!

บาราม: "หอสมุดลอยฟ้า" งั้นเหรอ!?

บารามอุทานด้วยสีหน้าตกใจ

เนียมิ: มีอะไรเหรอ?

บาราม: ดูเหมือนว่าฉันพอจะเริ่มจำอะไรขึ้นมาบ้างได้แล้วล่ะ!

มิมิ: เฮ๊? จริงเหรอคะ?

บาราม: อืม!! แต่ว่าฉันก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่า "สิ่งที่กำลังตามหาอยู่" มันคืออะไร

มิมิ: งั้นก็ไปยังหอสมุดลอยฟ้ากันเลยสิคะ!!

บาราม: โอเค!! *^____^*

เนียมิ: แต่ว่า.. เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นกันน่ะ??

เนียมิยังคงสงสัยกับเสียงประหลาดเมื่อครู่นี้

บาราม: อ่อ! บ่อน้ำใต้น้ำตกแห่งนี้เป็นบ่อวิเศษที่ว่ากันว่ามีภูตสถิตอยู่ เออ... แต่เรื่องของเสียงประหลาดนั่น ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันคืออะไร แต่น่าจะเป็นเสียงของภูตที่สถิตอยู่ที่นี่นั่นแหละ! (ฉันก็เคยเพิ่งได้ยินตอนนี้แหละ!)

เนียมิ: งั้น..!! แสดงว่าเสียงที่ได้ยินเมื่อกี้ คงมีความเกี่ยวข้องอะไรกับเสียงประหลาดที่คุณเคยได้ยินสินะ?

บาราม: น่าจะเป็นอย่างนั้นแหละ!!

เนียมิ: งั้นพวกเราก็รีบไปที่หอสมุดลอยฟ้ากันเถอะ!!

--------------------------------------------------------------------------------

แล้วทั้งหมดก็เดินทางไปยัง "หอสมุดลอยฟ้า" ที่อยู่บนหุบเขา Seveal แห่งนี้

บาราม: ที่นี่แหละหอสมุดลอยฟ้า

มิมิ/เนียมิ: โห้!!

ทั้งสองมองดูสิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตื่นเต้น โดยหอสมุดลอยฟ้าเป็นลักษณะอาคารทรงลูกบอลลูนที่ลอยอยู่กลางอากาศ

เนียมิ: แล้วเราจะขึ้นไปบนนั้นได้ยังไง

บาราม: เออ.. ฉันก็ไม่ค่อยได้มาที่นี่เท่าไหร่หรอกนะ แต่การจะขึ้นไปได้ พวกเราต้อง "โหนสลิง" ขึ้นไปน่ะ

บารามชี้ไปยังด้านใต้ของอาคารทรงบอลลูน ซึ่งมีเชือกสลิงห้อยลงมาอยู่หลายเส้น

มิมิ: อย่างนี้เอง งั้นเราก็รีบขึ้นไปกันเลยเถอะ

แล้วทั้งหมดก็เดินไปยังด้านใต้ของอาคารทรงบอลลูน เพื่อโหนสลิงขึ้นไปยังหอสมุดลอยฟ้า โดยทันทีที่ทั้งหมดขึ้นไปจับเชือกที่ห้อยอยู่ สลิงก็ค่อยๆ ดึงขึ้นไปเอง

แล้วทั้งหมดก็ขึ้นมาจนถึงภายในของหอสมุดลอยฟ้า ซึ่งภายในมีหนังสือต่างๆ เรียงรายอยู่บนชั้นวางหนังสือที่อยู่โดยรอบของห้องเต็มไปหมด ทำให้ดูอลังการด้วยเช่นกัน

มิมิ: โห้!! มีหนังสือเต็มไปหมดเลย!! (⊙o⊙)

บาราม: ดูเหมือนว่าเราจะต้องหาคำตอบจากหนึ่งในหนังสือที่อยู่ที่นี่นะ

เนียมิ: แล้วเราจะต้องหาจากหนังสือเล่มไหนล่ะ??

บาราม: อืม... ลองหาไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน

มิมิ: แต่ว่าที่นี่มีหนังสือเยอะมากเลยนะ ให้ไล่หาดูไปเรื่อยๆ แบบนี้ ไม่มีทางหาหมดได้ภายในวันเดียวแน่ๆ

แล้วเนียมิก็กวาดสายตามองหาหนังสือที่อยู่โดยรอบของห้อง ก่อนที่จะโหนตัวเข้าไปหาชั้นหนังสือที่อยู่ด้านหนึ่งของห้อง

เนียมิค่อยๆ ไล่ดูหนังสือเล่มต่างๆ ที่อยู่บริเวณนั้น พบว่าหนังสือส่วนใหญ่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเวทมนตร์แทบจะทั้งหมด

เนียมิ: มีแต่หนังสือเกี่ยวกับวิชาอาคมเต็มไปหมดเลยแฮะ แล้วเล่มที่เกี่ยวข้องกับ "เสียงแห่งสายลม" มันคือเล่มไหนกัน?

ในระหว่างที่เธอเลือกหาไปเรื่อยๆ เธอก็มาสะดุดตากับหนังสือเล่มหนึ่ง ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับ "บทเพลงเวทมนตร์"

เธอจึงหยิบมันขึ้นมาเปิดอ่านดู ก็พบว่าภายในมีเนื้อร้องของเพลงๆ หนึ่งอยู่ด้วย ซึ่งภายในเนื้อร้องมีเนื้อหาเกี่ยวกับการเรียกหาใครสักคนผ่านหุบเขาและสายลม

เนียมิ: เอ๊!? นี่มัน... Σ(⊙o⊙)

เมื่ออ่านเสร็จแล้ว เธอจึงตะโกนเรียกทันที

เนียมิ: นี่!! ดูเหมือนว่าฉันจะหาหนังสือที่เกี่ยวกับ "เสียงแห่งสายลม" เจอแล้วล่ะ!!

แล้วจากนั้นเนียมิจึงนำหนังสือเล่มดังกล่าวมาให้บารามอ่านดู เขาก็ถึงกับอึ้งในทันที

บาราม: นี่มัน... มันเหมือนกับ... เนื้อเพลงที่ฉันเคยได้ยินเมื่อตอนนั้นเลย!!

มิมิ/เนียมิ: เอ๊!? จริงเหรอค่ะ!?

บาราม: อืม!! ฉันก็จำเนื้อร้องของมันได้ไม่หมดนะ แต่เนื้อร้องที่เคยได้ยินรู้สึกจะมีเนื้อหาประมาณนี้แหละ!!

มิมิ: แล้ว..!! ถ้าเราลองใช้เนื้อร้องในนี้เป็น คำถามตะโกนที่หน้าหุบเขา เราก็อาจจะได้ยินเสียงแห่งสายลมสินะ??

บาราม: อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ ตอนนี้พวกเรารีบกลับไปลองกันดูเลยเถอะ!!

มิมิ/เนียมิ: โอ้!!

"ในที่สุด ก็หาเจอแล้วสินะ"

ก่อนที่ทั้งหมดจะโหนสลิงออกจากหอสมุดไป อยู่ๆ ก็มีเสียงเรียกของผู้หญิงดังขึ้นมาจากทางด้านบนของห้อง ทำให้บาราถึงกับสะดุ้ง เพราะเสียงที่เขาได้ยินนั้น เป็นเสียงที่ฟังดูคุ้นเคยมาก แล้วทั้งหมดจึงหันขึ้นไปมองดูทันที

แล้วจากนั้นที่ด้านบนของห้องก็ปรากฏแสงประหลาดออกมา พร้อมกับเงาของคนๆ หนึ่งที่ค่อยๆ ลอยลงมาหาพวกเขา

ทั้งสามจ้องมองสิ่งที่อยู่เบื้องบนด้วยความตกตะลึงแทบไม่วางสายตา

และในที่สุด แสงสว่างก็ค่อยๆ เลือนหายไป ทำให้เงาของบุคคลที่ลอยลงมาค่อยๆ ปรากฏให้เห็นถึงรูปร่างที่แท้จริง ซึ่งผู้นั้นเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีสีผิวออกเทาคล้ายกับบาราม

"ยินดีต้อนรับสู่หอสมุดลอยฟ้า และก็... ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ"

บาราม: อลินี่ (Alinie)...

มิมิ/เนียมิ: เอ๊...?

ทั้งสองรู้สึกแปลกใจที่บารามรู้จักอลินี่ ส่วนอลินี่ก็พลางยิ้มออกมาเล็กน้อย

บาราม: อลินี่ เธอมาอยู่ที่นี่เองเหรอ...

อลินี่: ใช่แล้วล่ะ...

มิมิ: หรือว่าความทรงจำอันแสนลึกลับของบารามที่กำลังตามหาอยู่ก็คือ...?

เนียมิ: อลินี่เองเหรอ...?

บาราม: ถูกต้องแล้วล่ะ นี่แหละ คือสิ่งที่ฉันกำลังตามหาอยู่มาโดยตลอดยังไงล่ะ! (^_<)

มิมิ: ว้าว!! (@^0^@) ยินดีด้วยนะที่ตามหาสิ่งที่ลืมเลือนหายไปเจอได้แล้ว ว่าแต่ เธอผู้นี้เป็นอะไรกับคุณงั้นเหรอ?

อลินี่: เขาเป็น... คนที่ฉันชอบที่สุดเอง

อลินี่ตอบแทนบาราม

มิมิ/เนียมิ: เอ๋?! อลินี่กับบารามเป็นแฟนกันงั้นเหรอ??

ทั้งสองอุทานออกมาด้วยความตกตะลึง

บาราม: ก็ไม่เชิงหรอกนะ จะให้เรียกอีกอย่างก็น่าจะเป็นเหมือนกับ "ลูกพี่ลูกน้อง" เห็นจะได้...

มิมิ: หมายความว่ายังไง?

อลินี่: ตอนเด็กๆ ฉันชอบมาเล่นด้วยกันกับเขาบ่อยมากเลยล่ะ และเขาก็ชอบมายืมหนังสือจากหอสมุดแห่งนี้ไปอ่านอยู่เป็นประจำอีกด้วย ...เออ เขาชอบอ่านเกี่ยวกับพวกเรื่องตำนาน และเวทมนตร์น่ะ

มิมิ: อ๋อ เข้าใจแล้ว เพราะอย่างนี้ก็เลยสนิทกันจนรู้สึกเหมือนเป็นลูกพี่ลูกน้องสินะคะ

บาราม: อืม!! ^_^ เธอเป็นบรรณารักษ์ที่ทั้งเก่งและก็น่ารักมากเลยล่ะ!!

เนียมิ: เอ๊!? เดี๋ยวนะ.. แล้วเรื่อง "เสียงแห่งสายลม" ที่เคยพูดถึงล่ะ?? หรือว่า... เสียงร้องเพลงที่บารามได้ยินตอนนั้นก็คือเสียงของอลินี่เอง?

อลินี่: ใช่แล้วจ๊ะ นั่นคือเสียงร้องเพลงของฉันเอง

บาราม/มิมิ/เนียมิ: เอ๋?! Σ(⊙o⊙)

ทั้งสามอุทานออกมาด้วยความตกตะลึง

อลินี่: ฉันชอบบทเพลงเวทมนตร์มากเลยล่ะ มันเป็นบทเพลงวิเศษที่เมื่อได้ร้องมันแล้ว จะสามารถส่งความรู้สึกต่างๆ ที่อยูู่ภายในเนื้อเพลงนั้นไปยัง "ผู้ที่ต้องการได้ยิน" ได้โดยตรงยังไงล่ะ

แล้วเนียมิก็ยกหนังสือบทเพลงเวทมนตร์ขึ้นมาเปิดดูเนื้อเพลงที่อยู่ด้านในอีกครั้ง

เนียมิ: งั้น... เรื่องของตำนานเสียงแห่งสายลม ก็เป็นเพียงแค่เรื่องที่สร้างขึ้นมาเอง... ด้วยเวทมนตร์งั้นสินะ

อลินี่: ไม่หรอก "เสียงแห่งสายลม" เป็นตำนานเล่าขานที่มีอยู่จริง

มิมิ/เนียมิ: เอ๊?

อลินี่: หากผู้ใดก็ตามที่ได้ร้องเพลงถามถึงสิ่งที่ตนเองรัก ตรงหน้าของหุบเหว ผู้นั้นจะได้พบกับสิ่งสมหวังที่กลายเป็นความจริง

แล้วเนียมิก็มองดูเนื้อหาภายในหนังสืออีกครั้ง

เนียมิ: จริงด้วย! แสดงว่าบทเพลงนี้ เป็นเพลงที่แต่งขึ้นเพื่อใช้ร้องตรงหน้าหุบเหวนั่นสินะ

อลินี่: ถูกต้องแล้วล่ะ!! ^_^

มิมิ: แล้วเรื่องที่บารามสูญเสียความทรงจำเกี่ยวกับอลินี่ไปล่ะ?

"ฉันเป็นคนทำมันเอง!"

อยู่ๆ ก็มีเสียงของผู้หญิงที่คุ้นหูดังขึ้นมาจากทางไหนไม่ทราบ มิมิกับเนียมิ จึงเริ่มระวังตัว

แล้วจากนั้นก็มีร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่ขี่สัตว์ประหลาดสีดำ-ม่วงรูปร่างคล้ายกับนกบินขึ้นมาจากด้านล่าง มาหาพวกเนียมิ ซึ่งเธอผู้นั้นก็คือ Sec นั่นเอง!!

[เพลงประกอบ BlackCat / BEXTER]

มิมิ/เนียมิ: เซ!!! Σ( °Д°)

เซ: ฮ่าๆๆ ได้ลองใช้พลังใหม่ มาเปลี่ยนแปลงความทรงจำของผู้อื่นนี่ก็สนุกดีเหมือนกันนะ ฮ่าๆๆ ♪(^∇^*)

มิมิ: "พลังใหม่" งั้นเหรอ!?

เซ: ใช่แล้ว!! ฉันได้อัปพลังใหม่มาจากลูกแก้วเวทมนตร์ของเจ้ากุญแจที่พวกเธอกำลังครอบครองอยู่นี้เองแหละ!

เนียมิ: หรือว่า...! คนทื่มาลอบขโมยลูกแก้วไปจากปราสาท ก็คือเธอเองสินะ?!

เซ: ยิ่งถามก็ยิ่งถูกเข้าไปใหญ่เลยล่ะ ฉันนี่แหละเป็นคนที่ขโมยลูกแก้วจากกุญแจนั่นไปเอง!! ฉันพยายามเรียกพลังจากลูกแก้วเพื่อให้มาพาวเวอร์อัปกันฉัน แต่ว่าตัวลูกแก้วดันเกิดปฏิเสธการตอบรับการพาวเวอร์อัปและได้แตกตัวเองออก แล้วชิ้นส่วนของลูกแก้วก็กระจายลอยออกหายไปกับอากาศ ...แต่ว่าฉันก็ยังคงได้รับพลังจากลูกแก้วมาบางส่วนอยู่ดี ฉันก็เลยลองใช้เจ้านี้เป็นหนูทดลองยังไงล่ะ!! ฮ่าๆๆ ♪(^∇^*)

มิมิ: เนียมิจัง!!

มิมิหันมาทางเนียมิด้วยสายตาจริงจัง

เนียมิ: อืม!!

เนียมิพยักหน้าตกลง

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ยกแขนข้างที่สวมกำไลแปลงร่างขึ้นมา แล้วตะโกนว่า

มิมิ/เนียมิ: "ป๊อปปินแปลงร่าง!!"

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็แปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์ส

แต่เมื่อหลังจบบทแปลงร่างแล้ว ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะลืมตัวนึกว่ากำลังยืนอยู่บนพื้น ทำให้ทั้งสองจึงรีบหาทางเกาะเชือกสลิงไว้ และเมื่อจับไว้ได้แล้วทั้งสองก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เซ: ฮ่าๆๆ (@^0^@) สถานที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่งจริงๆ !! คราวนี้ฉันจะไม่ออมมือให้แน่!!

แล้วจากนั้นเซก็เริ่มโจมตีทั้งสองด้วยสัตว์ประหลาดที่ขี่อยู่ สัตว์ประหลาดปล่อยคลื่นพลังสีดำออกมาจากปาก

ทั้งสองกระโดดหนีไปเกาะเชือกเส้นอื่นได้อย่างทันควัน

อลินี่: นี่มันอะไรกันน่ะ??

อลินี่เริ่มเสียสติ

ป๊อปพีช: พวกคุณรีบไปหาที่ปลอดภัยก่อน เดี๋ยวพวกเราจัดการทางนี้เอง!!

บาราม: อะ อืม!!

แล้วบารามก็ตัดสินใจโหนตัวลงไปยังพื้นล่าง ส่วนอลินี่ก็โหนกลับขึ้นไปข้างบน

สัตว์ประหลาดหันมาโจมตีป๊อปเปอร์สอย่างต่อเนื่อง โดยที่ทั้งสองไม่มีโอกาสโจมตีกลับได้เลย เพราะเมื่อพยายามกระโดดเข้าไปหาสัตว์ประหลาดสักกี่ครั้ง สัตว์ประหลาดก็สามารถพุ่งตัวหลบได้ตลอด

ป๊อปเลิฟ: หนอย... พวกเราบินไม่ได้ซะด้วย ก็เลยทำอะไรมันไม่ได้ซักกะอย่าง!!

เซ: ฮ่าๆๆ (@^0^@) เห็นหรือยัง นี่คือพลังที่ฉันพาวเวอร์อัปมาได้ยังไงล่ะ!! ฮ่าๆๆ ♪(^∇^*)

แล้วจากนั้นป๊อปพีชก็พยายามมองหาสิ่งรอบตัวที่น่าจะนำมาใช้โจมตีสัตว์ประหลาดได้ แล้วจากนั้นเธอก็เห็นสิ่งหนึ่งที่น่าจะใช้ได้ ซึ่งอยู่ที่ยอดเพดานของหอสมุด มันคือกลไกเฟืองที่ใช้ขับเคลื่อนสายสลิงเส้นต่างๆ

ป๊อปพีช: ป๊อปเลิฟ!! เธอช่วยขึ้นไปหมุนเฟืองที่อยู่บนนั้นให้ที!! ฉันจะลองเอาสลิงพวกนี้มาใช้กับสัตว์ประหลาดดู

ป๊อปเลิฟ: ได้เลย!!

แล้วป๊อปเลิฟก็โผนขึ้นไปด้านบนอย่างรวดเร็ว เพื่อไปหมุนกลไกควบคุมสลิงที่อยู่บนนั้น

และหลังจากที่หมุนกลไกแล้ว ก็มีเชือกสลิงห้อยลงมาเป็นจำนวนมาก แล้วป๊อปพีชก็กระโจนไปโดยรอบเพื่อพยายามนำสลิงเส้นต่างๆ มามัดเข้ากับสัตว์ประหลาด

และหลังจากที่มัดเสร็จเรียบร้อยจนสัตว์ประหลาดขยับตัวไม่ได้แล้ว

ป๊อปพีช: สำเร็จ...?

สักพักสัตว์ประหลาดก็ทะลายเชือกทั้งหมดจนหลุดออกจากพันธนาการได้

ป๊อปพีช: เอ๋...!? ( ̄_ ̄|||)

เซ: ฮ่าๆๆ (@^0^@) สุดยอดไปเลยจริงๆ พลังใหม่ของข้า!! ...เอาล่ะ ลองรับนี่ไปซะ!!

แล้วจากนั้นสัตว์ประหลาดก็อ้าปากออกเพื่อชาร์ตพลังบางอย่าง ก่อนที่จะปล่อยลูกพลังสีดำขนาดใหญ่ออกมาจากปาก

ลูกบอลพลังได้พุ่งเข้าใส่ร่างของป๊อปพีชเข้าอย่างจัง ทำให้เธอลอยกระเด็นไปติดกับตู้หนังสือซึ่งเป็นขอบห้อง ก่อนที่ร่างของเธอจะร่วงลงในเวลาต่อมา

ป๊อปเลิฟ: พีชชชช!!! (゚Д゚*)

ป๊อปเลิฟที่โหนสลิงอยู่บนยอดห้องตะโกนด้วยความตกใจ

ร่างของป๊อปพีชร่วงลงไปยังเบื้องล่างด้วยความรวดเร็ว โดยที่เธอไม่สามารถทำอะไรได้เลย...

เซ: ฮ่าๆๆ (@^0^@) อีกไม่นานเจ้าก็จะได้ลาโลกนี้แล้ว

เซมองดูป๊อปพีชร่วงลงไปด้วยความสะใจ

ไม่นานนัก ป๊อปพีชก็ร่วงจนหลุดออกมาจากหอสมุดลอยฟ้า ความรู้สึกของเธอในตอนนั้นคือ เธอคิดว่าวิญญาณของเธอได้หลุดลอยออกไปจากร่างแล้ว...

ป๊อปพีช: (ลาก่อนนะ... มิมิจัง... ขอให้เธอเป็นแชมป์ในการแข่งทัวร์นาเมนต์ให้ได้นะ...)

และหลังจากที่ร่างของเธอร่วงลงไปได้อีกสักพักหนึ่ง อยู่ดีๆ เธอก็รู้สึกเหมือนกับร่างของเธอได้หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ โดยที่ไม่ร่วงต่อไปอีก...

ป๊อปพีช: เอ๊?? (⊙_⊙;)?

เมื่อเธอตั้งสติได้ เธอจึงพยายามมองรอบๆ ตัว

แล้วจากนั้นเธอก็พบว่ามีสิ่งมีชีวิตประหลาดแบกตัวเธอไว้อยู่

"รับไว้ได้ทันพอดีเลย (^///^)"

ป๊อปพีช: คุณเป็นใครกันน่ะ? (⊙_⊙;)

"ข้าก็คือ... ภูตแห่งสายลมยังไงล่ะ!"

สิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายกับก้อนเมฆแนะนำตัว

ป๊อปพีช: ภูตแห่งสายลม... หรือว่าคุณก็คือ... เจ้าของตำนาน "เสียงแห่งสายลม" ที่เล่าขานกัน!?

"ใช่แล้ว! ข้านี่แหละเป็นผู้ที่คอยขับขานบทเพลงแห่งสายลมให้กับ "ผู้ที่มีปัญหาในด้านความหวัง" ที่บริเวณหุบเหวเองไง! ซึ่งหากผู้ใดที่ได้ยินเสียงขับร้องของข้า ผู้นั้นจะได้รับพลังที่ช่วยทำให้ความหวังนั้นๆ บรรลุผลยังไงล่ะ!"

ป๊อปพีช: เอ๊!? หรือว่าในตอนนั้นที่คุณเคยร้องเพลงแห่งสายลมให้กับผู้ชายคนหนึ่ง ก็เพราะต้องการจะบอกอะไรเกี่ยวกับความทรงจำของเขาที่ "ถูกลบออกไป" สินะคะ

"ถูกแล้วล่ะ! และเสียงที่เจ้าเคยได้ยินเมื่อตอนอยู่ที่น้ำตก นั่นก็คือเสียงของข้าเองแหละ"

ป๊อปพีช: เอ๊!? จริงเหรอคะ?? (⊙_⊙)?

"อืม!! (∩_∩) โคนหินที่อยู่กลางบ่อน้ำนั่น เป็นที่สิงสถิตของข้าเอง!"

*****************************************************

【ย้อนความเมื่อตอนอยู่ที่น้ำตก】

เนียมิหยิบหินก้อนเล็กๆ ที่อยู่บนพื้นข้างๆ เธอ มาขว้างไปยังหินงอกที่อยู่ตรงกลางบ่อ แล้วบนพื้นผิวน้ำตรงจุดนั้น ได้เกิดภาพของเงาบางอย่างขึ้นมาลางๆ

"เจ้ากำลังตามหาคำตอบของสายลมอยู่ใช่ไหม?"

อยู่ๆ ก็มีเสียงประหลาดดังขึ้นมาจะทางไหนไม่รู้ ทำให้ทั้งสองสะดุ้งทันที

"เจ้าต้องไปที่ "หอสมุดลอยฟ้า" แล้วเจ้าจะพบกับคำตอบเอง"

เสียงประหลาดของผู้หญิงดังขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่เงาบนผิวน้ำจะหายไป

*****************************************************

แสดงว่าตอนนั้น คุณ... ไม่สิ "ท่าน" ต้องการจะสื่อให้พวกเราไปช่วยบารามเองสินะ

"ถูกต้องแล้วล่ะ! (∩_∩) เพราะข้ารับรู้ได้ถึงคุณธรรมความดีของพวกเจ้าที่เคยสั่งสมไว้ ข้าจึงได้สื่อสานกับพวกเจ้าเพื่อให้การช่วยเหลือไงล่ะ!"

ป๊อปพีช: อย่างนี่นี้เอง

"เอาล่ะ เพื่อเป็นการตอบแทนในเรื่องที่พวกเจ้าช่วยชายผู้นั้นไว้ให้ได้พบกับความทรงจำที่หลุดหายไปอีกครั้ง ข้าจะขอมอบพลังบางอย่างให้กับพวกเจ้า..."

ป๊อปพีช: เอ๊!? (⊙_⊙)?

แล้วจากนั้นก็เกิดแสงสว่างขึ้นที่ถุงมือและรองเท้าของเธอ และหลังจากที่แสงสว่างหายไป เธอก็พบว่าบริเวณขอบถุงมือมีสายคาดแปลกๆ เพิ่มขึ้นมา

ป๊อปพีช: นี่มัน...

"ถุงมือป๊อปเปอร์สของเจ้าได้รับการพาวเวอร์อัปแล้ว หลังจากนี้เจ้าจะสามารถใช้พลังใหม่จากถุงมือในการต่อสู้ได้"

ป๊อปพีช: โห้!! สุดยอดไปเลย (*°▽°*) ได้อัปเกรดพลังใหม่กับเขาด้วยแฮะ ...แล้วป๊อปเลิฟล่ะ??

"ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวข้าจัดการให้อยู่แล้ว!!"

แล้วจากนั้นภูตแห่งสายลมก็ปล่อยลูกพลังสีขาว-ทองขึ้นไปยังบนหอสมุดลอยฟ้า แล้วลูกพลังนั้นก็ได้พุ่งเข้าไปใส่กลางเข็มกลัดที่อยู่ตรงอกของป๊อปเลิฟ แล้วจากนั้นเธอก็ได้รับพลังใหม่แบบเดียวกันด้วยเช่นกัน ซึ่งป๊อปเลิฟก็รู้สึกงงเล็กน้อย

"เอาล่ะ เท่านี้ก็สู้กับพลังใหม่ของเซได้อย่างสูสีแล้ว ขอให้พวกเจ้าโชคดีนะ!!"

แล้วจากนั้นภูตแห่งสายลมก็จางหายไป ทำให้เธอตกใจทันที เพราะผู้ที่เคยรับตัวเธอไว้ได้หายไปแล้ว ทำให้เธอพยายามตะเกียกตะกายอยู่กลางอากาศด้วยความโกลาหล

แต่เมื่อตั้งสติได้และลองสังเกตอีกที พบว่าเธอนั้นลอยนึ่งอยู่กลางอากาศได้โดยที่ไม่ร่วงลงไปยังด้านล่างแต่อย่างใด...

และเมื่อเธอลองมองดูที่บริเวณรองเท้าของเธอ พบว่ารองเท้าได้เปลี่ยนเป็นโรลเลอร์เบลดที่มีแสงออร่าสีฟ้ารูปร่างปีกติดอยู่ด้านข้างของโรลเลอร์เบลด

ป๊อปพีช: โห้!! รองเท้าก็ได้อัปเกรดด้วยแฮะ... แสดงว่าเจ้านี่ทำให้เราบินได้สินะ! ^_^ ...ดีล่ะ!

แล้วจากนั้นป๊อปพีชก็บินพุ่งตัวกลับขึ้นไปยังหอสมุดอีกครั้ง ด้วยความเร็วสูง

จากนั้น เซที่กำลังจะเตรียมตั้งท่าเก็บป๊อปเลิฟเป็นรายต่อไป

เซ: เอาล่ะ คราวนี้ถึงตาเจ้าบ้างแล้ว!!

ป๊อปเลิฟพลางกลืนน้ำลายตัวเอง เพราะเธอเองก็ไม่แน่ใจว่า จะสู้ต่อด้วยตัวคนเดียวไหวไหม

แล้วในทันใดนั้นเอง ป๊อปพีชก็ได้พุ่งเข้ามาต่อยสัตว์ประหลาดจากด้านล่างอย่างเต็มแรง โดยพุ่งเข้ามาในลักษณะคล้ายกับดาวหางพุ่งเข้าใส่ จนทั้งสัตว์ประหลาดและเซพุ่งขึ้นไปอัดติดกับเพดาน

ป๊อปพีช: ฮะฮ้า!! พลังใหม่นี่ ยอดเยี่ยมไปเลยจริง!! \^o^/

ป๊อปเลิฟ: พีช!! (⊙_⊙;)

ป๊อปเลิฟโหนสลิงเข้ามาหาป๊อปพีชด้วยความเป็นห่วง

ป๊อปเลิฟ: เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอเหรอ?? และเมื่อกี้อยู่ๆ ก็มีแสงอะไรไม่รู้พุ่งเข้ามาหาฉันด้วยล่ะ!!

ป๊อปพีช: ตอนที่ร่วงลงไปจนเกือบจะถึงพื้นอยู่ๆ ก็มี "ภูตแห่งสายลม" มารับตัวฉันไว้ แล้วเขาก็มอบพลังใหม่นี่ให้กับพวกเรายังไงล่ะ!!☆

ป๊อปเลิฟ: พลังใหม่งั้นเหรอ?? แล้วภูตแห่งสายลมมันคืออะไรกันน่ะ...?

ป๊อปพีช: เดี๋ยวไว้ฉันเล่าทีหลังแล้วกัน ตอนนี้พวกเรารีบไปจัดการกับเซกันเถอะ!

ป๊อปเลิฟ: อือ!!

แล้วจากนั้นป๊อปพีชก็บินพุ่งขึ้นไปหาเซที่ติดอยู่บนเพดาน

ป๊อปเลิฟ: เดี๋ยวก่อนสิ!! แล้วฉันล่ะ??

ป๊อปพีช: ตอนนี้เธอก็บินได้แล้วนะ ลองดูที่เท้าสิ!!

แล้วป๊อปเลิฟก็สังเกตดูที่รองเท้า พบว่ารองเท้าได้เปลี่ยนเป็นโรลเลอร์เบลด "ป๊อปเปอร์สปีดเดอร์" แล้วเช่นกัน

จากนั้นป๊อปเลิฟจึงลองกระโดดออกจากสายสลิง พบว่าเธอบินได้แล้วจริงๆ เช่นกัน

ป๊อปเลิฟ: ว้าว!! บินได้แล้วจริงๆ ด้วยแฮะ งั้นเดี๋ยวฉันจะตามไปช่วยเดี๋ยวนี้ล่ะ!!

แล้วป๊อปเลิฟก็บินตามป๊อปพีชที่ขึ้นไปก่อนหน้า

จากนั้นเซและสัตว์ประหลาดก็หลุดออกจากจุดที่ติดอยู่ และในขณะเดียวกับทั้งสองก็ได้บินขึ้นมาหาพอดี

เซ: ไม่จริงน่ะ!? ทำไมพวกเจ้า...??

ป๊อปพีช: ฮะฮ้า!! คราวนี้ก็สู้กันได้อย่างแฟร์ๆ แล้วนะ (∩_∩)

เซ: เป็นไปไม่ได้... ทำไมพวกเจ้าถึงบินได้แล้วล่ะ?? (⊙_⊙;)

ป๊อปเลิฟ: ก็เพราะ "ธรรมะย่อมชนะอธรรม" ยังไงล่ะ!! ..เอาละนะ!

ป๊อปเลิฟหันมาทางป๊อปพีช

ป๊อปพีช: อืม!!

แล้วจากนั้นทั้งสองก็นำแขนข้างหนึ่งมาประกบกันด้านข้างซึ่งกันละกัน แล้วมือข้างที่ประกบแขนกันก็เกิดแสงขึ้นมา เป็นการชาร์ตพลังเพื่อเตรียมปล่อยท่าไม้ตาย โดยแขนของพวกเธอชูตรงไปที่สัตว์ประหลาด

ป๊อปเลิฟ/พีช: "ป๊อปปินอิมแพ็ค ไฮเปอร์" !!!

จากนั้นก็เกิดลำแสงสีฟ้าและชมพูขนาดใหญ่ม้วนกันเป็นเกลียวพุ่งเข้าไปเผด็จศึกสัตว์ประหลาด ส่วนเซก็กระเด็นจนลอยออกไปนอกโลก

เซ: หนอย!! ฝากไว้ก่อนเถอะ!! (╬▔皿▔)╯

เซกล่าวก่อนที่จะลอยจนหายไป

--------------------------------------------------------------------------------

เวลาผ่านไป หลังจากที่ทั้งสองได้กลับร่างเดิม ทั้งหมดก็ลงมายังพื้นด้านล่าง ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาช่วงตกเย็นแล้ว

อลินี่: ไม่รู้ว่าเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ขอบคุณที่ช่วยปกป้องหอสมุดไว้นะ ^_^

เนียมิ: แฮะๆ o(* ̄▽ ̄*)ブ ที่จริงแล้วนั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรานะ

บาราม: แต่ฮีโร่สาวน้อยเมื่อกี้นี้ มันดูเหมือนพวกเธอมากเลยนะ

มิมิ: ก็แค่บังเอิญคล้ายกันเท่านั้นเองเนอะ

เนียมิ: อืม!!

มิมิหันมาทางเนียมิ ส่วนเนียมิก็พยักหน้า

บาราม: เพื่อเป็นการขอบคุณที่ช่วยให้ผมได้พบกับสิ่งที่หายไปอีกครั้ง ฉันให้นี่นะ

แล้วบารามก็นำสิ่งของบางอย่างออกมามอบให้กับทั้งสอง

มิมิ/เนียมิ: นี่มัน...!!

อลินี่: "เศษลูกแก้วเวทมนตร์" น่ะ ฉันหามันเจอตอนช่วงที่ป๊อปเปอร์สออกมาสู้กับสัตว์ประหลาดน่ะ

เนียมิ: โห้!! จริงเหรอเนี่ย!? ขอบคุณมากนะ!! (∩_∩)

แล้วเนียมิก็นำเศษลูกแก้วเวทมนตร์ชิ้นแรกมาใส่ยังร่องที่อยู่บนซิลลี่คีย์



มิมิกับเนียมิ ได้รับสแตมป์ดวงที่ 1 เรียบร้อยแล้ว!!

มิมิ: ในที่สุด พวกเราก็ได้เศษลูกแก้วชิ้นแรกแล้วนะ (∩_∩)

เนียมิ: อืม!! ฉันชักอยากจะรีบตามหาอีก 4 ชิ้นที่เหลือให้เจอเร็วๆ แล้วสิ *^____^*

จากนั้นก็ได้เวลาที่ทั้งสองต้องจากลา

อลินี่: แล้วพบกันใหม่นะ!!

อลินี่ตะโกนบอกลาทั้งสองที่กำลังเดินจากไป ส่วนเนียมิก็หันกลับมามองและโบกมือเพื่อเป็นการตอบรับ

เนียมิ: เอาล่ะ พรุ่งนี้พวกเราต้องหาเศษลูกแก้วอีกชิ้นให้เจอให้ได้เลยนะ!

มิมิ: อืม!! (*^_^*)

แล้วในทันใดนั้น อยู่ๆ ก็มีเสียงประหลาดดังขึ้นมา ซึ่งเสียงนั้นก็คือ เสียงขับขานบทเพลงของภูตแห่งสายลมนั่นเอง!

===== POP'N MUSIC =====
風にお願い / Forte Escape

ซึ่งทุกคนทั้ง มิมิ เนียมิ บาราม และอลินี่ ต่างก็ได้ยินเสียงเพลงได้อย่างชัดเจน เป็นเสียงร้องที่มีความไพเราะเป็นอย่างมาก และเนื้อเพลงก็ชวนให้รู้สึกราวกับล่องลอยไปกับสายลมเช่นกัน
===== END MUSIC =====

เนียมิ: ดูเหมือนว่าภูตแห่งสายลมต้องการจะขอบคุณพวกเรานะ

มิมิ: อืม!! เป็นบทเพลงที่พอได้ฟังแล้ว ก็รู้สึกเหมือนได้รับพลังบางอย่างที่แกร่งกล้ามาเลยล่ะ!! (*^_^*)

และแล้วทั้งสองก็ได้เริ่มมุ่งหน้าไปยังสถานที่ถัดไปเพื่อตามหาเศษลูกแก้วเวทมนตร์ชิ้นที่ 2 แล้วจุดหมายต่อไปจะเป็นสถานที่แบบไหนกันแน่นะ!?




>>>>> TO BE CONTINUED <<<<<