14 กรกฎาคม 2565

pop'n music RESPECT : STAGE 29 「เสียงแห่งสายลม」

ฮาโหล่♪ เนียมิเองค้า~

หลังจากที่พวกเราได้เดินทางเข้าไปยังพระราชวังของอาณาจักรเทพนิยายด้วยความบังเอิญ...มั้งนะ? ในที่สุด พวกเราก็ได้รับภารกิจใหม่ที่ยิ่งใหญ่มากๆ มาจากเจ้าชายด้วยล่ะ นั่นคือการตามหาชิ้นส่วนของลูกแก้วเวทมนตร์ทั้ง 5 ที่กระจัดกระจายไปตามที่ต่างๆ ในอาณาจักรค่ะ โดยเมื่อรวบรวมได้ครบแล้วจะสามารถคืนพลังให้กับ "ซิลลี่คีย์" (Sealy Key)" กุญแจเวทมนตร์ในตำนานที่ว่ากันว่าเคยใช้ปิดผนึกพลังอันชั่วร้ายมาแล้ว และนับจากนี้ก็คือเรื่องราวการผจญภัยอย่างเต็มรูปแบบของพวกเราในอาณาจักรเทพนิยายแล้วค่ะ!!
ตื่นเต้นจังเลย... `(*>﹏<*)′

--------------------------------------------------------------------------------



STAGE 29
「เสียงแห่งสายลม」

--------------------------------------------------------------------------------

ในวันนี้ มิมิ กับ เนียมิ ได้เดินทางมายังสถานที่ที่มีชื่อว่า "หุบเขา Seveal" ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่จากทั้งหมด 5 แห่งที่บนแผนที่ได้ระบุไว้ว่า "น่าจะ" มีชิ้นส่วนของลูกแก้วเวทมนตร์ซ่อนอยู่ที่นี่

และในระหว่างที่กำลังเดินไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางธรรมชาตินั้น ทั้งสองก็ได้หาอะไรคุยเล่นไปด้วยในระหว่างนั้นเหมือนเคย

เนียมิ: ฮ่าๆ ! รู้สึกโชคดีชะมัดเลย ที่อยู่ๆ ก็ได้ถูกเลือกให้เป็นผู้กล้ามาทำภารกิจยิ่งใหญ่แบบนี้ (*^▽^*)

มิมิ: นั่นสินะ (*^-^*)

เนียมิ: แต่ฉันก็ยังสงสัยอยู่อย่างหนึ่งนะ.. ว่าทำไมท่านไดโนถึงอยากได้ตัวพวกเราให้มาทำภารกิจตามหาชิ้นส่วนลูกแก้วนี้กันนะ? (ลืมถามเจ้าตัวไปเลย เพิ่งมานึกได้ตอนนี้)

มิมิ: อาจจะเป็นเพราะเรื่องที่พวกเราเคยปราบ "Tomstone" หนึ่งในบอสดันเจี้ยนที่เก่งกาจที่สุดของเกาะป๊อปปินก็ได้นะ...? (คิดว่า)

เนียมิ: อืม.. ก็อาจจะใช่ก็ได้นะ เพราะเมื่อคราวที่พวกเราเคยเอาชนะแก็งมาเฟียได้ ก็กลายเป็นข่าวลือที่โด่งดังไปทั่วทั้งเกาะเลย ฉันคิดว่าเรื่องที่พวกเราปราบ Tomstone ได้ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน (แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่เคยได้ยินใครพูดถึงเรื่องนี้เลยนะ)

มิมิ: ว่าแต่พวกเราก็ไม่ได้เห็นเซมาพักใหญ่แล้วนะ

เนียมิ: ก็นั่นสิ ถ้าลองไล่นับดูในแต่ละครั้งที่ผ่านมา พวกเราเคยสู้กับเซมาไม่กี่ครั้งเองนะ ถ้าเป็นในพริตตี้เคียวละก็ พวกเราคงได้สู้เกือบทุกวันแน่ๆ ...

มิมิ: อืม.. ฉันน่ะอยากรู้จริงๆ เลยว่าช่วงที่เซพักจากการต่อสู้ เธอกำลังไปทำอะไรและอยู่ที่ไหนในระหว่างนั้นกันแน่นะ?

เนียมิ: ก็เอาเถอะ ฉันว่าไม่ต้องปรากฏตัวบ่อยๆ แบบนี้ก็ดีแล้วนะ ขื่นมาบ่อยๆ ฉันเองก็ไม่ไหวเหมือนกัน เพราะหลังจากที่กลับร่างเดิมแล้วอยู่ดีๆ ก็เกิดความเหนื่อยขึ้นมาซะเฉยๆ ทั้งที่ตอนแปลงร่างกลับไม่รู้สึกแบบนั้นเลย

มิมิ: แล้ว "ตัวของพวกเราที่อยู่ในอีกโลก" จะมีพลังแปลงร่างได้แบบนี้ด้วยหรือเปล่านะ...?

เนียมิ: เธอยังเชื่อเรื่องนั้นอยู่อีกเหรอ?

มิมิ: ก็...ไม่รู้สิ อยู่ๆ ก็เกิดนึกเรื่องนี้ได้ขึ้นมา...

แล้วทั้งสองก็เดินทางกันต่อไปโดยไม่คุยอะไรเพิ่มอีกหลังจากนั้น โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า เซ กำลังแอบดูพวกเธออยู่บนต้นไม้จากด้านหลัง ก่อนที่เซจะหายตัวไป

--------------------------------------------------------------------------------

ผ่านมาสักพักใหญ่ๆ ทั้งสองก็เดินมาจนถึงบริเวณที่ราบสูงจุดหนึ่งซึ่งเป็นหุบเหว และมีภูเขาโดยรอบ

มิมิ: ฉันว่าน่าจะมาถึงแล้วล่ะ

มิมิกล่าวหลังจากที่ได้เห็นหุบเหวตรงหน้า

แล้วทั้งสองก็สอดส่องบรรยากาศโดยรอบอยู่พักหนึ่งด้วยความตื่นตาตื่นใจ

เนียมิ: สวยงามมากๆ เลยนะ! (*^▽^*)

มิมิ: อืม! อากาศก็สดชื่นมากๆ ด้วยล่ะ! (∩_∩)

เนียมิ: แล้วต่อไป... พวกเราจะไปเริ่มหาเศษลูกแก้วกันที่ไหนก่อนดี?

มิมิ: ฉันว่าลองเดินสำรวจไปเรื่อยๆ ดูดีกว่านะ เพราะตามหลักแล้วยังไงก็ไม่มีทางหาเจอได้ง่ายๆ อยู่แล้วล่ะ

เนียมิ: อืม! นั่นสินะ ถ้าจะหาเศษลูกแก้วทั้งที ต้องสำรวจให้ทั่ว ^_^ (เหมือนได้มาท่องเที่ยวไปในตัวเลย)

แล้วจากนั้นทั้งสองก็มุ่งหน้าเดินทางกันต่อไป ซึ่งเส้นทางที่กำลังเดินไปนั้นคงยังเป็นเส้นทางธรรมชาติที่มีต้นไม้โดยรอบและมีทางเดินที่เป็นพื้นดินทอดยาวไปเรื่อยๆ เช่นเคย แต่ต่างตรงที่เส้นทางนี้เริ่มมีความชันขึ้นมาเล็กน้อยเนื่องจากเป็นพื้นที่หุบเขา

และในระหว่างที่ทั้งสองกำลังเดินไปเรื่อยๆ นั้น ก็มีคนขี่รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งวิ่งสวนพวกเธอไป แต่นั่นมันกลับทำให้เนียมิรู้สึุกประหลาดใจมาก

เนียมิ: มีรถมอเตอร์ไซค์วื่ง... ในที่แบบนี้เนี่ยนะ?!

เนียมิกล่าวหลังจากที่หันหลังไปมองรถมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งผ่านไป

มิมิ: ฉันว่าแถวๆ นี้อาจจะเป็นที่อยู่ของพวกเกษตรกรก็ได้ (ที่พีชทาวน์เองก็มีเหมือนกัน แต่ไม่มาก)

เนียมิ: แต่ว่าตั้งแต่ที่พวกเราเริ่มออกเดินทางกันมา ยังไม่เห็นมียานพาหนะอะไรวิ่งผ่านพวกเราเลยนะ ...เออ จริงสิ! ลองไปถามเขาดูกันไหม?

เนียมินึกเรื่องอะไรที่สำคัญมากออกได้

มิมิ: หมายถึงถามเบาะแสของเศษลูกแก้วเหรอ... อืม! รีบไปหากันเถอะ

แต่ก่อนที่เนียมิจะเริ่มไป มิมิก็นึกอะไรขึ้นได้

มิมิ: แต่ว่าเราจะตามตัวเขาจากที่ไหนกันล่ะ?? (เพราะรถมันวิ่งหายไปแล้ว)

เนียมิใช้เวลาคิดอยู่พักหนึ่ง

เนียมิ: อืมมม..... ถ้าตลอดทางที่เดินมาไม่มีรถอะไรวิ่งเลย.. และตรงจุดลานกว้างหน้าเหว คือจุดเริ่มต้นของเขตหุบเขา Seveal ล่ะก็... ฉันว่าลองกลับไปที่หน้าเหวตรงนั้นกันไหม? เขาอาจจะไปทำอะไรที่นั่นก็ได้

มิมิ: อืม!

แล้วทั้งสองจึงเดินกลับมายังจุดลานกว้างที่อยู่หน้าหุบเหวอีกครั้ง ก็พบกับรถมอเตอร์ไซค์คันเดียวกับที่วิ่งผ่านไปเมื่อสักครู่ และมนุษย์ผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเขาผู้นั้นกำลังนั่งชมทิวทัศน์ของหุบเหวที่อยู่ตรงหน้า

ทั้งสองตัดสินใจยืนจ้องดูท่าทีของเขาอยู่พักหนึ่ง เพราะยังรู้สึกเกรงใจหากเข้าไปทักเขาในจังหวะนี้ จากนั้นสักพักเขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยแววตาเศร้าๆ ราวกับมีเรื่องกลุ้มใจอะไรบางอย่าง

มิมิ: มีเรื่องกลุ้มใจอะไรอยู่หรือเปล่าค่ะ?

มิมิทักไป แล้วเขาก็หันมามอง มิมิ เนียมิ ด้วยท่าทางแปลกใจเล็กน้อย เพราะไม่เคยเห็นคนที่ใส่ชุดแปลกๆ แบบนี้มาก่อน

"หืม? พวกเธอเป็นใครกัน?"

มิมิ: พวกเราเป็นผู้กล้าค่ะ

"ผู้กล้า... งั้นเหรอ??"

เนียมิ: อืม!! พวกเรามาตามหา ชิ้นส่วนลูกแก้วของซิลลี่คีย์ กันน่ะ คุณพอจะรู้จักบ้างไหม?

"เออ... ซิลลี่คีย์เหรอ ฉันก็เคยได้ยินตำนานของมันมาอยู่เหมือนกันนะ แต่ว่าชิ้นส่วนลูกแก้วที่พวกเธอพูดถึง ฉันไม่รู้หรอกว่ามันอยู่ที่ไหน"

แล้วจากนั้นเขาก็เกิดรู้สึกเอะใจบางอย่าง

"เอ๊!? "ชิ้นส่วนลูกแก้ว→ของซิลลี่คีย์" งั้นเหรอ... หรือว่าพวกเธอจะ..."

จากนั้นมิมิก็ยื่นมือออกไปข้างหน้า แล้วซิลลี่คีย์ก็ปรากฎออกมาในมือ

มิมิ: ใช่แล้วล่ะ พวกเราได้รับภารกิจจากพระราชโอรสแห่งดินแดนเทพนิยายให้มารวบรวมชิ้นส่วนลูกแก้วทั้ง 5 เพื่อทำให้ซิลลี่คีย์กลับคืนสู่สภาพสมบูรณ์อีกครั้ง

"โห้!! จริงเหรอเนี่ย!? (⊙ˍ⊙lll) แต่แค่ได้เห็นซิลลี่คีย์ที่เธอเรียกออกมานั่น ฉันก็เชื่อแล้วล่ะว่าพวกเธอเป็นผู้กล้าจริงๆ !! (เพราะมีเพียงเฉพาะผู้ที่ถูกเลือกจากพระราชโอรสเท่านั้นที่จะเป็นผู้กล้าได้)"

เนียมิพลางเกาหัวด้วยสีหน้าเขินอาย เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนชม(พวก)เธอแบบนี้

"จริงสิ ไหนๆ ก็ได้เจอกับพวกเธอแล้ว ฉันมีเรื่องที่อยากจะขอร้องให้พวกเธอช่วยหน่อยน่ะ"

เนียมิ: เรื่องอะไรเหรอ ว่ามาได้เลย พวกเราพร้อมช่วยอยู่แล้ว (^_<)☆

"คือว่า... ฉันกำลังตามหา... "เสียงแห่งสายลม" อยู่น่ะ"

มิมิ: เสียงแห่งสายลม?? มันคืออะไรงั้นเหรอ??

"ก็ไม่เชิงว่าเป็นไอเทมวิเศษอะไรหรอกนะ แต่มันเป็นเสียงกระซิบจากสายลมที่คล้ายกับเสียงร้องเพลงของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความไพเราะมากๆ ซึ่งว่ากันว่า จะได้ยินก็ต่อเมื่อ "ตะโกนถามถึงอะไรสักอย่าง" ผ่านหุบเขาที่อยู่ตรงหน้านี้ไง"

เขาชี้นิ้วไปทางหน้าผาที่อยู่ตรงหน้า

มิมิ: เอ๊?! หรือเมื่อกี้นี้คุณกำลัง...?

"ใช่ ฉันกำลังรอฟังเสียงที่ว่าอยู่น่ะ แต่ว่า ก็ไม่ได้ยินเลย..."

เนียมิ: แล้วเสียงกระซิบที่ว่ามันมีความพิเศษยังไงเหรอ ทำไมคุณถึงอยากจะได้ยินเสียงนั้นให้ได้ล่ะ??

"ฉันกำลังตามหา "บางสิ่งที่ขาดหายไป" อยู่่น่ะ"

มิมิ/เนียมิ: เอ๊!?

ทั้งสองสงสัยในคำพูดของเขา

"ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจกับตัวเองเท่าไหร่ แต่มันรู้สึกเหมือนฉันกำลังมีความทรงจำบางอย่างที่เลือนหายไปจากฉันน่ะ ...บางทีเสียงนั้นอาจจะเป็น "สิ่งที่เลือนหายไป" จากอดีตก็เป็นได้"

เนียมิ: ถ้างั้นเดี๋ยวฉันจะช่วยให้คุณได้พบกับความทรงจำที่หายไปเอง! (^_<)☆

มิมิ: แล้วเรื่องที่จะต้องตะโกนถามกับสายลม... ต้ิองเป็นคำถามในเรื่องใดเหรอค่ะ?

"อืม... ก็เป็นคำถามอะไรก็ได้ที่เรารู้สึกว่าอยากจะปรารถนามากที่สุดน่ะ"

เนียมิ: อ๋อ ก็คล้ายๆ กับการขอพรสินะ

"ก็คงจะอย่างนั้นแหละ ^^;"

มิมิ: งั้นเดี๋ยวฉันจะลองเริ่มก่อนนะ!

มิมิหลับตาลงเพื่อนึกคำถาม

แต่ในทันใดนั้น เธอก็เกิดนึกถึงหนึ่งใน "คนที่เธอแอบชอบ" ขึ้นมา ซึ่งเขาผู้นั้นคือ "นักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร" ผู้ซึ่งจากไปก่อนหน้าที่เธอจะเดินทางมายังเกาะป๊อปปินได้เพียงไม่กี่อาทิตย์ และสาเหตุที่เธอนึกถึงคนนั้น เพราะเขาเคยให้คำมั่นสัญญาไว้กับเธอก่อนจากไปว่า "จะกลับมาหาเธอให้ได้ในสักวันหนึ่งแน่นอน"

เธอพยายามหยุดคิดถึงเรื่องนั้น แล้วเปลี่ยนไปคิดถึงเรื่องอื่นแทน และสิ่งที่เธออยากจะถามก็คือ...?

มิมิ: \ "มีร้านซานริโอ้กิ๊ฟเกทอยู่แถวนี้บางไหมมมมมมมมมมมมมมมมม......!!!???" /

มิมิตะโกนออกไปยังทางหน้าผาอย่างสุดเสียง แต่คำถามนี้ทำให้เนียมิถึงกับอึ้งไปเลย

เสียงดังก้องกังวานไปทั่วภูเขา แต่เมื่อผ่านไปเกือบ 1 นาที ก็ไม่มีเสียงอะไรตอบรับกลับมาเลย...

"ฉันว่าคงไม่ได้ยินคำตอบกลับแล้วล่ะ"

มิมิ: ก็นั่นสินะ ( ̄﹏ ̄;) (แถวนี้จะไปมีร้านซานริโอ้ได้ยังไงกัน)

เนียมิ: งั้นตาฉันบางล่ะ!

เนียมิสูดหายใจลึก ก่อนที่จะเริ่มตะโกนออกมา

เนียมิ: \ "ไทม์เมอร์คุงอยู่ที่ไหนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน......!!!???" /

เนียมิตะโกนออกไปยังทางหน้าผาอย่างสุดเสียง ด้วยสีหน้าแดงฉานราวกับเขินอะไรอยู่

แต่เมื่อผ่านไปอีก 1 นาที ก็ไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมาอีกเช่นกัน

เนียมิ: ล้มเหลวงั้นเหรอเนี่ย...  (*////▽////*)

เนียมิยังคงหน้าแดงไม่หาย ส่วนมิมิก็แอบหัวเราะออกมาเบาๆ

จากนั้นไม่นานมิมิก็เหมือนจะนึกอะไรออกได้

มิมิ: อ่อ! จริงสิ แล้วเสียงที่คุณได้ยินเมื่อตอนนั้นมันเป็นเสียงแบบไหนเหรอ แล้วเขาตอบกลับมาว่ายังไง พอจะจำได้ไหม?

"มันเป็นเสียงที่คล้ายกับ เสียงร้องเพลงน่ะ ฉันก็ฟังไม่ค่อยออกเท่าไหร่ว่าเนื้อร้องมันเป็นยังไง รู้แต่ว่าพอฉันได้ยิงเสียงที่ว่านี้แล้วมันเหมือนค่อยๆ กระตุ้นความทรงจำที่คุ้นเคยให้กลับมาอีกครั้ง ...บางทีถ้าฉันสามารถแกะเนื้อเพลงนั่นออกได้ อาจจะพอรู้อะไรเกี่ยวกับความทรงจำที่หายไปก็เป็นได้"

แล้วทั้งสองก็หันมามองหน้ากันชั่วครู่ เพื่อจะปรึกษาอะไรบางอย่างกับภารกิจนี้

มิมิ: ถ้าตะโกนถามไปมั่วๆ ไม่ได้ผล ก็คงต้องลองหา "คำตอบที่ถูกต้อง" ให้เจอ??

"เอาเถอะ ฉันว่าพวกเราล้มเลิกความพยายามแค่นี้ดีกว่า ถ้าตะโกนไปแล้วไม่ได้คำตอบ ถึงจะให้ตะโกนอีกกี่ครั้งมันก็ยังไม่มีเสียงตอบรับอยู่ดีนั่นแหละ เพราะฉะนั้น... ฉันไปล่ะ และก็ขอบคุณสำหรับคำขอร้องนะ"

แล้วเขาก็เดินหันหลังกลับเพื่อที่จะไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์

มิมิ: เดี๋ยวก่อนสิค่ะ!! อย่าเพิ่งยอมแพ้ง่ายๆ แบบนี้สิ!!

มิมิเดินเข้ามาขวางหน้าเขา

"แต่ว่า..."

เนียมิ: ใช่!! ถ้าหากเสียงกระซิบนั่นต้องการจะบอกอะไรกับคุณละก็ ฉันว่าคงจะต้องมีวิธีอะไรสักอย่างที่ทำให้ได้ยินเสียงนั้นอีกครั้งแน่ๆ

"แต่ว่าเสียงแห่งสายลมนั่นมันเป็นเพียงแค่เรื่องเล่าในตำนานเท่านั้นนะ เท่าที่ได้ยินมา ก็ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้อยู่ดีว่ามันเป็นเรื่องจริงไหม"

เนียมิ: แต่ถ้าคุณเคยได้ยินมันมาแล้วครั้งหนึ่ง ก็เท่ากับว่ามันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงแล้วสิ!

มิมิ: อืม!! ถ้าหากเสียงแห่งสายลมนั่นมีตัวตนอยู่จริงล่ะก็ ฉันพอจะมีวิธีอะไรดีๆ ได้แล้วล่ะ

แล้วเขาก็ถอนหายใจออกมา ก่อนที่จะกล่าว

"เฮอ.. ช่วยไม่ได้นะ ...แล้ววิธีที่ว่ามันเป็นยังไงเหรอ?"

เขาล้มเลิกการยอมแพ้ แล้วตั้งใจกลับมาถามทั้งสอง

มิมิ: เออ... คุณพอจะจำคำถามที่ตะโกนออกไปในตอนนั้นได้ไหม?

เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะตอบ

"ฉันจำไม่ได้แล้วล่ะ"

แล้วทั้งสองก็ล้มลงกองกับพื้นในทันที

เนียมิ: โธ่... จำคำถามตัวเองไม่ได้หรอกเหรอ ( ̄_ ̄|||)

มิมิ: ฉันคิดว่า "คำตอบ" ของคำถามนั่น... ต้องเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของใครสักคนระหว่างคุณแน่ๆ เลยล่ะ ...คุณพอจะมีคนรู้จักที่สนิทมากๆ บางไหม?

แล้วในทันใดนั้น คำถามของมิมิก็เหมือนไปกระตุ้นให้เขานึกอะไรบางอย่างออกมาได้

"Σ( °_°) เหมือนจะใช่นะ แต่ฉันจำมันไม่ได้แล้วจริงๆ ..."

เนียมิ: เออ.. ขอโทษนะ ฉันขอถามอะไรนิดนึง ...คุณเป็นโรคความจำเสื่อมหรือเปล่าเนี่ย??

"ความจำฉันดีปกติทุกอย่างเลยล่ะ ยกเว้นก็เพียงแค่ "เรื่องนี้เรื่องเดียว" ที่จำไม่ได้เนี่ยแหละ..."

แล้วทั้งสองก็หันมามองหน้ากันชั่วครู่อีกครั้ง เพื่อจะปรึกษาอะไรบางอย่าง

"เอ่อ! จริงสิ ฉันมีที่ดีๆ อยู่ที่นึงนะ พวกเธอจะลองไปกับฉันไหม?"

มิมิ: เอ๊?? จะไปที่ไหนเหรอคะ?

"เป็นน้ำตกที่อยู่ใกล้ๆ กับแถวนี้แหละ พอฉันรู้สึกกลุ้มใจอะไรก็จะไปที่นั่นเพื่อผ่อนคลายจิตใจน่ะ บางทีมันอาจจะช่วยให้พวกเธอมีไอเดียอะไรดีๆ ก็ได้"

มิมิ: ได้สิ! งั้นก็ไปกันเลย!! O(∩_∩)O

เนียมิ: นั่นสิ แล้วคุณชื่ออะไรล่ะ? ยังไม่ได้แนะนำตัวกับพวกเราเลยนะ

"ฉันชื่อ "บาราม" (Baram) น่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ (^_<)☆"

--------------------------------------------------------------------------------

แล้วเขาก็นำทางทั้งสองไปยังพื้นที่น้ำตกแห่งหนึ่งที่อยู่ใจกลางของป่า

ลักษณะสถานที่เป็นน้ำตกที่มีความสูงพอควร บริเวนด้านล่างของน้ำตกเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่มีหินเล็กงอกอยู่ตรงจุดกลางของบ่อพอดี และน้ำตกมีเสียงค่อนข้างดังพอควร

มิมิ: ว้าว!! สวมงามมากเลยล่ะ!! (*°▽°*)

เนียมิ: แต่เสียงของน้ำตกดังมาก จนต้องตะโกนพูดกันเลยล่ะ ถึงจะได้ยิน `(*>﹏<*)′

แล้วทั้งสองก็ชื่นชมความงดงามของธรรมชาติโดยรอบอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะมาสังเกตเห็นหินงอกเดี่ยวๆ ที่อยู่ตรงกลางของบ่อน้ำ

เนียมิ: หืม...? โคนหินที่อยู่ตรงกลางบ่อนั่น ฉันรู้สึกว่ามันดูน่าสงสัยนะ?

มิมิ: ทำไมล่ะ??

เนียมิ: ก็ดูบนพื้นน้ำตรงแถวนั้นสิ

แล้วมิมิก็จ้องมองไปยังบนผิวน้ำที่อยู่บนบริเวนรอบหินงอก ก็พบเห็นภาพลางๆ บางอย่างอยู่บนผิวน้ำนั้น

มิมิ: เอ๊?? เหมือนมีเงาอะไรแปลกๆ อยู่ตรงนั้นด้วยจริงๆ !! (⊙o⊙)

แล้วจากนั้นเนียมิก็หยิบหินก้อนเล็กๆ ที่อยู่บนพื้นข้างๆ เธอ มาขว้างไปยังหินงอกที่อยู่ตรงกลางบ่อ

หินที่ขว้างออกไปได้ตกลงไปยังผิวน้ำที่อยู่ด้านหน้าของหินงอก แล้วในทันใดนั้นเอง ก็เกิดปรากฏการณ์ประหลาดขึ้นที่ผิวน้ำตรงจุดที่หินก้อนเล็กได้จมลงไป

บนพื้นผิวน้ำตรงจุดนั้น ได้เกิดภาพของเงาบางอย่างขึ้นมาลางๆ ซึ่งเนียมิก็สังเกตเห็นในเวลาต่อมา

เนียมิ: Σ( °_°) มิมิจัง ดูตรงนั้นสิ มีเงาอะไรก็ไม่รู้ขึ้นมาบนผิวน้ำด้วย

เนียมิเรียกมิมิให้มาดูตรงจุดนั้น แล้วจากนั้นเงาก็ค่อยๆ ปรากฏเป็นภาพของหน้าผู้หญิงออกมาให้เห็นลางๆ

"เจ้ากำลังตามหาคำตอบของสายลมอยู่ใช่ไหม?"

อยู่ๆ ก็มีเสียงประหลาดดังขึ้นมาจะทางไหนไม่รู้ ทำให้ทั้งสองสะดุ้งทันที

"เจ้าต้องไปที่ "หอสมุดลอยฟ้า" แล้วเจ้าจะพบกับคำตอบเอง"

เสียงประหลาดของผู้หญิงดังขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่เงาบนผิวน้ำจะหายไป

เนียมิ: มิมิจัง เมื่อกี้เธอได้ยินอะไรมั้ย?

มิมิ: ได้ยินสิ!

บาราม: "หอสมุดลอยฟ้า" งั้นเหรอ!?

บารามอุทานด้วยสีหน้าตกใจ

เนียมิ: มีอะไรเหรอ?

บาราม: ดูเหมือนว่าฉันพอจะเริ่มจำอะไรขึ้นมาบ้างได้แล้วล่ะ!

มิมิ: เฮ๊? จริงเหรอคะ?

บาราม: อืม!! แต่ว่าฉันก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่า "สิ่งที่กำลังตามหาอยู่" มันคืออะไร

มิมิ: งั้นก็ไปยังหอสมุดลอยฟ้ากันเลยสิคะ!!

บาราม: โอเค!! *^____^*

เนียมิ: แต่ว่า.. เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นกันน่ะ??

เนียมิยังคงสงสัยกับเสียงประหลาดเมื่อครู่นี้

บาราม: อ่อ! บ่อน้ำใต้น้ำตกแห่งนี้เป็นบ่อวิเศษที่ว่ากันว่ามีภูตสถิตอยู่ เออ... แต่เรื่องของเสียงประหลาดนั่น ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันคืออะไร แต่น่าจะเป็นเสียงของภูตที่สถิตอยู่ที่นี่นั่นแหละ! (ฉันก็เคยเพิ่งได้ยินตอนนี้แหละ!)

เนียมิ: งั้น..!! แสดงว่าเสียงที่ได้ยินเมื่อกี้ คงมีความเกี่ยวข้องอะไรกับเสียงประหลาดที่คุณเคยได้ยินสินะ?

บาราม: น่าจะเป็นอย่างนั้นแหละ!!

เนียมิ: งั้นพวกเราก็รีบไปที่หอสมุดลอยฟ้ากันเถอะ!!

--------------------------------------------------------------------------------

แล้วทั้งหมดก็เดินทางไปยัง "หอสมุดลอยฟ้า" ที่อยู่บนหุบเขา Seveal แห่งนี้

บาราม: ที่นี่แหละหอสมุดลอยฟ้า

มิมิ/เนียมิ: โห้!!

ทั้งสองมองดูสิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตื่นเต้น โดยหอสมุดลอยฟ้าเป็นลักษณะอาคารทรงลูกบอลลูนที่ลอยอยู่กลางอากาศ

เนียมิ: แล้วเราจะขึ้นไปบนนั้นได้ยังไง

บาราม: เออ.. ฉันก็ไม่ค่อยได้มาที่นี่เท่าไหร่หรอกนะ แต่การจะขึ้นไปได้ พวกเราต้อง "โหนสลิง" ขึ้นไปน่ะ

บารามชี้ไปยังด้านใต้ของอาคารทรงบอลลูน ซึ่งมีเชือกสลิงห้อยลงมาอยู่หลายเส้น

มิมิ: อย่างนี้เอง งั้นเราก็รีบขึ้นไปกันเลยเถอะ

แล้วทั้งหมดก็เดินไปยังด้านใต้ของอาคารทรงบอลลูน เพื่อโหนสลิงขึ้นไปยังหอสมุดลอยฟ้า โดยทันทีที่ทั้งหมดขึ้นไปจับเชือกที่ห้อยอยู่ สลิงก็ค่อยๆ ดึงขึ้นไปเอง

แล้วทั้งหมดก็ขึ้นมาจนถึงภายในของหอสมุดลอยฟ้า ซึ่งภายในมีหนังสือต่างๆ เรียงรายอยู่บนชั้นวางหนังสือที่อยู่โดยรอบของห้องเต็มไปหมด ทำให้ดูอลังการด้วยเช่นกัน

มิมิ: โห้!! มีหนังสือเต็มไปหมดเลย!! (⊙o⊙)

บาราม: ดูเหมือนว่าเราจะต้องหาคำตอบจากหนึ่งในหนังสือที่อยู่ที่นี่นะ

เนียมิ: แล้วเราจะต้องหาจากหนังสือเล่มไหนล่ะ??

บาราม: อืม... ลองหาไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน

มิมิ: แต่ว่าที่นี่มีหนังสือเยอะมากเลยนะ ให้ไล่หาดูไปเรื่อยๆ แบบนี้ ไม่มีทางหาหมดได้ภายในวันเดียวแน่ๆ

แล้วเนียมิก็กวาดสายตามองหาหนังสือที่อยู่โดยรอบของห้อง ก่อนที่จะโหนตัวเข้าไปหาชั้นหนังสือที่อยู่ด้านหนึ่งของห้อง

เนียมิค่อยๆ ไล่ดูหนังสือเล่มต่างๆ ที่อยู่บริเวณนั้น พบว่าหนังสือส่วนใหญ่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเวทมนตร์แทบจะทั้งหมด

เนียมิ: มีแต่หนังสือเกี่ยวกับวิชาอาคมเต็มไปหมดเลยแฮะ แล้วเล่มที่เกี่ยวข้องกับ "เสียงแห่งสายลม" มันคือเล่มไหนกัน?

ในระหว่างที่เธอเลือกหาไปเรื่อยๆ เธอก็มาสะดุดตากับหนังสือเล่มหนึ่ง ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับ "บทเพลงเวทมนตร์"

เธอจึงหยิบมันขึ้นมาเปิดอ่านดู ก็พบว่าภายในมีเนื้อร้องของเพลงๆ หนึ่งอยู่ด้วย ซึ่งภายในเนื้อร้องมีเนื้อหาเกี่ยวกับการเรียกหาใครสักคนผ่านหุบเขาและสายลม

เนียมิ: เอ๊!? นี่มัน... Σ(⊙o⊙)

เมื่ออ่านเสร็จแล้ว เธอจึงตะโกนเรียกทันที

เนียมิ: นี่!! ดูเหมือนว่าฉันจะหาหนังสือที่เกี่ยวกับ "เสียงแห่งสายลม" เจอแล้วล่ะ!!

แล้วจากนั้นเนียมิจึงนำหนังสือเล่มดังกล่าวมาให้บารามอ่านดู เขาก็ถึงกับอึ้งในทันที

บาราม: นี่มัน... มันเหมือนกับ... เนื้อเพลงที่ฉันเคยได้ยินเมื่อตอนนั้นเลย!!

มิมิ/เนียมิ: เอ๊!? จริงเหรอค่ะ!?

บาราม: อืม!! ฉันก็จำเนื้อร้องของมันได้ไม่หมดนะ แต่เนื้อร้องที่เคยได้ยินรู้สึกจะมีเนื้อหาประมาณนี้แหละ!!

มิมิ: แล้ว..!! ถ้าเราลองใช้เนื้อร้องในนี้เป็น คำถามตะโกนที่หน้าหุบเขา เราก็อาจจะได้ยินเสียงแห่งสายลมสินะ??

บาราม: อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ ตอนนี้พวกเรารีบกลับไปลองกันดูเลยเถอะ!!

มิมิ/เนียมิ: โอ้!!

"ในที่สุด ก็หาเจอแล้วสินะ"

ก่อนที่ทั้งหมดจะโหนสลิงออกจากหอสมุดไป อยู่ๆ ก็มีเสียงเรียกของผู้หญิงดังขึ้นมาจากทางด้านบนของห้อง ทำให้บาราถึงกับสะดุ้ง เพราะเสียงที่เขาได้ยินนั้น เป็นเสียงที่ฟังดูคุ้นเคยมาก แล้วทั้งหมดจึงหันขึ้นไปมองดูทันที

แล้วจากนั้นที่ด้านบนของห้องก็ปรากฏแสงประหลาดออกมา พร้อมกับเงาของคนๆ หนึ่งที่ค่อยๆ ลอยลงมาหาพวกเขา

ทั้งสามจ้องมองสิ่งที่อยู่เบื้องบนด้วยความตกตะลึงแทบไม่วางสายตา

และในที่สุด แสงสว่างก็ค่อยๆ เลือนหายไป ทำให้เงาของบุคคลที่ลอยลงมาค่อยๆ ปรากฏให้เห็นถึงรูปร่างที่แท้จริง ซึ่งผู้นั้นเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีสีผิวออกเทาคล้ายกับบาราม

"ยินดีต้อนรับสู่หอสมุดลอยฟ้า และก็... ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ"

บาราม: อลินี่ (Alinie)...

มิมิ/เนียมิ: เอ๊...?

ทั้งสองรู้สึกแปลกใจที่บารามรู้จักอลินี่ ส่วนอลินี่ก็พลางยิ้มออกมาเล็กน้อย

บาราม: อลินี่ เธอมาอยู่ที่นี่เองเหรอ...

อลินี่: ใช่แล้วล่ะ...

มิมิ: หรือว่าความทรงจำอันแสนลึกลับของบารามที่กำลังตามหาอยู่ก็คือ...?

เนียมิ: อลินี่เองเหรอ...?

บาราม: ถูกต้องแล้วล่ะ นี่แหละ คือสิ่งที่ฉันกำลังตามหาอยู่มาโดยตลอดยังไงล่ะ! (^_<)

มิมิ: ว้าว!! (@^0^@) ยินดีด้วยนะที่ตามหาสิ่งที่ลืมเลือนหายไปเจอได้แล้ว ว่าแต่ เธอผู้นี้เป็นอะไรกับคุณงั้นเหรอ?

อลินี่: เขาเป็น... คนที่ฉันชอบที่สุดเอง

อลินี่ตอบแทนบาราม

มิมิ/เนียมิ: เอ๋?! อลินี่กับบารามเป็นแฟนกันงั้นเหรอ??

ทั้งสองอุทานออกมาด้วยความตกตะลึง

บาราม: ก็ไม่เชิงหรอกนะ จะให้เรียกอีกอย่างก็น่าจะเป็นเหมือนกับ "ลูกพี่ลูกน้อง" เห็นจะได้...

มิมิ: หมายความว่ายังไง?

อลินี่: ตอนเด็กๆ ฉันชอบมาเล่นด้วยกันกับเขาบ่อยมากเลยล่ะ และเขาก็ชอบมายืมหนังสือจากหอสมุดแห่งนี้ไปอ่านอยู่เป็นประจำอีกด้วย ...เออ เขาชอบอ่านเกี่ยวกับพวกเรื่องตำนาน และเวทมนตร์น่ะ

มิมิ: อ๋อ เข้าใจแล้ว เพราะอย่างนี้ก็เลยสนิทกันจนรู้สึกเหมือนเป็นลูกพี่ลูกน้องสินะคะ

บาราม: อืม!! ^_^ เธอเป็นบรรณารักษ์ที่ทั้งเก่งและก็น่ารักมากเลยล่ะ!!

เนียมิ: เอ๊!? เดี๋ยวนะ.. แล้วเรื่อง "เสียงแห่งสายลม" ที่เคยพูดถึงล่ะ?? หรือว่า... เสียงร้องเพลงที่บารามได้ยินตอนนั้นก็คือเสียงของอลินี่เอง?

อลินี่: ใช่แล้วจ๊ะ นั่นคือเสียงร้องเพลงของฉันเอง

บาราม/มิมิ/เนียมิ: เอ๋?! Σ(⊙o⊙)

ทั้งสามอุทานออกมาด้วยความตกตะลึง

อลินี่: ฉันชอบบทเพลงเวทมนตร์มากเลยล่ะ มันเป็นบทเพลงวิเศษที่เมื่อได้ร้องมันแล้ว จะสามารถส่งความรู้สึกต่างๆ ที่อยูู่ภายในเนื้อเพลงนั้นไปยัง "ผู้ที่ต้องการได้ยิน" ได้โดยตรงยังไงล่ะ

แล้วเนียมิก็ยกหนังสือบทเพลงเวทมนตร์ขึ้นมาเปิดดูเนื้อเพลงที่อยู่ด้านในอีกครั้ง

เนียมิ: งั้น... เรื่องของตำนานเสียงแห่งสายลม ก็เป็นเพียงแค่เรื่องที่สร้างขึ้นมาเอง... ด้วยเวทมนตร์งั้นสินะ

อลินี่: ไม่หรอก "เสียงแห่งสายลม" เป็นตำนานเล่าขานที่มีอยู่จริง

มิมิ/เนียมิ: เอ๊?

อลินี่: หากผู้ใดก็ตามที่ได้ร้องเพลงถามถึงสิ่งที่ตนเองรัก ตรงหน้าของหุบเหว ผู้นั้นจะได้พบกับสิ่งสมหวังที่กลายเป็นความจริง

แล้วเนียมิก็มองดูเนื้อหาภายในหนังสืออีกครั้ง

เนียมิ: จริงด้วย! แสดงว่าบทเพลงนี้ เป็นเพลงที่แต่งขึ้นเพื่อใช้ร้องตรงหน้าหุบเหวนั่นสินะ

อลินี่: ถูกต้องแล้วล่ะ!! ^_^

มิมิ: แล้วเรื่องที่บารามสูญเสียความทรงจำเกี่ยวกับอลินี่ไปล่ะ?

"ฉันเป็นคนทำมันเอง!"

อยู่ๆ ก็มีเสียงของผู้หญิงที่คุ้นหูดังขึ้นมาจากทางไหนไม่ทราบ มิมิกับเนียมิ จึงเริ่มระวังตัว

แล้วจากนั้นก็มีร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่ขี่สัตว์ประหลาดสีดำ-ม่วงรูปร่างคล้ายกับนกบินขึ้นมาจากด้านล่าง มาหาพวกเนียมิ ซึ่งเธอผู้นั้นก็คือ Sec นั่นเอง!!

[เพลงประกอบ BlackCat / BEXTER]

มิมิ/เนียมิ: เซ!!! Σ( °Д°)

เซ: ฮ่าๆๆ ได้ลองใช้พลังใหม่ มาเปลี่ยนแปลงความทรงจำของผู้อื่นนี่ก็สนุกดีเหมือนกันนะ ฮ่าๆๆ ♪(^∇^*)

มิมิ: "พลังใหม่" งั้นเหรอ!?

เซ: ใช่แล้ว!! ฉันได้อัปพลังใหม่มาจากลูกแก้วเวทมนตร์ของเจ้ากุญแจที่พวกเธอกำลังครอบครองอยู่นี้เองแหละ!

เนียมิ: หรือว่า...! คนทื่มาลอบขโมยลูกแก้วไปจากปราสาท ก็คือเธอเองสินะ?!

เซ: ยิ่งถามก็ยิ่งถูกเข้าไปใหญ่เลยล่ะ ฉันนี่แหละเป็นคนที่ขโมยลูกแก้วจากกุญแจนั่นไปเอง!! ฉันพยายามเรียกพลังจากลูกแก้วเพื่อให้มาพาวเวอร์อัปกันฉัน แต่ว่าตัวลูกแก้วดันเกิดปฏิเสธการตอบรับการพาวเวอร์อัปและได้แตกตัวเองออก แล้วชิ้นส่วนของลูกแก้วก็กระจายลอยออกหายไปกับอากาศ ...แต่ว่าฉันก็ยังคงได้รับพลังจากลูกแก้วมาบางส่วนอยู่ดี ฉันก็เลยลองใช้เจ้านี้เป็นหนูทดลองยังไงล่ะ!! ฮ่าๆๆ ♪(^∇^*)

มิมิ: เนียมิจัง!!

มิมิหันมาทางเนียมิด้วยสายตาจริงจัง

เนียมิ: อืม!!

เนียมิพยักหน้าตกลง

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ยกแขนข้างที่สวมกำไลแปลงร่างขึ้นมา แล้วตะโกนว่า

มิมิ/เนียมิ: "ป๊อปปินแปลงร่าง!!"

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็แปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์ส

แต่เมื่อหลังจบบทแปลงร่างแล้ว ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะลืมตัวนึกว่ากำลังยืนอยู่บนพื้น ทำให้ทั้งสองจึงรีบหาทางเกาะเชือกสลิงไว้ และเมื่อจับไว้ได้แล้วทั้งสองก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เซ: ฮ่าๆๆ (@^0^@) สถานที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่งจริงๆ !! คราวนี้ฉันจะไม่ออมมือให้แน่!!

แล้วจากนั้นเซก็เริ่มโจมตีทั้งสองด้วยสัตว์ประหลาดที่ขี่อยู่ สัตว์ประหลาดปล่อยคลื่นพลังสีดำออกมาจากปาก

ทั้งสองกระโดดหนีไปเกาะเชือกเส้นอื่นได้อย่างทันควัน

อลินี่: นี่มันอะไรกันน่ะ??

อลินี่เริ่มเสียสติ

ป๊อปพีช: พวกคุณรีบไปหาที่ปลอดภัยก่อน เดี๋ยวพวกเราจัดการทางนี้เอง!!

บาราม: อะ อืม!!

แล้วบารามก็ตัดสินใจโหนตัวลงไปยังพื้นล่าง ส่วนอลินี่ก็โหนกลับขึ้นไปข้างบน

สัตว์ประหลาดหันมาโจมตีป๊อปเปอร์สอย่างต่อเนื่อง โดยที่ทั้งสองไม่มีโอกาสโจมตีกลับได้เลย เพราะเมื่อพยายามกระโดดเข้าไปหาสัตว์ประหลาดสักกี่ครั้ง สัตว์ประหลาดก็สามารถพุ่งตัวหลบได้ตลอด

ป๊อปเลิฟ: หนอย... พวกเราบินไม่ได้ซะด้วย ก็เลยทำอะไรมันไม่ได้ซักกะอย่าง!!

เซ: ฮ่าๆๆ (@^0^@) เห็นหรือยัง นี่คือพลังที่ฉันพาวเวอร์อัปมาได้ยังไงล่ะ!! ฮ่าๆๆ ♪(^∇^*)

แล้วจากนั้นป๊อปพีชก็พยายามมองหาสิ่งรอบตัวที่น่าจะนำมาใช้โจมตีสัตว์ประหลาดได้ แล้วจากนั้นเธอก็เห็นสิ่งหนึ่งที่น่าจะใช้ได้ ซึ่งอยู่ที่ยอดเพดานของหอสมุด มันคือกลไกเฟืองที่ใช้ขับเคลื่อนสายสลิงเส้นต่างๆ

ป๊อปพีช: ป๊อปเลิฟ!! เธอช่วยขึ้นไปหมุนเฟืองที่อยู่บนนั้นให้ที!! ฉันจะลองเอาสลิงพวกนี้มาใช้กับสัตว์ประหลาดดู

ป๊อปเลิฟ: ได้เลย!!

แล้วป๊อปเลิฟก็โผนขึ้นไปด้านบนอย่างรวดเร็ว เพื่อไปหมุนกลไกควบคุมสลิงที่อยู่บนนั้น

และหลังจากที่หมุนกลไกแล้ว ก็มีเชือกสลิงห้อยลงมาเป็นจำนวนมาก แล้วป๊อปพีชก็กระโจนไปโดยรอบเพื่อพยายามนำสลิงเส้นต่างๆ มามัดเข้ากับสัตว์ประหลาด

และหลังจากที่มัดเสร็จเรียบร้อยจนสัตว์ประหลาดขยับตัวไม่ได้แล้ว

ป๊อปพีช: สำเร็จ...?

สักพักสัตว์ประหลาดก็ทะลายเชือกทั้งหมดจนหลุดออกจากพันธนาการได้

ป๊อปพีช: เอ๋...!? ( ̄_ ̄|||)

เซ: ฮ่าๆๆ (@^0^@) สุดยอดไปเลยจริงๆ พลังใหม่ของข้า!! ...เอาล่ะ ลองรับนี่ไปซะ!!

แล้วจากนั้นสัตว์ประหลาดก็อ้าปากออกเพื่อชาร์ตพลังบางอย่าง ก่อนที่จะปล่อยลูกพลังสีดำขนาดใหญ่ออกมาจากปาก

ลูกบอลพลังได้พุ่งเข้าใส่ร่างของป๊อปพีชเข้าอย่างจัง ทำให้เธอลอยกระเด็นไปติดกับตู้หนังสือซึ่งเป็นขอบห้อง ก่อนที่ร่างของเธอจะร่วงลงในเวลาต่อมา

ป๊อปเลิฟ: พีชชชช!!! (゚Д゚*)

ป๊อปเลิฟที่โหนสลิงอยู่บนยอดห้องตะโกนด้วยความตกใจ

ร่างของป๊อปพีชร่วงลงไปยังเบื้องล่างด้วยความรวดเร็ว โดยที่เธอไม่สามารถทำอะไรได้เลย...

เซ: ฮ่าๆๆ (@^0^@) อีกไม่นานเจ้าก็จะได้ลาโลกนี้แล้ว

เซมองดูป๊อปพีชร่วงลงไปด้วยความสะใจ

ไม่นานนัก ป๊อปพีชก็ร่วงจนหลุดออกมาจากหอสมุดลอยฟ้า ความรู้สึกของเธอในตอนนั้นคือ เธอคิดว่าวิญญาณของเธอได้หลุดลอยออกไปจากร่างแล้ว...

ป๊อปพีช: (ลาก่อนนะ... มิมิจัง... ขอให้เธอเป็นแชมป์ในการแข่งทัวร์นาเมนต์ให้ได้นะ...)

และหลังจากที่ร่างของเธอร่วงลงไปได้อีกสักพักหนึ่ง อยู่ดีๆ เธอก็รู้สึกเหมือนกับร่างของเธอได้หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ โดยที่ไม่ร่วงต่อไปอีก...

ป๊อปพีช: เอ๊?? (⊙_⊙;)?

เมื่อเธอตั้งสติได้ เธอจึงพยายามมองรอบๆ ตัว

แล้วจากนั้นเธอก็พบว่ามีสิ่งมีชีวิตประหลาดแบกตัวเธอไว้อยู่

"รับไว้ได้ทันพอดีเลย (^///^)"

ป๊อปพีช: คุณเป็นใครกันน่ะ? (⊙_⊙;)

"ข้าก็คือ... ภูตแห่งสายลมยังไงล่ะ!"

สิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายกับก้อนเมฆแนะนำตัว

ป๊อปพีช: ภูตแห่งสายลม... หรือว่าคุณก็คือ... เจ้าของตำนาน "เสียงแห่งสายลม" ที่เล่าขานกัน!?

"ใช่แล้ว! ข้านี่แหละเป็นผู้ที่คอยขับขานบทเพลงแห่งสายลมให้กับ "ผู้ที่มีปัญหาในด้านความหวัง" ที่บริเวณหุบเหวเองไง! ซึ่งหากผู้ใดที่ได้ยินเสียงขับร้องของข้า ผู้นั้นจะได้รับพลังที่ช่วยทำให้ความหวังนั้นๆ บรรลุผลยังไงล่ะ!"

ป๊อปพีช: เอ๊!? หรือว่าในตอนนั้นที่คุณเคยร้องเพลงแห่งสายลมให้กับผู้ชายคนหนึ่ง ก็เพราะต้องการจะบอกอะไรเกี่ยวกับความทรงจำของเขาที่ "ถูกลบออกไป" สินะคะ

"ถูกแล้วล่ะ! และเสียงที่เจ้าเคยได้ยินเมื่อตอนอยู่ที่น้ำตก นั่นก็คือเสียงของข้าเองแหละ"

ป๊อปพีช: เอ๊!? จริงเหรอคะ?? (⊙_⊙)?

"อืม!! (∩_∩) โคนหินที่อยู่กลางบ่อน้ำนั่น เป็นที่สิงสถิตของข้าเอง!"

*****************************************************

【ย้อนความเมื่อตอนอยู่ที่น้ำตก】

เนียมิหยิบหินก้อนเล็กๆ ที่อยู่บนพื้นข้างๆ เธอ มาขว้างไปยังหินงอกที่อยู่ตรงกลางบ่อ แล้วบนพื้นผิวน้ำตรงจุดนั้น ได้เกิดภาพของเงาบางอย่างขึ้นมาลางๆ

"เจ้ากำลังตามหาคำตอบของสายลมอยู่ใช่ไหม?"

อยู่ๆ ก็มีเสียงประหลาดดังขึ้นมาจะทางไหนไม่รู้ ทำให้ทั้งสองสะดุ้งทันที

"เจ้าต้องไปที่ "หอสมุดลอยฟ้า" แล้วเจ้าจะพบกับคำตอบเอง"

เสียงประหลาดของผู้หญิงดังขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่เงาบนผิวน้ำจะหายไป

*****************************************************

แสดงว่าตอนนั้น คุณ... ไม่สิ "ท่าน" ต้องการจะสื่อให้พวกเราไปช่วยบารามเองสินะ

"ถูกต้องแล้วล่ะ! (∩_∩) เพราะข้ารับรู้ได้ถึงคุณธรรมความดีของพวกเจ้าที่เคยสั่งสมไว้ ข้าจึงได้สื่อสานกับพวกเจ้าเพื่อให้การช่วยเหลือไงล่ะ!"

ป๊อปพีช: อย่างนี่นี้เอง

"เอาล่ะ เพื่อเป็นการตอบแทนในเรื่องที่พวกเจ้าช่วยชายผู้นั้นไว้ให้ได้พบกับความทรงจำที่หลุดหายไปอีกครั้ง ข้าจะขอมอบพลังบางอย่างให้กับพวกเจ้า..."

ป๊อปพีช: เอ๊!? (⊙_⊙)?

แล้วจากนั้นก็เกิดแสงสว่างขึ้นที่ถุงมือและรองเท้าของเธอ และหลังจากที่แสงสว่างหายไป เธอก็พบว่าบริเวณขอบถุงมือมีสายคาดแปลกๆ เพิ่มขึ้นมา

ป๊อปพีช: นี่มัน...

"ถุงมือป๊อปเปอร์สของเจ้าได้รับการพาวเวอร์อัปแล้ว หลังจากนี้เจ้าจะสามารถใช้พลังใหม่จากถุงมือในการต่อสู้ได้"

ป๊อปพีช: โห้!! สุดยอดไปเลย (*°▽°*) ได้อัปเกรดพลังใหม่กับเขาด้วยแฮะ ...แล้วป๊อปเลิฟล่ะ??

"ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวข้าจัดการให้อยู่แล้ว!!"

แล้วจากนั้นภูตแห่งสายลมก็ปล่อยลูกพลังสีขาว-ทองขึ้นไปยังบนหอสมุดลอยฟ้า แล้วลูกพลังนั้นก็ได้พุ่งเข้าไปใส่กลางเข็มกลัดที่อยู่ตรงอกของป๊อปเลิฟ แล้วจากนั้นเธอก็ได้รับพลังใหม่แบบเดียวกันด้วยเช่นกัน ซึ่งป๊อปเลิฟก็รู้สึกงงเล็กน้อย

"เอาล่ะ เท่านี้ก็สู้กับพลังใหม่ของเซได้อย่างสูสีแล้ว ขอให้พวกเจ้าโชคดีนะ!!"

แล้วจากนั้นภูตแห่งสายลมก็จางหายไป ทำให้เธอตกใจทันที เพราะผู้ที่เคยรับตัวเธอไว้ได้หายไปแล้ว ทำให้เธอพยายามตะเกียกตะกายอยู่กลางอากาศด้วยความโกลาหล

แต่เมื่อตั้งสติได้และลองสังเกตอีกที พบว่าเธอนั้นลอยนึ่งอยู่กลางอากาศได้โดยที่ไม่ร่วงลงไปยังด้านล่างแต่อย่างใด...

และเมื่อเธอลองมองดูที่บริเวณรองเท้าของเธอ พบว่ารองเท้าได้เปลี่ยนเป็นโรลเลอร์เบลดที่มีแสงออร่าสีฟ้ารูปร่างปีกติดอยู่ด้านข้างของโรลเลอร์เบลด

ป๊อปพีช: โห้!! รองเท้าก็ได้อัปเกรดด้วยแฮะ... แสดงว่าเจ้านี่ทำให้เราบินได้สินะ! ^_^ ...ดีล่ะ!

แล้วจากนั้นป๊อปพีชก็บินพุ่งตัวกลับขึ้นไปยังหอสมุดอีกครั้ง ด้วยความเร็วสูง

จากนั้น เซที่กำลังจะเตรียมตั้งท่าเก็บป๊อปเลิฟเป็นรายต่อไป

เซ: เอาล่ะ คราวนี้ถึงตาเจ้าบ้างแล้ว!!

ป๊อปเลิฟพลางกลืนน้ำลายตัวเอง เพราะเธอเองก็ไม่แน่ใจว่า จะสู้ต่อด้วยตัวคนเดียวไหวไหม

แล้วในทันใดนั้นเอง ป๊อปพีชก็ได้พุ่งเข้ามาต่อยสัตว์ประหลาดจากด้านล่างอย่างเต็มแรง โดยพุ่งเข้ามาในลักษณะคล้ายกับดาวหางพุ่งเข้าใส่ จนทั้งสัตว์ประหลาดและเซพุ่งขึ้นไปอัดติดกับเพดาน

ป๊อปพีช: ฮะฮ้า!! พลังใหม่นี่ ยอดเยี่ยมไปเลยจริง!! \^o^/

ป๊อปเลิฟ: พีช!! (⊙_⊙;)

ป๊อปเลิฟโหนสลิงเข้ามาหาป๊อปพีชด้วยความเป็นห่วง

ป๊อปเลิฟ: เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอเหรอ?? และเมื่อกี้อยู่ๆ ก็มีแสงอะไรไม่รู้พุ่งเข้ามาหาฉันด้วยล่ะ!!

ป๊อปพีช: ตอนที่ร่วงลงไปจนเกือบจะถึงพื้นอยู่ๆ ก็มี "ภูตแห่งสายลม" มารับตัวฉันไว้ แล้วเขาก็มอบพลังใหม่นี่ให้กับพวกเรายังไงล่ะ!!☆

ป๊อปเลิฟ: พลังใหม่งั้นเหรอ?? แล้วภูตแห่งสายลมมันคืออะไรกันน่ะ...?

ป๊อปพีช: เดี๋ยวไว้ฉันเล่าทีหลังแล้วกัน ตอนนี้พวกเรารีบไปจัดการกับเซกันเถอะ!

ป๊อปเลิฟ: อือ!!

แล้วจากนั้นป๊อปพีชก็บินพุ่งขึ้นไปหาเซที่ติดอยู่บนเพดาน

ป๊อปเลิฟ: เดี๋ยวก่อนสิ!! แล้วฉันล่ะ??

ป๊อปพีช: ตอนนี้เธอก็บินได้แล้วนะ ลองดูที่เท้าสิ!!

แล้วป๊อปเลิฟก็สังเกตดูที่รองเท้า พบว่ารองเท้าได้เปลี่ยนเป็นโรลเลอร์เบลด "ป๊อปเปอร์สปีดเดอร์" แล้วเช่นกัน

จากนั้นป๊อปเลิฟจึงลองกระโดดออกจากสายสลิง พบว่าเธอบินได้แล้วจริงๆ เช่นกัน

ป๊อปเลิฟ: ว้าว!! บินได้แล้วจริงๆ ด้วยแฮะ งั้นเดี๋ยวฉันจะตามไปช่วยเดี๋ยวนี้ล่ะ!!

แล้วป๊อปเลิฟก็บินตามป๊อปพีชที่ขึ้นไปก่อนหน้า

จากนั้นเซและสัตว์ประหลาดก็หลุดออกจากจุดที่ติดอยู่ และในขณะเดียวกับทั้งสองก็ได้บินขึ้นมาหาพอดี

เซ: ไม่จริงน่ะ!? ทำไมพวกเจ้า...??

ป๊อปพีช: ฮะฮ้า!! คราวนี้ก็สู้กันได้อย่างแฟร์ๆ แล้วนะ (∩_∩)

เซ: เป็นไปไม่ได้... ทำไมพวกเจ้าถึงบินได้แล้วล่ะ?? (⊙_⊙;)

ป๊อปเลิฟ: ก็เพราะ "ธรรมะย่อมชนะอธรรม" ยังไงล่ะ!! ..เอาละนะ!

ป๊อปเลิฟหันมาทางป๊อปพีช

ป๊อปพีช: อืม!!

แล้วจากนั้นทั้งสองก็นำแขนข้างหนึ่งมาประกบกันด้านข้างซึ่งกันละกัน แล้วมือข้างที่ประกบแขนกันก็เกิดแสงขึ้นมา เป็นการชาร์ตพลังเพื่อเตรียมปล่อยท่าไม้ตาย โดยแขนของพวกเธอชูตรงไปที่สัตว์ประหลาด

ป๊อปเลิฟ/พีช: "ป๊อปปินอิมแพ็ค ไฮเปอร์" !!!

จากนั้นก็เกิดลำแสงสีฟ้าและชมพูขนาดใหญ่ม้วนกันเป็นเกลียวพุ่งเข้าไปเผด็จศึกสัตว์ประหลาด ส่วนเซก็กระเด็นจนลอยออกไปนอกโลก

เซ: หนอย!! ฝากไว้ก่อนเถอะ!! (╬▔皿▔)╯

เซกล่าวก่อนที่จะลอยจนหายไป

--------------------------------------------------------------------------------

เวลาผ่านไป หลังจากที่ทั้งสองได้กลับร่างเดิม ทั้งหมดก็ลงมายังพื้นด้านล่าง ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาช่วงตกเย็นแล้ว

อลินี่: ไม่รู้ว่าเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ขอบคุณที่ช่วยปกป้องหอสมุดไว้นะ ^_^

เนียมิ: แฮะๆ o(* ̄▽ ̄*)ブ ที่จริงแล้วนั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรานะ

บาราม: แต่ฮีโร่สาวน้อยเมื่อกี้นี้ มันดูเหมือนพวกเธอมากเลยนะ

มิมิ: ก็แค่บังเอิญคล้ายกันเท่านั้นเองเนอะ

เนียมิ: อืม!!

มิมิหันมาทางเนียมิ ส่วนเนียมิก็พยักหน้า

บาราม: เพื่อเป็นการขอบคุณที่ช่วยให้ผมได้พบกับสิ่งที่หายไปอีกครั้ง ฉันให้นี่นะ

แล้วบารามก็นำสิ่งของบางอย่างออกมามอบให้กับทั้งสอง

มิมิ/เนียมิ: นี่มัน...!!

อลินี่: "เศษลูกแก้วเวทมนตร์" น่ะ ฉันหามันเจอตอนช่วงที่ป๊อปเปอร์สออกมาสู้กับสัตว์ประหลาดน่ะ

เนียมิ: โห้!! จริงเหรอเนี่ย!? ขอบคุณมากนะ!! (∩_∩)

แล้วเนียมิก็นำเศษลูกแก้วเวทมนตร์ชิ้นแรกมาใส่ยังร่องที่อยู่บนซิลลี่คีย์



มิมิกับเนียมิ ได้รับสแตมป์ดวงที่ 1 เรียบร้อยแล้ว!!

มิมิ: ในที่สุด พวกเราก็ได้เศษลูกแก้วชิ้นแรกแล้วนะ (∩_∩)

เนียมิ: อืม!! ฉันชักอยากจะรีบตามหาอีก 4 ชิ้นที่เหลือให้เจอเร็วๆ แล้วสิ *^____^*

จากนั้นก็ได้เวลาที่ทั้งสองต้องจากลา

อลินี่: แล้วพบกันใหม่นะ!!

อลินี่ตะโกนบอกลาทั้งสองที่กำลังเดินจากไป ส่วนเนียมิก็หันกลับมามองและโบกมือเพื่อเป็นการตอบรับ

เนียมิ: เอาล่ะ พรุ่งนี้พวกเราต้องหาเศษลูกแก้วอีกชิ้นให้เจอให้ได้เลยนะ!

มิมิ: อืม!! (*^_^*)

แล้วในทันใดนั้น อยู่ๆ ก็มีเสียงประหลาดดังขึ้นมา ซึ่งเสียงนั้นก็คือ เสียงขับขานบทเพลงของภูตแห่งสายลมนั่นเอง!

===== POP'N MUSIC =====
風にお願い / Forte Escape

ซึ่งทุกคนทั้ง มิมิ เนียมิ บาราม และอลินี่ ต่างก็ได้ยินเสียงเพลงได้อย่างชัดเจน เป็นเสียงร้องที่มีความไพเราะเป็นอย่างมาก และเนื้อเพลงก็ชวนให้รู้สึกราวกับล่องลอยไปกับสายลมเช่นกัน
===== END MUSIC =====

เนียมิ: ดูเหมือนว่าภูตแห่งสายลมต้องการจะขอบคุณพวกเรานะ

มิมิ: อืม!! เป็นบทเพลงที่พอได้ฟังแล้ว ก็รู้สึกเหมือนได้รับพลังบางอย่างที่แกร่งกล้ามาเลยล่ะ!! (*^_^*)

และแล้วทั้งสองก็ได้เริ่มมุ่งหน้าไปยังสถานที่ถัดไปเพื่อตามหาเศษลูกแก้วเวทมนตร์ชิ้นที่ 2 แล้วจุดหมายต่อไปจะเป็นสถานที่แบบไหนกันแน่นะ!?




>>>>> TO BE CONTINUED <<<<<