3 กันยายน 2565

pop'n music RESPECT : STAGE 33 「โบยบินดั่งฟากตะวัน」

วันรุ่งขึ้น ทั้งสองกำลังมุ่งหน้าไปยังสถานที่ถัดไปของภารกิจตามหาเศษลูกแก้วเวทมนตร์ ซึ่งในอีกไม่นานก็จะถึงจุดหมายแล้ว!

มิมิ: นี่ เนียมิจัง

เนียมิ: มีอะไรเหรอจ๊ะเพื่อนรัก? (゜▽゜*)♪

มิมิ: เมื่อวานนี้เธอไปทำอะไรมาถึงได้ไปโดนขังอยู่ในโลกประหลาดนั่นล่ะ?

เนียมิ: เอ๊!? อะไรนะ?? (´・ω・`)?

มิมิ: อ้่าว! จำไม่ได้เหรอ? ก็เมื่อวานนี้เธอถูกขังอยู่ในกรงนั่นไง..!

เนียมิ: เอ๊? ฉันไม่ได้โดนขังเลยนะ ตอนที่เข้าไปโลกนั้นกับไทม์เมอร์ ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนที่ได้เจอกับมิมิ ฉันไม่ได้่ไปโดนขังที่ไหนในโลกนั้นเลยจริงๆ นะ!

มิมิ: งั้นก็แสดงว่าเนียมิจังที่ฉันเห็นในตอนนั้นเป็นตัวปลอมสินะ ปะโธ่... (;´д`)

เนียมิ: ตัวปลอม??

มิมิ: อืม!! ตอนที่ฉันเข้าไปที่โลกนั้น มีอยู่มิติหนึ่ง ฉันได้เจอเธอที่เป็นตัวปลอมถูกขังอยู่ในกรงด้วยล่ะ!

เนียมิ: เอ๊!? โดนขังงั้นเหรอ??

มิมิ: ใช่! ที่ๆ ฉันไปเจอเธอในตอนแรกนั้นเป็นสถานที่ๆ มีแต่ความมืดมิด ไม่มีแสง ไม่มีสิ่งใดเลย นอกจากทางเดินที่ทอดยาวไปเรื่อยๆ เท่านั้น และพอฉันเดินจนมาสุดทาง ฉันก็ได้เจอกับเธอที่โดนขังนี่แหละ เธอร้องขอความช่วยเหลือจากฉัน ฉันจึงเลยเข้าไปช่วย แต่ว่าฉันกลับโดนส่งไปอยู่ในมิติอื่นแทน ...แต่ก็ช่างเถอะ มันเป็นแค่มิติแห่งความฝันเท่านั้นเอง..! ^_^

เนียมิ: แล้วมิติที่มิมิไปมา มีอะไรบ้างเหรอ??

มิมิ: นอกจากมิติที่เจอเธอนั้น เป็นความลับ! ヾ(≧ ▽ ≦)ゝ

เนียมิ: เอ๋?? บอกกันหน่ิอยไม่ได้เหรอ..? (´・ω・`)?

มิมิ: ไม่ได้ก็คือไม่ได้สิ!! (p≧w≦q)

มิมิตอบด้วยสีหน้าแดงราวกับเขินอะไรอยู่

เนียมิ: นั่นแน่ะ! แสดงว่าไปเจอเรื่องอะไรดีๆ จากในนั้นมาสินะ?

มิมิ: ก็บอกว่าไม่มีอะไรยังไงเล่า!! `(*≧﹏≦*)′

เนียมิ: ฮ่าๆๆ (。^▽^) ถ้างั้นฉันเองก็ไม่บอกด้วยเหมือนกันดีกว่า ถือว่าวินๆ กันนะ!

มิมิ: อะ อืม! ก็ได้ (*^_^*)

--------------------------------------------------------------------------------


STAGE 33
「โบยบินดั่งฟากตะวัน」

--------------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่ทั้งสองเดินมาได้สักพัก ในที่สุดก็มาถึงเมือง "แฮปปี้ทาวน์" ซึ่งเป็นสถานที่ของภารกิจตามหาเศษลูกแก้วเวทมนตร์ชิ้นที่ 4

ตัวเมืองมีลักษณะเป็นเมืองเล็กๆ มีอาคารบ้านเรือนเป็นสไตล์ยุโรปคล้ายกับเมืองหลวงของอาณาจักรเทพนิยาย แต่ขนาดของเมืองไม่ใหญ่มากนัก อาคารส่วนใหญ่สูงเพียงแค่ 2 ชั้นเท่านั้น และให้ความรู้สึกกึ่งๆ เมืองแทบชนบทเล็กน้อย

แต่ทว่า.. ทันทีที่เดินเข้ามาภายในตัวเมือง พบว่าที่นี่ไม่มีใครอาศัยอยู่เลยแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนหรือร้านค้าต่างๆ ก็ไม่มีใครอยู่เลย แม้แต่คนที่เดินสัญจรไปมาก็ไม่มีเช่นกัน

มิมิ: ทำไมเมืองนี้มัน...?

เนียมิ: ไม่มีใครอยู่เลย??

บรรยากาศโดยรวมเงียบสงัด มีเพียงแค่สายลมที่โชยมาเป็นระยะๆ เท่านั้น ให้ความรู้สึกที่เคว้งคว้าง

มิมิ: ฉันว่าเมืองนี้มันแปลกๆ นะ?

เนียมิ: นั่นสิ มันต้องมีสาเหตุอะไรสักอย่างแน่ๆ เลยล่ะ!

จากนั้นมิมิก็นำแผนที่กระดาษที่ได้รับจากไดโนออกมาดู

มิมิ: อืม! พวกเรามาถูกที่แล้วล่ะ ที่นี่คือ "แฮปปี้ทาวน์" สถานที่ๆ มีเศษลูกแก้วเวทมนตร์ชิ้นที่ 4 ซ่อนอยู่ ...แต่เพราะอะไรกันนะ เมืองมันถึงได้เงียบฉี่อย่างนี้??

เนียมิ: ฉันว่าพวกเราเดินหาเศษลูกแก้วกันแบบจริงจังไปเลยดีกว่า เพราะนี้คือเป้าหมายหลักของพวกเรานะ!

มิมิ: อืม! นั่นสินะ บางเรื่องน่ะ ถ้าไม่รู้มันอาจจะดีกว่าก็ได้

แล้วจากนั้นทั้งสองก็มุ่งหน้าสำรวจเมืองกันต่อไป เพื่อหาเศษลูกแก้ว

หลังจากที่เดินสำรวจมาได้ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง อยู่ๆ เนียมิก็สัมผัสกับกลิ่นแปลกๆ ที่มาจากทิศทางหนึ่ง เธอจึงหยุดดมอยู่สักพัก

เนียมิ: ฉันได้กลิ่นแปลกๆ ด้วยล่ะ!

มิมิ: เอ๊!? ได้กลิ่นเหรอ...?

เนียมิ: อืม! มันเป็นกลิ่นเหม็นเปรี้ยวน่ะ...

แล้วจากนั้นเนียมิก็หันหน้าไปทางที่กลิ่นโชยมา ซึ่งสายควันกลิ่นที่มองเห็นแต่เฉพาะผู้ชมนี้ลอยออกมาจากบ้านสองชั้นหลังหนึ่งที่อยู่ข้างทาง

เนียมิ: รู้สึกว่ากลิ่นจะมาจากบ้านหลังนั้นน่ะ พวกเราลองเข้าไปดูกันเถอะ

จากนั้นทั้งสองจึงลองเดินเข้าไปยังบ้านหลังนั้น

เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายใน ทั้งสองก็ได้กลิ่นเหม็นเปรี้ยวจากภายในอย่างชัดเจน จนมิมิต้องปิดจมูกไว้

มิมิ: หืม!! กลิ่นแรงชะมัด `(*>﹏<*)′

แต่เมื่อเนียมิสังเกตดู พบว่ากลิ่นนั้นมาจากสุนัขขนฟูตัวหนึ่งที่นอนอยู่เบื้องหน้า

เนียมิ: นั่นมัน...!! Σ( °o °)

สุนัขที่เธอเห็นเป็นสุนัขประหลาดรูปร่างตัวใหญ่มีขนสีฟ้าที่ฟูฟ่องและมีใบหูยาวคล้ายกับกระต่าย ซึ่งกำลังอยู่ในสภาพนอนหลับ?

เนียมิ: สุนัข... นี่มันสุนัขอะไรกันเนี่ย?? (ไม่เคยเห็นสายพันธุ์นี้เลย)

มิมิ: หรือว่าสุนัขตัวนี้จะ...?? (หวังว่าคงไม่เป็นอย่างนั้นนะ)

จากนั้นเนียมิจึงลองเดินเข้าไปจับสุนัขยักษ์ตัวนั้นเพื่อเช็ดชีพจร พบว่ายังมีชีวิตอยู่

เนียมิ: มันยังไม่ตายนะ แต่ดูเหมือนว่ากำลังจะใกล้ตายเพราะหิวโซน่ะ

มิมิ: งั้นพวกเราก็ลองนำกลับไปพักที่มายแคมป์กันก่อนดีกว่า อาจจะพอช่วยอะไรได้บ้าง

เนียมิ: โอเค!!

จากนั้นทั้งสองจึงช่วยกันนำสุนัขยักษ์ตัวนั้นไปพักฟื้นที่มายแคมป์ของพวกเธอ

--------------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่นำสุนัขยักษ์สีฟ้าเข้ามาพักในมายแคมป์แล้ว มิมิจึงจัดการป้อนนมให้ก่อน แล้วตามด้วยใช้สเปรย์ทำความสะอาดขนฉีดให้อีกทีเพื่อดับกลิ่นเหม็น

มิมิ: อืม! เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วล่ะ! เดี๋ยวอีกสักพักก็คงฟื้นแล้ว

เนียมิ: มิมิจังนี่เธอเก่งอย่างกับเป็นแม่บ้านศรีเรือนจริงๆ เลยนะ!

มิมิ: ก็นะ... แฮะๆๆ *^____^*

เนียมิ: งั้นในระหว่างนี้พวกเราก็ไป เออ... ยังหาเศษลูกแก้วต่อไม่ได้สินะ งั้นเล่นเกมรอกันก่อนดีกว่า

มิมิ: ได้เลย!!

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ไปนั่งเล่นเกมทีวียังมุมพักผ่อนของห้อง (จุดที่สุนัขอยู่ อยู่ในมุมห้องครัว)

แต่ทว่าหลังจากที่ออกจากมุมห้องครัวไปได้ไม่นาน สุนัขยักษ์ก็ได้ตื่นขึ้นมา...

สุนัขตัวนี้พยายามรื้อตู้เย็นเพื่อหาอะไรกินจากด้านใน...

และเวลาผ่านไปได้สักพัก อยู่ๆ ก็มีเสียงกระแทกดังขึ้นมาอย่างแรงตรงมุมห้องครัว ทั้งคู่จึงรีบกลับไปดู

ก็พบว่าห้องครัวอยู่ในสภาพที่เละไม่เป็นท่า และสุนัขตัวนั้นได้หายไปแล้ว

เนียมิ: มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?? ∑(°ロ°)

แล้วมิมิก็สังเกตเห็นรอยรั่วเป็นรูขนาดใหญ่อยู่บนเพดาน

มิมิ: สุนัขหายไปซะแล้ว แต่ว่าบนนั้นแตกเป็นรูโหว่เลยล่ะ!

เนียมิ: หรือว่าสุนัขตัวนั้นจะ...?

มิมิ: อืม!! มันอาจจะ "บิน" หนีออกไปก็ได้ พวกเรารีบออกตามหากันเถอะ!!

จากนั้นทั้งสองจึงวิ่งออกจากเต็นท์มายแคมป์เพื่อตามหาสุนัข

ทั้งสองวิ่งไปตามเส้นทางบริเวณนอกเมืองซึ่งโดยรอบเป็นพื้นที่ธรรมชาติ

เนียมิ: มิมิจัง แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่ามันไปที่ไหน?

มิมิ: ฉันคิดว่าถ้าหากมันบินได้จริงๆ ละก็ ลองออกมาหาบริเวณนอกเมืองดูอาจจะเจอง่ายกว่าก็ได้

ทั้งสองวิ่งไปในขณะที่แหงนมองบนฟ้าไปด้วย

แต่หลังจากที่วิ่งมาได้สักพัก อยู่ๆ มิมิก็วิ่งเข้าไปชนกับคนๆ หนึ่งโดยที่ไม่ทันได้มองเห็น

เนียมิ: มิมิจัง!! Σ( °Д°)

เนียมิที่เพิ่งรู้ตัวในภายหลังได้หยุดวิ่งแล้วรีบหันกลับมามอง พบว่าทั้งสองฝ่ายคว่ำลงไปนอนกับพื้น

มิมิ: โอ้ยๆๆ ...

มิมิค่อยๆ ลุกขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ส่วนเนียมิรีบวิ่งกลับมาดู

เนียมิ: ไม่เป็นไรนะ?

มิมิ: อืม!!

ส่วนอีกฝั่งก็ค่อยๆ ลุกขึ้นมาเช่นกัน

มิมิ: ฉันขอโทษนะที่วิ่งโดยไม่ได้มองทาง... <(_ _)>

มิมิกล่าวขอโทษกับคนที่ถูกวิ่งชนซึ่งเป็นเด็กผู้ชาย

"Σ( °_°) พวกพี่มาทำอะไรกันแถวนี้เหรอ?"

เด็กผู้ชายคนที่ถูกมิมิวิ่งชน ถามคำถามบางอย่างออกมา

เนียมิ: คือว่าพวกเรากำลังตามหาสุนัขตัวใหญ่ๆ สีฟ้าๆ อยู่น่ะ เธอพอจะเห็นบ้างไหม?

จากคำตอบนี้ทำให้เด็กผู้ชายถึงกับสะดุ้งออกมาเล็กน้อย

"Σ( °_°) สุนัขตัวสีฟ้าเหรอ??"

เนียมิ: อืม! รู้สึกว่ามันจะบินได้ด้วยนะ

"ไม่จริงน่ะ!? พวกพี่แอบเข้าไปปล้นสะดมที่ "บ้านเก่า" ของผมเหรอ??"

มิมิ/เนียมิ: เอ๊?? (⊙_⊙)?

ทั้งสองงงกับคำถามนี้ แล้วทั้งคู่ก็หันมาถามกัน

เนียมิ: หรือจะหมายถึงบ้านที่พวกเราเข้าไปช่วยสุนัขเมื่อกี้??

มิมิ: น่าจะใช่นะ

จากนั้นทั้งสองก็หันกลับมาทางเด็กผู้ชายอีกครั้ง

มิมิ: คือพวกเราไม่ได้เไปขโมยของในบ้านใครในเมืองนั้นเลยนะ

เนียมิ: ใช่ๆ พวกเราก็แค่เจอสุนัขตัวที่ว่ากำลังหิวอย่างโรยแรงอยู่ในเมือง พวกเราก็เลยเข้าไปช่วย แต่ว่าพอหลังจากที่มันหายดีแล้วดันกลับหนีไปซะเฉยๆ เลย

แล้วจากนั้นเด็กผู้ชายก็คิดอะไรอยู่สักพัก ก่อนที่จะตอบ

"เฮ่อ.. ค่อยยังชั่วที่พวกพี่ไม่ได้เป็นพวกโจรสลัดเหมือนกับ "ผู้กล้าจอมปลอม" ที่เขาลือกัน"

แล้วจากนั้นเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้

"เอ๊? แต่ว่าในเมืองนั้นไม่มีใครอยู่แล้วนี่นา??"

มิมิ: ใช่! ที่นั่นไม่มีใครอยู่เลย แต่สุนัขประหลาดที่พวกเราเจออยู่กลางเมืองอาจจะเป็นพวกสัตว์ป่าที่หลงเข้ามาก็ได้

"อ๋อ.. ผมเข้าใจแล้ว ลืมนึกถึงเรื่องนั้นไปเลยแฮะ... ^_^;"

เนียมิ: แล้วน้องมาทำอะไรที่เมืองร้างนี้งั้นเหรอ?

"ผมต้องเป็นฝ่ายถามพวกพี่ก่อนมากกว่านะ?"

มิมิ: เออ.. คือพวกเรา...

จากนั้นมิมิก็ยื่นมือออกไปข้างหน้า แล้วซิลลี่คีย์ก็ปรากฎออกมาในมือ

มิมิ: คือพวกเรากำลังตามรวบรวมชิ้นส่วนลูกแก้วของซิลลี่คีย์อยู่น่ะ หนึ่งในชิ้นนั้นมันซ่อนอยู่ที่เมืองนี้

"ซิลลี่คีย์เหรอ? มันคืออะไรกันน่ะ??"

แล้วจากนั้นทั้งสองก็เล่าเรื่องแบบคร่าวๆ เกี่ยวกับภารกิจของพวกเธอให้เขาฟ้ง

"อ๋อ อย่างนี้นี่เอง แสดงว่าพวกพี่เป็น "ผู้กล้าตัวจริง" สินะ..!"

เนียมิ: ใช่แล้วล่ะ! (^_<)☆

"โห้!! สุดยอดไปเลยนะ! (*^_^*)"

มิมิ: นั่นสิ แล้วเรื่องของเธอล่ะ??

"อืม!! ผมกลับมาที่เมืองนี้เพื่อจะไปเอาของที่อยู่ในบ้านเก่าน่ะ"

มิมิ: กลับมาเอาของเหรอ??

"อืม! มันเป็นตุ๊กตา... ตุ๊กตาสุนัข เป็นตุ๊กตาที่ผมรักมากที่สุดเลยล่ะ!!"

มิมิ: อ๋อ.. ตอนย้ายบ้านลืมตุ๊กตาตัวนั้นไว้ที่นั่นสินะ

"ครับ! ^_^"

เนียมิ: จริงด้วยสิ! แล้วที่เมืองนี้มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอ ทำไมถึงไม่มีใครอยู่เลยล่ะ เธอพอจะทราบเรื่องอะไรไหม?

"เออ... เมื่อก่อนที่เมืองนี้เคยเกิดโรคระบาดขึ้นน่ะครับ"

มิมิ: โรคระบาดงั้นเหรอ??

"ครับ! มันเป็นโรคที่เกิดมาจากคำสาปของอสูรกายที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ กับเมืองนี้ ซึ่งโรคนี้ทำให้ผู้ที่ติดเชื้อเกิดอาการอ่อนล้าคล้ายกับโรคหอบหืด แต่ว่าผู้ที่ติดเชื้อดังกล่าวจะตายลงเองภายใน 3-5 วัน เป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาให้หายได้เพราะเป็นโรคที่เกิดจากคำสาป มิน้ำซ้า โรคนี้ยังแพร่กระจายระหว่างผู้คนและสิ่งมีชีวิตต่างๆ ได้อย่างไม่จำกัดอีกด้วย และโรคนี้ยังไม่มีใครทราบได้ว่ามันเริ่มแพร่ระบาดตั้งแต่ตอนไหน รู้เพียงแต่ว่ามันเป็นหนึ่งในเวทมนตร์ของอสูรกายที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ กับเมืองนี้ ทำให้หลังจากที่มีการแพร่ระบาดครั้งใหญ่เกิดขึ้น ผู้คนที่ไม่ได้ติดเชื้อจึงพากันหอบของหนีออกจากเมืองนี้กันทั้งหมด ทำให้เมืองนี้เลยกลายเป็นเมืองร้างนับตั้งแต่นั้นมา..."

เนียมิ: แบบนี้เอง แล้วโรคนี้เคยระบาดไปที่อื่นด้วยไหม? (หมายถึงตอนนั้น)

"ไม่หรอกครับ โรคนี้ระบาดอยู่แค่เฉพาะในเมืองนี้เท่านั้น"

เนียมิ: แบบนี้ก็แสดงว่าผู้ที่ติดเชื้อต้องถูกกักบริเวณอยู่แค่เฉพาะในเมืองนี้เท่านั้นสินะ ห้ามออกไปที่เมืองอื่น?

"ใช่แล้วครับ... แต่ตอนนี้ได้ยินมาว่า "ผู้กล้าจอมปลอม" ที่เขาลือกันไปปราบอสูรกายที่ว่ามาได้แล้ว ทำให้เชื้อโรคที่ยังหลงเหลืออยู่ในเมืองถูกกำจัดออกไปทั้งหมดด้วย ผมก็เลยอยากจะกลับมาเอาของสำคัญของผมคืนน่ะครับ"

แล้วทั้งคู่ก็หันมาคุยกัน

มิมิ: หรือจะหมายถึง "ผู้กล้าจอมปลอม" ที่เคยเล่าในตอนนั้น?? (มันคุ้นๆ นะ) -> แอสคอต: แต่ข้าเคยปราบอสูรกายที่แกร่งที่สุดจนกอบกู้หมู่บ้านแห่งหนึ่งมาได้แล้วนะขอรับ!! แล้วเหตุใดท่านถึงไม่ยอมรับข้าเป็นผู้กล้าในภารกิจนี้กันล่ะ??

เนียมิ: อืม! น่าจะใช่นะ!

จากนั้นทั้งสองก็หันกลับมาทางเด็กผู้ชายอีกครั้ง

มิมิ: นั่นสิแล้วเธอชื่ออะไรเหรอ?

"ผมชื่อ "โรโค่" (Roco) ยินดีที่ได้รู้จักด้วยนะครับ! ^_^"

มิมิ: เช่นกันจ๊ะ ฉันชื่อมิมิ

เนียมิ: ส่วนฉันเนียมิจ๊ะ ^_^

โรโค่: เออ.. จะว่าไปพวกพี่นี่หน้าตาเหมือนกันเป๊ะเลยนะ พวกพี่ทั้งสองเป็นฝาแฝดกันใช่เปล่า?

จากคำถามนี้ทำให้ทั้งสองถึงกับเหงื่อตก ( ̄_ ̄|||)

มิมิ/เนียมิ: ไม่ใช่เลยนะ!! ヽ(≧□≦)ノ

มิมิกับเนียมิตะโกนออกมาพร้อมกัน ก่อนที่จะเล่าความจริงให้โรโค่ทราบ

โรโค่: อย่างนี้เอง... แค่บังเอิญหน้าตาเหมือนกันเฉยๆ สินะ... ( ̄_ ̄|||) ...นั่นสิ! ไหนๆ ก็ได้เพื่อนใหม่ทั้งทีแล้ว ช่วยไปเป็นเพื่อนกับผมหน่อยจะได้ไหมครับ?

มิมิ: แต่พวกเรากำลังตามหาสุนัขตัวนั้นกันอยู่นะ...

เนียมิ: มิมิจัง.. ฉันว่าป่านนี้สุนัขตัวนั้นคงบินหายไปไหนต่อไหนไกลแล้วล่ะ

มิมิ: เออ.. นั่นสิ เป็นเพราะพวกเราหยุดคุยกันยาวเลย ( ̄_ ̄|||)

โรโค่: อ่ะ! Σ( °o °) ต้องขอโทษด้วยนะที่มาขัดจังหวะ <(_ _)>

โรโค่รู้สึกผิดขึ้นมา

มิมิ: ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวเรื่องนั้นเอาไว้จัดการที่หลังก็แล้วกัน ตอนนี้พวกเราก็ไปที่บ้านโรโค่คุงด้วยกันนะ!

โรโค่: ครับ! ^_^

--------------------------------------------------------------------------------

จากนั้นโรโค่ก็พาทั้งสองไปยังบ้านเก่าของเขาซึ่งอยู่ภายในตัวเมือง

โรโค่: ต้องขอโทษด้วยอีกทีนะ ที่อยากได้เพื่อนมาร่วมทางด้วย เพราะผมกลัวพวกปล้นสะดมน่ะ

เนียมิ: ไม่ต้องเกรงใจหรอก พวกเราเป็นถึงผู้กล้าเชียวนะ ถ้ามีเรื่องอะไรให้อยากช่วย พวกเราก็พร้อมตลอดอยู่แล้ว (*^_^*)

มิมิ: และอีกอย่างภารกิจหลักของเราก็คือตามหาชิ้นส่วนลูกแก้วเวทมนตร์ ซึ่งมันอยู่ที่ไหนสักแห่งในเมืองนี้อยู่แล้วไงล่ะจ๊ะ!

หลังจากที่เดินมาได้สักพัก ก็มาถึงหน้าบ้านของโรโค่

โรโค่: ถึงแล้วครับ บ้านเก่าของผม

แต่ทั้งสองก็ต้องแปลกใจ เพราะบ้านหลังนี้ก็คือบ้านเดียวกับที่ทั้งสองเข้าไปช่วยสุนัขเมื่อสักครู่นี่เอง!

เนียมิ: เอ๊! บ้านนี้มัน... Σ( °o °)

โรโค่: มีอะไรเหรอครับ??

เนียมิ: อ่อ เปล่าไม่มีอะไรหรอก o(* ̄▽ ̄*)ブ

จากนั้นทั้งหมดก็เดินเข้าไปภายในบ้าน

โรโค่: อืม.. ไม่ได้มาที่นี่ตั้งนานมีฝุ่นจับเพียบเลยนะครับ...

แล้วทั้งสองก็มองสำรวจภายในห้องโถงอย่างละเอียด

เนียมิ: จะว่าไปชั้นล่างก็ไม่มีข้าวของอะไรเลยนะ แสดงว่าตุ๊กตาคงอยู่ชั้นบนสินะ?

โรโค่: ก็.. น่าจะใช่นะ อาจจะอยู่ที่ห้องนอนเก่าที่ชั้นสองก็ได้ เพราะตอนที่ย้ายบ้าน ก็ไม่ได้เอาข้าวของบางอย่างบนชั้นสองไปด้วย (ซึ่งตุ๊กตาคือหนึ่งในนั้น)

จากนั้นทั้งหมดก็เดินขึ้นมายังชั้นสองของบ้าน แล้วเดินเข้าไปยังห้องนอนเก่า

โรโค่: น่าจะอยู่ในห้องนี้แหละ...

สิ่งของที่เหลืออยู่ภายในห้องนอนมี เตียงเปล่า ตู้เก็บของ และตู้เสื้อผ้า

จากนั้นโรโค่ก็ทำการค้นหาบริเวณต่างๆ ภายในห้อง แต่ก็ไม่พบตุ๊กตาแต่อย่างใด...

โรโค่: ไม่มีแฮะ...

จากนั้นเขาจึงลองไปหาที่ห้องอื่นๆ ดู แต่ที่ห้องอื่นเป็นห้องเปล่าทั้งหมด

โรโค่: แสดงว่าคงมีใครมาขโมยไปเรียบร้อยแล้วสินะ... ::>_<::

มิมิ: เธอชอบตุ๊กตาตัวนั้นมากขนาดนั้นเลยเหรอ?

โรโค่: คือที่จริงแล้วผมเคยเลี้ยงสุนัขไว้ตัวหนึ่งเป็นพันธุ์โกลเดินริทรีฟเวอร์ ชื่อ "มอคโค่" (Moco) มันเป็นหมาที่เชื่องและฉลาดมากๆ เลยล่ะครับ และมันก็ติดผมมากๆ ชนิดที่ว่าเวลาที่ผมกลับมาจากนอกบ้าน มันมักจะเข้ามากระโดดกอดผมให้ได้แทบทุกครั้งเลยล่ะ ...จนกระทั่งมีอยู่คืนหนึ่ง ผมฝันว่าได้ขึ้นไปขี่บนหลังของมอคโค่ด้วยนะ แต่ว่า.. มันบินได้ด้วย! ในตอนนั้นพวกเราทั้งคู่ได้โบยบินไปยังที่ต่างๆ มากมาย ได้เห็นเมือง ป่าไม้ ภูเขา และทะเลสาบจากมุมสูง ภายใต้แสงตะวันอันแสนอบอุ่น มันเป็นความทรงจำแสนวิเศษที่ผมไม่มีวันลืมได้เลยล่ะ... แต่แล้วกระทั่งวันหนึ่ง มอคโค่ก็ได้จากผมไปอย่างไม่มีวันกลับเพราะมันดันไปติดเชื้ออสูรกายเข้า โดยที่ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ามันไปติดมาจากไหน และนั่นจึงเป็นเหตุให้ครอบครัวของผมต้องย้ายบ้านหนีออกไปจากเมืองนี้นับตั้งแต่ตอนนั้นมา... ตอนนี้ผมก็เลยคิดว่าถ้าหากได้ตุ๊กตาตัวนั้นกลับมาอีกครั้ง บางทีผมอาจจะมีโอกาสได้เจอกับมอคโค่ในความฝันอีกก็เป็นได้... (ノへ ̄、)

ในประโยคสุดท้าย โรโค่เริ่มน้ำตาไหลออกมา

มิมิ: เอ๊!? Σ( °_°) แล้วตุ๊กตาที่ว่ามันเป็นตัวอะไร แล้วมีหน้าตาแบบไหนเหรอ?

โรโค่: เป็นตุ๊กตาสุนัข หน้าตาก็คล้ายกับๆ  มอคโค่ ตัวสีฟ้า มีใบหูยาวและหางสั้นคล้ายกระต่าย...

ทันใดนั้นเนียมิก็รู้สึกคุ้นๆ ขึ้นมา

เนียมิ: เอ๊!? Σ( °_°) มันฟังดูคุ้นๆ มากเลยนะ หรือว่าสุนัขที่พวกเราช่วยออกมาเมื่อกี้นี้...?

มิมิ/เนียมิ: อาจจะเป็น "มอคโค่" ก็ได้?? (⊙_◎)

ทั้งสองหันมาอุทานพร้อมกัน

โรโค่: ห๊ะ? มีอะไรงั้นเหรอครับ??

โรโค่รู้สึกแปลกใจขึ้นมา

เนียมิ: ดูเหมือนว่าพวกเราต้องกลับไปตามหาสุนัขตัวที่พวกเรากำลังตามหาอยู่ให้เจอแล้วล่ะ เพราะนั่นอาจจะเป็น "มอคโค่" ก็ได้?

โรโค่: ไม่จริงนะ? ก็มอคโค่ได้ตายไปแล้วนิ แล้วมันจะ... คืนชีพได้ยังไงกัน

มิมิ: ก็คุณสมบัติของตุ๊กตาที่เธอบอกมา มันเหมือนกับสุนัขตัวที่พวกเรากำลังตามหาอยู่พอดีเลยน่ะสิ!!

โรโค่: เอ๊!? จริงเหรอ?? (⊙o⊙)

เนียมิ: อืม!! ^_^ บางทีฉันคิดว่าสุนัขตัวนั้นอาจจะเป็น... มอคโค่ที่กลับมาเกิดใหม่เป็นตุ๊กตาตัวนั้นก็ได้นะ!

มิมิ: แต่ว่า... แล้วในตอนนี้พวกเราจะหามันเจอได้ยังไงกันล่ะ??

เนียมิ: เออ.. ก็นั่นน่ะสิ... ㄟ( ▔, ▔ )ㄏ

แล้วจากนั้นทั้งสองก็พยายามคิดหาวิธีตามหาสุนัขตัวนั้นให้ได้อยู่พักหนึ่ง

เนียมิ: Σ(. ❛ ᴗ ❛.)💡 จริงด้วยสิ!!

แล้วเนียมิก็เข้าไปซุบซิบอะไรกับมิมิอยู่สักพัก

มิมิ: อืม!!

จากนั้นทั้งสองก็หันมาทางโรโค่

เนียมิ: โรโค่คุงรออยู่ที่นี่สักพักก่อนนะ เดี๋ยวพวกเราจะพามอคโค่กลับมาแน่!! (^_<)☆

โรโค่: เออ.. เข้าใจแล้วครับ...

โรโค่รู้สึกงงๆ กับสิ่งที่เนียมิบอก แต่ก็ต้องยอมรับไป

จากนั้นทั้งสองก็เดินออกมานอกบ้าน

เนียมิ: เอาล่ะนะ!

มิมิ: อืม!! ^_^

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ยกแขนข้างที่สวมกำไลแปลงร่างขึ้นมา แล้วตะโกนว่า

มิมิ/เนียมิ: "ป๊อปปินแปลงร่าง!!"

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็แปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์ส

หลังจากที่แปลงร่างแล้ว ทั้งสองก็ได้เรียก "ป๊อปเปอร์สปีดเดอร์" ออกมา โดยที่รองเท้าบูทได้เปลี่ยนเป็นโรลเลอร์เบลดติดปีก

แล้วจากนั้นทั้งสองก็โบยบินขึ้นไปสู่บนท้องฟ้าเพื่อออกตามหามอคโค่

ป๊อปเลิฟ: ความคิดของเธอเข้าท่าอยู่นะ แต่พวกเราจะตามหาเจอได้จริงๆ น่ะเหรอ??

ป๊อปพีช: ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ถ้าลองหาจากมุมสูงแบบนี้ดู อาจจะเจอง่ายกว่าก็ได้

และหลังจากที่บินมาได้ระยะทางค่อนข้างไกล ในที่สุดทั้งสองก็พบกับสิ่งมีชีวิตบางอย่างกำลังบินอยู่บนท้องฟัาเช่นกัน

ป๊อปพีช: อ่ะ! Σ( °_°) นั่นมัน...!!

เมื่อสังเกตดู พบว่าเป็นสุนัขตัวสีฟ้าที่กำลังตามหาอยู่นั่นเอง!

ป๊อปเลิฟ: สุนัขตัวนั่นนิ!!

ป๊อปพีช: มันบินได้จริงๆ ด้วย!! Σ( °o °)

สุนัขตัวสีฟ้ากำลังบินสวนทางจากพวกเธอ โดยบินอยู่ในระดับต่ำกว่าทั้งสอง

ป๊อปเลิฟ: มันกำลังบินไปที่ไหนกันแน่นะ?

ป๊อปพีช: พวกเราลองตามไปดูกันเถอะ!

แล้วทั้งคู่ก็บินตามหลังของสุนัขไปเรื่อยๆ พบว่ามันกำลังบินไปทางแฮปปี้ทาวน์

ป๊อปพีช: รู้สึกว่ามันกำลังจะไปทางแฮปปี้ทาวน์นะ?

ป๊อปเลิฟ: หรือว่ามันอาจจะ.. กำลังตามหาโรโค่คุงอยู่ก็เป็นได้?

หลังจากบินตามมาได้สักพัก ก็มาถึงบริเวณตัวเมือง

จากนั้นสุนัขก็ได้บินลงไปยังตัวเมือง ทั้งคู่ก็ตามไปด้วยเช่นกัน

สุนัขได้บินลงมายังระดับเหนือพื้น และเริ่มมุ่งหน้าไปอย่างช้าๆ ซึ่งในขณะที่กำลังบินไปเรื่อยๆ นั้น สุนัขก็ได้มองหันซ้าย-ขวาไปด้วยตลอดทางราวกับว่ามันกำลังมองหาอะไรบางอย่างอยู่

ป๊อปพีช: ดูเหมือนว่ามันกำลังตามหาอะไรบางอย่างอยู่ด้วยจริงๆ นะ

ป๊อปเลิฟ: งั้นเราลองเข้าไปทักท้ายกันดูไหม?

ป๊อปพีช: อืม!!

จากนั้นทั้งคู่ก็บินข้ามสุนัขไป แล้วมากีดขวางทางบินของสุนัข

เมื่อสุนัขเห็นทั้งคู่จึงเกิดอาการตกใจเล็กน้อย ก่อนที่จะหยุดอยู่กับที่

ป๊อปพีช: กำลังตามหาเพื่อนของเธออยู่สินะ?

"..."

ป๊อปพีชถามไปแต่ดูเหมือนว่ามันจะพูดไม่ได้

ป๊อปเลิฟ: เดี๋ยวพวกเราจะช่วยนำทางไปให้เองนะ พวกฉันรู้ที่อยู่เพื่อนของเธอด้วยล่ะ!! ^_^

จากนั้นสักพักอยู่ๆ สุนัขก็เกิดอาการโกรธขึ้นมา ก่อนที่จะเริ่มโจมตีทั้งสองด้วยการปล่อยเลเซอร์แบบติดตามเป้าหมายจำนวนหลายเส้นออกมาจากปาก แต่ทั้งคู่ก็หลบไปได้

ป๊อปพีช: ห๊ะ!? ทำไมถึงโจมตีพวกเราล่ะ??

ป๊อปเลิฟ: ดูเหมือนว่ามันจะไม่เชื่อใจพวกเรานะ

ป๊อปพีช: แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ??

จากนั้นสุนัขก็โจมตีด้วยท่าเดิมอีกครั้ง แต่ทั้งคู่ก็ยังหลบได้เช่นเคย

ป๊อปเลิฟ: เดี๋ยวฉันจะลองล่อไปแถวหน้าบ้านโรโค่คุงดู!!

ป๊อปพีช: แต่จะให้เขาเห็นเราในร่างนี้ไม่ได้นะ...?

ป๊อปเลิฟ: เออ.. นั่นสินะ... ( ̄_ ̄|||) (ลืมนึกเรื่องนี้ไปเลย...)

จากนั้นสุนัขก็โจมตีด้วยท่าเดิมอีกครั้ง แต่คราวนี้ป๊อปเลิฟไม่สามารถหลบได้ เธอจึงใช้พลังม่านบาเรียป้องกันไว้ด้วยการยืนมือทั้งสองข้างออกไปข้างหน้าเพื่อสร้างม่านพลัง

ป๊อปพีช: งั้นเอานี่ไปก่อนดีกว่า! ป๊อปบาสเตอร์!!

ป๊อปพีชยิงลูกพลังจากมือข้างขวาใส่สุนัข ทำให้สุนัขร่วงลงสู่พื้นและหยุดชะงักไปชั่วครู่

ป๊อปเลิฟ: พีช!! จะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!

ป๊อปพีช: แต่ว่า.. มันเริ่มโจมตีพวกเราก่อนนี่นา??

ป๊อปเลิฟ: ก็ถูกของเธออยู่นะ แต่เราต้องหาทางสงบศึกให้ได้สิ!

ป๊อปพีช: แล้วจะให้ทำยังไงเล่า!! >︿<

ป๊อปเลิฟ: ก็ลองใช้ "ไอ้นั่น" กันสิ

ป๊อปพีช: หมายถึงเกียร์วิเศษนั่นเหรอ?

ป๊อปเลิฟ: อืม!!

จากนั้นสุนัขก็ค่อยๆ กลับมาตั้งหลัก

แต่ทว่า มันกลับบินหนีทั้งสองไปโดยที่ไม่สู้ต่อ

ป๊อปพีช: อ่ะ Σ( °Д°) หนีไปแล้ว!!

ป๊อปเลิฟ: สงสัยมันคงจะยอมแพ้พวกเราแล้วล่ะ.. ( ̄_ ̄|||)

ป๊อปพีช: แล้วแบบนี้จะทำยังไงกันต่อล่ะ?

ป๊อปเลิฟ: ก็ลองใช้เกียร์วิเศษนั่นกันดูเถอะ บางทีมันอาจจะมีพลังที่ช่วยทำให้มอคโค่มุ่งหน้าไปหาโรโค่ที่กำลังรออยู่ก็ได้

ป๊อปพีช: โอเค!!

แล้วทั้งคู่ก็เรียกเกียร์วิเศษออกมาจากเข็มกลัดบนชุด โดยมีลูกพลังออกมาจากเข็มกลัด ก่อนที่ลูกพลังทั้งสองจะเข้ามาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน แล้วจากนั้นลูกพลังก็แปลงสภาพกลายเป็นเกียร์อีกที

จากนั้นทั้งคู่มายืนอยู่หน้าเกียร์วิเศษด้วยกันเพื่อเตรียมเริ่มเล่นป๊อปปิน

ป๊อปเลิฟ: พร้อมแล้วนะ!

ป๊อปพีช: อืม!!

ป๊อปเลิฟ/พีช: Let's pop'n music together! O(∩_∩)O

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มเล่นป๊อปปินด้วยเกียร์ตัวเดียวกัน โดยแบ่งกันกดปุ่มคนละฝั่ง

===== POP'N MUSIC =====
Sunny Side / Croove

ทันทีที่เริ่มเล่นป๊อปปิน ทางด้านโรโค่ที่กำลังรอทั้งสองอยู่ที่บ้าน ก็เกิดคลื่นแสงสีฟ้าขึ้นมารอบตัวของเขาอยู่สักพักหนึ่งก่อนที่จะหายไป โดยที่เขามองไม่เห็นแสงนั้น

"โรโค่!! ฉันกำลังตามหานายอยู่นะ..."

โรโค่: เอ๊!? Σ( °_°)

โรโค่รู้สึกตกใจกับเสียงเรียกปริศนาที่ดังเข้ามาในหูของเขา

"นายอยู่ที่ไหนได้โปรดออกมาหาฉันทีเถอะ! ฉันเฝ้ารอคอยการกลับมาของนายเนิ่นนานแล้วนะ"

โรโค่: หรือว่า...!?

แล้วจากนั้นเขาก็ตัดสินใจวิ่งออกจากบ้านเพื่อไปตามหาที่มาของเสียงปริศนานั้น

โรโค่: นายกลับมาแล้วจริงๆ สินะ มอคโค่...

โรโค่อุทานเคล้าน้ำตาด้วยความคิดถึงในขณะที่กำลังวิ่งไปเรื่อยๆ

และหลังจากที่วิ่งหามาได้สักพัก ในที่สุดเขาก็ได้พบกับสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่กำลังบินอยู่บนฟ้า

เขาหยุดยืนมองดูสิ่งนั่นด้วยความอึ้งบวกความสงสัย

"ได้โปรดมาหาฉันเถอะ! {{{(>_<)}}}"

สิ่งที่เขาเห็นนั้นก็คือตุ๊กตาสุนัขตัวสีฟ้าของเขาที่ได้บินผ่านหัวของเขาไป

โรโค่: ไม่จริงน่ะ?? นายกลับมาเกิดใหม่เป็นตุ๊กตาตัวนั้นเหรอ?!

แล้วเขาก็วิ่งตามสุนัขตัวนั้นไป

โรโค่: นี่!! มอคโค่!! ฉันอยู่ทางนี้!!

โรโค่เรียกสุนัขบนฟ้าในขณะที่เขากำลังวิ่งตามไปด้วย

แล้วจากนั้นสุนัขก็ได้หยุดแล้วหันมามองเขาที่อยู่ด้านล่าง

โรโค่: มอคโค่!! ฉันกลับมาหานายแล้วนะ!

โรโค่พยายามตะโกนพลางโบกมือเรียก แล้วจากนั้่นมอคโค่ก็บินเข้ามาหาเขา

มอคโค่: โรโค่คุง!!

มอคโค่ได้บินเข้ามากอดเขาด้วยความคิดถึง

โรโค่: ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ.. ฉันกลับมาที่นี่ก็เพื่อมาตามหานายเนี่ยแหละ... ~(>_<。)\
===== END MUSIC =====

เวลาผ่านไปหลังจากที่เล่นป๊อปปินเสร็จแล้วทั้งคู่ก็ได้กลับร่างเดิม ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปหาโรโค่

เนียมิ: โรโค่คุง!! พวกเรากลับมาแล้ว!!

เนียมิตะโกนเรียกในขณะที่กำลังวิ่งเข้าไปหาโรโค่ ทางด้านโรโค่จึงหันมามอง

และทันทีที่มิมิได้เห็นสุนัขสีฟ้ามาอยู่กับโรโค่แล้ว เธอก็รู้สึกแปลกใจปนยินดี

มิมิ: อ่ะ! สุนัขตัวนั้นหาโรโค่เจอแล้วล่ะ!! o(*°▽°*)o

โรโค่: ครับ! ^_^ ตอนที่ผมรออยู่ที่บ้าน อยู่ๆ ผมก็ได้ยินเสียงเรียกของมอคโค่ขึ้นมา ผมจึงออกไปตามหา จนในที่สุดก็ได้เจอกับตุ๊กตา... ไม่ใช่สิ มอคโค่ที่กำลังบินหาผมอยู่แถวๆ นี่แหละครับ! (^_<)☆

เนียมิ: แสดงว่าเวทมนตร์ของพวกเราได้ผลจริงๆ ด้วยสินะ ^_^

โรโค่: เอ๊!? "เวทมนตร์"... งั้นเหรอ??

เนียมิ: อ่ะ! Σ( °Д°) เปล่าๆ คือแบบว่า นี่มันเหมือนเป็นการพบกันดั่งใช้เวทมนตร์จริงๆ เลยนะ ฮ่าๆๆ ^_^ (เกือบหลุดเรื่องตัวจริงของป๊อปเปอร์สไปแล้วไหมล่ะ...)

โรโค่: อืม! มันวิเศษเหมือนใช้เวทมนตร์จริงๆ เลยล่ะ ที่มอคโค่ได้กลับมาเกิดเป็นตุ๊กตาตัวนี้อีกครั้ง ..แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะพูดไม่ได้ซะแล้วแฮะ ทั้งที่เมื่อตอนที่มันเรียกกับตอนที่เจอกันยังพูดได้อยู่เลย...

มิมิ: สงสัยคงเป็นเพราะเวทมนตร์หมดฤทธิ์แน่ๆ เลยละมั้ง?

มิมิหันมากระซิบบอกเนียมิ

โรโค่: แต่ว่าก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงผมก็ได้อยู่กับมอคโค่อีกครั้งสมใจแล้วล่ะ และที่สำคัญคือ.. ผมสามารถบินไปไหนมาไหนได้เหมือนกับในความฝันตอนนั้นแล้ว ^_^

มิมิ: อืม!! ยินดีด้วยนะ ^_^

เนียมิ: สุดยอดไปเลยนะ ที่ความฝันในตอนนั้นได้กลายเป็นจริงแล้ว

โรโค่: ถ้างั้นผมก็ต้องขอขอบคุณพวกพี่ทั้งสองด้วยนะครับ ถ้าไม่ได้เจอกับพวกพี่ละก็.. ผมก็อาจจะไม่ได้เจอกับมอคโค่ในวันนี้ด้วยก็ได้

มิมิ: อืม! ^_^

และในทันใดนั้นก็มีแสงสว่างส่องมาจากทางหนึ่ง และเมื่อทั้งคู่หันไปดูก็พบกับแสงสีขาวส่องขึ้นมาเป็นแท่งเสาอยู่ใจกลางของเมือง

มิมิ: แสงนั่นมัน...?!

เนียมิ: พวกเรารีบไปดูกันเถอะ!!

แล้วทั้งคู่กับโรโค่ก็ได้ขี่บนหลังของมอคโค่เพื่อบินไปดูจุดที่มีแท่งแสงส่องออกมา

และเมื่อมาถึงหน้าแสงดังกล่าวก็พบกับ "เศษลูกแก้วเวทมนตร์" ที่กำลังลอยอยู่กลางแสงนั้น โดยเศษลูกแก้วได้ลอยอยู่ภายในหอระฆังบนยอดอาคารที่อยู่ใจกลางของเมืองพอดี

มิมิ: "เศษลูกแก้วเวทมนตร์" นี่!! Σ( °o °)

เนียมิ: มันซ่อนอยู่ในหอระฆังที่อยู่ใจกลางของเมืองนี้เอง..!

ส่วนโรโค่ก็มองที่เศษลูกแก้วด้วยความตะลึง

แล้วมิมิก็นำเศษลูกแก้วเวทมนตร์ชิ้นที่สี่มาประกอบรวมกับเศษลูกแก้วชิ้นอื่นที่อยู่บนซิลลี่คีย์



มิมิกับเนียมิ ได้รับสแตมป์ดวงที่ 4 เรียบร้อยแล้ว!!

เนียมิ: ในที่สุดก็เหลืออีกแค่ชิ้นเดียวแล้วนะ!!

มิมิ: อืม!! ^_^

เนียมิ: ว่าแต่.. ถ้ามันอยู่บนหอระฆังนี้ตั้งแต่แรก แล้วทำไมมันถึงไม่ส่องแสงออกมาให้เห็นตั้งแต่ที่พวกเราเพิ่งมาถึงเมืองนี้หว่า??

มิมิ: อาจเป็นเพราะมันอาจจะต้องการให้มอคโค่มาช่วยพวกเรารับเศษลูกแก้วบนนี้ก็ได้นะ

เนียมิ: อืม! นั่นสินะ ก็อยู่ตั้งสูงขนาดนี้นี่นา

โรโค่: งั้นก็แสดงว่าต้องจากกันแล้วสินะ...

มิมิ: อืม!! พวกเราต้องไปที่อื่นต่อแล้วล่ะ

โรโค่: ถ้างั้นก็... มาบินเล่นแถวๆ นี้เป็นการส่งท้ายแล้วกันนะ!

มิมิ: อืม!! ^_^

แล้วจากนั้นมอคโค่ก็พาบินไปตามที่ต่างๆ รอบๆ เมืองเป็นการปิดท้าย ซึ่งทั้งสองรวมถึงโรโค่ก็ได้ชมทัศนียภาพเบื้องล่างกันอย่างมีความสุข ภายใต้แสงตะวันอันแสนอบอุ่นใจที่ใกล้จะลับขอบฟ้า

โรโค่: ในที่สุดก็ถึงตาของพวกเราบ้างแล้วนะ!

โรโค่บอกกับมอคโค่

--------------------------------------------------------------------------------

ทางด้านเซ

"อะไรนะ!! "นักรบในตำนานป๊อปเปอร์ส" งั้นเหรอ??"

เสียงของชายผู้หนึ่งที่เป็นหัวหน้าของอะไรสักอย่าง ตะโกนออกมา

เซ: เจ้าค่ะ... (´。_。`)

ชายผู้นั้นลุกขึ้นจากบัลลังก์ก่อนที่จะกล่าว

"ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ มันปรากฏตัวมาจากไหนกัน?? แสดงว่าต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ เลย!!"

เซ: แต่ก็ดีแล้วนี่คะ ที่ท่านกลับมาคืนชีพได้อีกครั้งหนึ่ง..

"ดีซะที่ไหนล่ะ!! ก็ยังมี "นักรบในตำนานป๊อปเปอร์ส" กลับมาด้วยนี่นา!!"

จากคำบ่นนี้ ทำให้เซไม่กล้าพูดอะไรต่ออีก

"เอาล่ะ เหลือเวลาอีกไม่กี่วันแล้ว พวกเจ้าทั้งหมดก็เตรียมกำลังกันไว้ให้พร้อมนะ! เพราะศึกครั้งนี้มันไม่ง่ายอย่างที่เคยวางแผนไว้แน่!!"

หัวหน้าของเซสั่งการทหารทั้งหมดที่อยู่ภายในห้องให้เตรียมพร้อมรบ

--------------------------------------------------------------------------------

ขณะเดียวกัน ที่เมืองหลวงของอาณาจักรเทพนิยาย ก็ได้เกิดปรากฏการณ์แบบเดียวกับครั้งก่อนหน้าขึ้นมาบนท้องฟ้าอีกครั้ง มันเป็นลักษณะกลุ่มเมฆที่หมุนวนกันเป็นหลุมเมฆขนาดใหญ่บนท้องฟ้าคล้ายกับตาพายุ

ไดโน: นั่นมัน... อีกแล้วเหรอเนี่ย??

ไดโนที่ดูอยู่บนระเบียงของปราสาทรู้สึกตะลึงอย่างมากที่ได้เห็นปรากฏการณ์นี้อีกครั้ง

ไดโน: แสดงว่าในอีกไม่นานก็จะถึง "วันพิพากษา" แล้วสินะ... แล้วเด็กพวกนั้นจะกลับมาทันไหมล่ะเนี่ย??

ไดโนพูดถึงมิมิกับเนียมิที่กำลังทำภารกิจอยู่




>>>>> TO BE CONTINUED <<<<<