วันรุ่งขึ้น ทั้งสองกำลังมุ่งหน้าไปยังสถานที่ถัดไปของภารกิจตามหาเศษลูกแก้วเวทมนตร์ ซึ่งในอีกไม่นานก็จะถึงจุดหมายแล้ว!
มิมิ: นี่ เนียมิจัง
เนียมิ: มีอะไรเหรอจ๊ะเพื่อนรัก? (゜▽゜*)♪
มิมิ: เมื่อวานนี้เธอไปทำอะไรมาถึงได้ไปโดนขังอยู่ในโลกประหลาดนั่นล่ะ?
เนียมิ: เอ๊!? อะไรนะ?? (´・ω・`)?
มิมิ: อ้่าว! จำไม่ได้เหรอ? ก็เมื่อวานนี้เธอถูกขังอยู่ในกรงนั่นไง..!
เนียมิ: เอ๊? ฉันไม่ได้โดนขังเลยนะ ตอนที่เข้าไปโลกนั้นกับไทม์เมอร์ ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนที่ได้เจอกับมิมิ ฉันไม่ได้่ไปโดนขังที่ไหนในโลกนั้นเลยจริงๆ นะ!
มิมิ: งั้นก็แสดงว่าเนียมิจังที่ฉันเห็นในตอนนั้นเป็นตัวปลอมสินะ ปะโธ่... (;´д`)
เนียมิ: ตัวปลอม??
มิมิ: อืม!! ตอนที่ฉันเข้าไปที่โลกนั้น มีอยู่มิติหนึ่ง ฉันได้เจอเธอที่เป็นตัวปลอมถูกขังอยู่ในกรงด้วยล่ะ!
เนียมิ: เอ๊!? โดนขังงั้นเหรอ??
มิมิ: ใช่! ที่ๆ ฉันไปเจอเธอในตอนแรกนั้นเป็นสถานที่ๆ มีแต่ความมืดมิด ไม่มีแสง ไม่มีสิ่งใดเลย นอกจากทางเดินที่ทอดยาวไปเรื่อยๆ เท่านั้น และพอฉันเดินจนมาสุดทาง ฉันก็ได้เจอกับเธอที่โดนขังนี่แหละ เธอร้องขอความช่วยเหลือจากฉัน ฉันจึงเลยเข้าไปช่วย แต่ว่าฉันกลับโดนส่งไปอยู่ในมิติอื่นแทน ...แต่ก็ช่างเถอะ มันเป็นแค่มิติแห่งความฝันเท่านั้นเอง..! ^_^
เนียมิ: แล้วมิติที่มิมิไปมา มีอะไรบ้างเหรอ??
มิมิ: นอกจากมิติที่เจอเธอนั้น เป็นความลับ! ヾ(≧ ▽ ≦)ゝ
เนียมิ: เอ๋?? บอกกันหน่ิอยไม่ได้เหรอ..? (´・ω・`)?
มิมิ: ไม่ได้ก็คือไม่ได้สิ!! (p≧w≦q)
มิมิตอบด้วยสีหน้าแดงราวกับเขินอะไรอยู่
เนียมิ: นั่นแน่ะ! แสดงว่าไปเจอเรื่องอะไรดีๆ จากในนั้นมาสินะ?
มิมิ: ก็บอกว่าไม่มีอะไรยังไงเล่า!! `(*≧﹏≦*)′
เนียมิ: ฮ่าๆๆ (。^▽^) ถ้างั้นฉันเองก็ไม่บอกด้วยเหมือนกันดีกว่า ถือว่าวินๆ กันนะ!
มิมิ: อะ อืม! ก็ได้ (*^_^*)
--------------------------------------------------------------------------------
มิมิ: นี่ เนียมิจัง
เนียมิ: มีอะไรเหรอจ๊ะเพื่อนรัก? (゜▽゜*)♪
มิมิ: เมื่อวานนี้เธอไปทำอะไรมาถึงได้ไปโดนขังอยู่ในโลกประหลาดนั่นล่ะ?
เนียมิ: เอ๊!? อะไรนะ?? (´・ω・`)?
มิมิ: อ้่าว! จำไม่ได้เหรอ? ก็เมื่อวานนี้เธอถูกขังอยู่ในกรงนั่นไง..!
เนียมิ: เอ๊? ฉันไม่ได้โดนขังเลยนะ ตอนที่เข้าไปโลกนั้นกับไทม์เมอร์ ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนที่ได้เจอกับมิมิ ฉันไม่ได้่ไปโดนขังที่ไหนในโลกนั้นเลยจริงๆ นะ!
มิมิ: งั้นก็แสดงว่าเนียมิจังที่ฉันเห็นในตอนนั้นเป็นตัวปลอมสินะ ปะโธ่... (;´д`)
เนียมิ: ตัวปลอม??
มิมิ: อืม!! ตอนที่ฉันเข้าไปที่โลกนั้น มีอยู่มิติหนึ่ง ฉันได้เจอเธอที่เป็นตัวปลอมถูกขังอยู่ในกรงด้วยล่ะ!
เนียมิ: เอ๊!? โดนขังงั้นเหรอ??
มิมิ: ใช่! ที่ๆ ฉันไปเจอเธอในตอนแรกนั้นเป็นสถานที่ๆ มีแต่ความมืดมิด ไม่มีแสง ไม่มีสิ่งใดเลย นอกจากทางเดินที่ทอดยาวไปเรื่อยๆ เท่านั้น และพอฉันเดินจนมาสุดทาง ฉันก็ได้เจอกับเธอที่โดนขังนี่แหละ เธอร้องขอความช่วยเหลือจากฉัน ฉันจึงเลยเข้าไปช่วย แต่ว่าฉันกลับโดนส่งไปอยู่ในมิติอื่นแทน ...แต่ก็ช่างเถอะ มันเป็นแค่มิติแห่งความฝันเท่านั้นเอง..! ^_^
เนียมิ: แล้วมิติที่มิมิไปมา มีอะไรบ้างเหรอ??
มิมิ: นอกจากมิติที่เจอเธอนั้น เป็นความลับ! ヾ(≧ ▽ ≦)ゝ
เนียมิ: เอ๋?? บอกกันหน่ิอยไม่ได้เหรอ..? (´・ω・`)?
มิมิ: ไม่ได้ก็คือไม่ได้สิ!! (p≧w≦q)
มิมิตอบด้วยสีหน้าแดงราวกับเขินอะไรอยู่
เนียมิ: นั่นแน่ะ! แสดงว่าไปเจอเรื่องอะไรดีๆ จากในนั้นมาสินะ?
มิมิ: ก็บอกว่าไม่มีอะไรยังไงเล่า!! `(*≧﹏≦*)′
เนียมิ: ฮ่าๆๆ (。^▽^) ถ้างั้นฉันเองก็ไม่บอกด้วยเหมือนกันดีกว่า ถือว่าวินๆ กันนะ!
มิมิ: อะ อืม! ก็ได้ (*^_^*)
--------------------------------------------------------------------------------
STAGE 33
「โบยบินดั่งฟากตะวัน」
「โบยบินดั่งฟากตะวัน」
--------------------------------------------------------------------------------
หลังจากที่ทั้งสองเดินมาได้สักพัก ในที่สุดก็มาถึงเมือง "แฮปปี้ทาวน์" ซึ่งเป็นสถานที่ของภารกิจตามหาเศษลูกแก้วเวทมนตร์ชิ้นที่ 4
ตัวเมืองมีลักษณะเป็นเมืองเล็กๆ มีอาคารบ้านเรือนเป็นสไตล์ยุโรปคล้ายกับเมืองหลวงของอาณาจักรเทพนิยาย แต่ขนาดของเมืองไม่ใหญ่มากนัก อาคารส่วนใหญ่สูงเพียงแค่ 2 ชั้นเท่านั้น และให้ความรู้สึกกึ่งๆ เมืองแทบชนบทเล็กน้อย
แต่ทว่า.. ทันทีที่เดินเข้ามาภายในตัวเมือง พบว่าที่นี่ไม่มีใครอาศัยอยู่เลยแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนหรือร้านค้าต่างๆ ก็ไม่มีใครอยู่เลย แม้แต่คนที่เดินสัญจรไปมาก็ไม่มีเช่นกัน
มิมิ: ทำไมเมืองนี้มัน...?
เนียมิ: ไม่มีใครอยู่เลย??
บรรยากาศโดยรวมเงียบสงัด มีเพียงแค่สายลมที่โชยมาเป็นระยะๆ เท่านั้น ให้ความรู้สึกที่เคว้งคว้าง
มิมิ: ฉันว่าเมืองนี้มันแปลกๆ นะ?
เนียมิ: นั่นสิ มันต้องมีสาเหตุอะไรสักอย่างแน่ๆ เลยล่ะ!
จากนั้นมิมิก็นำแผนที่กระดาษที่ได้รับจากไดโนออกมาดู
มิมิ: อืม! พวกเรามาถูกที่แล้วล่ะ ที่นี่คือ "แฮปปี้ทาวน์" สถานที่ๆ มีเศษลูกแก้วเวทมนตร์ชิ้นที่ 4 ซ่อนอยู่ ...แต่เพราะอะไรกันนะ เมืองมันถึงได้เงียบฉี่อย่างนี้??
เนียมิ: ฉันว่าพวกเราเดินหาเศษลูกแก้วกันแบบจริงจังไปเลยดีกว่า เพราะนี้คือเป้าหมายหลักของพวกเรานะ!
มิมิ: อืม! นั่นสินะ บางเรื่องน่ะ ถ้าไม่รู้มันอาจจะดีกว่าก็ได้
แล้วจากนั้นทั้งสองก็มุ่งหน้าสำรวจเมืองกันต่อไป เพื่อหาเศษลูกแก้ว
หลังจากที่เดินสำรวจมาได้ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง อยู่ๆ เนียมิก็สัมผัสกับกลิ่นแปลกๆ ที่มาจากทิศทางหนึ่ง เธอจึงหยุดดมอยู่สักพัก
เนียมิ: ฉันได้กลิ่นแปลกๆ ด้วยล่ะ!
มิมิ: เอ๊!? ได้กลิ่นเหรอ...?
เนียมิ: อืม! มันเป็นกลิ่นเหม็นเปรี้ยวน่ะ...
แล้วจากนั้นเนียมิก็หันหน้าไปทางที่กลิ่นโชยมา ซึ่งสายควันกลิ่นที่มองเห็นแต่เฉพาะผู้ชมนี้ลอยออกมาจากบ้านสองชั้นหลังหนึ่งที่อยู่ข้างทาง
เนียมิ: รู้สึกว่ากลิ่นจะมาจากบ้านหลังนั้นน่ะ พวกเราลองเข้าไปดูกันเถอะ
จากนั้นทั้งสองจึงลองเดินเข้าไปยังบ้านหลังนั้น
เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายใน ทั้งสองก็ได้กลิ่นเหม็นเปรี้ยวจากภายในอย่างชัดเจน จนมิมิต้องปิดจมูกไว้
มิมิ: หืม!! กลิ่นแรงชะมัด `(*>﹏<*)′
แต่เมื่อเนียมิสังเกตดู พบว่ากลิ่นนั้นมาจากสุนัขขนฟูตัวหนึ่งที่นอนอยู่เบื้องหน้า
เนียมิ: นั่นมัน...!! Σ( °o °)
สุนัขที่เธอเห็นเป็นสุนัขประหลาดรูปร่างตัวใหญ่มีขนสีฟ้าที่ฟูฟ่องและมีใบหูยาวคล้ายกับกระต่าย ซึ่งกำลังอยู่ในสภาพนอนหลับ?
เนียมิ: สุนัข... นี่มันสุนัขอะไรกันเนี่ย?? (ไม่เคยเห็นสายพันธุ์นี้เลย)
มิมิ: หรือว่าสุนัขตัวนี้จะ...?? (หวังว่าคงไม่เป็นอย่างนั้นนะ)
จากนั้นเนียมิจึงลองเดินเข้าไปจับสุนัขยักษ์ตัวนั้นเพื่อเช็ดชีพจร พบว่ายังมีชีวิตอยู่
เนียมิ: มันยังไม่ตายนะ แต่ดูเหมือนว่ากำลังจะใกล้ตายเพราะหิวโซน่ะ
มิมิ: งั้นพวกเราก็ลองนำกลับไปพักที่มายแคมป์กันก่อนดีกว่า อาจจะพอช่วยอะไรได้บ้าง
เนียมิ: โอเค!!
จากนั้นทั้งสองจึงช่วยกันนำสุนัขยักษ์ตัวนั้นไปพักฟื้นที่มายแคมป์ของพวกเธอ
--------------------------------------------------------------------------------
หลังจากที่นำสุนัขยักษ์สีฟ้าเข้ามาพักในมายแคมป์แล้ว มิมิจึงจัดการป้อนนมให้ก่อน แล้วตามด้วยใช้สเปรย์ทำความสะอาดขนฉีดให้อีกทีเพื่อดับกลิ่นเหม็น
มิมิ: อืม! เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วล่ะ! เดี๋ยวอีกสักพักก็คงฟื้นแล้ว
เนียมิ: มิมิจังนี่เธอเก่งอย่างกับเป็นแม่บ้านศรีเรือนจริงๆ เลยนะ!
มิมิ: ก็นะ... แฮะๆๆ *^____^*
เนียมิ: งั้นในระหว่างนี้พวกเราก็ไป เออ... ยังหาเศษลูกแก้วต่อไม่ได้สินะ งั้นเล่นเกมรอกันก่อนดีกว่า
มิมิ: ได้เลย!!
แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ไปนั่งเล่นเกมทีวียังมุมพักผ่อนของห้อง (จุดที่สุนัขอยู่ อยู่ในมุมห้องครัว)
แต่ทว่าหลังจากที่ออกจากมุมห้องครัวไปได้ไม่นาน สุนัขยักษ์ก็ได้ตื่นขึ้นมา...
สุนัขตัวนี้พยายามรื้อตู้เย็นเพื่อหาอะไรกินจากด้านใน...
และเวลาผ่านไปได้สักพัก อยู่ๆ ก็มีเสียงกระแทกดังขึ้นมาอย่างแรงตรงมุมห้องครัว ทั้งคู่จึงรีบกลับไปดู
ก็พบว่าห้องครัวอยู่ในสภาพที่เละไม่เป็นท่า และสุนัขตัวนั้นได้หายไปแล้ว
เนียมิ: มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?? ∑(°ロ°)
แล้วมิมิก็สังเกตเห็นรอยรั่วเป็นรูขนาดใหญ่อยู่บนเพดาน
มิมิ: สุนัขหายไปซะแล้ว แต่ว่าบนนั้นแตกเป็นรูโหว่เลยล่ะ!
เนียมิ: หรือว่าสุนัขตัวนั้นจะ...?
มิมิ: อืม!! มันอาจจะ "บิน" หนีออกไปก็ได้ พวกเรารีบออกตามหากันเถอะ!!
จากนั้นทั้งสองจึงวิ่งออกจากเต็นท์มายแคมป์เพื่อตามหาสุนัข
ทั้งสองวิ่งไปตามเส้นทางบริเวณนอกเมืองซึ่งโดยรอบเป็นพื้นที่ธรรมชาติ
เนียมิ: มิมิจัง แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่ามันไปที่ไหน?
มิมิ: ฉันคิดว่าถ้าหากมันบินได้จริงๆ ละก็ ลองออกมาหาบริเวณนอกเมืองดูอาจจะเจอง่ายกว่าก็ได้
ทั้งสองวิ่งไปในขณะที่แหงนมองบนฟ้าไปด้วย
แต่หลังจากที่วิ่งมาได้สักพัก อยู่ๆ มิมิก็วิ่งเข้าไปชนกับคนๆ หนึ่งโดยที่ไม่ทันได้มองเห็น
เนียมิ: มิมิจัง!! Σ( °Д°)
เนียมิที่เพิ่งรู้ตัวในภายหลังได้หยุดวิ่งแล้วรีบหันกลับมามอง พบว่าทั้งสองฝ่ายคว่ำลงไปนอนกับพื้น
มิมิ: โอ้ยๆๆ ...
มิมิค่อยๆ ลุกขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ส่วนเนียมิรีบวิ่งกลับมาดู
เนียมิ: ไม่เป็นไรนะ?
มิมิ: อืม!!
ส่วนอีกฝั่งก็ค่อยๆ ลุกขึ้นมาเช่นกัน
มิมิ: ฉันขอโทษนะที่วิ่งโดยไม่ได้มองทาง... <(_ _)>
มิมิกล่าวขอโทษกับคนที่ถูกวิ่งชนซึ่งเป็นเด็กผู้ชาย
"Σ( °_°) พวกพี่มาทำอะไรกันแถวนี้เหรอ?"
เด็กผู้ชายคนที่ถูกมิมิวิ่งชน ถามคำถามบางอย่างออกมา
เนียมิ: คือว่าพวกเรากำลังตามหาสุนัขตัวใหญ่ๆ สีฟ้าๆ อยู่น่ะ เธอพอจะเห็นบ้างไหม?
จากคำตอบนี้ทำให้เด็กผู้ชายถึงกับสะดุ้งออกมาเล็กน้อย
"Σ( °_°) สุนัขตัวสีฟ้าเหรอ??"
เนียมิ: อืม! รู้สึกว่ามันจะบินได้ด้วยนะ
"ไม่จริงน่ะ!? พวกพี่แอบเข้าไปปล้นสะดมที่ "บ้านเก่า" ของผมเหรอ??"
มิมิ/เนียมิ: เอ๊?? (⊙_⊙)?
ทั้งสองงงกับคำถามนี้ แล้วทั้งคู่ก็หันมาถามกัน
เนียมิ: หรือจะหมายถึงบ้านที่พวกเราเข้าไปช่วยสุนัขเมื่อกี้??
มิมิ: น่าจะใช่นะ
จากนั้นทั้งสองก็หันกลับมาทางเด็กผู้ชายอีกครั้ง
มิมิ: คือพวกเราไม่ได้เไปขโมยของในบ้านใครในเมืองนั้นเลยนะ
เนียมิ: ใช่ๆ พวกเราก็แค่เจอสุนัขตัวที่ว่ากำลังหิวอย่างโรยแรงอยู่ในเมือง พวกเราก็เลยเข้าไปช่วย แต่ว่าพอหลังจากที่มันหายดีแล้วดันกลับหนีไปซะเฉยๆ เลย
แล้วจากนั้นเด็กผู้ชายก็คิดอะไรอยู่สักพัก ก่อนที่จะตอบ
"เฮ่อ.. ค่อยยังชั่วที่พวกพี่ไม่ได้เป็นพวกโจรสลัดเหมือนกับ "ผู้กล้าจอมปลอม" ที่เขาลือกัน"
แล้วจากนั้นเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้
"เอ๊? แต่ว่าในเมืองนั้นไม่มีใครอยู่แล้วนี่นา??"
มิมิ: ใช่! ที่นั่นไม่มีใครอยู่เลย แต่สุนัขประหลาดที่พวกเราเจออยู่กลางเมืองอาจจะเป็นพวกสัตว์ป่าที่หลงเข้ามาก็ได้
"อ๋อ.. ผมเข้าใจแล้ว ลืมนึกถึงเรื่องนั้นไปเลยแฮะ... ^_^;"
เนียมิ: แล้วน้องมาทำอะไรที่เมืองร้างนี้งั้นเหรอ?
"ผมต้องเป็นฝ่ายถามพวกพี่ก่อนมากกว่านะ?"
มิมิ: เออ.. คือพวกเรา...
จากนั้นมิมิก็ยื่นมือออกไปข้างหน้า แล้วซิลลี่คีย์ก็ปรากฎออกมาในมือ
มิมิ: คือพวกเรากำลังตามรวบรวมชิ้นส่วนลูกแก้วของซิลลี่คีย์อยู่น่ะ หนึ่งในชิ้นนั้นมันซ่อนอยู่ที่เมืองนี้
"ซิลลี่คีย์เหรอ? มันคืออะไรกันน่ะ??"
แล้วจากนั้นทั้งสองก็เล่าเรื่องแบบคร่าวๆ เกี่ยวกับภารกิจของพวกเธอให้เขาฟ้ง
"อ๋อ อย่างนี้นี่เอง แสดงว่าพวกพี่เป็น "ผู้กล้าตัวจริง" สินะ..!"
เนียมิ: ใช่แล้วล่ะ! (^_<)☆
"โห้!! สุดยอดไปเลยนะ! (*^_^*)"
มิมิ: นั่นสิ แล้วเรื่องของเธอล่ะ??
"อืม!! ผมกลับมาที่เมืองนี้เพื่อจะไปเอาของที่อยู่ในบ้านเก่าน่ะ"
มิมิ: กลับมาเอาของเหรอ??
"อืม! มันเป็นตุ๊กตา... ตุ๊กตาสุนัข เป็นตุ๊กตาที่ผมรักมากที่สุดเลยล่ะ!!"
มิมิ: อ๋อ.. ตอนย้ายบ้านลืมตุ๊กตาตัวนั้นไว้ที่นั่นสินะ
"ครับ! ^_^"
เนียมิ: จริงด้วยสิ! แล้วที่เมืองนี้มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอ ทำไมถึงไม่มีใครอยู่เลยล่ะ เธอพอจะทราบเรื่องอะไรไหม?
"เออ... เมื่อก่อนที่เมืองนี้เคยเกิดโรคระบาดขึ้นน่ะครับ"
มิมิ: โรคระบาดงั้นเหรอ??
"ครับ! มันเป็นโรคที่เกิดมาจากคำสาปของอสูรกายที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ กับเมืองนี้ ซึ่งโรคนี้ทำให้ผู้ที่ติดเชื้อเกิดอาการอ่อนล้าคล้ายกับโรคหอบหืด แต่ว่าผู้ที่ติดเชื้อดังกล่าวจะตายลงเองภายใน 3-5 วัน เป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาให้หายได้เพราะเป็นโรคที่เกิดจากคำสาป มิน้ำซ้า โรคนี้ยังแพร่กระจายระหว่างผู้คนและสิ่งมีชีวิตต่างๆ ได้อย่างไม่จำกัดอีกด้วย และโรคนี้ยังไม่มีใครทราบได้ว่ามันเริ่มแพร่ระบาดตั้งแต่ตอนไหน รู้เพียงแต่ว่ามันเป็นหนึ่งในเวทมนตร์ของอสูรกายที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ กับเมืองนี้ ทำให้หลังจากที่มีการแพร่ระบาดครั้งใหญ่เกิดขึ้น ผู้คนที่ไม่ได้ติดเชื้อจึงพากันหอบของหนีออกจากเมืองนี้กันทั้งหมด ทำให้เมืองนี้เลยกลายเป็นเมืองร้างนับตั้งแต่นั้นมา..."
เนียมิ: แบบนี้เอง แล้วโรคนี้เคยระบาดไปที่อื่นด้วยไหม? (หมายถึงตอนนั้น)
"ไม่หรอกครับ โรคนี้ระบาดอยู่แค่เฉพาะในเมืองนี้เท่านั้น"
เนียมิ: แบบนี้ก็แสดงว่าผู้ที่ติดเชื้อต้องถูกกักบริเวณอยู่แค่เฉพาะในเมืองนี้เท่านั้นสินะ ห้ามออกไปที่เมืองอื่น?
"ใช่แล้วครับ... แต่ตอนนี้ได้ยินมาว่า "ผู้กล้าจอมปลอม" ที่เขาลือกันไปปราบอสูรกายที่ว่ามาได้แล้ว ทำให้เชื้อโรคที่ยังหลงเหลืออยู่ในเมืองถูกกำจัดออกไปทั้งหมดด้วย ผมก็เลยอยากจะกลับมาเอาของสำคัญของผมคืนน่ะครับ"
แล้วทั้งคู่ก็หันมาคุยกัน
มิมิ: หรือจะหมายถึง "ผู้กล้าจอมปลอม" ที่เคยเล่าในตอนนั้น?? (มันคุ้นๆ นะ) -> แอสคอต: แต่ข้าเคยปราบอสูรกายที่แกร่งที่สุดจนกอบกู้หมู่บ้านแห่งหนึ่งมาได้แล้วนะขอรับ!! แล้วเหตุใดท่านถึงไม่ยอมรับข้าเป็นผู้กล้าในภารกิจนี้กันล่ะ??
เนียมิ: อืม! น่าจะใช่นะ!
จากนั้นทั้งสองก็หันกลับมาทางเด็กผู้ชายอีกครั้ง
มิมิ: นั่นสิแล้วเธอชื่ออะไรเหรอ?
"ผมชื่อ "โรโค่" (Roco) ยินดีที่ได้รู้จักด้วยนะครับ! ^_^"
มิมิ: เช่นกันจ๊ะ ฉันชื่อมิมิ
เนียมิ: ส่วนฉันเนียมิจ๊ะ ^_^
โรโค่: เออ.. จะว่าไปพวกพี่นี่หน้าตาเหมือนกันเป๊ะเลยนะ พวกพี่ทั้งสองเป็นฝาแฝดกันใช่เปล่า?
จากคำถามนี้ทำให้ทั้งสองถึงกับเหงื่อตก ( ̄_ ̄|||)
มิมิ/เนียมิ: ไม่ใช่เลยนะ!! ヽ(≧□≦)ノ
มิมิกับเนียมิตะโกนออกมาพร้อมกัน ก่อนที่จะเล่าความจริงให้โรโค่ทราบ
โรโค่: อย่างนี้เอง... แค่บังเอิญหน้าตาเหมือนกันเฉยๆ สินะ... ( ̄_ ̄|||) ...นั่นสิ! ไหนๆ ก็ได้เพื่อนใหม่ทั้งทีแล้ว ช่วยไปเป็นเพื่อนกับผมหน่อยจะได้ไหมครับ?
มิมิ: แต่พวกเรากำลังตามหาสุนัขตัวนั้นกันอยู่นะ...
เนียมิ: มิมิจัง.. ฉันว่าป่านนี้สุนัขตัวนั้นคงบินหายไปไหนต่อไหนไกลแล้วล่ะ
มิมิ: เออ.. นั่นสิ เป็นเพราะพวกเราหยุดคุยกันยาวเลย ( ̄_ ̄|||)
โรโค่: อ่ะ! Σ( °o °) ต้องขอโทษด้วยนะที่มาขัดจังหวะ <(_ _)>
โรโค่รู้สึกผิดขึ้นมา
มิมิ: ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวเรื่องนั้นเอาไว้จัดการที่หลังก็แล้วกัน ตอนนี้พวกเราก็ไปที่บ้านโรโค่คุงด้วยกันนะ!
โรโค่: ครับ! ^_^
--------------------------------------------------------------------------------
จากนั้นโรโค่ก็พาทั้งสองไปยังบ้านเก่าของเขาซึ่งอยู่ภายในตัวเมือง
โรโค่: ต้องขอโทษด้วยอีกทีนะ ที่อยากได้เพื่อนมาร่วมทางด้วย เพราะผมกลัวพวกปล้นสะดมน่ะ
เนียมิ: ไม่ต้องเกรงใจหรอก พวกเราเป็นถึงผู้กล้าเชียวนะ ถ้ามีเรื่องอะไรให้อยากช่วย พวกเราก็พร้อมตลอดอยู่แล้ว (*^_^*)
มิมิ: และอีกอย่างภารกิจหลักของเราก็คือตามหาชิ้นส่วนลูกแก้วเวทมนตร์ ซึ่งมันอยู่ที่ไหนสักแห่งในเมืองนี้อยู่แล้วไงล่ะจ๊ะ!
หลังจากที่เดินมาได้สักพัก ก็มาถึงหน้าบ้านของโรโค่
โรโค่: ถึงแล้วครับ บ้านเก่าของผม
แต่ทั้งสองก็ต้องแปลกใจ เพราะบ้านหลังนี้ก็คือบ้านเดียวกับที่ทั้งสองเข้าไปช่วยสุนัขเมื่อสักครู่นี่เอง!
เนียมิ: เอ๊! บ้านนี้มัน... Σ( °o °)
โรโค่: มีอะไรเหรอครับ??
เนียมิ: อ่อ เปล่าไม่มีอะไรหรอก o(* ̄▽ ̄*)ブ
จากนั้นทั้งหมดก็เดินเข้าไปภายในบ้าน
โรโค่: อืม.. ไม่ได้มาที่นี่ตั้งนานมีฝุ่นจับเพียบเลยนะครับ...
แล้วทั้งสองก็มองสำรวจภายในห้องโถงอย่างละเอียด
เนียมิ: จะว่าไปชั้นล่างก็ไม่มีข้าวของอะไรเลยนะ แสดงว่าตุ๊กตาคงอยู่ชั้นบนสินะ?
โรโค่: ก็.. น่าจะใช่นะ อาจจะอยู่ที่ห้องนอนเก่าที่ชั้นสองก็ได้ เพราะตอนที่ย้ายบ้าน ก็ไม่ได้เอาข้าวของบางอย่างบนชั้นสองไปด้วย (ซึ่งตุ๊กตาคือหนึ่งในนั้น)
จากนั้นทั้งหมดก็เดินขึ้นมายังชั้นสองของบ้าน แล้วเดินเข้าไปยังห้องนอนเก่า
โรโค่: น่าจะอยู่ในห้องนี้แหละ...
สิ่งของที่เหลืออยู่ภายในห้องนอนมี เตียงเปล่า ตู้เก็บของ และตู้เสื้อผ้า
จากนั้นโรโค่ก็ทำการค้นหาบริเวณต่างๆ ภายในห้อง แต่ก็ไม่พบตุ๊กตาแต่อย่างใด...
โรโค่: ไม่มีแฮะ...
จากนั้นเขาจึงลองไปหาที่ห้องอื่นๆ ดู แต่ที่ห้องอื่นเป็นห้องเปล่าทั้งหมด
โรโค่: แสดงว่าคงมีใครมาขโมยไปเรียบร้อยแล้วสินะ... ::>_<::
มิมิ: เธอชอบตุ๊กตาตัวนั้นมากขนาดนั้นเลยเหรอ?
โรโค่: คือที่จริงแล้วผมเคยเลี้ยงสุนัขไว้ตัวหนึ่งเป็นพันธุ์โกลเดินริทรีฟเวอร์ ชื่อ "มอคโค่" (Moco) มันเป็นหมาที่เชื่องและฉลาดมากๆ เลยล่ะครับ และมันก็ติดผมมากๆ ชนิดที่ว่าเวลาที่ผมกลับมาจากนอกบ้าน มันมักจะเข้ามากระโดดกอดผมให้ได้แทบทุกครั้งเลยล่ะ ...จนกระทั่งมีอยู่คืนหนึ่ง ผมฝันว่าได้ขึ้นไปขี่บนหลังของมอคโค่ด้วยนะ แต่ว่า.. มันบินได้ด้วย! ในตอนนั้นพวกเราทั้งคู่ได้โบยบินไปยังที่ต่างๆ มากมาย ได้เห็นเมือง ป่าไม้ ภูเขา และทะเลสาบจากมุมสูง ภายใต้แสงตะวันอันแสนอบอุ่น มันเป็นความทรงจำแสนวิเศษที่ผมไม่มีวันลืมได้เลยล่ะ... แต่แล้วกระทั่งวันหนึ่ง มอคโค่ก็ได้จากผมไปอย่างไม่มีวันกลับเพราะมันดันไปติดเชื้ออสูรกายเข้า โดยที่ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ามันไปติดมาจากไหน และนั่นจึงเป็นเหตุให้ครอบครัวของผมต้องย้ายบ้านหนีออกไปจากเมืองนี้นับตั้งแต่ตอนนั้นมา... ตอนนี้ผมก็เลยคิดว่าถ้าหากได้ตุ๊กตาตัวนั้นกลับมาอีกครั้ง บางทีผมอาจจะมีโอกาสได้เจอกับมอคโค่ในความฝันอีกก็เป็นได้... (ノへ ̄、)
ในประโยคสุดท้าย โรโค่เริ่มน้ำตาไหลออกมา
มิมิ: เอ๊!? Σ( °_°) แล้วตุ๊กตาที่ว่ามันเป็นตัวอะไร แล้วมีหน้าตาแบบไหนเหรอ?
โรโค่: เป็นตุ๊กตาสุนัข หน้าตาก็คล้ายกับๆ มอคโค่ ตัวสีฟ้า มีใบหูยาวและหางสั้นคล้ายกระต่าย...
ทันใดนั้นเนียมิก็รู้สึกคุ้นๆ ขึ้นมา
เนียมิ: เอ๊!? Σ( °_°) มันฟังดูคุ้นๆ มากเลยนะ หรือว่าสุนัขที่พวกเราช่วยออกมาเมื่อกี้นี้...?
มิมิ/เนียมิ: อาจจะเป็น "มอคโค่" ก็ได้?? (⊙_◎)
ทั้งสองหันมาอุทานพร้อมกัน
โรโค่: ห๊ะ? มีอะไรงั้นเหรอครับ??
โรโค่รู้สึกแปลกใจขึ้นมา
เนียมิ: ดูเหมือนว่าพวกเราต้องกลับไปตามหาสุนัขตัวที่พวกเรากำลังตามหาอยู่ให้เจอแล้วล่ะ เพราะนั่นอาจจะเป็น "มอคโค่" ก็ได้?
โรโค่: ไม่จริงนะ? ก็มอคโค่ได้ตายไปแล้วนิ แล้วมันจะ... คืนชีพได้ยังไงกัน
มิมิ: ก็คุณสมบัติของตุ๊กตาที่เธอบอกมา มันเหมือนกับสุนัขตัวที่พวกเรากำลังตามหาอยู่พอดีเลยน่ะสิ!!
โรโค่: เอ๊!? จริงเหรอ?? (⊙o⊙)
เนียมิ: อืม!! ^_^ บางทีฉันคิดว่าสุนัขตัวนั้นอาจจะเป็น... มอคโค่ที่กลับมาเกิดใหม่เป็นตุ๊กตาตัวนั้นก็ได้นะ!
มิมิ: แต่ว่า... แล้วในตอนนี้พวกเราจะหามันเจอได้ยังไงกันล่ะ??
เนียมิ: เออ.. ก็นั่นน่ะสิ... ㄟ( ▔, ▔ )ㄏ
แล้วจากนั้นทั้งสองก็พยายามคิดหาวิธีตามหาสุนัขตัวนั้นให้ได้อยู่พักหนึ่ง
เนียมิ: Σ(. ❛ ᴗ ❛.)💡 จริงด้วยสิ!!
แล้วเนียมิก็เข้าไปซุบซิบอะไรกับมิมิอยู่สักพัก
มิมิ: อืม!!
จากนั้นทั้งสองก็หันมาทางโรโค่
เนียมิ: โรโค่คุงรออยู่ที่นี่สักพักก่อนนะ เดี๋ยวพวกเราจะพามอคโค่กลับมาแน่!! (^_<)☆
โรโค่: เออ.. เข้าใจแล้วครับ...
โรโค่รู้สึกงงๆ กับสิ่งที่เนียมิบอก แต่ก็ต้องยอมรับไป
จากนั้นทั้งสองก็เดินออกมานอกบ้าน
เนียมิ: เอาล่ะนะ!
มิมิ: อืม!! ^_^
แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ยกแขนข้างที่สวมกำไลแปลงร่างขึ้นมา แล้วตะโกนว่า
มิมิ/เนียมิ: "ป๊อปปินแปลงร่าง!!"
แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็แปลงร่างเป็นป๊อปเปอร์ส
หลังจากที่แปลงร่างแล้ว ทั้งสองก็ได้เรียก "ป๊อปเปอร์สปีดเดอร์" ออกมา โดยที่รองเท้าบูทได้เปลี่ยนเป็นโรลเลอร์เบลดติดปีก
แล้วจากนั้นทั้งสองก็โบยบินขึ้นไปสู่บนท้องฟ้าเพื่อออกตามหามอคโค่
ป๊อปเลิฟ: ความคิดของเธอเข้าท่าอยู่นะ แต่พวกเราจะตามหาเจอได้จริงๆ น่ะเหรอ??
ป๊อปพีช: ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ถ้าลองหาจากมุมสูงแบบนี้ดู อาจจะเจอง่ายกว่าก็ได้
และหลังจากที่บินมาได้ระยะทางค่อนข้างไกล ในที่สุดทั้งสองก็พบกับสิ่งมีชีวิตบางอย่างกำลังบินอยู่บนท้องฟัาเช่นกัน
ป๊อปพีช: อ่ะ! Σ( °_°) นั่นมัน...!!
เมื่อสังเกตดู พบว่าเป็นสุนัขตัวสีฟ้าที่กำลังตามหาอยู่นั่นเอง!
ป๊อปเลิฟ: สุนัขตัวนั่นนิ!!
ป๊อปพีช: มันบินได้จริงๆ ด้วย!! Σ( °o °)
สุนัขตัวสีฟ้ากำลังบินสวนทางจากพวกเธอ โดยบินอยู่ในระดับต่ำกว่าทั้งสอง
ป๊อปเลิฟ: มันกำลังบินไปที่ไหนกันแน่นะ?
ป๊อปพีช: พวกเราลองตามไปดูกันเถอะ!
แล้วทั้งคู่ก็บินตามหลังของสุนัขไปเรื่อยๆ พบว่ามันกำลังบินไปทางแฮปปี้ทาวน์
ป๊อปพีช: รู้สึกว่ามันกำลังจะไปทางแฮปปี้ทาวน์นะ?
ป๊อปเลิฟ: หรือว่ามันอาจจะ.. กำลังตามหาโรโค่คุงอยู่ก็เป็นได้?
หลังจากบินตามมาได้สักพัก ก็มาถึงบริเวณตัวเมือง
จากนั้นสุนัขก็ได้บินลงไปยังตัวเมือง ทั้งคู่ก็ตามไปด้วยเช่นกัน
สุนัขได้บินลงมายังระดับเหนือพื้น และเริ่มมุ่งหน้าไปอย่างช้าๆ ซึ่งในขณะที่กำลังบินไปเรื่อยๆ นั้น สุนัขก็ได้มองหันซ้าย-ขวาไปด้วยตลอดทางราวกับว่ามันกำลังมองหาอะไรบางอย่างอยู่
ป๊อปพีช: ดูเหมือนว่ามันกำลังตามหาอะไรบางอย่างอยู่ด้วยจริงๆ นะ
ป๊อปเลิฟ: งั้นเราลองเข้าไปทักท้ายกันดูไหม?
ป๊อปพีช: อืม!!
จากนั้นทั้งคู่ก็บินข้ามสุนัขไป แล้วมากีดขวางทางบินของสุนัข
เมื่อสุนัขเห็นทั้งคู่จึงเกิดอาการตกใจเล็กน้อย ก่อนที่จะหยุดอยู่กับที่
ป๊อปพีช: กำลังตามหาเพื่อนของเธออยู่สินะ?
"..."
ป๊อปพีชถามไปแต่ดูเหมือนว่ามันจะพูดไม่ได้
ป๊อปเลิฟ: เดี๋ยวพวกเราจะช่วยนำทางไปให้เองนะ พวกฉันรู้ที่อยู่เพื่อนของเธอด้วยล่ะ!! ^_^
จากนั้นสักพักอยู่ๆ สุนัขก็เกิดอาการโกรธขึ้นมา ก่อนที่จะเริ่มโจมตีทั้งสองด้วยการปล่อยเลเซอร์แบบติดตามเป้าหมายจำนวนหลายเส้นออกมาจากปาก แต่ทั้งคู่ก็หลบไปได้
ป๊อปพีช: ห๊ะ!? ทำไมถึงโจมตีพวกเราล่ะ??
ป๊อปเลิฟ: ดูเหมือนว่ามันจะไม่เชื่อใจพวกเรานะ
ป๊อปพีช: แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ??
จากนั้นสุนัขก็โจมตีด้วยท่าเดิมอีกครั้ง แต่ทั้งคู่ก็ยังหลบได้เช่นเคย
ป๊อปเลิฟ: เดี๋ยวฉันจะลองล่อไปแถวหน้าบ้านโรโค่คุงดู!!
ป๊อปพีช: แต่จะให้เขาเห็นเราในร่างนี้ไม่ได้นะ...?
ป๊อปเลิฟ: เออ.. นั่นสินะ... ( ̄_ ̄|||) (ลืมนึกเรื่องนี้ไปเลย...)
จากนั้นสุนัขก็โจมตีด้วยท่าเดิมอีกครั้ง แต่คราวนี้ป๊อปเลิฟไม่สามารถหลบได้ เธอจึงใช้พลังม่านบาเรียป้องกันไว้ด้วยการยืนมือทั้งสองข้างออกไปข้างหน้าเพื่อสร้างม่านพลัง
ป๊อปพีช: งั้นเอานี่ไปก่อนดีกว่า! ป๊อปบาสเตอร์!!
ป๊อปพีชยิงลูกพลังจากมือข้างขวาใส่สุนัข ทำให้สุนัขร่วงลงสู่พื้นและหยุดชะงักไปชั่วครู่
ป๊อปเลิฟ: พีช!! จะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!
ป๊อปพีช: แต่ว่า.. มันเริ่มโจมตีพวกเราก่อนนี่นา??
ป๊อปเลิฟ: ก็ถูกของเธออยู่นะ แต่เราต้องหาทางสงบศึกให้ได้สิ!
ป๊อปพีช: แล้วจะให้ทำยังไงเล่า!! >︿<
ป๊อปเลิฟ: ก็ลองใช้ "ไอ้นั่น" กันสิ
ป๊อปพีช: หมายถึงเกียร์วิเศษนั่นเหรอ?
ป๊อปเลิฟ: อืม!!
จากนั้นสุนัขก็ค่อยๆ กลับมาตั้งหลัก
แต่ทว่า มันกลับบินหนีทั้งสองไปโดยที่ไม่สู้ต่อ
ป๊อปพีช: อ่ะ Σ( °Д°) หนีไปแล้ว!!
ป๊อปเลิฟ: สงสัยมันคงจะยอมแพ้พวกเราแล้วล่ะ.. ( ̄_ ̄|||)
ป๊อปพีช: แล้วแบบนี้จะทำยังไงกันต่อล่ะ?
ป๊อปเลิฟ: ก็ลองใช้เกียร์วิเศษนั่นกันดูเถอะ บางทีมันอาจจะมีพลังที่ช่วยทำให้มอคโค่มุ่งหน้าไปหาโรโค่ที่กำลังรออยู่ก็ได้
ป๊อปพีช: โอเค!!
แล้วทั้งคู่ก็เรียกเกียร์วิเศษออกมาจากเข็มกลัดบนชุด โดยมีลูกพลังออกมาจากเข็มกลัด ก่อนที่ลูกพลังทั้งสองจะเข้ามาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน แล้วจากนั้นลูกพลังก็แปลงสภาพกลายเป็นเกียร์อีกที
จากนั้นทั้งคู่มายืนอยู่หน้าเกียร์วิเศษด้วยกันเพื่อเตรียมเริ่มเล่นป๊อปปิน
ป๊อปเลิฟ: พร้อมแล้วนะ!
ป๊อปพีช: อืม!!
ป๊อปเลิฟ/พีช: Let's pop'n music together! O(∩_∩)O
แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มเล่นป๊อปปินด้วยเกียร์ตัวเดียวกัน โดยแบ่งกันกดปุ่มคนละฝั่ง
===== POP'N MUSIC =====
Sunny Side / Croove
ทันทีที่เริ่มเล่นป๊อปปิน ทางด้านโรโค่ที่กำลังรอทั้งสองอยู่ที่บ้าน ก็เกิดคลื่นแสงสีฟ้าขึ้นมารอบตัวของเขาอยู่สักพักหนึ่งก่อนที่จะหายไป โดยที่เขามองไม่เห็นแสงนั้น
"โรโค่!! ฉันกำลังตามหานายอยู่นะ..."
โรโค่: เอ๊!? Σ( °_°)
โรโค่รู้สึกตกใจกับเสียงเรียกปริศนาที่ดังเข้ามาในหูของเขา
"นายอยู่ที่ไหนได้โปรดออกมาหาฉันทีเถอะ! ฉันเฝ้ารอคอยการกลับมาของนายเนิ่นนานแล้วนะ"
โรโค่: หรือว่า...!?
แล้วจากนั้นเขาก็ตัดสินใจวิ่งออกจากบ้านเพื่อไปตามหาที่มาของเสียงปริศนานั้น
โรโค่: นายกลับมาแล้วจริงๆ สินะ มอคโค่...
โรโค่อุทานเคล้าน้ำตาด้วยความคิดถึงในขณะที่กำลังวิ่งไปเรื่อยๆ
และหลังจากที่วิ่งหามาได้สักพัก ในที่สุดเขาก็ได้พบกับสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่กำลังบินอยู่บนฟ้า
เขาหยุดยืนมองดูสิ่งนั่นด้วยความอึ้งบวกความสงสัย
"ได้โปรดมาหาฉันเถอะ! {{{(>_<)}}}"
สิ่งที่เขาเห็นนั้นก็คือตุ๊กตาสุนัขตัวสีฟ้าของเขาที่ได้บินผ่านหัวของเขาไป
โรโค่: ไม่จริงน่ะ?? นายกลับมาเกิดใหม่เป็นตุ๊กตาตัวนั้นเหรอ?!
แล้วเขาก็วิ่งตามสุนัขตัวนั้นไป
โรโค่: นี่!! มอคโค่!! ฉันอยู่ทางนี้!!
โรโค่เรียกสุนัขบนฟ้าในขณะที่เขากำลังวิ่งตามไปด้วย
แล้วจากนั้นสุนัขก็ได้หยุดแล้วหันมามองเขาที่อยู่ด้านล่าง
โรโค่: มอคโค่!! ฉันกลับมาหานายแล้วนะ!
โรโค่พยายามตะโกนพลางโบกมือเรียก แล้วจากนั้่นมอคโค่ก็บินเข้ามาหาเขา
มอคโค่: โรโค่คุง!!
มอคโค่ได้บินเข้ามากอดเขาด้วยความคิดถึง
โรโค่: ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ.. ฉันกลับมาที่นี่ก็เพื่อมาตามหานายเนี่ยแหละ... ~(>_<。)\
===== END MUSIC =====
เวลาผ่านไปหลังจากที่เล่นป๊อปปินเสร็จแล้วทั้งคู่ก็ได้กลับร่างเดิม ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปหาโรโค่
เนียมิ: โรโค่คุง!! พวกเรากลับมาแล้ว!!
เนียมิตะโกนเรียกในขณะที่กำลังวิ่งเข้าไปหาโรโค่ ทางด้านโรโค่จึงหันมามอง
และทันทีที่มิมิได้เห็นสุนัขสีฟ้ามาอยู่กับโรโค่แล้ว เธอก็รู้สึกแปลกใจปนยินดี
มิมิ: อ่ะ! สุนัขตัวนั้นหาโรโค่เจอแล้วล่ะ!! o(*°▽°*)o
โรโค่: ครับ! ^_^ ตอนที่ผมรออยู่ที่บ้าน อยู่ๆ ผมก็ได้ยินเสียงเรียกของมอคโค่ขึ้นมา ผมจึงออกไปตามหา จนในที่สุดก็ได้เจอกับตุ๊กตา... ไม่ใช่สิ มอคโค่ที่กำลังบินหาผมอยู่แถวๆ นี่แหละครับ! (^_<)☆
เนียมิ: แสดงว่าเวทมนตร์ของพวกเราได้ผลจริงๆ ด้วยสินะ ^_^
โรโค่: เอ๊!? "เวทมนตร์"... งั้นเหรอ??
เนียมิ: อ่ะ! Σ( °Д°) เปล่าๆ คือแบบว่า นี่มันเหมือนเป็นการพบกันดั่งใช้เวทมนตร์จริงๆ เลยนะ ฮ่าๆๆ ^_^ (เกือบหลุดเรื่องตัวจริงของป๊อปเปอร์สไปแล้วไหมล่ะ...)
โรโค่: อืม! มันวิเศษเหมือนใช้เวทมนตร์จริงๆ เลยล่ะ ที่มอคโค่ได้กลับมาเกิดเป็นตุ๊กตาตัวนี้อีกครั้ง ..แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะพูดไม่ได้ซะแล้วแฮะ ทั้งที่เมื่อตอนที่มันเรียกกับตอนที่เจอกันยังพูดได้อยู่เลย...
มิมิ: สงสัยคงเป็นเพราะเวทมนตร์หมดฤทธิ์แน่ๆ เลยละมั้ง?
มิมิหันมากระซิบบอกเนียมิ
โรโค่: แต่ว่าก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงผมก็ได้อยู่กับมอคโค่อีกครั้งสมใจแล้วล่ะ และที่สำคัญคือ.. ผมสามารถบินไปไหนมาไหนได้เหมือนกับในความฝันตอนนั้นแล้ว ^_^
มิมิ: อืม!! ยินดีด้วยนะ ^_^
เนียมิ: สุดยอดไปเลยนะ ที่ความฝันในตอนนั้นได้กลายเป็นจริงแล้ว
โรโค่: ถ้างั้นผมก็ต้องขอขอบคุณพวกพี่ทั้งสองด้วยนะครับ ถ้าไม่ได้เจอกับพวกพี่ละก็.. ผมก็อาจจะไม่ได้เจอกับมอคโค่ในวันนี้ด้วยก็ได้
มิมิ: อืม! ^_^
และในทันใดนั้นก็มีแสงสว่างส่องมาจากทางหนึ่ง และเมื่อทั้งคู่หันไปดูก็พบกับแสงสีขาวส่องขึ้นมาเป็นแท่งเสาอยู่ใจกลางของเมือง
มิมิ: แสงนั่นมัน...?!
เนียมิ: พวกเรารีบไปดูกันเถอะ!!
แล้วทั้งคู่กับโรโค่ก็ได้ขี่บนหลังของมอคโค่เพื่อบินไปดูจุดที่มีแท่งแสงส่องออกมา
และเมื่อมาถึงหน้าแสงดังกล่าวก็พบกับ "เศษลูกแก้วเวทมนตร์" ที่กำลังลอยอยู่กลางแสงนั้น โดยเศษลูกแก้วได้ลอยอยู่ภายในหอระฆังบนยอดอาคารที่อยู่ใจกลางของเมืองพอดี
มิมิ: "เศษลูกแก้วเวทมนตร์" นี่!! Σ( °o °)
เนียมิ: มันซ่อนอยู่ในหอระฆังที่อยู่ใจกลางของเมืองนี้เอง..!
ส่วนโรโค่ก็มองที่เศษลูกแก้วด้วยความตะลึง
แล้วมิมิก็นำเศษลูกแก้วเวทมนตร์ชิ้นที่สี่มาประกอบรวมกับเศษลูกแก้วชิ้นอื่นที่อยู่บนซิลลี่คีย์
มิมิกับเนียมิ ได้รับสแตมป์ดวงที่ 4 เรียบร้อยแล้ว!!
เนียมิ: ในที่สุดก็เหลืออีกแค่ชิ้นเดียวแล้วนะ!!
มิมิ: อืม!! ^_^
เนียมิ: ว่าแต่.. ถ้ามันอยู่บนหอระฆังนี้ตั้งแต่แรก แล้วทำไมมันถึงไม่ส่องแสงออกมาให้เห็นตั้งแต่ที่พวกเราเพิ่งมาถึงเมืองนี้หว่า??
มิมิ: อาจเป็นเพราะมันอาจจะต้องการให้มอคโค่มาช่วยพวกเรารับเศษลูกแก้วบนนี้ก็ได้นะ
เนียมิ: อืม! นั่นสินะ ก็อยู่ตั้งสูงขนาดนี้นี่นา
โรโค่: งั้นก็แสดงว่าต้องจากกันแล้วสินะ...
มิมิ: อืม!! พวกเราต้องไปที่อื่นต่อแล้วล่ะ
โรโค่: ถ้างั้นก็... มาบินเล่นแถวๆ นี้เป็นการส่งท้ายแล้วกันนะ!
มิมิ: อืม!! ^_^
แล้วจากนั้นมอคโค่ก็พาบินไปตามที่ต่างๆ รอบๆ เมืองเป็นการปิดท้าย ซึ่งทั้งสองรวมถึงโรโค่ก็ได้ชมทัศนียภาพเบื้องล่างกันอย่างมีความสุข ภายใต้แสงตะวันอันแสนอบอุ่นใจที่ใกล้จะลับขอบฟ้า
โรโค่: ในที่สุดก็ถึงตาของพวกเราบ้างแล้วนะ!
โรโค่บอกกับมอคโค่
--------------------------------------------------------------------------------
ทางด้านเซ
"อะไรนะ!! "นักรบในตำนานป๊อปเปอร์ส" งั้นเหรอ??"
เสียงของชายผู้หนึ่งที่เป็นหัวหน้าของอะไรสักอย่าง ตะโกนออกมา
เซ: เจ้าค่ะ... (´。_。`)
ชายผู้นั้นลุกขึ้นจากบัลลังก์ก่อนที่จะกล่าว
"ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ มันปรากฏตัวมาจากไหนกัน?? แสดงว่าต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ เลย!!"
เซ: แต่ก็ดีแล้วนี่คะ ที่ท่านกลับมาคืนชีพได้อีกครั้งหนึ่ง..
"ดีซะที่ไหนล่ะ!! ก็ยังมี "นักรบในตำนานป๊อปเปอร์ส" กลับมาด้วยนี่นา!!"
จากคำบ่นนี้ ทำให้เซไม่กล้าพูดอะไรต่ออีก
"เอาล่ะ เหลือเวลาอีกไม่กี่วันแล้ว พวกเจ้าทั้งหมดก็เตรียมกำลังกันไว้ให้พร้อมนะ! เพราะศึกครั้งนี้มันไม่ง่ายอย่างที่เคยวางแผนไว้แน่!!"
หัวหน้าของเซสั่งการทหารทั้งหมดที่อยู่ภายในห้องให้เตรียมพร้อมรบ
--------------------------------------------------------------------------------
ขณะเดียวกัน ที่เมืองหลวงของอาณาจักรเทพนิยาย ก็ได้เกิดปรากฏการณ์แบบเดียวกับครั้งก่อนหน้าขึ้นมาบนท้องฟ้าอีกครั้ง มันเป็นลักษณะกลุ่มเมฆที่หมุนวนกันเป็นหลุมเมฆขนาดใหญ่บนท้องฟ้าคล้ายกับตาพายุ
ไดโน: นั่นมัน... อีกแล้วเหรอเนี่ย??
ไดโนที่ดูอยู่บนระเบียงของปราสาทรู้สึกตะลึงอย่างมากที่ได้เห็นปรากฏการณ์นี้อีกครั้ง
ไดโน: แสดงว่าในอีกไม่นานก็จะถึง "วันพิพากษา" แล้วสินะ... แล้วเด็กพวกนั้นจะกลับมาทันไหมล่ะเนี่ย??
ไดโนพูดถึงมิมิกับเนียมิที่กำลังทำภารกิจอยู่
>>>>> TO BE CONTINUED <<<<<