14 ธันวาคม 2566

[Review] Pioneer ผจญภัยในห้วงอวกาศอันไกลโพ้น

สวัสดีครับ แอดมินเอครับผม ' w')/

วันนี้แอดมินมาแนะนำเกมโอเพนซอร์ซที่ต้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะเป็นเกมแนว Open World ที่คุณภาพไม่แพ้เกมระดับ AAA เลยทีเดียว ที่สำคัญคือมันฟรี และเป็นเกม "ออฟไลน์" เต็มรูปแบบไม่ต้องใช้อินเตอร์เน็ตในการเล่นอีกด้วย มาดูกันดีกว่าว่ามันคือเกมอะไรกันนะ?


และเกมนี้ก็คือ Pioneer เป็นเกมแนว Space trading and combat simulator ซึ่งเกมแนวนี้อาจจะฟังดูไม่ค่อยคุ้นหูชาวไทยเท่าไหร่นัก แต่ถ้าบอกว่ามันคือเกมแนวเดียวกับ No Man's Sky แล้วล่ะก็ เชื่อว่าหลายคนคงต้องร้อง "อ๋อ" เลยทีเดียว โดยลักษณะการเล่นจะคล้ายกับ Frontier: Elite II (1993) คือจะเป็นการขับยานอวกาศไปยังดวงดาวต่างๆ เพื่อทำภารกิจต่างๆ รวมไปถึงการซื้อสินค้าเพื่อนำไปขายต่อยังดาวดวงอื่นเพื่อทำกำไรจากการ "ซื้อถูก แต่ขายแพง" และเมื่อสะสมเงินได้จนถึงจำนวนหนึ่ง เราก็สามารถซื้ออาวุธและอุปกรณ์เสริมสมรรถภาพต่างๆ เพื่อทำให้ยานของเราแข็งแกร่งขึ้น และซื้อยานลำใหม่ได้อีกด้วยครับ


เมื่อเข้าเกมมาแล้วจะพบกับเมนูที่เราสามารถเลือกจุดที่จะเริ่มต้นการผจญภัยได้ถึง 3 แห่ง ซึ่งทั้ง 3 ตัวเลือกนอกจากจะแตกต่างกันในเรื่องของจุดเริ่มต้นแล้ว ยังต่างกันทั้งในส่วนของยานเริ่มต้น เงิน และอุปกรณ์เริ่มต้นอีกด้วย โดยหากเริ่มที่ Mars เราจะได้ยาน Coronatrix พร้อมอุปกรณ์ครบชุด และเงินติดตัวอีก 600 หากเริ่มที่ New Hope เราจะได้ยาน Pumpkinseed พร้อมอุปกรณ์ครบชุด และเงินติดตัว 400 และหากเริ่มที่ Barnard's Star เราจะได้ยาน Xylophis โดยที่ไม่มีปืนเลเซอร์กับเครื่อง Hyperdrive และเงินติดตัว 100


เมื่อเริ่มเกมเราจะต้องรับภารกิจจากหน้าจอ Station view โดยการคลิกที่ปุ่มด้านบน ซึ่งภายในบอร์ดนอกจากจะมีภารกิจต่างๆ แล้ว ยังมีในส่วนของบริการต่างๆ อีกด้วย เช่นการบำรุงเครื่อง Hyperdrive, บริจาคเงิน, จ้างลูกเรือ, รวมไปถึงตลาดมืดที่เราสามารถซื้อสิ่งของที่ "ผิดกฎหมายของดาวนั้นๆ" ได้อีกด้วย (ไม่มีให้ซื้อในร้านค้าธรรมดา) โดยของพวกนี้จะให้ราคาขายที่สูงกว่าไอเทมทั่วไป แต่ถ้าคิดจะซื้อหรือขายคงต้องระวังกันหน่อย เพราะอาจเป็นร้านค้าปลอมของตำรวจที่ตั้งมาเพื่อล่อซื้อ(และเรียกค่าปรับ)ได้เช่นกัน

เมื่อรับภารกิจแล้วก็เริ่มออกบินได้ด้วยการคลิกที่ Request launch ซึ่งการควบคุมนั้นส่วนใหญ่หากเป็นการบินไปยังที่ต่างๆ จะใช้ระบบ Autopilot ช่วยในการบินเป็นหลัก ซึ่งเราสามารถเปิด Autopilot ได้โดยการคลิกขวาค้างที่ชื่อสถานที่จุดหมายสีส้มทางขวาของวงกลมแล้วเลือก Auto Docking หรือคลิกปุ่ม Overview Window ทางขวาบนของจอแล้วเลือกจากรายชื่อสถานที่ก็ได้เช่นกัน เมื่อเปิด Autopilot แล้วเราสามารถปล่อยให้ระบบคอมพิวเตอร์ทำการบินไปยังจุดหมายได้โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลยจนถึงปลายทาง

ทว่าก็มีบางภารกิจที่ผู้เล่นจำเป็นต้องควบคุมด้วยตัวเองเช่นกัน เช่นภารกิจประเภททำลายเป้าหมาย หรือเมื่อยามที่ผู้เล่นถูกเหล่าโจรโจมตีระหว่างทาง ซึ่งการบังคับควบคุมนั้นจะใช้ปุ่ม WASD ในการเร่งเครื่องไปยังทิศทางต่างๆ Q และ E เพื่อหมุน และคลิกขวาค้างตรงบริเวณว่างเพื่อควบคุมการเลี้ยว ส่วนการใช้อาวุธนั้น กด Spacebar จะเป็นการยิงปืนเลเซอร์ และกด M เพื่อยิงจรวด ซึ่งอันหลังจำเป็นต้องเลือกเป้าหมายก่อนด้วยการคลิกที่สัญลักษณ์ยานศัตรูบนหน้าจอ หรือจะกด T เพื่อเลือกเป้าหมายอัตโนมัติก็ได้ (เฉพาะยานเป้าหมายที่อยู่ในระยะต่ำกว่า 300 km) ส่วนการยิงเลเซอร์หากได้เลือกเป้าหมายไว้จะมีสัญลักษณ์ที่เป็นเส้นคล้ายกับไม้กางเขนปรากฏขึ้นตรงรอบๆ กรอบของเป้าหมาย ซึ่งตรงกลางของไม้กางเขนนั้นคือจุดที่เมื่อเล็งไปแล้วจะยิงโดนเป้าหมายตรงเป๊ะทุกนัด ก็เพียงแค่พยายามเลื่อนเม้าท์ให้ตรงกับจุดนั้น แต่ในช่วงแรกๆ ของเกมยานเริ่มต้นของคุณยังไม่สามารถที่จะติดตั้งปืนระดับสูงได้ เนื่องจากลิมิตที่คุณสามารถติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มได้มีจำกัด ดังนั้นหากหลบหนี(หรือโกย)ได้ก็เป็นสิ่งที่ควรจะทำ


เกมนี้มีระบบฟิสิกส์อวกาศที่มีความสมจริงอย่างมาก ง่ายๆ แค่คุณเร่งเครื่องจดสุด คุณก็แทบจะเบรคไม่ได้อยู่แล้ว เพราะในอวกาศไม่มีแรงโน้มถ่วง แต่เราก็อาศัยประโยชน์นี้ช่วยในการ "ประหยัดน้ำมัน" ได้เช่นกัน สังเกตได้จากหากเปิด Autopilot ให้เดินทางไปยังจุดหมายอัตโนมัติ หากจุดหมายอยู่ไกลมากๆ (ระยะทางมากกว่า 7.00 AU ขึ้นไป) เมื่อเร่งเครื่องจนทำความเร็วได้ระยะหนึ่งเครื่องยนต์จะดับไปเอง ในขณะที่ยานของคุณยังเคลื่อนที่ได้อยู่ นั่นก็เพราะฟิสิกส์อวกาศที่ไร้แรงโน้มถ่วงนั้นเองครับ


ส่วนการเดินทางนอกจากการบินอยู่ภายในระบบสุริยะนั้นๆ แล้ว เรายังสามารถบินไปยังระบบสุริยะอื่นได้ด้วยการคลิกที่ปุ่ม Sector Map ด้านบน ซึ่งเมื่อเข้ามาจะเป็นแผนที่จักรวาลที่ผู้เล่นสามารถเลือกระบบสุริยะที่ต้องการจะ "วาร์ป" ไปได้โดยคลิกที่ดาวนั้นๆ แล้วคลิกปุ่ม + ซึ่งจะมีรายละเอียดในส่วนของระยะทางและน้ำมันที่ต้องการด้วย ซึ่งน้ำมันที่ใช้ในการวาร์ปนี้จะแยกกับน้ำมันที่ใช้ในการบินปกตินะครับ และถือได้ว่าเป็นอีกจุดเด่นของเกมนี้เลยทีเดียว เพราะระบบสุริยะที่สามารถสำรวจได้นั้นมีมากกว่า 1 ล้านระบบ!


ระบบอุปกรณ์ในเกมนี้ก็น่าสนใจไม่เบา เนื่องจากรูปแบบนั้นจะเหมือนกับเกม RPG ที่ใช้รูปแบบในการติดตั้งเป็นชื้นส่วนต่างๆ แต่เกมนี้มีปัจจัยอย่างน้ำหนักมาเกี่ยวข้องด้วย ลิมิตที่คุณสามารถติดตั้งอุปกรณ์และพกสิ่งของได้ในยานแต่ละลำจะไม่เท่ากัน และยังมีผลต่อความเร็วสูงสุดที่เร่งได้และอัตราการกินน้ำมันอีกด้วย ถ้าหากน้ำหนักมีปริมาณมากไปก็จะส่งผลให้บินได้ช้าลงและบริโภคน้ำมันมากขึ้น ในเรื่องการซื้อขายก็สามารถทำได้ในร้านค้าจากเมนู Station view ประจำสถานที่ต่างๆ สิ่งที่ขายและซื้อได้กับ NPC ทั่วไปส่วนใหญ่มักเป็นสิ่งของสำหรับนำไปขายต่อยังสถานที่อื่น ยานอวกาศ อาวุธและอุปกรณ์เสริมสมรรถภาพ


ทางด้านกราฟิก ถึงแม้จะดูเชยไปหน่อยเพราะมันดูคล้ายกับเกมสมัยเครื่อง PS3/Xbox 360 แต่ก็ยังมีจุดโดดเด่นและสวยงาม มีการออกแบบพื้นผิวของดวงดาวที่ดูแตกต่างกันอย่างชัดเจน และท้องฟ้าอวกาศที่สวยงาม แสงเงาต่างๆ ก็ไม่ใช่เล่น โดยเฉพาะบริเวณดวงอาทิตย์ขนาดยักษ์นั้นงดงามมาก ถ้าเทียบกับเกมโอเพนซอร์ซตัวอื่นด้วยกันแล้ว เกมนี้ถือเป็นเกมภาพสวยอันดับต้นๆ เลยทีเดียว แต่อย่าเอาไปเทียบกับ STK แล้วกัน

ส่วนทางด้านดนตรีและเสียงประกอบในเกมนั้น ถึงแม้ว่าเสียงจะไม่อึกทึกครึกโครม แต่อย่างไรก็ตามดนตรีก็ยังทำหน้าที่ได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเพลงบรรเลงที่มีเมโลดี้ที่ไพเราะมาก ไปจนถึงช่วงที่ตื่นเต้น ก็ทำได้ระทึกเหมือนดนตรีประกอบภาพยนตร์อย่าง Star Wars

กระนั้นตัวเกมก็ยังมีข้อเสียอยู่บ้าง ซึ่งเอาจริงๆ ผมไม่ค่อยอยากจับผิดเกมนี้สักเท่าไหร่เลยนะ 😑 ซึ่งตัวเกมเวอร์ชั่นล่าสุด ณ ที่โพสต์บทความนี้เป็นเวอร์ชั่น 2023-02-03 ปัญหาที่พบอย่างเช่น บินอยู่ดีๆ เกมก็ค้างแล้วเด้งออกซะอย่างนั้น หรือเมื่อใช้ Autopilot บินไปถึงสถานที่ปลายทางแล้ว แต่ยานกลับไม่ลงจอดให้เอง ต้องคลิกเปิด Autopilot ซ้ำอีกครั้งเพื่อให้ยานลงจอด ส่วนนอกนั้นก็ไม่มีปัญหาในการเล่นแต่อย่างใดเลยครับ (สำหรับในส่วนของปัญหาเกมหลุดนั้นได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้วในเวอร์ชั่น 2024-02-03)


สรุปภาพรวมแล้วไม่ว่าใครจะเป็นแฟนของเกมแนว Open World หรือเป็นแฟนของเกมขับยานแบบ Flight sim บอกเลยว่าไม่ควรพลาด เราจะได้สนุกไปกับการสำรวจดวงดาวที่มีเป็นล้านๆ ดวง พร้อมทำภารกิจและต่อสู้กับศัตรูมากมาย แต่ตัวเกมค่อนข้างใช้ทักษะภาษาอังกฤษเยอะอยู่เหมือนกันเพราะเกมนี้ยังไม่่รองรับภาษาไทย แต่ก็ถือว่าเป็นอีกเกมที่คุณไม่ควรพลาดครับ

ดาวน์โหลดตัวเกมได้ที่
https://pioneerspacesim.net

จุดเด่น
• ระบบการเล่นแบบ Open World ที่แท้ทรู!
• มีการนำระบบหลายๆ อย่างของเกม RPG มาใส่ไว้ได้อย่างลงตัว
• เล่นได้นานคุ้มค่า

จุดสังเกต
• ไม่มีโหมดฝึกสอน
• AI ศัตรูไม่มีความหลากหลาย

ความจริงแล้วยังมีอีกเกมหนึ่งที่คล้ายกันคือ Vega Strike แต่ด้วยระบบการควบคุมส่วนใหญ่จะต้องเพิ่งปุ่มบนคีย์บอร์ดเป็นหลักและใช้หลายปุ่มมาก ทำให้ไม่ค่อยเหมาะกับมือใหม่สักเท่าไหร่นัก แต่ด้วยระบบการเล่นที่มีความสมบูรณ์แบบมากกว่าก็พอจะทดแทนกันได้


หน้านี้แก้ไขล่าสุดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567