28 เมษายน 2563

6 ปัจจัยที่ทำให้เกมแนวยานยิงไม่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน

ภาพจาก: Overclockzone
หากย้อนไปเมื่อ 30 กว่าปีก่อน เกมประเภท Shoot 'em up หรือ Shmup เป็นเกมแนวยานยิงที่ได้รับความนิยมสูงมากทีเดียว ประกอบกับมีผู้พัฒนาเกมทยอยปล่อยเกมแนวที่ว่าออกมาให้เล่นกันเพียบชนิดที่ว่าตามเกมเซ็นเตอร์ต้องมีตู้เกมยานยิงอย่างน้อย 1 เกมตั้งอยู่ในร้าน ซึ่งบางเกมก็มีจุดเด่นเฉพาะตัวจนกลายเป็นตำนานถูกพูดถึงกันอยู่บ้าง

ถึงอย่างนั้นในยุคปัจจุบันนี้ จะสังเกตได้ว่าเราแทบจะไม่เห็นเกมยานยิงผุดออกมาเลย ถึงมีก็น้อยมากจนแทบจะไม่ถูกพูดถึง แต่อาจจะยกเว้นซีรี่ส์ Raiden กับ R-Type ที่เป็นเกม AAA ที่ยังคงเหลือรอดจนถึงวันนี้ หรือเกมยุคใหม่อย่างพวกซีรี่ส์ Touhou (เฉพาะภาคหลัก) แต่ก็ไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนเมื่อก่อน

แล้วทำไมมันถึงเป็นเช่นนั้น เรื่องแบบนี้ย่อมมีที่มาที่ไปครับ และในวันนี้เราจะมาวิเคราะกันว่า ทำไมเกมแนว Shmup ถึงไม่เป็นที่นิยมนัก

หมายเหตุ: สำหรับในบทความนี้ผมจะพูดถึงในลักษณะเหมารวมทั้งโลกนะครับผม
ซึ่งจะต่างกับบทความเก่าก่อนหน้านี้ที่จะพูดถึงแค่เฉพาะในบ้านเราเท่านั้น

อ่านบทความย้อนหลังที่เกี่ยวข้อง:
5 เหตุผลที่ทำให้เกมแนวยานยิง ไม่ได้รับความนิยมในบ้านเรา

เกมเมอร์ต้องการความคุ้มค่า


ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยุคสมัยนี้ความคุ้มค่าในการซื้อเกมต้องมาก่อน แน่นอนว่าเหล่าผู้พัฒนาเกมก็ต้องแข่งขันกันถอยเกมที่มีคอนเทนต์อัดแน่นและใช้เวลาเล่นให้จบนานที่สุดเข้าไว้เพื่อดึงลูกค้าให้มากที่สุด ดังจะเห็นได้จากการผุดของเกมแนวเนื้อเรื่องหรือเกมแนว RPG ที่ใช้เวลาในการดำเนินเนื้อเรื่องราว 20 ชั่วโมงขึ้นไปทำให้เกมเมอร์รู้สึกคุ้มค่ากับเกมราคาเต็มที่ซื้อมา ซึ่งผิดกับเกมแนว Shmup ที่หัวใจหลักของมันคือการเล่นเพื่อทำคะแนนให้ได้มากที่สุด และใช้เวลาดำเนินเนื้อเรื่องเพียงแค่ 30 นาทีก็จบแล้ว

เอาง่ายๆ สมมติว่า ถ้าให้คุณเลือกซื้อระหว่างเกมยานยิงระดับ AAA กับเกมแนว RPG ซึ่งทั้งสองเกมมีราคาเต็มอยู่ที่ 1,690 บาทเท่ากัน เชื่อเลยว่าเกมเมอร์ส่วนใหญ่คงเลือกซื้อเกม RPG อย่างแน่นอน เนื่องจากเกมยานยิงมีประมาณคอนเทนต์ที่น้อยดูไม่สมกับราคาเต็มของมันนั่นเอง เว้นเสียแต่ว่าจะชอบหรือเป็นเกมซีรี่ส์ระดับตำนานที่ถูกพูดถึงกันมากจริงๆถึงจะยอมซื้อ

อันที่จริงก็ไม่ใช่ทุกเกมเสมอไป บางเกมในปัจจุบันทางผู้พัฒนาก็มีการออกแบบคอนเทนต์ให้มีจำนวนฉากเยอะๆ ประมาณ 15-40 ด่าน และใช้เวลารวมในการเล่นประมาณ 3-4 ชั่วโมงเลยทีเดียว เช่น Dimension Drive กับ Freedom Finger เป็นต้น

เล่นง่าย แต่เล่นให้เก่งยาก

ภาพจาก: https://whatnerd.com/modern-shoot-em-ups-shmups/
เป็นกำแพงของเกมยานยิงเลยก็ว่าได้ จริงอยู่ที่หลายๆคนอาจจะเล่นแบบเอาตัวรอดให้จบเกมเพียงอย่างเดียว แต่ความจริงแล้วการจะอัพเลเวลเล่นให้ทำแต้มคะแนนได้เยอะๆเพื่อแข่งขันทำอันดับกับผู้เล่นคนอื่นใน Leaderboard มันมีความซับซ้อนกว่านั้นมากๆ เพราะต้องศึกษาระบบการคิดคะแนนต่างๆของเกมนั้นๆ การวางแผน การเก็บไอเทม การใช้เทคนิคต่างๆ

ด้วยเหตุนี้ทำให้มันรู้สึกเข้าถึงยาก ซึ่งคนที่เก่งก็จะเก่งเทพระดับ Superplay ไปเลย และการที่คนธรรมดาจะฝึกฝนให้ถึงระดับนั้นต้องกินเวลามากจนทำให้หลายคนรู้สึกท้อแท้ไปเสียก่อน

กระสุนศัตรูท่วมจอ!

ภาพจาก: https://www.pcgamesn.com/cave-schmups-coming-to-pc-this-year-the-most-bullets-youll-ever-see-on-screen
ความยากของเกมที่มากเกินไปก็อาจจะไม่ส่งผลดีนักโดยเฉพาะยุคนี้ที่ต้องการความง่ายๆ ซึ่งเกมยานยิงใหม่ๆในยุคปัจจุบันนี้ส่วนมากมักจะทำออกมาในรูปแบบที่เรียกกันว่า Bullet Hell ที่เน้นความยากจากการหลบกระสุนดั่งเกมตระกูลโซลในฉบับยานยิง เพื่อเอาใจเกมเมอร์รุ่นเก่าที่ต้องการความแปลกใหม่และความท้าท้าย

แต่ถ้านับแค่เฉพาะในส่วนของเกมเมอร์ทั่วไป ก็มีเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่ชื่นชอบความท้าท้าย ซึ่งรูปแบบเกมที่ต้องจดจ่ออยู่กับดงกระสุนตลอดเวลาพร้อมๆกับการทำคะแนนให้ดีจัดว่ายากพอตัวเลย และความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวก็อาจชี้ผลแพ้ชนะกันได้ ฉะนั้นจึงต้องใช้สมาธิและความตั้งใจในการเล่นสูง จึงทำให้ไม่เหมาะสำหรับเกมเมอร์ทั่วไปสักเท่าไหร่ ถ้าคนที่ไม่ชอบอะไรยากๆ อาจจะโบกมือลาไปเลยก็ได้ แต่ถ้าใครชอบก็คือชอบไปเลยเช่นกัน

การมาของเกมแนว FPS / Flight Simulation

ภาพจาก: https://medium.com/@robanidwards/counter-strike-global-offensive-steam-code-7ccdb4ed6b2f
เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวทีเดียวกับเกมยิงแนว FPS ซึ่งได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องกับรูปแบบเกมที่เข้าใจง่ายและมีความยืดหยุ่นสูง อีกทั้งยังเป็นแนวเกมที่ผู้เล่นทุกวัยเล่นได้และสามารถฝึกฝนเป็นโปรได้ง่ายกว่า Shmup เมื่อมันมีข้อได้เปรียบขนาดนี้จึงไม่แปลกเลยที่มันจะได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว

นอกจากเกม FPS ก็ยังมีเกมที่ธีมดูคล้ายคลึงกับเกมแนว Shmup แต่เปลี่ยนมาเป็นแบบ 3D แทนอย่างแนว Flight Simulation ที่นำโดยซีรี่ส์ Ace Combat มาอีก ก็ยิ่งทำให้เกมยานยิงแบบดั่งเดิมซบเซาหนักลงไปอีก

ผู้พัฒนารายใหญ่ไม่เหลียวแล

ภาพจาก: https://wastingtimewithmikeandari.wordpress.com/2008/05/12/best-mame-shooters/
นอกจากรูปแบบเกมแล้วในเรื่องของธุรกิจเองเกมแนว Shmup ก็แทบไม่มีเกมจากบริษัทยักษ์ใหญ่ออกมา นั่นก็เพราะกระแสความนิยมที่น้อยและยังมีเกมแนวอื่นที่น่าสนใจกว่ามาเป็นกระแสหลักก็ไม่แปลกครับที่นักธุรกิจจะเล็งเห็นเรื่องตัวเลขเม็ดเงินก่อนทำให้นักลงทุนต่างไปทุ่มกับเกมกระแสหลักมากกว่า

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคงยกให้กับกรณีของค่าย Cave ซึ่งในยุคแรกนั้นประสบความสำเร็จกับเกมแนว Shmup อย่างมากจนมีการสร้างเกมแนวนี้ออกมาอีกเรื่อยๆ จนกลายเป็นอีกหนึ่งค่ายเกมในตำนานของวงการเกมแนว Shmup แต่ทว่าในตอนนี้พวกเขากลับไม่ได้พัฒนาเกมแนวนี้ออกมาอีกแล้ว เนื่องจากไปโฟกัสกับเกมกระแสหลักในปัจจุบันที่ทำยอดขายได้มากกว่าเกมแนว Shmup นั่นเองครับ

ไม่เพียงแค่นั้น ด้วยจำนวนผู้เล่นที่น้อยจากเหตุผลที่ว่ามาข้างบนก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ผู้ลงทุนไม่มั่นใจว่ามันจะทำกำไรได้ดีแค่ไหน ดังนั้นเราจึงได้เห็นเกมยานยิงใหม่ๆมาจากกลุ่มนักพัฒนาอินดี้ ไม่ก็เป็นพวกเกมเก่าที่เอามาปัดฝุ่นพอร์ตลงเครื่องรุ่นใหม่หรือรีเมดซะส่วนใหญ่ แถมยังดึงดูดลูกค้าหน้าใหม่ไม่ได้มาก จะมีก็แต่กลุ่มลูกค้าเก่า

ไม่ค่อยมีเนื้อเรื่องให้ติดตาม


นี่ก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจเพราะเกมยานยิงที่เน้นเนื้อเรื่องแบบจริงๆจังๆ มักไม่ค่อยมีออกมาให้เห็นเท่าไหร่นัก อย่างมากก็เพียงแค่แนะนำเรื่องราวแบบคร่าวๆก่อนเริ่มเกม กับบทสรุปหลังเกมจบเท่านั้น และด้วยความที่เกมกระแสหลักในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเน้นเนื้อเรื่องค่อนข้างมาก และก็มีผู้เล่นหลายคนที่ต้องการเสพเนื้อเรื่องมากกว่าเล่นให้มันจบๆไป ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกมยานยิงไม่ปังในปัจจุบันก็เป็นได้

สรุปแล้วก็คือเกมแนว Shmup นี้ ไม่ใช่เกมที่เหมาะกับทุกคนครับ เพราะมันไม่ใช่เกมที่เข้าถึงง่าย เนื่องจากต้องอาศัยทักษะด้านสายตาและการตอบสนองที่สูงกว่าแนวเกมทั่วไป มันถึงเป็นเกมที่ค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม และคนที่จะเล่นมันได้ต้องชอบความท้าทายและชอบการแข่งขันทำคะแนน ที่สำคัญคือ ต้องอดทนและมีเวลาให้กับมันด้วยครับ ถึงจะสามารถเล่นได้อย่างเข้าถึงและสนุกไปกับมัน

16 เมษายน 2563

ทำไมเกมยานยิงใหม่ๆหลายเกม ถึงย้ายไปลง Switch แทน PS4 และ Steam?


เพื่อนๆเคยสังเกตกันบ้างไหม ว่าทำไมเกมแนว Shoot 'em up หรือยานยิงใหม่ๆ ในยุคหลังมานี้หลายเกมไม่ว่าจะเป็น RXN: Raijin, Sisters Royale, Radirgy Swag, Panzer Dragoon: Remake หรือล่าสุดอย่าง BARK ก็ตัดสินใจวางขายบน Nintendo Switch ในฐานะเกมแบบ Exclusive แต่แน่นอนว่ามันมีสาเหตุที่ทำให้เหล่าผู้พัฒนาเกมแนวนี้เลือกที่จะลงให้กับ Switch เป็นอันดับแรก ซึ่งก็คือเรื่องรายได้นั่นเอง

รายได้เป็นเรื่องสำคัญ

บางคนอาจจะยังไม่ทราบว่า เกมที่วางขายอยู่บนแพลตฟอร์มต่างๆนั้น จะต้องมีการแบ่งส่วนของรายได้ให้กับทางเจ้าของแพลตฟอร์มนั้นๆด้วย (Nintendo, Sony, Steam ฯลฯ) ซึ่งส่วนแบ่งก็จะมีอัตราที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งแน่นอนว่ามันกระทบกับรายได้ของผู้พัฒนาเกมอย่างแน่นอน เพราะนอกจากเรื่องของส่วนแบ่งแล้ว ยังมีรายจ่ายอื่นๆ ที่ทางฝั่งผู้พัฒนาจะต้องแบกรับอีก อย่างเช่น ค่าโปรโมต ค่าจ้างพนักงาน และรายจ่ายด้านอื่นๆ ซึ่งส่งผลทำให้รายรับจริงๆ อาจจะได้ไม่มากอย่างที่เราคิดนัก

บน Switch มีฐานแฟนเกมแนวนี้เยอะกว่าแพลตฟอร์มอื่น

เนื่องจากผู้เล่นบนแพลตฟอร์มของ Nintendo ส่วนใหญ่จะนิยมเล่นเกมประเภท Casual ที่เข้าถึงได้ง่าย มากกว่าเกมประเภทเน้นเนื้อหาลุ่มลึกที่มีความซับซ้อนในการเล่นสูง ซึ่งเกมแนว Shoot 'em up เองก็เข้าข่ายอยู่ในประเภทแรก แน่นอนว่า ย่อมเป็นที่สนใจแก่เหล่าผู้เล่น และมีแนวโน้มที่ผู้เล่นจะซื้อเกมในราคาเต็มในช่วงที่เกมออกมาใหม่ในวันแรกหรือ Day One เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นช่วงที่น่าจะทำกำไรได้มากที่สุด จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เกมแนว Shoot 'em up หลายๆเกมจะเลือกพอร์ตลง PS4 กับ Steam ในภายหลังเมื่อหมดสัญญา Exclusive กับทาง Nintendo หรือไม่พอร์ตให้เลย เพราะผู้พัฒนาเกมแนวนี้ส่วนมากน่าจะเชื่อว่า ถึงแม้ว่าเกมของพวกเขาจะลงเป็นแบบ Exclusive ก็ตามที แต่ผู้เล่นที่ชื่นชอบเกมแนวนี้จริงๆ ยังไงก็ยังคงซื้อเกมของพวกเขาอยู่ดี ประกอบกับทาง Nintendo เองก็มีโปรเจกต์อย่าง Nintendo Indie World ที่มีนโยบายช่วยสนับสนุนผู้พัฒนาเกมรายเล็กแบบจริงจัง และยังมีการจัดงานโปรโมตเกมให้กับผู้พัฒนาเหล่านั้นโดยเฉพาะอีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่หากทางผู้พัฒนาเกมแนวนี้หลายเจ้า ตัดสินใจที่จะวางขายเกมของพวกเขาลงบน Switch ก่อนเป็นอันดับแรก

เพราะตัวเครื่องสามารถ "เล่นในแนวตั้ง" ได้!


จุดเด่นที่สำคัญของเครื่อง Switch ที่ไม่มีเครื่องเกมคอนโซลเครื่องไหนในเจนปัจจุบันเลียนแบบได้ นั่นก็คือการรองรับการเล่นเกมในโหมด Tate หรือจอแนวตั้ง เมื่อเล่นเกมในโหมดพกพาได้ด้วย ซึ่งหากใครที่เกิดทันในสมัยยุค 80-90 ก็คงจะพอทราบว่าเกมแนวยานยิงบนเครื่องอาเขตหลายๆเกมจะนิยมใช้หน้าจอแนวตั้งเป็นรูปแบบแสดงผล ซึ่งจะให้ระยะการมองเห็นของฉากภายในเกมดูยาวกว่าการแสดงผลในแนวนอนแบบจอปกติทั่วไป แน่นอนว่า การเล่นในโหมดจอแนวตั้งนั้น ให้ประสบการณ์ที่สุนทรีย์กว่าการเล่นในโหมดแนวนอนแบบปกติที่จอเกมจะถูกบีบให้มีขนาดเล็กลงอยู่ตรงกลางจอ พร้อมกับภาพวอลเปเปอร์อยู่ด้านข้างซ้าย-ขวาพอควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพวกเกมเก่าๆที่เอามาพอร์ตใหม่ รวมถึงเกมใหม่บางเกมก็รองรับการเล่นในโหมดนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผู้พัฒนาเกมแนวนี้หลายเจ้า สนใจนำเกมของตนเองมาวางขายบน Switch ก่อนเป็นอันดับแรกเช่นกัน

แล้วสำหรับเกมเมอร์อย่างเราล่ะ?

สำหรับใครที่มีเครื่องเกมอยู่ในครอบครองครบทุกค่าย อาจจะไม่ค่อยมีปัญหามากนัก แต่ถ้าใครที่ไม่มีเครื่อง Switch จุดนี้ก็คงขึ้นอยู่กับตัวเราแล้วล่ะ ว่าเราควรจะสนับสนุนการตัดสินใจของผู้พัฒนาหรือไม่ หรืออาจจะตั้งความหวังไว้ว่าเกมเหล่านั้นอาจจะหลุด Exclusive มาวางขายบน PS4 หรือ Steam ในสักวันหนึ่ง