28 มีนาคม 2568

[FlightGear: Red Griffin ATC] วิธีติดตั้ง Arch Linux ผ่าน VM เพื่อใช้งาน Festival Server Mode บน Windows

สวัสดีครับ แอดมินเอครับผม ' w')/

สืบเนื่องจาก Add-ons ของโปรแกรมจำลองการบิน FlightGear ที่ชื่อว่า Red Griffin ATC นั้น รองรับการเชื่อมต่อกับโปรแกรมสังเคราะห์เสียงที่ชื่อว่า Festival คือ หากเราทำการเชื่อมต่อ FG เข้ากับโปรแกรมดังกล่าว จะทำให้ได้ยินเสียงของ ATC (เจ้าหน้าที่ควบคุมการบิน) ที่แตกต่างกันถึง 10 แบบ จากเดิมจะมีเสียงแค่ 2 แบบเท่านั้น ทำให้ได้ความสมจริงมากยิ่งขึ้น เพราะทุกครั้งที่เราจูนคลื่นวิทยุใหม่ จะทำให้ได้ยินเสียงที่ไม่ซ้ำกันนั่นเอง

แต่น่าเสียดายที่ Festival เวอร์ชั่น Windows ไม่รองรับการเชื่อมต่อกับ Client (ช่องเสียง) มากกว่า 1 ด้วยเหตุผลใดก็ไม่ทราบ ทำให้เปลี่ยนเสียงได้แค่เฉพาะเสียงของนักบินเท่านั้น เสียงของ ATC ยังคงเป็นเสียง Default เหมือนเดิม

แต่โชคดีที่ยังมีทางแก้อยู่ครับ ด้วยการเชื่อมต่อ FG เข้าไปยัง Festival ที่รันในเครื่อง VM ด้วยระบบ Linux ซะเลย!



สิ่งที่ต้องเตรียม
- RAM อย่างน้อย 12 GB
- โปรแกรม VM (VMware Workstation Pro หรือ VirtualBox ก็ได้)
- ไฟล์ ISO ของ Arch Linux
- ไฟล์เสียงของ Festival
- เวลาในการทำ 😉

เริ่มต้นด้วยการลงโปรแกรม VM ซึ่งในบทความนี้จะใช้ VMware นะครับ

ซึ่งที่ผมเลือกใช้ VMware เพราะมันทำงานได้เร็วกว่า VirtualBox พอสมควรเลย แต่ถ้าใครอยากจะใช้ VirtualBox ก็ไม่ว่ากันนะครับ เพราะแนวทางการตั้งค่าเครื่องจำลองของ VirtualBox แทบไม่ต่างกัน

1. ดาวน์โหลด และติดตั้ง VMware Workstation Pro **ต้องสมัครก่อนโหลด (ฟรี)**
https://www.vmware.com/products/desktop-hypervisor/workstation-and-fusion

หรือหากใครไม่อยากสมัคร สามารถหาไฟล์ Mirror ได้ที่ Internet Archive ครับ โหลดได้เลย ไม่ต้อง Login (พิมพ์ VMware Workstation ลงในช่องค้นหา)

ซึ่งเวอร์ชั่นล่าสุด ณ ที่เขียนบทความนี้คือ 17.6.3

2. ดาวน์โหลดไฟล์ ISO ของ Arch Linux (เลื่อนลงมาเรื่อยๆ หาลิงค์ Thailand)
https://archlinux.org/download/

3. ดาวน์โหลดไฟล์เสียงของ Festival
http://www.festvox.org/packed/festival/2.5/voices/

ตามรายชื่อนี้

cmu_us_rms
cmu_us_ahw
cmu_us_eey
cmu_us_bdl
cmu_us_rxr
cmu_us_clb
cmu_us_jmk
cmu_us_lnh
cmu_us_slt
cmu_us_ljm
kallpc16k


เมื่อโหลดครบแล้ว แตกไฟล์ออกมา จะได้โฟลเดอร์ชื่อ festival ขนาด 594 MB

4. เปิดโปรแกรม VMware Workstation Pro แล้วทำการสร้างเครื่องจำลองขึ้นมา


4.1 เลือก Typical
4.2 เลือกไฟล์ ISO ของ Arch Linux
4.3 เลือก Linux และตั้ง Version เป็น Other Linux 6.x kernel 64-bit
4.4 ตั้งชื่อเครื่องเป็น Arch Linux (หรือชื่ออื่นก็ได้)
4.5 ตั้งขนาด HDD จำลองเป็น 50 GB และเลือก Store virtual disk as a single file
4.6 กด Finish

5. คลิกที่ชื่อเครื่อง VM ที่เราเพิ่งสร้าง แล้วคลิก Edit virtual machine settings

5.1 ตั้ง RAM เป็น 4 GB (4096 MB) * Festival ในโหมด Server ต้องการ RAM อย่างน้อย 4 GB ถึงจะใช้งานได้โดยไม่เกิดปัญหา *
5.2 Number of processors ตั้งเป็น 2
Number of cores per processor ตั้งเป็น 1
5.3 แถบ Options เลือกเปิด Shared Folder กับโฟลเดอร์ festival ที่เราแตกไฟล์เสียงออกมา
5.4 Advanced -> Fireware type เลือกเป็น UEFI

6. เปิดเครื่องจำลอง แล้วพอบูทเข้าตัวติดตั้งสำเร็จแล้ว (จะเห็นเป็นแถบหลายสี กับ root@archiso ~ #) ให้พิมพ์ archinstall


7. ตั้งค่าตามนี้

7.1 Mirrors -> Mirror region -> Thailand
7.2 Disk configuration -> Partitioning -> Use a best-effort default partition layout -> กด Enter -> ext4
7.3 Root password -> ตั้งรหัสตามต้องการ
7.4 User account -> Add a user -> ตั้งชื่อและรหัสตามต้องการ -> Yes -> Confirm and exit
7.5 Profile -> Type -> Desktop -> Xfce4
7.6 Audio -> pulseaudio
7.7 Network configuration -> Copy ISO network configuration to installation
7.8 Additional packages -> เลือก Package ตามนี้ (กด Spacebar)

alsa-firmware
alsa-oss
alsa-utils
festival
pulseaudio-alsa
sof-firmware

networkmanager
nm-connection-editor
network-manager-applet
ppp
bind


Package เพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้งาน VMware Workstation
open-vm-tools
gtkmm3

Package เพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้งาน VirtualBox
virtualbox-guest-utils


เสร็จแล้วกด Enter จากนั้นเลือก Install ได้เลย


8. เมื่อรอติดตั้งจนเสร็จแล้ว เลือก No แล้วพิมพ์ reboot



9. เมื่อรีบูทจนเข้าหน้า Desktop แล้ว ให้เปิด Terminal แล้วพิมพ์ตามลำดับนี้ กด Y แล้ว Enter เมื่อถาม

systemctl enable vmtoolsd.service
systemctl start vmtoolsd.service

systemctl enable vmware-vmblock-fuse.service
systemctl start vmware-vmblock-fuse.service

systemctl enable NetworkManager.service
systemctl start NetworkManager.service

systemctl enable named.service
systemctl start named.service

sudo pacman -R pulseaudio-alsa
sudo pacman -R pulseaudio


10. จากนั้นทำการรีบูทเครื่องจำลอง แล้วเปิด Terminal ต่อมาพิมพ์ sudo alsamixer

ทำการปรับระดับเสียงเป็น 100% ให้หมด แล้วเปลี่ยนค่า MM ให้เป็น OO ด้วยการกด M ที่ช่องนั้นๆ เสร็จแล้วกด Esc


11. พิมพ์ sudo thunar แล้วคลิก View -> Show Hidden Files จากนั้นเข้าไปยัง File System /mnt/hgfs/festival/lib/voices/ เลือกโฟลเดอร์ english กับ us แล้วคลิกขวาเลือก Copy

* หากไม่เห็น hgfs ให้กด Alt+Ctrl ออกมาที่โปรแกรม VMware แล้วคลิกแถบ VM -> Settings -> Options -> Shared Folder -> Disabled -> OK แล้วทำซ้ำอีกครั้งแต่ให้เลือกเป็น Enabled until next power off or suspend แทน *

12. จากนั้นไปยัง /usr/share/festival/voices/ คลิกขวาเลือก Paste เสร็จแล้วปิด Thunar

13. เข้าโฟลเดอร์ Home จากหน้า Desktop แล้วคลิก View -> Show Hidden Files จากนั้นคลิกขวาเลือก Create Document -> Empty File -> พิมพ์ .festivalrc -> Create

14. เปิดไฟล์ .festivalrc แล้วพิมพ์ (set! server_access_list nil) จากนั้นกด Ctrl+S แล้วปิดไฟล์


15. คลิกขวาที่หน้า Desktop -> Create Launcher แล้วใส่ค่าตามนี้

Name ตั้งเป็น Festival Server Mode
Command ตั้งเป็น festival --server
Icon เลือกเป็นรูปหูฟัง
ติ๊ก Run in terminal

เสร็จแล้วกด Create

16. คลิกขวาที่ไอคอนสีส้มตรงแถบขวาบน แล้วเลือก Connection Information

จากนั้นให้จดเลข IP ในส่วนของ IPv4 ไว้


17. ปิดเครื่องจำลองไปก่อน แล้วมาเปิด C:\Users\(Name)\FlightGear\Downloads\fgdata_20XX_X\defaults.xml ที่เครื่องจริง ด้วยโปรแกรม Text Editor

แล้วหาค่าที่เขียนว่า "localhost"

      <voices>
        <host type="string" write="n">localhost</host>
        <port type="string" write="n">1314</port>
        <enabled type="bool" userarchive="y">true</enabled>


ให้เปลี่ยนตรง localhost เป็นเลขเดียวกับที่จดมา แล้วกด Ctrl+S (ตัวอย่างนี้คือ 192.168.100.32)

        <host type="string" write="n">192.168.100.32</host>

18. เปิดเครื่องจำลอง แล้วเปิด Festival Server Mode ที่หน้า Desktop เพื่อเริ่มใช้งาน จากนั้นสลับออกมาเครื่องจริง (กด Alt+Ctrl)
แล้วเปิด FlightGear ด้วยค่า --config=<ที่อยู่ของ>/RedGriffinATC/festival.xml ในกล่อง "Additional Settings"



หากไม่มีอะไรผิดพลาด ก็จะสามารถใช้งานได้ตามคลิปนี้ครับ



และในการใช้งานครั้งต่อไป ก็เพียงแค่เปิด Festival ในเครื่อง VM แล้วรัน FG ตามทีหลังเท่านั้นเองครับ

รายละเอียดเพิ่มเติม (ภาษาอังกฤษ)
https://wiki.flightgear.org/Red_Griffin_ATC#Festival_Speech_Synthesis_System_Support

5 มีนาคม 2568

มารู้จักกับ Kirby กัน!

Kirby หรือ โฮชิ โนะ คาบี (ญี่ปุ่น: 星のカービィ; โรมาจิ: Hoshi no Kābī, แปลตรงตัว: เคอร์บีแห่งดวงดาว) เป็นแฟรนไชส์วิดีโอเกมแนวแพลตฟอร์ม ที่พัฒนาโดย HAL Laboratory และจัดจำหนายโดย Nintendo

หลังจากที่เกมแรกได้เปิดตัวในปี ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ปัจจุบันมีทั้งหมด 39 เกมด้วยกัน โดยภาคที่มียอดขายสูงที่สุดในขณะนี้คือ Kirby and the Forgotten Land ซึ่งทำยอดขายไปได้สูงถึง 7 ล้านชุด ณ ปี ค.ศ. 2024 (พ.ศ. 2567) และยังเป็นภาคแรกในซีรี่ส์ที่สร้างสถิติสุดยอด ด้วยการคว้ารางวัลจากเวทีใหญ่มาได้หลายรายการอีกด้วย หนึ่งในนั้นคือรางวัลในสาขาเกมสำหรับครอบครัวยอดเยี่ยม (Best Family Game) จาก The Game Awards 2022

รูปแบบการเล่น
เกมส่วนใหญ่ในซีรี่ส์จะเป็นแนวแพลตฟอร์ม 2 มิติ หรือ 2.5 มิติ มุมมองด้านข้าง โดยมีจุดเด่นที่ต่างจากเกมอื่นๆ ในแนวเดียวกันคือ ความยากที่เป็นมิตรกับเกมเมอร์มือใหม่ ความน่ารักของตัวละคร เพลงจังหวะสวยงาม รวมไปถึงสีสันของกราฟิกที่เรียกว่าสดใสสบายตา ในขณะเดียวกับก็ยังมีความลับต่างๆ ให้เกมเมอร์ระดับสูงได้กลับมาค้นหาและท้าทายความสามารถในบางโหมดการเล่นด้วยเช่นกัน


ใน Kirby's Adventure ได้มีการเพิ่มระบบทำให้ตัวละครสามารถกินวัตถุและสิ่งมีชีวิตเพื่อนำทักษะมาใช้งาน ซึ่งเป็นกลไกหลักของเกมที่คงมาจนถึงปัจจุบัน เช่น หากกินตัวที่พ่นไฟได้ Kirby จะสามารถใช้พลังที่เกี่ยวกับไฟได้ หรือกินตัวที่ถือดาบ ก็จะได้ดาบมาเป็นอาวุธเช่นกัน นอกจากนี้ในเกมทุกภาค Kirby สามารถบินได้ไม่จำกัด ยกเว้น Kirby 64: The Crystal Shards และเกมประเภทแข่งขัน ที่จะมีระยะเวลาในการบินจำกัด


เกม Kirby เกือบทุกภาคจะมีไอเทมลับให้ค้นหา เพื่อใช้ในการปลดล็อกโหมดต่างๆ หรือทำให้สามารถไปสู้กับบอสใหญ่ได้ และจำเป็นต้องเก็บให้ครบเพื่อทำระดับความสำเร็จให้เป็น 100% เช่นปุ่มสวิตซ์ในภาค Adventure หรือตัวประกันในภาค Forgotten Land เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีเกมภาคแยกที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลักออกมามากมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเกมแนวอื่นที่ไม่ใช่แนวแพลตฟอร์ม เช่น พินบอล (Kirby's Pinball Land) ตัวต่อบล็อก (Kirby's Star Stacker) แข่งความเร็ว (Kirby Air Ride และ Kirby's Dream Buffet) ต่อสู้ (Kirby Battle Royale และ Kirby Fighters) หรือแม้กระทั้ง เกมตามจังหวะ (Dedede's Drum Dash Deluxe)

รายชื่อเกม ณ ปี ค.ศ. 2025 (พ.ศ. 2568)

มีในแอป Nintendo Classics

GB
Kirby's Dream Land
Kirby's Dream Land 2
Kirby's Pinball Land
Kirby's Block Ball
Kirby's Star Stacker

GBC
Kirby Tilt 'n' Tumble 

NES
Kirby's Adventure

SNES
Kirby Super Star
Kirby's Dream Land 3
Kirby's Dream Course
Kirby's Avalanche
Kirby no Kirakira Kids

เฉพาะ Satellaview
Kirby no Omochabako: Arrange Ball
Kirby no Omochabako: Ball Rally
Kirby no Omochabako: Baseball
Kirby no Omochabako: Cannon Ball
Kirby no Omochabako: Guruguru Ball (Skee-Ball)
Kirby no Omochabako: Hoshi Kuzushi (Star Block Ball)
Kirby no Omochabako: Pachinko
Kirby no Omochabako: Pinball

N64
Kirby 64: The Crystal Shards

GC
Kirby Air Ride

GBA
Kirby: Nightmare in Dream Land
Kirby & the Amazing Mirror

NDS
Kirby: Canvas Curse
Kirby: Squeak Squad
Kirby Super Star Ultra
Kirby Mass Attack

Wii
Kirby's Epic Yarn
Kirby's Return to Dream Land
Kirby's Dream Collection: Special Edition

Wii U
Kirby and the Rainbow Curse

3DS
Kirby: Triple Deluxe
Kirby: Planet Robobot
Kirby Battle Royale
Kirby's Extra Epic Yarn

เฉพาะ eShop
Kirby Fighters Deluxe
Dedede's Drum Dash Deluxe
Team Kirby Clash Deluxe
Kirby's Blowout Blast

NS1
Kirby Star Allies
Kirby and the Forgotten Land
Kirby's Return to Dream Land Deluxe

เฉพาะ eShop
Super Kirby Clash
Kirby Fighters 2
Kirby's Dream Buffet

NS2
Kirby Air Riders
Kirby and the Forgotten Land: Nintendo Switch 2 Edition + Star-Crossed World

ที่มาข้อมูล
- kirby.jp
- wikipedia.org
- kirbysrainbowresort.net
- gematsu.com




หน้านี้แก้ไขล่าสุดเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2568

3 มีนาคม 2568

วิธีเข้าห้อง HAL ใน Kirby's Return to Dream Land

สวัสดีครับ แอดมินเอครับผม ' w')/

ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่ายังมีคนไทยหลายคนที่ยังไม่รู้สูตรต่างๆ ใน Kirby's Adventure และในหลายคนที่ว่ามานี้ เพิ่งมารู้สูตรลับจากเว็บเราเป็นที่แรกอีกด้วย แต่ก็นะ เกมซีรี่ส์ Kirby มันเพิ่งมาเริ่มดังในบ้านเราเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง จากกระแสของ Kirby and the Forgotten Land เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับผม (และเชื่อเลยว่าหลายท่านยังไม่ทราบเช่นกัน ...หากไม่ได้ไปหาดู FAQ ของต่างประเทศ)

* สามารถใช้กับเวอร์ชั่น Deluxe ของสวิตซ์ได้ด้วยนะ ยืนยันโดย bonbonbon *

เข้าด่านที่ 4 ของ World แรก


ในฉากแรกเมื่อวิ่งไปจนสุดทางจนพบประตูแล้ว ให้วิ่งชิดขวาจอประมาณ 3 วินาที แล้ววิ่งกลับไปทางซ้าย โดยที่ไม่ต้องเข้าประตูนะครับ


และเมื่อวิ่งกลับมาอีกนิด ก็จะพบกับประตูลับใต้หลุม ซึ่งในตอนแรกจะยังไม่มีหลุมและประตูตรงนี้


เมื่อเข้าไปก็จะพบกับห้อง HAL พร้อมกับพลังให้เลือกเก็บได้อีก 4 อย่างครับ 😊 (Hammer หาที่ไหนไม่ได้ใน World 1 และ 2 นอกจากห้องนี้เท่านั้น)