อธิบายอีกอย่างก็คือ ตัวละครในดาวเมกะเทียร์ (โลก CS) กับตัวละครในดาวป๊อปปินเวิลด์ (โลก AC) เป็นตัวละครเดียวกัน แต่ไม่ใช่คนเดียวกัน เป็นจักรวาลคู่ขนานนั่นเอง...
...หลังจากที่คันตันได้ถูกผนึกไว้ในดาวเมกะเทียร์ MZD ก็ได้ให้กำเนิดมวลมนุษยชาติบนดาวเคราะห์ดวงนี้ขึ้นมา พร้อมกับสร้างร่างโคลนของตัวเองขึ้นมา เผื่อที่ว่าจะได้ไม่ต้องคอยเดินทางไปมาบ่อยๆ แต่ในส่วนของความทรงจำนั้นไม่ได้ถูกโคลนมาด้วย ทำให้เขาบนโลกนี้คืออีกคนอย่างสมบูรณ์ และร่างโคลนก็ได้ก่อตั้งบริษัท "PONAMI" ขึ้นมา เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว MZD จึงตัดสินใจ "ทิ้ง" ดาวเคราะห์ดวงนี้ไป โดยที่ไม่กลับมาเยี่ยมเยียนอีกเลย...
เหล่าผู้คนและสถานที่บนดาวเมกะเทียร์ มีความใกล้เคียงกับ ดาวป๊อปปินเวิลด์ เป็นอย่างมาก ประวัติของตัวละครและเนื้อหาส่วนใหญ่ยังคงอิงตามต้นฉบับ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ทว่า ในช่วงก่อนที่จะมีการค้นพบเกาะป๊อปปิน บนดาวนี้ไม่มีใครรู้จักการละเล่นของดาวบรรพบุรุษอย่าง "ป๊อปปินแบทเทิล" (Pop'n Battle) เลย แม้แต่มิมิกับเนียมิที่อยู่ในดาวนี้ก็ไม่รู้จัก ทำให้ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับบรรพบุรุษของพวกเค้าทั้งหมด ถูกลืมเลือนหายไป แต่พอหลังจากที่เกมดนตรีเสมือนจริง "Pop'n Music" บนเกาะป๊อปปินได้เริ่มต้นขึ้น "ป๊อปปินแบทเทิล" ก็ได้กลายเป็นที่รู้จัก และได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางไปทั่วโลก ทำให้การละเล่นป๊อปปินจึงไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่บนเกาะป๊อปปินอย่างเดียวอีกต่อไปหลังจากที่ทัวร์นาเมนต์จบลง ดังนั้น...
เมื่อการเจรจาครั้งใดไม่เป็นผลแล้วล่ะก็...ต้องตัดสินแพ้-ชนะด้วยการ ป๊อปปินแบทเทิล เท่านั้น! ซึ่งผู้แพ้จะต้องยอมรับความพ่ายแพ้อย่างเลี่ยงเสียมิได้ ส่วนผู้ชนะไม่มีสิทธิแข่งขันกับผู้แพ้ซ้ำ
ปัจจุบัน เมกะเทียร์ ก็คือสถานที่ซึ่งใช้ดำเนินเรื่องราวของภาค Respect นั่นเอง โดยมี มิมิ กับ เนียมิ (อีกคน) เป็นตัวเอกของเรื่องเหมือนเช่นเคย แล้วตำนานป๊อปปินบทใหม่นี้จะออกมาเป็นยังไงกันนะ??
ความแตกต่างระหว่าง ดาวเมกะเทียร์ กับ ดาวป๊อปปินเวิลด์
- ปุ่มกดทั้ง 9 ปุ่มบน "เกียร์" (GEAR) มีขนาดเล็กกว่า (ขนาดจะเท่ากับจอยรุ่น Minicon สำหรับเครื่อง PS1 และ PS2) ทำให้เป็นการใช้ "นิ้ว" กด แทนการใช้ "มือ" ตบลงไปทั้งปุ่ม
- ผู้เล่นแต่ละคน สามารถปรับแต่งและเปลี่ยนแปลงรูปร่างของ "เกียร์" และสกิน "ป๊อปคุง" ได้อย่างอิสระ (เมนู F11 ใน DJMAX RESPECT V)
- ระหว่างการเล่น Pop'n หากเล่นคนเดียว จะมีภาพของมิวสิควิดีโอ หรือ BGA ให้ดูอยู่ด้านหลังของกระดานตัวโน้ต ไม่มีตัวละครให้เห็น
- แต่หากเล่นแข่งกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ตัวละคร(หรือตัวผู้เล่น)ที่เข้าร่วมการเล่นทั้งหมดจะโชว์ให้เห็นบนจอโฮโลแกรมข้างกระดานตัวโน้ต ด้วยเหตุนี้ การเล่น Pop'n Battle จึงถือเป็นการ "แข่งขัน" อย่างแท้จริง
- มีระบบ FEVER: ที่ด้านใต้ของเกียร์จะมีแป้นเหยียบ ไว้สำหรับใช้งาน "FEVER" หรือหลอดสะสมจากการกดโน้ต "ป๊อปคุง" ได้ถูกต้อง เมื่อหลอดสะสมเต็มแล้วสามารถใช้งานได้ด้วยการเหยียบลงบนแป้นเหยียบ โดยจะทำให้จำนวนการกดคอมโบต่อป๊อปคุงหนึ่งตัว เพิ่มขึ้นเป็น x2 แล้วสะสมเรื่อยๆ จนสูงสุดที่ x5 แต่ถ้ากดพลาดในระหว่างที่ FEVER แสดงผลอยู่ จะทำให้ระยะเวลาแสดงผลลดลง หรืออาจทำให้เวลาหมดทันทีเลยก็ได้เช่นกัน
- เมื่อ FEVER ถึง X5 ค่าความแม่น "COOL" จะถูกเปลี่ยนเป็น "FEVER!" และท่าพิเศษของตัวละครจะแสดงก็ต่อเมื่อ FEVER ถึง X5 เท่านั้น
- Long Note Combo: กดโน้ตยาวแล้วคอมโบขึ้นเรื่อยๆ
- สามารถเลือกจำนวนปุ่มที่ต้องการเล่นได้อย่างอิสระ คือ 4B 5B 7B และ 9B (9B ไม่มีระดับ EASY)
- มีระดับความยากพิเศษ SL (SUPER LUNATIC) สำหรับเล่นกับคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ ด้วยจำนวนโน้ตที่ต้องกดพร้อมกันมากถึง 4-9 ปุ่ม
- ลายเส้นตัวละครจะเป็นลักษณะกึ่งกลางระหว่างแบบเก่ากับแบบใหม่ คือ ตัวละครจะมีสัดส่วนสมจริงเหมือนกับแบบใหม่ แต่ลักษณะการแลเงาจะน้อยเหมือนแบบเก่า (ถ้านึกไม่ออก ลายเส้นจะคล้ายกับ Yume no Crayon Oukoku)
- ในส่วนทรงผมของ มิมิ กับ เนียมิ จะเป็นดีไซน์แบบเก่า คือ มีผมเฉพาะบริเวณหน้าผากอย่างเดียว ไม่มีผมที่ด้านข้าง แต่ในขณะที่แปลงร่างเป็น "นักรบในตำนาน Poppers" จะมีผมด้านข้างเหมือนกับดีไซน์แบบใหม่
แม้ว่าเนื้อเรื่องในภาค Respect ยังคงต่อเนื่องมาจากฉบับ Arcade แต่เนื่องจากเป็นโลกที่ถูก "โคลน" ขึ้นมาใหม่ ทำให้ในภาคนี้จึงถือเป็นการ "รีบูต" อย่างแท้จริงนั่นเอง
WELCOME TO THE MEGATIER GALAXY!
( ♪ Nevermind - Paul Bazooka )
( ♪ Nevermind - Paul Bazooka )